ท่านเคยทรงอรูปณาน ได้นานกี่ ชั่วโมง

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย somkiatfem, 17 กันยายน 2016.

  1. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ท่านเคยทรงอรูปณาน ได้นานกี่ ชั่วโมง
     
  2. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    นานสุดก็ตอนบวชพระ ประมาณ 2 เดือน เพราะศีลทรงตัว สมาธิมันก็ทรงตัวตามไปด้วย
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ถ้าทรงในที่นี้หมายถึงการเข้าไปอยู่ในสภาวะนั้นๆ
    หรือที่ภาษาปฏิบัติเรียก ว่า การจม หรือ การแช่นั้น
    ซึ่งในทางปฏิบัติถือว่าไม่ดีนะครับ
    เพราะจะทำให้จิตมืดบอด
    พูดง่ายๆว่าจิตอับเฉาครับ
    ทรงในที่นี้ ควรหมายถึง
    หากคิดจะเข้าถึงเมื่อไรก็สามารถ
    เข้าถึงได้ภายในเวลาเสี้ยววินาที
    แต่ในเวลาปกติจะต้องวางนะครับ
    ให้เข้าใจตรงนี้ก่อนนะครับ


    ถ้าให้เล่าให้ฟัง
    แบบทั่วๆไปสำหรับท่านที่ชำนาญนั้นจะสามารถทำได้เท่า
    ธรรมชาติของร่างกายที่มีความคุ้นเคยจะทนได้ครับ
    คือต้องหยุดพักบ้าง เพื่อ ปัสสาวะ รัปประทานอาหาร
    หยุดไปขับถ่าย หยุดนอน หรือ รู้สึกว่าตื่นนอน...
    ส่วนท่านที่จะทรงได้นานหลายๆวันนั้น นอกจากตัวจิต
    จะไม่ค่อยมีกิเลสแล้วนั้น ตัวจิต
    จะต้องมีอัชฌาสัยมาทาง
    ปฏิสัมภิทัปปัตโตด้วยครับ
    ถึงจะพอทรงได้นานหลายๆ
    วันโดยที่ไม่ต้องพักร่างกายเลย

    ประเด็นนี้ขอพูดเสริมหน่อยนะครับ...
    กลัวว่าจะเข้าใจอะไรคาดเคลื่อนได้
    คำว่าอรูปฌานเราต้องดูดีๆด้วยนะครับ
    ว่าเป็นอรูปฌานแบบไหน
    ถ้าเป็นอรูปฌานกำลังต่ำนั้น
    คือแบบเข้าไปเห็นคล้ายๆดวงดาว
    ท้องฟ้ามืดๆนั้น และทำอะไรไม่ได้เลย
    พวกนี้ไม่มีประโยชน์ครับ ให้ระวังให้ดี
    เพราะไม่ต้องฝึกสมาธิอะไรมาก็ทำได้
    หรือแค่อาศัยอารมย์ตอนนอนหลับแล้วจิต
    เป็นทิพย์หน่อยหนึ่งก็เข้าได้ครับ
    และนั่งสมาธิเล็กน้อยก็เข้าได้ครับ
    อรูปฌานแบบนี้จะทำให้หลงตัวเองได้ว่าตนเหนือใคร
    อย่างคาดไม่ถึงถ้าไปเผลอยึดติด
    ทั้งๆที่ตัวจิตไม่มีความสามารถ
    ในเรื่องการเล่นกับพลังงานภายในและภายนอกต่างๆ
    และรับรู้ทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวก็ไม่ได้
    ก็จะหลงตัวเองได้ง่ายๆครับ

    ส่วนอรูปฌานที่เป็นประโยชน์คือ
    การเริ่มต้นจากการขึ้นรูปก่อน รูปอะไรก็ได้
    ขึ้นไปจนถึงกำลังสมาธิระดับสูง แล้วค่อยทิ้งรูป
    และยกเรื่องกิเลสต่างๆที่เห็นจากกำลังสติ
    ที่เราได้วางอารมย์ไว้ก่อนหน้าระหว่างวันขึ้นมาวิปัสสนา

    กำลังตรงนี้จะสามารถพิจารณาตัดกิเลสได้ถึงขั้นละเอียดได้
    ถ้าสามาถทำได้จริงๆ และถ้าไม่ไปปั่นปฎิภาคนิมิตเพื่อสร้างกำลังจิตก่อน
    หรือถ้าไม่ไปทิ้งรูปในกำลังสมาธิระดับสูงแล้วไปอฐิษฐานจิตก่อน
    ก็จะไปได้ทางกำลังสมาธิสะสมแทนครับ

    ส่วนการถึงอรูปฌานในการปฏิบัติจริงนั้น เราจะแยกไม่ได้ว่า
    อะไรเป็นอากาส วิญญาน ความว่าง เพราะอรูป ๓ ขั้นนี้
    อยู่ในกำลังระดับเดียวกันและมาพร้อมๆกัน ขึ้นอยู่กับเราว่า
    ตอนนี้นจะพิจารณาอะไรได้ก่อน..
    และการตรวจสอบว่าเราเข้าถึงได้จริงหรือไม่
    ให้ดูว่า ในเวลาลืมตาปกติ ตัวจิตเรามีความสามารถ
    ในการเล่นกับ อากาศ วิญญาน โดยมีความว่างเป็นฐานได้หรือไม่
    และต้องรู้เข้าใจ เล่นกับพลังงานต่างๆทั้งภายนอกและภายใน
    ได้เป็นปกติธรรมดาถึงธรรมดามากๆด้วยนะครับ
    พูดเพื่อไว้จะได้เอาตรวจสอบตัวเอง กันไว้เผื่อว่าจะได้ไม่หลงตัวเองครับ

    ส่วนอรูปขั้นสุดท้าย
    ไม่สามารถฝึกเอาได้อย่างเดียว ต้องอาศัยการทิ้ง
    ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ร่วมด้วยถึงจะเข้าถึงได้ครับ
    บุคคลที่ที่สำเร็จอรูปขั้นสุดท้าย
    ตัวจิตจะมีความสามารถพลิกนามธรรมเป็นรูปธรรมได้
    พูดง่ายๆว่า เล่นแร่แปรธาตุได้แบบตาเห็นๆครับ
    เอาไว้ตรวจสอบดูบุคคลที่ชอบอ้างหรือยกตัวเองได้ครับ..

    บุคคลที่ทำเข้าถึงอรูป อากาศ วิญญาน ความว่าง
    ก็จะสามารถแสดงให้บุคคลอื่นๆหรือทำให้บุคคลอื่นๆ
    รับรู้และเข้าถึงเหมือนตนเองได้เช่นกัน
    ก็เอาไว้เพื่อตรวจสอบบุคคลที่ขอบกล่าวอ้างได้เช่นกันครับ
    (^_^)


    ปล.ถ้าจิตไม่มีความสามารถอย่างที่บอก แสดงว่าเข้าถึงอรูปฌาน
    แบบไร้ประโยชน์ กำลังต่ำ แต่ยังหลงตัวเองอยู่ ทั้งๆที่ไม่มี
    ความสามารถทำได้ ก็จะยังหลงตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ (^_^)
     
  4. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    มิจฉาทิฏฐิ นิอัตรายมากครับผมเองก็ระวังเสมอ มันก็เหมือนคนหลงทางเเต่ดันคิดว่าเดินมาถูกทางเดินไปเดินมา เสียเวลา หรือ เดินตกทางไปเลย ผมเองก็เลยพยายามพิจาราณาวางใจเป็นกลางเเละสอบถามผู้อื่นเรื่อยๆครับ :cool:
     
  5. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ทรงแบบไหนหรอครับ 2 เดือน ไม่ขยับ หรือ อย่างไรครับ
     
  6. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ไม่ยากครับ ไม่ใช่นั่งแข็งทื่อเป็นตอไม้แบบนั้น
    ทำฌานของเราให้เป็นฌานใช้งาน + รักษาศีลให้บริสุทธิ์
     
  7. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    อรูปณาน สามารถ ทรงในเวลา ทำงาน ประจำวันได้ด้วยหรอครับ ด้วยความเคารพ
     
  8. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    อภิญญา ผมเลิกใส่ใจเเล้วครับ เพราะถ้าได้อรูป หรือ นิโรธสมาบัติได้เเล้ว กำลังย่อมเสมอกัน เป็นการเช็คกำลังของชาญ 4 ไปในตัวครับ ถ้าจะได้อภิญญาก็คงจะเกิดขึ้นได้ ไม่ยากครับ อยากมีกำลังสมาธิคงตัว เเข็งเเรง ตายอย่างมีสติ ครับ

    ผมเข้าใจว่า อรูปนั้นที่สุดคือ ระงับ ความทุกข์กายสังขารได้ถึงที่สุด เป็นอย่างน้อย ผมก็พอใจครับ ผมก็ต้องขอฝึก นั่งทน อย่างเลี่ยงไม่ได้ +การทรงตัวของจิต ผมเคยผ่านจุดที่ ชนะ ความทุกข์ได้ระดับ 1 เหมือนว่า พ้นจากความทุกข์ จากกายขั้นที่ 1 เเล้วอารมณ์ทรงตัว มีความเบา สบายของจิตมากขึ้น เเละก็นั่งไปสักระยะ เเล้วก็เลิก เเต่ไม่รู้ว่าถ้านั่งต่อ คงเจอ ทุกข์รอบ 2 ผมเลย พอจะเกิดความพอใจในอรูป ครับ ถ้าผมชนะความทุกข์กายสังขารได้ ผมเห็นได้ชัดถึง ความดีที่มากขึ้นครับ ผมจึงสนใจครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2016
  9. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ทำได้
     
  10. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ถ้าจะช่วยอธิบาย เเถลงไข จะเป็นประโยชน์มากครับ please
     
  11. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ทำฌานของเราให้เป็นฌานใช้งาน + รักษาศีลให้บริสุทธิ์
     
  12. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    อรูป หมายถึง จิตไม่ติดในรูป เเล้ว เราเดินไปเดินมา จิตมันต้องสัมผัส รูปเช่น ตาเห็น มือ เท้า สัมผัส เเล้วจะเป็นอรูปได้อย่างไรครับ อันนี้ผม งง ครับ เเต่ถ้าหมายถึง ชาญ 4 คือมีกำลังเสมอกับอรูปอันนี้ผมเข้าใจครับว่าใช้ได้ ถ้าฝึกมาดีเเล้วครับ เรื่องของศีลพอจะเข้าใจครับช่วยให้สมาธิทรงตัว คุณตอบสั้นมาก ก็คงต้องคนที่ฝึกได้เเบบคุณคงถึงจะเข้าใจเเบบคุณสินะครับ ผมคงไม่สามารถเข้าใจได้มากกว่านี้เเล้วครับ ขอบคุณที่ช่วยอธิบายครับ
     
  13. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    หลวงพ่อฤาษีกล่าวว่าที่สุดของ อรูปนั้น คล้าย คนหลับ ฝนตก ฟ้าผ่าบ้านสั้นก็ไม่รู้เรื่อง คำพูดนี้ เป็นกุญเเจ เลยครับ

    เเละหลวงพ่อบอกว่า พระท่านกล่าวว่า อรูปนั้นละเอียดจริง เเต่ยังไม่ใช้ทางนิพพาน

    เเล้วคือเมื่อคืนผมลองทำตาม จับภาพพระก่อนพอทรงตัว เเต่ภาพไม่เป็นประกายอะไรนะครับ อันนี้ผมยัง งงตลอดมา ว่าชาญ4 กสิณ ภาพเป็นประกาย ผม เข้าไม่ถึง หรือมองไม่เห็นมุมนี้ครับ เเต่ก็ทำต่อไปคือ จับอากาศ บ้าง จับว่าง บ้าง แต่มันก็ไม่ยังไม่พ้นได้ยินเสียงมากนัก ก็เลยเลิกจับทำจิตลอยๆ บางๆ นิ่งๆ เเต่ผมเข้าใจว่าต้องมีสติรู้ ถ้าเผลอ ตรงนี้จะกลายเป็นหลับ จุดนี้ทำให้ผมเข้าใจว่า พระท่านกล่าวว่าละเอียดจริงหน่อ มันเป็นอย่างไง คือถ้า ถ้าจิตเรามันทรงสติได้บางๆ คือ ไม่เอาสติไม่จับอะไร เพราะจับ อากาศก็เป็นรูป ยังมีภาพให้คิด ให้จำ ก็เลยไม่เอาสติไปจับอะไรเเบบเข้มข้น ถ้าไม่จับเลย หลับ ผมเลยว่า มันละเอียดตรงนี้ เเต่ทว่ามันไม่มีสติก็ไม่ใช้ เพราะ ผมนั่งไป 1 ชม 4 นาที ขาผมมันเเข็งๆเป็นก้อนๆ เเต่ไม่ถึงกับชาผมดึงขาออกมา มีอาการชาสะสมบ้างเล็กน้อยระหว่างที่จิตยังไม่ทรงตัวระบบเลือดยังเดินอยู่เเต่เข้าใจว่าหลังจากจิตทรงตัวดีเเล้ว อาการชามันถูก น้อคเอาไว้เเค่นั้นคือชาบางๆ ครับ ที่ผมมาเล่าเพราะว่า กลัวว่าผมจะเข้าใจผิดไป คือถ้าผมทำเเบบเดิมๆคือไปมุ่งจับอะไรให้สว่างชัดเจนมากๆในจุดเดียว มันก็ยังไม่เป็นอรูปครับ ผมยังงงอยู่ลึกๆยังเชื้อว่า เราควรจับอะไรสักอย่างให้ทรงตัวโดยไม่สนใจอย่างอื่นเลย เเต่จิตตอนผมทำเนี่ย มันทำจิตเลื่อนลอย ไม่จริงจัง ไม่สนใจ มันมีหลายอารมณ์ตรงนี้ นะครับ เเต่ทว่ามีความพอใจในอาการของกายนะครับเพราะเข้าใจว่ามันไม่หนักดี แบบนี้ทรงยาวๆต่อไปได้ครับ อย่างไรช่วยชี้เเนะด้วยครับ ถูกผิด อย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2016
  14. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    หัวใจของอรูปฌาน คือ ความว่างเปล่า ทุกสรรพสิ่งล้วนไม่จีรังยั่งยืน มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปในที่สุด
     
  15. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,171
    ค่าพลัง:
    +1,231
    เคยฟังเรื่องเล่า เขาว่า พระอายุ สองร้อยสามร้อยปี
    แต่ปรากฏว่าปีหนึ่งของเขานี้ เขาไม่ได้นับอย่างเราคือ ๓๖๕ วัน
    คือเขานับเป็นพรรษาๆ พรรษาละสามเดือน หนึ่งพรรษาเท่ากับหนึ่งปี
    ทีนี้การนับนั้นเขาไม่ได้นับเฉพาะช่วงหน้าฝนเหมือนกับพระทั่วๆไป แต่หน้าหนาวหน้าแล้ง
    เขาก็นับด้วย ก็เลยกลายเป็นว่าปีหนึ่งๆมีถึงสามสี่พรรษา(มีสามเดือนหลายครั้ง)
    เมื่อมานับเอาหนึ่งพรรษาเท่ากับหนึ่งปี ฉะนั้นปีหนึ่งของคนธรรมดา(๓๖๕วัน) ก็เลยกลาย
    เป็นสี่ปีของเขา
    ฉะนั้นระยะเวลาเพียงหนึ่งร้อยปีของคนธรรมดาทั่วๆไปก็เลยกลายเป็นระยะเวลาสามสี่ร้อยปีของเขา(ของพระที่บอกว่าตัวเองมีอายุสามสี่ร้อย)
    นี้คือมีคนมาเล่าผมฟัง ว่าเขามีวิธีนับเป็นพิเศษของเขา จึงทำให้เขามีอายุยืนนานถึงสามสี่ร้อยปี
     
  16. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,171
    ค่าพลัง:
    +1,231
    หรือจะพูดง่ายๆคือ สามสี่ร้อยปีนั้น มันไม่ใช่สามสี่ร้อยปีจริงๆ
     
  17. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,171
    ค่าพลัง:
    +1,231
    คือมันก็เหมือนกับไอ้คนที่มาบอกว่าทรงอรูปฌานได้เท่านั้นเท่านี้นั่นแหละ
    แต่ความจริงคือ ผู้ที่ได้อรูปฌานจนเป็นวสีแล้วนั้น ก็ควรได้อภิญญา และแสดงฤทธิ์ได้
    ถ้าไม่มีฤทธิ์ดชอะไรเลยนี่ไม่ใช่อรูปฌาน
     
  18. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,171
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ตัวอย่างของบุคคลที่น่าจะประเมิณว่า ได้อรูปฌาน ๑๐๐% ก็คือหลวงปู่เทพโลกอุดร
    พระภิกษุในตำนาน ที่กล่าวว่าท่านมีฤทธิ์ เนรมิตรูปร่างให้เป็นเด็กก็ได้ เป็นคนแก่ก็ได้
    ตัวสูงตัวต่ำ รวมทั้งการไปปรากฏกายตามสถานที่ต่างๆ อย่างลึกลับ
    บ้างก็ว่าท่านเหาะได้ ย่นระยะทางได้ ฯลฯ อีกร้อยแปดพันเก้า ต้องอย่างนี้สิ คือผู้ที่ได้อรูป
    ที่ไม่ใช่การคิดไปเอง
     
  19. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,171
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ในพุทธประวัติกล่าวว่า เจ้าชายสิทธัตถะ ตอนอายุเพียง ๗ ขวบ
    มีครั้งหนึ่งพระราชบิดากำลังทำพิธีแรกขวัญ เจ้าชายนั่งประทับที่โคนต้นไม้
    เจริญภาวนา จนได้บรรลุถึงปฐมฌาน ปรากฏว่า เวลาตะวันบ่ายคล้อยแล้ว
    แต่เงาของต้นไม้ยังตรงศีรษะ ไม่ได้คล้อยไปตามดวงตะวัน เป็นที่น่าอัศจรรย์
    นี่แค่ปาฏีหาริย์ของปฐมฌานเท่านั้น ยังขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นสมาบัติแปดจะขนาดไหน
    เรื่องของฌาน กับอิทธิฤทธิ์นั้น แยกกันไม่ออก เพราะฤทธิ์เป็นผลพลอยได้ของฌาน
    ถ้าได้ฌาน ต้องมีฤทธิ์ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ถ้าไม่มีฤทธิ์ก็ไม่ใช่ฌาน
     
  20. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ถูกครับ วัดกันตรงนี้หละครับ...(^_^)
    เพราะว่าถ้าได้อรูปแล้วตัวจิตจะมีความ
    สามารถทำได้เป็นปกติครับ ทำได้แบบลืมตาเห็นๆนี่หละครับ
    ภายในเวลาแค่ไม่เกินหลักวินาทีด้วยครับ..
    เว้นว่าจะถึงอรูปขั้นสุดท้ายจะเล่นแร่แปรธาตุได้ครับ
    ประกันได้ว่า ไม่สามารถฝึกเอาได้
    แต่เข้าถึงได้ด้วยการวางครับ...


    กรณีนี้ท่านเลยอรูปฯไปมากแล้วครับ
    จริงๆธรรมกายนั้นเป็นมากกว่านั้นอีกครับ
    แต่คงไม่สามารถเล่าออกสื่อได้..
    และท่านสำเร็จในระดับจิตธาตุแล้วครับ
    และมีอัชฌาชัยปฏิสัมภิทาญาน
    แต่ปกติแล้วยังไม่ต้องถึงอรูปขั้นสุดท้าย
    ก็จะแสดงอะไรได้เยอะเหมือน
    ที่ตอบข้างบนแล้วหละครับ (^_^)
    แต่ถ้าระดับท่านจะมากมายเหนือจินตนาการ
    เกินที่จะบรรยายได้ นอกจากจะประสบด้วย
    ตนเองจะเข้าได้ดีครับ (^_^)

    ปล.ขออนุญาตเสริมย้ำอีกว่า ในทางปฏิบัติ
    เวลาเข้าอรูปฌานนั้น อากาศ ความว่าง และวิญญาน
    มันทำงานพร้อมกันครับ มันไม่ได้แยกกันเลยเพราะ
    มันอาศัยซึ่งกันและกันครับ
    พูดง่ายๆ จะวิญญานอย่างเดียวมันก็ไม่ได้
    จะอากาศอย่างเดียวก็ไม่ได้
    จะความว่างอย่างเดียวก็ไม่ได้นั่นหละครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...