ท่านฝึกละสังโยชน์ ๓ เพื่อเตรียมตัวเป็นโสดาบันอย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์โง๋, 11 เมษายน 2017.

  1. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    อธิบายให้ฟังดังนี้

    เดิมทีนักภาวนานั้น
    ทุกข์ นั้นรู้มาก่อน เจริญสติมาก่อน จะพอจะตามรูป นามได้
    สมุทัย รู้แต่ยังไม่มาก
    นิโรธ คือ นิพพาน นั้นเห็นชั่วขณะครั้งแรก เมื่อโครตภูญาณ
    เมื่อได้โคตรภูญาณนั้น ยังไม่ครบอริยสัจ ก็ยังต้องย้อนกลับไปที่
    ทุกข์ สมุทัยอีกสักระยะ เพื่อที่จะควานหาพระนิพพานอีก ก็พยายามดับทุกข์อีก
    เมื่อ ดับทุกข์ได้ จะเริ่มมองเห็นทาง ในการดับทุกข์รอบที่ 2 นี้
    และทำอย่างเดียวกันในรอบที่ 3 เริ่มเห็นทาง
    จึงเกิด มรรคญาณ ขึ้น เป็น อริยสัจสี่ สมบูรณ์

    จึงจะเป็นพยานให้กับพระศาสนาได้

    เมื่อมรรคญาณเกิดแล้วจะยังไม่แจ้งในส่วนของอริยมรรคมีองค์ 8 ทันที เพราะขณะที่เกิดนั้น มรรคญาณนั้นเป็น ภาวนามยปัญญา ใกล้จะสัมประยุตแล้วจึงรวมเหลือเพียง 3 ตัวสุดท้าย แต่ส่วน 5 ข้อแรกนั้นจะต้องตามเก็บเกี่ยวว่า กรรมใดให้ผลแบบใด อะไรเกื้อหนุน แล้วเจริญสมาธิ วิปัสสนา มองสัจธรรมในชีวิต จะค่อยๆเห็นแจ้งใน สัมมาทิฎฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมากัมมันตะ สัมมาวาจา สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ครบทั้ง 8 ว่าขาดข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้ เรียกว่า ทำมรรคให้แจ้ง เมื่อภาวนาจนชำนาญแล้ว ดับทุกข์ได้คล่องแคล่วจนละสังโยชน์ได้จากที่ได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ละได้ขาด เรียกว่า ทำ ผลญาณ ให้แจ้ง
     
  2. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    จะตอบให้อีกสักรอบ เผื่อจะเก็ตบ้าง นิพพานเป็นผลของการปฏิบัติ???
    ป้าดดดด ตอบแบบนี้ใครก็ตอบได้ครับผม แต่ละคนก็บอกว่าตัวเองไปเห็นนิพพานมาเต็มไปหมดทั้งเว็บแหละครับ

    แต่ถามว่า อสังขตธรรมนั่น เมื่อเห็นแล้ว แจ้งอะไรบ้าง? ถ้าบอกวา อ่อ เห็นทุกข์จนเก่งแล้ว จนเห็นนิพพาน แจ้งนิพพานแล้ว อ้าว......แล้วที่พระสูตรที่ผมยกมาหละ ธรรมของพระองค์เป็นชั้นโลกกุตระ!! ถ้าไม่แจ้งธรรมในส่วนโลกุตระ แล้วจะเอาอะไรมาบัญญัติในภาษาสมมุติ ? พระไตร 84000 มาจากไหนละ ???
    นี่แหละครับคำถามที่ยาก ถ้าแจ้งนิพพานแล้วจริงๆจะไม่อิดออดที่จะตอบเลย จะไม่ขมิบปาก ขมิบจิตเลย ว่าเออ ตรูไปเห็นอสังขตธรรมจริงๆนะ

    ทั้งวงจรปฏิจจ อริยสัจ 4 อิทธิบาท4 อินทรี 5 พละ 5 ๆลๆ โอย เยอะแยะเต็มไปหมด หมวดธรรมเหล่านี้ พระพุทธเจ้าเอามาจากไหน? ถ้าไม่ใช่เอามาจากจิต ที่แจ้งในโลกุตระธรรม แล้วจึงเอามาสอน นั่นคือท่านตรัสรู้ แจ้งธรรม แล้วจึงเอามาบัญญัติ
    แล้วทีนี้ เมื่อสาวกตรัสรู้ตาม ก็อย่างเช่นพระสารีบุตร ก็ได้ฟังธรรมพระพุทธเจ้าแล้ว สมมุตว่าก็งั้นๆแหละ ท่องได้ แต่ถ้าท่านไม่แจ้งในส่วนโลกุตระ ท่านพระสารีบุตร ท่านจะเอามาแจกแจงโดยพิสดารได้หรือไม่? ถ้าไม่ใ่ช่เพราะท่านเข้าไปรับรู้ธรรมในชั้นโลกุตระด้วยจิตของท่านเอง รู้นามธรรมของจิตของตัวท่านเอง จริงไหม?

    ที่ตอบๆว่า นิพพาน จ้า รู้ทุกข์จ้า นี่คือยังห่างไกลจากความเป็นจริงมาก เห็นนิพพานแล้ว ไม่รู้ธรรมสักหมวดเลย เป็นไปได้ยังไงกัน? แปลว่าคำพูดที่บอกว่าธรรมมะมาจากจิต ก็เป็นคำขี้โม้งั้นสิ?? ที่ครูบาอาจารย์บางคนไม่เคยศึกษาอภิธรรม แต่ท่านรู้ธรรมเหล่านี้ได้ลึกซึ้ง แล้วเอามาสอนทำตำราเป็นเล่มๆ ได้อย่างไรกันเล่า??

    ก็เหมือนที่ตอบไปแล้ว ถ้าตอบแต่ว่ารู้ทุกข์ ใครก็รู้ได้ ใครก็สมอ้างได้ แต่ถ้าท่านบอกว่าแจ้งนิพพานแล้ว เรารู้รู้ในอริยสัจ 4 โดยแจ้งแล้วนะ เราจะแจกแจงให้ฟังดังนี้ ผมถึงบอกว่า นี่ไง
    "คำตอบมันถึงเป็นคนละเรื่อง"

    แล้วยังจะหาว่าผมปรุงแต่งอยู่ไหม อิอิ^^

    โอย พิมพ์ยาวจนได้เหนื่อย พอละ จะคิดยังไงก็เชิญตามสบาย - -"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2017
  3. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    เนี้ย.. อาการไม่กำหนดรู้ทุกข์ไปตามธรรม ธรรมทั้งหลาย มีสภาวะเป็นอย่างไร "ไ่ม่เที่ยง" เพราะไม่เที่ยงจึงเป็นทุกข์ ทำไมจึงเรียกว่าทุกข์ เพราะว่าตั้งอยู่ไม่ได้ เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ดับไปก็เพราะเหตุปัจจัยมันหมด เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่มีตัวตน คน สัตว์ สิ่งของ หรือเจ้าของ
    ธรรมส่วนนี้จึงเรียกว่า สังขตธรรม มีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง จึงเกิดขึ้น มีขึ้น แล้วใคร? คือผู้รู้ ผู้เห็นธรรมนั้น
    ในกระแสการเกิด-ดับ วัฎจักร ผู้มีจิตอันพ้นสมมุติแล้ว ไม่ส่งจิตไปยึดมั่น ถือมั่นเอามาเป็นตัวตน ของเรา ของเขา ธรรมหรือ ผู้รู้นั้น เรียกว่า อสังขตธรรม เพราะพ้นปัจจัยอันปรุงแต่งแล้ว จึงพ้นการเกิด-ดับ
    ถ้าคุณยังยึดเอาธรรมทั้งหลายมาเป็นตัวตน คุณจะพ้นจากทุกข์ได้อย่างไร รู้แล้วก็วางเท่านั้น
    ความเห็นว่าเป็นตัวตนไม่มี จะไม่มีมาถามว่า เฮ้ย! เอ็งแจ้งนิพพาน แล้วเห็นอะไรบ้าง?
     
  4. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    พระพุทธเจ้าแจ้งในธรรม แล้วก็เอามาสอน แปลว่าพระพุทธเจ้ายึดในธรรมยังงั้นอะจิ???

    เฮ่ย คนละเรื่อง ปล่อยก็ส่วนปล่อย รู้ก็ส่วนรู้ ปล่อยแล้วไปรู้ ก็เมตตาเอามาสั่งสอน
    เห็นว่าเข้าใจผิดไปมากหรอกนะถึงต้องแย้ง

    คำถามคือ ธรรมของพระพุทธเจ้าที่เอามาสอน เอามาจากไหน แล้วพระพุทธเจ้ายึดธรรมเหล่านั้นหรือเปล่า ที่ท่านเอามาสอนนะหืม???


    ศิษย์โง่ อาบน้ำดีกั่วคริคริ ^^
     
  5. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    คุณเป็นพระพุทธเจ้าหรือ พูดไปพูดมา พาไปลามปามพระศาสดา เลิกคุย ไปตั้งจิตมาใหม่
     
  6. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    5555 เครครับ ถือว่าไว้ฟร์อม ไ่ม่ว่ากัน

    ปอลิง เจตนาการตั้งคำถามจริงๆไม่เกี่ยวกับคุณนะครับ กะเอาไว้ว่าจะแย็ป คูณ Tboon แบบมิตรภาพ เพื่อสะกิดกัน เพราะผมก็ไม่รู้หรอกว่าท่านนั้นเขาเป็นแบบไหน ให้เอาคำถามผมไปตรวจสอบตัวท่านเอง ท่านอาจจะเป็นจริงๆยังงั้นก็ได้ ใครจะไปรู้

    ธรรมเพื่อมิตรภาพนะครับ ขอลาไปดูดอมยิ้มซะที ชอบเลียอมยิ้มหวานๆ^^
     
  7. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ขออภัยที่เข้ามาตอบช้า เข้ามาอีกทีก็ยาวไปเยอะเหมือนกัน ทีแรกนึกว่าคุณศิษย์โง่ตั้งใจจะมาศึกษาหาแนวทางเพื่อจะที่นำไปปฏิบัติก็เลยจัดให้ตามสมควร แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า แค่จะมาตรวจสอบความถูกต้องกันเท่านั้นเอง ก็ต้องขอขอบคุณในความหวังดี กลัวจะหลงผิดอะไรทำนองนี้ ไม่มีปัญหาครับ

    ดูเหมือนคำที่ผมกล่าวว่า เห็นแจ้งในอสังขตธรรมนี้จะแสลงใจใครหลายคนก็เป็นได้ ผมจะต้องไปเคลียร์อะไรกับใครในการแจ้งตรงนี้ล่ะครับ ในเมื่อมันเป็นที่สุดของการเห็น ไม่มีทางที่จะมีอะไรที่จะยิ่งไปกว่านั้นอีกแล้ว และความหมายเองก็จบอยู่ในตัวเอง จะไปปรุงแต่งอะไรเพิ่มให้เขาอีกทำไม ต่อให้เห็นอีกพันครั้งก็เท่าเดิม คนไม่เห็นก็จะงงๆ จะต้องมีอะไรที่พิศดารมากกว่านี้อีกแน่ๆ แต่คนเห็นจริงๆ เขาจะรู้เลยว่าไม่มีอะไรที่ยิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว

    และการเห็นไม่ได้ทำให้กิเลสขาดโดยตรง แต่การเห็นทำให้หายโง่หายหลง หลงกระทำอย่างไม่รู้ ไม่รู้ในสมมุติ ไม่รู้จักวิมุติความหลุดพ้นจากทั้งปวง ทำยังไงถึงจะหลุดพ้นจากบ่วงแห่งมายา นี่มันมาได้ความเข้าใจตรงนี้เอาไปปฏิบัติขัดเกลาความมีกิเลสอีกทีหนึ่ง เรียกว่าได้เครื่องมือคือความเห็นถูกตรงเป็นสัมมาทิฏฐิ ต่อไปนี้จะปฏิบัติไม่ผิด ปฏิบัติตรงทาง ไม่เป็นแบบตาบอดคลำช้างอีกต่อไป มันมีแค่นั้นเอง คุณคิดอะไรมากกันไปหรือเปล่าครับ
     
  8. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    ถ้าคิดจะแย็ป ระวังโดนสวน แล้วต้องไปนั่งเลียอมยิ้มทั้งวัน ที่นี้การถาม-ตอบธรรม ถ้าไม่เอาเป็นสาระ มันก็จะไม่ได้สาระอะไร ถ้าสะกิดกันแล้วต้องได้สาระ ถ้าถามแบบไม่มีสาระ สะกิดแล้ว นั่งอมยิ้มหวานๆไป จะได้อะไร กลายเป็น ดิรัจฉานกถา ไม่เพียรออกจากทุกข์ นั่งอมยิ้มอย่างเดียว
     
  9. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    อืม ประโยคแรกเข้าใจในความหวังดี ประโยคสองปรารภว่าผู้ที่ไม่เห็นจะงง ประโยคสาม ตบท้ายถามว่าคิดอะไรกันไปหรือเปล่า

    ผมสับสนกับระบบความคิดคุณค่อนข้างมากนะครับ สรุปว่าเข้าใจผมที่หวังดี หรือจะหลอกด่าผมที่ไม่แย้งครับ ?

    คือผู้ที่แจ้งในอสังขตธรรม พระโสดาบันขึ้นไป ส่วนมากท่านจะปิดภูมิท่านเองเอาไว้มิดชิดนะครับ ไม่ค่อยมาประกาศกันให้ใครทราบเท่าไร บางคนเป็นพี่เป็นน้องกันยังไม่ทราบเลยว่าพี่น้องตัวเองเป็นโสดาบัน คำกล่าวนี้ผมเอามาจากตำราต่างๆ ล้วนๆเลยนะครับ จะทราบได้ก็ต่อเมื่อท่านแสดงธรรม หรือจริยาของท่าน แต่ยากครับที่คนทั่วไปจะดูออก เพราะภูมิไม่ได้เสมอท่าน



    ในประเด็นนี้ ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไรครับ แค่ท่านบอกมาผ่านเว็บบอร์ดว่าท่านแจ้ง ผิดหรือครับที่ผู้อ่านจะตรวจสอบท่านด้วยคำถาม ถ้าท่านไม่บอกออกมา แล้วใครจะไปตรวจสอบอะไรท่านได้หรือครับ

    น่าจะเป็นคำตอบนะครับ ว่าคิดอะไรมักกันไปหรือเปล่าครับ

    เมื่อท่านประกาศ เราจึงถาม เรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับ ถ้าท่านตอบได้เคลียร์ ก็เรื่องหนึ่ง แต่ท่านตอบไม่ได้ก็เรื่องหนึ่ง ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัวผู้ถามเลยครับ ตัวผู้ถามยังเอาตัวเองไม่รอดเลยครับ

    แต่นี่คือเว็บสนทนาธรรมครับ ต้องเข้าใจ point ตรงนี้ให้ตรงกันครับ

    หวังว่าจะเข้าใจนะครับ^^
     
  10. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    5555555555 ไม่เคยดีเบตกับคุณมาก่อน แต่เห็นแล้วหละ ว่าปากจัดเหมือนเดิม ^^
     
  11. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    อย่างคุณรโชฯ เนี่ย อันนี้ผมยืนยันพันเปอร์เซ็นต์ว่าเขาเห็นไม่เหมือนที่ผมเห็นแน่ๆ ถ้าเห็นอย่างเดียวกันไม่มีทางจะมาเถียงกันเอง

    เออ..แต่ก็งง ที่เอามาแปะ ที่ว่าตัวเองสรุปจากวิสุทธิมรรค เขียนได้เป็นตุเป็นตะ ดูคล้ายๆนะ แต่การกระทำ ความคิดนี่ไม่สอดรับกับสิ่งที่เขียนเลย จริงๆ ถ้าพูดแบบภาษาชาวบ้านก็คือ อารมณ์มันไม่ได้ มันคนละเรื่อง อย่างเรื่องเมตตาอะไรก็ไม่มี มีการเอาปมด้อยของคนนอกศาสนามาทำล้อเลียนเพื่อนสนุกสนานอีกต่างหาก ไม่อยากเชื่อ คนเห็นทุกข์จริงๆ จะอ้าปากเอ่ยวาจาอะไร คิดแล้วคิดอีก จะกล่าวดีไหม มันเห็นทุกข์ไม่อยากไปซ้ำเติมกันมากหรอก
     
  12. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    ผมอ่านธรรมจากทุกคน ไม่มีใครถูกร้อยเปอร์เซนต์ และก็ไม่มีใครผิดร้อยเปอร์เซนต์ จากความคิดผมนะ สำหรับเนื้อหาในกระทู้นี้

    ผมก็ตั้งคำถาม ในหมวดที่ตัวเองได้เคยศึกษามา ถ้าเกินหมวดที่เคยศึกษาผมก็ไม่มีสิทธิไปถามใคร เพราะตัวเองก็ไม่รู้

    ดังนั้นส่วนของคุณ รโช ผมก็ไม่ได้เห็นด้วยร้อยเปอร์เซนต์เช่นกัน จากความคิดผม

    ผมใช้ส่วนทิฐิ ที่เรียกว่า ศึกษาแต่ข้อดีของแต่ละคน แม้แต่วัดพระธรรมกาย ที่คนด่าๆกัน ผมก็ยังเห็นข้อดีบ้าง ในบางข้อของวัดนั้น ดังนั้นเรื่องที่ว่าจะเข้าข้างใครแบบร้อยเปอร์เซนต์ ไม่ใช่จริตผมนะครับ^^
     
  13. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    ดีเบตในเรื่องธรรมนะครับ ส่วนตัวผมไม่มีอคติกับใคร และไม่รู้จักใครในนี้เป็นการส่วนตัว ถือว่าเราเป็นผู้ร่วมทางธรรมกันครับ
     
  14. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    รับแทรบ ตัวท่านเองก็อาจจะรู้ธรรมในส่วนที่ผมยังไม่รู้ หรือเข้าไม่ถึง โอกาสหน้าท่านก็แย๊ป ผมมาได้นะขอรับ
    เพราะตัวผมไม่ใช่พระไตรเคลื่อนที่ครับ^^
     
  15. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    นั่นแหละครับ ผมถึงว่าไง คุณมาฟอร์มทำเป็นถามโน่นถามนี่หน้าบ้านหลังบ้าน ผมก็เลยนึกว่าคุณมีจิตใจสนใจจริง ๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆ คุณก็ค่อยๆ เผยความในใจออกมาเรื่อยๆ ก็ดีเหมือนกัน อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าไม่อ้ำอึ้ง

    เรื่องปิดเปิดอะไรนี่ผมไม่สนใจนะครับ เพราะเราชี้ให้ดูมรรคมาตลอด แต่ก็ดูไม่ออกเอง ในใจคุณคงมีแต่เรื่องว่าเขามาโชว์ภูมิอะไรตลอดเวลา มันก็จบน่ะครับ ความรู้สึกของใครก็คือประสบการณ์กิเลสของคนๆ นั้นแหละครับ
     
  16. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    ผมถามเพราะไม่รู้ และก็ถามเพราะรู้ครับ งงมะ? อย่าเข้าใจผมเลย มันสับซ้อน สไตล์คน gen y อิอิ

    ส่วนประโยค 2 ที่ท่านกล่าวออกมาถือว่าค่อนข้างชัดเจนครับ ถ้าพูดตรงๆไม่โกรธเนาะ
    "ท่านไม่ได้เข้าถึงส่วนของอสขตธรรมจริงๆครับ"

    ดังนั้น เมื่อผมแย๊ป ท่านจะรับและพินา หรือท่านจะโกรธผู้แย้ง เพราะผู้แย้งคนนี้ไม่ได้ห่มเหลือง หรือเป็นครูบาจารย์ท่าน ผมไม่ถือครับ เพราะบอกแล้วตัวผมก็ยังเอาตัวผมเองไม่รอดเลยอิอิ

    เออนั่นสิ แปลกเนาะ ถ้ามีผ้าเหลืองวิเศษคลุมกายปั๊ป พูดอะไรมีแต่คนเชื่อ ถ้าใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ไปทักใครมักโดนด่ากลับ แปลกแต่จริง อันนี้พูดแบบทั่วๆไปนะ ไม่ใช่เฉพาะผมคนเดียว พูดเล่นๆนะ อย่าเอามาเป็นประเด็น please ขอร้อง 5555 ดูดอมยิ้มดีฝ่า แผลบ ^^
     
  17. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    อันนี้ เค้าเรียกว่า มี ธัมมวิจยะ ในการเลือกเฟ้นธรรม แต่ไม่ควรเอาตนเป็นบรรทัดฐานในการสอดส่องธรรม คือ ยังเห็นว่า อันนี้ถูก อันนี้ผิด อันนี้น่าจะใช่ อันนี้น่าจะไม่ใช่ อันนี้ยังไม่ได้ว่านะ เมื่อเราไม่เห็นธรรมอีกฝั่ง ย่อมเกิดเคลือบแคลงสงสัย เมื่อเกิดสงสัยควรกำหนดรู้ความสงสัยนั้น ถ้าถามหาแต่ฝั่ง ถึงจะมีคนมาบอก ก็ไม่มีทางเชื่อ คำถามจะมีประโยชน์อะไร ถ้าถามหาวิธีเข้าไปหาฝั่งนั้นและ จะเกิดประโยชน์ ถ้านำไปปฎิบัติจริง
     
  18. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    โอ้ว จริงครับ ขอบพระคุณครับ
    แต่ก็คุยๆในบอร์ดแก้เบื่อ นอกเวลาปฏิบัติบ้าง ให้คนมาด่าบ้าง ด่าคนอื่นบ้าง สีสันครับหนุกๆ ได้ความรู้ดีครับ ถ้ารู้จักพินาข้อความของแต่ละท่าน
    ในบางครั้งคนที่มาด่า ผมยังเห็นว่าจริง ยังเอาไปพินาเลยครับ
    ขอบพระคุณครับ^^
     
  19. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    กล่าวไปหลายรอบมาก อะไรคือเคลียร์ของคุณหรือครับ ทำไมบางคนเขาเคลียร์ไปตั้งนานแล้ว แล้วคุณไม่เคลียร์ แล้วนี่มันเป็นความผิดของผมเหรอครับ เอาชัดๆ นะครับ ถ้าในครั้งพุทธกาลพวกเรามีเกิดทัน ทำไมไม่บรรลุล่ะครับ ทำไมหลุดมากันถึงทุกวันนี้ได้ ศาสนาพุทธมีพระพุทธเจ้ามากี่พระองค์แล้วครับ ทำไมคุณ ผม ไม่บรรลุตั้งแต่นานแล้วล่ะครับ มันเพราะอะไรพิจารณาดีๆครับ
     
  20. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    สำหรับท่านผมจบในส่วนแย้งแล้วครับ ที่เหลือก็แล้วแต่ท่านครับ ที่จะพินา หรือว่าไม่รับ ^^
    ขอบพระคุณครับ ไว้โอกาสหน้าเนาะ ค่อยสนทนากันใหม่ อมยิ้มละลาย ดูดต่อ แผลบ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...