ท่านฝึกละสังโยชน์ ๓ เพื่อเตรียมตัวเป็นโสดาบันอย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์โง๋, 11 เมษายน 2017.

  1. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    กลัวละซี่ ปัดโธ่ เวลาจาบจ้วงเขาไม่คิด เวลานี้จะมากลัว ลูกผู้ชายกล้าทำกล้ารับ ถ้าเขาขู่เนี่ยดีแล้ว ไม่งั้นได้ซวยจริงๆ ซวยเพราะปากตัวเองนะ ไม่ใช่ซวยเพราะคนอื่น พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ความบริสุทธิ์และความไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน ผู้อื่นจะทำผู้อื่นให้บริสุทธิ์ไม่ได้ ทีอย่างนี้ทำไมไม่รู้จักนำมาใช้กับตัวก็ไม่รุูู้ ทีเรื่องชาวบ้านนี้จับผิดเก่งจัง ยกนั่นยกนี่มาอ้างตลอด เอาน่่ะ ทำใจสบายๆไว้
     
  2. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    นี่ไงครับ คนที่แจ้งอสังขตธรรม ยก 2
    เจริญละครับพี่น้อง แค่นี้ยังไม่รู้จักตัวเอง ว่าหลงธรรมไปไกลจนกู่ไม่กลับแค่ไหน
    ไว้อารมณ์เย็นๆค่อยกลับมาอ่านข้อความตัวเองดูนะ จะเห็นอะไรดีๆเยอะเลย คริคริ^^
     
  3. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    ฝากพินานะฮับ

    ว่าการที่อ้างชื่อพระ หรืออ้างว่าทำนู่นทำนี่มากี่ปีกี่ชาติ เนี่ยเพื่ออะไร

    มันมีบางอย่าง ไม่ให้มาฟัง มากล่าว มาพิสูจน์ อรรถธรรมของพุทธองค์หรือเปล่า

    ถ้ายังอ้างเล่ห์ไล่หาคนนู้นคนนี้อดีตอนาคต เลี่ยงการพิสูจน์อรรถธรรมของพุทธองค์ในปัจจุบัน จะเป็นอาชาที่ดีได้ยังไง

    นักรบที่ดีนั้นอาจหาญกล้าในการพิสูจน์ธรรมให้พุทธองค์

    เพื่อความผ่องอำไพในบวรพุทธศาสนา

    ปล. ยุคเรานี้มันมีคำว่า พวกติดตำรา หรืออะไรทำนองไม่ให้ อ่านมาก

    พุทธองค์ท่านว่า ให้ศึกษาคำของท่านให้มาก ทรงจำให้ดี พูดให้คล่องปาก

    ซึ่งจะเชื่อใครก็แล้วแต่จะรับไปพิจารณา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2017
  4. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ทำไมเหรอครับ เนี่ยตื่นเช้ามาแล้ว อ่านแล้วก็เหมือนเดิม เห็นเลย เห็นความจริงใจ กับ ความตรงต่อธรรม ถ้าสองสิ่งนี้ถ้ายังไม่มี อย่าเพิ่งริอ่านคิดจะไปตรวจสอบใครครัย คุณธรรมง่ายๆ แค่นี้ยังไม่มี แล้วจะไปพูด อมยิ้มตลกบริโภคไปเรื่อย
     
  5. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    คนเราเนี่ยมันต้องรู้จักพื้นเพกันบ้าง มันถึงจะพอคุยกันเข้าใจ ไม่ใช่มาถึงไม่รู้เหนือรู้ใต้อะไร พ่อก็ยัดตำราใส่หน้ากันอย่างไม่ลืมหูลืมตา เดา วิเคราะห์ไปเรื่อย พอเขาชี้แจงก็ไม่ฟัง อ้างรู้สารพัด แต่พอซักไซ้ไล่เลียงกันจริงๆ บอกอ่านมา วาววว.. แล้วเมื่อไหร่มันจะคุยกันรู้เรื่องเนี่ย อ้างแต่ตำรา ถ้าจะอ้างตำราจริงๆ เพื่อเอามาตัดสินชาวบ้านเขา ก็ควรจะต้องเรียนภาคทฤษฎี 84000 พระธรรมขันธ์ พระสูตร พระวินัย พระอภิธรรม มาให้ครบจบก่อน มีข้อมูลพอ ยังดูน่าสนใจกว่า ขนาดถอดพระสูตรออกมา บางทีก็ยังมีตีความผิดเลย

    ดังนั้นการศึกษา ๆ ได้ ศึกษาด้วย มีผลการปฏิบัติรับรองด้วย มันถึงจะชัดเจน อ๋อ ท่านหมายถึงอย่างนี้ ๆ ถ้าไม่ปฏิบัติ ไม่มีผลทางปฏิเวธอะไรมารับรอง ยืนยันมั่นคงด้วยตัวเองได้ มันก็จะงง แล้วถ้าประเภทหลงตัว เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ติดหน้าตาลาภยศสรรเสริญ ก็จะยอมโง่ไม่เป็น ข้าจะขอแถๆ ไปเรื่อย ๆ แบบนี้แหละ สนุกดี กวนมันไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจดีอยู่แล้วว่าจริงๆ แล้ว ตัวเองก็ยังไม่ได้ฮาอะไรเลย ไม่รู้จริงสักกะแอะหรอก แต่พูดเหมือนคนรู้ยิ่งเห็นจริง ดื้อรั้นไปเรื่อย ไอ้นี่เขาเรียกคนพาลนะ คนพาลที่มีปกติมุสาตลอด ใครรู้ตัวเองแล้ว รีบปรับปรุงตัวเถอะ คนพูดปดทั้งๆ ที่รู้ ความชั่วอย่างอื่นที่จะทำไม่ได้เป็นไม่มี คนแบบนี้คบลำบาก
     
  6. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    เอาที่สบายใจเลยครับ เชิญเพี้ยนกันให้เต็มที่ทั้งคู่เลยนะครับ คุณยศวดี ผมก็เห็นอะไรๆอยู่ แต่ไม่เคยไปยุ่งกับคุณ อยู่ๆคุณมายุ่งกับผม ถ้าผมจะตอบคืนคงไม่โกดกันเนาะ?? ยังไงก็ไม่ใช่ตัวผมอยู่แล้ว ธรรมเพี้ยนอยู่ตรงหน้าแท้ๆ คดีเก่าคุณเท่าที่ผมเคยอ่านก็เยอะ ถึงแม้จะพึ่งมาเล่นเว็บนี้ ก็สมควรแล้วละครับที่คนที่เคยตักเตือนคุณ แต่คุณไม่ฟัง มันก็ฟ้องอะไรๆในตัวคุณอยู่แล้ว จริงมะ!!

    และนาย ทีบูน ยังบอกว่าตื่นมาอ่านแล้วเหมือนเดิม ไม่ได้รู้สึกอะไร เนี่ยชัดเจน!!! เขาชี้ถูกจุดหน่อยทำเป็นดูถูกอีกฝ่ายมาอ่านตำรา เจริญละครับพี่น้อง

    ผมรู้ตัวผมเองดีครับ อยากจะเพี้ยนต่อก็เชิญนะครับ ทั้ง 2 คนแหละครับ ผมมีความสุขดีไม่ต้องห่วง ศีล หรือ ห่วงเรื่องการอ่านตำราของผมหรอกนะครับ



    อ่อ ปล คนที่ติดลาภยศสรรเสริญคือคุณนะครับ ผมไม่ได้เคยอวดอะไร สิ่งที่คุณติดคือ ชอบอวดว่าเห็นอสังขตธรรม พอใครไม่เชื่อคุณ ก็ด่าเขาเช็ดเลยไงครับ เนี่ยยังไม่รู้ตัว!!!!

    "ติดหน้าตาลาภยศสรรเสริญ ก็จะยอมโง่ไม่เป็น ข้าจะขอแถๆ ไปเรื่อย ๆ แบบนี้แหละ สนุกดี กวนมันไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจดีอยู่แล้วว่าจริงๆ แล้ว ตัวเองก็ยังไม่ได้ฮาอะไรเลย ไม่รู้จริงสักกะแอะหรอก "

    ประโยคนี้ด่าตัวเองทำไมครับ ว่าเข้าถึงอสังขตธรรม หืมมมม ??

    ขอตัวไปดูดอมยิ้มละ เตือนแล้วไม่ฟัง ก็กราบลา ถ้าทางจะอาการกันหนักจริงด้วย!!! 555555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2017
  7. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    อืม คนที่เข้าถึงอสังขตธรรม พอโดนซัก ถามธรรม กลับเอากรรมมาขู่ ด่ากลับอย่างนู้นอย่างนี้ อ้างว่าเอ็งไม่เข้าร้อกกกถึงข้าจะตอบไป กล่าวหาว่าคนอื่นเขามาชอบจับผิด กล่าวหาว่าเขาเอาแต่อ่านตำรา
    ก็แปลกดี คนที่ถูกกล่าวหาว่าเอาแต่อ่านตำรา กลับคุมสติได้มากกว่าคนที่เข้าถึงธรรมมะชั้นสูง ผู้ที่เข้าถึงอสังขตธรรม
    " ตลกดีว่ามะ"

    ประกาศตัวออกมาว่าตนเข้าถึงอสังขตธรรม คือกะจะบอกตัวเองว่าเป็นโสดาบันกลายๆ ว่างั้น? รอบก่อนก็เหมืมอนเห็นคนบอกว่าตัวเองเป็น อนาคามี กลายๆ รอบก่อนนู้นๆอีกมีอีกเยอะทั้งเว็บเลย นั่งสมาธิแล้วไปเห็นนิพพาน

    มีแต่คนที่เข้าถึงอสังขตธรรม ทั้งเว็บเลยแหะ - -" แต่ตอบคำถามพื้นฐาน กลับบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ
    อาการเหล่านี้พวกนี้จะมีพฤติกรรมที่เหมือนกันหมด คือ
    " เลี่ยงที่จะตอบคำถาม และด่ากลับผู้ถาม เอากรรมมาขู่ อ้างว่าพูดไปเอ็งก็ไม่เข้าใจ"

    พูดเตือนสติให้คิด ผู้อ่านก็คงได้ประโยชน์จากข้อความนี้ ถ้าแค่นี้ยังคิดไม่ได้ ไม่ดึงตัวเองกลับมา
    .
    .
    .
    . ก็เชิญอยู่กลับ อสังขตธรรม ของท่านต่อไปนะครับ
    ตายเปล่า!!! (ขออัญเชิญคำพูดตานิวรณ์ มาใช้หน่อยนะ อิอิ)^^
     
  8. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เวลาเราเผลอไปปรามาสธรรมที่คนอื่นเขาเห็นด้วยสัจจะความจริงของเขานะ มันจะเกิดเป็นทิฏฐิอย่างหนึ่งขึ้นมา ประมาณว่า กูเอาไม่เอาด้วยกับมึง ทิฏฐิตัวนี้จะเป็นเหมือนดั่งการตั้งคำอธิษฐานสัจจะวาจาไว้ในใจโดยปริยาย อธิษฐานไม่เอา จิตมีการสมาทานถือเอาความไม่เป็นกลางอยู่ ดังนั้นต่อให้ธรรมแท้นั้นปรากฏ ทิฏฐิตัวนี้ก็จะขวางไว้ก่อน ถ้าเห็นทันก็ดีไป ถ้าไม่ทัน มันก็พาให้ปลิ้นออกข้างไปทางอื่นทางใดทางหนึ่งหมด นั่นจึงไม่ใช่เรื่องที่จะไปโทษว่าใครเขาแช่งให้เสื่อมหรอก แต่จริงๆ มันเสื่อมเพราะอะไรดูเอาเอง ดังนั้นอธิษฐานดีก็ดีไป อธิษฐานไม่ดีก็ตัวเองนั่นแหละ หลงทำร้ายตัวเอง ดูเป็นหรือยัง จบนะ
     
  9. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    อ่านตำรา ต้องครบ84000 ทุกเล่มทุกหน้าก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน
    ทำไมต้องขนาดนั้นฮับ …ปฏิบัติท่าไหนกลัวตำราจนหัวหด
    ธรรมของพุทธองค์ไม่มีขัดแย้งกัน
    ยิ่งบอกว่าเห็นแจ้ง ประกาศเป็นนักรบธรรมให้พุทธองค์
    ใครเอาธรรมของพุทธองค์มากล่าวมายกให้อธิบายสงสัย
    ควรจะสามารถชี้แจง เปิดเผยธรรม ทำให้เข้าใจถูก ขยายศรัทธาปัญญาให้เขาได้
    ไม่ใช่อ้างเล่ห์ ไล่ให้อ่านให้ครบทุกเล่มทุกหน้า บอกว่าปฏิบัติไม่ถึงไม่เข้าใจ
    ใครถามหาว่าเขาปรามาส แล้วบอกเป็นนักรบธรรมทำงานเพื่อพุทธองค์ แต่ซ่อนเร้นไปเรื่อย
     
  10. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    คุณ Tboon กำลังกล่าวถึงผมหรือเปล่าครับ ถ้าไม่ใช่ก็ต้องขออภัย แต่ถ้าใช่ ก็ต้องถามไปว่า คุณ Tboon ทราบได้อย่างไรว่า คนอื่นได้แต่ภาคทฤษฎีหรือครับ
    ผมอาจจะเขียนยกพระสูตรมาประกอบความเห็น หรืออาจจะยกความดีให้ตำราพระวิสุทธิมรรค หรือ พระไตรปิฎกก็ได้ แต่ภาคปฏิบัติผมทำได้หรือไม่นั้น คุณ Tboon ทราบได้อย่างไรว่า ผมไม่มีปฏิเวธธรรม
    การที่ไปตำหนิผู้อื่นว่า คิดว่าตัวเป็นใหญ่บ้าง ติดหน้าตาลาภยศบ้าง โง่ไม่เป็นบ้าง แถไปเรื่อยๆบ้าง ดื้อรั้น ยังไม่ได้ฮาอะไร คนพาลบ้าง แบบนี้หากเขาไม่ได้เป็นแบบที่คุณ Tboon กล่าว จะไม่เป็นการผิดศีล มุสาวาทาเวรมณีหรือครับ
     
  11. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    ถึงน้องยศวดีคนสวย.........

    จม นี้พี่บรรจงเขียนด้วยลายมือพี่อย่างตั้งใจ พี่จึงอยากให้น้องตั้งใจฟังให้ดี

    ถึงแม้พี่จะรู้ตัวว่าหล่อปานเทพบุตร แต่พี่ก็ไม่เคยให้ความหวังกับใคร

    การที่น้องคนสวยเขียนว่าจะรอพี่อยู่หลายเพลา

    พี่เห็นว่าน้องไม่ควรที่จะเสียเวลากับคนเลวๆอย่างพี่มากนัก

    พี่คิดด้วยความสะเทือนใจว่าน้องคงเสียใจ ที่ได้อ่าน จม.นี้จากพี่

    เขียน จม.นี้พลางมือก็สั่นไปพลาง น้ำตาก็ไหลริน ไม่รู้ว่ามันออกมาจากตรงไหน คงไหลออกมาจากใจ

    พี่จึงอยากให้น้องตัดใจจากพี่ซะ

    น้องควรไปหาผู้ชายที่มีธรรมมะที่ดีคู่ควรกับน้อง ตามแหล่งกรรมฐานต่างๆน่าจะดีกว่า

    พี่เป็นคนชอบดูดอมยิ้ม ถ้าน้องรับในจุดนี้ของพี่ได้ และยืนยันว่าจะรอพี่

    พี่ก็อาจจะพิจารณาในอนาคต


    ด้วยรัก และห่วงใย

    จากพี่ ศิษย์โง่ คนหล่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2017
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ชอบกระทู้นี้
    มีทุกรสชาด มีจริง มีเกือบจริง มีฮา มีเก๋า
    พี่ศิษย์โง่ คนหล่อเก๋ามาก55
     
  13. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    อ๋อ อาจารย์แมวชอบเก๋า คิกๆๆ
     
  14. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511

    ท่านใดหยั่งทราบเรื่องนี้ด้วยตนเอง
    หรือมีครูบาอาจารย์กำชับ
    เช่นนี้ช่วยยืนยันด้วยครับ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรประมาท แต่ควรใส่ใจอย่างยิ่ง
    +++ พระโสดาบัน มีระบุไว้ชัดเจนว่า "พ้นสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส"

    +++ เฉพาะ "สักกายทิฏฐิ" ตรงนี้ ผู้ปฏิบัติในทาง "มหาสติปัฏฐาน 4" ที่สามารถ "ทำความรู้สึกตัวทั่วถึง" ได้แบบ ตจปริยันโต มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ จนได้นิสัย ก็จะรู้ได้ชัดเจนว่า "มีเวทนากายเป็นตน" พ้นจากการยึดเอา "กายเนื้อ เป็นกายเป็นตน" จากกายเนื้อ กลายเป็น กายเวทนาแทน (ตรงนี้เป็น ดำรงค์สติมั่น รู้ ระดับของกาย ในปัจจุบันขณะ)

    +++ เมื่อได้ "กายเวทนาเป็นตน" ไม่นานก็จะ รู้ ชัดเจนถึงอาการของ "สัมปชัญญะ 4 และ ปิติ 5" ซึ่งมันคือ อาการของ กายเวทนา รวมทั้งการแปรเปลี่ยนของกายจาก ปิติ5 สู่ สุข เอกัคตารมณ์ต่าง ๆ นั่นเอง และจะรู้ชัดเจนว่า กายคือฌาน หรือ ฌานคือกาย ในภายหลัง

    +++ ไม่นาน ก็จะได้ประสพการณ์ของ กายเวทนาที่ทับซ้อนกันอยู่กับกายเนื้อ และรู้จัก "กายในกาย" ตามความเป็นจริง

    +++ สรุปย่อ ๆ ได้ว่า เรื่องของ กายในกาย การกำหนดกายต่าง ๆ จะเป็นที่ "สิ้นสงสัย" ตรงนี้คือ "พ้นวิจิกิจฉา" และรู้ "หลักปฏิบัติของเฉพาะตนเอง" ตรงนี้ "พ้นสีลัพพตปรามาส"

    +++ จากการ รู้ชัด ว่า กายคือฌาน (ในระดับโสดา-สกิทา ยังไม่สิ้นสงสัยในฌาน ในระดับ อนาคา จะรู้ชัดว่า "ตน นี่แหละคือ ฌาน") ตรงนี้ จะทำให้มี "ขีดความสามารถในการ ปรับกาย ได้ในทุกขณะจิต" ให้เป็น กายสัมปชัญญะ หรือเป็น กายของโล่งโปร่งเบา (ฌาน 3) หรือให้เป็น กายแห่งเอกัคตารมณ์ ได้เป็นปกตินิสัย

    +++ ดังนั้น ในยามที่เกิด "กายที่ครองทุกข์เมื่อไร" ผู้ที่สามารถ ปรับกายได้ดั่งปรารถนา จึงสามารถ "ปรับกาย" ให้พ้นจาก ทุกข์ ได้ในทันที ตรงนี้คือ "ปิดอบาย" นั่นเอง

    +++ ที่กล่าวมาโดยคร่าว ๆ นี้ ต้อง "ทำ" เอาเท่านั้นจึงจะ "รู้" ได้ การ "พิจารณาแบบฝรั่ง (ตรรกะ) จะเป็น อจินไตย และ วิปลาส เอาได้ง่าย ๆ" นะครับ

    ที่มา...
    http://palungjit.org/threads/คุณธรรมต้องถึงโสดาบันจึงจะพ้นนรกอบายภูมิ.614008/#post-10442316
     
  15. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    ขอบคุณครับ
     
  16. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    -ท่านฝึกละสังโยชน์ ๓ เพื่อเตรียมตัวเป็นโสดาบันอย่างไร?
    .
    .
    .

    อานาปานสติ


    ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่ออานาปานสติ อันบุคคลเจริญทำให้มากแล้ว...

    ผลอานิสงส์อย่างใดอย่างหนึ่ง ในบรรดาผล ๒ ประการ เป็นสิ่งที่หวังได้

    คือ อรหัตตผลในปัจจุบัน หรือว่าถ้ายังมีอุปาทิเหลืออยู่ ก็จักเป็น อนาคามี.

    มหาวาร. สํ. ๑๙/๓๙๗/๑๓๑๓.




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...