ขอแนวทางในการฝึกกสิณสีเขียวหน่อยครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย กายสงบ ใจสบาย, 8 กันยายน 2017.

  1. กายสงบ ใจสบาย

    กายสงบ ใจสบาย พระคาถาเงินล้าน ศักดิ์สิทธิ์จริง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +18
    รบกวนท่านผู้รู้ขอแนวทางในการฝึกกสิณสีเขียวหน่อยครับ พอดีได้ไปซื้อแผ่นกสิณสีเขียวมาฝึกแล้ว รู้สึกว่าจับภาพแผ่นกสิณไม่ค่อยติดเท่าไหร่ รู้สึกมันแบน ๆ เวลานึกเห็นภาพกสิณบางทีก็เห็น แต่เห็นเป็นบางส่วน ไม่เต็มแผ่น หรือ ท่านใดมีวิธีฝึกกสิณสีเขียวที่ใช้แล้วได้ผลจริงบ้างครับ รบกวนขอความรู้เพื่อเป็นแนวทางหน่อยครับ

    ขอบคุณครับ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    วิดีโอที่สอนๆกัน หรือตามวัดดังนั้น
    ไม่ใช่ระดับใช้งานได้จากผลของกสิณ
    ได้จริงนะครับ และการฝึกกสิณนั้น เราจะไม่เน้น
    เพื่อให้เกิดผลทางด้านภายใน เพื่อที่จะดูดวง
    ทำนายทายทักอะไรนะ พวกนี้ไม่ใช่แนวทางของกสิณครับ

    เพียงแต่ระดับที่เราดูจากซีดี หรือสถานที่ฝึกต่างๆนั้น
    เนื่องจากกรรมฐานกองนี้ ในระดับเริ่มต้น มันเป็น
    กรรมฐานที่หยาบ คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายครับ
    และตามตำรา พูดถึงเรื่อง คุณวิเศษที่ได้จากผลของ
    มันตรงนี้ไว้เยอะ เลยทำให้หลายคนที่มาฝึก
    อาจจะเข้าใจเจตนารมย์ในการฝึกที่คาดเคลื่อนไปได้ครับ


    ตามที่เราเห็นไม่ว่าวัดดัง หรือ ตามแผ่น ตลอดจนในเวบที่มีวีดีโอ
    เป็นเพียงแต่เอากำลังตรงนั้น มาเพื่อเดินปัญญาต่อครับนะครับ
    ถึงจะเกิดประโยชน์กับเราจริงๆ แต่ชอบแทรกว่ามันวิเศษวิโส
    ซึ่งไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรเลย
    ซึ่งประเด็นนี้หละครับ เป็นหลักสำคัญ ที่มักจะทำให้
    และผู้ฝึกพลาดกันตรง
    ที่ไปติดกิริยาที่เกิดได้ปกติ ในระหว่างทาง
    แล้วไปยึดติดเป็นจริงเป็นจังกัน เลยมองว่ากิริยาระหว่าง
    ที่เกิดปกตินี้เป็นอะไรที่วิเศษ วิโส ทำให้ไม่มีสามารถ
    เข้าถึงผลสำเร็จในระดับ ที่จะเกิดกำลังจิตให้กับจิต
    และใช้งานได้จริง แถมยังหลงตัวเองเอาได้ง่ายๆ
    และไม่มีความสามารถและกำลังจิตในระดับที่
    แสดงและทำให้ผู้อื่นๆรับรู้ได้

    ซึ่งถ้าคุณจะใช้งานได้จริงๆในอนาคต...ต้องอย่าสนใจ
    และอ่านข้างบนให้เข้าใจในเบื้องต้นก่อนและห้าม(ห้ามนะ)
    สนใจกิริยาที่เกิดระหว่างทาง ทุกๆกรณี
    ไม่ว่า มันจะอลังการงานสร้าง หรือมากมาย
    ความพิเศษ อะไรก็ตามนะครับ เล่าให้ฟัง ในเบื้องต้นก่อน


    ทางเทคนิค
    ๑.ให้ปรับระบบหายใจใหม่ด้วยการระลึกรู้ลมหายใจ
    เข้าและออกหยุดที่ปลายจมูกก็พอ
    และให้หายใจให้เข้าให้ท้องพอง
    หายใจออกให้ท้องยุบ แต่ห้ามตามลมหายใจ...
    สำคัญมาก จะสำเร็จได้หรือไม่ได้อยู่ที่พื้นที่ตรงนี้ส่วนหนึ่ง
    ลองเอานิ้วชี้ ไว้ปลายจมูก ถ้าหายใจเข้า แล้วรู้สึกว่าลม
    เข้าและกระทบนิ้วตลอดเวลา คือ นั้่นหละ การระลึกลม

    ๒.ถ้าหลับตา ให้โน้มตาปกติมองลงมาที่ลิ้นปี่
    เป็นการตัดการใช้ความคิดจากสมอง
    นึกออกไหม ถ้าเราทำตาธรรมดาและหลับตา
    มันจะยังดึงความคิดจากสมองมาร่วมได้อยู่
    สังเกตุสายตาพระพุทธรูป
    และมันจะเหมือนมี แค่ตาเดียวเนื้อระหว่างคิ้วแทน
    ให้มองผ่านตรงนี้ตลอด มันจะมืดๆ เรื่องปกติช่างมัน
    เด่วต่อไปมันจะเริ่มมีขอบและเริ่มเห็นเองตรงนี้
    อย่างรีบร้อน เพราะจิตกำลังเริ่มฝึกสร้างภาพด้วยตัวมันเอง

    ๓.ถ้าลืมตาฝึก เมื่อยล้าหลับได้ไม่เป็นไร
    ห้ามขยับซ้ายและขวา
    ถ้าขยับซ้ายจะดึงความคิดอดีตทันที
    และถ้าขยับขวาจะสร้างความคิดใหม่ทันที
    แต่ในเวลาใช้ชีวิตปกติไม่เป็นไร......
    และถ้าเห็น นิมิตในอากาศ ไม่ว่ามันไปไหนให้ตามไปเรื่อยๆ
    ถ้ามันหาย ให้กลับมาระลึกลมหายใจที่ปลายจมูก
    ครั้งที่ ๓ และ ๔ ภาพจะกลับมายังต่ำแหน่งเดิมเอง
    แรกๆภาพจะวิ่ง เรื่องปกตินะ ทำไปเรื่อยอย่าใจร้อน
    เด่วมันนิ่งได้เอง ที่สำคัญ อย่าหลงนิมิตตั้งต้นนะ
    เพราะพอเริ่มจับได้ มันจะมี ที่สวยกว่า มาหลอกให้เราดู
    อย่าเผลอไปสนใจเป็นอันขาด......

    ๔.การตรวจ คือ ให้ลองมองผ่านเหนือระหว่างคิ้ว
    ไปข้างบนอากาศ ไม่ว่าที่ใด เวลาใด เมื่อไรก็ตาม
    ว่ามีภาพ นิมิต ที่เราฝึกอยู่ มันขึ้นมาให้เราเห็นไหม
    ถ้าเริ่มมีขอบๆแสดงว่า เริ่มได้แระ อย่าใจร้อน
    ฝึกต่อไปเรื่อยๆ.....

    ปล.ถ้าจะให้แนะนำจริงๆ ถ้าชอบนะ
    สำหรับคุณนะ ถ้ากสิณสี ควรขึ้นด้วยกสิณสีขาว และสีเหลืองครับ
    สีแดงและสีเขียว เดิมๆคุณ มันสู้สองสีที่กล่าวไม่ได้ครับ
    และถ้าเป็นกสิณกลาง คุณควรขึ้น ด้วย ลมหรือไฟ ตามด้วยน้ำ
    และดิน และอากาศ พูดตามระดับ ที่มีมากสุดไล่ลงมา
    และสิ่งที่ต้องระลึกให้มั่นคือ การนำกำลังที่ได้ตรงนี้
    มาเดินปัญญาต่อนะครับ ไม่ใช่เพื่อการแสดงก้ามดาก
    ไว้โชว์สาว หรือทำตัวเป็นผู้วิเศษกระโหลกกระลาอะไรนะครับ
    และต้องไม่ลืมว่า พุทธศาสนาเราเน้นเรื่องอะไรด้วยนะครับ (^_^)
    Ok นะ...
     
  3. กายสงบ ใจสบาย

    กายสงบ ใจสบาย พระคาถาเงินล้าน ศักดิ์สิทธิ์จริง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +18
    ขอบคุณมากๆครับ แล้วจะลองนำไปฝึกดูครับ
    ขอรบกวนอีกนิดครับ ไม่ทราบว่าวิธีฝึกกสิณลม และ กสิณไฟ ควรทำยังไงครับ ขอบคุณครับ
     
  4. กายสงบ ใจสบาย

    กายสงบ ใจสบาย พระคาถาเงินล้าน ศักดิ์สิทธิ์จริง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +18
    ท่านใดมีคำแนะนำอีกแนะนำได้เลยนะครับ ^ ^
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ขอโอกาสนั้น...

    เจ้าของกระทู้ ดูว่าเหมือนชอบใจในสีเขียว
    ความอันเดียวที่จะแนะ ให้พิจารณาหายอดได้
    คือให้สังเกตความชอบใจที่มีต่อกรีนสเตจ
    พึงระลึกเดชความไหวเคลื่อนกระเพื่อมขึ้นลง

    สังเกต"ฉันท"ในกรีน ณ สี แล้วได้อะไร
    อย่าสงสัยให้เพียรเพ่ง"ความพอใจ"ที่ประสงค์
    หากกำหนดเห็นฉันทะได้วิริยะ จิตตะ วิมังสาคง
    อิทธิบทสี่จะยงยั้ง ตั้งมันแล สำแดงธรรมานุปัสสนา


    ...............บัดนั้น กสิณอื่น เชิด...............
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ถ้าสนใจจริงๆไปอ่านในกระทู้ กสิณอะไรฝึกง่ายสุดดูครับ
    ส่วนตัวเขียนไว้ ถึง อรูปฌาน ๓ ในระดับที่ใช้งานได้จริงไว้แล้ว
    เรื่อง กสิณ นี่มันแค่แค่พื้นฐานสิวๆ
    พอทำให้หลงตัวเองเล่นๆครับ...
    เพราะไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร....
    และถ้าเอาจริงๆ ถ้าให้ใครก็ตามที่มาแนะนำเรื่องนี้
    มาให้พิสูจน์แสดงให้ดู หรือถามว่าใช้งาน
    อะไรไปบ้างแล้วที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
    รับรองว่า จะต้องมีการ
    แถเกือบทุกรายครับ.....

    รายละเอียดมันเยอะ เขียนไว้หลายปีแล้ว อ่านแต่ที่สำคัญนะครับ
    แต่หลักๆเลยคือ
    ๑.ตั้งปฏิธานไว้ว่า เพื่อเรียกของเก่า กับจะใช้
    เพื่อประโยชน์ทางธรรมและเพื่อผู้อื่นเท่านั้น
    ๒.อย่าเลาะแหละ ช่วงที่จะฝึก เพราะถ้ามันจะสำเร็จ
    มันจะทำได้ภายในเวลาไม่นาน
    และถ้าไม่ได้เลย ไม่ว่าฝึกอีกกี่สิบปีก็จะไม่ได้ครับ
    ๓.ระดับอุคคนิมิต ถือว่าเป็นกสิณโทษทั้งหมดห้ามสนใจ
    ๔.ไม่ว่า ฝึกกองไหน ถ้าไม่เห็นนิมิต ของมันจริงๆห้ามสน
    และแม้ว่าเห็นแล้ว ก็ห้ามสนใจให้ไปต่อ
    ๕.ในระหว่างทาง จะเกิด กิริยา สัมผัสอะไร อลังการงานสร้าง
    ระดับโลกแค่ไหนก็ตาม ห้ามสนใจทุกๆกรณี
    ข้อ สำคัญ ก็คือ ต้องปั่นปฏิภาคนิมิต
    ในสมาธิระดับกำลังสูงให้ได้ ด้วยตัวเองเท่านั้น
    จะบอกว่า หมุมมันไปทางด้านซ้ายให้ได้
    หมุนขวามันง่าย และไม่ได้อะไร......

    และ ข้อ ๖ การที่จะมีความสามารถในการนำพลังงานกสิณ
    มาใช้งานได้จริงนี้ คุณจะต้องสอบผ่านการทดสอบจากภาค
    ส่วนภพภูมิก่อน ในเรื่องของความเฉลียวในการใช้งาน
    และเรื่องการยอมตายหรือการตัดการยึดติดร่างกายครับ

    ไม่งั้น มันก็จะกลายเป็นอุคคนิมิต พอให้เราหลงตัวเอง
    เล่นๆ ใช้งานได้แบบมโนเอา นิมิตเอา
    แต่นำมาใช้จริง แสดงจริง ให้คนอื่นๆรับรู้สัมผัสไม่ได้
    รวมทั้ง ไม่มีกำลังจิตเพียงพอ ต่อพลังงานภายนอกต่างๆครับ



    ถ้าทำได้ จะไม่ต้องมาถามใครอีก
    แล้วจะย้อนรู้รายละเอียดที่ผ่านมา
    ทุกขั้นตอนได้ด้วยตัวเราเอง....

    กรรมฐานกองนี้ ขึ้นต้นเหมือนง่าย
    ดูเหมือนเข้าถึงง่าย
    แต่จะถึงระดับใช้งานได้
    ไม่มีคำว่าฟลุ๊กนะครับ

    ปล.โชคดีครับ
     
  7. กายสงบ ใจสบาย

    กายสงบ ใจสบาย พระคาถาเงินล้าน ศักดิ์สิทธิ์จริง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +18
    ขอบคุณมากๆครับ แล้วผมจะลองทำดูนะครับ
     
  8. กายสงบ ใจสบาย

    กายสงบ ใจสบาย พระคาถาเงินล้าน ศักดิ์สิทธิ์จริง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +18
    ขอบคุณครับ
     
  9. แนน จันทบุรี

    แนน จันทบุรี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +82
    ..กสิณ...กล่าวโดยละเอียดยากอยู่ที่ควรใช้คือปฐวีกสิณ หรือกสิณดิน ใช้คำบริกรรมภาวนา จนจิตรวม เพ่งอยู่ที่ฐานของจิต บางคนสมาธิแกร่งก็นู้น...จิตตัดความรู้สึกเห็นแต่กสิณนั้นๆ ใครจะทำอะไรก็ไม่รู้ รู้เห็นแต่กสิณนั้นๆ จนกว่าจะมาแยก กสิณนั้นๆให้เป็น สิ่งรู้ของจิต สิ่งระลึกของสติ จับมาใช้ประโยชน์ทางจิต(อำนาจสมาธิแบบไมผิดศีลธรรม) แล้ว รู้ เฉยอยู่ สติก็ประคองไปได้ ไม่ใช่ ...
     
  10. แนน จันทบุรี

    แนน จันทบุรี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +82
    ....ตอบให้แล้วนะครับ...หาคำบริกรรมภาวนาดู หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านก็มีบอกไว้ในเทศนาเรื่องกสิณ แต่ส่วนตัวลองใช้คำบริกรรมภาวนามาหลายอย่าง แต่มารวมที่ ศีล สมาธิ ปัญญาแทนโดยอัตโนมัตินะครับ(เป็นบางขณะก็ยังดีกว่าไม่เป็นเลย)
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    แนะนำ กองที่ จขกท อ่อนสุด
    จะหวังผลในอีกสิบชาติหรือครับ???
    ขนาดแนะนำกองที่เด่นสุด ยังไม่แน่ว่า
    ขาตินี้จะฝึกสำเร็จหรือเปล่าเลยนะครับ
    เพราะต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นๆร่วมด้วย
    เพราะฉนั้น ถ้าฝึกยังไม่สำเร็จมาก่อน
    และยังไม่เคยใช้งานได้มาก่อน
    แนะนำปี๊แปะจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
    มาลงดีกว่าครับ
    อย่ามั่วใช้การวิเคราะห์นะครับ
    หรือแค่อยากแนะนำไปเรื่อย
    แต่ไม่มีประสบการณ์




    อ้างชื่อ ลพ แต่พฤติกรรมดันตรงข้าม
    เด่วจะบอกอะไรให้นะครับ
    โทษฐานที่มาโชว์โง่อยู่เรื่อยไปนะครับ
    ในการฝึกกสิณนะครับ
    ใครก็ตามที่ได้เข้ามาอ่านควร
    จำใส่กะโหลกกะลาเอาไว้ว่า
    ภาพในระดับอุคคหนิมิตนั้น
    มันถือว่าเป็นกสิณโทษทั้งหมด
    ไม่ว่าภาพนั้นจะเป็นนิมิตตรงก็ตาม
    ย้ำว่าเป็นนิมิตตรง ยังเป็นโทษ

    ที่ถือว่าเป็นโทษ เพราะหากไปยึด
    มันจะหลงคิดว่าเป็นสิ่งวิเศษวิโส
    ไปเล่นกับภาพอุคหนิมิต ไปแยกภาพมัน
    ออกมาเป็นเครื่องรู้ สิ่งรู้ของจิต
    แล้วมโนไปเรื่อยว่าเป็นการรู้
    เป็นเครื่องรู้พิเศษ และก็จะหลงตัวเองไปวันๆ
    แบบไร้กำลังจิต

    เพราะระดับอุคหนิมิต
    มันไม่มีกำลังพอที่จะสร้างให้เกิด
    อำนาจสมาธิจากการใช้จิตใดๆหรอกครับ
    อย่าปัญญาอ่อน
    แม้ให้ทำให้ปรากฏได้ภายใน
    วินาที ก็ไม่ใช่เครื่องรู้ หรืออำนาจพิเศษใดๆ
    มีแต่มโนเอา ยังคิดว่าจะมีอำนาจไปทำอะไรในทางที่ผิดศีลธรรมได้ มันมีแต่มโนเอาทั้งนั้นหละครับ แค่เล่นกับภาพในระดับนี้
    มาจากสัญญาในจิตตนเองทั้งนั้นหละครับ

    ไม่งั้นพวกคงมีความสามารถ
    พิเศษเต็มบ้านเต็มเมืองไปแล้ว
    เพราะกำลังระดับนี้ คนไม่เคยฝึกก็เกิดได้
    บางคนแค่ลืมตาตอนเช้าก็เห็นแล้ว
    หรือเคยฝึกมาบ้างก็พอเกิดได้ สร้างได้
    เพียงแต่ผู้ฝึกกสิณจะใช้ภาพนี้
    เพื่อต่อยอดยกระดับไปในขั้น
    ที่มันเกิดผลกับจิตจริงๆ
    ไม่ว่า ๑ ทางอฐิษฐานจิต
    ๒ทางด้านพลังงาน
    ๓ ทางด้านสมาธิระดับอรูปฌาน ๓
    และมันยังเป็นเพียงสมถะอยู่

    ไม่ใช่ด้านปัญญา และกิริยา
    ที่เกิดระยะทาง มันไม่ใช่เครื่องรู้พิเศษ
    ไม่ใช่สิ่งพิเศษใดๆ ใครก็เห็นได้ถ้าเข้าถึง

    และพอใช้งานได้ในทางที่เป็นประโยชน์
    ที่ไม่ใช่เอาไว้โชว์โง่ เพื่อให้คนอื่นๆ
    เข้าใจว่าตนวิเศษแล้ว. เราจึงนำ
    กำลังที่ได้ตรงนี้มาต่อยอดทางปัญญา
    เพราะมันทำให้เห็นและเข้าใจ
    นามธรรมได้ดีกว่า ระดับกำลังสมาธิไม่มาก


    และกิริยาในระหว่างทาง
    ก่อนที่จะใช้งานได้จริงนั้น
    มันเป็นกับดัก เอาไว้ดักพวกกระบือ
    ที่ยึดนามธรรม คิดว่ามันวิเศษวิโสทั้งหลาย
    พวกที่อยากได้รับการยอมรับ
    ว่าตนเองมีอะไรเหนือใครทั้งหลาย
    พูดง่ายๆไอ้พวก ขี้เท่อ สมองกลวง

    ความจริง ลพ มีชื่อ ก็เคยบอกว่าห้ามสนใจ
    แต่ก็ยังมี บักกระบือ ที่ยึดแล้วเสือก
    เอาชื่อ ท่านมาอ้าง ให้เสื่อมเสีย
    กับวิธีการปัญญาอ่อนที่ตนยึดติดว่าวิเศษ
    ไร้กำลังจิตแบบตนเองอีก

    เพราะกำลังมัน
    อยู่ในระดับอุปจารสมาธิ
    อย่างมาก
    ไม่เกินปฐมฌาน
    มันพอสำหรับที่จะเดินปัญญา
    แต่ไม่ใช่เอามาสร้างในลักษณะที่ให้เกิด
    ความเข้าใจว่าเป็นอำนาจสมาธิ บาทาอะไร
    และไม่ใช่ไปต่อด้านหมอดู อะไร(บางสำนัก)
    แบบนี้มันคือพวกนอกคอก ไม่ใช่พุทธฯ
    แต่ชอบเอามาอ้าง
    และไม่ใช่สร้างให้เกิด
    ปัญญาอัตโนมัติอะไร

    เพราะปัญญาถ้าในระดับอัตโนมัติ
    อย่างที่ นาย แนน จันทบุรี โม้ให้ตนดูดี
    มันคงไม่มาปัญญาอ่อน ยึดในกิริยาระดับ
    อุคหนิมติ ยึดนามธรรม
    แล้วโน้มไปทางด้าน
    อำนาจสมาธิอย่างที่.
    นาย แนน จันทบุรี. พยายามคุยออกสื่อ


    ปัญญาระดับอัตโนมัติมันจะค้น
    ในเหตุแห่งการเกิดดับและ ไม่ยึด ไม่ติด
    เพราะมันเข้าใจ ในกระบวนการทางด้าน
    นามธรรมต่างๆแล้วครับ. ไม่ใช่อยู่ในกิริยาทางนามธรรมระดับสมาธิเล็กน้อย
    แล้วเอากสิณไปยำรวมเเกี่ยวกับคำภาวนา
    สุดท้ายโม้ว่าเป็น ศีล สมาธิ ปัญญาโดยอัตโนมัติแทน. แบบนี้
    เค้าเรียก ว่า เฟ้อ การปฎิบัติ แบบ ขี้เท่อ

    สะกดไว้ มีปัญหาหรือข้องใจ ติดขัดใดๆ
    มาพิสูจน์กันตัวๆในอนาคตได้นะครับ
    ถ้าเห็นว่า ข้าพเจ้า พูดผิดตรงไหน

    พอดี ส่วนตัวไม่ค่อยชอบ พวกขี้โม้เข้าตัว
    และขี้อ้าง และเจือกอ้างแบบกะบือๆ
    คนละแนวทางกับ
    ท่านที่เอามาอ้างอีก
    แต่ยังหน้าด้านอ้างชื่อท่านอีก. ^_^
     
  12. ใจแก้วนะ

    ใจแก้วนะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2017
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +38
    ดิน น้ำ ลม ไฟ แสง สี ชอบอะไรจับอันนั้นแหละจะมาเร็ว
     
  13. ฮักตัวน้อย

    ฮักตัวน้อย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +28
    ของผมก็เป็นปัญหาแบบ จขกท. จะลองเริ่มฝึกใหม่ แต่ขอคำแนะนำผมควรเริ่มจากกองไหนจะได้เร็วสุดคับ
     
  14. แนน จันทบุรี

    แนน จันทบุรี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +82
    .....ใช้คำบริกรรมภาวนาอย่างเดียวก่อนครับให้ได้คำบริกรรมภาวนาไม่ให้มีช่องว่างก่อนเช่น พุทโธๆๆๆๆๆๆๆๆ..ติดกันเลย จนกระทั่ง จิตทิ้งคำบริกรรมไปคิดถึงเรื่องอื่น ให้มีสติ ตามรู้ความคิดเป็นจิตตานุปัสนาสติปัฐฐาน...แล้วเมื่อสติจับจ้องอยู่กับความคิด จนช่วงหนึ่ง ว่าง ให้จิตรู้ที่ความว่าง เมื่อกำหนดสติบริกรรมภาวนาให้รู้คำบริกรรมภาวนา จนติด คือเมื่อจิตว่างสติจะนึกคำบริกรรมภาวนา พุทโธ เป็นเครื่องรู้ของจิตเครื่องระลึกของสติ แต่ถ้าใช้ร่วมกับลมหายใจ เมื่อจิตทิ้งคำบริกรรมภาวนา ไม่นึกไม่คิดตัดมืดไป ก็ให้มีสติจับจ้องอยู่ แต่เมื่อจิตเค้าจะส่งกระแสออกไปข้างนอกจะเกิดความรู้ความคิดขึ้น เมื่อถึงขั้นนี้โอกาสที่จะพบดวงจิตคือ สว่างมีโอกาสมากแล้ว จึงควรฝึกสติคู่คำบริกรรมภาวนาและลมหายใจ ต่อเมื่อจิตทิ้งคำบริกรรมภาวนา เหลือลมหายใจ และ ทิ้งลมหายใจ เหลือแต่เพียงจิต จึงเดิน วิปัสนากรรมฐาน คือ ใช้จิตสว่างนั้นกำหนดรู้ กาย ...ต่อไป ...ฝากไว้พิจารณา.....
     
  15. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ชอบกองไหน กองนั้นเร็วสุด
     
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ชอบจริงเป่า ถ้าชอบ
    มีสองทางให้เริ่ม....
    ถ้าจะเริ่มด้วยสี ควรเริ่มด้วย
    สี ขาว เหลือง แดง หรือ เขียว

    ถ้าเริ่มด้วยกลางควรเริ่มด้วย
    ลม อากาศ ไฟ น้ำ ดิน

    ที่เขียนคือตามระดับความหนาแน่น
    จากมากไปน้อย
    ไล่ให้ดูเล่นๆพอขำๆ
    เด่วถ่าฝึกสำเร็จเรา
    ก็จะสามารถไล่ดูเล่นๆได้เช่นกัน

    ปกติเวลาที่จะฝึก เราจะเริ่มต้นฝึกนั้น
    ควรเริ่มด้วยกอง
    ที่มันเคยเด่นที่สุด
    ที่จิตเรามันเคยทำมา
    ก่อนในอดีต สมมุติว่าเริ่มด้วยดิน
    หรือสีเขียว ชาตินี้คงได้แค่ลอง
    ได้แค่มอง และเสียเวลาเป่า
    เกทเนาะ


    ถ้าคิดว่าจะมีโอกาสฝึกได้สำเร็จ
    ในชาตินี้ ถ้าสีควรเริ่มด้วยสีขาว
    หรือถ้ากสิณกลาง ควรเริ่มด้วยลม

    และถ้าเริ่มต้นด้วยสีขาวหรือลมแล้วควรฝึก
    จนสำเร็จเป็นกองๆไปเท่านั้นห้ามเปลี่ยน
    เป็นอันขาดในระหว่างทาง
    เพราะมันจะมีนิมิต กองอื่นมา
    แทรกทำให้เราเขว่ ต้องระวัง

    ฝึกได้ที่เหลือถึงจะขึ้นมาได้เอง
    เพราะกำลังใช้งานมันเท่ากัน ^_^
    พอเข้าใจเนาะ
     
  17. ฮักตัวน้อย

    ฮักตัวน้อย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +28
    และถ้าจะเริ่มจากลม ควรฝึกไงคับ เพราะมันมองไม่เห็น ดูจากการไหวของใบไม้หรือ
     
  18. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    สองอย่าง จับความรู้สึก หรือดูยอดไม้ใบไม้ ป่าที่ลมกระทบไหวมาเป็นอารมณ์ในการภาวนา
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ใครบอกว่าลมหรืออากาส
    ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
    ไม่เคยเจอคนทำได้ มองเห็นได้
    หรือเตอคนแนะทริค
    ให้เราเห็นได้
    อย่าพึ่งคิดเอาเอง
    ประเด็นนี้ค้างไว้ก่อน

    ถามก่อนว่าจะฝึกไปเพื่ออะไร?
    เอาชัดๆ
    ๑. เอากำลังที่ไม่มากระดับปฐมฌาน
    คือใช้แค่ภาพอุคนิมิต แบบชิวๆ
    แล้วมาเน้นทางด้านปัญญา ไม่สนใจ
    เรื่องความสามารถในการทำได้แบบพิเศษต่างๆ

    ๒. เน้นอฐิษฐานจิตในกำลังระดับสูง
    (ยากส่วนมากมีแต่อดีตพระฯมีชื่อเสียงทำได้)หมายถึง หายใจเข้าครั้งเดียว
    แล้วเกิดผล
    ๓.เน้นสร้างกำลังจิต เพื่อไปเล่นกับพลังงาน
    ไม่ว่าภายในภายนอก แล้วค่อยมาต่อยอดเพื่อไปวิปัสสนาญาน (ต้องผ่านเรื่องเมตตา
    เรื่องการกลัวตาย และความเฉลียวที่มาจากกำลังสติทางธรรมล้วนๆ ในการนำไปใช้งาน จากภูมิที่ปกติมองไม่เห็น)
    ไม่งั้นจะทำได้แต่ในนิมิต พอโม้สร้างภาพหลอกตัวเองหลอกคนอื่นไปวันๆ แต่เอามาใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้ เพราะจะขาดกำลังจิต
    ๔.เน้นเพื่อไปถึงอรูปฌาน ๓ เอากำลังมาต่อด้านปัญญา
    ส่วนอรูป ๔ ฝึกเอาไม่ได้ ต้องทิ้งทั้งหมดก่อน
    แล้วมาทางปัญญาถึงมีโอกาสเข้าได้

    ปล และที่สำคัญมีการตั้งเป้าหมายในการฝึกเพื่ออะไร.? คำตอบ จะเป็นตัวที่จะพอชี้วัดว่า
    น่าจะฝึกสำเร็จได้หรือไม่เช่นกันครับ

    ตำราที่มี บอกในมุมกว้างๆ
    สำหรับคนส่วนมาก
    ทริคท่านก็บอก แต่คนฝึกมักทำตรงข้าม
    การจะผ่านกิริยาระหว่างทาง
    ที่ไม่มีในตำรา
    ต้องผ่านด้วยตัวเราเอง

    จำไว้ว่า กรรมฐานกองนี้เริ่มต้นเหมือนง่าย
    แต่จะใช้งานได้จริง จะไม่มีคำว่าฟลุ๊ค
    และที่สำคัญมาก คือ
    ห้ามสนใจทุกๆกิริยาและความสามารถ
    ต่างๆที่มันเกิดในระหว่างทาง ไม่ว่าจะพิศดารระดับจักรวาลแค่ไหนก็ตาม
    ก่อนที่จะสามารถใข้งานได้จริง
    เป็นอันขาด ย้ำว่าสำคัญมาก
    ไม่งั้นเสร็จทุกราย
    จะหลงทาง
    หลงตัวเองได้อย่างคาดไม่ถึง
    ปล ถือว่าเล่าให้ฟังเล่นๆแล้วกัน
     
  20. ฮักตัวน้อย

    ฮักตัวน้อย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +28
    สำหรับผมคงเป็นข้อ2 ,3,4คับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...