เตรียมตัวให้พร้อม...มันกำลังมา!

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย >_<.ST.>_<, 6 พฤศจิกายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำทำนายปี 2018 เศรษฐกิจโลกล่มสลาย สงครามโลกครั้งที่ 3 และ อุกาบาตพุ่งชนโลก


    เผยแพร่เมื่อ 8 ต.ค. 2017

    วิดีโอนี้แสดงการคาดการณ์ของ นอสตราดามุส ในปี 2018

    ทำนาย Nostradamus 2018 # 1 - การสูญเสียที่ดีของดวงจันทร์ VESUVIUS
    การคาดการณ์ของ Nostradamus 2018 # 2 - ความสูญเสียทางเศรษฐกิจ
    การคาดการณ์ Nostradamus 2018 # 3 - WORLD WAR 3
    Nostradamus 2018 ทำนาย # 4 - GIANT ASTEROID TO HIT EARTH
    การคาดการณ์ของ Nostradamus 2018 # 5 - การสื่อสารด้วยมนุษย์และสัตว์ล่วงหน้า
    Nostradamus 2018 ทำนาย # 6 - คนจะเริ่มมีชีวิตอยู่เกินกว่า 200 ปี
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แนวโน้มของสิ่งที่จะเกิดขึ้น ปลายปี 2018 หรือ 2019


    เผยแพร่เมื่อ 3 พ.ย. 2017

    แปลภาษาโดยกูเกิ้ล

    NASA: ดวงอาทิตย์จะไม่ขึ้นอีกในปี 2018 - 33 วันคืน หลังจากมีมนุษย์เพียง 7 ล้านคน ที่เหลืออยู่บนโลก

    70,000 พันปีที่ผ่านมา ประชากรมนุษย์โลกอยู่ที่ประมาณ 10 ล้าน แต่ 50,000 พันปีมาแล้ว - มีเพียง 9,000 คนที่ยังมีชีวิตอยู่ทั่วโลก เราทุกคนสืบเชื้อสายมาจาก 9,000 คนเหล่านี้ เราลดลงได้อย่างไรจาก 10 ล้านถึง 9,000 ราย? นี่คือวิธีการ สิ่งที่คุณเห็นคือจุดเริ่มต้นที่กำลังจะมาถึงในยุโรปและเข้าสู่ส่วนที่เหลือของโลก มันเป็นเพียงลมหายใจแรกของมัน ค่าใช้จ่ายพันล้านดอลลาร์ตกเป็นของยุโรปและก่อให้เกิดพระอาทิตย์ตกที่แปลกประหลาดและปรากฏการณ์แปลกใหม่ในบรรยากาศทั่วโลก

    ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า เตรียมความพร้อมให้กับเหตุการณ์สำคัญในปี พ.ศ. 2561 เมื่อเทียบกับการสูญพันธุ์ของชาวแซมไอร์แลนด์ แต่ตอนนี้มนุษย์ต้องเดินทางไปแล้ว พวกเขาแน่ใจว่าจะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2561 พวกเขาสามารถคำนวณวันที่สารสกัดได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2018 หรือต้นปี พ.ศ. 2562 เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์รู้สึกดีที่คาดการณ์การระเบิดของภูเขาไฟ ที่จะทำให้เกิดการลงโทษครั้งใหญ่ในยุโรปก่อนแล้ว จึงเหลือเวลาที่เหลือ โลก. ในปี 2010 ภูเขาไฟไอซ์แลนด์เริ่มปะทุสูบน้ำตันขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำให้หลายพันล้านยูโรเกิดความเสียหายแก่สายการบินยุโรปเพียงลำพัง เนื่องจากเครื่องยนต์อากาศยานที่ได้รับความเสียหายจากแอช และนับหมื่นเที่ยวบินที่ถูกยกเลิกและเปลี่ยนเส้นทาง

    ในปี 2554 ภูเขาไฟไอซ์แลนด์ดูเหมือนจะชะลอตัวลงและชาวยุโรปเริ่มหายใจได้อย่างง่ายดาย แต่ในปี พ.ศ. 2560 นักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจวัดแผ่นดินไหวไอซ์แลนด์และกิจกรรมแมกม่า และกล่าวว่ามันเป็นปัญหาที่รุนแรงกว่าครั้งก่อนปี พ.ศ. 2553 นักวิทยาศาสตร์บอกว่าไอซ์แลนด์และส่วนที่เหลือของยุโรป ห่างออกไปเพียงหนึ่งปีสำหรับการสูญพันธุ์ที่เกิดจากการปะทุอันยิ่งใหญ่ ซึ่งจะทำให้เกิดการปะทุไม่เพียง แต่การปะทุในปี พ.ศ. 2553 แต่มนุษย์ทุกคนได้ปะทุขึ้น ในช่วง 50,000 ปีที่ผ่านมา การปะทุของ Tabora และ Krakatoa

    ที่สร้างยุคน้ำแข็งบนโลกใบปะทุมาแล้ว กินเวลานานหลายชั่วโมง หนึ่งที่เข้ามาจะมีอายุการใช้งานเป็นสัปดาห์เดือนและบางทีอาจเป็นปี ที่สูบน้ำมากขึ้นไปในอากาศ จนกว่ามันจะบล็อกดวงอาทิตย์ และกลางวันจะกลายเป็นคืนทั่วทุกมุมโลก จากนั้นเราจะมีลูกบอลน้ำแข็ง ที่ไม่มีการปลูกพืชและไม่มีเครื่องบินบิน เหตุการณ์เดียวกันนี้ได้กวาดล้างมนุษย์ยุค Neanderthals 50,000 พันปีมาแล้ว พร้อมกับลิงหลายรูปแบบ ใช่มนุษย์รอดชีวิตและอดทนกลับมาได้แล้ว แต่เมื่อ 70,000 พันปีที่ผ่านมาประชากรมนุษย์โลกมีจำนวนประมาณ 10 ล้านคน แต่มีประชากร 50,000 พันคนลดลงอย่างมากถึง 9,000 คนบนโลก

    ตอนนี้เราอยู่ที่เกือบ 8 พันล้าน ดังนั้นคำถามคือ - จำนวนนี้จะเหลือเวลานี้หรือไม่? ครั้งล่าสุดมีเพียง 0.1% เท่านั้นที่รอดชีวิต เราทั้งหมดสืบเชื้อสายมาจาก 0.1% เหล่านี้ แปลโดยจำนวนประชากรโลกวันนี้หมายความว่ามีเพียง 7 ล้านคนเท่านั้น ที่จะถูกทิ้งไว้หลังจากการปะทุ และจะเป็นการปะทุอย่างรุนแรง ไม่ใช่เพราะมันจะระเบิดขึ้นเช่นเดียวกับการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ แต่เป็นเพราะมันจะมีอายุการใช้งานเป็นเวลาหลายสัปดาห์หลายพันปีหรือบางทีอาจจะหลายปี มันจะทำให้ตันของเถ้าเข้าไปในชั้นบรรยากาศของโลกเพื่อป้องกันดวงอาทิตย์ และหากคุณอ่านคำพยากรณ์ในเวลากลางคืน 33 วัน เมื่อดวงอาทิตย์จะส่องลงบนพื้นดินที่เกิดขึ้นในหลายแหล่งรวมทั้งพระคัมภีร์ Nostradamus และ Baba Vanga ตอนนี้คุณจะเข้าใจว่ามันไม่เพียงเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์ โดยมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นปลายปี 2018 หรือ 2019
     
  3. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    น่าจะมีนะครับรอให้สิ่งไม่ดีมันหมดไปก่อนครับแล้วสิ่งดีน่าจะตามมาครับ
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ยามทรามลามสุดแล้วฉันใด จักเกิดท่านเทพไท้จากฟ้า

    645_conan_the_rebel-jpg.jpg
    กัลกิยาวตาร

    (จากบันทึกในศาสนาฮินดู)

    กัลกยาวตาร หรือ กัลกิยาวตาร(พระนารายณ์ อวตารเป็นมนุษย์ผู้ขี่ม้าขาว หรือ กัลกี)เป็นอวตารที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่เป็นการทำนายอนาคตไว้ว่า ในยามที่เป็นปลายแห่งกลียุค ที่เมื่อผู้คนไม่รู้จักธรรมะ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอีกต่อไป โลกทั้งโลกต้องเผชิญกับยุคเข็ญไปทุกหย่อมหญ้า จะมีบุรุษขี่ม้าปรากฏตัวขึ้น เพื่อปัดเป่าความทุกข์ยาก และนำธรรมะกลับมาสู่มวลมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง

    เมื่อโลกเยือนย่างเข้า กลียุค
    บาปบั่นบุญบี้บุก ทั่วหล้า
    ทั่วถิ่นทุกทางทุกข์ เหลือหลาย
    เกิดก่อกิเลสกล้า มล้างมลายธรรม

    ยามทรามลามสุดแล้ว ฉันใด
    จักเกิดท่านเทพไท้ จากฟ้า
    อวตารดับเภทภัย พาพ้น
    ปาฏิหารย์ประจักษ์หล้า แต่ต้องหวังขลัง

    วิษณุเทพผู้ รักษา
    ซึ่งหมั่นธำรงโลกา จากร้าย
    ปางสิบเสด็จมา ยามยาก
    มามุ่งพามารร้าย ดับสิ้นโสมม

    เป็นบุรุษขี่ม้า สีขาว
    มีดาบเชิดชูวาว แกว่งแกล้ว
    แต่ต้องจัก รอยาว เมื่อมา
    ปราบบาปให้คลาดแคล้ว ชื่อนั้น"กัลกี"

    จงตั้งตัวตั้งมั่น ไว้เถิด
    สักวันจักก่อเกิด ประจักษ์หล้า
    ครานั้นบาปจักเตลิด แพ้พ่าย
    จากบาปให้คลาดแคล้ว ทั่วทั้งสากล

    โปรดทำดีอย่าท้อ พวกเรา
    ยามบาปบุกมัวเมา อย่าใกล้
    ใครมัวหมุ่นปลุกเขา ช่วยเถิด
    เพราะว่าท่านเทพไท้ จักได้เสด็จมา


    บทกวีโดย ขาว-กรมท่า

    ที่มา https://www.dek-d.com/board/view/1030978/
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พระศรีอารย์ในจิตทัศน์ของนอสตราดามุส

    _9_150.jpg

    " เสียงนุ่มนวลแห่งมิตรไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ยินจากแผ่นดินทิพย์ แสงเพลิงมนุษย์ ฉายรองรับเสียงประเสริฐนั้น จะเป็นเหตุให้โลกต้องเปื้อนเลือด สมณเพศทั้งหลายที่ไม่ยึดถือศีล (พรหมจรรย์) และนำไปสู่การทำลายโบสถ์วิหารที่ไร้ความบริสุทธิ์ "
    (ซ.1 ค.96 )


    นับว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกน่าอัศจรรย์อย่างมากเลยทีเดียว ที่นอสตราดามุสได้เขียนโคลงทำนายบทนี้ขึ้นเมื่อ 450 ปีก่อน ภายใต้สังฆจักรโรมันคาทอลิก สมมุติว่าท่านได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีประวัติยาวนานถึง 2,000 ปีกว่ามาแล้วในสมัยนั้น ท่านคงจะไม่กล่าวถึงพระศรีอาริยเมตไตรยอย่างแน่นอน ถ้าในจิตทัศน์ของท่านไม่ได้เห็น สัจธรรมบางอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และมีส่วนสัมพันธ์กับศรัทธาใหม่ของโลกโดยตรง คำว่า " มิตรไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ " นี้จะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากพระนามของพระศรีอาริยเมตไตรย เพราะคำว่า " เมตไตรย " นี้ แปลว่า " เพื่อน " ในความหมายของภาษาบาลี สันสกฤต บุคคลผู้นี้เป็น Sacred Friend จะเป็นใครก็ตาม แต่การใช้คำว่า " มิตรไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ " หรือ " เพื่อนผู้ศักดิ์สิทธิ์ " แสดงให้เห็นว่าผู้ที่จะมาโปรดสัตว์ในโลกยุคนี้ จะไม่ใช่เป็นบุคคล

    ธรรมดาอย่างแน่นอน อีกทั้งมาจากแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ หรือ Holy Ground อีกด้วย ก็ยิ่งชี้ชัดว่าน่าจะเป็นองค์พระศรีอาริยเมตไตรย ซึ่งนายจอห์น ฮอค ฟันธงว่าจะเสด็จมาในโลกนี้ประมาณ ระหว่างคริสต์ศักราช 2000 ( พ.ศ.2543 ) หรือกว่านั้นเล็กน้อย ซึ่งใกล้เคียงกับวันเวลาที่พระเยซู หรือพระมาซิ อาร์ พระมะห์ดีร์ ตามความเชื่อของมุสลิม จะเสด็จมาในวันพิพากษาโลกนี้ ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อกันอย่างเงียบๆ ว่าอาจจะเป็นพระศาสดาโพธิสัตว์องค์เดียวกันก็ได้

    การเสด็จมาของพระศรีอาริยเมตไตรย ก็คงต้องมาชำระสะสางความเสื่อมของศาสนาอยู่แล้ว ในภาวะที่มีการวิวัฒนาการ บรรดาพระสงฆ์สมณเพศผู้ยึดถือพรหมจรรย์ ก็คงไม่แตกต่างอะไรกับนักบุญทั้งหลายผู้เสียสละในอดีต วันเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้นคงต้องผ่านขั้นตอนตามปรกติวิสัย ซึ่งบางครั้งอาจต้องมีความเจ็บปวดอันเกิดจากการต่อต้าน หรือขัดแย้งทางอุดมการณ์และความคิดเกิดขึ้น ซึ่งในหลายๆ กรณีที่เกิดขึ้นในอดีต การเสียสละของนักบุญอาจถึงกับต้องเลือดตกยางออก


    " อังคารกับคฑาของจูปิเตอร์ (พฤหัส) เล็งลัคน์
    เกิดสงครามมหาวิบัติภายใต้ราศีกรกฎ
    หลังจากนั้นไม่นาน กษัตริย์ใหม่จะถูกสถาปนา
    เป็นผู้นำสันติสุขมาสู่โลกมนุษย์เป็นเวลายาวนาน "
    ( ซ.6 ค.24 )


    วรรคที่น่าสนใจในโคลงบทนี้ ได้แก่วรรคที่มีคำว่ากษัตริย์ ที่จะนำสันติสุขมาสู่โลกมนุษย์ หลายฝ่ายตีความกันว่า นอสตราดามุสกำลังพูดถึงวันที่โลกชำระบาปแล้ว หลังจากกลียุคอันเกิดจากสงคราม ภัยพิบัติอันเกิดจากธรรมชาติ หรือโรคระบาด โลกจะปรากฎผู้นำใหม่ที่มาในมิติที่อยู่เหนือธรรมชาติ อาจจะเป็นพระศรีอาริยเมตไตรย พระมาซิอา พระมะห์ดี หรือพระยาธรรมิกราช ที่เสด็จมาโปรดสัตว์ตามพุทธทำนาย ตามคำทำนายในพระคัมภีร์ไบเบิล หรือตามพระวัจนะในพระคัมภีร์กุรอ่านก็ได้

    " บรรยากาศ ท้องฟ้า แผ่นดินโลกจะมืดลง และถูกบดบังจนมืดครึ้ม แม้แต่คนไม่เชื่อศาสนา ยังพร่ำเรียกหาพระผู้เป็นเจ้ากับนักบุญ.... "
    ( ซ.9 ค.83 )


    คำทำนายของนอสตราดามุสข้างต้นนี้ คล้องจองกับพุทธทำนายที่บอกว่า ท้องฟ้าจะมืดเจ็ดวันเจ็ดคืน ครุฑจะบินกลับถิ่นสถาพร คนจรจะกลับกรุง ฟูกจะมีหนาม ผีป่าจะเข้าบ้าน ผีบ้านจะเข้าไพร....และในพระคัมภีร์ไบเบิลกับพระคัมภีร์อัลกุรอ่าน ทำนายว่าพระอาทิตย์จะมืดลง ดวงจันทร์จะหยุดส่องแสง ดวงดาวบนท้องฟ้าจะร่วงหล่น...ช่างเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งเลยทีเดียว.....

    ( คัดลอกมาจาก หนังสือนอสตราดามุส ฉบับเพิ่มเติมเกี่ยวกับศรัทธาใหม่ เขียนโดยศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน )

    ที่มา https://www.dek-d.com/board/view/1126589/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2018
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พระศรีอารย์เทศนา ๒๐ กัณฐ์

    63_20160201160710.jpg

    พระไตรปิฏกกัณฐ์ที่ ๓/๒๐ พระศรีอารย์ คือพระจักรพรรดิกึ่งพระศาสนานี้ อยู่บนใบลาน : พระศรีอารย์เทศนา ๒๐ กัณฐ์
    โดย :อจ.ธวัช เฟื่องประภัสสร์ ปธ.๙ สำนักวัดเบญจมบพิตร

    ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา : นายรวล รุ่งเรืองธรรม พ.ศ.๒๔๙๘ (สงวนลิขสิทธิ์) สำนัก พิมพ์ โรงพิมพ์อักษรเจริญทัศน์
    ๑๙๕ เสาชิงช้า ถ.บำรุงเมือง พระนคร กรุงเทพฯ


    พระศรีอารย์ กัณฐ์ที่๓
    มิตตกถา การคบเพื่อน


    สตฺ โถ ปสวโต มิตฺตํ มาตา มิตฺตํ สเก ฆเร
    สหาโย อตฺถชาตสฺส โหติ มิตฺตํ ปุนปฺปุนํ
    สยํ กตานิ ปุญฺญานิ ตํ มิตฺตํ สมฺปรายิกนฺติ


    บัดนี้ จะแสดงพระธรรมเทศนาเรื่องพระศรีอารย์ ต่อจากกัณฐ์ก่อน เพื่อเป็นเครื่องเจริญศรัทธาประดับปัญญาแห่งท่านทั้งหลาย ก็การที่ท่านมาประชุมกันฟังธรรมในวันนี้ ก็ได้ชื่อว่าได้กระทำคุณงามความดีหรือที่เรียกว่าบุญกุศล อันนับว่าเป็นเพื่อนที่ดี สามารถติดตามท่านไปในภพหน้า ...

    เมื่อชำระจิตของตนให้ ปราศจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งปวง เช่นนั้นแล้ว ย่อมมีจิตผ่องใสไม่ขุ่นมัว ดุจน้ำอันใสสะอาดปราศจากมลทินฉะนั้น เมื่อปฏิบัติและหยั่งทราบชัดลงเช่นนั้น จิตย่อมหลุดพ้นจากอาสวกิเลส เป็นสมุจเฉทประหาร บรรลุมรรคผลนิพพาน อันเป็นเอกันตบรมสุข โดยเหตุนี้ สีล สมาธิ ปัญญา จึงนับว่าเป็นข้อปฏิบัติส่วนปรมัตถปฏิปทา ด้วยประการฉะนี้.

    บัดนี้จะได้แสดงเรื่องพระศรีอารย์สืบต่อไป ดำเนินความว่า เมื่อมหายักษ์ได้สมาทานศีลอยู่ตราบเท่าอายุขัยแล้วก็กระทำกาลกิริยา ตายไปบังเกิดเป็นบุรุษคนหนึ่ง มีกำลังร่างกายแข็งแรง อาศัยอยู่ ณ เชิงเขาแห่งหนึ่ง หาเลี้ยงชีพด้วยการปลูกผักพืชพรรณต่างๆ เขาที่บุรุษอาศัยอยู่นั้นก็เป็นเขาลูกเดียวกันกับเขาที่สมเด็จพระพุทธองค์ เคยเสด็จไปสรงน้ำ และได้ทรงตากผ้าชุบสรงไว้ และได้มีฝูงลิงพากันมาถ่ายมูตรคูถ ทำให้เปรอะเปื้อนนั่นเอง .....

    อเถก ทิวสํ อยู่มากาละวันหนึ่ง บุรุษอริยเมตไตรยนั้นได้ออกมาตรวจตราดูไร่แตงโมของตนซึ่งกำลังมีผลดกอยู่เต็มไร่ ขณะที่ออกมายืนดูอยู่นั้นก็ได้เห็นฝูงลิงพากันมาลักแตงโมกินเป็นอาหาร บุรุษหนุ่มจึงวิ่งไล่กวดฝูงลิงเพื่อให้หนีไป

    บังเอิญ วันนั้น สมเด็จพระบรมศาสดามาถึงไร่แตงโมของบุรุษอริยเมตไตรย ประทับยืนอยู่ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง บุรุษหนุ่มได้วิ่งไล่ลิงไปถึงสถานที่ที่พระพุทธองค์ประทับยืนอยู่นั้น และได้เหยียบเอาพระฉายา เงาขององค์พระบรมศาสดาโดยมิทันได้สังเกต

    ครั้นบุรุษหนุ่มเหลียวไป เห็นพระพุทธองค์ก็เกิดมีความเลื่อมใสเป็นกำลัง ตรงเข้าไปถวายอภิวาทแล้วจึงนำแตงโมจากไร่ของตน ๗ ผลด้วยกัน น้อมนำเข้าไปถวายพระองค์ แต่ว่าแตงโมผลหนึ่งนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมีรอยหนูเจาะกัดกินเสียก่อน .....

    เมื่อพระพุทธเจ้าทรงรับผล แตงโมจากบุรุษหนุ่มอริยเมตไตรยแล้ว จึงได้ตรัสพยากรณ์ว่า ดูก่อนบุรุษ กุศลผลทานที่ท่านได้นำเอาแตงโม ๗ ผลมาถวายแก่ตถาคตนี้ จะเป็นปัจจัยให้ท่านได้บังเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชอันประเสริฐในระหว่าง กลางแห่งศาสนาของตถาคต และท่านจะได้ช่วยยกย่องศาสนาของตถาคตให้รุ่งเรืองสืบไป ก็แต่ว่า ผลกรรมที่ท่านได้เหยียบเงาของตถาคตนั้นก็ดี ผลกรรมที่ท่านนำแตงโมไม่บริสุทธิ์ มีรอยหนูเจาะมาถวายตถาคตนั้นก็ดี ผลกรรมนั้นจะส่งให้ท่านบังเกิดเป็นมนุษย์มีรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัว ที่ศีรษะของท่านจะมีรอยแผลเป็น ดุจรอยหนูเจาะแตงโม ครั้นต่อมา ท่านจึงจะกลับมีผิวพรรณผ่องใส มีร่างกายงามผุดผ่องดุจสีทอง

    เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสพยากรณ์จบลงแล้ว ฝ่ายบุรุษหนุ่มศรีอริยเมตไตรยก็ได้สมาทานศีล อำนวนทานจนตราบเท่าอายุขัย ครั้นสิ้นชีพแล้วก็ได้ไปบังเกิดเป็นโอรสของพระราชา มีพระนามว่า “อชิต กุมาร” เมื่อเจริญวัยก็ได้เล่าเรียนศิลปวิทยา แล้วได้ออกบรรพชาในสำนักของพระพุทธเจ้า ได้เรียนพระไตรปิฎกจนแตกฉานเชี่ยวชาญ และได้บำเพ็ญสมณธรรมอยู่จนตราบเท่าอายุขัย เมื่อแตกกายทำลายขันธ์แล้ว ได้จุติไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิตเทวพิภพ

    ในคัมภีร์อนาคตวงศ์ได้กล่าวไว้ว่า เมื่อใกล้ศาสนาของพระบรมศาสดาของเราจะเสื่อมโทรม พระศรีอารย์บรมโพธิสัตว์ จะได้จุติจากสวรรค์ลงมาเสวยพระชาติเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ ช่วยยกย่องพระศาสนาให้รุ่งเรืองสืบต่อไป

    ในพระคัมภีร์ได้กล่าวต่อไปว่า ในกาลเมื่อพระศรีอารย์จะได้จุติจากสวรรค์ลงมาเกิดเป็นสมเด็จพระเจ้า จักรพรรดิราชนั้น ท้าวเธอจะมาประทับอยู่ในปราสาทราชวังอันใหญ่โต ณ ปราสาทที่ท้าวเธอประทับอยู่นั้น จะมีเทวดา ๕ หมื่นองค์ มาคอยพิทักษ์รักษา นอกจากพวกเทวดาแล้ว ยังมียักษ์อีก ๕ หมื่นตน พร้อมทั้งพระยานาคและพระยาครุฑ รวมทั้งบริวารอีกมากมาย ต่างก็จะพากันมาเฝ้าปราสาท

    พระราชวัง ของพระศรีอารย์นั้น จะมีประตู ๘๐ ประตู แต่ละประตูจะมีฝูงเทพยดาและยักษ์คอยเฝ้าอยู่ทุกๆประตู ประชาชนที่จะผ่านเข้าประตูพระราชวังของท้าวเธอได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่ตั้งอยู่ในศีลธรรม ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ประพฤติแต่การสุจริต ส่วนผู้ที่ประพฤติทุจริตจะไม่สามารถผ่านเข้าไปภายในได้

    ในบริเวณปราสาทนั้นเล่า ก็จะสว่างไสวไปด้วยดวงประทีป รุ่งเรืองด้วยแสงแก้ว ๙ ประการ (พระจักรพรรดิองค์จริงที่มีชีวิตอยู่ขณะนี้ อาจจะแสดงความจริงได้) กลางคืนกับกลางวันนั้นก็จะแลดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ต่างกันแต่ว่าตอนกลางวันสว่างด้วยแสงอาทิตย์ ส่วนกลางคืนจะสว่างด้วยแสงจันทร์และแสงแก้วมณี เป็นที่น่าดูน่าชมยิ่งนัก .....

    รอบปราสาทของพระองค์ จะมีต้นกัลปพฤกษ์ ๑๖,๐๐๐ ต้น อาณาเขตของปราสาทนั้นจะกว้างขวางหลายโยชน์ จะเป็นที่อยู่ของประชาชนพลเมือง ซึ่งล้วนแต่มีจิตใจเป็นกุศลทั้งหมด บ้านเมืองจะร่มเย็นเป็นสุขด้วยประการฉะนี้

    12.อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและใน อนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า

    อานันทะ ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี (ก่อน พ.ศ. 2560)
    จะเกิดการณ์ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกจากอากาศ ไฟจะลงมาจากอากาศ จะเผาผลาญประชาชนให้พินาศ จะมีการล้มตายซึ่งกันและกันเป็นอันมาก

    ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคต ล่วงเลยไปก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี (ก่อน พ.ศ. 2560)
    สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้ รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ

    คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต
    จะรบราฆ่าฟันกันเอง ถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ ผู้ขวนขวายในกุศลตามวจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงใน พระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น แต่ว่า ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะถือว่าเป็นการณ์ร้ายแรงหาได้ไม่

    ทั้งนี้ก็เพราะว่าหลังกึ่งพุทธกาลไปแล้วนั้น
    อานันทะ ดูก่อนอานนท์ หลังกึ่งพุทธกาล (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป) จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมาก ๆ สมณะ ซี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย 2,500 ปี เป็นต้นไป (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป)

    ไฟจะรุกรามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ
    ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล

    โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ
    ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัท ไม่ต้องอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบ สอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศีลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใครเคารพยำเกรง

    พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ
    มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์
    ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง 5,000 พระวัสสา ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อยมาก

    คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท
    ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล 5 ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดดรู้จักพอไม่โป้ปดคตโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ว่าด้วยกึ่งพุทธกาล.609658/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2018
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กษัตริย์ใหม่จะถูกสถาปนา เป็นผู้นำสันติสุขมาสู่โลกมนุษย์เป็นเวลายาวนาน

    [​IMG]


    ตำนานละแวก

    ต้นฉบับตำนานละแวกนี้ เป็นของวัดศรีพิงค์เมือง (วัดศรีปิงเมือง) ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จำนวน ๑ ผูก ความยาว ๖๒ หน้า คัดลอกโดยมหาวันภิกขุ เมื่อพ.ศ. ๒๔๒๓ ตรงกับ จ.ศ.๑๒๔๒ ปีกดสะง้า เดือน ๑๒ แรม ๙ ค่ำ วัน ๓ สรุปใจความได้ดังนี้

    ในสมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่นั้น ทรงทำนายเหตุการณ์ในอนาคตไว้ที่เมืองละแวก เมื่อเสด็จมาถึงเมืองแห่งนี้ พญานาคได้มาอุปัฏฐาก จึงทำนายว่า สถานที่ดังกล่าวนี้จะเป็นที่ตั้งของพระพุทธศาสนา พระอานนท์จึงขอเอาพระเกศาธาตุบรรจุไว้ที่นี่ พระพุทธองค์ทรงมอบพระเกศาธาตุให้จำนวน ๕ เส้น จากนั้นพระอินทร์ พระพรหม ครุฑ นาค และพญาเจ้าเมืองละแวก จึงก่อเจดีย์ขึ้นเป็นจำนวน ๕ องค์ สำหรับเป็นเครื่องหมายของศาสนา ๕ พันปี

    ครั้นเมื่อพระพุทธองค์นิพพานไปแล้ว ๒๒ ปี พญาอโสกธัมมิกราชได้มาบูรณปฏิสังขรณ์เจดีย์ดังกล่าวให้เจริญรุ่งเรือง โดยก่อกำแพงแก้วรอบบริเวณพร้อมทั้งติดแผ่นทองจังโกทุกองค์เจดีย์ ส่วนเมืองละแวกแห่งนั้นมีบริเวณกว้าง ๓ พันวา ยาว ๒ พันวา กำแพงเมืองก่อด้วยหินหนา ๖ พันวา สูง ๔ พันวาคูเมืองลึก ๗ วา สำหรับบริเวณที่สร้างเจดีย์ ๕ องค์กว้าง ๓๐๐ วา ฐานเจดีย์องค์หนึ่งกว้าง ๑๔ วา สูง ๒๐ วา แต่ละเจดีย์มีซุ้มพระพุทธรูปทั้ง ๔ ด้าน เหมือนกันหมดทุกองค์

    เจดีย์ทั้ง ๕ องค์ดังกล่าวนี้ พระพุทธองค์ให้สร้างไว้เพื่อเป็นเครื่องหมายทางศาสนา หากเจดีย์จมพื้นดินลงไป ๑ องค์ เท่ากับศาสนาพ้นไปแล้ว ๑ พันปี จนกว่าจะครบ ๕ พันปี เจดีย์ทั้งหมดจึงจะหายไปในที่สุด เจดีย์ดังกล่าวนี้มีผู้อุปัฏฐากดูแลคือ ภิกษุ ๕๐๐ องค์ สามเณร ๕๐๐ รูป คฤหัสถ์ ๕๐๐ คน

    ในช่วงระยะเวลาระหว่างพุทธศาสนา ๕ พันปีนั้น จะมีพญาธัมมิกราชเกิดมาจำนวน ๕ องค์โดยมีช่วงเวลาครั้งละ ๑ พันปื สำหรับพญาธัมมิกราชองค์ที่ ๓ ที่จะเกิดมาในระหว่างพุทธศาสนาได้ ๓ พันปีนั้น(พ.ศ.2001-3000) จะเกิดมาในขณะที่บ้านเมืองเดือดร้อนวุ่นวาย ผู้คนไม่มีศีลธรรม เกิดมีการรบพุ่งฆ่าฟันกันไปทั่ว

    ก่อนที่จะมีพญาธัมมิกราชเกิดขึ้นนั้น ท้องฟ้าจะมืดมิดเป็นเวลา ๗ วัน ครั้นถึงวันที่ ๘ ท้องฟ้าจึงจะสว่างสดใส เทวบุตรจะนำเอาเครื่องสูง ๕ ประการมาทำพิธีราชาภิเษกโดยมีนางฟ้าและพระฤาษีมาร่วมพิธีด้วย รวมทั้งข้าทาสบาทบริจาริกา จำนวนหนึ่งหมื่นหกพันนางจากอุตรกุรุทวีป
    เมื่อเสร็จพิธีราชภิเษกแล้ว ปราสาท ๓ หลัง จะผุดขึ้นมาจากพื้นดิน แต่ละหลังทำด้วยทองคำ แก้วและเงิน พญาธัมมิกราชองค์นั้นได้เสวยราชสมบัติในเมืองฝาง ในราชสำนักจะมีบุรุษผู้ประเสริฐ จำนวน ๖ คน พญาธัมมิกราช จะขุดเอาข้าวของเงินทองจากพื้นดิน มาบูรณะบ้านเมืองและแจกจ่ายเป็นทานแก่คนทั่วไป หลังจากนั้นจึงได้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป

    (เรียบเรียงจาก ไพฑูรย์ ดอกบัวแก้ว)

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ว่าด้วยกึ่งพุทธกาล.609658/
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วิวรณ์บทที่ 21 เมืองใหม่ของพระศรีอารย์


    เผยแพร่เมื่อ 4 ม.ค. 2013
     
  9. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    ขอย้ำก่อนนะค่ะว่า สิ่งที่จะกล่าวดังต่อไปนี้ ไม่ใช่ความรู้จากตัว jityim เอง มันเป็นไปตามเหตุที่มันควรจะเป็นไปและ ตนเองเพียงทำไปตามหน้าที่เท่านั้น และเชื่อมั่นว่า"สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือจักรวาลโลก" มีจริง และขอยืนยันว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ความรู้นี้ได้มาจากหนังสือของ อ.ปริญญา ตันสกุล และบางส่วนได้มาเฉพาะหน้าตามเหตุของมันเท่านั้น เพื่อพิจารณากันค่ะ

    ภัยสงครามโลกครั้งที่สามจะไม่เกิดขึ้น สงครามอันเลวร้ายที่จะทำลายล้างเผ่าพันธ์มนุษย์และโลกจะไม่มีทางเกิดขึ้น วิกฤติรุนแรงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ มันจะไม่มีวันทำให้โลกแตกดับได้เช่นเดียวกัน

    การนับเวลาถอยหลังเข้าสู่ยุคนิวเอจ หรือ ยุคศิวิไลย์ ทุกอย่างเริ่มแสดงผ่านปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่ล้วนสัมผัสผ่านข่าวสารสื่อต่าง ๆ การนับเวลาถอยหลัง อย่างขึงขังและจริงจังด้วยความถี่และความรุนแรงในสถานที่เป้าหมายแต่ละทวีป การเปลี่ยนแปลงของโลกด้านภูมิอากาศที่มนุษย์จะรับรู้ด้วยตนเอง รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงพลังงานที่สูงขึ้นที่มนุษย์ไม่อาจรับรู้ได้ ก่อนที่จะถึงวันและเวลา คือเวลาบนมนุษย์โลกนับถอยหลัง มันไม่ใช่เหตุการณ์ทางธรรมชาติที่รุนแรงตามปกติ อากาศวิปริตแปรปรวน เพราะโลกเสียสมดุลทางพลังงาน และการรับพลังงานจากนอกโลกเข้ามายังระบบโลก จากระบบสุริยะ และ พลังงานจากดวงจันทร์ โลกจะเกิดภัยอย่างรุนแรงและถี่ขึ้น

    แก่นแท้ของทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นรูปธรรมทางพลังงานทั้งสิ้น ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในสถานที่ต่าง ๆ มันถูกกำหนดไว้แล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือจักรวาลโลกล้วนมีอยู่จริงไม่ใช่มายา ไม่ใช่สิ่งที่งมงายอย่างที่คิดกันเลย เรารู้กันแล้วจากอดีตยุคแอตแลนติคเป็นครั้งที่ ๓ และสิ่งที่จะเกืดนี้เป็นครั้งที่ ๔ ของการเปลี่ยนแปลงโลก ก่อให้เกิดการกระทำครั้งใหญ่ ธรรมชาติที่รุนแรงบนแผ่นดิน ว่า"หายนะ" เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อการสร้างใหม่ เพื่อการดำรงอยู่ สู่ระดับความสมดุลระบบใหม่ที่สูงกว่าเก่าที่เราเรียกกันว่า"ยุคศิวิไลย์" โดย น้ำหนักโดยมวลของโลกต้องลดลง อำนาจแม่เหล็กโลกต้องเพิ่มขึ้น โครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกจะต้องถูกเปลี่ยนแปลงใหม่ให้เหมาะสมกว่าเดิม และ แรงสั่นสะเทือนทางจิตสำนึกของคนในโลกโดยรวมต้องสูงขึ้น

    ขอย้ำว่า !! การเคลื่อนย้าย "แนวแกนแม่เหล็กโลก" ไม่ใช่ "แกนโลก" อย่างที่เข้าใจผิดมาตลอด ลองค้นคว้าในกูลเกิ้ลดูค่ะ ว่ามีความสำคัญต่อโลกและชีวิตมนุษย์ทุกคนในโลกอย่างไร? โดยผลลัพธ์ของการเคลื่อนย้ายแนวแกนแม่เหล็กโลก เพื่อเปลี่ยนระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลก มันย่อมก่อให้เกิดการเคลื่อนไหลของชั้นใต้ดินจากส่วนลึกสู่ชั้นเปลือกโลกอย่างรุนแรงแน่นอน เมื่อมันเกิดการเคลื่อนย้ายไปมากมายขนาดนี้ ภัยพิบัติจากการระเบิดภายในใจกลางโลก เพื่อให้แกนโลหะแม่เหล็กมันขยับตัวไปจากเดิม และภัยจากแผ่นดินสะเทือนมันจะไม่ได้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นี้ไม่ใช่ความงมงายแต่เป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้ และตนเองได้ไปค้นข้อมูลจากเน็ตแล้วว่า การขยับของที่ต้องใช้ระยะองศาที่ต้องการขณะนี้ ต้องใช้ะยะเวลาหลายหมื่นปี และข้อมูลในอดีตก็มาจากพลังงานนอกระบบโลก เช่น ดาวหางเป็นต้นค่ะ แต่ครั้งนี้มิใช่อย่างนั้น จากแรงสั่นสะเทือนของการระเบิดและการอัดกระแทกของพลังงานใจกลางโลก สู่ชั้นผิวดินที่รุนแรงกว่าปรากฏการณ์แผ่นดินไหวที่มนุษย์เคยเผชิญมันมาในอดีตซึ่งเคยเข้าใจว่ามันร้ายแรงสุด ๆมาแล้วมันยังนับว่าเบากว่าด้วยซ้ำ

    ภัยที่จากการเคลื่อนย้ายแนวแกนแม่เหล็กโลกครั้งนี้เกิดจากสถานที่ใดพอสังเขปคือ บริเวณขั้วโลกเหนือใต้จะปั่นป่วนที่สุด แผ่นดินรอบมหาสมุทรแอตแลนติค บริเวณรอยตามปริแยกของเปลือกโลก แผ่นดินที่ตั้งในทิศทาง 3-6 องศาไปยังทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเข็มทิศตามแนวเดิม ซึ่งอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรขึ้นไป และในแถบซีกโลกใต้ ในทิศทาง3-6 องศาไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้ตลอดแนว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราได้รับรู้ข่าวสารกันจากสื่อมาบ้างแล้ว

    ที่ผ่านมาการกระทำอย่างช้า ๆ กับแกนแม่เหล็กใจกลางโลก ที่เปรียบเหมือนเป็นไดนาโมของโลก ที่ก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ มนุษย์ไม่อาจจรับรู้ได้นอกจากต้องวัดด้วยเข็มทิศแม่เหล็กที่ทิศเหนือ มันจะค่อย ๆ เบนออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้นเรื่อย ๆ***** หลังจากเกิดภาวะวิฤติอย่างต่อเนื่องวันเวลาสุดท้ายจะเกิดพลังงานในระบบโลก และ นอกระบบโลกพร้อมกัน "หายนะ" หมายถึง ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงเพื่อการสร้างใหม่ ถ้าระบบใดเสียความสมดุลไปมาก ภัยพิบัติก็จะยิ่งรุนแรงมาก

    หน้าที่ของทุกคนบนโลก สร้างตนเอง สร้างสังคมให้เป็นหนึ่งเดียว และสร้างโลกรักษ์โลก ผู้ที่ใช้อำนาจทำลายอำนาจเพื่ออำนาจ ผู้ที่ใช้อำนาจทางวัตถุเทคโนโลยีทำลายชีวิตเพื่อชีวิตของตนเอง ผู้ที่ใช้อำนาจทางปัญญทำลายศรัทธา ชี้นำจิตวิญญาณและบงการให้อยู่ใต้อำนาจของพวกตน ผู้ที่ใช้โอกาสทำลายโอกาสผู้อื่นและเปิดโอกาสพวกของตน ทำลายความเป็นหนึ่งเดียวของสังคมโลก กระทำฝืนกฎธรรมชาติ พยายามทำตนอยู่เหนือธรรมชาติด้วยการเอาชนะธรรมชาติ ทั้ง ๆ ที่ธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งรวมทั้งตัวพวกเขาเอง เป็นเหตุสร้างความหายนะบนแผ่นดินของตนเองอีกด้วย

    ให้ทุกคนเร่งสร้างสติสร้างความดีงามภายในจิตใจของตนเองนับบัดนี้ที่จะเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกของตนเอง ขณะภัยร้ายกำลังคืบคลานเข้ามาหา จงรู้ว่าวันและเวลาที่จะเกิดภัยมันได้คืบคลานเข้ามาแล้ว มันไม่อาจจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงใด ๆ ได้อีกแล้ว(การต้องนำโลกเข้าไปสู่สิ่งที่ดีกว่า) ความมีสติและความกลัวตายอย่างมีสติที่จะช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2018
  10. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    เริ่มเห็นจากต่างประเทศแล้วนะครับแม่ชีจิตยิ้มพายุหิมะกับฝน
     
  11. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    ขอบคุณท่านทอนเงินและท่านไร้กรอบอีกด้วยค่ะ เมื่อเช้าได้ตอบกลับอีกกระทู้เตรียมรับมือกับภัยพิบัติและสงครามนิวเคลียร์ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์สื่อว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 จะไม่เกิดตามคำนายของนอสตราดามุสอีกต่อไปแล้ว เพราะภัยธรรมชาติจะเล่นงานพวกเขาจนไม่มีโอกาสได้ทำ เพราะเขาต้องดูแลจัดการบ้านตนเองก่อนเพราะภัยพิบัติทางธรรมชาติเล่นงาน พวกเขารู้หรือไม่ว่า อาวุธนิวเคลียร์ ขีปนาวุธ และอาวุธเชื้อโรค คือความร้ายแรงและเป็นภัยมหันต์ ศาตราวุธทันสมัยที่แต่ละรายได้สั่งสมกันไว้ หากกดปุ่มพร้อมกันมันสามารถทำลายโลกนี้ได้เพียงนาทีเดียว การคิดค้นและพัฒนาอาวุธเชื้อโรคขึ้นมาเป็นอาวุธชนิดใหม่ สร้างความเลวร้ายไม่แพ้ปรมาณู โดยเฉพาะในการคิดค้นอนุภาคเส้นแสง มันสามารถพัฒนามาเป็นอาวุธร้ายแรงในระดับจักรวาลเลยทีเดียว และมีประเทศมหาอำนาจบางประเทศทำได้แล้ว

    มีสิ่งหนึ่งที่เข้ามาแก่ใจว่า ..... ถ้าอย่างนั้นก็ค้านกับพุทธทำนายหรือไม่!! หลายคนอาจสงสัย!!

    พุทธทำนาย : คณะธรรมทูตไทย ผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศอินเดียเมื่อ พ.ศ. 2484
    ได้คัดลอกพระพุทธพจน์ทำนายจากศิลาจารึกเขตมหาวิหารในสวนมฤคทายวัน
    ผู้ที่เกี่ยวข้องกับพุทธทำนาย เมื่อ พ.ศ. 2540 มีท่านเจ้าคุณฯ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และผู้ใหญ่ระดับสูงหลายท่าน
    และอาจารย์ที่จุฬาฯได้จัดทำตามฉบับที่ไปคัดลอกมาจากประเทศอินเดีย



    สาธุ อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า
    ผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและใน อนาคต
    ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่
    ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า

    " ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของตถาคต ล่วงเลยไปถึง กึ่งพุทธกาล
    สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เกิดในยุคนั้น ...จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติ ทุกศาสนา
    ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย
    แผ่นดิน แผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ
    มนุษย์และสัตว์จะได้ รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ
    คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด... ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า ...อำมหิต
    จะรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ


    ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวาย ในกุศลตามวจนะของตถาคต...ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง
    บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงใน พระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา ...เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบาง...
    ...แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น....



    ....เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย 2,500 ปี เป็นต้นไป ไฟจะรุกรามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาด โลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่ ต้องอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบ สอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศีลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใครเคารพยำเกรง

    พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่ง ก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราช โพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง ๕,๐๐๐ พระวัสสา ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล ๕ ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษ รู้จักพอ ไม่โป้ปดคดโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคต ให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล"

    ไปค้นมาให้ค่ะ อ่านพิจารณาหลายรอบที่เน้นตัวอักษรไม่มีคำว่าสงครามโลก พระพุทธองค์ก็ตรัสถึงภัยธรรมชาติด้วยที่ทรงตรัสว่า


    "ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย
    แผ่นดิน แผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ
    มนุษย์และสัตว์จะได้ รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ
    คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด... ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า ...อำมหิต
    จะรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ "

    แผ่นดินแผ่นน้ำลุกเป็นไฟก็ด้วยภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ และก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ส่วนรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นฟ้า ที่หมายถึง"ศึกจะติดเมือง" สิ่งศักดิ์สื่อว่า หมายถึง ความขัดแย้งระหว่างประเทศมันก่อตัวขึ้นแทบทุกแห่งหนที่ชนชั้นผู้นำขาดความสมดุลทางจิตใจมีการต่อสู้รบพุ่งกัน กระทบกระทั่งกันมีให้เห็นที่โน่นที่นี่ไม่ว่างเว้นตลอดระยะเวลา 10 ปี จำนวนทหารและพลเรือนต้องจบชีวิตลงไม่น้อยกว่า 20 ล้านคนทั่วโลก เป็นตัวเลขที่น่าตกใจ เพราะความขัดแย้งของประเทศต่าง ๆ ขาดความเป็นหนึ่งเดียว เห็นอำนาจเปรียบดั่งของหวาน เอาชนะกันแม้จะแลกด้วยชีวิตเลือดเนื้อก็ตาม ศึกสงครามจะไม่มีวันสงบทั่วแผ่นดินได้ หากยังมีการคิดค้นมีการผลิตเพื่อขายกันอยู่ เหยื่อแห่งศึกสงครามแม้จะไม่ใช่สงครามโลก ก็จะยังคงมีในแผ่นดินตลอดไป


    ส่วนคำกล่าวที่ว่า "ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมือง"

    กล่าวถึงการทำศึกสงครามระหว่างเผ่าพันธ์มนุษย์ด้วยกัน มนุษย์กลับยกเอาศาสนาให้เป็นลัทธิ ผู้ไม่นับถือศาสนาของตนถือว่านอกรีต มีการแบ่งพรรคแบ่งเหล่ากันตามเชื้อชาติ ภูมิประเทศ ภาษาพูด ความเจริญทางด้านวัตถุ แม้กระทั้งสีผิว ทำให้คุณค่าความเป็นมนุษย์เหลื่อมล้ำกัน จนนำไปสู่ความขัดแย้งแย่งชิงอำนาจกันสู่ความมีอำนาจเหนืออำนาจสูงสุดต่อการเป็นเจ้าโลก ในที่สุดก่อความขัดแย้งรบราฆ่ากันทั้งในชนชาติเดียวกัน ไปจนถึงระหว่างประเทศ ฆ่าผลาญชีวิตกันด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่คิดค้นกันจนมีพลังอำนาจทำลายล้างที่น่ากลัว นำเอาพิษภัยที่ตนล่วงรู้ไปไว้ตำแหน่งอื่นที่ห่างไกลจากพวกตน ด้วยความร่วมือของคนใจมืดบอด ผู้ที่เป็นทาสทางวิญญาณในชนชาติเพียงไม่กี่คน พวกเขาทำอะไรอยู่ ทุกตำแหน่งพิกัดที่ตั้งสถานที่เพาะเชื้อในดินแดนชนชาติอื่นที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ โดยที่เจ้าของแผ่นดินไม่ล่วงรู้ มันมิได้เป็นความลับอย่างที่เข้าใจเลย จงรับรู้ไว้ด้วยว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ล้วนมีจริง กฎแห่งกรรมล้วนมีจริง หากทำขึ้นมาสำเร็จเมื่อไหร่ ลำพังสติปัญญาของตนจะไม่มีวันควบคุมการเติบโตแพร่ขยายของพวกมันได้เลย ถึงวันนั้นมันจะกระจายไปทั้วทั้งโลกและไกลออกไป สร้างพิษภัยที่รุนแรงแม้ตัวต้นคิด ก็ยากที่จะเอาตัวรอดไปจากเชื้อโรคร้ายนี้ได้ จักรวาลจะปิดมิตินี้ด้วยความรักแท้จริงต่อมวลมนุษยชาติ ภายในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ หากไม่รีบเปลี่ยนจิตสำนึกใหม่ให้ถูกต้องในทันทีที่ได้รับรู้นี้ สื่อจากสิ่งศักดิ์บอกไว้ตามที่กล่าวแต่แรกค่ะ

    มนุษย์เชื่อหรือไม่ว่า สถานการณ์โลก อำนาจเงิน ผลประโยชน์ ความบ้าคลั่งทางปัญญาอุตสาหกรรมหนัก คือ ตัวก่อมลภาวะทั้งทางน้ำของมนุษย์ ซึ่งปัจจุบัน เป็นปัญหาระบบนิเวศน์ มลพิษเพราะกากสารเคมีนานาชนิดและกากปรมาณูนิวเคลียร์ ในขณะนี้ปัญหามลภาวะมันหนักหนาจนสุดเยียวยา มหันตภัยกำลังคืบคลานสู่มวลมนุษยชาติแล้ว จงเตรียมตัวกันให้ดี

    เท่าที่ได้นำมาลงไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ ติดตามข่าวสารทั่วโลกแล้วเกิดขึ้นแทบจะทั้งนั้น แล้วอย่างนี้เราควรจะเพิกเฉยอยู่อีกหรือไม่ ลองพิจารณาค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2018
  12. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    น้ำมาแล้วครับฝนตกกรุงเทพพัทยา
     
  13. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    เคยได้ยินชื่อเธอไหม!!!

    มาเธอร์ ซิปตัน....

    เปิดคำทำนายอนาคตของโลก จาก มาเธอร์ ซิปตัน ที่ทำนายไว้เมื่อ 500 ปีก่อน


    ลองเปิดดูค่ะ ถ้าใครยังไม่เคยอ่าน ได้บอกปริศนาอะไรบางอย่างไว้ในอนาคตที่จะถึงนี้ ....


    http://www.wtfintheworld.com/2017/06/21/ursula-sontheil/

     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิทาน ริบูนิ ของคุณ Nopp

    planet_nibiru_2012_by_lus7kun.png

    เดอะวันนั่งกุมขมับอยู่ จนกระทั่งใกล้เวลาที่ดาวบิรูนิ จะมาถึงวงโคจรชั้นในของระบบสุริยะ (ประมาณ ค.ศ. 2015) ท่านได้คำนวณดูแล้วว่าเที่ยวนี้คงจะเหลือแค่โนอาห์กระมัง ท่านจึงเตรียมการคัดเลือกโนอาร์ ไว้สำหรับสืบเผ่าพันธุ์มนุษย์

    ในประเทศไทยนี้ก็ได้คัดเลือกสถานที่และคณะบุคคล ไว้รองรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนในต่างประเทศก็เช่นเดียวกัน ได้มีการจัดเตรียมโนอาร์ไว้รองรับในแต่เขตแต่ละโซนไป และแล้วจู่ๆ ท่านก็ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงแผนงานเดิมที่เคยมีมากับโลก ครั้งนี้เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญมาก และจะเปลี่ยนแปลงดาวเคราะห์โลกนี้ไปอย่างสิ้นเชิง

    แผนงานของท่านมีดังนี้

    1.เข้ายึดระบบบิรูนิทั้งหมด และเลื่อนเวลาโคจรของบิรูนิออกไปก่อนสองถึงสามปี ซึ่งงานนี้ก็เป็นงานหินพอสมควร ต้องใช้กองกำลังของหลายๆฝ่ายในเครือจักรภพแห่งสมาพันธ์จักรวาลเข้ามาช่วย

    ถ้าท่านสังเกตดูภาพถ่ายของดาวในระบบ จะเห็นว่าเป็นดาวทึบๆ แต่มีแสงสว่างเกาะเป็นจุดๆ นี่ก็คือการใช้ยานหลายๆ ลำเข้าควบคุมวงโคจรของดาวแต่ละดวงในระบบ ซึ่งทั้งระบบมีดาวอยู่ 7 ดวง บางดวงก็ใหญ่กว่าโลกหลายเท่า งานนี้ถูกปิดเป็นความลับขั้นสูงสุด จะให้ใครรู้ไม่ได้เลย เพราะต้องการลวงกลุ่มผู้ยึดครองโลกอยู่ตอนนี้ ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของมนุษยชาติ และเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับท่านให้หลงทาง

    นี่คือเหตุผลที่การทำนายเรื่องบิรูนิ และการล่มสลายของโลกจึงผิดพลาดไป และทำให้หลายๆท่านต้องเสียหน้าและเสียท่า ถูกโจมตีอย่างหนักสร้างความปวดร้าวและสั่นคลอนศรัทธา ให้กับผู้หวังดีต่อมนุษยชาติไปหลายท่านเหมือนกัน เดอะวันก็คงได้แต่ขอโทษลูกหลานอยู่ในใจ ความลับนี้ไม่อาจแพร่งพรายได้จริงๆ เพราะนี่พอจะเป็นแต้มต่อให้เดอะวันสามารถเผด็จศึกลูกหลานฝั่งตะวันตก ที่กลายเป็นเครื่องมือมาร หรือกลายเป็นมารตัวพ่อตัวแม่ออกทำลายล้างพี่น้องร่วมโลกอยู่ในทุกวันนี้

    แต้มต่อตัวนี้ยังประโยชน์กับเดอะวันในการต่อกรกับพวกนี้ ในเวลานี้พวกเขาระส่ำระส่ายและจับต้นชนปลายไม่ถูก ดูๆไปก็คงไม่ต่างจากอดีตผู้นำชาติท่านหนึ่ง ที่ได้รับรายงานผิดพลาดจากเหล่าบริวาร และโดนลับลวงพรางจากนายทหารเอกของเมืองสุวรรณภูมิไปหมาดๆ นี้แหละ เอาซะเสียศูนย์ไปเลย

    2.การคัดแยกมนุษย์ออกจากกันโดยสิ้นเชิง ด้วยการจัดหาดาวอีกสองดวงให้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของระบบสุริยะ เพื่อใช้เป็นที่อยู่ของมนุษย์ ที่เราจะใช้คำเรียกเข้าใจง่ายๆ ก็คือพวกบัวใต้น้ำกับบัวกลางน้ำ

    พวกบัวใต้น้ำจะถูกนำไปอยู่บนดาวดวงใหม่ ที่มีความคล้ายคลึงกับโลกด้านกายภาพ แต่ด้อยในเรื่องของพัฒนาการและความเป็นอยู่ เหมือนกับให้พวกเขาเหล่านี้เจริญเติบโต และเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมของโลกยุคสามพันปีที่แล้ว คือต้องลำบากและต้องมีการรบราฆ่าฟันกัน ซึ่งก็คงจะเหมาะสมกับมนุษย์หลายๆ คนที่เราต่างรู้จักอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ พวกที่มีความโหดร้ายก็คงต้องให้ไปอยู่ในที่เขาชอบและเอาไปไว้ด้วยกัน

    พวกบัวกลางน้ำจะถูกนำไปอยู่บนดาวดวงใหม่ที่มีความคล้ายคลึงกันกับโลกด้านกายภาพ และมีพัฒนาการที่ถอยหลังไปเพียงสามร้อยปี คือไม่สบายมากแต่ก็ไม่ลำบากมาก และก็ให้ไปเรียนรู้อยู่ด้วยกันกับกลุ่มคนที่นิสัยใจคอคล้ายๆกัน ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนชุดนี้น่าจะเป็นพวกที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม

    ถ้าติดตามข่าวก็จะทราบว่า มีการค้นพบดาวที่ลักษณะคล้ายโลกอยู่ใกล้ๆ หลายดวง และล่าสุดที่มีการกล่าวถึงมากก็คือดาวที่มีชื่อว่าเซเรสที่แปลเป็นไทยว่าแม่โพสพนั่นเอง หรือบอกให้ละเอียดไปเลยก็ได้ว่า งานนี้พระแม่โพสพอาสามาทำหน้าที่เป็นดาวเคราะห์ ให้มนุษย์ได้อยู่อาศัยเพาะปลูกทำการกสิกรรมและพัฒนาจิตวิญญาณต่อไป

    3.ทำการปรับแต่งดาวเคราะห์ในปัจจุบัน ให้มีการสั่นสะเทือนของระดับพลังงานที่สูงขึ้น เพื่อรองรับจิตวิญญาณของมนุษย์ที่ถูกเลือก ให้ดำรงอยู่ต่อไปบนโลกใบนี้ ซึ่งจะเป็นการสั่นสะเทือนในระดับที่สูงมาก เหมาะกับคนที่มีจิตใจคิดถึงผู้อื่นหรือส่วนรวมมาก่อน พูดง่ายๆก็คือโลกจะได้รับการชำระล้างใหม่ ผ่านการเข้ามาของระบบบิรูนิ และรอดจากการถูกทำลายโดยแรงดึงดูด และสะเก็ดอุกาบาตส่วนหางของบิรูนิตอนเคลื่อนห่างออกไปจากโลก

    วิธีการที่จะทำให้โลกรอดก็คือ

    3.1 เก็บขยะมนุษย์ออกไปก่อน ค่อยๆทยอยลดจำนวนมนุษย์ลง ด้วยการเปิดมิติและให้พลังงานที่บันทึกกรรมได้ปลดปล่อยกรรม ให้เจ้ากรรมนายเวรได้มาคิดบัญชีกรรมและจบลงด้วยการเสียชีวิตทั้งเดี่ยวๆและตายหมู่ครั้งละมากๆ ที่เหลือก็คือ จิตวิญญาณที่จะถูกนำไปไว้ที่โลกใบใหม่ที่เหมาะสม จะเห็นได้ว่าปฏิบัติการนี้ได้เกิดขึ้นมาโดยตลอด และจะยิ่งทวีความรุนแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะครบตามจำนวนที่จะต้องถูกย้ายไป เท่าที่ทราบตอนนี้โลกใบใหม่ที่ว่านี้ ก็ได้มีคนอยู่กันสำราญดีและก็กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา

    ท่านฝากประกาศหาอาสาสมัคร ไปช่วยพัฒนาโลกใบที่ว่านี้ด้วยค่ะ ใครสนใจก็จะถูกรับตัวไปอยู่ที่นั่นและท่านก็จะไปเป็นพวกอัฉริยะเป็นผู้นำชุมชน (เพราะท่านก้าวหน้ากว่าคนที่นั่นไปสามร้อยปีไงคะ หรือจะเอาแบบสามพันปีก็ได้นะคริคริ) ในการตายหมู่บางครั้งก็มีการพลาดพลั้ง ได้ดวงจิตที่ดีงามติดไปด้วย ท่านที่มีญาติที่ท่านคิดว่าเขาเหมาะสมกับโลกใบนี้ ก็จงอย่าได้วิตกกังวล เพราะเขาเหล่านั้นจะได้รับโอกาสให้มาเกิดใหม่อีกครั้ง ในทันทีบนโลกใบเดิมนี้แหละ

    3.2 ปรับแต่งพลังงานของโลก ด้วยการปฏิวัติระบบเส้นแรงแม่เหล็กไปเป็นระบบแก้วผลึกคริสตัล เรื่องนี้จะดูซับซ้อนแต่จะไม่ขอลงไปในรายละเอียด เพราะได้ลงโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปเยอะแล้วในเฟสบุ๊คนี้ เอาเป็นว่าอีกไม่นานเส้นแรงแม่เหล็กโลกจะหมดไปเลย และจะมีโครงข่ายคริสตัลมาปกป้องโลกแทน จะมีการเปิดรหัสแก้วผลึกสีเงินยวงที่อยู่ในใต้พื้นผิวโลก ให้มาทำปฏิกิริยากับเส้นแสงพลังงานสีทองที่ขอบฟ้า เราจะได้เห็นเส้นขอบฟ้าสีใหม่ในอีกไม่ช้านี้

    3.3 การสร้างแกนโลกใหม่ เพื่อแก้ไขมิให้แกนโลกเอียงตามระบบบิรูนิในช่วงขาออกจากระบบสุริยะ โดยทางเดอะวันได้มอบหมายให้ปู่อินทร์ตาทิพย์แหงเขาภูตำแย เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการสร้าง

    รายละเอียดจะลงให้ในตอนต่อไปค่ะ

    สงสัยนิยายเราต้องขายดีแน่
    ก่อนหน้านี้มีการเจอแสงเป็นดวงๆที่ดาวเซเรส/ดาวพระแม่โพสพ
    คิดว่าเป็นยานยูเอฟโอ ตอนนี้สงสัยว่าจะมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ที่นั่นด้วย
    และมีมนุษย์ต่างดาวตัวเขียวๆด้วยล่ะ
    (ท่านเหล่านี้มาเยี่ยมพวกเรากันอยู่บ่อยๆ ภูมิธรรมสูงมาก
    น่าจะไปเยี่ยมสำนักสงฆ์ที่ถ่ายภาพทะลุมิติได้เช่นกันค่ะ
    ชอบทานขนมกรุปกรอบซะด้วย อิอิ)

    แน่นอน ก็นิยายของเราบอกหมดแล้วนี่นาว่า
    คนที่เราไม่คบด้วย ตอนนี้เริ่มทยอยกันย้ายไปอยู่ที่นี่กันเรื่อยๆ
    ปู่อินทร์บอกว่าจะเก็บกวาดไปให้หมด น่าจะอีก 2-3 ปี
    ใครอยากไปเร็วๆก็รีบแสดงตัวออกมาในหน้าเฟซนี้ก็ได้
    ฝ่ายเก็บกวาด ท่านเข้ามาอ่านและตรวจจากในนี้ด้วย

    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/nithan-ni-buru-khun-nopp/bi-ru-ni-txn-thi-5
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2018
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิทาน ริบูนิ ของคุณ Nopp
    ตอนที่ 1

    วันนี้จะเล่านิทานเรื่องเดอะบิรูนิให้ฟังค่ะ สวัสดีพ่อแม่พี่น้องที่รักทั้งหลาย บัดนี้เราจะเห็นได้ว่ามีผู้มาเยือนจากฟากฟ้าที่แสนไกล มากันเป็นหมู่คณะ ทั้งนั่งวิมานมา ทั้งนั่งยานบินมา มากันเป็นกองทัพใหญ่มีการควบคุมดวงดาวชุดที่มาด้วยกัน 7 ดวง อย่างเป็นระบบ ปรากฏอยู่เหนือน่านฟ้าของประเทศสุวรรณภูมิของเรา

    เป้าหมายก็คือมาช่วยปลดปล่อยพวกเรา ให้พ้นจากความเป็นทาส เราทั้งหลายถูกนำเข้าสู่ระบบทาสโดยไม่รู้ตัวมานานหลายร้อยปีแล้ว ท่านทั้งหลายไม่ต้องหวาดวิตกกันจนเกินเหตุเกินผล อันจะนำไปสู่ความเป็นทาสอีกชั้น เพราะความกลัวจะทำให้ท่านหมดอิสระภาพ ที่ผ่านมาได้มีการนำเสนอข้อมูลเพียงพอแล้วว่า "แขกของพวกเราได้เดินทางมาถึงวงโคจรของระบบสุริยะของเราเรียบร้อยแล้ว ตามคำเรียกร้องของพวกเรานะแหละ"

    ระบบบิรูนิที่เข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก ว่าตอนนี้ได้มาถึงที่หมายแล้ว คืออยู่ใกล้เรานี้แหละและก็เริ่มมีคนเห็นกันแล้ว จากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น ก็ไม่มีอะไรมาก ไม่มีอะไรน้อย แค่พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน พลิกจักรวาล เท่านั้นเองค่ะ นานมาแล้วโลกของเรามีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปของสรรพสิ่ง และก็มีการหมุนเวียนกันแบบนี้มาชั่วกัปชั่วกัลป์ ถอยหลังไปแค่สามหมื่นปีก็พอนะคะ

    มีสงครามเกิดขึ้นซึ่งสงครามที่ว่านี้ ก็กลายมาเป็นตำนานเช่นมหาภารตะยุทธ์และรามเกียรติ์ ตัวตนและจิตวิญญาณของผู้ที่มาอยู่ก่อนนั้นก็ยังดำรงอยู่ในทุกๆครั้งที่จิตของเราส่งไปหา แม้กระทั่งการดำรงอยู่ของบรรพบุรุษของเราทุกพระองค์ เราคิดถึงท่าน ท่านก็ปรากฏ ท่านมีอยู่หรือดำรงอยู่ก็เพราะจิตเราทำให้มี (เราไม่คิดท่านก็ไม่อยู่) ในสงครามครั้งนั้นได้มีการทิ้งบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าพญามารหรือลูกหลานของอนูนากิ เพื่อใช้เป็นบทเรียนให้เราสามารถพัฒนาจิต และทำให้พลังงานที่ห่อหุ้มจิตของเรา สามารถยกระดับการสั่นสะเทือนพลังงานให้ขึ้นสู่มิติที่สูงขึ้น

    แต่ปรากฏว่าเราพ่ายแพ้ให้กับพลังงานด้านต่ำ มุ่งเข้าสู่วัตถุนิยมที่เป็นของมารใช้มาล่อให้เราติดกับ และการสั่นสะเทือนระดับพลังงานของพวกเราทุกคนนั่นมีค่าเฉลี่ยที่ต่ำลงตามความต้องการด้านวัตถุ ผู้มาก่อนหรือบรรพบุรุษหรือเทพเทวดาหรือชาวต่างดาวก็เป็นห่วงมาก ได้คัดผู้อาสาให้มาช่วย ในช่วงสองสามพันปีนี้ มีผู้อาสามาเกิดเพื่อช่วยยกพวกเราขึ้นในด้านจิตวิญญาณ สามท่าน แต่เท่าที่ทราบคือผลงานที่ได้น้อยมาก มีการเปลี่ยนแปลงคำสอนของท่าน และมีมารตั้งตัวเป็นศาสดาอีกมากมาย ทำให้โลกเข้าสู่ความเสี่ยงที่จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป พูดง่ายๆก็คือพังพินาศนั่นเอง

    ที่พังก็เพราะจะมีระบบดาวบิรูนิเคลื่อนเข้ามาใกล้ทุกๆ 3,600 ปี ระบบนี้คือที่อยู่ของหัวหน้าสูงสุดพญามาร ที่ถูกไล่ต้อนออกไปจากโลก เมื่อครั้งกระโน้นนะแหละ พวกเขาจะได้รับโอกาสวนกลับเข้ามาใกล้โลกและหาทางลงจอดด้วยยานขนาดเล็ก พวกเขาได้ทิ้งลูกหลานของเขาไว้ที่นี่ให้มาต่อกรกับพวกเรา และมีความหวังว่าจะช่วงชิงโลกกลับคืนไปเป็นของพวกเขาได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพวกเขาก็กำลังควบคุมพวกเราไว้ได้หมดในนามกลุ่มอิลูมินาติและฯลฯอย่างที่รู้ๆ กัน แต่ทว่าในระดับการสั่นสะเทือนที่เป็นอยู่ โลกมีสิทธิถูกอุกาบาตชนเอาแน่ๆ ภายในปีนี้แหละ

    จึงเป็นที่มาของเรื่องราวที่จะบอกให้ท่านได้ทราบต่อไป เนื่องจากการเกิดขึ้นของมนุษย์และสรรพชีวิตนี้ มีผู้มาทำให้เกิด มีการตัดแต่งพันธุ์และมีการขยายพันธุ์ เราจะเรียกว่าพระผู้สร้าง สิ่งที่พิสูจน์ก็น่าจะเป็นดีเอ็นเอที่บรรจุข้อมูลไว้ในนั้นอีกมากมาย ท่านผู้นี้คือต้นกำเนิดของทุกสรรพชีวิตซึ่งในนิทานนี้ จะเรียกท่านว่าเดอะวันก็แล้วกัน จะได้ไม่ไปกระเทือนคนอื่นๆเขา เดอะวันมาเริ่มสร้างชีวิตไว้กับพระแม่ธรณีไกอา ด้วยการมาเองหนึ่งดวงจิตและสร้างตัวตนอีกตัวหนึ่งเพิ่มขึ้นมา

    จากสองดวงจิตก็ได้ผลิตจิตวิญญาณรุ่นถัดมาอีก 12 แล้วคูณ 3 เข้าไปเป็นอีกสามรุ่น เพื่อให้มีต้นแบบอยู่ 36 กระจายอยู่ไปทั่วโลก ในช่วงเวลาต่างๆกัน ในยุคที่พวกเราอยู่นี้ก็ให้มีที่เป็นที่รู้จัก และสามารถสื่อสารถึงได้เช่น ทางเราก็อาจจะรู้จักในนามพระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์ พระแม่อุมาเทวี พระพิฆเนศวร ฯลฯ ส่วนทางโลกตะวันตกเขาก็มีชื่อเป็นฝรั่งเท่ห์หลายๆชื่ออยู่ เช่นซุส โพไซดอน ฮาเดส และมหาเทพทั้งหลาย

    จากนั้นก็ยังได้มีจิตวิญญาณที่อาสามาเกิดมาบำเพ็ญมาเรียนรู้จนสำเร็จสัมฤทธิ์ผลตั้งตนเป็นศาสดา ที่เป็นที่รู้จักและยอมรับอยู่สามท่านคือพระพุทธเจ้า พระเยซู และท่านมูหะหมัด แต่ก็สู้กับกลุ่มมาร ที่ใช้วัตถุมาส่งเสริมกิเลสตัณหาของมนุษย์ไม่ไหว เราเองก็ต้องยอมรับว่าเราคือพวกที่ติดกับดักวัตถุนิยมและทำงานทุกวันเพื่อให้ได้มาซึ่งกินกามและเกียรติ

    ดังนั้นทุกอย่างดำเนินไปถึงจุดที่ไปต่อไม่ได้ ผลกระทบจากการบริโภคกำลังนำเราไปสู่จุดจบ ทางเดอะวันและพระแม่ไกอา ก็ต้องร้อนใจที่ผลงานที่วางไว้กำลังพ่ายแพ้จนจะหมดรูปอยู่แล้ว จิตวิญญาณต้นธาตุทั้งหลายก็เป็นห่วงเป็นใยผู้สืบเชื้อสายดีเอ็นเอของท่าน จึงได้เหาะลงมาควานหาลูกหลาน หรือผู้ที่ถือขวัญของท่านลงมาเกิด มาชักนำให้เข้าสู่ทางธรรมด้วยการใช้วิธีแทรกพลังงานบ้าง ให้เป็นร่างทรงบ้าง แต่ท้ายสุดก็รู้ว่าจะแพ้พลังพญามารอยู่ดี เพราะโดนกิเลสกินเรียบ สำคัญตนผิด กลายเป็นที่หากินของฝ่ายต่ำไปก็มี

    ส่วนที่ไปได้ดี ก็ไม่วายโดนโจมตีจากคนที่ไม่รู้จริง และชอบตำหนิในสิ่งที่ไม่ถูกใจตนเอง กล่าวหาต่างๆนาๆ ทำให้เผยแพร่บุญกุศลได้ยาก อย่างกลุ่มรับพระและอนุตตรธรรม นี้ก็เป็นผลงานของเดอะวันกับพระแม่ไกอา
    ซึ่งก็ได้ช่วยกลุ่มประเทศ ที่เขาต้องการผู้นำด้านจิตวิญญาณไปได้ในระดับหนึ่ง และนำมาเผยแพร่ยังดินแดนชาวพุทธเช่นสยามประเทศ และก็มีการโจมตีกันไปมากับผู้ที่ไม่รู้จัก ไม่ทำความเข้าใจ ตำหนิติเตียนต่างๆนานาก็มี

    จากนั้นก็มีการสื่อสัญญาณมายังโลก ให้ข้อมูลไปกระทบกับจิตของผู้ที่มีความสามารถพิเศษที่จะรับคลื่นนี้ได้ และให้ถอดความมาเป็นภาษาของคนในประเทศนั้นๆ เพื่อสื่อสารให้ชาวโลกได้ทราบ ว่าจะมีการช่วยเหลือจากเดอะวันและคณะ ซึ่งก็ได้มีการนำเสนอในหลากหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วย ซึ่งผลก็เป็นอย่างที่เห็น คือได้ผลน้อยมากกับที่ควรจะได้ ในเมื่อมนุษย์ทั้งหลายต่างตกอยู่ในการครอบงำของกิเลสไปหมดแล้ว มีแต่เรื่องของผลประโยชน์ทางด้านวัตถุมาเกี่ยวข้อง

    หากไม่ต้องการทางวัตถุ ก็ยังต้องการชื่อเสียงต้องการการยอมรับ อีกฝ่ายก็ต้องการไม่ให้ใครมาเหนือกว่า พวกคนพุทธก็ว่าอย่าไปเชื่อเพราะไม่มีเขียนไว้ในพระไตรปิฎก พวกคนพุทธนี่แหละตัวดีนักเรื่องตำหนิติเตียนผู้อื่นโดยเฉพาะสายเทพโดนเยอะ ยกเว้นนะ ยกเว้นคือพระเกจิที่ดังและไม่ดัง ท่านพวกนี้สามารถพูดถึงเทพถึงองค์ได้และไม่โดนโจมตี ก็แปลกไปอีกแบบ

    สู้พวกอนูนากิไม่ได้ ติดตั้งยานบินไว้ในวัดๆ หนึ่งแล้วชวนคนมานับถือพุทธ ได้ผลแฮะ ทั้งเงินทั้งคนไหลมาเทมาอย่างที่เห็นและก็ยังไปได้สวยได้สาวกมากมาย แล้วยังไงต่อล่ะชักหนักใจแทนเดอะวันซะแล้วสิ "เดอะวัน" มีนิวาสถานอยู่ที่กลุ่มดาวลูกไก่ (ดาวเจ็ดพี่น้อง) หรือพลียะดีส รู้สึกเป็นห่วงพระแม่ไกอา(ซึ่งก็คือดาวดวงที่แปดในกลุ่มดาวเจ็ดพี่น้อง ที่อาสามาก่อกำเนิดมนุษยชาติกับร่วมกับเดอะวันในหลายล้านปีมาแล้ว) ว่าจะถึงคราวพินาศเป็นแน่แท้ แล้วยังมีลูกหลานของท่านทั้งสองอีกเจ็ดพันล้านชีวิตที่จะพลอยสิ้นชีพไปตามๆกัน

    จะเหลือเพียงวิญญาณลอยละล่องไปมา กระจองอแง โหยหวนเป็นเปรตเป็นผีวิ่งหาร่างตนเองและคนที่ตนรักและผูกพัน ท่านคงนึกภาพซึนามิที่ภาคใต้ออกนะนั่นแค่ห้าพันศพ วิญญาณยังวนเวียนอยู่ที่นั่นก็มีให้เห็นอยู่ ท่านจึงได้ประชุมร่วมกันกับหลากหลายชาวดาวว่า "ตูข้านี้หมดปัญญาแล้ว ไม่ว่าจะส่งผู้สั่งสอนไปกี่คนก็ตาม ไม่เห็นกลับมาหาตูได้เลย ส่งไปเท่าไหร่ก็หายจ้อย

    เห็นทีจะพินาศครานี้แล แล้วหากโลกแหลกลานลงไป ก็หาได้หมดภาระดูแลไม่ เนื่องจากวิญญาณหรือดวงจิตมิได้สูญหายตามโลกไป จำเป็นต้องหาที่อยู่ใหม่ให้กับดวงจิตพวกนี้อยู่ดี แถมเป็นจิตที่ด้อยคุณภาพมาก เพราะจะเป็นดวงจิตที่เต็มไปด้วยความทุกข์ พลังสั่นสะเทือนต่ำ จะยิ่งทำให้ดูแลสั่งสอนยากขึ้นไปอีกกว่าเดิม และถ้าโลกไม่แหลกเป็นจุล ยังพอใช้งานได้ ก็จะพลาดท่าเสียทีให้กับพวกอิลูมิเนติ ลูกหลานอนูนากิเป็นแน่แท้

    ทีนี้ลูกหลานของพลียะเดี้ยน ต้องตกเป็นทาสอย่างไม่มีวันได้ผุดได้เกิดและคงจะลำบากกันมากๆ ก็หนีไม่พ้นต้องมาช่วยอีก และหากจะต้องมาช่วงชิงเอาโลกคืน งานอาจจะหนักกว่าสงครามเทพอสูรครั้งที่ผ่านมา" ความคิดเห็นในที่ประชุมสรุปออกมาได้ว่า ทางชาวดาวจากหลากหลายแกแลกซี่ยินดีที่จะเข้าร่วมงานช่วยรักษาโลกใบนี้เอาไว้ และจะจัดการกับพวกอิลูมินาติอย่างเด็ดขาด โดยจะกระทำการอย่างสันติวิธีก่อน

    นับตั้งแต่การปลดอาวุธนิวเคลียร์ ด้วยการส่งรหัสสัญญาณรบกวนการทำงานทำให้อาวุธเหล่านี้ใช้การไม่ได้ ทำการกวาดล้างพวกอสูรและซาตานที่แอบแฝงอยู่ในพื้นที่ใต้ดินของประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนทีมงานของเดอะวัน จะเข้าทำการยึดระบบบิรูนิทั้งหมด และใช้ยานอวกาศขนาดใหญ่เข้าควบคุมดาวดวงใหญ่ ส่วนดาวดวงเล็กอีกหกดวงนั้น ก็จะใช้กองกำลังยานขนาดย่อมเข้าเกาะติดกับดาวเหล่านี้ คุมการเคลื่อนที่ทุกขณะ

    หลายท่านยังคงจำเรื่องเอลลินินได้ นั่นคือความขี้เล่นของเดอะวันที่ยึดดาวดวงเล็กได้แล้วก็เอามาโฉบไปมา และแล้วการยึดระบบบิรูนิได้สำเร็จลงอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อกลางปี 2012 นี่คือเหตุผลที่ภัยพิบัติที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการเข้ามาทำการโคจรใกล้โลกของระบบบิรูนิมิได้เกิดขึ้น ซึ่งทางเดอะวันมิได้ยกเลิกทั้งหมด ท่านเพียงแต่บอกว่าจะขอเลื่อนออกไปอีก 2-3 ปี เพื่อให้มีเวลาปรับแต่งพลังงานของโลกเสียใหม และยังมีงานปรับแต่งระบบสุริยะจักรวาลทั้งระบบ ที่มีทีมงานอีกหลายหน่วยงานเข้ามาจัดการ

    กลายมาเป็นสงครามอวกาศ ที่ใช้เวลาร่วมสองปีในการเข้ายึดและจัดวางตำแหน่งดวงดาวใหม่หมดทั้งสี่ดวงคือ ดาวเนปจูน ดาวยูเรนัส ดาวเสาร์ และล่าสุดคือดาวพฤหัสบดี จากนั้นก็ได้ทำการกวาดล้างพวกอสูรและซาตาน ที่หนีขึ้นไปซ่อนตัวอยู่ที่ดวงจันทร์ งานนี้เสร็จสิ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมานี้เอง จะเห็นว่าเดี๋ยวนี้ดวงจันทร์สวยสดงดงามกว่าเดิม

    ทีนี้มาเข้าเรื่องสำคัญคือ แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับพวกเราชาวโลก นับแต่นี้ไปนั่นก็คือ"การช่วยเหลือมนุษย์โลก"นั่นเอง


    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/nithan-ni-buru-khun-nopp/ribu-ni-txn-thi-1
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิทาน ริบูนิ ของคุณ Nopp
    ตอนที่ 2


    เนื่องจากปัญหาอันเกิดจากพวกพญามารนี้ได้ฝังรากลึก มีเครือข่ายโยงใยที่ซับซ้อนและมีการวางแผนงานไว้อย่างชาญฉลาด มานานนับหลายพันปี ทำให้ยากต่อการล้มล้างและเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่างง่ายๆเช่นระบอบทักขี้ในประเทศสุวรรณภูมิ นายทักขี้คนนี้ใช้เวลาเพียงสิบปีเท่านั้น สามารถชาติสุวรรณภูมิ ถูกแบ่งเป็นสองฝ่าย และสร้างความวิบัติไว้อีกมากมาย ท่ามกลางความชื่นชมยินดีของกลุ่มคนหลากหลายชั้นของสังคม

    นี่ดีว่าเขายังไม่ทันได้ล้มล้างหรือแทรกซึม เข้าไปถึงเบื้องบนสูงสุดนะ เขายังประสบความสำเร็จขนาดนี้ในเวลาอันสั้น ทีนี้ท่านพอจะนึกภาพออกแล้วยังว่าปัญหาของโลกจะใหญ่เพียงไร ในเมื่อชาติผู้นำโลกอย่างสหรัฐและอังกฤษนั้นมิได้ถูกครอบงำ แต่เป็นตัวตั้งต้นของระบบซาตานมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่สมัยอิยิปต์กรีกโรมันบาบิโลน ที่มีการฟาดฟันกันมา และจนมาก่อตั้งประเทศอังกฤษและยิวสหรัฐในปัจจุบัน ผู้นำก็ล้วนสืบเชื้อสายของพญามารซาตานทั้งสิ้น

    พวกเขามีดีเอ็นเอของคนกลุ่มนี้ และตั้งตนขึ้นเป็นชนชั้นปกครองสูงสุด พวกเขาทำงานกันอย่างเป็นระบบ และสยายปีกครอบคลุมไปทั้งโลก มีการดึงเอาเศรษฐีใหม่คนรุ่นใหม่ และวางตัวนักการเมืองและนักธุรกิจในประเทศด้อยพัฒนา เข้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา มีการอบรมวิชาการและนำเข้าสู่การเป็นสมาชิก ของชนชั้นสูงและเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย เขาได้เข้าครอบงำมนุษยชาติไว้ได้โดยสมบูรณ์มาเป็นเวลานานพอสมควร และประสบความสำเร็จในการล้างสมองคน ให้ตกเป็นทาสของเงินตรา การค้าการลงทุนการเกษตรกรรม อาหารและยา การรักษาโรค

    แบบเรียน วิชาการต่างๆ ก็ถูกควบคุมให้อยู่ในมือของเขาหมด ว่าจะให้เรารู้อะไรและตกแต่งข้อมูลเสียใหม่ เพื่อให้สามารถควบคุมเราได้อย่างเบ็ดเสร็จแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ใครบังอาจแฉก็เสร็จทุกราย (สไตล์ทักขี้เลยนะก็มันเรียนรู้จากแม่แบบเดียวกัน แถมเอานักวิชาการไทยไปล้างสมองอีกเท่าไหร่ ใครแตกต่างก็เตรียมตัวตาย) ในด้านจิตวิญญาณนั้นพวกผีห่าซาตานพวกนี้ได้เข้าไปสร้าง นครรัฐ วาติกัน และควบคุมข้อความในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ให้ตอบสนองหลักการปกครองและควบคุมจิตใจของฝูงชน

    ในพุทธศาสนาก็เช่นกัน ความสามารถของชนชั้นการปกครองของอังกฤษนี้เก่งกาจยิ่งนัก เขาย้ายถิ่นฐานที่เกิดของพระพุทธเจ้าที่สุวรรณภูมิ ไปไว้ที่ประเทศในปกครองเฉกเช่นประเทศอินเดียได้ โดยไม่มีใครในสุวรรณภูมิ ฉุกคิดสงสัยหรือทักท้วงแต่ประการใด และมีการดำเนินการใต้ดินอีกมากมาย ที่จะทำลายล้างและให้เหลือเพียงคริสจักรเท่านั้น ส่งผลให้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงพุทธศาสนา ที่จะเป็นความหวังหนึ่งในการปลดปล่อยมนุษยชาติ จากความเป็นทาส

    และกลับทำให้พระสงฆ์ติดกับมาร และส่งเสริมวัตถุนิยมในหมู่พระสงฆ์แทน สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมิได้นำมาปฏิบัติ และใช้หลักกูในการให้พระสงฆ์ปฏิบัติแทน ถ้าวิธีปฏิบัติของพระพุทธเจ้าได้ถูกนำมาเผยแพร่และปฏิบัติตามโดยเหล่าพระสงฆ์สาวกจริง ทุกรูปทุกวัดทำจริง โลกก็คงจะไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ เมื่อความหวังสุดท้ายในการปลดปล่อยมนุษยชาติจึงล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า มีแต่พุทธปลอมหรือพุทธพานิชย์เกลื่อนเมือง

    โลกจึงดิ่งลงสู่หายนะอย่างแท้จริงในทุกๆด้าน ระบบบิรูนิได้มีกำหนดนำพาอนูนากิมาเยี่ยมลูกหลานของเขา ที่ได้พัฒนาตนเองมาเป็นชนชั้นปกครองโลกอย่างสมบูรณ์แบบ พวกเขาได้เตรียมการต้อนรับการมาครั้งนี้และเตรียมที่จะเปิดเผยตัวตนของพวกเขาอย่างเป็นระบบ มีการพบปะกันกับผู้นำของหลากหลายประเทศ ที่ร่วมแรงร่วมใจเป็นส่วนหนึ่ง ด้วยการเตรียมการประกาศแผนการ รวมคนในโลกให้เป็นชาติเดียวหรือที่เรียกว่า New World Order

    แผนการลงจอดของยานลูก ที่กำหนดให้มีขึ้นที่ประเทศอัฟริกาใต้ในปี 2012 นั้นล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า เมื่ออนูนากิไม่ได้ปรากฏตัวตามที่นัดหมายเอาไว้ นอกจากนี้การประมาณการและการเตรียมการในหลายๆ ด้านของพวกเขาก็มีอันผิดพลาดไปเสียหมด เช่นการวางแผนให้คนลงไปอยู่ใต้ดิน ก็ได้รับบทพิสูจน์ว่าจะไม่ได้ผล อาจจะไม่มีใครเหลือรอด

    การวางแผนให้ชนชั้นผู้นำไปอาศัยอยู่ที่ดาวอังคาร เป็นการชั่วคราวนั้นก็ล้มเหลวเช่นกัน เพราะตอนนี้ตัวดาวอังคารเองก็กำลังได้ผลกระทบมากมาย มีการขยายตัวของดวงดาวและความร้อนเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นหลอมละลายได้ แผนงานที่สำคัญที่เขาเตรียมเอาไว้อีกอันหนึ่งคือความเมตตา ที่จะลดจำนวนประชากรของโลก ด้วยความหวังดีว่าไหนๆ คนก็จะต้องตายเป็นจำนวนมาก และอาจมากกว่าครึ่งหนึ่ง

    พวกเขาจะเป็นผู้เลือกเองว่าชาติพันธุ์ไหนควรอยู่ ชาติพันธุ์ไหนสมควรตาย รวมถึงประชากรของสหรัฐเอง ก็จะถูกจัดให้ไปก่อนเวลาเช่นกันว่าตรงไหนจะได้อยู่ตรงไหนจะได้ไป และไวรัสหลากหลายชนิดที่กำลังเป็นปัญหาเช่นอีโบลา คือแผนการกำจัดชีวิตมนุษย์ในพื้นที่เป้าหมายของเขา ดังนั้นขอบอกท่านทั้งหลายเดี๋ยวนี้เลยนะว่า ไม่มีโรคระบาดจริง มีแต่ข่าวโลกระบาด ท่านต้องไม่ไปเป็นเหยื่อ ด้วยการไปขอรับฉีดวัคซีน เพราะนั่นคือวิธีควบคุมของเขาว่าจะกดปุ่มแบบไหน ให้ใครไปก่อนไปหลัง

    และในช่วงไม่กี่วันมานี้ พวกเราก็กำลังถูกเล่นงานด้วยคลื่น EMP ที่เขาปล่อยออกมาครอบคลุมโลกทั้งใบ ในประเทศที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงเช่นรัสเซีย นั้นก็ได้ปล่อยคลื่นตอบโต้ และป้องกันการถูกรบกวนครอบคลุมประเทศของเขาไว้หมดแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแต่ประเทศด้อยพัฒนาด้านเทคโนโลยี แต่พัฒนาด้านแฟชั่นอย่างเรา ก็ตกเป็นเป้านิ่งช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งเราก็ยังมีเพื่อนๆในอีกหลายประเทศ ที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเรา ซึ่งที่ต้องเจอก็คงจะเป็นเรื่องแผ่นดินไหว พายุฝนฟ้าคะนอง น้ำท่วม

    ตอนนี้และในวันนี้ โลกก็โดนกระหน่ำอย่างหนักด้วยฝีมือด้าน EMP ของสหรัฐ เพียงเพื่อที่จะตรวจจับยานยูเอฟโอของเดอะวัน ที่ตอนนี้มากันเป็นล้านๆ ลำ แต่คลื่นนี้มีผลกระทบต่อแผ่นเปลือกโลก เขาเลือกประเทศที่เขาเข้าไปควบคุมได้ง่ายเช่นฟิลิปปินส์ก่อน เดี๋ยวก็คงส่งเรือรบและ ฯลฯ เข้ามาประจำการพร้อมถุงเก็บศพจำนวนหลายล้านใบ ก็ดูๆ กันไปเถอะ ที่เล่าให้ฟังนี้ก็เพื่อให้เห็นภาพรวมของปัญหาที่ "เดอะวัน" จะต้องเข้ามาแก้ไข นี่แค่น้ำๆ นะยังมีอื่นๆ อีกเยอะมากที่สาธยายไม่หมด เอาเท่าที่เห็นๆไปก่อน

    ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ มันรู้ว่าสักวันหนึ่งเดอะวันจะต้องมาช่วยลูกหลานของท่าน มันจึงได้เตรียมความพร้อมในด้านนี้ไว้รองรับ นั่นก็คือ จะต้องล้าง สมอง คนทั้งโลกให้เชื่อให้ได้ว่า "ไม่มีมนุษย์ต่างดาว โลกนี้มีมนุษย์อยู่ที่นี่ที่เดียว" และมันก็ทำได้สำเร็จเสียด้วย ใครพูดเรื่องมนุษย์ต่างดาวคนนั้นต้องเป็นพวกวิกลจริต คนในเมืองสุวรรณภูมินี้แหละตัวดี ใครพูดถึงมนุษย์ต่างดาว ก็จะถูกทำให้กลายเป็นตัวตลกในสังคม

    เมื่อคนเห็นแล้วว่าจุดจบเป็นเช่นไร ก็จะไม่มีใครกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย และช่วงหลังๆมานี้คนเริ่มพบเห็นมีหลักฐานต่างๆ จากกล้องถ่ายภาพจากวิดิโอ ทางเขาก็แก้เกมนี้อีก ด้วยการทำให้เอเลี่ยนหรือผู้มาจากดาวดวงอื่นเป็นผู้ร้าย ให้คนเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวน่ารังเกียจ ด้วยการป้อนสู่สมองทางหนังจากฮอลลีวูด ให้คนเกลียดกลัวและไม่ไว้วางใจมนุษย์ต่างดาว การจะเข้าถึงลูกหลานของเดอะวันก็เต็มไปด้วยอุปสรรคทันที น่าหนักใจแทนเดอะวันจังเลยนะ

    "เดอะวันไม่เคยทอดทิ้งเรา" ตั้งแต่เมื่อครั้งสงครามเทพ-อสูรสิ้นสุดลง เดอะวันคือผู้ที่มาช่วยลูกหลาน รบกับอสูรในครั้งนั้น และจับอสูรโยนลงไปใต้ดิน เป็นที่น่าเสียดายที่เดอะวันผู้มีเมตตายิ่ง ไม่ได้กำจัดอสูรให้หมดสิ้นไป เหล่าอสูรจึงได้เริ่มซ่องสุมกำลังและผู้คนเข้าเป็นพวกใหม่และสยายปีกไปทั่วปฐพี ส่วนใหญ่แล้วจะฝังตัวอยู่ใต้ดิน และเข้าทำการหลากหลายรูปแบบที่จะยึดคืนพื้นที่โลกให้จงได้

    มีอารยธรรมใหม่เกิดขึ้นอีกหลายอารยธรรม พวกมืดหรือซาตานเหล่านี้ได้พัฒนาตนเองขึ้นมา และปะปนอยู่กับมนุษย์บ้าง ก็เหมือนมนุษย์จนแยกไม่ออก และเราจะรู้จักพวกนี้ก็ต่อเมื่อเขาเปิดเผยตัวตนที่โหดเหี้ยมและดุร้ายเกินมนุษย์ออกมา บ่อยครั้งที่เราจะได้ยินเรื่องราวที่เรียกว่าเป็นตำนานที่ครั้งหนึ่งมันเคยเกิดขึ้นจริง แต่มนุษย์ปัจจุบันได้ถูกลิดรอนความสามารถลงไปมาก จนคิดว่าเรื่องที่ได้ฟังมานั้น มันไม่มีอยู่จริง การล่มจมของทวีปแอตแลนติส คือผลงานของพวกมืดเหล่านี้เช่นกัน

    ดังนั้นทางเดอะวัน ผู้มากด้วยประสบการณ์ของการต่อสู้กับพวกมืดเพื่อช่วยลูกหลานมาโดยตลอด ก็รู้แจ้งแทงจิตแล้วว่า หากใช้วิธีการเดิมๆผลก็จะออกมาแบบเดิมๆ คือลูกหลานของท่านไม่สามารถเอาชนะกิเลสของตนเองได้ และสูญเสียความเป็นมนุษย์ให้มารเอาไปเป็นพวกเกือบหมด โดยเฉพาะในกลุ่มนักบวช รู้สึกว่าจะหนักหนาสาหัสมาก จนท่านพยายมก็แจ้งขึ้นไปให้เดอะวันทราบว่านรกเต็มแล้ว

    เดอะวันจึงจำเป็นที่จะต้องแสวงหาวิธีใหม่ ที่จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ จึงได้เข้าหารือกับสมาชิกในหมู่ดวงดาวหลากหลายแกแลคซี่ และได้บทสรุปมาว่า จะต้องเข้ามาช่วยโลกทางอ้อมด้วยการเปลี่ยนแปลงระดับพลังงานหรือคลื่นความถี่ของโลกใหม่ คลื่นความถี่ใหม่นี้ จะเป็นคลื่นความถี่ที่จัดการกับพวกมาร ได้แบบจอดสนิทตายเรียบวุธทุกตนทุกตัว

    แต่ช้าก่อน เดอะวันรู้ดีว่าในเจ็ดพันล้านคนนี้ ก็เป็นลูกหลานของท่านหมด คลื่นใหม่จะส่งผลให้จำนวนมนุษย์ เหลืออยู่แค่สิบเปอร์เซ็นต์ และอีกเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ต้องมีเลือดออกจมูกออกปาก ตายเรียบวุธพร้อมกับมารจริงๆ กึ่งเทพกึ่งมารซมซานดิ้นพลาดๆไม่มีที่จะไป พูดง่ายๆว่าจะโดนคลื่นใหม่อัดก๊อปปี้ตายหมด ท่านย่อมไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นดอก ความรักและความเมตตาของท่านนั้น ยากที่ใครจะคาดคิด ท่านรักพวกเราทุกคน

    ขอย้ำ ทุกคน ไม่มีแบ่งแยกดีชั่ว ท่านแค่รอ รอให้เราเปลี่ยน เมื่อเราไม่เปลี่ยนท่านก็จะมาช่วยเปลี่ยนทางอ้อมให้ค่ะ ดังนั้นท่านจึงต้องมีการวางแผนงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และใช้เวลาดำเนินงานทั้งสิ้นมาร่วมเจ็ดสิบปีเศษแล้ว โอ้ เดอะวันของเรา ท่านช่างอดทนเหลือเกิน และท่านบอกว่าตอนนี้ All is well ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี


    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/nithan-ni-buru-khun-nopp/bi-ru-ni-txn-thi-2
     
  17. GUYTHUM

    GUYTHUM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,358
    ค่าพลัง:
    +1,088
    ยังต้องรอไปอีกประมาณ....4+4+4+4
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิทาน ริบูนิ ของคุณ Nopp
    ตอนที่ 3


    การปรับแต่งพลังงานคลื่นความถี่ของโลก เดอะวันหาทางออกที่สวยงามที่สุดให้กับโลกและผู้อยู่อาศัยบนโลก ด้วยการปรับแต่งพลังงานคลื่นความถี่ของโลกเสียใหม่ ให้มีคลื่นความถี่โดยรวมสูงขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย และที่สำคัญคือ จะต้องทำให้เสร็จก่อนที่ระบบดาวบิรูนิจะมาถึงนั่นคือปี 2012

    โจทย์ของเดอะวันมีอยู่หลายข้อ ที่จะต้องแก้ไขไปพร้อมๆกัน แถมมีเส้นตายมาบังคับอีกต่างหาก ต้องขอทำความเข้าใจกับผู้อ่านก่อนว่า โลกประกอบไปด้วยสรรพสิ่งที่ไม่มีชีวิตกับสิ่งที่มีชีวิต และทุกอย่างบนโลกใบนี้ต่างมีการสั่นสะเทือนของพลังงาน โดยมีผลรวมของคลื่นความถี่ที่ 7.83 Hz มีชื่อเรียกว่า Schumann Resonance และเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกว่าสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งได้ลงรายละเอียดในโพสต์ก่อนหน้านี้ไปแล้ว

    ทีนี้วิธีการเปลี่ยนคลื่นครั้งนี้ พอจะสรุปให้ท่านเข้าใจได้ง่ายๆ คือเปลี่ยนจากระบบเส้นแรงแม่เหล็ก ไปสู่ระบบผลึกแก้ว เหมือนระบบอนาลอคไปสู่ระบบดิจิทอลยังไงยังงั้นแหละ ก็ต้องเริ่มด้วยการส่งคลื่นพลังงาน มากระตุ้นให้ผลึกแก้วที่อยู่ในใต้ดินในใต้ชั้นหินของแผ่นเปลือกโลก เปล่งพลังงานออกมา และให้ทีมงานเข้ามายังโลกเพื่อวางตำแหน่งของจุดกระทบจุดสะท้อนพลังงานเสียใหม่ ระบบเส้นแรงแม่เหล็กก็จะจบสิ้นกระบวนการที่เคยมีมาทั้งหมด

    ฟังดูง่ายแต่มันไม่ง่ายหรอก เพียงแต่คนเล่านิทานอยากจะไปถึงบทสรุปให้เร็วขึ้นนะ ผลที่จะได้ก็คือทำวิมานแก้วให้ลูกหลานท่านอยู่นะแหละ ซึ่งวิมานแก้วที่ว่านี้ก็มาพร้อมกับข้อแม้ว่า ผู้ที่จะอยู่อาศัยในวิมานแก้วแห่งโลกพิภพนี้ได้ จะต้องมีคลื่นความถี่เฉพาะ ที่จะต้องสอดคล้องกันเท่านั้นจึงจะมีสิทธิอยู่ เหมือนขี่ม้าพยศ ถ้าคลื่นไม่เข้ากันก็จะโดนสะบัดตกลงมา ตอนนี้วิมานแก้วหรือโครงสร้างของคลื่นความถี่ใหม่นี้ เสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดใช้งานแล้ว

    ที่นี้ฝ่ายตรงกันข้ามก็คือเหล่ามารทั้งหลาย ก็ต้องขัดขวางทุกวิถีทาง แต่ขอโทษเทคโนโลยีอันนี้ เขาไม่สามารถขัดขวางได้เลยแม้แต่น้อย เรียกว่า เอาพวกมันงงครับ งงเป็นไก่ตาแตก ทำอะไรไม่ถูก แถมระดับเจ้านายใหญ่ที่มีนิวาสถานอยู่ในเมืองใต้ดินก็ถูกกวาดล้างไปหมด ไม่รู้จะไปหาใครมาช่วย นอกจากงมหาคำตอบกันเอาแบบเดามั่วกันไปตามยถากรรม

    ทีนี้เดอะวันก็จะหามาตรการ ที่จะทำให้ทุกคนได้อยู่ในวิมานแก้ว ด้วยการชักจูงมารและสาวกของมารก่อน อย่างว่านะแหละ ต่อให้อมพระมาพูดมาบอกพวกเขาก็ไม่เชื่อ และไม่ยอมทำตามคำขอร้องของเดอะวัน ที่จะให้พวกเขากลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ โดยเดอะวันจะให้พี่เบิ้มสหรัฐ ปลดอาวุธและทำลายอาวุธทุกชนิดที่อยู่ในความปกครองของเขา

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาวุธนิวเคลียร์ และให้เอางบประมาณด้านการทหารทั้งหมดมาช่วยเหลือมนุษยชาติ เปลี่ยนทหารให้เป็นนักพัฒนา และขยายโปรแกรมนี้ไปสู่ทุกๆชาติบนโลก รวมถึงประเทศไทยที่อยู่ใกล้ๆนี้ด้วย วิธีการที่จะบีบให้สหรัฐเข้าสู่กระบวนการที่ว่านี้ก็คือ การเอาปัญหาหนี้สินของสหรัฐและมาตรการพิมพ์ธนบัตรดอลล่าร์ออกมาใช้ โดยไม่มีทองคำหนุน และเงินดอลล่าร์ที่เสื่อมค่าลง เหลือเพียงสิบแปดเปอร์เซนต์เท่านั้น มาเป็นตัวกดดัน ให้สหรัฐยอมเข้าสู่สิ่งที่เรียกว่าการรีเซ็ทค่าของเงินดอลล่าร์ และจะมีผลไปยังหนี้สินของทุกครัวเรือนบนโลกให้เหลือเป็นศูนย์

    พูดง่ายๆ ว่าให้เจ้าหนี้ทุกหนทุกแห่งบนโลกใบนี้ ยกหนี้ให้ล้างไพ่เป็นศูนย์ผลก็คือสหรัฐก็เข้าสู่สงครามด้วยการสร้างธงเท็จหาเหตุเข้าสู่สงครามแทน
    ซึ่งสหรัฐใช้วิธีการสกปรกไม่รบซึ่งหน้า
    และใช้พลเมืองของชาติตนเองเป็นตัวประกันไว้ต่อรองกับเดอะวันต่อไปอีก ส่วนชาติอื่นๆก็เข้าสู่โหมดเตรียมพร้อม

    แต่ท่านทั้งหลายไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องสงครามที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์หรอกนะเพราะเดอะวันไม่อนุญาต และได้ทำการใช้ระบบกลไกบางอย่าง ที่ทำให้ไม่มีชาติไหนยิงอาวุธนี้ออก หรือพูดสั้นๆว่าโดนปลดชนวนเกลี้ยง ทุกชาติที่มีจะใช้มันไม่ได้ดอก

    พวกเขาก็เลยงัดเอาอาวุธ EMP และพวกเส้นแสงเบเซอร์ออกมาใช้แทน อ้อมีอาวุธเชื้อโรคด้วย สนุกกันใหญ่ ชาติไหนมีก็เอาออกมาแสดงแสนยานุภาพกันถ้วนหน้าในตอนนี้

    ผลก็ออกมาอย่างที่เห็นคือสภาพอาอาศที่แปรปรวน มีพายุบวกแผ่นดินไหวและฝนตกหนักในหลายๆพื้นที่
    ข่าวทุกอย่างก็เป็นไปอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะข่าวที่เขาต้องการสร้างความหวาดกลัว นั่นก็คือข่าวอีโบล่า และทำให้ไม่มีข่าวระบบดาวบิรูนิ ออกมาสู่สายตาประชาชนอีกเลย ทั้งๆที่เห็นปรากฏการณ์ต่างๆมากมายบนท้องฟ้า ความปั่นป่วนแปรปรวนและความเท็จ ความจริงมั่งไม่จริงมั่ง ก็ถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้บอกไม่ได้ว่าในแต่ละวันเราจะเจออะไรกันบ้าง

    เอาละทีนี้มาถึงประเทศแผ่นดินทองของเราบ้างว่า
    เราจะบริหารจัดการกับตัวเราอย่างไร ให้ได้อยู่ในวิมานแก้วไม่ถูกคลื่นซัดลงฝั่งไป สุวรรณภูมิคือประเทศที่ถูกเลือก ประเทศสุวรรณภูมิของเรานี้ มีประวัติศาสตร์มาช้านานก่อนที่จะถูกทำให้แตกออกเป็นประเทศเล็กประเทศน้อยจึงจะขอเล่าท้าวความหลังไปสักนิดหนึ่ง เพื่อจะได้เข้าใจกับสถานการณ์ปัจจุบัน เดอะวันได้ให้ความสำคัญกับประเทศนี้มาตั้งแต่เมื่อครั้งกระโน้น นานมาก ขอถอยมาถึงประมาณสามพันปีที่แล้วก็พอนะ

    ครั้งนั้นเดอะวันได้เลือกเอาสถานที่ที่แสนจะวิเศษเลอเลิศแห่งนี้ เป็นที่รองรับการมาปรากฏของศาสดา
    ที่จะช่วยยกระดับจิตใจของมนุษย์และเป็นที่เตรียมไว้ต่อกรกับการปรากฏของบิรูนิ หากมีอะไรผิดพลาดไปจากที่วางแผนเอาไว้ ก็จะเหลือจุดนี้ไว้สืบสานเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่อไป เมื่อศาสดาพระองค์นั้นได้เสด็จปรินิพพานไปแล้ว ประมาณสองร้อยปีเศษ ในกาลครั้งนั้นเดอะวันได้ส่งทหารเอกมือขวาของท่าน ให้แบ่งภาคมาเกิดเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของสุวรรณภูมิ มีพระนามว่าท้าวกุเวรมหาราช

    ผู้เป็นต้นกำเนิดของกษัตริย์แห่งชาติสุวรรณภูมิ และในครั้งนั้นก็มีธิดาพญายมราชก็แบ่งภาคลงมาเกิดเช่นกัน โดยธิดาพยายมผู้นี้มีหน้าที่ทำตัวเป็นนางพญามาร เพื่อที่จะให้ลูกหลานของเดอะวัน ได้มีบทเรียนบททดสอบ ที่จะช่วยให้มีโอกาสได้ยกระดับจิตใจขึ้นมาด้วยตัวเอง เพื่อเข้าสู่การสั่นสะเทือนของระดับพลังงานที่สูงขึ้น สามารถนำพาจิตวิญญาณของตนขึ้นสู่มิติที่สูงขึ้นได้ด้วยตนเอง โดยมีคำสอนของศาสดาเป็นผู้นำพาไป

    ธิดาพยายมก็คือตัวแทนของฝ่ายมืดนั่นเอง
    และก็ได้มาเกิดเป็นมหาเทวีพระองค์หนึ่งของท่านท้าวกุเวรมหาราช พระนางได้ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมเป็นคู่คิดเป็นคู่สร้างบ้านเมือง และเป็นที่สนิทเสน่หาเป็นที่สุดของพระองค์ กาลเวลาผ่านไปจวบจนถึงรัชกาลที่ 5 สุวรรณภูมิก็เข้าสู่ยุคตกต่ำ เดอะวันรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยในเหตุการณ์บ้านเมืองนี้ยิ่งนัก และไม่กล้าที่จะส่งใครลงมา ตัดสินใจแบ่งภาคมาเอง และได้ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 และเป็นพระองค์สุดท้ายของสุวรรณภูมิ มีพระนามว่าท้าวพันตามหาราช

    ท่านเป็นกษัตริย์ที่มีความรักและความเมตตา ต่อราษฎรและดูแลประชาราชเป็นอย่างดี
    แต่ความรู้จักพอหามีในจิตใจของมนุษย์ไม่? ท่านเองก็มิอาจต้านทานความอยากและไม่รู้จักพอของอาณาประชาราชได้ ประกอบกับนางพญามารผู้มากด้วยความสามารถตนนั้น ได้ทำหน้าที่ได้ดีเหลือหลายสามารถแตกหน่อเหล่ากอของมารได้อย่างมีสีสรร และที่สำคัญคือจะดำรงอยู่ในรั้วในวังของพระเจ้าแผ่นดินเสมอมาทุกภพชาติ จนมาเป็นตำนานที่รู้จักกันดีในนามพระนางตอแหลแห่งดินแดนปลายด้ามขวาน และมีรูปปั้นให้คนได้กราบไหว้บูชา ซึ่งก็คือรูปปั้นของพระแม่ธรณีบีบมวยผมนั่นเอง เป็นอันสิ้นสุดของราชวงค์สุวรรณภูมิ

    และเดอะวันกับมือขวาคู่ใจของท่าน
    ก็เข็ดขยาดกับมนุษย์และไม่เคยแบ่งภาคลงมาเกิดเต็มๆองค์ อีกเลยนับแต่นั้นมา ขอให้รายละเอียดเกี่ยวกับพระแม่ธรณีไว้สักเล็กน้อย ผู้หญิงทุกคนมีขวัญของพระแม่เสมอ เรียกว่ามันอยู่ในดีเอ็นเอก็แล้วกัน จากหนึ่งของเดอะวันมาเป็นสองคือพระแม่ไกอาและกลายมาเป็นพวกเราอีกเจ็ดพันล้านคน ดังนั้นในภาคของมารหรือฝ่ายมืดก็มีดีเอ็นเอของท่านทั้งสองอยู่ด้วยเสมอ

    ในส่วนของประเทศสุวรรณภูมินี้ ปัญหาของประเทศมีรากเหง้ามาจากนางพญามารก่อน และในเมื่อฝังตัวอยู่กับชนชั้นปกครอง ก็จะมีบทบาทเยอะในการต่อสู้กับความชั่วร้าย ที่เดอะวันยังต้องกุมขมับ เพราะต้องมารบกับอิสตรี ในภาคพระแม่ธรณีบีบมวยผมข้างขวา แล้วปล่อยน้ำลงข้างซ้าย ใครยังไม่รู้ก็ลองไปตรวจดูสิว่าพระแม่ธรณีที่ตนบูชาอยู่นั้น อยู่ในภาคที่ชื่อว่าพระนางตอแหลหรือเปล่า? นางเก่งแค่ไหนล่ะ มีคนหลงบูชานางเต็มบ้านเต็มเมือง เอ้ามีของแถม ครั้งหนึ่งนางก็ได้ไปวาดลวดลายอยู่ที่เมืองจีนในนามซูสีไทเฮา ไงหล่ะ!

    ถึงแม้ว่าเดอะวันจะไม่ได้ลงมาอีก แต่เดอะวันจะต้องดูแลรักษาแผ่นดินสุวรรณภูมินี้ไว้ยิ่งกว่าไข่ในหิน
    และก็ทำได้ด้วยวิธีการจัดการในเรื่องของชนชั้นปกครองหรือที่เรียกว่าพระเจ้าแผ่นดิน ด้วยการคัดสรรดวงจิตที่จะลงมาเกิดเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ให้อยู่ในสายตาตลอดเวลา ในหลายๆครั้งจะมีผู้ที่พ่ายแพ้ให้กับนางมารอย่างหมดรูป เสียท่าหน่อเนื้อเชื้อไขของท่านไปก็หลายอยู่ แต่ท่านก็จะเอาบางส่วนของท่านมาผสมปนเปไปกับส่วนอื่นๆ ซึ่งในสมัยโบราณ เราจะใช้คำว่าขวัญเป็นการให้ความหมายของการแบ่งภาคและรวมภาคใหม่ของแต่ละชีวิต

    ยกตัวอย่างคือ คนเรานี้ประกอบไปด้วย 32 ขวัญ บางคนก็จะมีขวัญของท่านนั้นมาสิบส่วน อีกท่านหนึ่งมาอีกสิบสองส่วน รวมๆกันได้ 32 ก็คือเราผู้นั้นก็จะเป็นผู้มีจิตวิญญาณดั้งเดิม และมีเจ้ากรรมนายเวรของท่านผู้นั้นมาเป็นส่วนหนึ่งของเราผู้นี้ หวังว่าท่านผู้อ่านคงไม่งงนะ เดี๋ยวค่อยๆย้อนมาท้าวความถึงเรื่องนี้กันอีกที เดอะวันก็จะใช้วิธีนี้ดูแลบ้านเมืองนี้ด้วยการแบ่งและรวมขวัญที่สำคัญๆ ให้ลงมาเกิดเป็นพ่อของผู้ที่จะต้องมากอบกู้บ้านเมือง และให้ผู้เป็นบิดาทำการปั้นบุตรขึ้นมา เป็นวีรบุรุษของชนชาติสุวรรณภูมิอีกต่อหนึ่ง และสิ่งที่สำคัญที่สุดงที่สุดของการดูแลแผ่นดินนี้นั้น กษัตริย์จะต้องเป็นผู้ธำรงไว้ ซึ่งศาสนาประจำชาติและให้ดูแลพระศาสนายิ่งชีวิต

    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/nithan-ni-buru-khun-nopp/bi-ru-ni-txn-thi-3
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2018
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิทาน ริบูนิ ของคุณ Nopp
    ตอนที่ 4


    การเตรียมการช่วยโลกในยุคนี้ เดอะวันได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่การให้มีศาสดาเอกมาปรากฏในดินแดนสุวรรณภูมิ และได้แบ่งภาคลงมาเกิด เมื่อครั้งประมาณปีพุทธศักราชหกร้อยปีเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาที่นางพญามารสร้างเอาไว้ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักและราชวงค์สุวรรณภูมิก็ได้ปิดฉากลง

    จากนั้นเดอะวันได้คอยดูแลดินแดนนี้ ด้วยการคัดสรรผู้ปกครองของแผ่นดินตราบล่วงมาถึงกาลปัจจุบัน และก็ยังจะต้องรบราฆ่าฟันกับนางพญามารและเหล่าบริวารมาโดยตลอด บอกได้ว่าทุกครั้งที่มีการล่มสลายของแผ่นดิน ตัวการก็คือผู้หญิง ผู้หญิงคือสาเหตุหลักที่แฝงตัวอยู่เบื้องหลังความล่มจมของบ้านเมืองมาโดยตลอด แต่ข้อมูลนี้อาจมิได้รับการเปิดเผยสู่ภายนอกเท่าไหร่นัก นอกจากนี้แล้วนางพญามารที่จักต้องได้ลงมามีบทบาท ในการเป็นเครื่องมือสำหรับล่อลวงมนุษย์ด้วยกิเลสนานับประการนั้น สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง

    ประกอบกับการสยายปีกของพญามาร เหล่าซาตานจากโลกซีกตะวันตก เข้ามาสู่สุวรรณภูมิผ่านทางราชสำนัก และท้ายสุดก็กระจายลัทธิบริโภคนิยมวัตถุนิยมเข้าครอบงำจิตใจ ของชนชาวสุวรรณภูมิไว้ได้เบ็ดเสร็จในทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่วงการศาสนา ความหวังของเดอะวัน ในการสืบสานเผ่าพันธุ์มนุษย์ ให้ธำรงอยู่ต่อไปจนกว่ามนุษย์ทุกคน จะสามารถนำพาจิตวิญญาณของตน ขึ้นสู่อิสรภาพจากกิเลสและเครื่องร้อยรัดทั้งมวล ก็คือใช้ศาสนาเป็นยานนำพาไป ก็มีอันเป็นประสปัญหา เพราะในแวดวงศาสนานั้น มีนักบวชที่เข้าถึงคำสอนของศาสดาน้อยมาก และอาศัยเครื่องแบบที่นุ่งห่มสนองกิเลส และกระจายวิธีการดังกล่าวออกไปทุกแว่นแคว้น จนดูเป็นเรื่องปกติแล้ว จักเอาอะไรมาช่วยขนช่วยดึงลูกหลานท่าน ให้สามารถพาตนเองกลับสู่ที่จากมาได้เล่า

    การมาของบิรูนิ ที่กำหนดว่าจะมาถึงโลกในปลายปี 2012 นั้น จักทำความเสียหายที่มิอาจประมาณได้ให้แก่โลก ดินแดนและอารยธรรมที่เดอะวันจะต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ คือดินแดนสุวรรณภูมิ เดอะวันจึงได้แสวงหาวิธีต่างๆ นานาเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของชาวสุวรรณภูมิ ให้ปฏิบัติตามคำสอนของศาสดาเอกให้จงได้ ล่าสุดเดอะวัน ก็ได้จัดทีมอาสาสมัครมาช่วยลูกหลานเหลนโหลนทางด้านจิตวิญญาณ เป็นการเสริมกำลังอีกทางหนึ่ง

    นั่นก็คือการให้เหล่าพลังงานที่แบ่งมาจากเดอะวัน รุ่นที่หนึ่งซึ่งมีอยู่ทั้งหมดสามสิบหกพระองค์นั้น ออกมาแสวงหาผู้ที่ถือขวัญของแต่ละท่านมาเกิดเป็นมนุษย์ โดยที่ทางชาวสุวรรณภูมิ จะเริ่มรู้จักในนามองค์เทพทั้งหลายนั่นเอง เหล่าองค์เทพ ที่อาสาลงมานั้น มีอยู่หลากหลายชั้นและหลายรุ่น เป็นพลังงานหรือดวงจิต ที่ดำรงอยู่ในสากลจักรวาล ที่เคยมาเกิดเป็นมนุษย์มาก่อน สามารถพัฒนาและยกระดับของจิตกลับคืนสู่จักรวาล สลัดตัวตนให้หลุดพ้นจากเครื่องร้อยรัดทั้งปวงได้ และต่างก็มีความเป็นห่วงเป็นใยในลูกหลาน หรือผู้สืบสายดีเอ็นเอ ชุดเดียวกันกับตนเอง

    หรือมีส่วนหนึ่งของตนเองอยู่ปะปน รวมไปกับของท่านอื่นๆ ก็จะลงมาแสวงหามนุษย์ ที่มีความเกี่ยวข้องกับตน เพื่อชักนำมนุษย์คนนั้นให้เข้าสู่เส้นทางที่ดีงาม ทางซีกโลกอื่นก็เช่นเดียวกัน แต่จะเป็นที่รู้จักในนามของเทพฝรั่งที่มีชื่อที่เราพอจะเคยได้ยินเช่น ท่านเอลทั้งหลาย ท่านมิคาเอล ราฟาเอล อูลิเอล ฯลฯ ก็จะมาสื่อสารชักนำให้เข้าสู่ปฏิบัติการของการเป็นผู้นำแสงสว่างมาสู่ตนเองและปวงชน

    เทพทั้งของสุวรรณภูมิ ของอินเดียของฝรั่ง ก็ลงมากันโครมๆ เป็นที่สนุกสนาน และพิลึกพิลั่นในสายตาคนอื่นๆ ที่ไม่ถึงเวลาเจอเทพประจำตัวแผลงฤทธิ์ ก็ตำหนิติเตียนเอา แต่ก็ถือว่าได้ผลไปในระดับหนึ่ง อย่างน้อยๆก็เห็นการตื่นตัวในเรื่องของบุญกุศล มากกว่าสมัยที่เทพยังไม่ได้ลงมา จากนั้นก็ตามด้วย พญานาคา นาคี คนธรรพ์ ครุฑ กินร กินรี ฤาษี ออกมาวาดลวดลายกันเต็มๆ

    ในขณะเดียวกันฝ่ายมารก็ใช่ย่อย เขาก็มีของเขาต่างก็พากันลงมาเช่นกัน และเริ่มสร้างความเสื่อมให้ปรากฏในแวดวงคนสายเทพ แฝงมาว่าเป็นองค์นั้นองค์นี้บ้าง บวกกับกิเลสของมนุษย์ ทำให้ปฏิบัติการของมารเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ หลายแห่งก็กลายเป็นสำนักทำคุณไสยมนต์ดำ เป็นเครื่องมือให้กับความชั่วร้าย สยายปีกเข้าสู่เหล่าครูบาทั้งหลาย กลายเป็นนักบวช ทำพิธีกรรมบอกใบ้ให้หวย หรือส่งพรายไปทำร้ายฝ่ายตรงกันข้าม แบบไม่ต้องกลัวตำรวจจับ

    แม้กระทั่งนักการเมือง ผู้เคยยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ก็ล้วนแล้วแต่ชอบใช้บริการของฝ่ายมารด้วยกันทั้งสิ้น และแน่นอนที่สุด ความปั่นป่วนก็ตามมาอีกเช่นเคย เฮ้อ ฟังแล้วก็ปวดขมองแทนเดอะวันเหมือนกันนะ


    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/nithan-ni-buru-khun-nopp/bi-ru-ni-txn-thi-4
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิทาน ริบูนิ ของคุณ Nopp
    ตอนที่ 5


    ทางออกของปัญหาของดาวเคราะห์โลก

    ทุกอย่างเริ่มเข้าสู่ทางตัน ทุกวิธีที่มีอยู่ได้ถูกนำเอาใช้และไม่ได้ผล ดวงจิตที่อาสาลงมาเกิดทั้งแบ่งภาคมา ทั้งเอาหลายส่วนของหลายภาคมาปนเปกัน เกิดเป็นดวงจิตใหม่บ้างก็มี ทุกดวงจิตก็ไปติดอยู่กับกฏแห่งกรรมอันเป็นกฏสูงสุดของการปกครองในระบอบโลก พอลงมาเกิดปั๊ปก็จะมีเจ้ากรรมนายเวรรออยู่กันสลอน ก็จะต้องประสบปัญหาและอุปสรรคนานาประการ

    ยิ่งเป็นดวงจิตของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ก็ยิ่งต้องมาพบกันสารพัดเรื่องราวและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย เพราะข้อมูลของกรรม หรือการกระทำที่ผ่านมาได้ถูกบันทึกไว้ในดีเอ็นเอที่อยู่ในยีนของแต่ละคน พูดง่ายๆตามภาษาชาวบ้านก็คือเหมือนนักมวยลงเวที ร้องอุแว้ๆปั๊ป ก็เหมือนมีเสียงกรรมการบอกว่าชก ถ้าเจอคู่ชกรุ่นใหญ่กว่าก็ตุปัดตุเป๋เมาหมัดอยู่บนเวที ทีนี้ เวลาชีวิตนี้นะมันไม่มีหมดยก และไม่มีสิทธิ์เลือกคู่ชก แถมคู่ชกอาจมาทีเป็นฝูง ส่วนกรรมการสั่งชกแล้วก็เดินหนี ทิ้งเราอยู่บนเวทีแต่ผู้เดียว

    พี่เลี้ยงของเรา ก็คือเหล่าดวงจิตเดิมที่แบ่งมานะแหละ รอลุ้นกันอยู่ข้างเวที บางทีก็ทะเลาะกันเองถึงวิธีแก้ปัญหาให้เรา ทีนี้มาติดปัญหาอีกอันหนึ่งคือเราผู้อยู่บนเวที จะได้ยินเสียงตะโกนบอกของท่านพี่เลี้ยงหรือเปล่า? เช่นท่านบอกว่าซ้ายๆ ให้เราหลบกำปั้น เราได้ยินก็หลบทัน ไม่ได้ยินก็อ่วม นี่คือเวทีชีวิตจริงๆ

    แต่เบื้องบนก็มิได้ทอดทิ้งเรา ให้ผจญภัยแบบไม่มีพักยกหรอก วิธีเดียวที่จะได้พักและหยุดจากเหล่าเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย คือการให้เราบวชจิต เช่นไปเข้าวิปัสสนากรรมฐาน นั่นคือช่วงเวลาเดียวเท่านั้นที่จะได้พักยก เมื่อจิตวิญญาณทั้งหลายตกอยู่ในเงื่อนไขของกฏแห่งกรรมที่บันทึกอยู่ในดีเอ็นเอ บวกกับมารที่สยายปีกใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มาชักจูงให้มนุษย์เลิกล้มความตั้งใจเดิม ที่จะมาเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงาม

    ทุกหนทุกแห่งจึงเต็มไปด้วยปัญหา แม้กระทั่งจิตวิญญาณของผู้ปฏิบัติในระดับอนาคามี อีกก้าวเดียวก็จะถึงซึ่งความหลุดพ้นก็ยังถูกมารลากเอาไปกินตลอด ดังที่เห็นเป็นข่าวมากมาย และที่ยังไม่เป็นข่าวอีกเท่าไหร่ละ นับไม่ถ้วนทีเดียว บางท่านได้เลื่อนระดับไปถึงขั้นที่สามารถเชื่อมจิตวิญญาณกับพี่เลี้ยงระดับสูงสุดแล้ว ก็ยังไม่วายถูกมารมาหลอกอีกจนได้

    แม้กระทั่งมนุษย์บางคน ที่ผ่านการกลั่นกรองคัดเลือก ให้เตรียมรับพระญาณบารมีของพระเจ้าจักรพรรดิ ที่จะมาปรากฏกับมนุษย์สามคนก็ยังมีอันผิดเพี้ยน พระองค์ท่านได้เสด็จมาโปรดและก็ต้องล่าถอยไป และมีการเปลี่ยนตัวบุคคลไปเรื่อยๆ ซึ่งตรงนี้ก็พอจะเข้าใจอยู่ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ยิ่งญาณบารมีสูงเท่าไหร่ กองทัพมารระดับอภิมหาพญามารก็จะเข้ามา ระดมห่ากระสุนอาวุธทุกชนิด นางพญามารก็จะเข้าปฏิบัติการด้านมารยาสาไถยตอแหล เอาอ่วมไปตามๆกัน

    ดังนั้นจะหวังพึ่งมนุษย์ที่มีพี่เลี้ยงองค์ใหญ่องค์โต มาช่วยเหลือ มนุษยชาติก็ยิ่งมีอุปสรรค ที่สำคัญคือผู้ที่มีศักยภาพมากมายเหล่านี้ มีจุดอ่อนชนิดเดียวกันหมด นั่นก็คืออัตตาตัวตนและอัตตาที่สำคัญตนว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นคนเก่ง ก็จะเริ่มหยิ่งยะโส ลำพองไปกับสิ่งลวงตาทั้งหลาย เกิดการแข่งขันกันและกันแทน ก็เสร็จเรียบร้อยโรงเรียนมารไปอีก นี่แหละคือปัญหาที่เราทั้งหลายต่างประสบกันอยู่ในเวลานี้

    จะไปหาครูบาอาจารย์ดีๆ ก็ยิ่งเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ดีได้แต่เด่นไม่ได้ แล้วถ้าไม่เด่นก็ไม่รู้สิว่ามีดีและอยู่ที่ไหน? เดอะวันนั่งกุมขมับอยู่จนกระทั่งใกล้เวลาที่ดาวบิรูนิ จะมาถึงวงโคจรชั้นในของระบบสุริยะ ท่านได้คำนวณดูแล้วว่าเที่ยวนี้คงจะเหลือแค่โนอาห์กระมัง ท่านจึงเตรียมการคัดเลือกโนอาร์ไว้สำหรับสืบเผ่าพันธุ์มนุษย์ ในประเทศไทยนี้ก็ได้คัดเลือกสถานที่และคณะบุคคลไว้รองรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ส่วนในต่างประเทศก็เช่นเดียวกัน ได้มีการจัดเตรียมโนอาร์ไว้รองรับในแต่เขตแต่ละโซนไป และแล้วจู่ๆ ท่านก็ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงแผนงานเดิมที่เคยมีมากับโลก ครั้งนี้เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญมาก และจะเปลี่ยนแปลงดาวเคราะห์โลกนี้ไปอย่างสิ้นเชิง

    แผนงานของท่านมีดังนี้

    1.เข้ายึดระบบบิรูนิทั้งหมด และเลื่อนเวลาโคจรของบิรูนิออกไปก่อนสองถึงสามปี ซึ่งงานนี้ก็เป็นงานหินพอสมควร ต้องใช้กองกำลังของหลายๆฝ่ายในเครือจักรภพแห่งสมาพันธ์จักรวาลเข้ามาช่วย

    ถ้าท่านสังเกตดูภาพถ่ายของดาวในระบบ จะเห็นว่าเป็นดาวทึบๆ แต่มีแสงสว่างเกาะเป็นจุดๆ นี่ก็คือการใช้ยานหลายๆ ลำเข้าควบคุมวงโคจรของดาวแต่ละดวงในระบบ ซึ่งทั้งระบบมีดาวอยู่ 7 ดวง บางดวงก็ใหญ่กว่าโลกหลายเท่า งานนี้ถูกปิดเป็นความลับขั้นสูงสุด จะให้ใครรู้ไม่ได้เลย เพราะต้องการลวงกลุ่มผู้ยึดครองโลกอยู่ตอนนี้ ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของมนุษยชาติ และเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับท่านให้หลงทาง

    นี่คือเหตุผลที่การทำนายเรื่องบิรูนิ และการล่มสลายของโลกจึงผิดพลาดไป และทำให้หลายๆท่านต้องเสียหน้าและเสียท่า ถูกโจมตีอย่างหนักสร้างความปวดร้าวและสั่นคลอนศรัทธา ให้กับผู้หวังดีต่อมนุษยชาติไปหลายท่านเหมือนกัน เดอะวันก็คงได้แต่ขอโทษลูกหลานอยู่ในใจ ความลับนี้ไม่อาจแพร่งพรายได้จริงๆ เพราะนี่พอจะเป็นแต้มต่อให้เดอะวันสามารถเผด็จศึกลูกหลานฝั่งตะวันตก ที่กลายเป็นเครื่องมือมาร หรือกลายเป็นมารตัวพ่อตัวแม่ออกทำลายล้างพี่น้องร่วมโลกอยู่ในทุกวันนี้

    แต้มต่อตัวนี้ยังประโยชน์กับเดอะวันในการต่อกรกับพวกนี้ ในเวลานี้พวกเขาระส่ำระส่ายและจับต้นชนปลายไม่ถูก ดูๆไปก็คงไม่ต่างจากอดีตผู้นำชาติท่านหนึ่ง ที่ได้รับรายงานผิดพลาดจากเหล่าบริวาร และโดนลับลวงพรางจากนายทหารเอกของเมืองสุวรรณภูมิไปหมาดๆ นี้แหละ เอาซะเสียศูนย์ไปเลย

    2.การคัดแยกมนุษย์ออกจากกันโดยสิ้นเชิง ด้วยการจัดหาดาวอีกสองดวงให้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของระบบสุริยะ เพื่อใช้เป็นที่อยู่ของมนุษย์ ที่เราจะใช้คำเรียกเข้าใจง่ายๆ ก็คือพวกบัวใต้น้ำกับบัวกลางน้ำ

    พวกบัวใต้น้ำจะถูกนำไปอยู่บนดาวดวงใหม่ ที่มีความคล้ายคลึงกับโลกด้านกายภาพ แต่ด้อยในเรื่องของพัฒนาการและความเป็นอยู่ เหมือนกับให้พวกเขาเหล่านี้เจริญเติบโต และเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมของโลกยุคสามพันปีที่แล้ว คือต้องลำบากและต้องมีการรบราฆ่าฟันกัน ซึ่งก็คงจะเหมาะสมกับมนุษย์หลายๆ คนที่เราต่างรู้จักอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ พวกที่มีความโหดร้ายก็คงต้องให้ไปอยู่ในที่เขาชอบและเอาไปไว้ด้วยกัน

    พวกบัวกลางน้ำจะถูกนำไปอยู่บนดาวดวงใหม่ที่มีความคล้ายคลึงกันกับโลกด้านกายภาพ และมีพัฒนาการที่ถอยหลังไปเพียงสามร้อยปี คือไม่สบายมากแต่ก็ไม่ลำบากมาก และก็ให้ไปเรียนรู้อยู่ด้วยกันกับกลุ่มคนที่นิสัยใจคอคล้ายๆกัน ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนชุดนี้น่าจะเป็นพวกที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม

    ถ้าติดตามข่าวก็จะทราบว่า มีการค้นพบดาวที่ลักษณะคล้ายโลกอยู่ใกล้ๆ หลายดวง และล่าสุดที่มีการกล่าวถึงมากก็คือดาวที่มีชื่อว่าเซเรสที่แปลเป็นไทยว่าแม่โพสพนั่นเอง หรือบอกให้ละเอียดไปเลยก็ได้ว่า งานนี้พระแม่โพสพอาสามาทำหน้าที่เป็นดาวเคราะห์ ให้มนุษย์ได้อยู่อาศัยเพาะปลูกทำการกสิกรรมและพัฒนาจิตวิญญาณต่อไป

    3.ทำการปรับแต่งดาวเคราะห์ในปัจจุบัน ให้มีการสั่นสะเทือนของระดับพลังงานที่สูงขึ้น เพื่อรองรับจิตวิญญาณของมนุษย์ที่ถูกเลือก ให้ดำรงอยู่ต่อไปบนโลกใบนี้ ซึ่งจะเป็นการสั่นสะเทือนในระดับที่สูงมาก เหมาะกับคนที่มีจิตใจคิดถึงผู้อื่นหรือส่วนรวมมาก่อน พูดง่ายๆก็คือโลกจะได้รับการชำระล้างใหม่ ผ่านการเข้ามาของระบบบิรูนิ และรอดจากการถูกทำลายโดยแรงดึงดูด และสะเก็ดอุกาบาตส่วนหางของบิรูนิตอนเคลื่อนห่างออกไปจากโลก

    วิธีการที่จะทำให้โลกรอดก็คือ

    3.1 เก็บขยะมนุษย์ออกไปก่อน ค่อยๆทยอยลดจำนวนมนุษย์ลง ด้วยการเปิดมิติและให้พลังงานที่บันทึกกรรมได้ปลดปล่อยกรรม ให้เจ้ากรรมนายเวรได้มาคิดบัญชีกรรมและจบลงด้วยการเสียชีวิตทั้งเดี่ยวๆและตายหมู่ครั้งละมากๆ ที่เหลือก็คือ จิตวิญญาณที่จะถูกนำไปไว้ที่โลกใบใหม่ที่เหมาะสม จะเห็นได้ว่าปฏิบัติการนี้ได้เกิดขึ้นมาโดยตลอด และจะยิ่งทวีความรุนแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะครบตามจำนวนที่จะต้องถูกย้ายไป เท่าที่ทราบตอนนี้โลกใบใหม่ที่ว่านี้ ก็ได้มีคนอยู่กันสำราญดีและก็กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา

    ท่านฝากประกาศหาอาสาสมัคร ไปช่วยพัฒนาโลกใบที่ว่านี้ด้วยค่ะ ใครสนใจก็จะถูกรับตัวไปอยู่ที่นั่นและท่านก็จะไปเป็นพวกอัฉริยะเป็นผู้นำชุมชน (เพราะท่านก้าวหน้ากว่าคนที่นั่นไปสามร้อยปีไงคะ หรือจะเอาแบบสามพันปีก็ได้นะคริคริ) ในการตายหมู่บางครั้งก็มีการพลาดพลั้ง ได้ดวงจิตที่ดีงามติดไปด้วย ท่านที่มีญาติที่ท่านคิดว่าเขาเหมาะสมกับโลกใบนี้ ก็จงอย่าได้วิตกกังวล เพราะเขาเหล่านั้นจะได้รับโอกาสให้มาเกิดใหม่อีกครั้ง ในทันทีบนโลกใบเดิมนี้แหละ

    3.2 ปรับแต่งพลังงานของโลก ด้วยการปฏิวัติระบบเส้นแรงแม่เหล็กไปเป็นระบบแก้วผลึกคริสตัล เรื่องนี้จะดูซับซ้อนแต่จะไม่ขอลงไปในรายละเอียด เพราะได้ลงโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปเยอะแล้วในเฟสบุ๊คนี้ เอาเป็นว่าอีกไม่นานเส้นแรงแม่เหล็กโลกจะหมดไปเลย และจะมีโครงข่ายคริสตัลมาปกป้องโลกแทน จะมีการเปิดรหัสแก้วผลึกสีเงินยวงที่อยู่ในใต้พื้นผิวโลก ให้มาทำปฏิกิริยากับเส้นแสงพลังงานสีทองที่ขอบฟ้า เราจะได้เห็นเส้นขอบฟ้าสีใหม่ในอีกไม่ช้านี้

    3.3 การสร้างแกนโลกใหม่ เพื่อแก้ไขมิให้แกนโลกเอียงตามระบบบิรูนิในช่วงขาออกจากระบบสุริยะ โดยทางเดอะวันได้มอบหมายให้ปู่อินทร์ตาทิพย์แหงเขาภูตำแย เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการสร้าง

    รายละเอียดจะลงให้ในตอนต่อไปค่ะ

    สงสัยนิยายเราต้องขายดีแน่
    ก่อนหน้านี้มีการเจอแสงเป็นดวงๆที่ดาวเซเรส/ดาวพระแม่โพสพ
    คิดว่าเป็นยานยูเอฟโอ ตอนนี้สงสัยว่าจะมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ที่นั่นด้วย
    และมีมนุษย์ต่างดาวตัวเขียวๆด้วยล่ะ
    (ท่านเหล่านี้มาเยี่ยมพวกเรากันอยู่บ่อยๆ ภูมิธรรมสูงมาก
    น่าจะไปเยี่ยมสำนักสงฆ์ที่ถ่ายภาพทะลุมิติได้เช่นกันค่ะ
    ชอบทานขนมกรุปกรอบซะด้วย อิอิ)

    แน่นอน ก็นิยายของเราบอกหมดแล้วนี่นาว่า
    คนที่เราไม่คบด้วย ตอนนี้เริ่มทยอยกันย้ายไปอยู่ที่นี่กันเรื่อยๆ
    ปู่อินทร์บอกว่าจะเก็บกวาดไปให้หมด น่าจะอีก 2-3 ปี
    ใครอยากไปเร็วๆก็รีบแสดงตัวออกมาในหน้าเฟซนี้ก็ได้
    ฝ่ายเก็บกวาด ท่านเข้ามาอ่านและตรวจจากในนี้ด้วย


    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/nithan-ni-buru-khun-nopp/bi-ru-ni-txn-thi-5
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2018
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...