โศกนาฏกรรม พระนางเรือล่ม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 12 มกราคม 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [SIZE=-1][​IMG][/SIZE]​




    [SIZE=-1]สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี[/SIZE]
    [SIZE=-1]จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี[/SIZE]​

    [SIZE=-1]สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี หรือ พระนางเรือล่ม ทรงเป็นพระมเหสีเทวีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาเปี่ยม ทรงมีพระเชษฐาพระขนิษฐา ๖ พระองค์[/SIZE]

    [SIZE=-1]• พระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตนรไชย (พระองค์นี้ได้รับพระนามตามบทบาทของเจ้าจอมมารดา) [/SIZE]
    [SIZE=-1]• พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ) [/SIZE]
    [SIZE=-1]• พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์(สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีพระองค์แรกในรัชกาลที่ ๕) [/SIZE]
    [SIZE=-1]• พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา (สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า) [/SIZE]
    [SIZE=-1]• พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี (สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ) [/SIZE]
    [SIZE=-1]• พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์) [/SIZE]

    [SIZE=-1]พระนางเรือล่มประสูติเมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๐๓ พระอิสริยยศเมื่อแรกประสูตินั้นคือ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา(เจ้าจอมมารดาเปี่ยม) เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๑ พระองค์ได้เฉลิมพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สถาปนาเป็น พระนางเธอ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ในปี พ.ศ. ๒๔๒๑[/SIZE]

    [SIZE=-1]สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี เสด็จทิวงคต เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ เนื่องจากอุบัติเหตุเรือล่ม ที่ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ในระหว่างทางเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระราชวังบางปะอิน พร้อมกับพระราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ พระชนมายุ ๑ พรรษา ๙ เดือน ๒๐ วัน และเจ้าฟ้าในพระครรภ์ ๕ เดือน[/SIZE]

    [SIZE=-1]สาเหตุที่ทำให้สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์เสด็จทิวงคต เนื่องจากเรือของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระพันปีหลวงแล่นแซง และนายท้ายเรือของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์เมาเหล้าทำให้เรือล่ม โดยส่วนพระองค์แล้วพระองค์ทรงว่ายน้ำเป็น ทว่าทรงห่วงพระราชธิดา จึงสิ้นพระชนม์ไปพร้อมกัน รวมทั้งพระพี่เลี้ยงที่ว่ายน้ำไม่ได้อีกคนหนึ่ง ในขณะนั้นบริเวณที่เกิดเหตุมีพวกมอญกำลังขุดทรายอยู่ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะกฎมณเฑียรบาลได้ห้ามให้ผู้ใดแตะต้องพระวรกายของพระมเหสี มิฉะนั้นจะถูกประหารทั้งตระกูล[/SIZE]

    [SIZE=-1]และในปีนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯสถาปนาพระนางเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พร้อมกับ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระขนิษฐภคินี นอกจากนั้นพระองค์ยังทรงได้สร้าง อนุสาวรีย์พระนางเรือล่ม ที่พระราชวังบางปะอินด้วย[/SIZE]



    [SIZE=-1][​IMG][/SIZE]
    [SIZE=-1]ภาพในพระราชพิธีถวายพระเพลิง[/SIZE]
    [SIZE=-1]ได้มีการถวายพระเพลิงศพทั้ง ๒ พระองค์เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๔[/SIZE]

    [SIZE=-1]บรมราชินีนาถ และ พระภรรยาเจ้า ใน รัชกาลที่ ๕ [/SIZE]

    [SIZE=-1]พระบรมราชินีนาถ[/SIZE]
    [SIZE=-1]สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระพันปีหลวง[/SIZE]

    [SIZE=-1]พระบรมราชเทวี[/SIZE]
    [SIZE=-1]สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า • สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ บรมราชเทวี[/SIZE]

    [SIZE=-1]พระอัครราชเทวี[/SIZE]
    [SIZE=-1]สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี[/SIZE]

    [SIZE=-1]พระอรรคชายา[/SIZE]
    [SIZE=-1]พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค กรมขุนอรรควรราชกัลยา • พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ • พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา[/SIZE]

    [SIZE=-1]พระราชชายา[/SIZE]
    [SIZE=-1]พระราชชายา เจ้าดารารัศมี[/SIZE]

    [SIZE=-1]เจ้าจอมมารดา[/SIZE]
    [SIZE=-1]เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ • เจ้าจอมมารดาจันทร์ • เจ้าจอมมารดาชุ่ม • เจ้าจอมมารดาแช่ม • เจ้าจอมมารดาโหมด • เจ้าจอมมารดาตลับ • เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์ย้อย อิศรางกูร • เจ้าจอมมารดาหม่อมราชวงศ์แข พึ่งบุญ • เจ้าจอมมารดาเจ้าทิพเกษร ณ เชียงใหม่ • หม่อมราชวงศ์เกสร สนิทวงศ์ • เจ้าจอมมารดาหม่อมราชวงศ์เนื่อง สนิทวงศ์ • เจ้าจอมมารดาทับทิม • เจ้าจอมมารดาเรือน • เจ้าจอมมารดาพร้อม • เจ้าจอมมารดาวง • เจ้าจอมมารดาวาด • เจ้าจอมมารดาเลื่อน • เจ้าจอมมารดาแส • เจ้าจอมมารดาแสง • เจ้าจอมมารดาสุด • เจ้าจอมมารดามรกฎ • เจ้าจอมมารดาเหม • เจ้าจอมมารดาอ่วม • เจ้าจอมมารดาอ่อน บุนนาค[/SIZE]

    [SIZE=-1]เจ้าจอม[/SIZE]
    [SIZE=-1]เจ้าจอมเอี่ยม บุนนาค • เจ้าจอมเอิบ บุนนาค • เจ้าจอมอาบ บุนนาค • เจ้าจอมเอื้อน บุนนาค • เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ • เจ้าจอมกลีบ เทพหัสดิน ณ อยุธยา • เจ้าจอมลิ้นจี่ เทพหัสดิน ณ อยุธยา • เจ้าจอมฟักเหลือง เทพหัสดิน ณ อยุธยา[/SIZE]



    [SIZE=-1]พระภรรยาเจ้าชั้นลูกหลวงในรัชกาลที่ห้า[/SIZE]
    [SIZE=-1]โดย : คุณจุลลดา ภักดีภูมินทร์ / ที่มา : สกุลไทย[/SIZE]

    [SIZE=-1]พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ๕ พระองค์ ทรงเป็นพระภรรยาเจ้าชั้นลูกหลวงในรัชกาลที่ ๕ แต่ละพระองค์ สมเด็จพระบรมชนกนาถทรงผูกดวงพระชะตา พร้อมคาถาพระราชทานพระนาม พระราชทานให้เมื่อประสูติ [/SIZE]

    [SIZE=-1]ทว่ามีปรากฏอยู่เพียง ๔ พระองค์ พระองค์ใหญ่คือ พระองค์เจ้าทักษิณชานราธิราชบุตรี นั้นไม่ปรากฏคาถาพระราชทานพระนาม รวมทั้งอีกสองพระองค์ใหญ่ พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ฯ และพระองค์เจ้าโสมาวดีฯ ก็ไม่ปรากฏ พระราชโอรส พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ๘๔ พระองค์ท่านทรงรวบรวมคาถาพระราชทานพระนามได้เพียง ๔๑ พระองค์เท่านั้น นับตั้งแต่พระองค์เจ้าคัคณางคยุคล (กรมหลวงพิชิตปรีชากร) พระราชโอรสลำดับที่ ๒๐ เป็นพระองค์แรกลงไป [/SIZE]




    [SIZE=-1]<CENTER>[​IMG][/SIZE]
    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าทักษิณชานราธิราชบุตรี [/SIZE]
    [SIZE=-1]พระภรรยาเจ้าชั้นลูกหลวงพระองค์แรก ในรัชกาลที่ ๕[/SIZE]

    [SIZE=-1][​IMG][/SIZE]
    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ [/SIZE]
    [SIZE=-1](สมเด็จพระนางเจ้า สุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี) [/SIZE]

    [SIZE=-1][​IMG][/SIZE]
    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี [/SIZE]
    [SIZE=-1](สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี)[/SIZE]

    [SIZE=-1][​IMG][/SIZE]
    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา [/SIZE]
    [SIZE=-1](สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า) [/SIZE]

    [SIZE=-1][​IMG][/SIZE]
    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี [/SIZE]
    [SIZE=-1](สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี)</CENTER>[/SIZE]
    [SIZE=-1]พระราชธิดาทั้ง ๔ พระองค์ (เว้นแต่พระองค์เจ้าทักษิณชาฯ ซึ่งยังไม่ทันจะได้รับพระอิสริยยศ พระนางเธอ พระนางเจ้า และสมเด็จพระนางเจ้า ดังอีก ๔ พระองค์ ก็มีเหตุให้ทรงประชวรตั้งแต่พระราชโอรสสิ้นพระชนม์เสียแต่วันแรกประสูติ) [/SIZE]

    [SIZE=-1]ลำดับตามพระชันษา คือ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา และ พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี นั้น หากพิจารณาตามคำแปลคาถาพระราชทานพระนาม จะเห็นได้ว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงพระปรีชาในการผูกดวงชะตา ทรงทายทักดวงพระชะตาพระราชธิดา แต่ละพระองค์อย่างแม่นยำ [/SIZE]
    [SIZE=-1]แต่ละพระองค์ นอกจากพระพรตามธรรมดาๆ เช่น ให้มีความสุข ไม่มีโรค มั่งคั่ง ฯลฯ แล้ว จะทรงเน้นพระพรพิเศษแตกต่างกันออกไป ตามที่คงจะได้ทรงมีพระวิจารณญาณต่อดวงพระชะตานั้นๆ [/SIZE]

    [SIZE=-1]พระพรพิเศษ พระราชทาน [/SIZE]
    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ทรงขอให้พระพุทธพระธรรม พระสงฆ์ ทั้งเทพดาอารักษ์ ช่วยปกปักรักษาให้พ้นจากอันตราย [/SIZE]
    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชทานพระพรพิเศษให้ได้ที่พึ่งอันบริบูรณ์ด้วยกำลังเป็นที่ต้องใจ [/SIZE]
    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา พระพรพิเศษ คือ ให้เป็นผู้ประเสริฐ ไม่มีใครเลิศขึ้นกว่า ตั้งอยู่ในวงศ์ของบิดาจนสิ้นกาลนาน คือพระชนมายุยืนนาน [/SIZE]
    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี นั้น พระราชทานพรพิเศษยาวกว่าพระองค์อื่นๆ ให้เป็นผู้มีอำนาจ ให้รักษาไว้ซึ่งยศของบิดามารดา พี่ชาย น้องหญิง ให้ดีงามในกาลทั้งปวง [/SIZE]

    [SIZE=-1]คำแปลคาถาพระราชทานพระนาม พระราชธิดาทั้ง ๔ พระองค์ โดยละเอียดว่าดังนี้ [/SIZE]

    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (สมเด็จพระนางเจ้า สุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี หรือที่พากันออกพระนามตามเหตุที่บังเกิดขึ้นว่า สมเด็จพระนางเรือล่มบ้าง พระนางเรือล่ม บ้าง) ว่า “พระองค์เจ้าหญิงองค์นี้ ทรงนามว่า สุนันทากุมารีรัตน์ อย่างนี้ ดังนี้ จงอย่ามีโรค จงมีความสุข ปราศจากทุกข์และความวุ่นวายเถิด พระองค์เจ้าหญิงนั้นจงมั่งคั่งด้วยทรัพย์มาก มีโภคมาก มียศและบริวารไม่แปรผัน ขอพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ กับทั้งอารักขเทพดา จงช่วยอภิบาลรักษา พระองค์เจ้าหญิงสุนันทากุมารีรัตน์นั้น ให้พ้นไปจากอันตรายเป็นนิตย์ ขอความสัมฤทธิ์จงมีแก่พระองค์เจ้าหญิงสุนันทากุมารีรัตน์เทอญ” [/SIZE]

    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี (พระนางเธอ พระองค์เจ้าฯ พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี และ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี) ว่า “ธิดาของเราผู้บังเกิดแต่สำลีนี้ จงปรากฏโดยนามว่า สุขุมาลมารศรี จงทรงนามนั้นไว้ มีสุขเสมอ อนึ่งจงมั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีบริวาร งดงาม ไม่มีโรค ไม่ลำบาก เจริญโดยลำดับ จงได้ซึ่งที่พึ่งอันบริบูรณ์ด้วยกำลังเป็นที่ต้องใจ” [/SIZE]
    [SIZE=-1]สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าฯนี้ เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ทรงมีพระราชโอรส ๑ พระราชธิดา ๑ และ สมเด็จพระราชโอรสนั้น ในรัชกาลที่ ๕ ที่ ๖ และที่ ๗ ทรงเป็น ‘กำลัง’ สำคัญของแผ่นดินตลอดมา สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าฯ ทรงสนิทเสน่หาพระราชโอรสยิ่งนัก สมเด็จพระราชโอรสก็ทรงเคารพรักพระชนนีนักหนา และทรงประพฤติพระองค์เป็น ‘ที่พึ่ง’ ของพระชนนีตลอดพระชนมชีพของสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าฯ สมดังพระพรพิเศษของสมเด็จพระบรมชนกนาถที่ได้พระราชทานพระชนนีไว้ [/SIZE]

    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา (สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า) ว่า “พระนามซึ่งชื่อว่าสว่างวัฒนานี้ พระราชทานให้แก่พระราชกุมารีองค์ใด พระราชกุมารีองค์นั้นผู้เป็นบุตรี จงมีความสุข อย่ามีโรคและอย่ามีความวุ่นวายเลย จงมั่งคั่งด้วยทรัพย์มาก จงมียศสมบัติเป็นผู้ประเสริฐ ไม่มีใครเลิดขึ้นกว่า จงตั้งอยู่ในวงศ์ของบิดาสิ้นกาลนานเทอญ” [/SIZE]

    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา ทรงได้รับสถาปนาเป็น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชเทวี เมื่อพระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ สิ้นพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง โปรดเกล้าฯสถาปนาพระองค์เจ้าสุนันทาฯ ขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชเทวี พระองค์แรก และสถาปนา พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชเทวี ในวาระนั้นด้วย [/SIZE]

    [SIZE=-1]ต่อมาถึงแม้ว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศฯ สวรรคตแล้ว และพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงสถาปนา สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ พระราชโอรสในสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระอัครราชเทวี ขึ้นเป็น มกุฎราชกุมารแทน และโปรดเกล้าฯ สถาปนา สมเด็จฯเสาวภาผ่องศรี พระอัครราชเทวี ขึ้นดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แต่ก็มิได้ลดพระอิสริยยศ พระบรมราชเทวีลง จึงทรงเป็นพระบรมราชเทวี อันเป็นตำแหน่งพระอัครมเหสี คู่กันกับพระบรมราชินีนาถ ตลอดมา [/SIZE]

    [SIZE=-1]ในรัชกาลที่ ๕ ถึงรัชกาลที่ ๖ จึงได้โปรดฯให้มีการจัดลำดับพระมเหสีเทวีในรัชกาลที่ ๕ เป็นระเบียบลดหลั่นกันไปตามพระอิสริยยศ คือ [/SIZE]

    [SIZE=-1]๑. พระบรมราชินีนาถ เป็นตำแหน่งพระอัครมเหสี (และทรงเติมว่า หากพระอัครมเหสี มิได้เคยทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนพระองค์ พระอิสริยยศ คือ ‘พระบรมราชินี’ ไม่มีคำว่า ‘นาถ’ ต่อเมื่อทรงสำเร็จราชการแผ่นดินแทนพระองค์จึงจะออกพระนามว่า พระบรมราชินีนาถ) [/SIZE]
    [SIZE=-1]๒. พระบรมราชเทวี ตำแหน่งเอกอัครมเหสีเดิม [/SIZE]
    [SIZE=-1]๓. พระราชเทวี (พระอัครราชเทวี) [/SIZE]
    [SIZE=-1]๔. พระอัครชายา [/SIZE]
    [SIZE=-1]๕. พระราชชายา [/SIZE]

    [SIZE=-1]สมเด็จพระศรีสวรินทิราฯจึงทรงพระเกียรติยศคงที่อยู่แม้จะมีตำแหน่งพระบรมราชินีนาถเพิ่มขึ้นมาในรัชกาลที่ ๕ ในรัชกาลที่ ๖ พระองค์ท่านทรงเป็นสมเด็จพระมาตุจฉาเจ้า (ป้าทางแม่) คู่กันกับสมเด็จพระพันปีหลวง ถึงรัชกาลที่ ๗ ทรงสถาปนาพระอิสริยยศสูงสุดเป็นสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสามาตุจฉาเจ้า แล้วทรงดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระศรีสวรินทิราฯ พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ในรัชกาลที่ ๘ และ รัชกาลที่ ๙ [/SIZE]

    [SIZE=-1]เห็นได้ว่า สมดังพระพรที่สมเด็จพระบรมชนกนาถ พระราชทานไว้ว่า “เป็นผู้ประเสริฐไม่มีใครเลิศขึ้นกว่า” [/SIZE]

    [SIZE=-1]พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี (พระนางเธอฯ พระนางเจ้าฯ พระวรราชเทวี สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระอรรคราชเทวี และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี ออกพระนามกันในรัชกาลที่ ๖ ว่า สมเด็จพระพันปีหลวง) ว่า “พระราชธิดาองค์นี้ ทรงพระนามว่า เสาวภาผ่องศรี เป็นพระราชบุตรีที่รัก จงมีความสุข อย่ามีโรค มียศอันประเสริฐ จงอย่ามีโทษในกาลทั้งปวงเลย อันใครผู้ใดผู้หนึ่งไม่พึงคุมเหงได้ จงมั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติมาก เป็นผู้มีอำนาจ ไม่หวั่นไหวด้วยเหตุเป็นอันมาก จงรักษาไว้ซึ่งยศของบิดามารดาพี่ชาย น้องหญิง ให้ดีให้งามในกาลทั้งปวง ด้วยอานุภาพของพระรัตนตรัย มีพระพุทธเจ้า เป็นต้น จงช่วยอภิบาลรักษาพระราชธิดาที่ทรงนามว่า เสาวภาผ่องศรีในกาลทั้งปวงเทอญ” [/SIZE]





    [SIZE=-1]<CENTER>[/SIZE]
    [SIZE=-1][​IMG]</CENTER>[/SIZE]


    [SIZE=-1]พระนางเรือล่ม[/SIZE]
    [SIZE=-1]โดย คุณสายทิพย์ / ที่มา นิตยสารหญิงไทย[/SIZE]

    [SIZE=-1]....ณ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา “วัดกู้” ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ในอดีตสถานที่นี้คือ จุดเกิดโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ยุคแผ่นดินพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 [/SIZE]

    [SIZE=-1]เหตุครั้งนั้นทำให้พระนางอันเป็นที่รักยิ่งของเจ้าแผ่นดินต้องมาสังเวยชีวิตสิ้นพระชนม์ลง ณ กลางแม่น้ำนั้น[/SIZE]

    [SIZE=-1]เหตุการณ์คราวนั้นถึงกับทำให้ “เจ้าเหนือหัว” ของคนไทย “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ถึงกับทรงพระกรรณแสง เพราะเป็นที่รู้กันตามประวัติศาสตร์ว่า ในบรรดาพระมเหสีและเจ้าจอมทั้งหลายนั้น “สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี” หรือที่เราคนไทยคุ้นกับพระนามของพระองค์ว่า “พระนางเรือล่ม” นั้นทรงเป็น “ที่รัก” และโปรดปรานยิ่งของ “องค์พระพุทธเจ้าหลวง”[/SIZE]

    [SIZE=-1]พระประวัติ “พระนางเรือล่ม” พระองค์ทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ลำดับที่ 50 พระมารดาคือ สมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชรินทรมาตา (เจ้าจอมมารดาเปี่ยม) ประสูติเมื่อวันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน ปีวอก พ.ศ. 2403 ณ พระบรมมหาราชวังทรงถวายองค์เป็นพระมเหสีในรัชกาลที่ 5 เมื่อเจริญพระชนมายุได้ 17 พรรษา ด้วยมีพระสิริโฉมงดงาม พระสติปัญญาฉลาดเฉียบแหลม จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศขึ้นเป็น “พระอัครมเหสี” และยังเป็นที่โปรดปรานสนิทเสน่หายิ่งกว่าพระอัครมเหสีองค์อื่น ๆ[/SIZE]

    [SIZE=-1]สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ ทรงมีพระราชธิดา พระองค์แรกเมื่อพระชนมายุได้ 19 พรรษา ทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ากรรณาภรณ์ เพชรรัตน์ จวบกระทั่งวันที่เสด็จทิวงคตเพราะเรือล่ม ณ วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2423 ขณะกำลังเสด็จฯ มายัง พระราชวังบางปะอินพระองค์ก็ทรงพระครรภ์ได้ 5 เดือน[/SIZE]

    [SIZE=-1]เหตุสลดในวันนั้นเล่ากันว่า สาเหตุที่ทำให้เรือของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ ล่ม เนื่องเพราะเรือพระพันปีหลวง หรือสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถบรมราชชนนี พันปีหลวงแล่นแซง ประกอบกับนายท้ายเรือของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ เมาเหล้า ขาดสติในการควบคุมเรือเรือจึงล่ม และทั้งที่พระองค์ก็ทรงว่ายน้ำได้ แต่เพราะความที่ทรงห่วงพระราชธิดา จึงต้องสิ้นพระชนม์ไปพร้อม ๆ กัน รวมทั้งพระพี่เลี้ยง รวมทั้งสิ้น 4 ศพ ที่จมอยู่ใต้ท้องเรือโดยที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะติดอยู่ที่กฎมณเฑียรบาลว่า ห้ามผู้ใดแตะต้องพระวรกายพระมเหสีมิฉะนั้นจะถูกประหารทั้งโคตร[/SIZE]

    [SIZE=-1]โศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นนี้ก่อนเกิดเหตุ ได้มีลางร้ายมาเตือนล่วงหน้าแล้วโดยก่อนที่เรือจะล่มในคืนหนึ่ง สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ ได้ทรงพระสุบินว่า พระธิดาของพระองค์ตกลงไปในน้ำ ด้วยความตกพระทัยจึงรีบคว้าพระธิดาจนตกลงไปในน้ำด้วยกัน แล้วได้ตื่นจากบรรทม ครุ่นคิดถึงการเสด็จฯ ไปพระราชวังบางปะอิน ในวันรุ่งขึ้นว่าต้องมีเหตุอะไรเกิดขึ้นกับพระองค์เป็นแน่ แต่ก็ยังหลีกเลี่ยงชะตากรรมไม่ได้จนพบจุดจบในที่สุด[/SIZE]

    [SIZE=-1]การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ ในครั้งนั้นมีเสียงร่ำลือในวังหลวงอย่างอื้ออึงว่า เพราะเป็นแผนการที่จงใจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ จากความอิจฉาริษยาของบรรดามเหสี และสนมนางในที่คิดหาหนทางกำจัด จนทำให้พระนางอันเป็นที่รักของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ต้องมาสิ้นพระชนม์ท่ามกลางข้อกังหา และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้าน และชาววังในยุคนั้น ก็ยังมีเรื่องน่าพิศวงอันเกิดจากอาถรรพณ์ของดวงพระวิญญาณตามมาด้วย[/SIZE]

    [SIZE=-1]เล่ากันว่าขณะกำลังงมค้นหาพระศพในวันที่เรือพระที่นั่งล่ม โดยชาวบ้านแถวนั้นทนเห็นเหตุการณ์ไม่ไหว พยายามช่วยลงมางมค้นหาพระศพก็เกิดเหตุอัศจรรย์ที่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ถึงขนาดทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ก็ไม่สามารถพบพระศพ จึงต้องไปเชิญหลวงจีนท่านหนึ่งนามว่า “สกเห็ง” ซึ่งเชี่ยวชาญทางวิปัสสนานั่งทางในมาทำการเสี่ยงทาย โดยเสกถ้วยน้ำชาให้ลอยไปตามกระแสน้ำหากถ้วยชาจมลงตรงจุดใด ก็ให้ชาวบ้านและทหารช่วยกันลงไปงมหา ซึ่งในที่สุดก็สามารถหาพระศพจนพบ ลักษณะพระศพที่เห็นนำความเศร้าสลดมาสู่สายตาผู้พบเห็นยิ่งนัก เป็นภาพพระนางโอบพระธิดาไว้แนบอก และพระศพที่พบก็จมอยู่ใต้ซากเรือพระที่นั่งนั่นเอง[/SIZE]

    [SIZE=-1]และเพราะเหตุที่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ ทรงสิ้นพระชนม์จากเรือพระที่นั่งล่มที่หน้าวัดกู้ กลางลำน้ำเจ้าพระยา จ.นนทบุรี ชาวบ้านจึงได้ร่วมใจตั้งศาลพระนางเรือล่มขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์ว่าครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ บริเวณนี้เคยเป็นสถานที่กู้พระศพของพระองค์ ซึ่งต่อมาหลังจากผ่านเหตุการณ์นี้มานานมากแล้ว ก็ยังเกิดเรื่องเล่าถึงดวงวิญญาณพระนางเรือล่มตามมามากมาย[/SIZE]

    [SIZE=-1]มีผู้พบเห็น และร่วมอยู่ในเหตุการณ์ความศักดิ์สิทธิ์ของดวงพระวิญญาณพระนางเรือล่มหลายครั้ง โดยชาวบ้านในละแวกวัดเล่าว่า ในสมัยก่อนที่หน้าศาลของพระนางเรือล่ม มักมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นเสมอโดยหลาย ๆ ครั้งจะมีฝูงจระเข้ว่ายน้ำมาคำนับที่หน้าศาลอยู่เป็นประจำ ทั้งที่ปกติจระเข้มักว่ายอยู่ใต้น้ำ แต่อาจเป็น เพราะจระเข้รับรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ท่าน ดังนั้นเวลาว่ายน้ำผ่านหน้าศาลทีไร จระเข้ทุกตัวเป็นต้องลอยตัวขึ้นมาคำนับทุกครั้งไป[/SIZE]

    [SIZE=-1]นอกจากนี้ยังเคยเกิดเหตุการณ์แปลก ๆ ขึ้นกับคนต่างถิ่น ที่ไม่เคยรู้จักเรื่องราวของพระองค์ท่าน บางคนดั้นด้นมาที่วัดกู้ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมา ก็เพราะเขาฝันว่ามีผู้หญิงสูงศักดิ์ท่านหนึ่งมาเข้าฝันบอกให้มาที่วัดกู้แล้วจะมีโชค เมื่อมาถึงก็ต้องตกตะลึง เมื่อมาเห็นภาพ และพระรูปปั้นที่อยู่ในศาลนั้นเหมือนกับผู้หญิงในความฝันไม่ผิดเพี้ยน[/SIZE]

    [SIZE=-1]อาถรรพณ์จากความศักดิ์สิทธิ์ของพระนางเรือล่มยังมีเล่ากันต่อมาอีกว่า เคยมีบางคนลบหลู่ไม่เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ พูดจาดูหมิ่นขณะพูดจบไม่ทันไรก็มีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้น โดยจู่ ๆ ก็วิ่งไปที่ท่าน้ำไม่รู้เนื้อรู้ตัวทำท่าจะกระโดดน้ำตาย หรืออย่างบางคนที่ชอบมาท้าสาบานที่ศาลของพระองค์ว่า ถ้าผิดจริงขอให้จมน้ำตาย ปรากฏว่าได้ตายสมใจ โดยตายอยู่ในอ่างน้ำตื้น ๆ ดังนั้นถ้าใครคิดมาลองสาบานอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าที่ศาลพระนางเรือล่ม ที่วัดกู้ ต้องขอบอกก่อนว่าอย่าเสี่ยงเป็นอันขาด[/SIZE]

    [SIZE=-1]ทุกวันนี้ชาวบ้านแถบ จ.นนทบุรี และผู้ที่มาจากต่างจังหวัดยังคงแวะเวียนมากราบไหว้พระนางเรือล่มที่ศาลอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่นิยมนำมาถวายพระองค์ท่านก็คือกล้วยเผา มาพร้าวอ่อนและพวงมาลัยมะลิสดส่วนศาลที่เห็นในปัจจุบันจะมี 2 ศาล คือศาลที่อยู่ริมน้ำกับศาลที่ตั้งอยู่ภายในวัด ซึ่งศาลนี้อันที่จริงเป็นศาลเดิม เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ศาลนี้เดิมก็อยู่ริมน้ำ แต่เพราะเวลาผ่านไปทำให้ดินทับถมกลายเป็นแผ่นดินงอกใหม่ ศาลนี้เลยกลายเป็นตั้งอยู่บนดินไป [/SIZE]
     
  2. รพินทร์ไพรวัลย์

    รพินทร์ไพรวัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ขอบคุณครับ
     
  3. ราศีสิงห์

    ราศีสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    815
    ค่าพลัง:
    +2,118
    [​IMG]
     
  4. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,714
    ค่าพลัง:
    +43,529
    ขออนุญาตแก้ไข


    ๑. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ โสภางคทัศนิยลักษณ์ อรรควรราชกุมารี ไม่ใช่ "สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ" พระเจ้าลูกยาเธอคือผู้ชาย พระเจ้าลูกเธอ คือ ผู้หญิง

    ๒. วันสิ้นพระชนม์เป็นวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๒๓ ไม่ใช่ "มกราคม"


    จ่ะ..... ^^
     
  5. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,714
    ค่าพลัง:
    +43,529
    เหตุสลดในวันนั้นเล่ากันว่า สาเหตุที่ทำให้เรือของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ ล่ม เนื่องเพราะเรือพระพันปีหลวง หรือสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถบรมราชชนนี พันปีหลวงแล่นแซง ประกอบกับนายท้ายเรือของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ เมาเหล้า ขาดสติในการควบคุมเรือเรือจึงล่ม และทั้งที่พระองค์ก็ทรงว่ายน้ำได้ แต่เพราะความที่ทรงห่วงพระราชธิดา จึงต้องสิ้นพระชนม์ไปพร้อม ๆ กัน รวมทั้งพระพี่เลี้ยง รวมทั้งสิ้น 4 ศพ ที่จมอยู่ใต้ท้องเรือโดยที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะติดอยู่ที่กฎมณเฑียรบาลว่า ห้ามผู้ใดแตะต้องพระวรกายพระมเหสีมิฉะนั้นจะถูกประหารทั้งโคตร


    ผู้ที่สั่งห้ามไม่ให้เข้าช่วย คือ พระยามหามนตรี (อ่ำ อมรานนท์) ทำไมไม่เห็นเอ่ยชื่อเลย....
     
  6. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,714
    ค่าพลัง:
    +43,529
    เล่ากันว่าขณะกำลังงมค้นหาพระศพในวันที่เรือพระที่นั่งล่ม โดยชาวบ้านแถวนั้นทนเห็นเหตุการณ์ไม่ไหว พยายามช่วยลงมางมค้นหาพระศพก็เกิดเหตุอัศจรรย์ที่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ถึงขนาดทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ก็ไม่สามารถพบพระศพ จึงต้องไปเชิญหลวงจีนท่านหนึ่งนามว่า “สกเห็ง” ซึ่งเชี่ยวชาญทางวิปัสสนานั่งทางในมาทำการเสี่ยงทาย โดยเสกถ้วยน้ำชาให้ลอยไปตามกระแสน้ำหากถ้วยชาจมลงตรงจุดใด ก็ให้ชาวบ้านและทหารช่วยกันลงไปงมหา ซึ่งในที่สุดก็สามารถหาพระศพจนพบ ลักษณะพระศพที่เห็นนำความเศร้าสลดมาสู่สายตาผู้พบเห็นยิ่งนัก เป็นภาพพระนางโอบพระธิดาไว้แนบอก และพระศพที่พบก็จมอยู่ใต้ซากเรือพระที่นั่งนั่นเอง

    ผู้ที่งมพระศพ ของทูลกระหม่อมหญิงได้ ชื่อว่า อ้ายเถอะ ทำไมไม่เห็นเอ่ยชื่อเลย.....
     
  7. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    [​IMG][​IMG]
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2010
  8. พรรณนา

    พรรณนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +1,178
    สมัยก่อนไม่มีการตรวจเจ้าหน้าที่ก่อนพายเรือรึไง หละหลวมเสียจริง...นายท้ายเรือไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ต้องสูญสิ้นพระนางอันเป็นที่รักยิ่ง-พระราชธิดาและพระโอรสที่อยู่ในพระครรภ์ ความวิปโยคของล้นเกล้าคงเจ็บปวดเหลือคณานับ....
     
  9. พรรณนา

    พรรณนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +1,178
    จำเริญจริงๆ พ่ออ้ายเถอะ ไม่มีแต่กระทั่งมหาดเล็กหลวง หรือ ทหาร ผู้สนองพระเดชพระคุณเลยหรอ....กลัวอาญาเยี่ยงนี้เลย...

    ล้นเกล้า ร.๕ ท่านคงแยกแยะได้สิ่งใดควร ปฏิบัติ สิ่งใดควรละเว้นโทษ

    *** พี่สร้อยฟ้า หากทราบต่อว่า อ้ายเถอะ หลังจากที่ช่วยงมพระศพแล้วเป็นอย่างไรต่อ แม้กระทั่งประวัติไม่เคยได้ทราบเลย ***

    ขอบคุณครับพี่สร้อยฟ้า
     
  10. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,714
    ค่าพลัง:
    +43,529
    เจ้าพระยามหามนตรี(อ่ำ อมรานนท์) กินตำแหน่งตำรวจหลวงอยู่....

    นายท้ายเรือ กระบวนเสด็จ เขาให้เมาสุราได้หรือ....

    ชั่งเถอะ เรื่องผ่านมาแล้ว .......

    เรื่อง อ้ายเถอะ เป็นข้าเสด็จในกรม ได้รับบำเหน็จรางวัลจากพระเจ้าอยู่หัว เมื่อเรื่องสืบสวนปรากฎจริงออกมา(แค่จริงบางส่วน ส่วนเรื่องจริงๆ ที่ไม่มีให้อ่าน ก็ไม่ควรบอกกล่าวต่อไป) ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2010
  11. wara99

    wara99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +898
    นี่แหละ ที่เขาเรียกว่า ชื่อเสียงวงศ์ตระกูล

    แล้วลูกหลานที่มารู้ที่หลัง ว่าบรรพบุรุษตนเองเป็นซะแบบนี้ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนนนนนน

    นี่เป็นอุธาหรณ์ ให้ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ทำเยี่ยงอย่างที่ไม่ดี เกรงใจลูกหลานบ้าง เดี๋ยวจะไม่กล้ามาเกิดในสกุล
     
  12. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,714
    ค่าพลัง:
    +43,529

    เป็นกรรมของเขา อย่าไปว่าเขาเลย.....
     
  13. wara99

    wara99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +898
    สมัยที่ผมเรียน วค. มีเพื่อนคนหนึ่งอยู่เอกสังคม มาเรียนอยู่เสียค่อนเทอม นามสกุลมันก็แปลก กว่าชาวบ้าน

    ดูเหมือนจะมีเชื้อผู้ดีมั้ง มาเรียน ไม่ค่อยสบตาใครเลย ทำอะไรเงียบๆคนเดียว ไม่เข้ากลุ่มใหน

    แม่มารับบ่อยๆ ก่อนจะจบ ผมดันไปอ่านเรื่อง ร. ๗

    อ้อไอ้นี้แกเป็นลูกหลาน พวกหัวหน้ากลุ่ม คณะราษฎร์ ต่อต้าน ร. ๗ นี่หว่า ถึงว่า ไม่เอาใคร
     
  14. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,714
    ค่าพลัง:
    +43,529
    พวกนี้เสียสัตย์ มาตั้งแต่ต้น
    ผ่านพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
    พระเจ้าอยู่หัวและเจ้านายทรงชุบเลี้ยงให้ได้ดิบได้ดี

    หลายคนได้ทุนหลวงคิงสกอร์ล่าชิพ ส่งเรียนไปเมืองนอก
    พอกลับมา ก็กลายเป็นผู้ที่กินบนเรือนถ่ายมูลบนหลังคา....
     
  15. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,714
    ค่าพลัง:
    +43,529
    อ้าว ออกนอกเรื่องไปแล้ว ไม่พูดดีกว่า..........
     
  16. วรุณบุตร

    วรุณบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +1,018
    อย่าพูดต่อเลยแม่สร้อย มันเป็นอดีตไปแล้วพาลจะทำให้ต้องเศร้าโศกกันไปต่ออีกมันเป็นวาระกรรมส่งผล เราก็ได้แต่เรียนรู้กับสิ่งที่ผ่านไปแล้วเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็ไม่ต้องไปใส่ใจมากใครทำเช่นไรกฏแห่งกรรมท่านเสมอภาคทุกคนอยู่แล้ว

    รู้เพื่อวาง วางเพื่อละ
     
  17. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,714
    ค่าพลัง:
    +43,529

    จ้า..... ^^ .....

    แต่มันก็คับอยู่ในอก นี่แหล่ะ....
    ก็หลายคน พอทำการเสร็จ ก็เสร็จเหมือนกัน พวกเดียวกันกลายเป็นคนละพวก และอยู่ต่อไปไม่ได้ ก็ต้องหลบหนี เหมือนเฉกเช่น กรรมที่ได้กระทำต่อผู้มีพระคุณเป็นเอนกอนันต์ สุดท้ายสำนึกผิดพยายามทำความดีเพื่อลบ สิ่งที่ทำไว้ สังคมก็ให้โอกาส จนได้นับหน้าถือตา และความไม่ดีนั้นก็ถูกกลบไปตามความที่ดีพยายามทำและทุกคนก็ลืมเลือนสิ่งนั้นไป.....
     
  18. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,714
    ค่าพลัง:
    +43,529
    อ้าว พูดอีกแล้ว เลิกๆ..... เปลี่ยนเรื่องแล้ว........
     
  19. benjamina

    benjamina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +290
    เฮ้อ ได้แต่ ทอดถอน สะท้อนใจ
     
  20. พรรณนา

    พรรณนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +1,178
    พรรณนาไม่ควรต่อกระทู้เลย....เพราะมีบางอย่างส่งผลถึงปัจจุบันนิหน่า...
    ได้อ่านแล้วสะท้อนใจจริงๆๆ....อดีตก็คืออดีต แต่เราก็ชอบรื้นค้นอดีต:'(


    ต้องขอบคุณพี่สร้อยฟ้าที่
    นำบางเสี้ยวมุมในบางส่วนมาแลกเปลี่ยนกัน..
     

แชร์หน้านี้

Loading...