ปาฏิหาริย์สมเด็จพระนเรศวร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 10 กรกฎาคม 2007.

  1. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    ช่วงนี้ครึ้มอกครึ้มใจอยากจะใส่เสื้อยันต์สีแดงและรำดาบมาก
     
  2. โคมฉาย

    โคมฉาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    3,058
    ค่าพลัง:
    +26,744
    ด้วยเกล้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DCP_5872.jpg
      DCP_5872.jpg
      ขนาดไฟล์:
      181.7 KB
      เปิดดู:
      346
  3. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    สิ้นสงสัยเลยในตัวพี่
    วันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมาอาจารย์อาจชวิน
    พูดให้พวกเราฟังว่าพี่คือหนึ่งในผู้ทำหน้าที่ทหารจาตุรงคบาท
    พี่ยังจักนำเอาเหรียญของท่านมามอบให้กับผู้มีบุญรับไปบูชา
    น้องคิดว่าหนึ่งในหลายท่านที่รับไปคือผู้ที่เคยรับใช้ท่านเช่นกัน

    "ถึงเกิดใหม่ในโลกโลกาภิวัฒน์ จิตเวียนว่ายเกิดดับ เกิดดับ
    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกวิญญานั้นหนาล้วนรอเวลา
    เพื่อจักปลดบ่วงบาศก์ พันธนาการ แลเหลียวดูลูกหลาน
    จักมีใครสืบทอดปณิธาณ มุ่งมาดหมายดำรงไว้ซึ่งความเป็นไท"
    *********************************************

    ความรักบงการแล้ว หัวใจกับชีวิตก็พร้อมยอมสวามิภักดิ์...แล้วด้วยเช่นกัน
    ชีวิตหนึ่ง... ได้อุทิศแล้ว เพื่อให้ชีวิตผู้เป็นที่รักได้รอดอยู่... อีกรูปแบบหนึ่ง
    ของความรัก ที่ได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติไทย...อีกครั้ง
    ...
    ที่ความรักได้ประกาศศักดา...เกรียงไกร. "สุริโยทัย"<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  4. raquaz

    raquaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +3,831
    [​IMG]

    รู้สึกว่าจะรูปเดียวกับพี่โคมฉาย ของพี่ถ่ายที่อยุธยารึเปล่าครับ
    ผมจำชื่อวัดไม่ได้แล้ว แต่ซุ้มของท่านจะเป็นซุ้มติดแอร์แยกออกมาต่างหากน่ะครับ
     
  5. โคมฉาย

    โคมฉาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    3,058
    ค่าพลัง:
    +26,744
    attachment.jpg
    ตำแหน่งเดี่ยวกัน
    มีถวายดาบ ถวายไก่ ด้วย
    อยู่ภายในวัดใหญ่ชัยมงคลในส่วนของตำหนักพระนเรศ
    ด้านนี้จะเป็นสวนสวยมากครับ[​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2007
  6. raquaz

    raquaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +3,831
    อ้อ วัดใหญ่ชัยมงคลนี่เอง
    ขอบคุณครับ

    เอ่อ ภาพที่ผมมีตัวจริงเนี่ย เป็นข้อมูลขนาดไฟล์ใหญ่ทำโปสเตอร์20*24นิ้วได้สบายๆครับ เพราะเป็นไฟล์หนึ่งในการใช้ทำแกลเลอรี่ของผม
    หากมีใครสนใจนำไปทำปกหนังสือ สื่ออื่นๆ ฯลฯ เพื่อเป็นการเผยแพร่เกียรติคุณของสมเด็จพระนเรศวรแล้ว ยินดีให้นำไปใช้ได้ฟรีครับ
    ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในเวปนี้เช่นกันหรือไม่ก็ตามครับ
    ติดต่อมาทางผมได้ครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2007
  7. ชานนคนไทย

    ชานนคนไทย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +3,128
    ถ้าอยากทราบประวัติ

    ผมคิดว่าถ้าอยากรู้ประวัติองค์ท่าน(สมเด็จพระนเรศวรมหาราซ)ให้ไปที่วัดวรเชษฐ์(นอกเกาะ)จ.อยุธยาจะมีคนให้คำตอบได้ดีมากท่านคือดร.อาจารย์ สิงหทนท่านต้องการให้คนไทยได้รู้ความจริงว่าประวัติอยู่ที่ไหนถ้าเรารักและเคราพองค์ท่าน(สมเด็จพระนเรศวรมหาราข)ท่านรอพวกเราอยู่อย่าลืมนำพวกมาลัยและธูปเทียนไปสักาละท่านและทำบุญสร้างศาลาและถวายสังฑานให้ด้วยครับ(สุดท้ายนี้ที่ผมเขียนมาเรื่องทำบุญให้องค์ท่าน(สมเด็จพระนเรศวรมหาราช)ผมคิดมาเองไม่เกี่ยวกับองค์ท่านครับส่วนองค์ท่านแค่อยากให้เหลนๆไทยทั้งมาเยียมท่านบ้างที่ผมกราบสักาละเพราะสำนึกในบุญคุณอันใหญ่หลวงที่องค์ท่าน(สมเด็จพระนเรศวรมหาราช)ที่ท่านยอมเสียสละพระวรกายเพื่อให้ลูกหลานเหลนได้มีแผ่นอยู่ไม่ต้องเป็นเมื่องขึ้นของใครเพราะองค์ท่านเคยผ่านมาแล้วว่าผู้แพ้มันเจ็บปวดแค่ไหนเป็นเช่นใด)ประวัติศาสตร์รอพวกท่านมาช่วยแก้ให้ถูกต้องครับ[bw-cry]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2007
  8. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,516
    ค่าพลัง:
    +9,769
    สำนึกบุญคุณอันยิ่งใหญ่ โปรดร่วมกันมาบวงสรวงพระองค์ท่านในวันที่
    7 ตุลาคม 2550 นี้ 8.00 น.ที่วัดวรเชษฐ์
    จะมีการบวงสรวงใหญ่ที่สุดในรอบสี่ร้อยปีที่วัดนี้ สถานที่ซึ่งประดิษฐานพระบรมอัฐิ ของสมเด็จมหาราชเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่กอบกู้ชาติบ้านเมืองแผ่นดินสยามให้ตกทอดมายังพวกเราทุกวันนี้
     
  9. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,516
    ค่าพลัง:
    +9,769
    การบวงสรวงครั้งนี้มีความหมาย

    ครั้งนี้ คือการบวงสรวงใหญ่ อาจเรียกได้ว่าไม่เคยจัดมาก่อนหน้านี้ เพราะวัดถูกทิ้งร้างมาไม่ต่ำกว่า 240 ปี หลังเสียกรุงครั้งที่สองในปีพ.ศ.2310
    สภาพวัดถูกเผาทำลายขนาดหนัก แต่ความมหัศจรรย์พระปรางค์ประธานองค์ใหญ่ยังโดดเด่นเป็นสง่าอยู่คู่วัดมากว่า 400 ปีแล้ว
    การทำบุญครั้งนี้จึงมีความหมายมากดังนี้
    1.เป็นการสืบพระศาสนาให้ครบ 5000 ปี และถวายเป็นพระราชกุศลให้พระมหากษัตริย์ของอยุธยา

    2.เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาแด่องค์พระมหากษัตริย์และบรรพบุรุษที่ได้กอบกู้ชาติจนมาถึงเรา ณวันนี้ ถ้าไม่มีพวกท่านเหล่านั้น จะไม่มีแผ่นดินในวันนี้
    3.เป็นการรวมพลครั้งยิ่งใหญ่ของ ขุนพล ไพร่ฟ้า เสนา ทั้งหลาย ที่เคยร่วมทุกข์สุขกันมาแต่เก่าก่อน
    4.เป็นการสืบต่อชะตาประเทศ เพราะพลังแห่งบุญนี้จะส่งผลถึงเทพยดาที่ปกป้องรักษาบ้านเมืองให้พ้นทุกข์ร้อนและมีความร่มเย็นต่อไป
    5.เป็นการวางแผนการพัฒนาวัดวรเชษฐ์อย่างเป็นรูปธรรมให้เป็นจริง หลังถูกทิ้งมานาน 400 ปี
    ให้ทางราชการเห็นว่ามีผู้ที่จงรักภักดีพร้อมที่จะร่วมสนับสนุนพัฒนาวัดต่อไป
    6.เป็นสัญญลักษณ์ บอกให้พวกนอกศาสนาที่ไม่หวังดี ให้รู้ว่าสิ่งที่เขาพยายามทำลายวัดอยู่ไม่มีทางทำได้ ธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอ

    หากท่านไม่ติดภารกิจใดขอเชิญมาวัด ทำบุญร่วมกันครับ

    *ใครมีกล้องวีดีโอ โปรดเตรียมไว้ อาจมีเหตุการณ์มหัศจรรย์ที่ท่านคาดไม่ถึงเกิดขึ้น
     
  10. oOoWateRoOo

    oOoWateRoOo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +48


    อ่านแล้วน้ำตาไหลเรยอ่ะค่ะ
     
  11. อรชร บุญเอนก

    อรชร บุญเอนก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +28
    อ่านแล้วรู้สึกขนลุก น้ำตาพาลจะไหลให้ได้เลยค่ะ เพราะในชีวิตที่ผ่านมาไม่รู้เป็นยังไง ชอบไปไหว้พระที่อยุธยามากที่สุด แล้วก็ไปอยู่เรื่อยๆไม่เคยรู้สึกเบื่อ รู้สึกตัวเองผูกพันกับที่นั่นมากๆ ลูกๆก็พลอยชื่นชอบไปด้วยทุกคน มีความรู้สึกว่าเหมือนเราเคยอยู่ที่นี่จังเลย
     
  12. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,516
    ค่าพลัง:
    +9,769
    ขึ้น 8 ค่ำ เดือนหก วันครบรอบสวรรคต สมเด็จพระนเรศวร

    ขึ้น 8 ค่ำ เดือนหก 12 พฤษภาคม 2551 นี้ ที่วัดวรเชษฐ์ (นอก)อยุธยา เชิญร่วมบวงสรวง ดวงพระวิญญาณ เนื่องในวันครบรอบสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ ผู้กอบกู้ชาติและศาสนาตกทอดมาถึงเราทุกวันนี้

    \ มหาราชดำอำลา \

    ขึ้น 8 ค่ำ เดือนหก ตกวันจันทร์
    อันเป็นวัน สวรรคต หมดหน้าที่
    ทรงอุบัติ ในโลกหล้า ห้าสิบปี
    ณ.วันนี้ ทรงดับปราณ กาลอำลา

    เมื่อครั้งนั้น อังวะกล้า มารุกล้ำ
    พระทรงนำ กองทัพไทย ได้ฟันฝ่า
    ร่วมเดนทัพ กันกับพระ อนุชา
    สู่ล้านนา เมืองเชียงใหม่ ได้เตรียมการ

    จัดกองทัพ เป็นสองทาง ฝางชายเขต
    สู่ประเทส แดนพม่า มารุกราน
    ถึงห้างหลวง ณ ทุ่งแก้ว แนวปราการ
    โรคฝีพาล ขึ้นพระพักตร์ ฟักบ่มตัว

    ทรงเจ็บปวด รวดร้าว ราวฟ้าผ่า
    พิษฝีกล้า กลัดหนองใน ใจระรัว
    เสวยไม่ได้ ไข้อ่อนล้า มืดตามัว
    แจ้งถ้วนทั่ว หยุดกองพล กลางหนทาง

    รับสั่งหา อนุชา เอกาน้อง
    เจ้าพี่ต้อง พิษฝีหนัก จักอัปปาง
    รู้ชีวิต จิตสุดท้าย ปลายเส้นทาง
    ต้องไกลห่าง สิ้นภพชาติ จะขาดแล้ว

    ในชาตินี้ พี่ภูมิใจ ในตัวน้อง
    อยู่เคียงครอง อยุธยา อนุชาแก้ว
    ช่วยปราบศึก ฝึกทหาร การแน่แนว
    สมใจแล้ว อนุชา ร่วมบารมี

    เมื่อถึงกาล วันอำลา ต้องลาจาก
    จำไกลพราก ต้องจากกัน ในวันนี้
    จงปกครอง ประชาชาติ ราชธานี
    ให้อยู่ดี มีความสุข ทุกคืนวัน

    น้องจงเร่ง ยาตรา กรีฑาทัพ
    อย่าถอยกลับ รุกหน้าไป ได้รบรัน
    ขับพม่า จอมราวี ขยี้มัน
    ให้รู้กัน เราคนไทย ใจอาจหาญ

    พระสั่งลา อาทิตย์ลับ กับขอบฟ้า
    ทอดกายา บรรทมหลับ ให้กับงาน
    ได้กอบกู้ สู้ศึกกล้า มาช้านาน
    เมื่อถึงกาล สวรรคต หมดห่วงใย

    พระนเรศวร ครรไลไป ในวันสิ้น
    เทพบดินทร์ ถิ่นไตรตรึง ซึ่งเป็นใหญ่
    พร้อมบริวาร หมื่นแสน ในแดนไตร
    อัญเชิญไป สถิตมั่น ชั้นเทพทอง ฯ



    ..แต่งบูชาพระองค์ดำโดย พระมหาฤทธิชัย กัลยาโน..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2008
  13. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,516
    ค่าพลัง:
    +9,769
    เทพสดุดี พระนเรศวร


    \เทพสดุดีพระนเรศวรมหาราช \

    ผองเทพไท ในชั้นฟ้า นภาทอง
    บรรลือก้อง เสียงสวรรค์ กันทั่วหน้า
    แด่นเรศ เทพเกรียงไกร ได้กลับมา
    จากชั้นฟ้า ไปภพล่าง สร้างบารมี

    ไดกู้ชาติ ราชแผ่นดิน ถิ่นศาสนา
    ครองประชา เป็นปึกแผ่น แคว้นธานี
    รักษาแดน พุทธนิรันดร์ ห้าพันปี
    คงมั่นดี สุวรรณพื้น ให้คืนตัว

    ถึงกาลกลับ รับบารมี ที่บำเพ็ญ
    เป็นกฏเกณฑ์ เทพสวรรค์ ในชั้นฟ้า
    แด่องค์เทพ นเรศบุตร อยุธยา
    ผู้แกล้วกล้า เทพอาวุธ ดุจกุญชร

    ขออธิษฐาน ยกบุญญา บารมี
    ไม่ถึงที่ พระนิพพาน กาลแน่นอน
    ขอส่งญาณ การรับใช้ ในบวร
    ดับโลกร้อน มนุษชาติ ศาสน์จรรโลงฯ


    ...แต่งบูชาโดย พระมหาฤทธิชัย กัลยาโน..
     
  14. ทามปายได้

    ทามปายได้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +56
    อยากรู้ข่าวของปีที่แล้วอ่ะ สงสัยลืมโพสกันหมดและ
     
  15. ป.วิเศษ

    ป.วิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    329
    ค่าพลัง:
    +411
    ที่จะเล่าอันนี้ ขอเล่าประสบการณ์แบบขำ ๆ นะ อย่าคิดมาก

    อาจารย์เสริมศิลป์ ไปสวดมนต์ที่ วัดวรเชษฐ์ เราไม่ได้ลงเรื่องไว้ เพราะไปครั้งแรก
    งง!! ไม่ได้ถ่ายรูปมากนัก ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ นะ

    จำได้ว่าไปที่วัดวรเชษฐ์ก่อน ตัวเรามัวเอ้อระเหย ไม่เข้าใจนักว่าเขาทำอะไร
    ไปช้ากว่าคนอื่น เขานั่งกันเต็มเลยไปกัน ๑๕ คน มั๊ง พระอาจารย์สิงห์ทน
    ท่านก็นั่งอยู่ เราก้มหน้าก้มตาสวดมนต์อย่างเดียว เพราะ สวดไม่ทันกลุ่มเขาอ่ะค่ะ

    สวดไปถึงบทอาการวัตตาสูตร ยังสวดไม่ทันพราะเพิ่งสวดครั้งแรก ยาวมาก
    พอดีตามองไปในศาลเล็ก ๆ ข้าง ๆ ที่สวดมนต์ เห็นเป็นรูปหล่อพระนเรศวร
    ท่านยืนถือดาบ คิดในใจว่าขอให้ท่านช่วยให้สวดได้หน่อย แบบว่า ..สวด
    ไม่ได้เลย กำลังเป็น SUBMARINE อยู่ขณะนั้น คิดเสร็จก็หัวเราะ คิดว่า
    สงสัยเราจะบ้า ไปอธิษฐานเรื่องไร้สาระอะไรกับท่าน .. แป๊ปเดียวเท่านั้น

    ลมอ่อน ๆ ก็พัดเอาหน้าหนังสือ (ขณะนั้นสวดหน้าทางซ้ายอยู่) กระดาษ
    ก็พัดพรึ่บไปหน้าต่อไป ครั้งแรกไม่คิดอะไรเพราะมันกลางแจ้ง ลมพัดเรื่องธรรมชาติ
    ครั้งที่สอง เราก็เอ๊ะ ... ลมบ้านี่ แต่ครั้งที่สาม ลมพัดไปหน้าเดิม หน้าเดียว

    เราก็เอะ ... เพราะพี่เขาบอกว่า ให้คอยสังเกตุบ้าง ดินน้ำลมไฟ เราเป็น
    คนปัญญาน้อย ครั้งที่สามเราก็ คิดว่าเอ...ท่านจะให้เราสวดหน้านี้ใช่ไหม ที่จะสวดได้
    เชื่อมะ!! หน้าที่ลมเปิดน่ะ เราสวดได้ตั้งแต่บรรทัดแรกสวดเร็วมาก สวดได้ ออกสียงถูก
    งงเลย.. สาธุ ของแบบนี้ไม่ล้อเล่นแล้ว (พอดีใจใจมันกระโดด เสียงหลงไปบ้าง พอมี
    สมาธิก็โอนะ)

    ที่น่าแปลกกว่านั้น หลังจากที่เงยหน้าขึ้นมาหลังสวดทุกบท + นั่งสมาธิเล็ก ๆ ก็เห็น
    พระอาจารย์สิงห์ทน ท่านยืนไม่แน่ใจว่าท่านสะพายอะไร แต่ท่านยืนประสานมือไว้
    ด้านหน้า ก้มศรีษะเล็กน้อยด้วยอาการสำรวม ... ตอนนั้น งง... ตอนนี้ก็ .. งง
    เพราะไม่ได้ถามพี่ ๆ ในกลุ่มว่าทำไมท่านยืนด้วยอาการสำรวม อึดใจนึง แล้วท่านก็
    นั่งลงให้พร พวกเรา ..

    หลังจากนั้นกลุ่มก็ย้ายไปหน้าเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนเรศวร ก็นั่งสมาธิ
    พี่คนเหนือเขาไม่รู้ประวัติศาสตร์ไทย แกพูดว่าไปหาผู้หญิงก่อน ที่มีน้ำล้อมแล้วค่อย
    ไปหาผู้ชาย .. นอกนั้นพูดภาษาเหนือสุดขีดฟังไม่ออก ... ได้ยินแค่สรุปก็แค่นั้น
    พี่ที่เขาเป็นเจ้าภาพ เจ้าของพื้นที่ก็พาไป

    แล้วก็ขับรถไปที่ อนุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย (ขอบอกว่าเราไม่ได้ดูหนัง
    ท่านมุ้ยสร้างนะ) เราไม่ชอบสงครามมากนัก เราไม่ดูหนังคนฆ่ากัน เรากลัวอ่ะ
    พอเข้าไปปั๊ปเราก็โอนะ ... มาเที่ยวเขาพูดอะไรกัน เขาทำอะไรก็ไม่เป็นไร ....
    เราขับรถให้เขา เราก็มาเที่ยวด้วย (ตอนนั้นคิดแค่นั้นจริงๆ )

    พอเข้าไปทางเข้าเราก็เริ่มใอ ..แค่ก!แค่ก! .. แล้วก็เปลี่ยนเป็นอาเจียรซึ่งมีแต่ลม
    (มือยังขับรถ) แต่ไอ้ความรู้สึกที่มีเหมือนมีดชำแรกแทรกที่คอจากทางใต้กกหูด้านซ้าย
    ทะลุลงมาที่อก (ต้องใช้คำแบบโบราณนิด ๆ จะได้เห็นภาพ) เราได้ยินเสียงหัวใจเราเต้น
    มันเต้นแรงมาก เต้นแรงมาถึงหูเรา แล้วเราก็หายใจไม่ออก เหมือนมีน้ำเต็มปากกับจมูก
    เสียงดังคร่อก ๆ ตอนนั้นเหมือนน้ำที่คอเป็นฟองๆ

    พี่ที่นั่งไปด้วยแกก็ร้องขึ้นมาว่า "โธ่ มาอะไรกันตอนนี้ กำลังขับรถอยู่ด้วย!!"
    แปลกที่เรายังขับรถได้ มาจอดหน้าอนุสาวรีย์ พี่เขาก็บอกว่า "ตั้งสติ ! หายใจเข้า"
    เราเลยหายใจเข้าปอดลึก ๆ ๒ - ๓ ที น้ำตาไหลเลยเพราะทรมานมากกกกกกก

    เราหยิบยาคามโลซานมาพ่น เพราะคิดว่าอาจเป็นหวัด แต่เราว่าหวัดคงจะไม่
    เหมือนมีดาบมาแทงข้างหูเราหรอก

    สักพักอาจารย์ก็เดินมาถามเรา ว่าเราไอเหรอ เราเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องอะไรใหญ่โต
    เราก็บอกแค่ว่า "ไอธรรมดาค่ะ" อาจารย์บอก "เขามาทัก" ใครหว่า!!!! เราไม่ถาม กลัวผี
    (ปล.อาการนี้เคยเกิดกับเรา เวลาที่มาอยุธยา แต่ก่อนหน้านั้นนะ เราไม่ชอบเลย )

    กลุ่มก็ทยอยไปหน้าพระลาน ฯ ตอนแรกอาจารย์บอกว่าไม่ต้องสวดมนต์ มากราบเฉยๆ
    ไป-มายังงัยก็ไม่รู้ เขาให้สวดมนต์กัน ก็นั่งสวด กลางแดดเปรี้ยง ๆ เลย บนพื้นร้อน ๆ เลย
    ดิฉันก็กางหนังสือสวดมนต์ด้วยใจที่ฮึกเหิมว่า อิฉันสวดได้แล้วนะ!!!!ตอนนั้นคิดอย่างงี้
    จิง ๆ จะสวดดัง ๆ อวดน้องที่ไปด้วยกันน่ะ อิอิ

    แต่เมื่อเริ่มสวด ปากเรามันไม่ยอมอ้าปากออกมา เราก็พยายามที่จะเปิดปากให้
    สวดมนต์นะ แต่เหมือนจิต พูดกับเราว่า

    "ไม่ต้อง เขาสวดให้เรา"
    ตอนนั้นอิฉันก็ตอบนะ
    "เราอยากสวด"

    "ไม่ต้อง เขาสวดให้เรา"
    จิตอันนี้ก็ขึ้นมากอีก เราก็เถียงว่า
    "เราอยากสวดนี่ เราอยากสวด ทำไมล่ะ"

    แป๊ปเดียว ปากก็อ้า พูดออกเสียงได้ อันนี้นั่งขำคนเดียว ไม่ได้เล่าให้คนในกลุ่มฟัง

    พอสวดมนต์เสร็จลมเย็น ๆ พัดมาค่อยยังชั่วหน่อย เฮ้อ

    สักพักพี่คนที่มีเซนท์ก็เดินมา แล้วเขาก็ทำมือเหมือนกับเกร็ง ๆ แต่คิดว่าเขากำลังตั้งจิต
    มาจับแขนเรา แล้วเขาถามเราว่าเรารูสึกอะไรไหม ขอบอกตอนนั้นงง อย่างเดียว พี่คนหนึ่ง
    ตะโกนมาว่า "อย่าเพิ่งเลย เจ้านี่ยังสงสัยอยู่มาก ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก" "เราก็บอกว่าเราไม่
    รู้สึกอะไรเลย ไม่มีอาการขนลุก ไม่มีอาการอะไรซ๊ากอย่าง เฮ้ออย่างที่บอก เรามันคน
    ปัญญาน้อย ...

    แล้วขับรถไปที่เจดีย์สูง ๆ จำชื่อไม่ได้ ไต่ขึ้นไปอย่างยากลำบาก ไปสวดข้างบน
    ลมอู้เลย สวดมนต์เสร็จ พี่เขาบอกว่า ตรงนี้ตายกันมาก บางส่วนไปเกิดตามกรรมทั้ง
    ต่างชาติและคนไทย บางส่วนขอเฝ้าพื้นที่ไม่ไปไหน เพราะฉะนั้นไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
    ที่ไหน ๆ ต้องระวังสำรวม เพราะบางที่บางคนเขาขออาสาเฝ้าให้ ดังนั้น ใครไม่สำรวม
    เขาจะดุเอานะ

    แล้วก็ไปสวดมนต์ตรงบริเวณวิญญาณที่วังเก่าที่อยุธยา พี่ที่ไปหลายคนบอกว่า
    วิญญาณเยอะมาก ไปได้ไม่หมด (ร้องให้กันระงม ไปไม่ได้บุญไม่พอ ..)

    อีกอย่าง คนเดินปนเปไปหมด เขตพระราชฐานฝ่ายใน ตรงไหนคนก็ไปย่ำปนเป
    พี่คนที่พูดเขาเคยเกิด เป็นเจ้าเป็นนายเก่า (สัญญาเก่าเยอะ เพราะหลายชาติมาก)
    [เขียนให้รู้ว่า จิต เกิดวนเวียน ถ้ารอเก็บกระดูก คงจะป่นเป็นผงเท่าภูเขาพระสุเมรุ
    เลิกขยัน (เกิด) มาเป็นคนขี้เกียจ (ตายไม่จริง) กันดีกว่านะ ขอรณรงค์!!]

    น้องที่ไปกับเราเขามีเซนท์ มาใหม่พร้อมกันกับเรา เขารู้เรื่องได้ง่ายกว่า
    น้องเขาบอกว่าลมสไลด์มาตามกลุ่มตลอด กรึ๋ยส์ โชคดีมาเล่าตอนกลับ ...

    จบ แล้วอ่ะ หลังจากน้นก็ไปสวดมนต์กับกลุ่มอาจารย์เรื่อยมา ได้ทราบว่า
    เปลี่ยนจาก คนไปเป็นผี เวลาผีมันนานมากกว่าการที่เราตองนั่งรอรถติดไฟแดง
    รอเรียนจบ หรือรอหนังเข้า

    เป็นวิญญาณทรมาน เพราะ ไปก่อสร้าง

    ปราการแห่งโลภ
    ปราการแห่งโกรธ
    ปราการแห่งหลง

    มันเป็นการสร้างคุกขัง "จิต" ไว้จริง ๆ สุดโต่งแห่งความทุกข์จริง ๆ ทราบแล้วขอให้พิจารณา

    สิ่งที่เล่าให้ฟัง กลุ่มคนเหล่านี้เขามีพลังจิต มีพลังการเห็น ได้ยิน จริง เพราะเขาฝึก
    ทั้งสมาธิ บางคนไม่ได้ฝึกชาตินี้ เขาฝึกมาชาติที่แล้ว มีทั้งสองชนิด ... บางคนฝึกหนัก
    ๔ ปี โหยเก่งโคตร อีกคนไม่ฝึก แต่ตาทะลุถึงบ้าน

    แต่อาจารย์บอกเรื่องหนึ่งเสมอ อย่าไปติดอภิญญา !!!! มันไม่ช่วยให้เราพ้นทุกข์

    อาจารย์บอกว่าสิ่งที่ได้เป็นแค่น้ำจิ้ม ขอให้เห็นทุกข์จากขันธ์ ๕ โทษภัยจาก
    สังสารวัฏ ให้ชัด นั้นแหละ พระพุทธเจ้าท่านสอนอย่างนั้นจริงๆ

    ดังนั้นที่เล่ามาแค่อยากแจม เราไม่ได้ถามเรื่องที่เราโดนทัก แต่อาจารย์บอกว่าเป็นทหาร
    ฆ่าคนไว้เยอะ

    แต่เราคิดไว้เรื่องหนึ่งว่า อดีต รู้ว่าเป็นหรือไม่เป็นอะไร ปัจจุบันกรรมที่ต้องรับคือ

    "ความเป็นผู้มีโรคมาก" ไม่ว่าจะเกิดมาเป็นทหารระดับไหน ถ้าฆ่าคน ต้องรับผลกรรมอยู่ดี

    ดังนั้น ยิ่งเกิดมาเป็นทหารที่ต้องฆ่าแต่เพื่อรักษาแผ่นดิน ต้องรับกรรมดีและกรรมไม่ดี
    มันเป็นของคู่กัน

    ถ้ามองและค้นหาอดีต ก็ขอให้มองปัจจุบันด้วย เพราะเป็นโอกาสเดียวในเสี้ยว
    ล้าน ๆ ส่วนของวัฏฏะนี้
    (This is the only chance ทำเสียงแบบลุงอาร์โนล์ The Governator อิอิ)

    ที่คุณเลือกเส้นทางใหม่ได้ ศีล ๕ บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ นั่งสมาธิ ฯลฯ ทำไปตั้งจิตดี ๆ
    คำสอนของพระพุทธองค์อีกมาก ในเวบนี้เยอะมาก แลกเปลี่ยน นำไปใช้ ขอกราบงาม ๆ

    สรุป

    ถ้าจะถามว่าท่านแต่ละคนเกิดเป็น "สมมุติ" อะไรอดีต
    (Chan kerd pen "SOMMUTI" arai nai a-deed?? - เป็นงัยฝรั่งดีไหม อิอิ )

    ให้ถามตัวเองอีกคำถามหนึ่งที่ อาจารย์เรณู ทัศนรงค์ (ยุวพุทธิกสมาคมฯ)
    ท่านจะถามเน้นนักปฏิบัติธรรมตลอด

    "ทำไมพวกเราถึงไม่ไปนิพพานสักที
    ทั้ง ๆ ที่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้
    มากกว่าเมล็ดทรายในมหาสมุทร..."


    อืม ... (ไม่รวมพุทธภูมินะ )

    อนุโมทนา
    ขอขอบพระคุณอาจารย์เสริมศิลป์ ขอนวงค์
     
  16. korachaa

    korachaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +548
    สวัสดีครับ ทุกท่าน
    ผมพึ่งเป็น สมาชิกเวปนี้ ได้ไม่นานเพราะใช้คอมฯไม่ค่อยเป็น และพึ่งฝึกนั่งสมาธิได้ประมาณ 2 ปีเองครับ พอดีเปิดเข้ามาอ่านดู ก็เลยอยากจะเล่าความฝันให้อ่าน นะครับ
    เรื่องที่ 1 ประมาณปี 42 ผมรับจ้างคุมงานก่อสร้าง รู้สึกเป็นทุกข์ คุมคนงานไม่ค่อยทำงานพอดีที่บ้านมีเหรียญ พระนเรศวรอยู่ ผมก็ไม่รู้นึกอย่างไร ก็สวดมนต์ไหว้พระ และก็หยิบเหรียญพระองค์ท่านมาใส่ในมือ และก็ขอพรเหมือนคนทั่วไปที่หาที่ยึดเหนี่ยวทางใจ ขอพระทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯช่วยเหลือข้าพระพุทธเจ้าฯด้วเถิดพระพุทธเจ้าข้าฯ แล้วกระผมก็ตกใจ ไอ้หย๋า มือที่พนมอยู่เองก็ทำท่าถวายบังคมอยู่หลายรอบ (ตอนนั้นกลัวมากเราเป็อะไรนี่ มีแบบนี้จริงๆด้วยหรือ

    เรื่องที่ 2 ปลายปี 49 ผมฝันว่าผมยืนอยู่บริเวณค่ายที่พัก คล้ายๆทีพักคนงานก่อสร้างในปัจจุบันนี้ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองบนภูเขาลูกหนึ่ง เห็นพระบรมราชานุสาวรีย์องค์ใหญ่มากทรงประทับ(นั่ง)หันหลังให้ และหันหน้าเข้าหาพระเจดีย์สีขาวใหญ่มากเช่นกัน ทรงกำลังหรั่งน้ำทักษิโนทก (ผมไม่ถนัดราชาศัพท์ครับ) และผมก็ตื่นขึ้น ผมรู้สึกว่าเป็นพระนเรศวรแน่เลย ผมเลยไปหาซื้อหนังสือประวัติพระองค์ ท่าน โห! มีรูปเหมือนเปี๊ยบเลย เจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคล ช่วงนั้นผมเป็นทุกข์เลยฝึกนอนโดยใช้สมาธิ
    เรื่องที่ 3 ประมาณต้นปี 50 น่าจะก่อนหนังของท่านมุ้ยฉาย ผมก็ฝันอีก ในฝันนั้น ประมาณว่าฉากจะบริเวณหมู่บ้านเรือนไทย โดยรอบมีหลังเล็กหลังใหญ่มากมาย และจะมีบริเวณลานดินกว้างๆ โดยรอบก็จะมีแม่ค้าพ่อค้าขายของขายผัก ขายปลาอยู่โดยรอบ เหมือนในหนังสมัยก่อน ในฝันผมก็แต่งกายแบบไม่ใส่เสื้อใส่แต่ผ้าขาวม้านุ่งให้เป็นแบบกางเกง กำลังฝึกวิทยายุทธมวยไทยอยู่บริเวณลานดิน พอดีก็มีคน 2 คนตะโกนเรียกผมให้ไปหาอยู่บนเรือนไทยหลังใหญ่ ผมจำไม่ได้ว่าเรียกชื่อผมว่าอะไร ผมก็ขึ้นไปหาและคุกเข่าถวายบังคม คนหนึ่งดูเป็นคนมีอายุหน่อย อีกคนดูหนุ่ม ทังสองคนแต่งกายแบบเจ้านายแต่ดูไทยๆเหมือนในหนัง คนมีอายุก็บอกให้ผมมาประลองมวยกันหน่อย ผมก็ถวายบังคมตอบว่าไม่ไหวพระเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้ายังอ่อนหัด ต้องเป็นอ้ายดำพระเจ้าข้า ไหนเอ็ไปเรียกมาประลองกับข้าซิ ผมก็วิ่งไปริมระเบียงบ้าเรือนไทยหลังนั้นและตะโกนเรียก ดำ ดำท่านให้มาประลอง ในฉากก็เห็นชายหนุ่มหุ่นดีมาก ผิวขาวเหลือง นุ่งผ้าเหมือนผมแต่สีดำยืนเล่นอยู่บริเวณที่แม่ค้าขายของ ค่อยๆหันมา โหเหมือนฉากในหนังหน้าตาหล่อเหลาแบบชายชาตรี(ไม่เหมือนพวกดารานายแบบนะครับ) ดูมีสเน่ห์(ขนาดผมเป็นผู้ชายมองเขาผมยังต้องชมในใจ) แววตามีพลังตาดำขลับแวววาวมีอำนาจลึกลับ ในฝันผมว่าผู้ชายคนนี้เรืองแสงได้ แฮะ แล้วผมก็ตื่นเช้าพอดี ผมวิเคราะห์ของผมเองว่า ผู้ชายสูงอายุนั้นน่าจะเป็นผู้ชนะสิบทิศ และคนหนุ่มน่าจะเป็นมหาอุปราช และดำน่าจะเป็นพระนเรศ แต่ในฝันนั้นที่เห็นทั้ง 2 พระองค์ไม่เรืองแสง แต่ทำไมอ้ายดำแต่งตัวชาวบ้านเหมือนผมถึงเรืองแสงจังแฮะ

    ขอพักก่อนครับจะเล่าที่ 4 ให้ฟัง ตอนนี้พลังเยอะ
     
  17. korachaa

    korachaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +548
    ก่อนจะเล่าเรื่องที่ 4 ผมขอขมากรรมก่อนครับ ผมพิมพ์ช้า ก็เลยเหนื่อย เลยต้องขอพักครับ

    กรรมอันใดที่ข้าพระพุทธเจ้าฯ ได้กล่าวคำล่วงเกิน แม้เพียงแค่คิด ต่อบุรพกษัตริย์ องค์พระนเรศวรมหาราชเป็นเจ้า ต่อองค์ผู้ชนะสิบทิศ ต่อองค์พระมหาอุปราชา ต่อทุกดวงพระวิญญาณ ต่อดวงวิญญาณที่มาเกี่ยวข้อง ในเรื่องราวความฝัน ของข้าพระพุทธเจ้า ทุกรูปทุกนาม ข้าพระพุทธเจ้ากราบขอพระราชทานอภัยโทษ ขอประทานโทษ ขอขมากรรม
    ที่ได้ล่วงเกิน มิได้มีเจตนาอกุศล ข้าพระพุทธเจ้าต้องการยอพระเกียรติของพระองค์ท่านเท่านั้น และต้องการเผยแผ่ความฝันของข้าพระพุทธเจ้าออกไปเพราะเก็บไว้มานานแล้ว
    ถ้ามีกุศลผลบุญเกิดขึ้นจากการเผยแผ่ความฝันของข้าพระพุทธเจ้าต่อพระองค์ท่าน ขอกุศลผลบุญนี้ดลบันดาลให้คนไทยมีความรักความสามัคคีเอื้อเฟื้ออารีแก่กันเพื่อนำพลังความรักความสามัคคีของคนไทยทั้งมวลมาพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม ไม่มีม๊อบ ไม่มีคนโกง ไม่มีปัญหาชายแดนภาคใต้ เป็นแดนสุขาวดี รักกันทุกเชื้อชาติ และทุกศาสนา เพราะทุกคนก็คือสัญชาติใทย ลูกหลานพระบรมโพธิสมพาร มหาราชเอกของโลกในยุคปัจจุบัน ขอคำอธิษฐานนี้จงสำเร็จผลโดยเร็วพลัน ด้วยพระบารมีขององค์สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า เทอญ สัมปติฎฉามิ
     
  18. ป.วิเศษ

    ป.วิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    329
    ค่าพลัง:
    +411
    ถ้า COPY มาจาก web site ให้ Paste ใน Notepad ก่อน Notepad จะล้าง Code ใน paragraph ในนั้นได้หมด แล้วคอย Copy และ Paste ในกล่อง Comment ค่ะ
     
  19. ภาวิโต

    ภาวิโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +268
    ได้ทราบข่าวจากคุณ vichygirl มีการขึงลวดปิดกั้นที่วัดวรเชษฐ แต่ได้เปิดเป็นช่องทางเล็กๆไว้ อาจจะมุ่งหมายเพียงให้ผู้คนสามารถผ่านได้ พร้อมขึ้นป้ายมีข้อความ" ที่นี่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ......" รบกวนฝากเพื่อนสมาชิกช่วยกรุณาตรวจสอบกันด้วยนะครับ ขอบพระคุณครับ
     
  20. ภาวิโต

    ภาวิโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +268
    ขอบคุณ คุณป.วิเศษ ขออนุญาตนำคำแนะนำไปใช้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...