ประสบการณ์มโนมยิทธิ และญาณ ๘

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย White Sage, 29 มกราคม 2014.

  1. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    555 ชอบตรงคำว่าตุ๊ดเด็กเนี่ยแหละ ฟังดูแล้วน่ารักดี อิอิ

    จริงๆหลายคนมีกรรมแนวๆนี้เหมือนกันนะ เท่าที่เจอมา คือตัวตนจิตใจเค้าไม่ได้เป็นเพศที่ 3 เลย แต่ผู้ชายมักจะมีกริยาเรียบร้อย ส่วนผู้หญิงก็มักจะลุยๆห้าวๆ เลยทำให้คนอื่นๆมองว่าเป็นเพศที่ 3 ไปเลยอ่ะ ซึ่งจริงๆแล้วบุคลิกภาพพวกนี้ไม่สามารถบ่งบอกได้เลยว่าคนๆนั้นมีรสนิยมทางเพศอย่างไร

    อย่างผู้หญิงหลายคนที่เป็นเพศที่ 3 แต่ไม่ได้เป็นทอม เค้าจะมีกริยา บุคลิก การแต่งเนื้อแต่งตัวต่างๆเหมือนผู้หญิงธรรมดาๆทุกประการ ซึ่งถ้าเรามองผ่านๆก็จะไม่เอะใจอะไร เพราะเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงธรรมดาๆทั่วๆไป แต่จริงๆแล้วในใจของผู้หญิงเหล่านั้นเค้าชอบผู้หญิงด้วยกันอ่ะ 555+


    ปล. เรียนแจ้งให้ทราบความคืบหน้าในการปรับปรุงกระทู้นะคะ ขณะนี้จขกท.ได้เพิ่มบทนำของกระทู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านทราบถึงเนื้อหาโดยสรุป และวัตถุประสงค์ของกระทู้นี้ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ (โปรดดูโพสต์แรก)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2014
  2. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    พี่เพิ่งมาอ่านเจอประเด็นที่น้องกฤษณ์พูดถึงศีลข้อที่ 3 กับการช่วยตัวเองอยู่อ่ะ เลยอยากให้น้องกฤษณ์ไปอ่านรายละเอียดของศีลข้อที่ 3 ดู แล้วน้องจะพบว่าการช่วยตัวเองไม่ผิดเงื่อนไขข้อไหนเลยจ้า มันเป็นเรื่องปกติมั่กๆ ใครๆก็ทำได้ เพราะไม่ได้ไปละเมิดผู้อื่นเค้า อิอิ :p


    จริงๆเรื่องศึลตอนแรกพี่ก็เจออะไรแปลกๆเหมือนกัน ไม่รู้ว่าคนอื่นๆเป็นเหมือนกันไหม แต่ขออนุญาตแว่บไปทำธุระก่อน เด๋วมาพิมพ์ต่อจ้า


    ปล. เด๋วไว้ว่าว่างๆจะรีบเขียนเรื่องเพศที่ 3 ต่อแว้ว ;)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2014
  3. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ตรงจุดนี้เลยมี ' เลสเบี้ยน ' หรือ ภาษาในวงการนิยายคือ yuri (ซึ่งเป็นคู่ตรงข้ามกับyaoi นั้นก็คือ นิยายแบบชาย-ชาย ที่ผมชอบอ่านนี่เอง 555555+) แบบนี้แล้วยิ่งมีความหลากหลายทางเพศมากเข้าไปใหญ่เลยครับ ถ้าพูดกันตามเนื้อหาวิชาการเรื่องเพศสภาพและเพศวิถี
     
  4. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    มันไม่ผิดแต่มันไม่ดีน่ะสิครับพี่เฟมม มันเป็นเหมือนนิวรณ์ที่เกาะอยู่ในใจ เป็นอุปสรรคในการปฎิบัติความดีและการทรงความดีให้ถาวรในตัว(จิต)ของเรา

    ปล.รออ่านอยู่นะครับผม บทความเรื่องนี้:cool:
     
  5. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    น่านไง จริงๆเรื่องนี้มันละยากอ่ะ จะหมดเด็ดขาดจริงๆก็ต้องเป็นพระอนาคามีจ้า


    ดังนั้นเราต้องค่อยๆสะสมความเคยชินอ่ะ เอาเป็นว่าหมั่นทรงสมาธิและพิจารณาในวิปัสสนาญาณมุ่งตรงสังโยชน์ 3 เลย เพราะสุดท้ายเราจะมีแต่กำไร คือพระโสดาบันแม้จะละเรื่องนี้ไม่ได้หมด แต่ก็เป็นพระอริยเจ้าเบื้องต้น สามารถปิดประตูนรกได้อย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างคือ ท่านนางวิสาขา ที่เป็นพระโสดาบัน ยังครองเรือนมีสามีและมีลูกหลานมากมายงายยย ;)


    ส่วนบทความเรื่อง"เพศที่3 กับการปฏิบัติธรรม" พี่พิมพ์เสร็จเรียบร้อยแล้วจ้า


    ส่วนเรื่องศีล ตอนพี่รักษาแล้วพี่เจอปัญหาตอนมือเผลอไปโดนยุงแล้วยุงตายอ่ะ เล่นเอาเครียดเลย เพราะคิดว่าศีลขาด แต่พอปฏิบัติไปเรื่อยๆ พี่ก็รู้แล้วล่ะว่าจริงๆวินาทีนั้นจิตไม่มีเจตนา ถือว่าไม่ผิดศีลจ้า


    ส่วนข้อ 4 ส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าต้องพูดตรงความจริง ดังนั้นเวลารักษาเลยรู้สึกว่ายาก ซึ่งจริงๆแล้วศีลข้อ 4 นั้นจะขาดก็ต่อเมื่อเราหลอกลวงผู้อื่นแล้วผลประโยชน์ของการหลอกลวงนั้นตกอยู่กับเรา (อ้างอิงจาก กระโถนข้างธรรมาสน์-ฉบับที่-123-เดือนพฤษภาคม-2557 ของหลวงพี่เล็ก สุธัมมปัญโญ วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี)


    ดังนั้น ถ้าสมมติว่ามีคนมายืมเงิน ซึ่งเราก็พอมีเงินอยู่บ้าง แต่ถ้าให้ยืมไปแล้วครอบครัวต้องเดือดร้อน เราจึงต้องบอกว่ากับเค้าว่า"ไม่มี" ซึ่งคำว่าไม่มีนั้นหมายถึง ไม่มีให้ยืมเพราะทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ตรงนี้ถือว่าสามารถทำได้จ้า (จริงๆตรงนี้ถ้าเราไม่มีเงินให้ยืม ก็อาจช่วยเหลือโดยการให้กำลังใจ หรือให้ความรู้ช่องทางทำมาหากิน แล้วอุเบกขาไปก็ได้เหมือนกัน)


    สรุปว่าศีลข้อ 4 ถ้าจะรักษาได้ดี ก็ต้องเข้าใจหลักของการละเมิดศีลตามที่บอกไว้ข้างบน และรู้จักสื่อสารกับผู้คนอย่างมีชั้นเชิงด้วยจ้าาา ;)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2014
  6. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112



    จริงๆก็เพราะศีลข้อ3นี่แหละครับที่เล่นผมซะเครียดเลย ตอนได้มโมยิทธิตอนม.6นั้น ผมรู้สึกว่าศีลข้อ3ของผมนั้นมันไม่บริสุทธิ์จึงทำให้ผมไม่สามารถทรงวิชชานี้ต่อไปได้ เพราะเวลาขึ้นไปบนพระจุฬามุณีเจดีย์สถานนั้น มันมีความฟุ้งซ่านมาก จนมีคนมาเตือนผมว่าถ้าขึ้นไปได้จริงๆมันจะไม่ฟุ้งซ่านนะ ตอนนั้นผมก็คิดว่า ตายล่ะหว่า เกิดศีลไม่บริสุทธิ์แล้ว'คิด'ว่าตัวเองขึ้นไปได้ ต่อไปคงจะเพี้ยนๆเป็นแน่ ผมจึงตัดสินใจละวิชชานั้นไปก่อนเพราะกำลังใจยังไม่ทรงตัว พิ่งจะมาถึงบางอ้อเมื่อกี้ที่พี่เฟมบอก ผมจึงคิดว่าในตอนนั้นที่ขึ้นไปไม่ได้จริงๆ คงเป็นเพราะนิวรณ์เป็นแน่แท้
     
  7. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    อ่อ งั้นก็น่าจะสบายใจแล้วเนาะ ;)


    จริงๆเวลาพี่เห็นก็ใช่ว่าสมาธิจะดีอ่ะ เพราะมันจะมีนิวรณ์เข้าแล้วกำลังจิตหล่นลงมาเหมือนกัน


    อย่างตอน"เรื่องราวเกี่ยวกับพระรามเจ้าโพธิสัตว์" จิตพี่ก็มีนิวรณ์นะ คือ ตอนขึ้นไปพระจุฬามณีนิวรณ์ก็เข้ามาแทรกหล่นมา แล้วก็แว่บไปอีก สลับกันไป แล้วตอนที่เจอท่านครั้งแรกภาพที่เห็นก็ไม่ได้ชัดเจนมากมาย แนวมืดสลัวๆสลับกับแสงสว่างนิดๆแบบบรรยากาศตอนเช้ามืดอ่ะ พี่เลยอยากจะบอกว่าของพี่อ่ะเวลาใช้มโนมยิทธิพี่ก็มีนิวรณ์กิน แต่บางทีถ้ากำลังจิตตอนนั้นดีก็แทบจะไม่มีเรยจ้า


    สรุปคือถ้าขณะจิตนั้นนิวรณ์ไม่มีการรู้เห็นก็จะมา แต่ถ้านิวรณ์มาก็หล่นตุ๊บเลย


    อีกอย่าง บางเคสพี่รู้แบบจิตตอบจิต อย่างตอนมโนมยิทธิครึ่งกำลังที่พระท่านมาบอกว่าต่อไปพี่จะต้องออกจากการปฏิบัติธรรมอ่ะ หรือเคสเวลาบอกล่วงหน้าว่าจะต้องเจออดีตคู่ครอง ซึ่งหลายๆคนมองว่าจริงๆแล้วมันคือการคิดไปเองของเราหรือเปล่า พี่ก็ยอมรับตอนที่รู้อะไรแต่ละอย่างพี่ก็คิดว่าตัวเองน่าจะคิดไปเอง หรือเฝือไป แต่พอเกิดเหตุการณ์ก็จะรู้ว่าโอเค ท่านมาบอกแล้วนะ อะไรแบบนี้


    ดังนั้นถ้าเราจับสังเกตอารมณ์จิตเราจริงๆ คนเราเวลาคิดไปเอง อารมณ์จิตจะมีนิวรณ์ 5 เช่น อารมณ์ฟุ้งซ่าน แต่ถ้าเป็นอารมณ์อุปจารสมาธิ มันจะเป็นอาการที่จิตนิ่งแล้วรับรู้อ่ะ


    และเพื่อป้องกันการเฝือ ดังนั้นเวลาเรารับรู้อะไร ให้ตรวจสอบดูอารมณ์ใจของตัวเอง ตรวจสอบข้อธรรมกับคำสอนของพระพุทธเจ้า และถ้าเป็นการรู้อะไรบางอย่างก็ให้รอวันเวลาที่จะพิสูจน์จ้า


    ปล. พี่เองก็เป็นคนประเภทจินตนาการดีซะด้วย แล้วคิดดูสิบางอย่างที่พี่รู้มา พี่ยังคิดเลยว่าพี่จิ้นไปเองอ่ะ แต่พอเจอเหตุการณ์แล้วเงิบอย่างเดียว สรุปพี่คงเป็นพวกจินตนาการดีมั้ง เวลารู้อะไรเลยต้องให้รู้แบบจินตนาการเว่อร์ๆไปเลย เรียกว่าเป็นการให้รู้แบบตรงกับจริตนิสัยพี่อ่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2014
  8. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    เอาไว้ถ้าผมได้มโนมยิทธิอีกครั้ง ผมจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังบ้างนะคร้าบผม ^__^ และคงต้องอาศัยพี่ๆช่วยทดสอบสิ่งที่ผมเห็นและพบเจอด้วยว่าเป็นเรื่องจริงหรือผมจินตนาการไปเอง
     
  9. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    สาธุในความตั้งใจที่จะทำความดีนะจ๊ะ


    พี่เองตอนนี้ได้แต่ทำความดีก๊อกแก๊กไปเรื่อยๆจ้า เพราะห่างการฝึกไปหลายปีแล้ว (ที่พิมพ์ๆให้อ่านก่อนหน้านั้นคือประสบการณ์ที่ผ่านมาจ๊ะ)


    ปล. ตอนนี้แก้ไขเนื้อหา "ยถากัมมุตาญาณ-ผลกรรมในอดีตชาติที่ผิดศีลข้อ ๓" เรียบร้อยแล้วคร่าา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2014
  10. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    วันนี้ไปอ่านเจอที่หลวงพ่อท่านตอบปัญหาธรรมเกี่ยวกับการรักษาศีลข้อ 4 ไว้ เลยเอามาฝากจ้า


    โกหกสามี


    ผู้ถาม :: หลวงพ่อคะ ดิฉันไปซื้อดอกไม้แถวสนามหลวงราคา ๑๕๐ บาท พอกลับถึงบ้าน บอกกับสามีว่าต้นไม้ราคา ๕๐ บาท ที่บอกอย่างนั้นเพราะเกรงว่าสามีจะดุเอา ตอนหลังมานึกดูรู้สึกเสียใจค่ะ ไม่น่าโกหกเขาเลย อย่างนี้ศีลจะขาดไหมคะ.....?


    หลวงพ่อ :: อย่างนี้เป็นการรักษาประโยชน์ไว้ ไม่ได้ทำลายประโยชน์ ข้อมุสาวาท จะขาดมันต้องทำลายประโยชน์ของบุคคลอื่น แต่นี่เป็นการพูดเพื่อรักษากำลังใจเขา มันมีประโยชน์แต่ว่าไปโกหกอย่างอื่นเอาเรื่องนะ อย่างเช่น ของเลวบอกว่าของดี ของราคาถูกบอกของราคาแพง อันนี้มันทำลายประโยชน์


    โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน



    ปล. งานนี้เวลาพี่ซื้ออะไรมาแล้วคนที่บ้านถาม พี่ว่าพี่มีวิธีตอบแบบไม่โดนว่า(ว่าซื้อของมาแพงเกิน)แล้วล่ะ 555+ :p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2014
  11. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    เอาจริงๆช่วงนี้ผมก็ก๊อกแก๊กนะคร้าบบ ไม่ได้ทำอะไรเท่าไหร่เลย อาศัยการสวดมนต์ก่อนนอน ทำบุญใส่บาตรทุกวันพระ และ ทำบุญวิหารทานต่างๆ ช่วงสวดมนต์ก็ทรงอารมณ์ให้อยู่ในพุทธานุสติ ธรรมานุสติ และ สังฆานุสติครับ ก๊อกแก๊กกว่าพี่แน่ๆเลย ไปฝึกคราวนี้ก็ไม่รู้จะเป็นยังไงเหมือนกัน แหะๆ
     
  12. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    ไม่ต่างกันหรอกจ้า แต่พี่ว่าพี่น่าจะขยันน้อยกว่านะ เพราะแต่ละวันพี่จะใช้วิธีอธิษฐานตั้งใจไปพระนิพพานในช่วงตื่นนอน และก่อนนอน และอธิษฐานทำบุญสังฆทานวันละ 1 บาท (หนึ่งบาทก็ได้อานิสงค์ครบถ้วนสมบูรณ์เหมือนกันจ้า) และก็อาราธนาบารมีทุกๆพระองค์และพระที่ห้อยคออ่ะ


    ส่วนระหว่างวันจิตก็เลวไปตามระเบียบค่ะ อิอิ แต่ว่าไม่ละเมิดศีล 5 เด็ดขาด แล้วก็อาศัยพิมพ์กระทู้เพื่อทำธรรมทาน และถ้านึกขึ้นได้ก็จะสวดคาถาเงินล้านบ้าง(แต่ส่วนใหญ๋ขี้เกียจค่ะ ได้วันละ 1-3 จบเอง)


    ่ส่วนงานสาธารณะประโยชน์นั้น พี่ยอมรับว่าขาดกำลังทรัพย์ พี่จึงมาวิเคราะห์จุดแข็งของตัวเองว่ามีอะไรบ้าง แล้วก็พบว่าไม่มีเงินเราก็ทำสิ่งดีๆได้ พี่เลยใช้วิธีการแชร์ข้อมูลข่าวสารเพื่อช่วยเหลือองค์กรสาธารณะกุศลต่างๆอีกทางหนึ่ง หรือเวลาพี่ทราบข่าวอะไรดีๆ พี่ก็จะมาบอกต่อให้กับคนที่มีศักยภาพ ยกตัวอย่างเช่น พี่รู้จักกับน้องพุทธภูมิท่านหนึ่ง ซึ่งเรียนมาทางครุศาสตร์และมีความใฝ่ฝันอยากจะสอนเด็กๆให้มีความรู้และมีคุณธรรมไปด้วย แล้วบังเอิญพี่เห็นโครงการ "Teach for Thailand" ในเฟซบุ๊ค พี่เลยแนะนำเค้าไป ถือเป็นการช่วยส่งเสริมพุทธภูมิที่อยากทำสิ่งดีๆด้วยกันอีกทางหนึ่ง


    ปล. พี่กดไลค์เพจของหน่วยงาน/องค์กรดีๆหลายเพจ เพื่อหาความรู้และส่งต่อข้อมูลเพื่อช่วยเหลือเท่าที่ทำได้อ่ะ ซึ่งจริงๆแล้วพี่เพิ่งพบอีกหน่วยงานหนึ่งคือ chang.org ที่มีหลายๆโครงการที่เราสามารถสนับสนุนได้ง่ายๆด้วยตัวเอง (ตอนนี้กำลังศึกษารายละเอียดอยู่) จ้า ;)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2014
  13. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ผมล่ะกลัวความขี้เกียจและความเลวของตัวเองชะมัด การปฎิบัติมันจะไปไม่ถึงดั่งความตั้งใจก็เพราะพวกนี้แหละคร้าบบบ :(

    ปล.ส่วนงานสาธารณประโยชน์ ผมเห็นพี่พุทธภูมิท่านหนึ่ง คือ พี่ ธรรมวิวัฒน์ ท่านทำบุญวิหารทานทุหๆอย่างอีกทั้งยังร่วมบุญช่วยเว็บพลังจิตเผยแพร่พระพุทธศาสนาอีกด้วย การทำแต่ละครั้งนั้น พี่ท่านทำในจำนวนน้อยแต่ทำบ่อยๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2014
  14. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    "การทรงกำลังใจในฐานะของผู้ปฏิบัติธรรม กับสถานการณ์ทางการเมือง"


    วันนี้พี่ไปอ่านกระทู้ของพี่เก่งมา เห็นพี่ท่านหนึ่งชื่อ tharathan แสดงความประสงค์อยากจะทำบุญธรรมทานด้วย พี่เลยคิดว่าอะไรที่นำมารวมกันได้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้มีกำลังกาย กำลังทรัพย์ และไอเดียสติปัญญาของหลายๆท่านมารวมกัน ส่วนสิ่งใดที่แยกย้ายกันไปทำแล้วสะดวกกว่าก็ให้ลงมือทำได้เรยตามกำลังแต่ละคนจ้า


    เฉกเช่นเดียวกับพี่ธรรมวิวัฒน์ หรือพุทธภูมิท่านอื่นๆ พี่ก็ขอส่งกำลังใจอนุโมทนาบุญในการทำบารมีพระโพธิญาณ เพราะพุทธภูมิล้วนมีจุดร่วมกันในการสงเคราะห์ผู้คนและเป็นกำลังให้พระพุทธศาสนาให้มีความเจริญรุ่งเรือง เพื่อให้ธรรมนั้นได้เข้าถึงจิตใจของผู้คนทั้งหลายจ้า


    ดังนั้นสิ่งนี้จึงเป็นที่มาของคติประจำใจพี่อย่างหนึ่งก็คือ หากพุทธภูมิท่านใดกำลังทำบารมีแล้วอยากจะได้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นกำลังทรัพย์ กำลังสติปัญญา ไอเดีย ข้อมูล หรือช่องทางโอกาสต่างๆในชีวิตที่จะทำให้การทำบารมีพระโพธิญาณนั้นสำเร็จผลได้ดียิ่งขึ้น พี่ขอเป็นพุทธภูมิคนหนึ่งที่จะช่วยเหลือ ส่งเสริมเพื่อนพระโพธิญาณด้วยกัน!! ;)


    [​IMG]


    "สำหรับท่านที่บำเพ็ญตนปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ ต้องสร้างกำลังใจให้ถูกต้อง มิฉะนั้นการก้าวเข้าสู่ฐานะพุทธภูมิจะไม่มีผล การปรารถนาพุทธภูมิเป็นของดี แต่จะต้องทำความรู้สึกไว้เสมอว่า เราปฏิบัตินี้เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก เราต้องการซื้อสัตว์ขนสัตว์ที่มีความทุกข์ให้มีความสุข จิตจะต้องคิดอยู่เสมอว่า ทุกข์ของตนไม่มีความหมาย แต่ทุกข์ของชาวประชาทั้งหลายเป็นภาระของเรา เขาทำกำลังใจกันแบบนี้"


    "และกำลังใจอีกส่วนหนึ่งที่จะเว้นไม่ได้นั่นคือ พระนิพพาน จงอย่าคิดว่าถ้าจิตเราเกาะพระนิพพานแล้วความเป็นพุทธภูมิจะหายไป ถ้ามีอารมณ์อย่างนี้ต้องถือว่า เป็นผู้มีกำลังใจต่ำ ก้าวไม่ถึงก้าวสำคัญของพุทธภูมิ พุทธภูมิจะต้องมีความรู้สึกอยู่เสมอว่าเราเป็นผู้ที่ต้องการพระนิพพาน อารมณ์ใดที่องค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงแนะนำในด้านวิปัสสนาญาณ ต้องเกาะให้ติด และมีกำลังจิตใช้ปัญญาพิจารณาไว้เสมอ เพื่อความสุขของจิต เพื่อปัญญาเลิศแล้ว ก็มีจิตตั้งไว้เสมอว่า ถ้าหากจิตของเราบริสุทธิ์ผุดผ่องเมื่อไหร่ เมื่อนั้นบารมีของเรานั้นไซร้ จะเข้าเต็มเปี่ยมในขั้น พุทธวิสัย"





    สำหรับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ในฐานะที่ปรารถนาพุทธภูมิและเรียนทางด้านรัฐศาสตร์มา พี่ยอมรับว่าเมื่อประมวลหลายๆอย่างเข้าด้วยกันแล้ว สิ่งหนึ่งที่พี่มองและคิดว่าตรงจุดที่สุดก็คือ กฎแห่งกรรมที่กำลังรุมเร้าคนทุกส่วนทุกฝ่ายในขณะนี้ ซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้งทางความคิด ทางอุดมการณ์ ผลประโยชน์ และตกอยู่ภายใต้วาทะกรรมและจิตวิทยมวลชน ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้คนเกิดความคิด ความเชื่อ และยึดข้อมูลข่าวสาร ซึ่งเป็นอวิชชา(ความไม่รู้ในทางธรรม) และมายาคติ(ในทางโลก) อันนำมาซึ่งการปรุงแต่งต่างๆ และเป็นเหตุให้เกิดความเกลียดชัง ขาดพรหมวิหาร ๔ ประจำใจ ต่อผู้คนอีกฝ่าย


    ดังนั้นสิ่งที่พี่จะทำได้ก็คือ การอุทิศส่วนกุศลตามแบบฉบับของหลวงพ่อท่าน และการแผ่เมตตาให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือท่านอื่นๆในภพภูมิต่างๆ เพื่อเป็นหนึ่งในหยดน้ำเล็กๆที่มีแต่ความเย็น อันจะช่วยดับไฟและความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นได้ไม่มากก็น้อยค่ะ


    ทั้งนี้เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดนั้น ล้วนอยู่ภายใต้เหตุและผลของทางโลก และทางธรรมเหมือนๆกัน ซึ่งหากเราเข้าใจตรงจุดนี้ เราจะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ว่าจะมองจากมุมไหนทั้งทางโลก(รัฐศาสตร์)หรือทางธรรม และเราจะรู้ว่าเราจะต้องทำตัวอย่างไรตามบทบาทฐานะหน้าที่ทั้งทางโลกและทางธรรมที่เรามี เพื่อที่จะผ่านวิกฤตการณ์ในครั้งนี้โดยให้เกิดความสูญเสียและการสร้างเวรกรรมต่อกันให้น้อยที่สุดค่ะ


    [​IMG]


    "การเข้าถึงความดี(ความเป็นคนดี*)ในทางพระพุทธศาสนา" โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)


    *** ถ้าบุคคลใดไม่สนใจในจริยาของบุคคลอื่น ไม่เพ่งเล็งบุคคลอื่น ไม่ยกตนข่มท่าน ไม่มีความ
    ประมาท มีจริยาดี มีความสงบ ใคร่ครวญเฉพาะความประพฤติของตัว อย่างนี้ชื่อว่าเข้าถึง
    สะเก็ดความดี ที่ตถาคตสอน



    *** แล้วบุคคลใดไม่ทำลาย ศีล ในตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้บุคคลอื่นทำลาย ศีล ไม่ยินดีเมื่อ
    บุคคลอื่นทำลาย ศีล แล้วสามารถระงับ นิวรณ์ ๕ ได้ตามต้องการ จิตทรงฌาน มีอารมณ์ทรง
    พรหมวิหาร ๔ เป็นปกติ ชื่อว่าเป็นผู้ทรงฌานโลกีย์ อย่างนี้ถือว่าเข้าถึงเปลือกความดีที่
    พระองค์ทรงสั่งสอน



    * ตรงนี้(ส่วนที่เขียนว่า"ความเป็นคนดี")ถือเป็นส่วนที่จขกท.เพิ่มมาเองค่ะ ไม่ใช่คำกล่าวของหลวงพ่อนะคะ



    บทอุทิศส่วนกุศล โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)


    อิทัง ปุญญะ พะลัง

    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้
    ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
    ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี
    ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้
    ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วันนี้ ตราบท้าว เข้าสู่พระนิพพาน

    และข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย
    ที่ปกปักษ์รักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช
    ขอให้เทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้
    ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้า ในครั้งนี้ด้วยเถิด

    และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว
    ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี
    เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้
    พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้
    ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย
    ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้เทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2014
  15. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    อนุโมทนาครับพี่เฟม เรื่องกองทุนผมสนับสนุนเต็มที่เลยนะคร้าบบ มีความคืบหน้าเมื่อไหร่ ฝากแจ้งด้วยนะคร้าบผม :cool:
     
  16. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    อนุโมทนากับน้องๆทุกท่านครับ คืบหน้าอย่างไรบอกพี่ด้วยนะครับ
     
  17. HappyL

    HappyL Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +55
    อ่านติดขอบจอตั้งแต่ต้นจนจบ ได้ความรู้มากมาย ขออนุโมทนาและขอขอบคุณ K.White Sage สำหรับการเขียนเพื่อธรรมทานครั้งนี้ด้วยคะ
     
  18. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    สาธุ ขออนุโมทนาบุญของคุณ HappyLA เช่นกันนะคะ :)


    ปล. เรียนแจ้งทุกๆท่านนะคะ ขณะนี้จขกท.ได้ทำการแก้ไขปรับปรุงเรื่องต่างๆในหัวข้อ"ประสบการณ์มโนมยิทธิ และญาณ ๘" เรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนหัวข้อ"ประสบการณ์ที่ได้จากการปฏิบัติธรรม...." กำลังทยอยปรับปรุงอยู่นะคะ :)
     
  19. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    พี่เฟมมม วันนี้ผมไปฝึกมโนมยิทธิมาที่บ้านสายลมครับ ฝึกเสร็จยังฟินไม่หายกับสภาวะจิตไร้กิเลสบนพระนิพพาน และก็ เจอหลวงพ่อ หลวงปู่ปาน และท่านเทวดาประจำตัวด้วยครับ ซึ่งท่านเป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลที่มีเทวฤทธิ์แรงกล้ามาก ไว้ผมจะเล่าในกระทู้ของพี่เก่งนะครับ พี่เฟมตามไปอ่านดัวยนะ ^__^
     
  20. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    อ่า....พี่เฟมครับ ถือโอกาสถามพี่เรื่องการเจริญพระกรรมฐานสักเล็กน้อยนะครับ เห็นว่าพี่มีประสบการณ์เกี่ยวกับมโนมยิทธิและญาน8มาก่อนผม และมีมามากกว่าผม

    สอบถามพี่เฟมนิดนึงครับว่า ถ้าเวลาการเจริญพระกรรมฐานแล้วเราเคลื่อนจิตขึ้นไปข้างบนได้ โดยจิตรู้ว่าสถานที่นี้แห่งนี้เป็นที่ใด เช่น หากขอบารมีพระเพื่อขึ้นไปบนวิมานของสมเด็จองค์ปัจจุบัน จิตบอกว่าที่นี้คือวิมานของท่าน แต่จิตยังไม่ค่อยมีความสงบรำงับนัก คือมีอาการฟุ้งซ่านบ้างเล็กน้อย แต่พอจับอานาปานุสติ ความฟุ้งซ่านก็ค่อยๆหายไปหรือลดลงเรื่อยๆจนจิตสงบรำงับ (ในช่วงที่มีความฟุ้งซ่านภาพที่เห็นก็ไม่ค่อยชัดเจนแจ่มใสเท่าไหร่ครับแต่พอจิตสงบรำงับแล้วภาพที่เห็นก็ชัดเจนเช่นเดิม)ผมจึงอยากจะสอบถามพี่ว่า อาการเช่นนี้ถือว่าจิตของเราได้เคลื่อนไปในสถานที่นั้นจริงๆ หรือ เป็นเพียงอุปาทานของเราเองครับ

    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...