เราเกิดมาทุกคนนี้เกิดมาด้วยอำนาจแห่งกรรม ตกแต่งมาแล้วพร้อมมูลทุกคน ไม่มีใครจะเอาไปเพิ่มให้ใครได้...
คำว่า "จิตไม่นิ่ง" ก็คือ มันไม่ผ่องใสนั่นเองแล้วมันก็บอกอยู่ชัด ๆ แล้วเนื้อความว่า "กิเลส" คือความเศร้าหมองของจิต จิตไม่นิ่งเพราะกิเลส...
แย่งกัน ด่าว่ากัน ถกเถียงกันยังไม่พอ.....จิตที่ผูกพยาบาทอาฆาตจองเวรไว้ตั้งแต่ครั้งก่อนโน้น เกิดมาในชาตินี้ก็มาหลงเอาของเก่า มาแย่งชิงกัน ด่าว่ากัน...
อยู่กับ "พุทโธ" มีคนร้อยคนพันคน ก็เหมือนไม่มี :)
เมื่อเกิด "ความเข้าใจ" ก็เรียกว่า "ปัญญาเกิด"
ขันธ์ ๕ ท่านแบ่งเป็น ๒ ส่วน ๑. รูปธรรม คือ รูป ๒. นามธรรม คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ "นามธรรม" ทั้งหลายล้วนออกมาจาก "จิต"...
อกุศลหรือกุศลนี้ ต้องใช้สัมผัสพิเศษ คือจิต
กลิ่น กลิ่นของศีล หอมตามลมและทวนลม รส รสแห่งธรรมชำนะรสทั้งปวง สัมผัส พระนิพพาน สัมผัสอันประเสริฐเลิศโลก :)
เห็นทุกข์ เรียกว่า เห็นธรรม เห็นจิต เรียกว่า เห็นแก่นธรรม :)
ผู้รู้ คือ ปัญญา ตัวรู้หรือธาตุรู้ คือ จิต ผู้ระลึกได้ ผู้คอยระวังป้องกัน คือ สติ :)<!-- google_ad_section_end -->
ธรรม เปรียบเหมือน ยา หมอ วินิจฉัยคนไข้เสียก่อน เหมาะกับยาชนิดใด จึงจ่ายยา เพื่อประโยชน์คนไข้ พระองค์ก็เช่นกัน ตรวจอุปนิสสัยของสัตว์โลกเสียก่อน...
คิดอย่างนี้ดีไหม? " เกิดเป็นมนุษย์ว่ายากแล้ว พบพุทธศาสนาด้วยมหายากสุดๆ เลยละ โชคดีขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ปฏิบัติศานาเลย เรียกว่าเกิดมาสูญเปล่า...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา