ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    รัฐบาลอังกฤษกล่าวหารัสเซียว่าอยู่เบื้องหลังการพยายามทำรัฐประหารและลอบสังหารนายกฯมอนเตเนโกรเมื่อปีที่แล้ว
    ------------

    วันที่ 20 ก.พ.60 RT พาดหัวข่าวว่า "'รีไซเคิลข่าวเท็จ': สถานทูตรัสเซียจวกสื่ออังกฤษกรณีรายงานข่าวว่ารัสเซียวางแผนทำก่อรัฐประหารโค่นรัฐบาลมอนเตเนโกร" (‘Fake news recycling’: Russian Embassy calls out UK media over ‘Montenegro coup plot’ report)

    สถานทูตรัสเซียในกรุงลอนดอนปฏิเสธการเหน็บแนมอย่างไร้ยางอายในรายงานของสำนักข่าว The Telegraph ของอังกฤษซึ่งกล่าวหากรุงมอสโคว์ว่าสมคบคิดเพื่อโค่นล้มรัฐบาลมอนเตเนโกรในช่วงเลือกตั้งปี 2016 โดยอธิบายว่ารายงานดังกล่าวเป็นการรีไซเคิล "ข่าวเท็จ"

    "เหมือนเดิม ไม่มีหลักฐาน เหน็บแนมอย่างไร้ยางอาย" ทูตรัสเซียโพสต์ข้อความในทวีเตอร์ในการตอบโต้ต่อบทความที่ยาวเฟื้อยของ The Telegraph ซึ่งพาดหัวแบบโลดโผน จากนั้นก็ตามด้วยการกล่าวหารัสเซียว่าสมรู้ร่วมคิดในการวางแผนก่อการรัฐประหารในประเทศมอนเตเนโกรในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการใส่ร้ายว่าเพื่อก่อวินาศกรรมต่อแผนการของประเทศนั้นที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของแก๊งนาโต้

    หนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษได้อ้างแหล่งข่าวอาวุโสในวังขาว (Whitehall = ทำเนียบรัฐบาลอังกฤษ) ซึ่งไม่ได้ระบุชื่อ โดยกล่าวในรายงานฉบับนี้ว่า นายกรัฐมนตรี Milo Djukanovic ได้ตกเป็นเป้าหมายของบรรดาเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง (สายลับ) ของรัสเซียด้วยการสนับสนุนและอวยพรจากกรุงมอสโคว์

    การวางแผนตามที่ได้กล่าวหานั้น "อาจจะนำมาซึ่งการหลั่งเลือดครั้งใหญ่ และฉุดประเทศเล็กๆแห่งนี้เข้าสู่ความวุ่นวายก็ได้" หนังสือพิมพ์ของอังกฤษ (นั่งเทียน?) เขียน ซึ่งก็มีสื่อฯอื่นของตะวันตกรับลูกต่อไปอีก

    รายงานทั้งฉบับนั้นเป็นการรีไซเคิลการเขียนข่าวยาวเพื่อสร้างความตึงเครียดให้เกิดกับรัสเซีย สถานทูตรัสเซียกล่าว เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว กรุงมอสโคว์ได้ปฏิเสธอย่างชัดเจนแล้วเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการมีส่วนร่วมอย่างเป็นทางการในความพยายามใดๆที่จะกระทำกิจกรรมต่างๆที่ผิดกฎหมาย ระหว่างการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในประเทศมอนเตเนโกร

    นาย Milivoje Katnic อัยการพิเศษฝ่ายอาชญากรรมจัดตั้งซึี่งในเวลานั้นได้กล่าวหา "องค์กรที่ทรงอำนาจ" แห่งหนึ่งเกี่ยวกับการวางแผนก่อการทำรัฐประหาร ได้ยอมรับแล้วว่านอกเหนือจากหลายชนชาติที่ต้องสงสัยจากรัสเซียแล้ว ก็ไม่มีหลักฐานใดๆซึ่งระบุว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวนี้เลย ยังไม่มีการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นทางการจากกรุง Podgorica มาถึงกรุงมอสโคว์เกี่ยวกับความพยายามทำรัฐประหารตามที่ได้มีการกล่าวหาเลย ทำเนียบเครมลินยืนยัน

    วันที่ 19 Sputnik รายงานข่าวนี้ว่า ท่ามกลางการรายงานข่าวที่ส่งผลเป็นบวกจากการพบกันระหว่างนาย Sergey Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียและนาย Rex Tillerson รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในการประชุม G20 (ที่ประเทศเยอรมัน) หนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษก็ปล่อยข่าวโดยการอ้างแหล่งข่าวจากฝ่ายรัฐบาลของตนเองที่ไม่เอ่ยนามซึ่งกล่าวว่า กรุงมอสโคว์ได้พยายามที่จะโค่นอำนาจของนายกรัฐมนตรี Milo Djukanovic ของมอนเตเนโกรเมื่อปีที่แล้ว

    วันที่ 13 ก.พ.60 Sputnik รายงานข่าวว่า อัยการมอนเตเนโกรประกาศในรัฐสภาเมื่อวันจันทร์นี้ และได้ขอให้มีการยกเลิกเอกสิทธิ์ของบรรดาผู้นำฝ่ายค้านซึ่งต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการพยายามก่อการรัฐประหารเมื่อปีที่แล้ว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสังหารนายกรัฐมนตรีตามที่มีการกล่าวหา และพยายามขัดขวางประเทศนั้นออกจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโต้

    [เป็นเรื่องปรกติของสื่อฯผู้ดีเทียมในสมัยปัจจุบัน การเมืองแบบตะวันตกของจริงก็เป็นแบบนี้แหละครับ แต่สองเหตุการณ์เกี่ยวกับการก่อการรัฐประหารที่เกิดขึ้นแล้วและ 100 เปอร์เซ็นว่าแก๊งนาโต้นำโดยสหรัฐและมหาอำนาจในยุโรปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเหตุการณ์หนึี่งทำสำเร็จ ส่วนอีกเหตุการณ์หนึี่งทำไม่สำเร็จ

    เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่ "ยูเครน" รัฐบาลของประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิชของยูเครนถูกโค่นอำนาจด้วยการก่อการรัฐประหารและเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดจากการลอบสังหาร เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ของยูเครนเป็นโปร-รัสเซีย ไม่เห็นด้วยกับกระเรียกร้องให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกของอียูและนาโต้ พวกอียูและสหรัฐจึงต้องรีบจัดการเขี่ยไปให้พ้นทางของตัวเอง ด้วยการยึดอำนาจของปธน. วิคเตอร์ ยานูโควิช ซึ่งลี้ภัยไปอยู่ที่รัสเซีย

    ช่วงนั้นยูเครนเกิดการเผาบ้านเผาเมืองที่จตุรัสไมดานและสถานที่สำคัญของหน่วยงานรัฐบาลกลางหลายแห่งในหลายเมือง มีการจุดไฟเผาคนที่เห็นต่างทั้งเป็นหลายศพภายในอาคาร หลังจากโค่นรัฐบาลเก่าได้แล้ว สหรัฐและแก๊งนาโต้ก็รีบจัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดของตนเองขึ้นมาโดยมีนายเปโตร โปโรเชนโก้ พ่อค้าช็อกเกอร์แลตเป็นประธานาธิบดีของยูเครนมาจนถึงปัจจุบันนี้ นี่คือความชั่วของแก๊งนาโต้เกี่ยวกับเรื่องการสนับสนุนการทำรัฐประหารในต่างประเทศเมื่อเร็วๆนี้

    เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นใน "ตุรกี" ข่าวนี้ดังไปทั่วโลก ประธานาธิบดีแอร์โดกันกล่าวว่าพวกอียูและนาโต้ด้วยกันนั่นแหละที่อยู่เบื้องหลังของการพยายามก่อการรัฐประหารครั้งล่าสุดในตุรกี แต่แอร์โดกันไหวตัวทันและจัดการอย่างเด็ดขาด เล่นเอาพวกอียูและสหรัฐนั่งไม่ติด กลัวว่าลูกน้องของตัวเองที่ฟูมฟักมาในตุรกีจะสูญพันธุ์หมด จึงรีบออกมากดกันและวิพากษ์วิจารณ์แอร์โดกันว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่เฒ่าแอร์โดกันก็ไม่สนใจเสียงเห่าหอนเหล่านั้น

    เพื่ออำพรางความชั่วของตัวเอง วันนี้แก๊งนาโต้ออกมาปล่อยข่าวว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังการพยายามก่อรัฐประหารในมอนเตเนโกรซะงั้น นึกว่าคนทั้งโลกจะไม่รู้ทันความกระล่อนของพวกนักการเมืองหรือไง?

    อ้อ… อาจจะเป็นไปได้ว่าตอนนี้รัฐบาลมอนเตเนโกรกำลังใช้ "แอร์โดกันโมเดล" ในการกวาดล้างฝ่ายค้านให้เตียนในรอบเดียวก็ได้ แม้ว่าจะไม่มีการก่อการรัฐประหารขึ้นมาจริงเหมือนกับในยูเครนและตุรกี แต่การยัดข้อหาให้ฝ่ายค้านซึ่งหน้าแบบนี้ ประจวบกับมีสื่อกระแสหลักของตะวันตกช่วยประโคมข่าวเต้าข่าวให้ มันก็ฟังดูน่าเชื่อถือในสายตาของบางคนเช่นกัน

    อย่าบอกนะว่าแก๊งนาโต้ที่ปากบอกว่าต่อต้านกระปราบปรามพวกฝ่ายค้านของแอร์โดกันกำลังแอบปลื้มกับวิธีการของผู้นำตุรกี ก็อปปี้ซะเลย! แถมโยนขี้ให้รัสเซียอีกต่างหาก ได้ตั้งสองเด้งแหนะ แอ็ดมินแค่มโนเล่นๆนะครับ ก็ขนาด The Telegraph ยังมโนได้เป็นวรรคเป็นเวรขนาดนั้น เราก็ลองมโนบ้างดิ ฮ่าๆ - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    20/02/2560
    ----------
    https://www.rt.com/news/377899-montenegro-russia-plot-innuendo/
    http://www.telegraph.co.uk/news/201...erthrow-montenegros-government-assassinating/
    https://sputniknews.com/politics/201702191050832609-uk-moscow-coup-montenegro/
    https://sputniknews.com/politics/201702131050643333-montenegro-coup-opposition-leader-arrest/
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    เมือง Haritan ในอะเลปโปตะวันตกกลายเป็นเมืองผีหลังกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียขับไล่พวกกบฏและผู้ก่อการร้ายออกไปจากพื้นที่ได้แล้ว ผลพวงจากการเผยแพร่ลัทธิประชาธิปไตยของแก๊งนาโต้ โดยส่งกองทัพไอซิสเข้าไปเคลียร์พื้นที่ก่อน (17 ก.พ.60)
    ------------------

    .
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    เมื่อสื่อกระแสหลักและพวกอำนาจเก่ารวมทั้งพวกที่แพ้เลือกตั้งเล่นไม่เลิก ทรัมป์ก็ปลุกม็อบสนับสนุนตนเองขึ้นมางัดกับฝ่ายต่อต้านบ้าง นี่แหละการเมืองของสหรัฐสมัยปัจจุบันหลังจากที่ทำการทดลองโมเดลม็อบชนม็อบมาแล้วในหลายประเทศ (18 ก.พ.60)
    ----------------

    .
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สำนักข่าวสิ่งแวดล้อม Greennews

    ‘เซ็ตซีโร่’ โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่
    ครม.รับปาก 21 ก.พ.นี้ รื้อทิ้ง EIA
    ------------------------------------
    ... สำนักข่าวสิ่งแวดล้อม (GreenNews)

    กลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ซึ่งรวมตัวกันอยู่บริเวณทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.2560 หรือกว่า 2 วัน เริ่มเก็บข้าวของสัมภาระเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงบ่ายของวันที่ 19 ก.พ.2560 ด้วยรถของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ภายหลังรับทราบผลการหารือระหว่างแกนนำกลุ่มและตัวแทนรัฐบาล โดยตัวแทนรัฐบาลรับปากว่าจะยกเลิกรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ของโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 ก.พ.นี้

    พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 แถลงผลการหารือร่วมกับแกนนำผู้ชุมนุมตอนหนึ่งว่า ได้ข้อสรุปคือประชาชนไม่วิตกว่าจะใช้พลังงานชนิดใดมาทำไฟฟ้า เพียงแต่ไม่มั่นใจกระบวนการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) เท่านั้น

    ทั้งนี้ รัฐบาลได้สั่งให้กระทรวงพลังงานแจ้งไปยังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้เริ่มต้นกระบวนศึกษารายงานดังกล่าวใหม่ โดยปรับปรุงเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วม และไม่ว่าผลการศึกษาจะออกมาอย่างไร ยืนยันว่าทุกฝ่ายพร้อมจะยอมรับ

    ประสิทธิ์ชัย หนูนวล หนึ่งในแกนนำเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน กล่าวว่า จากการหารือกับรัฐบาลได้ข้อยุติว่าจะมีการยกเลิกรายงาน EIA และ EHIA ฉบับเดิมออกไป ดังนั้นการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ขณะนี้จึงกลายเป็นศูนย์ คือถ้าสร้างต้องเริ่มกระบวนการรับฟังความคิดเห็นใหม่

    “รัฐบาลจะประกาศยกเลิกรายงานดังกล่าวในวันที่ 21 ก.พ.นี้ หลังการประชุม ครม. และไม่ว่าผลการศึกษาครั้งต่อไปจะเป็นอย่างไร พวกเราพร้อมน้อมรับ หลังจากนี้ขอให้พี่น้องทุกคนเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย” ผู้ประสานงานเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินชี้แจงกับผู้ชุมนุม ภายหลังยอมรับเงื่อนไขยุติการชุมนุม พามวลชนกลับบ้าน แลกกับคำสัญญาเรื่องยกเลิก EIA และ EHIA

    ----- รุมสับมติ กพช. - รวบตัวแกนนำม็อบ -----

    กลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน เข้าประชิดทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.2560 ก่อนจะยกระดับการชุมนุม “ปักหลัก-ยืดเยื้อ” จนกว่ารัฐบาลจะยุติโครงการก่อสร้าง ภายหลังรับทราบมติของที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะในวันเดียวกันว่า ที่ประชุม “เปิดไฟเขียว” โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินต่อไปตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี)

    แน่นอนว่า มติเดินหน้าโครงไฟฟ้าถ่านหินจากที่ประชุม กพช.ได้สร้างความไม่พึงพอใจต่อกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมาก แต่ที่ดูจะเป็นการ “สุมไฟในกองเพลิง” มากกว่า คือการ “บุกรวบตัว” แกนนำผู้ชุมนุมในช่วงเช้าวันถัดมา ซึ่งก็คือวันที่ 18 ก.พ.2560

    ประกอบด้วย ประสิทธิ์ หนูนวล ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร อัครเดช ฉากจินดา บรรจง นะแส และธัชพงษ์ แกดำ รวม 5 ราย ก่อนจะมีการเจรจาและปล่อยตัวในวันรุ่งขึ้นก็คือวันที่ 19 ก.พ.2560
    ระหว่างที่สถานการณ์ยังฝุ่นตลบ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ออกแถลงการณ์ เรื่องหยุดนโยบายการใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน หันมาสร้างรูปธรรมการผลิตพลังงานเพื่อโลกอนาคตและสิ่งแวดล้อมที่ดี เรียกร้องให้รัฐบาลและ กพช.ทบทวนนโยบายดังกล่าว

    เครือข่ายประชาชน 5 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล ออกแถลงการณ์เตรียมยกระดับการเคลื่อนไหว หากรัฐบาลสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และเทพา
    เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ ออกแถลงการณเรื่องหลักการให้ความเคารพต่อผู้ชุมชุมอย่างสงบ และปราศจากอาวุธ กรณีการเรียกร้องของเครือข่ายต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ เรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำ และทบทวนคำสั่งของ กพช.

    สภาองค์กรชุมชน และเครือข่ายองค์กรชุมชนภาคใต้ ออกแถลงการณ์เรื่องหยุดโรงไฟฟ้าถ่านหิน ยุติการใช้ความรุนแรงและคุกคามสิทธิชุมชน ส่วนขบวนการประชาธิปไตยใหม่ แถลงข่าวแสดงจุดยืนสนับสนุนการแสดงออกของกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่

    คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์เรื่องการยุติการชุมนุมและควบคุมตัวแกนนำกลุ่มคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน และ 5 องค์กรสิทธิ ออกแถลงการณ์เรื่องขอให้เคารพเสรีภาพในการชุมนุมสาธารณะ และปล่อยตัวแกนนำค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่โดยไม่มีเงื่อนไข

    ----- ทำ ‘EIA’ ใหม่ ต้องใช้เวลาอีกกว่า 2 ปี -----

    ท่าทีล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกส่งผ่านคำชี้แจงกรณี กพช.มีมติเห็นชอบให้เดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ตอนหนึ่งว่า ไม่ใช่หมายความว่า กพช.เห็นชอบให้โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเดินหน้าตามขั้นตอนไปแล้วจะสามารถสร้างได้ทันที หากคณะกรรมการเห็นว่าจะต้องเริ่มต้นกระบวนการ EIA ใหม่ ทางกระทรวงพลังงานและ กฟผ.ก็ต้องปฏิบัติตาม โดยเฉพาะเรื่อง EIA จะเป็นจุดผ่านที่สำคัญ ถ้าไม่ผ่านก็สร้างไม่ได้

    พล.อ.ประยุทธ์ ระบุอีกว่า กรณีของกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินออกมาชุมนุมต่อต้านข้างทำเนียบรัฐบาลนั้น ขณะนี้ถือว่าผิด พ.ร.บ.การชุมนุม และต้องส่งฟ้อง แต่รัฐบาลก็ยังไม่ดำเนินการ แต่จะใช้วิธีการเรียกมาคุยเพื่อทำความเข้าใจ ขณะเดียวกันอยากฝากถึง เตือนใจ ดีเทศ กสม.และนักการเมืองว่า อย่ามาหาคะแนนเสียงในเวลานี้

    ทางด้าน สหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ กฟผ. ในฐานะโฆษก กฟผ. ได้ให้สัมภาษณ์เนชั่นทีวีช่อง 22 ถึงการการดำเนินการเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ว่าต้องรอความชัดเจนจากที่ประชุม ครม. วันที่ 21 ก.พ.นี้ก่อน เนื่องจากขณะนี้ข้อมูลยังไม่ตรงกัน โดยโฆษกรัฐบาลบอกว่าจะมีการทบทวน EIA ใหม่ แต่แกนนำบอกว่าต้องไปทำใหม่

    “ต้องรอความชัดเจนจากที่ประชุม ครม.วันอังคารนี้ ถ้าต้องทำ EIA และ EHIA ใหม่ ต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี” โฆษก กฟผ.ระบุ

    ดังนั้นสิ่งต่อไปที่ทุกฝ่ายจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด คือการกำหนดการชี้ชะตาของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ที่ต้องเลื่อนออกไปต่ออีกหนึ่งอึดใจ ในวันที่ 21 ก.พ.นี้
    ------------------------------------
    http://www.greennewstv.com/?p=11693
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด (ตอนที่ 1)
    thong_vcharkarn
    บทความการศึกษา-เรียนต่อ October 08, 2007
    ก๊าซธรรมชาติ
    ดร.สุนีรัตน์ พิพัฒน์มโนมัย บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) ______________________________________________________ ในปัจจุบัน 65 % ของไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมดของประเทศใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง รองลงมาคือถ่านหิน 16% โดยส่วนใหญ่มาจากแหล่งถ่านหินในประเทศ ที่เหลือมาจากแหล่งพลังงานอื่นๆ ได้แก่ พลังงานชีวมวล พลังงานน้ำ เป็นต้น เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า อย่างน้อยใน 2 ทศวรรษข้างหน้านี้ เชื้อเพลิงฟอสซิลจะยังมีบทบาทในการเป็นแหล่งพลังงานหลักในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ เนื่องจากพลังงานหมุนเวียนต่างๆยังมีปริมาณค่อนข้างจำกัด และยังคงต้องอาศัยการวิจัยและพัฒนาอีกมาก เพื่อให้มีต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้กับเชื้อเพลิงฟอสซิล และข้อกำหนดเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดสภาวะโลกร้อนยังไม่มีการใช้อย่างจริงจัง ในขณะที่แหล่งก๊าซธรรมชาติของประเทศนั้นมีจำกัดและนับวันจะยิ่งมีต้นทุนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ก๊าซธรรมชาติยังนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ (NGV) เพื่อลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในภาคขนส่ง การเพิ่มสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตไฟฟ้านั้นจึงเป็นไปได้ยาก นอกจากการนำเข้าในรูปของก๊าซจากประเทศพม่าและในรูปของของเหลวจากตะวันออกกลาง การเพิ่มสัดส่วนการใช้ถ่านหินจึงเป็นทางเลือกที่สมควรได้รับการพิจารณา เพื่อเป็นหนึ่งในมาตรการสร้างความมั่นคงและกระจายความเสี่ยงด้านการจัดการไฟฟ้า เนื่องจากประเทศไทยมีทรัพยากรถ่านหินเป็นของตนเองอยู่อีกมากมาย หรือหากต้องนำเข้าถ่านหินจากต่างประเทศ ราคาซื้อขายถ่านหินก็ไม่มีความแปรผันมากนัก สัดส่วนการใช้ถ่านหินของประเทศในปัจจุบันนั้นถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซีย 34% หรือเวียดนาม 36% ซึ่งประเทศเหล่านี้ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้ถ่านหินอีกมาก


    56362.jpg

    เป็นความจริงที่ว่า ถ่านหินมิใช่เชื้อเพลิงที่สะอาดและโรงไฟฟ้าถ่านหินก่อให้เกิดมลพิษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเป็นเหตุให้ที่ผ่านมาความพยายามของทั้งภาครัฐและเอกชนในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องมาจากการต่อต้านจากมวลชนที่มีภาพพจน์ในแง่ลบของโรงไฟฟ้าถ่านหินในอดีตอยู่ในใจ จึงไม่มั่นใจต่อระบบจัดการก๊าซพิษก่อนที่จะปล่อยออกจากปล่องเข้าสู่บรรยากาศ แต่ด้วยเทคโนโลยีถ่านหินที่ได้รับการพัฒนาและมีใช้จริงอยู่ทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น เยอรมัน หรือออสเตรเลีย โดยเฉพาะเยอรมันและออสเตรเลียที่หันมาใช้ถ่านหินคุณภาพต่ำ (ทั้งนี้รวมถึงถ่านหินที่มีปริมาณขี้เถ้า ความชื้น และซัลเฟอร์สูง) เพื่อลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า สามารถควบคุมการปล่อยมลพิษอันได้แก่ ฝุ่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ ให้อยู่ในมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดได้ เทคโนโลยีเหล่านี้จึงเป็นที่มาของคำว่า “เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด (Clean coal technology)” ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้เทคโนโลยีถ่านหินสะอาดยังรวมถึงเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงอีกด้วย การเพิ่มประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าโดยใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงจะทำให้สามารถลดปริมาณเชื้อเพลิงที่ต้องใช้ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิต การปล่อยมลพิษดังกล่าวข้างต้นจึงลดลง และที่สำคัญปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะลดลงซึ่งเป็นการช่วยลดสภาวะโลกร้อนอีกทางหนึ่งด้วย เมื่อกล่าวถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในโรงไฟฟ้าถ่านหินในโลกนี้ เทคโนโลยีการเผาไหม้ถ่านหินแบบผง (Pulverised coal combustion – PCC) โดยผ่านวัฏจักรไอน้ำเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามากที่สุดและมีการใช้เป็นที่แพร่หลายที่สุดในโลก ซึ่งโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศไทยก็ใช้เทคโนโลยีนี้เช่นกัน ถ่านหินถูกเตรียมให้อยู่ในรูปของผงก่อนป้อนโดยการพ่นเข้าสู่หม้อไอน้ำโดยเผาไหม้กับอากาศในปริมาณที่เกินพอ อุณหภูมิของการเผาไหม้ประมาณ 1200-1700 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับค่าความร้อนของเชื้อเพลิงและคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ผลิตท่อน้ำเพื่อผลิตไอน้ำ ไอน้ำที่ได้จะใช้ในการขับเคลื่อนกังหันไอน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้า ของแข็งที่เหลือที่เผาไหม้ไม่ได้ คือ ขี้เถ้า ซึ่งประกอบด้วยสารอนินทรีย์ ถ้ามีคุณสมบัติเหมาะสมก็จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้ เช่น นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิตยิปซั่ม เป็นต้น ก๊าซไอเสียจะประกอบด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และไอน้ำเป็นหลัก และมีออกไซด์ของซัลเฟอร์และไนโตรเจนที่เกิดขึ้นและปนออกมากับก๊าซไอเสีย ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ กำจัดได้ด้วยการดักจับโดยหินปูนเป็นหลักในระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Flue gas desulfurisation หรือ FGD) ส่วนก๊าซไนโตรเจนออกไซด์สามารถกำจัดหลังกระบวนการเผาไหม้โดยใช้ฉีดสารเคมีประเภทแอมโมเนียในสภาวะที่มีตัวเร่งปฏิกิริยาและไม่มีตัวเร่งปฏิกิริยา หรือในระหว่างการเผาไหม้โดยใช้หัวเผาที่ออกแบบให้ลดการก่อตัวของออกไซด์ของก๊าซไนโตรเจน (Low NOx burners) ซึ่งประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์และก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ในปัจจุบันสามารถลดมลพิษในก๊าซไอเสียให้อยู่ภายใต้มาตรฐานสิ่งแวดล้อมได้ ประสิทธิภาพของการผลิตไฟฟ้าของระบบแบบนี้ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและความดันของไอน้ำเป็นหลัก หากอุณหภูมิและความดันของไอน้ำสูงขึ้น ประสิทธิภาพของวัฏจักรไอน้ำก็จะสูงขึ้นด้วย โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ในโลกใช้เทคโนโลยี PCC กับหม้อไอน้ำแบบยิ่งยวด (Subcritical boiler) โดยความดันของไอน้ำอยู่ในช่วงประมาณ 160-200 เท่าของความดันบรรยากาศขึ้นอยู่กับกำลังการผลิตของหม้อไอน้ำและมีประสิทธิภาพของการผลิตไฟฟ้า 37-40 % (ในกรณีที่คิดจากค่าความร้อนค่าต่ำ หรือ LHV) ในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา เทคโนโลยีถ่านหินสะอาดได้รับการพัฒนาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าและการลดมลพิษ โดยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ถ่านหินคุณภาพต่ำและถ่านหินลิกไนต์เนื่องจากถ่านหินเหล่านี้มีอยู่ในประมาณ 1 ใน 3 ของถ่านหินทั้งหมดในโลกโดยไม่รวมประเทศจีน และเพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงสูงถึง 60-80 % ของต้นทุนทั้งหมดของโรงไฟฟ้า เทคโนโลยีที่จัดได้ว่าเป็นเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดมีมากมาย แต่ในที่นี้จะกล่าวถึงเพียง 4 เทคโนโลยีซึ่งมีการใช้ในเชิงพาณิชย์แล้วหรือมีศักยภาพสูงในการพัฒนาไปสู่เชิงพาณิชย์ คือ เทคโนโลยีการเผาไหม้ถ่านหินแบบผงที่ใช้ร่วมกับหม้อไอน้ำแบบเหนือยิ่งยวด (Supercritical pulverized coal combustion) เทคโนโลยีการเผาไหม้แบบฟลูอิไดซ์เบดหมุนวน (Circulating fluidized bed combustion) เทคโนโลยีแก็สซิฟิเคชั่นกับวัฏจักรความร้อนร่วม (Integrated gasification combined cycle) และเทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon capture and storage) ซึ่งสองเทคโนโลยีแรกได้พัฒนาไปค่อนข้างมากและมีการใช้จริงในเชิงพาณิชย์อย่างกว้างขวางกว่าเทคโนโลยีแก็สซิฟิเคชั่น ส่วนเทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บคาร์บอนสามารถใช้ร่วมกับเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าถ่านหินต่างๆที่ได้กล่าวมาโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หลักการสำคัญของเทคโนโลยีการเผาไหม้ถ่านหินแบบผงที่ใช้ร่วมกับหม้อไอน้ำแบบเหนือยิ่งยวด (Supercritical boiler) คือ การใช้ไอน้ำที่ความดันสูงกว่าไอน้ำแบบยิ่งยวดที่ใช้อย่างแพร่หลาย กล่าวคือ ที่ความดันสูงกว่า 220 เท่าของความดันบรรยากาศ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 43-45 % (LHV) ขึ้นอยู่กับชนิดของถ่านหินและสภาวะแวดล้อมของโรงไฟฟ้า แต่จะต้องใช้วัสดุพิเศษที่ใช้ผลิตท่อน้ำในหม้อน้ำที่ทนอุณหภูมิและความดันดังกล่าวได้ ซึ่งปัจจุบันใช้โลหะอัลลอยด์ประเภทมาร์เทนซิติก (Martensitic alloy steels) ซึ่งมีส่วนผสมของโครเมี่ยม โมลิดินัม และวาเนเดียม ในปริมาณ 9 - 12 % แต่ยังคงจำกัดอุณหภูมิสูงสุดที่ 600C เทคโนโลยีนี้มีการเริ่มใช้มาตั้งแต่ทศวรรษที่แล้วทั้งในประเทศในแถบเอเชียและยุโรปถึงแม้ว่าจะไม่เป็นที่แพร่หลายเท่ากับหม้อไอน้ำแบบยิ่งยวด โดยมีกำลังการผลิตที่แตกต่างกันอยู่ในช่วง 400-1000 เมกกะวัตต์ และส่วนใหญ่ใช้กับถ่านหินคุณภาพสูง เนื่องจากประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจะสามารถลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าอย่างเห็นได้ชัดก็ต่อเมื่อใช้กับถ่านหินที่มีราคาสูง มีเพียงประเทศกรีกและประเทศเยอรมันที่ใช้ถ่านหินลิกไนต์กับเทคโนโลยีนี้ โดยมีกำลังการผลิตระหว่าง 300 และ 1000 เมกกะวัตต์ ด้วยการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตหากสามารถเพิ่มอุณหภูมิของไอน้ำขึ้นไปได้ถึง 700C และความดันถึง 300-400 เท่าของความดันบรรยากาศ ประสิทธิภาพของการผลิตไฟฟ้าสูงถึง 50-55 % (LHV) ก็อาจจะเป็นไปได้ วัสดุพิเศษที่สามารถทนอุณหภูมิและความดันดังกล่าวได้ ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนของการวิจัยและพัฒนาในสหภาพยุโรป อเมริกาและญี่ปุ่น โดยสรุป การใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้ายังคงเป็นทางเลือกที่ตัดทิ้งไม่ได้ แต่เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชุมชนที่เกี่ยวข้อง ผู้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินควรเลือกใช้เทคโนโลยีที่สะอาด แม้ว่าต้นทุนการผลิตจะสูงขึ้นก็ตาม และยังจะต้องทำความเข้าใจกับมวลชนตั้งแต่ต้น รวมทั้งมีมาตรการชดเชยและพัฒนาชุมชนที่เหมาะสม เทคโนโลยีการเผาไหม้แบบฟลูอิไดซ์เบดหมุนวนและเทคโนโลยีแก็สซิฟิเคชั่นกับวัฏจักรความร้อนร่วมสามารถติดตามได้ในตอนต่อไป ส่วนตอนจบจะกล่าวถึงเทคโนโลยี

    http://www.vcharkarn.com/varticle/33049
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ความสำคัญของคณะกรรมการไตรภาคี มีบทบาทหน้าที่พิจารณาว่าจะให้สร้างหรือไม่ให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ซึ่งขณะนี้เราก็ได้รับทราบกันแล้วว่าผลการพิจารณาของคณะกรรมการไตรภาคีมาจากเฉพาะประธานคณะกรรมการไตรภาคี (เขาสรุปเองคนเดียว) เท่านั้น ดังนั้นจึงยังเป็นข้อสงสัยว่า การอนุญาตให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากกระบวนการในการพิจารณาไม่ถูกต้อง ครบถ้วน (ต้องพิจารณาร่วมทั้งองค์คณะ) ดังนั่นผลการพิจารณาก็ย่อมไม่ถูกต้องตามมา

    เบื้องลึกโรงไฟฟ้ากระบี่ โดย ฐานเศรษฐกิจ - 27 October 2558

    โรงไฟฟ้าถ่านหินเทคโนโลยีสะอาดที่จังหวัดกระบี่ตอนนี้อยู่ระหว่างการรอพิจารณาของคณะกรรมการไตรภาคีว่าจะให้สร้างหรือไม่ให้สร้าง ความคืบหน้าเป็นอย่างไรขณะนี้ยังเงียบๆ อยู่ ซึ่งก็คาดหมายกันว่าคงจะรู้ผลก่อนสิ้นปีนี้แน่ ซึ่งก็เหลือเวลาอีก 2 เดือนกว่าๆ เท่านั้น ความจริงแล้วโครงการนี้ก็ไม่มีการทักท้วงหรือคัดค้านอะไรกันมาก แต่ก็ไม่ได้เอาจำนวนคนค้านกับคนสนับสนุนมาเทียบกัน เพราะสังคมเราอยู่กันแบบพูดจากันรู้เรื่อง เมื่อคิดจะสร้างและมีคนทักท้วง ก็ต้องพูดคุยกันอย่างมีเหตุมีผล ซึ่งคอลัมน์นี้เมื่อฉบับที่แล้วก็บอกไปแล้วว่า ถ้าไม่สร้างโรงไฟฟ้าขึ้นมาใหม่ไม่ว่าที่เทพา จังหวัดสงขลา หรือโรงไฟฟ้าจังหวัดกระบี่ ภาคใต้จะขาดไฟฟ้าได้ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป สาเหตุก็เพราะโรงไฟฟ้าในเขตภาคใต้มีกำลังผลิตอยู่ในระดับหนึ่งเท่านั้น และการดึงไฟฟ้าจากส่วนกลางไปใช้ในภาคใต้ ขีดความสามารถของสายส่งก็มีขีดจำกัด

    ความจริงแล้วผู้คนในกระบี่โดยเฉพาะคนในพื้นที่ที่ตั้งโรงไฟฟ้ากระบี่ คือ อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ไม่ได้มีคนคัดค้านมาก แถมบางคนบางกลุ่มยังสนับสนุนให้สร้างขึ้นมาด้วยซ้ำ เพราะแม้จะเป็นโรงไฟฟ้าหน่วยผลิตให้ที่ใช้ถ่านหิน แต่แท้จริงแล้วโรงไฟฟ้าแห่งนี้ก็คือที่ๆ เดียวกับโรงไฟฟ้าถ่านหินเดิมตั้งแต่จะปรับเปลี่ยนองค์กรมาขึ้นกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. เสียอีก ผมว่าคนในจังหวัดภาคใต้และเป็นคนรุ่นเก่ารู้จักดี รู้ว่าโรงไฟฟ้าหน่วยใหม่ ก็ตั้งในเขตพื้นที่โรงไฟฟ้ากระบี่เดิมซึ่งเคยใช้ลิกไนต์ในการผลิต และยุคต่อมาได้ใช้น้ำมันเตาในการผลิต โรงใหม่เตรียมพื้นที่ไว้แล้วอยู่ข้างๆ กันนั่นเอง

    อีกทั้งถ่านหินลิกไนต์ก็เป็นสิ่งที่คนที่นี่คุ้นเคยดี เพราะเป็นแหล่งเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์แห่งแรกในประเทศไทย ก่อนที่จะทำโรงไฟฟ้าที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปางเสียอีก จังหวัดกระบี่ขุดถ่านหินขึ้นมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่ปี 2400 และเลิกการทำเหมืองไปเมื่อปี 2480 เพราะเกิดสงคราม ต่อมาปี 2501 ก็ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ และสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขึ้นเมื่อปี 2507 จนถึงปี 2538 ถึงได้เลิกใช้ เพราะใช้งานมายาวนาน 30 ปี แล้ว หลังจากนั้นจึงสร้างโรงไฟฟ้าน้ำมันเตา และทุกวันนี้ก็ปรับปรุงให้ใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันปาล์มได้ด้วย ก็รับซื้ออยู่กิโลกรัมละ 24 บาทโดยการประมูลแข่งกัน แต่ละครั้งที่ประมูลจะให้จัดหาน้ำมันปาล์มให้คราวละ 5,000 ตัน หลักการคือ ใช้น้ำมันเตา 77 % ใช้น้ำมันปาล์ม 23% จนกว่าราคาน้ำมันปาล์มจะคืนสู่ภาวะปกติ

    จะว่าไปแล้วแม้แต่คลองที่นี่พื้นด้านล่างก็เป็นแหล่งแร่ถ่านหินธรรมชาติ เรียกว่าผู้คนแถวนี้รู้จักถ่านหินมาตั้งแต่รู้ความนั่นหละ ครับ และโปรดสังเกตด้วยว่า คำขวัญของจังหวัดกระบี่มีว่า “แหล่งถ่านหิน ถิ่นหอยเก่า เขาตระหง่าน ธารสวย รวยเกาะ เพาะปลูกปาล์ม งามหาดทราย ใต้ทะเลสวยสด มรกดอันดามัน สวรรค์เกาะพีพี” แหล่งถ่านหินก็มาจากข้อเท็จจริงอย่างที่เห็นเหมืองร้างในเขตบริเวณโรงไฟฟ้ากระบี่ปัจจุบัน และก็แปลกไหมที่บริษัททัวร์ของจังหวัดกระบี่ยังชื่อ “ลิกไนท์ทัวร์” เลย นี่เป็นเพราะเขารู้จักถ่านหินลิกไนต์กันมานานนมแล้ว

    โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทคโนโลยีสะอาดที่จะสร้างขึ้นนั้น ยืนยันตั้งอยู่ในบริเวณโรงไฟฟ้ากระบี่เดิม กำลังผลิตติดตั้ง 870 เมกะวัตต์ หรือกำลังผลิตสุทธิไม่ต่ำกว่า 780 เมกะวัตต์ ใช้เชื้อเพลิงถ่านหินซับบิทูมินัสหรือบิทูมินัส มีค่ากำมะถันไม่เกิน 1% ใช้ถ่านหินวันละประมาณ 7,260 ตัน/วัน ตามแผนเดิมจะสร้างแล้วเสร็จและใช้งานได้ในเดือนธันวาคม 2562 เมื่อมีโรงไฟฟ้าก็ต้องระบบขนส่งถ่านหินเข้าโรงไฟฟ้า ซึ่งเขาเลือกใช้ระบบสายพานลำเลียงแบบปิด และต้องสร้างท่าเทียบเรือใหม่ ซึ่งท่าเทียบเรือก็สร้างอยู่ติดกับท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว จังหวัดกระบี่ ระบบสายพานลำเลียงนั้นจะสั้นกว่าท่อส่งน้ำมันเตา ซึ่งทุกวันนี้ระยะทางของท่อส่งน้ำมันเตายาวประมาณ 13 กิโลเมตร แต่ระบบสายพานจะสั้นกว่า เพราะบางช่วงจะลงใต้ดิน รอดใต้น้ำหรืออาจจะทำเป็นสะพานข้ามคลอง ความยาว 9 กิโลเมตร โรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ใช้เงินลงทุนประมาณ 49,000 ล้านบาท ส่วนท่าเรือและสายพานใช้เงินลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท เรือถ่านหินวิ่งไม่เกินวันละ 2 เที่ยว ครับ

    https://en.wikipedia.org/wiki/Fossil-fuel_power_station

    จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,099 วันที่ 25 – 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558

    http://www.thansettakij.com/2015/10/27/15280
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    "ประจิน"ประสานเสียง"อนันตพร"ไม่ต้องนับหนึ่งEHIAและEIAโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ Date : 20/02/2017, 19:35.

    “ประจิน”ประสานเสียง”อนันตพร” EHIA โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และEIA ท่าเทียบเรือไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ แต่เป็นการนำรายงานผลการศึกษาที่กฟผ.จัดทำแล้วเสร็จ ทบทวนแก้ไขเฉพาะส่วน โดยคาดโรงไฟฟ้าจะสามารถจ่ายไฟเข้าระบบได้ในปี 2564-2565 ในขณะที่แกนนำกลุ่มค้านโรงไฟฟ้า”ประสิทธิชัย” โพสต์เฟซบุคย้ำข้อตกลงที่แกนนำได้หารือกับแม่ทัพภาคที่1ในฐานะตัวแทนนายกรัฐมนตรีที่จะให้มีการจัดทำ EHIA และ EIA ฉบับใหม่ภายใต้โครงสร้างใหม่

    พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันถึงกระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)ในส่วนของท่าเทียบเรือ และรายงานผลกระทบสุขภาพและสิ่งแวดล้อม(EHIA)ในส่วนของโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่กฟผ.ได้ดำเนินการจัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ว่าจะมีการทบทวนแก้ไขเพิ่มเติมให้เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการไว้ ไม่ได้เริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมด

    ในขณะที่ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 21 ก.พ. 2560 คณะรัฐมนตรี(ครม.)จะพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่ให้เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ โดยการจัดทำ EIA จะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมด้วยและจะนำความเห็นของคณะกรรมการไตรภาคีมาประกอบการพิจารณา ซึ่งจะเป็นการทบทวน EIA และEHIAที่กฟผ.ได้ศึกษาไว้แล้ว มาพิจารณาว่ามีข้อมูลส่วนใดที่ยอมรับกันได้ และส่วนใดที่ประชาชนยังไม่ยอมรับ ก็จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม เฉพาะส่วน โดยไม่ใช่การจัดทำใหม่ทั้งหมด

    ทั้งนี้การทบทวนแก้ไข EIAและEHIA จะทำให้การก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ล่าช้ากว่าแผนเดิมที่จะเข้าระบบในปี 2562 เป็น 2564-2565 แทน แต่หาก คณะรัฐมนตรีเห็นว่าจะต้องกลับไปทำ EIAและEHIA ใหม่ทั้งหมด โครงการจะล่าช้าไปเป็นปี 2567 แทน

    "การทำ EIA และ EHIA นั้นตามเหตุผลแล้วก็ควรนำอันเก่ามาทบทวน โดยหากพบว่าที่ทำมาไม่ถูกต้องเลย ก็ต้องทำใหม่หมด แต่ถ้าอันไหนใช้ได้ก็เดินหน้าต่อไป ส่วนที่ใช้ไม่ได้ก็ต้องแก้ไขปรับปรุง ส่วนกรณีที่กลุ่มคัดค้านเข้าใจว่า จะต้องเริ่มต้นกันใหม่ทั้งหมดนั้น อาจจะเป็นเพราะเกิดการฟังไม่ชัด กระทรวงพลังงานไม่เคยดื้อดึง ผมเห็นว่าเราต้องอยู่บนหลักเหตุผลอย่าใช้อารมณ์ ต้องใช้เหตุผลเชิงประจักษ์พิสูจน์ได้ " พล.อ.อนันตพร กล่าว

    พล.อ.อนันตพร กล่าวด้วยว่า แม้ภาพรวมปริมาณไฟฟ้าของประเทศไทยจะมีไฟฟ้าสำรองสูงถึง 30% ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการใช้ทั้งประเทศ แต่หากมองเป็นรายภาคโดยเฉพาะภาคใต้จะมีไม่พอใช้ เนื่องจากปัจจุบันภาคใต้พึ่งพาไฟฟ้าจากภาคกลางผ่านสายส่งไฟฟ้ากว่า 400 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าภาคใต้โรงใดมีการปิดซ่อม ไฟฟ้าภาคใต้จะประสบปัญหาความมั่นคงไฟฟ้าทันที อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานยืนยันจะดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับอย่างเต็มที่

    ในขณะที่นายประสิทธิชัย หนูนวล หนึ่งในแกนนำกลุ่มคันค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดกระบี่ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุคส่วนตัว โดยเปิดให้สาธารณะเข้าถึงได้ ระบุถึงข้อตกลงที่แกนนำได้หารือกับแม่ทัพภาคที่1ในฐานะตัวแทนนายกรัฐมนตรี ว่ามี1ข้อ1เงื่อนไข คือให้มีการยกเลิกรายงานEIA และ ให้มีการทำฉบับใหม่ภายใต้โครงสร้างใหม่ ที่มีคณะกรรมการที่ยอมรับร่วมกัน มากำกับ และต้องมีคนที่เป็นกลางเป็นผู้จัดทำรายงาน ซึ่งมีการคาดการณ์ด้วยว่าจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ3-5ปีจึงจะแล้วเสร็จ เพราะเป็นรายงานEIAที่ต้องทำในพื้นที่ชุ่มน้ำนานาชาติ และจะต้องได้รับการตรวจสอบจากองค์กรนานาชาติ เรื่องมาตรการลดผลกระทบว่ามีจริงหรือไม่

    ด้าน นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ได้ส่งข่าวถึงสื่อมวลชนสายพลังงาน ถึง การจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ว่า กฟผ. ได้นำเสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 และได้มีการเพิ่มเติมความคิดเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ (คชก.) อีกจำนวน 165 ข้อ ในเวลาต่อมา ซึ่งระหว่างรอการพิจารณา ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคี โดยปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในขณะนั้น ได้ให้ความเห็นว่า กฟผ. ควรถอนรายงานจนกว่าผลการพิจารณาของคณะกรรมการไตรภาคีจะได้ข้อยุติ

    อย่างไรก็ตาม มติของ กพช. เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2560 ที่ขอให้ สผ. เริ่มกระบวนการพิจารณารายงาน EHIA ต่อนั้นยังมิใช่เป็นการอนุมัติให้ก่อสร้างโครงการฯ แต่ให้เริ่มกระบวนการนำเสนอEHIAและEIA ตามขั้นตอน ซึ่งหากได้รับการอนุมัติรายงานผลการศึกษาผลกระทบทั้ง2ฉบับจากทั้ง คชก.และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จึงจะนำไปสู่การก่อสร้างโรงไฟฟ้าซึ่งจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ4ปี

    นายสหรัฐ กล่าวด้วยว่า การเลือกใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ก็เพื่อกระจายความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า เนื่องจากมีปริมาณสำรองที่มั่นคงและมีราคาต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยถูกกว่า LNG และพลังงานหมุนเวียนชนิดอื่น รวมทั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินยังเป็นโรงไฟฟ้าหลักที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง ตลอดจนใช้เทคโนโลยีสะอาด (Ultra Super Critical) ที่ทันสมัย สามารถควบคุมค่ามลสารให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กรมควบคุมมลพิษกำหนด ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

    ทั้งนี้ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ มีปริมาณ 4.7 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และโครงการโรงไฟฟ้าเทพา จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 12.9 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี เมื่อรวมทั้งสองโรงไฟฟ้าจะมีปริมาณเท่ากับ 17.6 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ซึ่งมีปริมาณน้อยกว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของภาคคมนาคมขนส่ง และพาหนะของประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบจากข้อมูลถึง 3.7 เท่า

    จากการเปรียบเทียบการใช้ข้อมูลจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ในปี 2555 พบว่ามีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคคมนาคมขนส่งและพาหนะรวม 64.23 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี

    สำหรับประเด็นที่ บริษัทจีนร่วมกับอิตาเลียนไทยเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดในการประมูลโรงไฟฟ้าฯ ซึ่งทำให้ไม่มั่นใจในเทคโนโลยีนั้น นายสหรัฐ ชี้แจงว่า เทคโนโลยีของบริษัทที่ชนะการประกวดราคาก่อสร้างโรงไฟฟ้าฯ จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด เนื่องจากการคัดเลือกผู้ก่อสร้างโรงไฟฟ้า เป็นการคัดเลือกผ่านการประกวดราคาระดับนานาชาติ ที่ผู้เข้าประกวดราคาทุกรายจะต้องนำเสนอรายละเอียด และคุณสมบัติทางเทคนิค รวมทั้งบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ ให้คณะกรรมการพิจารณา โดยที่อุปกรณ์หลักจะต้องผ่านการตรวจสอบ และมีระยะเวลาการเดินเครื่องจริงตามที่กำหนด เมื่อผ่านเกณฑ์ทางเทคนิค จึงจะเปิดซองราคาต่อไป

    http://energynewscenter.com/index.php/news/detail/610
    .
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ข่าวด่วน! นาย Vitaly Churkin เอกอัครราชทูตสรัสเซียประจำยูเอ็นเสียชีวิตกระทันหันในนิวยอร์ก
    ------------

    วันที่ 20 ก.พ.60 RT พาดหัวข่าวว่า "นาย Vitaly Churkin เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็นเสียชีวิต กระทรวงต่างประเทศแถลง" (Russian ambassador to UN Vitaly Churkin dies – Foreign Ministry)

    นาย Vitaly Churkin อายุ 64 ปีเข้ารับหน้าที่เป็นผู้แทนถาวรของรัสเซียประจำสหประชาชาติตั้งแต่ปี 2006 ได้เสียชีวิตลงอย่างกระทันหันในนิวยอร์ก กระทรวงต่างประเทศรัสเซียประกาศ

    การประกาศการเสียชีวิตของเอกอัครราชทูต Vitaly Churkin อย่างที่ไม่ควรจะเป็นในเช้าวันนี้ได้สร้างความตกตะลึงให้กับผู้คนระหว่างการประชุมสมัยสามัญที่สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ยูเอ็นประกาศสงบนิ่งชั่วขณะเพื่อไว้อาลัยเพื่อเป็นการรำลึกถึงทูต Churkin

    "ท่านเป็นเพื่อนที่รักของพวกเราทุกคน ท่านเป็นนักการทูตที่มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อประเทศของท่าน และเป็นหนึ่งในบุคคลที่ดีที่สุดที่พวกเราได้รู้จัก" เจ้าหน้าที่ของยูเอ็นที่แจ้งข่าวการเสียชีวิตของเอกอัครราขทูตรัสเซียกล่าวต่อนักการทูตของประเทศต่างๆ

    ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตถาวรของรัสเซียประจำยูเอ็นในเดือนพฤษภาคม 2006 นาย Vitaly Churkin เคยรับตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตประจำเบลเยี่ยม และเอกอัครราชทูตของรัสเซียประจำแคนาดา และเป็นทูตพิเศษ (liaison ambassador) กับนาโต้และสหภาพยุโรปตะวันตก (WEU) มาก่อน

    เบื้องต้นรายงานข่าวยังไม่ได้ระบุถึงสาเหตุของการเสียชีวิตของทูตรัสเซียในครั้งนี้ ปีที่แล้วเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกีถูกลอบสังหารในกรุงอังการาประเทศตุรกีอย่างอุกอาจโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลของตุรกีซึ่งเป็นพวกโปร-ไอซิส ปีนี้รัสเซียก็ได้สูญเสียบุคคลสำคัญที่มีความสามารถด้านการทูตไปอีกหนึ่งคน RIP.

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    21/02/2560
    ----------
    https://www.rt.com/news/377988-russian-ambassador-churkin-un-dies/
    https://sputniknews.com/russia/201702201050877665-russian-ambassador-churkin-dies/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    บิล เกต เสนอให้รัฐเรียกเก็บภาษีจากหุ่นยนต์ที่ทำงานแทนมนุษย์ในบริษัทต่างๆ
    ------------

    วันที่ 20 ก.พ.60 RT พาดหัวข่าวว่า "หุ่นยนต์ที่ทำงานแทนมนุษย์ควรจะจ่ายภาษีด้วย บิล เกตกล่าว" (Robots that take human jobs should pay taxes - Bill Gates)

    บิล เกตผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์และมหาเศรษฐีใจบุญได้เรียกร้องให้หุ่นยนต์จ่ายภาษีเพื่อชดเชยค่าการสูญเสียจากระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ

    "แน่นอนว่าจะต้องมีการเรียกเก็บภาษีที่เกี่ยวกับระบบทำงานแบบอัติโนมัติ ณ ปัจจุบันนี้ผู้ที่เป็นคนงานมนุษย์ ขอบอกว่ามีรายได้ $50,000 จากการทำงานในโรงงาน ได้จ่ายภาษี และคุณก็หักภาษีรายได้ ภาษีความปลอดภัยทางสังคม สารพัดทั้งหมดนั่นแหละ ถ้ามีหุ่นยนต์ตัวหนึ่งเข้ามาทำหน้าที่เดียวกันนี้ คุณก็ควรจะคิดว่าพวกเราน่าจะเรียกเก็บภาษีจากหุ่นยนต์ในระดับเดียวกันด้วยสิ" อภิมหาเศรษฐีกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Quartz สำนักข่าวออนไลน์

    บิล เกตกล่าวอีกว่า "รัฐบาลควรจะเรียกเก็บภาษีจากบริษัทมหาชนที่ใช้หุ่นยนต์ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการชั่วคราวเพื่อชะลอการขยายระบบทำงานอัติโนมัติ และเพื่อให้เงินอุดหนุนแก่การจ้างงานประเภทอื่น"

    รายได้จากการเรียกเก็บภาษีประเภทนี้อาจจะเป็นการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินในสาขาต่างๆที่คาดว่ายังคงต้องพึ่งพามนุษย์ เช่นการศึกษา และการบริการด้านสุขภาพ รวมทั้งการดูแลคนชราและเด็กๆด้วย

    "ถ้าคุณสามารถใช้แรงงานที่ทำงานต่างๆซึ่งแทนที่ด้วยระบบทำงานแบบอัติโนมัติ และเรื่องการเงิน และการฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะมากขึ้นก็จะหายไป และไปทำอย่างอื่น ดังนั้นคุณก็เดินหน้าได้ แต่คุณจะไม่สามารถยกเลิกภาษีรายได้ที่เป็นส่วนหนึ่งของวิธีการที่คุณได้รับการสนับสนุนทางการเงินในระดับแรงงานมนุษย์ได้" บิล เกตกล่าว

    แนวคิดที่เสนอโดยมหาเศรษฐีรายนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บรรดาส.ส.ของอียูได้พิจารณาร่างกฎหมายเตรียมเก็บภาษีจากเจ้าของหุ่นยนต์ ร่างกฎหมายดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อหาทางเพิ่มการจ่ายเงินให้กับผู้ที่ทำหน้าที่ฝึกอบรมแรงงานที่ตกงานจากการใช้แรงงานหุ่นยนต์ อย่างไรก็ตามข้อเสนอดังกล่าวได้ถูกปฏิเสธไปแล้ว

    [ว่าแต่ว่าคุณบิล เกตจะยอมจ่ายภาษีในส่วนนี้ให้กับรัฐจากเทคโนโลยีซอฟแวร์อัจฉริยะต่างๆของไมโครซอฟท์ด้วยหรือเปล่าครับ? และถ้าหุ่นยนต์หรือผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของหุ่นยนต์เหล่านั้นบอกว่า รัฐก็ควรจะจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญและค่าสวัสดิการทางสังคมต่างๆให้กับหุ่นยนต์ด้วย มันจะเป็นยังไงหละทีนี้ ฮ่าๆๆ - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    20/02/2560
    ----------
    https://www.rt.com/business/377967-bill-gates-robots-pay-tax/
    https://www.rt.com/uk/376464-robots-admin-civil-servants/
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ประชาธิปไตยแบบอเมริกัน ไม่ยอมรับทรัมป์ ที่มาจากการเลือกตั้งว่าเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐ จึงออกมาเดินขบวนในชิคาโกเนื่องในวันประธานาธิบดี เพื่อต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เหมือนกับที่รัฐบาลของโอบามาและพวกอียูที่ปากก็พร่ำว่า "ประชาธิปไตยๆๆๆ" แต่พอประธานาธิบดีบัชชาร์ อัลอัสซาดของซีเรียชนะการเลือกตั้ง พวกนี้ก็บอกว่า ไม่ยอมรับอัสซาด ทั้งๆที่ตัวเองเป็นพวกต่างชาติไม่มีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งเหมือนกับประชาชนชาวซีเรีย (20 ก.พ.60)
    ----------------

    .
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    เจ้าหน้าที่ตำรวจอเมริกันจับกุมกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านทรัมป์ราว 100 กว่าคน ที่เมือง Portland เนื่องในวันประธานาธิบดี โทษฐานไม่ยอมรับประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งในข้อหาขัดขวางการจราจรและปิดถนน ไม่เห็นมีพวกนักการเมืองจากสภาอียูออกมาเขียนจดหมายด่าสหรัฐว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนเลยซักราย (20 ก.พ.60)
    -------------

    .
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    อิหร่านไม่พอใจกับการแซงชั่นจากสหรัฐเดินหน้าซ้อมรบด้วยการทดลองยิงขีปนาวุธหลายลูกภายในประเทศตนเอง (20 ก.พ.60)
    ---------------

    .
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดจากกองทัพรัสเซียเสร็จสิ้นภารกิจเก็บกู้ระเบิดในจังหวัดอะเลปโปเป็นเวลาสามเดือนกำลังเดินทางกลับรัสเซีย โดยมีประชาชนชาวซีเรียท้องถิ่นมาร่วมกันแสดงการขอบคุณก่อนเดินทางกลับรัสเซีย สื่อฯกระแสหลักขี้อิจฉาของตะวันตกนำโดยสหรัฐไม่มีข่าวดีแบบนี้จากกองทัพของพันธมิตรนาโต้นำเสนอ จึงเล่นข่าวกล่าวหาใส่ร้ายรัสเซียรายวันแทน (20 ก.พ.60)
    ------------------

    .
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    วันที่ 20 ก.พ.60 TASS รายงานว่า นาง Le Pen หนึ่งในตัวเต็งผู้แข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวว่า มีแต่อัสซาดเท่านั้นที่จะเผชิญหน้ากับภัยคุกคามขบวนการก่อการร้ายไอซิสได้ "พวกเราไม่อาจจะปล่อยให้ไอซิสเข้าไปยึดอำนาจได้ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปธน.อัสซาดเท่านั้น ดูเหมือนว่าปธน.อัสซาดจะมีความน่าเชื่อถือ และเขาก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับฝรั่งเศส" ก่อนหน้านี้พวกผู้นำมหาอำนาจตะวันตกรวมทั้งโอบามาและปธน.ออลลองด์ของฝรั่งเศสต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "อัสซาดต้องออกไป!" แต่สุดท้ายพวกที่พูดคำนี้มักจะอยู่ในตำแหน่งได้ไม่นานเท่ากับปธน.อัสซาดแห่งซีเรียซักราย
    ------------
    http://tass.com/world/931926
    .
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    วันที่ 20 ก.พ.60 TASS รายงานว่า รัสเซียได้ลงนามในการส่งมอบรถถังหลัก T-90MS ให้กับประเทศหนึ่งในตะวันออกกลางในงาน IDEX-2017 ที่ Abu Dhabi ยูเออี และใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับอีกประเทศหนึ่งในตะวันออกกลางเช่นกันในเร็วๆนี้ Denis Manturov รมว.อุตสาหกรรมและการค้าของรัสเซียกล่าว แต่รัสเซียยังไม่เปิดเผยชื่อของประเทศที่สั่งซื้อรถถังของรัสเซียในครั้งนี้ รายงานข่าวกล่าวอีกว่า รถถัง T-90MS ของรัสเซียได้ผ่านการทดสอบที่คูเวตแล้ว (ซีเรียคือประเทศหนึ่งที่ต้องการรถถัง T-90MS ของรัสเซียและได้ไปใช้งานเป็นบางส่วนแล้ว อิหร่านก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ต้องการรถถัง T-90MS ของรัสเซียเช่นกัน และอิหร่านบอกว่าอยากจะให้รัสเซียถ่ายทอดเทคโนโลยีนี้ให้กับอิหร่านด้วย เพื่อที่ว่าอิหร่านจะสามารถผลิตรถถังของตนเองขึ้นมาใช้งานได้บ้างในอนาคต)
    ------------
    http://tass.com/defense/931917
    http://tass.com/defense/931815
    .
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    สามปีผ่านไป แก๊งนีโอนาซีโปร-นาโต้เดินขบวนรำลึกการเผาบ้านเผาเมืองของตัวเอง (คงจะสะใจมากสินะ) ที่กรุงเคียฟก็ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลอีก (19 ก.พ.60)
    -----------------

    .
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    วันนี้มาลุ้นกันน่ะครับว่าจะเกิดเหตุการณ์ "เสียชีพอย่าเสียสัจจะ" หรือ "ยอมเสียสัจจะ เพื่อส่วนรวม ที่อาจจะเป็นการคิดไปเอง"

    "บิ๊กป้อม"ไม่ถอยโรงไฟฟ้ากระบี่ แค่ปรับEHIA-เซตซีโร่ใต้เสี่ยง
    โดย ผู้จัดการรายวัน blank.gif 21 กุมภาพันธ์ 2560 00:29 น.
    blank.gif
    ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กป้อม"ลั่นรัฐบาลไม่ได้ถอย ย้ำยังต้องสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ เหตุจำเป็นต้องดูแลเรื่องพลังงานในภาคใต้ และขอให้ไว้ใจรัฐบาล เผย ครม.วันนี้ เตรียมหารือมติ กพช. ที่ให้เดินหน้าโรงไฟฟ้ากระบี่ ยันไม่มีการเซตซีโร่ แต่จะมีการปรับปรุงรายงาน EHIA ให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น ชี้หากเริ่มทำกันใหม่ อาจเสร็จปี 67 ภาคใต้เสี่ยงเกินไป

    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงปัญหาการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าถ่านหินที่ จ.กระบี่ ว่า ปัจจุบันเราประสบปัญหากับความไม่เข้าใจของประชาชน เช่น ความไม่เข้าใจในเรื่องของพลังงานของคนส่วนหนึ่ง แต่ต้องคิดว่ารัฐบาลได้ดำเนินการหาวิธีต่างๆ ในเรื่องของพลังงานเพื่อให้พื้นที่ภาคใต้มีพลังงานใช้ เพราะต่อไปไฟฟ้าที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จ.ภูเก็ต จะต้องไม่ดับ ซึ่งต้องเตรียมการล่วงหน้า ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโรงไฟฟ้าที่จะดูแลประชาชนในอนาคตเลย แต่ยังมีประชาชนไม่เข้าใจ ทั้งในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เรื่องการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA และรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA ซึ่งฉบับเดิม มีผู้ทรงคุณวุฒิได้ไปศึกษาแล้ว และสรุปว่ามีความจำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน

    "โรงไฟฟ้าถ่านหินยุคใหม่ ไม่เหมือนยุคเก่า มีการเผาไหม้ทั้งหมด เนื่องจากถ่านหินมีหลายระดับ เพื่อที่จะนำไปใช้ในเรื่องของการผลิตพลังงาน ซึ่งต้องเข้าใจตรงนี้ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ รัฐบาลอยากจะทำอะไรก็ทำ รัฐบาลมีผู้ทรงคุณวุฒิ มีผู้เชี่ยวชาญ ในการที่จะให้ความคิดมากมาย เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ โดยมียุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง มีการปฏิรูปประเทศ รวมถึงการปฏิรูปในหลายๆ เรื่อง"

    พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ข้อเสนอจากนักวิชาการให้ใช้น้ำมันปาล์มมาผลิตไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าถ่านหิน ตนไม่เถียง อะไรก็สามารถทำได้ เวลานี้รัฐบาลทำมาทั้งหมด ได้มีการทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ซึ่งกรณีที่นายกรัฐมนตรีสั่งยกเลิกรายงาน EIA และ EHIA ฉบับเดิมออกไป หลังถูกประชาชนในพื้นที่คัดค้าน ตนคิดว่า ชะลอก็เพื่อดำเนินการ แล้วจะเสนอมาอีก เพราะถ้าไม่ทำโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ภาคใต้ ไฟฟ้าก็จะดับ เพราะมีปริมาณไฟฟ้าไม่เพียงพอ จึงมีความจำเป็นที่สร้างขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนจะใช้พลังงานอื่นๆ ทดแทน อาทิ น้ำมันปาล์มนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ต้องสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน

    "ตอนนี้กำลังพิจารณาว่าถ่านหินมีหลายชนิด มีทั้งดี มีทั้งเลว และไม่มีมลภาวะ ผมอยากให้ไว้ใจรัฐบาล ที่ใช้ทั้งนักวิชาการที่เชียวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิในการสำรวจ ไม่ใช่คิดเอง ทำเอง ขอคิดเข้าข้างรัฐบาลบ้าง ไม่ใช่มาโจมตีรัฐบาลว่าต้องทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ ส่วนที่นายกฯ ยอมทบทวน อยากให้เข้าใจว่า เราทำใหม่อย่างไร ต้องมีกระบวนการ EHIA แน่นอน และรัฐบาลไม่ได้ถอย ทุกอย่างทำตามขั้นตอน และทำตามกฎหมาย และขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีการเมืองมาเกี่ยวข้อง" พล.อ.ประวิตร กล่าว

    พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 ก.พ. จะมีการเสนอแนะให้จัดทำ EHIAโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ และการรายงาน EIA ในส่วนท่าเรือที่เป็นรูปแบบประชาชนมีส่วนร่วม โดยจะนำข้อมูลต่างๆมาปรับปรุง โดยเฉพาะความเห็นของคณะกรรมการไตรภาคี เพื่อให้เดินหน้าโดยไม่เสียเวลา เพราะหากทำEHIAใหม่เลย โรงไฟฟ้ากระบี่จะเสร็จปี 2567 ทำให้ระหว่างนี้ การใช้ไฟภาคใต้ ก็โตเรื่อย เสี่ยงที่จะบริหารจัดการ อยากให้เอากติกาที่พูดมายอมรับกันโดยอาจทบทวนEHIA ที่เห็นว่าควรปรับปรุง ข้อไหนที่ดีแล้วก็เดินหน้าตามนั้น หากทำวิธีนี้ก็จะเร็ว คือ จะเสร็จได้ในปี 2564-65

    ทั้งนี้ การประชุม ครม. จะมีการพิจารณาตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่กำหนดให้เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ เพราะเดิมให้ชะลอไว้ให้เดินหน้าต่อไปได้ ไม่ได้เป็นการอนุมัติให้ก่อสร้าง เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ผ่าน EHIA ก็ต้องทำตามกฏหมาย หากไม่ผ่าน ก็เดินหน้าไม่ได้ ซึ่งการทำรายงานด้านสิ่งแวดล้อมมติ กพช. ได้กำหนดให้นำเอาความเห็นไตรภาคีประกอบ คือ ฟังความเห็นประชาชน ขยายพื้นที่กองทุนรอบโรงไฟฟ้า และดูแลประชาชนให้มากขึ้น

    นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ.ต้องรอการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 ก.พ.นี้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรต่อการเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ เพราะหากต้องทำ EHIA ใหม่จะต้องใช้เวลา 2-2.5 ปี ก็จะยิ่งทำให้โครงการล่าช้าออกไปจากการคาดการณ์ใหม่ว่าจะเสร็จในปี 2564-65 จากเดิมปี 2562 และยิ่งช้ายิ่งมีความเสี่ยง เพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ขยายตัว 4-5% ต่อปี
    http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9600000017781
    blank.gif
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ขึ้นป้ายหรา! หนุนสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ แกนนำปกป้องฯ ซัดพ่อเมืองควรวางตัวเป็นกลาง
    เผยแพร่: 20 ก.พ. 2560 13:53:00 ปรับปรุง: 20 ก.พ. 2560 13:57:00 โดย: MGR Online
    [​IMG]

    กระบี่ - แกนนำเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินกระบี่ มึนตึ้บ ผู้ว่าฯ ขึ้นป้ายขนาดใหญ่หนุนนายกฯ สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ จ.กระบี่ ท่ามกลางกระแสความขัดแย้ง ระบุคนเป็นถึงพ่อเมืองควรวางตัวเป็นกลาง เชื่อมีทั้งกลุ่มหนุน และกลุ่มค้านในเวลานี้

    วันนี้ (20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ หลังจากที่ทาง จ.กระบี่ ได้ขึ้นป้ายขนาดใหญ่ที่บริเวณหน้าท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ โดยมีข้อความระบุว่า “ชาวกระบี่ ขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีมติสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่”

    ซึ่งมีการติดตั้งเอาไว้แต่วันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และเป็นวันเดียวกับที่มีกลุ่มมวลชนสนับสนุนเดินทางไปที่หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ พร้อมยื่นหนังสือเพื่อแสดงความขอบคุณถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าไม่เหมาะสม และควรที่จะให้ปลอดออกเพื่อลดกระแสความขัดแย้ง

    นายกิตติชัย เอ่งฉ้วน รองนายก อบจ.กระบี่ และกรรมการไตรภาคีภาคประชาชน พิจารณาสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ กล่าวว่า ป้ายข้อความดังกล่าวไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่กำลังมีความขัดแย้งต่อโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ มีประชาชนทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย

    ขณะที่ป้ายข้อความดังกล่าวเป็นของจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ หมายถึงเป็นตัวแทนของชาวกระบี่ทุกคน เห็นด้วยต่การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เป็นการสื่อให้เห็นว่าพ่อเมืองกระบี่ ไม่ได้วางตัวเป็นกลาง ดูแล้วไม่เหมาะสม และขัดต่อนโยบายสร้างความปรองดอง จึงเรียกร้องให้เอาออกเพื่อลดกระแสความขัดแย้ง

    [​IMG]

    นายกิตติชัย กล่าวด้วยว่า ในสถานการณ์ที่ลูกๆ มีความขัดแย้งทางความคิดกันอยู่ พ่อบ้านต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่ใช่เข้าข้างลูกคนหนึ่งคนใด หรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพาะไม่อย่างนั้นแล้วความสุขในบ้านก็จะไม่เกิดขึ้น เหมือนอย่างที่ทางผู้ว่าฯ กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน และเชื่อว่าคงจะคิดได้ว่าจะยังคงป้ายเอาไว้อยู่ หรือเอาออก

    ด้าน นายธีรพจน์ กษิรวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะลันตา กล่าวว่า การทำ EIA ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของ กฟผ.จะต้องทำให้รอบด้าน โดยที่ผ่านมา การกำหนดผลกระทบไม่ครอบคลุม และรอบด้าน ที่กำหนดเฉพาะรอบโรงไฟฟ้า 5 กิโลเมตรเท่านั้น เชื่อว่าเมื่อมีโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดขึ้นจริงๆ ผลกระทบจะต้องมากกว่านั้น และการทำ EIA ที่ผ่านมา ก็ไม่ชอบธรรมมาตั้งแต่ต้น และเป็นที่น่าสังเกตด้วยว่า ท่าเทียบเรือ และโรงไฟฟ้าฟ้าเป็นโครงการเดียวกัน แต่ทำการศึกษาคนละครั้ง คนละอย่าง ทั้งที่ความเป็นจริงทั้งโรงไฟฟ้า และท่าเทียบเรือเป็นโครงการเดียวกัน ต้องทำการศึกษา EHIA เหมือนกัน ไม่ใช่ทำเฉพาะโรงไฟฟ้า ส่วนท่าเรือทำเฉพาะ EIA

    นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะลันตา กล่าวด้วยว่า ถ้ารัฐบาล หรือ กฟผ.จะเดินหน้าโครงการต่อไปจะต้องเปิดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน และรอบด้าน เพราะที่ผ่านมา มีปัญหามาโดยตลอด เพราะมีการให้ข้อมูลด้านเดียว ก็จะเกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมา หากว่าจะมีการทำ EHIA หรือ EIA ใหม่ กฟผ.เองก็จะต้องให้ข้อมูลทั้ง 2 ด้าน ทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่ใช่บอกพียงแต่ข้อดีของโรงไฟฟ้าถ่านหินเพียงอย่างเดียว ส่วนด้านลบไม่เคยพูดถึง และการรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้เสียจะต้องเกิดหลังจากการเปิดเวทีสาธารณะแล้ว เนื่องจากโรงไฟฟ้าถ่านหินมีความเสี่ยงต่ออนาคตของคนกระบี่ทั้งจังหวัด ไม่ใช่เฉพาะรอบโรงไฟฟ้า 5 กิโลเมตร

    http://m.manager.co.th/Local/detail/9600000017561
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2017
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กระทรวงพลังงานได้ใีการขยายกองทุนพัฒนาชุมชนรอบโรงไฟห้าออกไปเกิน รัศมี 5 กิโลเมตร เพรสะถือว่าพื้นที่เหล่านั้นเกี่ยวข้องกับผลของโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ แต่กลับทำรายงาน EHIA เพียงระยะ 5 กิโลเมตรจากโรงไฟฟ้า
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    การที่กระทรวงพลังงานได้พิจารณาแนวทางขยายเขตกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเกินกว่ารัศมี 5 กิโลเมตร ในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่
    เพื่อ ให้ครอบคลุมในพื้นที่เพิ่มเติมอีก 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลเกาะศรีบอยา และตำบลตลิ่งชัน จากเดิมที่ครอบคลุมในพื้นที่ 2 ตำบล คือ ตำบลปกาสัย และตำบลคลองขนาน เพื่อขยายให้ถึงพื้นที่เส้นทางขนส่งเชื้อเพลิง ก็เป็นการยอมรับว่าพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากการสร้างโรงไฟห้าถ่านหินกระบี่มีพื้นท้กินี่มากกว่า 5 กิโลเมตรจากโรงไฟฟ้า แต่กลับทำรายงานผลกนะทบต่อสิ่งแวดล้อม EHIA แค่ในระยะ 5 กิโลเมตร จากโครงการโรงไฟห้าถ่านหินกระบี่เท่านั้น


    ขยายเขตกองทุนรอบโรงไฟฟ้า หวังช่วยดันถ่านหินกระบี่เกิด กฟภ.พัฒนาระบบ4เมืองใหญ่
    Wednesday, February 15, 2017 - 00:00

    “อนันตพร” สั่งพิจารณาเพิ่มเขตกองทุนพัฒนารอบโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ 5 กิโลเมตร และส่งเสริมพลังงานทดแทนในพื้นที่ ชี้ กฟผ.จะรับซื้อชีวมวล 150 ตัน/วัน ด้าน ครม.อนุมัติ กฟภ.ทุ่ม 1.6 หมื่นล้านบาท พัฒนาโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ ระยะที่ 1 นำร้อง 4 หัวเมืองสำคัญ หวังเพิ่มความเชื่อมั่น สร้างความเชื่อถือ

    พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณะกรรมการกำกับกิจการพลังาน (กกพ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินการให้ครอบคลุมข้อสรุปของคณะกรรมการไตรภาคี ที่มีแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญๆ คือ การพิจารณาแนวทางขยายเขตกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเกินกว่ารัศมี 5 กิโลเมตร ในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่

    ทั้งนี้ ให้ครอบคลุมในพื้นที่เพิ่มเติมอีก 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลเกาะศรีบอยา และตำบลตลิ่งชัน จากเดิมที่ครอบคลุมในพื้นที่ 2 ตำบล คือ ตำบลปกาสัย และตำบลคลองขนาน พร้อมทั้งขยายให้ถึงพื้นที่เส้นทางขนส่งเชื้อเพลิง คาดว่าจะมีประชาชนในพื้นที่อีกประมาณ 3,320 ครัวเรือน ได้รับเงินกองทุนเพื่อพัฒนาชุมชน และการจ้างงานต่อไป

    นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนการส่งเสริมพลังงานทดแทน และพัฒนาศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะมีนโยบายรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็กแบบผสมผสานในรูปแบบสัญญาเสถียร (SPP Hybrid Firm) และการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมากแบบสัญญาเสถียรตามช่วงเวลา (VSPP Semi-Firm) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มในพื้นที่ภาคใต้

    “กฟผ.จะรับซื้อส่วนเพิ่มของชีวมวลคงเหลือประมาณ 150 ตันต่อวัน เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งจากเดิมได้มีการใช้น้ำมันปาล์มเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าอยู่บ้างแล้ว เพื่อพยุงราคาน้ำมันปาล์มในช่วงที่ราคาตกต่ำเป็นครั้งคราว” พล.อ.อนันตพรกล่าว

    นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า กระทรวงพลังงานจะมีการหารือร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในวันที่ 15 ก.พ.2560 เพื่อหาข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม (วินด์ ฟาร์ม) โดยเช่าที่ดินสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ทราบว่า ส.ป.ก.จะตัดสินใจอย่างไร แต่ก่อนหน้านี้ ส.ป.ก.ระบุว่าจะดูเป็นรายโครงการ

    นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอเกี่ยวกับโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ ระยะที่ 1 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) วงเงิน 1.16 หมื่นล้านบาท โดยในส่วนนี้จะใช้เงินกู้ในประเทศ จำนวน 8.74 พันล้านบาท และใช้เงินรายได้ของ กฟภ. จำนวน 2.92 พันล้านบาท

    เพื่อก่อสร้างและปรับปรุงระบบไฟฟ้า พร้อมทั้งติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมในพื้นที่โครงการเพื่อเพิ่มความมั่นคงและเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า รวมทั้งลดปัญหาและอุปสรรคด้านการปฏิบัติการบำรุงรักษาและความปลอดภัย ในพื้นที่ 4 เมืองสำคัญ ได้แก่ เทศบาลนครเชียงใหม่, เทศบาลนครนครราชสีมา, เมืองพัทยา และเทศบาลนครหาดใหญ่.

    http://www.thaipost.net/?q=ขยายเขตก...วยดันถ่านหินกระบี่เกิด-กฟภพัฒนาระบบ4เมืองใหญ่
     

แชร์หน้านี้

Loading...