ละตัวตนได้ละอย่างอื่นๆ น่าจะง่ายขึ้นนะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 25 พฤษภาคม 2017.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    การละตัวตนอย่างถาวรสำหรับฆราวาส ทำได้ไหมฮะ ทำไงครับ
    ทำได้คงไม่ต้องเดือดร้อนกับความทุกข์
    หรือความสุขกันอีกต่อไป
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ลุงแมวว่าทันทีที่คิดจะละ นั่นล่ะเป็นการปลุกตัวตนเกิด
    ขึ้นมารุนแรงฉับพลัน ก่อนนั้นยังมีตัวตนแค่แผ่วๆ เองฮะ
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ต้อง แยบคายพิจารณา

    มานะ9 ต่ำกว่าเขา สูงกว่าเขา เสมอเขา ฯลฯ เป็น ความเห็นผิดทั้งหมด

    ทำไม

    ก็เพราะว่า มานะ9 เป็นเรื่อง อัตตวาทุปาทาน สำคัญว่า มีอัตตา ไม่มีอัตตา มีก็ไม่ใช่ไม่มีก็ไม่ใช่

    พอกล่าวว่า "มีก็ไม่ใช่ไม่มีก็ไม่ใช่" มันก็เหมือน นักธรรม เป็นคนเฮีย พูดอะไร ไม่รู้เรื่อง

    ก็ต้อง ย้ำอีกทีว่า ต้อง แยบคายพิจารณา

    ถ้าไม่แยบคายพิจารณา จะละ อัตตา ก็จะเป็น อัตตาวาทุปาทาน ไปหมด

    แต่ หนทาง ที่ไม่ใช่ อัตตาวทุปาทาน มีอยู่ ไม่ใช่ไม่มี

    ถ้า เฝ้นหา สัมมาทิฏฐิ เจอ ถูกส่วน แทนที่จะด่า นักธรรม พูดเฮียอะไร ไม่รู้เรื่อง

    จะ อ๋อ ธรรมะ มีความแยบคาย มีความลึกซึ้ง เป็น ฝ่ายโลกุตระ เหนือโลก
    แต่ส่วนเดียว เป็นของบัณฑิต เป็นของผู้มีปัญญาดี ไม่ใช่ปัญญาทราม

    ไม่มีเรื่อง วนในอ่าง ละอัตตา ก็ยังเป็น อัตตาวาทุปทาน


    ธรรมะนั้น เป็นเรื่อง รอยเท้านกในอากาศ รอยเท้าในผืนทราย

    ถ้า พิจารณาให้แยบคาย จะ รู้ว่า ธรรมเหนือคำบัญญัติกล่าวไปถึง มีอยู่จริง

    ไม่ใช่ แค่โวหาร กล่าวประโลมกัน ฆ่าเวลา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2017
  4. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    สมมุติ มีคนตามนายแมว แต่ไม่เคยพบเคยเห็นนายแมวเลย รูปร่างหน้าตาก็ไม่เคยเห็น ที่อยู่อาศัยก็ไม่รู้ว่าอยู่ไหน คิดว่าชาตินี้ เขาจะหานายแมวเจอะไหมว่า :p
     
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ถ้านายแมวไม่รู้จักขันธ์ ๕ ก็ละตัวตนไม่ได้
    ก็จะคุยโม้โชว์ตัวไปทั่วประกาศตนเองให้
    ชาวบ้านชาวช่องรู้จักคุ้นหูคุ้นตา
    เพื่อชื่อ้เสียงตนเอง
    วันหนึ่งคงมีคนถามชาวบ้านแล้วชาวบ้านร้อง
    อ๋อ...นั่งรอได้เลยเดี๋ยวก็มา
    นี่เป็นวิธีตามหาคนดัง จำเอาไว้

    แต่ถ้าไม่ดังก็ว่าไปอีกอีกอย่าง
     
  6. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    "ถ้าไม่รู้ละไม่ได้"

    " .."คนที่จะละความชั่ว ถ้าไม่เห็นความชั่วของตนแล้วก็ละไม่ได้เหมือนกัน" ถ้าไม่รู้จักความผิดของตน ไม่รู้จักความโง่ของตน เข้าใจว่าตนฉลาดอยู่ร่ำไป อะไรก็เข้าใจว่าเป็นดีหมด ไม่ยอมฟังเสียงใครทั้งนั้น "อย่างนี้ก็ไม่ทราบว่าจะไปละความโง่อันนั้นได้อย่างไร"

    มีแต่เพิ่มพูนความโง่ขึ้น จิตมีทิฏฐิมานะกล้าขึ้นกว่าเก่าทวีคูณ ไม่ทราบว่ามันไปดีได้อย่างไร นี่เพราะไม่เห็นความโง่ของตน "ถือเอาความโง่เป็นความฉลาด" โง่ฝังอยู่ในใจเฉย ๆ ก็ยังคลางแคลง แต่เมื่อเอาความโง่มาแสดงให้ปรากฏออกภายนอกในที่สาธารณะแล้ว เป็นสิ่งที่น่าอับอายขายขี้หน้า

    เพราะความโง่นั้นฝังอยู่ภายในตัวของเรา แต่เราเข้าใจผิดคิดว่า อันนั้นเป็นความฉลาดเลยถือมานะทิฏฐิว่า ตนเด่นตนดี อันนั้นเรียกว่า "ไม่รู้จักความชั่วไม่รู้จักความโง่" แล้วก็ไม่ทราบจะชำระอะไรได้ ก็หมดหนทาง "ความชั่วหรือความโง่นี้ หากไม่รู้จักแล้วละยากอย่างนี้" โดยทั่วไปการกระทำของใครคนนั้นก็ว่า ตนทำถูกหมด มันถูกตามกิเลสของตนเอง .. "

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
    ลดโมหะ โลภะ โทสะ ทีจิตเรา ที่จะ
    ไปดึงมันเข้ามาครับ มีน้อยก็ทุกข์น้อยครับ

    ปล ปรุงจิตติดภพ ปลงตกหมดภัยครับ
    แต่ถ้าลาบสุก กินกับข้าวเหนียว
    จะอร่อยกว่าข้าวสวยครับ ลุง
     
  8. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ถ้านายแมวไม่รู้จักขันธ์ ๕ ก็ละตัวตนไม่ได้
    ก็จะคุยโม้โชว์ตัวไปทั่วประกาศตนเองให้
    ชาวบ้านชาวช่องรู้จักคุ้นหูคุ้นตา เพื่อชื่อเสียงตนเอง


    ไม่รู้จักแล้วไปคุยให้ชาวบ้านซึ่งเขารู้ฟัง คุยผิดคุยถูก ชาวบ้านได้โห่ไล่ไปๆชิวๆๆ คิกๆๆ
     
  9. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    อัตตา ตัวตน, อาตมัน, ปุถุชนย่อมยึดมั่นมองเห็นขันธ์ ๕ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งหมดเป็นอัตตา หรือยึดถือว่ามีอัตตาเนื่องด้วยขันธ์ ๕ โดยอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เทียบอนัตตา

    อนัตตา (น+อัตตา= อนัตตา) ไม่ใช่อัตตา, ไม่ใช่ตัวใช่ตน

    อนัตตานุปัสสนา การพิจารณาเห็นในสภาพที่เป็นอนัตตา คือหาตัวตนเป็นแก่นสารมิได้
     
  10. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    คุณค่าทางจริยธรรม ตามปกติ มนุษย์มีความโน้มเอียงที่จะยึดถืออยู่เสมอว่า ตัวตนที่แท้ของตนมีอยู่ในรูปใดรูปหนึ่ง บ้างก็ยึดเอาจิตเป็นตัวตน บ้างก็ยึดว่า มีสิ่งที่เป็นตัวตนอยู่ต่างหากแฝงซ้อนอยู่ในจิตนั้น ซึ่งเป็นเจ้าของและเป็นตัวการที่คอยควบคุมบังคับบัญชากายและใจนั้นอีกชั้นหนึ่ง

    การแสดงขันธ์ ๕ นี้ มุ่งให้เห็นว่า สิ่งที่เรียกว่า "สัตว์" "บุคคล" "ตัวตน" เป็นต้นนั้น เมื่อแยกออกไปแล้ว ก็จะพบแต่ส่วนประกอบ ๕ ส่วนเหล่านี้เท่านั้น ไม่มีสิ่งอื่นเหลืออยู่ที่จะมาเป็นตัวตนต่างหากได้ และแม้ขันธ์ ๕ เหล่านี้ แต่ละอย่างก็มีอยู่เพียงในรูปที่สัมพันธ์เนื่องอาศัยกัน ไม่เป็นอิสระ ไม่มีโดยตัวของมันเอง ดังนั้น ขันธ์ ๕ แต่ละอย่างๆ นั้นก็ไม่ใช่ตัวตนอีกเช่นกัน

    รวมความว่า หลักขันธ์ ๕ แสดงถึงความเป็นอนัตตา ให้เห็นว่า ชีวิตเป็นการประชุมเข้าของส่วนประกอบต่างๆ หน่วยรวมของส่วนประกอบเหล่านี้ ก็ไม่ใช่ตัวตน ส่วนประกอบแต่ละอย่างๆนั้นเอง ก็ไม่ใช่ตัวตน และสิ่งที่เป็นตัวอยู่ต่างหากจากส่วนประกอบเหล่านี้ก็ไม่มี * ( * ดู สํ.ข.๑๗/๔-๕,๓๒-๓๓,๑๙๙-๒๐๗ ฯลฯ ๓-๗,๒๐-๒๓,๑๓๔-๑๔๑) เมื่อมองเห็นเช่นนี้แล้ว ก็จะถอนความยึดมั่นถือมั่นในเรื่องตัวตนได้ ความเป็นอนัตตานี้ จะเห็นได้ชัดต่อเมื่อเข้าใจกระบวนการของขันธ์ ๕ ในวงจรแห่งปฏิจจสมุปบาท

    อนึ่ง เมื่อมองเห็นว่า ขันธ์ ๕ มีอยู่อย่างสัมพันธ์และอาศัยซึ่งกันและกัน ก็จะไม่เกิดความเห็นผิดว่าขาดสูญ ที่เรียกว่า อุจเฉททิฏฐิ และความผิดว่าเที่ยง ที่เรียกว่า สัสสตทิฏฐิ เมื่อรู้ว่าสิ่งทั้งหลายไม่มีตัวตนและมีอยู่อย่างสัมพันธ์และอาศัยกันเช่น นี้แล้ว ก็จะเข้าใจหลักกรรมโดยถูกต้องว่าเป็นไปได้อย่างไร กระบวนแห่งสัมพันธ์และอาศัยกันของสิ่งเหล่านี้ มีคำอธิบายอยู่ในหลักปฏิจจสมุปบาทเช่นเดียวกัน

    อีกประการหนึ่ง การมองสิ่งทั้งหลายโดยวิธีแยกส่วนประกอบออกไปอย่างวิธีขันธ์ ๕ นี้ เป็นการฝึกความคิด หรือสร้างนิสัยที่จะใช้ความคิดแบบวิเคราะห์ความจริง คือ เมื่อประสบหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ความคิดก็ไม่หยุดตันอึ้ง ยึดถือเฉพาะรูปลักษณะภายนอกเท่านั้น เป็นการสร้างนิสัยชอบสอบสวนสืบค้นหาความจริง และที่สำคัญยิ่งคือทำให้รู้จักมองสิ่งทั้งหลายตามสภาวะล้วนๆ ของมันหรือตามแบบสภาววิสัย คือมองเห็นสิ่งทั้งหลาย "ตามที่มันเป็น" ไม่นำเอาตัณหาอุปาทานเข้าไปจับ อันเป็นเหตุให้มองเห็นตามที่อยาก หรือไม่อยากให้มันเป็น อย่างที่เรียกว่า สกวิสัย คุณค่าอย่างหลังนี้ นับว่าเป็นการเข้าถึงจุดหมายที่ต้องการของพุทธธรรมและของหลักขันธ์ ๕ นี้ คือการไม่ยึดมั่นถือมั่น การไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งทั้งหลายด้วยการใช้ตัณหาอุปาทาน แต่เข้าไปเกี่ยวข้องจัดการด้วยปัญญา
     
  11. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    "พระอาทิตยพันธุ์ (พระพุทธเจ้า) ได้ตรัสแสดงไว้ว่า รูปอุปมาเหมือนฟูมฟองแม่น้ำ เวทนาอุปมาเหมือนฟองน้ำฝน สัญญาอุปมาเหมือนพยับแดด สังขารอุปมาเหมือนต้นกล้วย วิญญาณอุปมาเหมือนมายากล ภิกษุพินิจดู พิจารณาโดยแยบคาย ซึ่งเบญจขันธ์นั้นด้วยประการใดๆ ก็มีแต่สภาวะที่ว่างเปล่า พระผู้ทรงปัญญาดังผืนแผ่นดิน ทรงปรารภร่างกายนี้แล้ว ทรงแสดงการละธรรม ๓ อย่าง (โลภะ โทสะ โมหะ หรือ ตัณหา มานะ ทิฏฐิ) ไว้ (สํ.ข.17/247/174)
     
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    คุยเรื่องอื่นๆ เยอะแยะที่จะอวดสรรพคุณตัวเอง
    ไม่ต้องธรรมะ แค่ให้จำตาแมวขี้โม้ได้ก็พอ
     
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    100 ทั้ง 100 เหตุมาจากอุปปาทานยึด เบญจขันธ์
    นั่นล่ะ
    แต่สงสัยว่าอุปปาทานมีเหตุมาจากอะไรคับ
     
  14. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    นำภาคปฏิบัติให้ดูความแตกต่างระหว่างการมองชีวิตหรือขันธ์ ๕ แบบสกวิสัย กับ สภาววิสัย ร้อยทั้งร้อย มองชีวิตแบบสกวิสัย เช่น ตย.นี้เป็นต้น

    "ขณะสวดมนต์แล้วได้เอนตัวลงนอนอย่างมีสติ...ได้บริกรรมพอง กับ ยุบ ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้คิดอะไร...จนหลับไปไม่รู้ตัว...ระยะหนึ่ง...จิตได้เกิดกลางดึก คือ มีสติรู้ขึ้นมาทันทีของการพองยุบของท้อง และรู้สึกว่ามีนิ้วมือมากดที่สะดือแรงมาก เวลาที่พองออก ท้องก็จะพองออกมาก มือที่กดก็จะแรงไปตามการพองและยุบ จนรู้สึกกลัวมากเหมือนไส้จะหลุดออกมา.. แต่ผมก็พยายามดึงสติให้อยู่กับคำบริกรรมพอง ยุบอีก แต่พยายามแล้วจิตก็ทนไม่ได้ จิตสั่นไปหมดเหมือนท้องจะแตก จิตคิดตอนนั้นครับ"

    ถ้ามองแบบสภาววิสัย ก็ต้องกำหนดดูรู้ทันตามที่มันเป็นของมัน เป็นยังไง รู้สึกยังไง กำหนดยังงั้น ทุกครั้งทุกขณะที่รู้สึกที่เป็น จะเป็นจะตายก็ต้องตามนั้น
     
  15. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ไล่หลักปฏิจจสมุปบาทดูดิ ก่อนอุปาทานอะไร
     
  16. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    แมวขี้โม้ อิอิ
     
  17. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    อุปาทานขันธ์ ๕
    อุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ คือ ความยึดมั่นในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ เป็นหนึ่งในทุกข์ที่ระบุไว้ใน ทุกขอริยสัจ

    (๑) เพราะถือมั่นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ จึงมีตัณหา มานะ ทิฏฐิว่า เป็นเรา

    เพราะไม่ถือมั่นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ จึงไม่มีตัณหา มานะ ทิฏฐิว่า เป็นเรา

    (๒) การถึงความสงเคราะห์ การประชุมกันแห่งอุปาทานขันธ์ ๕ มีได้ด้วยประการดังนี้

    - รูปเป็นอย่างใด รูปนั้น ย่อมถึงความสงเคราะห์ ในอุปาทานขันธ์ คือ รูป
    - เวทนาเป็นอย่างใด เวทนานั้น ย่อมถึงความสงเคราะห์ในอุปาทานขันธ์ คือ เวทนา
    - สัญญาเป็นอย่างใด สัญญานั้น ย่อมถึงความสงเคราะห์ในอุปาทานขันธ์ คือ สัญญา
    - สังขารเป็นอย่างใด สังขารนั้น ย่อมถึงความสงเคราะห์ในอุปาทาน คือ สังขาร
    - วิญญาณแห่งสภาพที่เป็นแล้วอย่างนั้นอันใด วิญญาณนั้น ย่อมถึงความสงเคราะห์ ในอุปาทานขันธ์ คือ วิญญาณ

    เข้าใจยังอุปาทานในเบญจขันธ์ ในกฎปฏิจจะฯ
    ที่ว่ามายกมาให้เห็นแล้วชัดชัดเลย
    ไม่เข้าใจก็ยึดแน่นอยู่ยังงั้นล่ะนะ
     
  18. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ถ้าเข้าใจธรรมทั้งหลายพอสมควรแล้ว
    ก็มาเริ่มหาวิธีละตัวตน ให้สำเร็จก่อน
    แล้วเรื่องอื่นๆ ก็จะละได้โดยง่ายเป็นลำดับๆ ไป
    แต่ถ้าเก่งมากขนาดละดี ละชั่วก่อน แล้วค่อยมา
    ละตัวตนหลังสุดได้ก็น่าขอเป็นศิษย์ทีเดียวครับ
     
  19. สนทนาธรรม

    สนทนาธรรม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    อุปทานนี้ก็มาจากเหตุที่ เรารู้สึกตัวว่าตัวของเราเหมือนที่เราเห็นอยู่ในกระจก และเห็นคนอื่นแล้วรู้สึกเหมือนกับที่เราเห็นด้วยตาอย่างที่เป็นอยู่นี้ แต่เราไม่เคยรู้สึกอีกด้านหนึ่งของตัวเขาตัวเราเลยว่า ตัวเขาตัวเรานี้ประกอบขึ้นมาด้วยธาตุ4 หรือ อาการ 32 เป็นไปด้วยอำนาจของสังขารที่ปรุงแต่งขึ้นมา ถ้าหากเพียงแค่เรารู้สึกเพียงแว็บหนึ่งเท่านั้นว่า ร่างกายเราของจริงๆ เป็นเรื่องของสังขารปรุงแต่ขึ้นมาจากธาตุ 4 หรือ อาการ 32 เพียงแค่แว็บเดียวเท่านั้น ก็พอจะรู้ได้ว่าอุปทานเป็นอย่างนี้หรือ ร่างกายของเราของจริงเป็นอย่างนี้หรือ สิ่งที่เรารู้สึกว่าร่างกายเราเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เกิดมันไม่ใช่ความจริงอย่างที่เคยรู้สึกมาหรือ
     
  20. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ความคิดมนุษย์ทั่วๆไป ไม่ว่าชาติใด ภาษาไหน นับถือศาสนาอะไร คิดละแนวๆนี้ล่ะ สุดท้ายกางเกงในก็ไม่เหลือ กล่าวคือแก้ผ้า เดินแกว่งไปแกว่งมา ไปคุยกับชาวบ้านว่า ข้าละหมดแล้ว คิกๆๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...