โล๊ะ!!!!! ทุกรายการ 100 บาท...เริ่มหน้า 676 เป็นต้นไป

553.พระสมเด็จ 3 ชั้น พิมพ์กลาง วัดมฤคทายวัน เนื้อผงน้ำมัน ปี2466 จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังยันต์ห้า สภาพสวย ***แบ่งให้บูชาเบาๆ 1500 บาท***..*มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ**
วัดมฤคทายวัน เนื้อผงน้ำมัน ปี2466 จ.ประจวบคีรีขันธ์ พุทธคุณเน้นด้านเมตตามหานิยม เสน่หน์ โชคลาภวาสนา แคล้วคลาดและคงกกะพัน เป็นการปลุกเสกพิธีใหญ่ มาดูกันว่าเกจิยุค2466 มีใครมาร่วมปลุกเสกบ้าง
1.หลวงปู่นาค วัดหัวหิน
2.หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
3.หลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม
4. หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ
5.หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
ุ6. หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
7. หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์
8. หลวงพ่อสาย วัดพยัคฆาราม
ฯลฯ อีกหลายคณาจารย์วัดดมฤคทายวัน ตั้งอยู่ติดกับวังไกลกังวล ซึ่งสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน และเมื่อพระองค์เสด็จแปรพระราชฐานมายังวังไกลกังวล ก็มักทรงสดับพระธรรมเทศนา และสนทนาธรรมกับพระภิกษุผู้มีศีลาจารวัตรงดงาม รวมถึง "หลวงปู่นาค ปุญญนาโค" ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดมฤคทายวันในสมัยนั้น ซึ่งภายหลังได้ย้ายมาครองวัดหัวหิน นอกจากท่านจะมีศีลาจารวัตรงดงามแล้ว ท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญในวิทยาอาคมเข้มขลัง เป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวจังหวัดเพชรบุรีและใกล้เคียง ราวปีพ.ศ.2462 รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้ "หลวงปู่นาค" เป็นเจ้าพิธีในการสร้างพระพิมพ์สมเด็จมฤคทายวันขึ้น เป็นพระเนื้อผงทรงสี่เหลี่ยม คล้ายพระสมเด็จวัดระฆังฯ ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เนื้อหามวลสารประกอบด้วยปูนเปลือกหอยเป็นมวลสารหลัก ที่สำคัญคือ "ผงตรีนิสิงเห" อันเป็นผงวิเศษหลักในการสร้างพระสมเด็จ มาตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) จนถึงท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มีอานุภาพนานัปการ ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี ผงตรีนิสิงเหนำมาผสมรวมกับมวลสารมงคลอื่นๆ แล้วใช้น้ำมันตั้งอิ้วกับน้ำมันลินสีดเป็นตัวประสาน เนื้อมวลสารที่เป็นปูนเปลือกหอยก็จะอมน้ำมันทำให้เนื้อขององค์พระแลดูชุ่มและนุ่ม ส่วนผงตรีนิสิงเหนั้นไม่อมน้ำมัน จึงปรากฏเป็นผงสีเหลืองนวลแทรกอยู่ในเนื้อขององค์พระ ลักษณะเหมือนถั่วตัดสวยงามมาก โบราณาจารย์บางท่านมักเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "พระผงน้ำมัน" ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นต้นตระกูลของพระผงน้ำมันทีเดียว และหลวงปู่นาคก็ได้นิมนต์พระเกจิยุคก่อนมาร่วมปลุกเสกเน้นพลังจิตและอาคมสูงเท่านั้น

พระมฤคทายวัน มีหลายพิมพ์เท่าที่วงการยอมรับ หมวดหมู่ใหญ่ๆ ดังนี้
1.พิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ มี 2 ขนาด คือ ใหญ่, เล็ก พิมพ์ใหญ่แยกเป็นพิมพ์ลึก, ตื้น

2.พิมพ์สมเด็จ 3 ชั้น แบ่งเป็น 3 พิมพ์คือ ใหญ่, กลาง, เล็ก

3.พิมพ์สมเด็จ 7 ชั้น แบ่งเป็น 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่พิเศษอกร่อง, พิมพ์อกร่อง, อกตัน

4.พิมพ์นางกวัก เป็นพิมพ์ที่มีมากที่สุดแบ่งได้ 4 ขนาดใหญ่พิเศษ (จัมโบ้) ใหญ่, กลาง, เล็ก, จิ๋ว

5.พิมพ์ชินราช แบ่งเป็น 3 พิมพ์คือใหญ่, กลาง, เล็ก

6.พิมพ์ 3 เหลี่ยม แบ่งเป็น 3 พิมพ์ คือ ใหญ่, กลาง, เล็ก

7.พิมพ์พระศรีอาริย์ มีพิมพ์เดียว

8.พิมพ์ป่าเลไลยก์ มีพิมพ์เดียว
ทุกพิมพ์มีเอกลักษณ์เฉพาะคือ จะเป็น กรอบกระจก เช่นเดียวกับเกษไชโย และมีการตัดของสำเร็จในพิมพ์ ไม่มีการตัดนอกพิมพ์ เนื่องจากการสร้างแบบแม่พิมพ์ที่มาตรฐาน ซึ่งเชื่อว่าเป็นฝีมือช่างหลวง เป็นการสร้างแบบแม่พิมพ์ของช่างผู้มีความรู้ในเชิงช่างชั้นครู อย่างแท้จริง เลอเลิศทั้งอักขระเลขยันต์ประทับด้านหลัง นอกจากนั้นยังมีแบบหลังเรียบอีกด้วย
สมเด็จวัดมฤคทายวัน พิมพ์ปรกโพธิ์ นั้นได้รับความนิยมและมีราคามากที่สุด พุทธลักษณะแม่พิมพ์ ด้านหน้าองค์พระประธานประทับนั่ง แสดงปางสมาธิอยู่เหนืออาสนะ ด้านหลังเป็นโพธิบัลลังก์ ภายในซุ้มเรือนแก้ว ส่วนแม่พิมพ์ด้านหลัง เป็นยันต์ตรีนิสิงเห
พิธีพุทธาภิเษกจัดอย่างยิ่งใหญ่สมบูรณ์ ทั้งพิธีหลวงและพิธีพราหมณ์ รวมถึงพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นร่วมปลุกเสก และหลวงปู่นาคปลุกเสกด้วยตนเองอีกรอบหนึ่ง
จัดเป็นสิ่งมงคลเมืองเพชร-พระสมเด็จมากพุทธคุณ

 

554.พระสมเด็จวัดมฤคทายวัน พิมพ์สามชั้น (หลังเรียบ) จ.ประจวบคีรีขันธ์ สร้างราวปี 2462 สภาพสวย **แบ่งให้บูชาเบาๆ1500 บาท***..*มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ**
พระสมเด็จวัดมฤคทายวัน พิมพ์ปรกโพธิ์ (หลังเรียบ) จ.ประจวบคีรีขันธ์ สร้างราวปี 2462 เนื้อสีดำ องค์นี้เป็นพระยุคกลาง พระมฤคทายวัน มีอยู่ด้วยกันหลายสิบพิมพ์ทรง โดยสร้างจากเนื้อผงปูนเปลือกหอยมาผสมน้ำมันตั้งอิ้ว และมีหลายสีคือ ขาว, ดำ, แดง, เหลือง, ส้ม มีอานุภาพนานัปการ ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด เจริญก้าวหน้า ปกป้องคุ้มครอง อยู่ร่มเย็นเป็นสุข และคงกระพันชาตรี ใช้แทนพระสมเด็จโตได้อย่างสนิทใจ
ราวปีพ.ศ.2462 รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้ "หลวงปู่นาค" เป็นเจ้าพิธีในการสร้างพระพิมพ์สมเด็จมฤคทายวันขึ้น เป็นพระเนื้อผงทรงสี่เหลี่ยม คล้ายพระสมเด็จวัดระฆังฯ ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เนื้อหามวลสารประกอบด้วยปูนเปลือกหอยเป็นมวลสารหลัก ที่สำคัญคือ "ผงตรีนิสิงเห" อันเป็นผงวิเศษหลักในการสร้างพระสมเด็จ มาตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) จนถึงท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มีอานุภาพนานัปการ ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี ผงตรีนิสิงเห นำมาผสมรวมกับมวลสารมงคลอื่นๆ แล้วใช้น้ำมันตั้งอิ้วกับน้ำมันลินสีดเป็นตัวประสาน เนื้อมวลสารที่เป็นปูนเปลือกหอยก็จะอมน้ำมันทำให้เนื้อขององค์พระแลดูชุ่ม และนุ่ม ส่วนผงตรีนิสิงเหนั้นไม่อมน้ำมัน จึงปรากฏเป็นผงสีเหลืองนวลแทรกอยู่ในเนื้อขององค์พระ ลักษณะเหมือนถั่วตัดสวยงามมาก พระผงน้ำมันวัดมฤคทายวัน เป็นเนื้อผงปูนปั้น ผสมน้ำมันทั้งหมด มีหลากสีคือ ขาว, ดำ, แดง, เหลือง, ส้ม โดยสีขาวที่เรียกกันทั่วไปว่าเนื้อกระดูก เป็นเนื้อนิยมสูงสุด เอกลักษณ์จากพิมพ์ทรงการตัดขอบและเนื้อหาที่ละเอียด หนึกนุ่ม ปกคลุมด้วยน้ำมันที่แห้งผาก พระมฤคทายวัน มีหลายพิมพ์เท่าที่วงการยอมรับไม่ต่ำกว่า 20 พิมพ์ โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ใหญ่ๆ ดังนี้ 1.พิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ มี 2 ขนาด คือ ใหญ่, เล็ก พิมพ์ใหญ่แยกเป็นพิมพ์ลึก, ตื้น 2.พิมพ์สมเด็จ 3 ชั้น แบ่งเป็น 3 พิมพ์คือ ใหญ่, กลาง, เล็ก 3.พิมพ์สมเด็จ 7 ชั้น แบ่งเป็น 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่พิเศษอกร่อง, พิมพ์อกร่อง, อกตัน 4.พิมพ์นางกวัก เป็นพิมพ์ที่มีมากที่สุดแบ่งได้ 4 ขนาดใหญ่พิเศษ (จัมโบ้) ใหญ่, กลาง, เล็ก, จิ๋ว 5.พิมพ์ชินราช แบ่งเป็น 3 พิมพ์คือใหญ่, กลาง, เล็ก 6.พิมพ์ 3 เหลี่ยม แบ่งเป็น 3 พิมพ์ คือ ใหญ่, กลาง, เล็ก 7.พิมพ์พระศรีอาริย์ มีพิมพ์เดียว 8.พิมพ์ป่าเลไลยก์ มีพิมพ์เดียว ทุกพิมพ์มีเอกลักษณ์เฉพาะคือ จะเป็น กรอบกระจก เช่นเดียวกับเกศไชโย และมีการตัดขอบสำเร็จในพิมพ์ ไม่มีการตัดนอกพิมพ์ เนื่องจากการสร้างแบบแม่พิมพ์ที่มาตรฐาน ซึ่งเชื่อว่าเป็นฝีมือช่างหลวง เป็นการสร้างแบบแม่พิมพ์ของช่างผู้มีความรู้ในเชิงช่างชั้นครู อย่างแท้จริง เลอเลิศทั้งอักขระเลขยันต์ประทับด้านหลัง นอกจากนั้นยังมีแบบหลังเรียบอีกด้วย ซึ่งมีจำนวนน้อย และหายากกว่า สมเด็จวัดมฤคทายวัน พิมพ์ปรกโพธิ์ นั้นได้รับความนิยมและมีราคามากที่สุด พุทธลักษณะแม่พิมพ์ ด้านหน้าองค์พระประธานประทับนั่ง แสดงปางสมาธิอยู่เหนืออาสนะ ด้านหลังเป็นโพธิบัลลังก์ ภายในซุ้มเรือนแก้ว ส่วนแม่พิมพ์ด้านหลัง เป็นยันต์ตรีนิสิงเห พิธีพุทธาภิเษกจัดอย่างยิ่งใหญ่ สมบูรณ์ ทั้งพิธีหลวงและพิธีพราหมณ์ รวมถึงพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นร่วมปลุกเสก และหลวงปู่นาคปลุกเสกด้วยตนเองอีกรอบหนึ่ง จัดเป็นสิ่งมงคลเมืองเพชร-พระสมเด็จมากพุทธคุณ ซึ่งหายากมากแล้ว ในปัจจุบัน

 

555.พระพุทธกวักอาจารย์ชุม ไชยคีรี ปี2497 เนื้อดิน วัดพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช ***แบ่งให้บูชา 950 บาท***..*มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ**
(ประวัติ)
มวลสารที่รวบรวมมามีพระกรุสุดยอดพระเครื่องจากทั่วประเทศ มาดำเนินการสร้างพระนี้ จากการรวบรวมปรากฎว่าได้พระกรุมากว่า 108 กรุ ว่านยาอีก 108 ชนิด รวมทั้งผงวิเศษ อาทิเช่น พระกรุนางตรา-ท่าเรือ, กรุท้าวโคตร, สมเด็จวัดระฆัง, สมเด็จบางขุนพรหม, พระผงสุพรรณ, ผงดำผงแดงหุ่นพยนต์, หลวงพ่อเกตุ วัดขวิด, ขุนแผนวัดพระรูปและวัดบ้านกร่าง, พระนางพญาวัดนางพญาและวัดต้นจันทร์ สุพรรณบุรี, พระกรุต่าง ๆ ในกำแพงเพชร, พระกรุต่าง ๆ ในสุโขทัย, หูยานลพบุรี, ท่ากระดานหูไห กาญจนบุรี, พระกรุวัดท่ามะปราง, พระวัดชินราช พิษณุโลก, พระหลวงพ่อจุก, พระจุฬามณี พิษณุโลก, พระรอด พระคง พระเปิม-ลำพูน, มหาว่านวัดเขาอ้อ-พัทลุง, และพระกรุศรีวิชัยฯลฯ

การประกอบพิธีพุทธาภิเษก จัดให้มีขึ้นตลอดพรรษา ณ วิหารวัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช

ได้ฤกษ์พิมพ์องค์พระในวันที่ 2 สิงหาคม 2497
ครบ 84,000 องค์ วันที่ 1 กันยายน 2497
ทำพิธีปลุกเสกวันที่ 14 กันยายน 2497
ออกพิธีวันที่ 12 ตุลาคม 2497 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา

โดยพิธีนี้ได้นิมนต์พระเถราจารย์ ผู้เรืองเวทวิทยาคม 108 รูป มาร่วมประกอบพิธี มีท่านเจ้าคุณพระภัทรมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สำหรับพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกขอยกมาเป็นบางส่วน ได้แก่ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จันดี, หลวงพ่อโอภาสี บางมด ธนบุรี, หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, หลวงพ่อเมือง วัดท่าพญา, หลวงพ่อคง วัดคลองน้อย, หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำ ปากพนัง, หลวงพ่อแดง วัดโท ท่าศาลา, หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์, หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก ทุ่งใหญ่, หลวงพ่อตุด วัดทุ่งกง กระบี่, หลวงพ่อวัน มะนะโส วัดประสิทธิชัย, หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง, หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน, หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ. หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก, หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ตะวันออก พัทลุง, หลวงพ่อพัว วัดเขาราหู (วัดบางเดือน). หลวงพ่อแดง วัดคลองไทร, หลวงพ่อวิรัช วัดกะเปา คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี, หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน, หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย, หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู, หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ชุมพร, หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์ บางสะพาน, หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์, หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม ฯลฯ อาจารย์ที่เป็นฆราวาสได้แก่ อ.ชุม ไชยคีรี, อ.นำ แก้วจันทร์, พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช

การปลุกเสกเน้นเด่นเฉพาะทาง แบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน เช่น ปลุกเสกเน้นด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุด 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน เนรมิตกายกำราบศัตรูให้เห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน ดังนี้เป็นต้น

 

556.เหรียญกายสิทธิ์ หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลังสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื้อทองแดง สภาพสวย***แบ่งให้บูชา 1850 บาท***..*มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ**
เหรียญสวย เนื้อทองแดงผสมชนวนเปิดโลก 50% ครับ

เหรียญนี้ จัดสร้างในโอกาสฉลองการเปิดสำนักสงฆ์พุทธพรหมปัญโญ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ (ปัจจุบันเป็นวัดแล้ว) ผู้ออกแบบเหรียญคือ น.ต.อัศวิน นัยชิต โดยมีลักษณะของเหรียญ

1. ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และมีพญานาค 2 ตน

2. มีอักขระ นะ ซ่อนหัว อันเป็นยันต์ประจำตัวของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ท่านเคยบอกผู้สร้าง (อ.ศุภรัตน์ แสงจันทร์) ว่า ใครทำถึงจริงสามารถหายตัวได้

3. ด้านหลังเป็นพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

4. มีอักขระขอม พุท ธะ สัง มิ ซึ่งคือ หัวใจพระไตรสรณคมน์

ในการสร้างเหรียญมีการผสมชนวนต่าง ๆ ซึ่งเป็นชนวนโลหะจากพิธีที่ได้จาก

1. พิธีหลอมโลหะที่วัดพุทไธศวรรย์ โดยมีแผ่นจารจากเกจิอาจารย์หลายองค์ อาทิเช่น หลวงปู่ทิม วัดพระขาว, หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์, ท่านสุมโนดาบส (จ.เชียงราย) ที่สำคัญมีชนวนโลหะจากหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ที่ท่านอธิษฐานให้มีทั้งทองคำ เงิน โลหะผสม

2.ชนวนโลหะที่ได้จากการหล่อพระพุทธสิหิงค์ของกรมทหารสื่อสารทหารอากาศ โดยผสมชนวนที่ได้จากครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2537 และพิธีต่าง ๆ อีกหลายพิธี

3. ชนวนทั้งหมดได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในงาน ครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย สมเด็จพระสังฆราชพระญาณสังวร ทรงเป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ โดยมีคณาจารย์หลายองค์ทั้งสายพระป่าและเกจิอาจารย์ จำนวน 67 องค์

4. ชนวนตะกั่ว

4.1 ตะกั่วแท่ง น้ำหนัก 10 กิโลกกรัม อธิษฐานโดยหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

4.2 ตะกั่วหลอมจากตะกรุดโบราณ พบที่ อำเภอคง จ.นครราชสีมา น้ำหนัก 0.5 กิโลกกรัม จาก พ.อ.อ.นเรศ ทพิย์สุวรรณ์

4.3 เนื้อชินกรอบโบราณ จากใกล้ ๆ วัดป้อมรามัญ ต.สวนพริก จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำหนักประมาณ 0.5 กิโลกรัม



จำนวนเหรียญที่สร้าง

1. เหรียญทองคำ 93 เหรียญ

2. เหรียญเงิน 2,263 เหรียญ

3. เหรียญทองแดง 20,000 เหรียญ

4. เหรียญตะกั่ว 271 เหรียญ



การพุทธาภิเษก

1. วันที่ 6 เมษายน 2538 (วันจักรี) ณ วัดพุทไธศวรรย์ มีคณาจารย์หลายท่าน เช่น หลวงพ่อหวล ภูริภัทโท วัดพุทไธศวรรย์ หลวงวปู่ทิม วัดพระขาว หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ หลวงตาม้า (พระวรงคต วิริยะธโร)

2. มนต์ (อธิษฐานจิต) โดยหลวงพ่อเกษม เขมโก จ.ลำปาง พร้อมกับพระรูปกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ของกรมสื่อสารทหาอากาศ เป็นเวลา 10 นาที

3. วันที่ 23 มีนาคม 2539 ณ สำนักสงฆ์พุทธพรหมปัญโญ โดยมีคณาจารย์หลายองค์ เช่น หลวงพ่อวัดมหาวัน จ.เชียงใหม่ หลวงปู่สังข์ วัดป่าพระอาจารย์ตื้อ

ในการปลุกเสกครั้งที่ 3 ที่ถ้ำเมืองนะ ผู้เขียนได้เรียนถามหลวงปู่สังข์ สังกิจโจ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ถึงพิธีในครั้งนี้ท่านได้บอกว่า "สว่างไสวมาก มีครูบาอาจารย์มาช่วยกันเยอะ เห็นนางฟ้าเทวดามาร่วมโมทนากัน โปรยข้าวตอกดอกไม้ น้ำมนต์ในพิธี พระรุ่นนี้ดีมาก" โดยปกติหลวงปู่สังข์ เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านมักพูดน้อย ส่วนใหญ่จะสอนธรรมะมากกว่าเรื่องลึกลับซับซ้อนสำหรับผู้สร้างท่นไม่ค่อยปิดบัง นับเป็นความเมตตาอย่างยิ่ง

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : หนังสือกายสิทธิ์ "ยุคอภิญญา"

 

557.พระเนื้อว่านสบู่เลือด รูปเหมือนหลวงพ่อแดง พุทโธ วัดถ้ำเขาเงิน ปี ๒๕๑๑ ทำจากเนื้อผงว่านวิเศษและเกสรศักดิ์สิทธิ์นานาชนิด พระพิธีเสด็จกลับ วัดถ้ำเขาเงิน ๒๕๑๑ ***แบ่งให้บูชา 650 บาท***..*มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ**

พิธีเสด็จกลับ เป็นพิธีอาราธนาพระเครื่องกลับ โดยเริ่มจากการนำไปปล่อยลงในแม่น้ำหรือทะเล แล้วตั้งศาลาปะรำพิธี ขึงผ้าขาวขึ้น สวดอาราธนา ขอให้นาคและเทวดาช่วยนำพระกลับมา แล้วพระเครื่องวัตถุมงคลที่ปล่อยลงในแม่น้ำหรือทะเลในระยะไกลหลายๆกิโลนั้น จะเสด็จกลับมาปรากฎอีกครั้งหนึ่ง ที่ปะรำพิธี ทีละองค์ๆจนครบถ้วน
คณาจารย์ในพิธีวัดถ้ำเขาเงิน
พระ อาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา จ.พัทลุง, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง, พระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ, หลวงปู่หมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง, พระครูปลัดพวง วัดประสาทนิกร จ.ชุมพร, หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน จ.ชุมพร, อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน จ.พัทลุง ปลุกเสกตามตำรับไสยเวทย์ของเขาอ้อ
ปลุกเสกตามตำรับไสยเวทย์ของเขาอ้อ จึงเป็นที่มั่นใจได้ว่าใช้บูชาดีเด่นด้านมหาอุตม์ คงกระพันชาตรี เหนียว ยิงไม่ออก แคล้วคลาด ปลอดภัย ป้องกันภยันตรายทั้งปวง มีการทดลองพุทธคุณโดยเอาพระกำไว้ในมือแล้วเอาดาบคมเชือดท้องแขนให้เห็นจะๆ กันเลย ปรากฏว่าเชือดไม่เข้า เรื่องนี้เป็นข่าวโด่งดังทางหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อยุคนั้นมาก เรื่องประสบการณ์

 

558.เหรียญหลวงปู่คงสอนเณรแก้ว"เหรียญพระอาจารย์คงสอนเณรแก้ว(วัดแค๑) หลังขุนแผน อ.ชุม ไชยคีรี จัดสร้างให้กับ วัดแค จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นรุ่นแรก ประมาณ พ.ศ.2519 ในสมัยพระอาจารย์ปั้น อินฺทสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดแค **แบ่งให้บุชา 500 บาท *****คุณshajจองครับ**
เหรียญหลวงปู่คง สอนเณรแก้ว(ขุนแผน) วัดแค รุ่นแรก ปี 2519 มีลักษณะ เหรียญอาร์ม เนื้อทองแดงรมมัน ด้านหน้า เหรียญเป็นรูปหลวงปู่คงนั่งถือกระดานชนวนสอนสามเณรแก้ว หรือขุนแผน ที่นั่งคุกเข่าฟัง โดยมือถือกระดานชนวน เช่นกัน และหันหน้ามอง ด้านบน เขียนอักขษะ อะ สัง ริ สุ โร ปุ สัม ภะ ที่มีความหมายว่า พุทธคุณของพระพุทธเจ้า 9 อย่าง และยัง เป็นพระคาถาเสกใบมะขามเป็นต่อแตน หลวงปู่ ศุข วัดปากครองมะขามเฒ่า ก็ยังเคยสอน สมเสด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดรศักดิ์ และ หลวงปู่คง ซึ่งเป็นพระอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาเสกต่อแตน ให้แก่สามเณแก้ว แล้วจำพวกวิชา เมตา คงกระพัน ทำกุมารทอง สะเดากรกุญแจ จากเสภาที่ว่าไว้ สะกดทัพจับพลทั้งปลุกผี ผูกพยนต์ฤทธีกำแหงหาญ ปัถมังกำบังตนทนทาน สะเดาะดาลโซ่กุญแจประจักษ์ใจ ทั้งพิชัยสงครามทั้งความรู้ อาจจะปราบศัตรูสู้ไม่ได้ ฤกษ์ผานาทีทุกสิ่งไป ทั้งเสกใบมะขามเป็นต่อแตน

ด้านหลังเหรียญหลวงปู่คงสอนเณรแก้วเหรียญหลวงปู่คงสอนเณรแก้ว เป็นรูปขุนแผนสะพายดาบไขว้ด้านหลัง 2 เล่ม ยืนตรง ข้านบนมี คาถาหัวใจขุนแผน เขียนเลขยันต์ไว้ว่า มะอะอุ สุนะโมโล โบนาณาจายร์ ท่านว่าไว้ ท่อง108 คาบ เป็นเมตาดัง ขุนแผน ดีนักแล ด้านข้านมียันต์ ฦา กำกับ 2 ด้าน ทั้งซ้ายและขวา ที่มีความหมายว่า ‘‘ฦาชา คือ มีชื่อเสียงโด่งดัง’’ ลงมาคือ ยันต์พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ‘‘นะโมพุทธายะ’’ ที่มีความหมายว่า เหรียญ นี้ได้มี พระพุทธเจ้าประทับอยู่ถึง 5 พระองค์ ศักดิ์สิทธิ ดีแท้ และยังรู้กันทั้วบ้านทั้วเมือง ถึง ความขลังของพ่อขุนแผน ไม่ห่วงเลย เมตา มหาเสห่ อยู่ยงคงกระพัน เป็นที่หนึ่ง แถมยังมี อักขระ เลขยันต์เขียน ไว้บนเหรียญ 1. หัวใจพระคาถา อิติปิโส 2. หัวใจนะขุนแผน 3. ยันต์ พระเจ้า 5 พระองค์ มีนามว่าอะไรบ้าง นะ คือ พระกกุสันโธ โม คือ พระโกนาคมโน พุทธ คือ พระกัสสะโป ธา คือ พระโคตโม ยะ คือ พระศรีอริยเมตไตยโย

วัดแค ตามตำนานพื้นบ้านเรื่องขุนช้างขุนแผน เป็นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกันกับ อ.คง วัดแค(วัดตาล) ซึ่งเป็นอาจารย์ของขุนแผน (พลายแก้ว ขณะบวช หรือเณรแก้ว นั่นเอง)
ทั้งนี้ พระอาจารย์คง ก็ยังถือเป็นอาจารย์ของอ.ชุม ในทางวิญญาณด้วย เนื่องจากท่านจะมาช่วยเหลือและชี้แนะในเรื่องต่างๆรวมถึงสอนคาถาวิชา และช่วยในด้านการปลุกเสกวัตถุมงคลตามตำรับของท่านผ่านทางร่างทรงตั้งแต่ พ.ศ.2496 เรื่อยมา

ทั้งนี้ ตำนานเรื่องราวขุนช้างขุนแผน มีปรากฏในเสภาขุนช้างขุนแผน กล่าวถึงวัดแคอยู่หลายตอนด้วยกัน อ้างถึง ใบมะขาม ที่วัดแค ต.รั้วใหญ่ มีต้นมะขามอยู่ต้นหนึ่ง เป็นมะขามยักษ์ขนาดใหญ่อายุกว่า 1,000 ปี กว่า 10 คนโอบ อีกทั้งได้มีการกล่าวถึง พระอาจารย์คงสอนเวทมนตร์คาถาให้กับสามเณรแก้ว หรือขุนแผน ซึ่งบวชเป็นสามเณรและจำพรรษาอยู่ที่วัดแค

สำหรับการจัดสร้างเหรียญหลวงปู่คงสอนเณรแก้ว ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกในอุโบสถวัดแค ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

โดยมีพระคณาจารย์และพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์นำ วัดดอนศาลา และสายเขาอ้อ เป็นต้น ปลุกเสก และอาจารย์ชุมได้อัญเชิญวิญญาณอาจารย์คงและขุนแผนมาประทับทรงปลุกเสกด้วย

เหรียญหลวงปู่คงสอนเณรแก้ว มีพุทธคุณโดดเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ความมีอำนาจวาสนา

ที่สำคัญ คือ สำหรับคู่สามีภรรยาที่มีบุตรดื้อ ไม่อยู่ในโอวาท มีวิธีแก้เคล็ดด้วยการเขียน ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด ลงในกระดาษ แล้วให้นำเหรียญนี้วางทับ ก่อนอธิษฐานขอบารมีหลวงปู่คง ช่วยอบรมสั่งสอน จะทำให้บุตรเชื่อฟังอยู่ในโอวาท ไม่ดื้อรั้น ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงท่านที่มีลูกน้องบริวารที่ไม่เชื่อฟัง สามารถแก้เคล็ดโดยใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน เป็นคำบอกเล่าต่อๆ กันมาเกี่ยวกับเหรียญรุ่นนี้

 

559.พระพิมพ์พระพุทธชินราช วัดประสาท เนื้อผงพุทธคุณผสมปูน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก พิมพ์นี้ก็ถือได้ว่าไม่ค่อยได้พบเจอบ่อยนัก หายาก มีในหนังสือเล่มใหญ่ของวัดครับ **แบ่งให้บูชา 650 บาท *****มีผู้รับนินต์แล้วครับ***
พระเนื้อผงทุกพิมพ์ของหลวงปู่ สามารถนำไปกำภาวนาได้เป็นอย่างดี ซึ่งหลวงปู่ท่านเน้นย้ำในเรื่องการปฏิบัติมาเป็นเวลานาน วิธีการนำไปใช้ให้นำพระมากำไว้ในมือสบายๆ ไม่ต้องกำแน่น จากนั้นกำหนดจิตอยู่ที่องค์พระในมือแล้วภาวนาไตรสรณคมน์ (พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ) หรือบทจักรพรรดิก็ได้แล้วแต่จริตครับ และนอกจากนั้นพระเนื้อผงของหลวงปู่ยังนำไปทำน้ำมนต์ได้อีกด้วย โดยนำไปแช่ลงในน้ำแล้วอธิษฐานของบารมีหลวงปู่ท่าน จะทำเป็นน้ำมนต์รักษาโรค ใช้ได้ทั้งดื่มกิน อาบน้ำ ล้างหน้า หรือนำไปปะพรมสินค้าได้หมดแล้วแต่อธิษฐานเลยครับ ไม่ต้องห่วงว่าพระจะละลาย เพราะส่วนผสมเป็นเนื้อปูนยิ่งแช่พระยิ่งแกร่งครับ

​

 

ปิดรายการ558 ครับ

 

รับทราบครับ

 

​

ขอจองบูชาครับ

 

จอง 557 หลวงพ่อแดง พุทโธ

 

รับทราบครับ

 

โอนเงินแล้วครับ 650 วันที่ 24/09/60
ชื่อที่อยู่แจ้งใน pm ครับ

 

รับทราบครับ

 

560.พระเนื้อดินพิมพ์ขี่หนุมาน หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา ปี 2496 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ปลุกเสก เนื้อจัด ***แบ่งให้บูชา 1200 บาท *****ปิดรายการนี้ครับ***
พระรุ่นนี้มีส่วนผสมของเนื้อพระหลวงพ่อปานที่แตกหัก และผงพุทธคุณยุคแรกของหลวงพ่อปานผสมอยู่พอสมควร ที่สำคัญจัดสร้างโดยทางวัดบางนมโค และปลุกเสกโดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และศิษย์หลวงพ่อปานอีกหลายท่าน หลวงพ่อปาน พระพิมพ์นี้รุ่นนี้ มีประวัติการจัดสร้างชัดเจน
ปรากฏอยู่ในพระวิหารหลวงพ่อปาน ที่วัดบางนมโค จัดเป็นของดีราคาพอเช่าหาได้ แต่ก็เริ่มจะหายากแล้ว

 

561.พระสมเด็จพิมพ์ 7 ชั้น นิยม กรุวัดดักคะนนชัยนาทพุทธคุณแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยมเป็นเลิศที่สุด ***แบ่งให้บูชา 500 บาท***..*มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ**
สืบเนื่องจากพระประธานในโบสถ์วัดดักคะนนได้ชำรุดจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ กรรมการวัดจึงมีมติที่จะรื้อและสร้างใหม่ และได้พบพระสมเด็จ
ไหลทะลักออกมาจากใต้ฐานพระ ประธาน (ใน ปี พ.ศ. 2530) และหลังจากนั้นยังได้พบพระสมเด็จอีกในไหที่ฝังอยู่บริเวณใต้ต้นจันทร์ หน้ากุฏิหลวงปู่อยู่ หลวงพ่อผลเจ้าอาวาสในขณะนั้นจึงนำมาให้ทำบุญและแจกจ่ายวัดต่าง ๆ ในละแวกนั้นเพื่อหาทุนสร้างโบสถ์ และได้นำพระบางส่วนฝังคืนเก็บไว้ มีผู้นำไปใช้ได้ประสบอภินิหารหลายอย่าง หลวงพ่อผลได้นำพระออกมาให้ทำบุญโดยไม่กำหนดจำนวนและเงินทำบุญแล้วแต่ญาติโยม บริจาค พระสมเด็จดักคะนนจึงหมดจากวัดอย่างรวดเร็ว ในช่วงปลายอายุของหลวงพ่อผลได้มีการขุดพระบางส่วนที่ฝังคืนเก็บไว้ ออกมาให้ทำบุญและแจกจ่ายอีกครั้ง พระสมเด็จที่ได้มีการขุดพระส่วนที่ฝังคืนเก็บไว้ขึ้นมา จะมีผิวสีเหลืองอ่อนและมีคราบกรุสีแดงอ่อนหรือขาว เนื่องจากพระที่ขุดขึ้นมามีความชื้นที่องค์พระค่อนข้างมาก ทำให้หลังจากขุดขึ้นมาต้องนำพระออกมาตากแดดที่ลานหน้าโบสถ์ เนื่องจากความชื้นทำให้พระชุดนี้ส่วนใหญ่ลักษณะของพิมพ์ไม่คมชัด พระชุดนี้สร้างโดยหลวงพ่ออยู่ แห่งวัดดักคะนน พระผู้มีบารมีธรรมสูงส่งอีกทั้งเป็นพระที่มีวาจาสิทธิ์องค์หนึ่ง นอกจากนี้ท่านยังเป็นสหายสนิทกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และหลวงพ่อ คง วัดบางกะพี้ พระอาจารย์ทั้งสามองค์ชาวบ้านที่ชัยนาท และจังหวัดใกล้เคียงต่างให้ความเคารพนับถือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน หลวงพ่อทั้งสามต่างเดินทางไปมาหาสู่เพื่อแลกเปลี่ยนวิชาซึ่งกันและกัน เป็นประจำ
พระชุดนี้จึงไม่แปลกที่หลวงปู่ ศุข จะมอบมวลสารชั้นยอดและมีส่วนร่วมในการจัดสร้าง รวมถึงการปลุกเศกด้วย พระสมเด็จที่สร้างมีทั้งหมด คือ พิมพ์ใหญ่3ชั้น พิมพ์เจ็ดชั้น และ เก้าชั้น ชาวบ้านขนานนามว่า มีพระสมเด็จ "อยู่ คง ศุข" จะอยู่รอด ปลอดภัยมีความสุข หลวงพ่อ คง วัดบางกะพี้ มีพรรษาและอายุมากกว่าทั้งสองท่านครับ
หลวงปู่อยู่ก่อนหน้าที่จะ มาปกครองวัดดักคะนนท่านไปเรียนพระปริยัติธรรมที่ วัดบางขุนพรหม และได้รับมอบผงที่สมเด็จโตลบไว้และชิ้นส่วนสมเด็จที่ชำรุดจากเจ้าอาวาสวัด บางขุนพรหมในสมัยนั้นมามากพอสมควร ท่านจึงนำมาจัดสร้างสมเด็จของท่านซึ่งมี พิมพ์คือสมเด็จเนื้อผงขาวหลังเรียบพิมพ์ 3 ชั้น 7 ชั้น และ 9 ชั้น พิมพ์ใหญ่ขนาดครึ่งฝ่ามือเป็นพระคะแนน และเนื้อผงใบลานหลังรูปท่าน หลวงปู่อยู่ท่านนี้ จากปากคำของคนเฒ่าคนแก่เล่าสืบมาว่าท่านเก่งถึงขนาดที่ ใช้มือจับเหล็กสลักโบสถ์ที่ยังมีไฟแดงๆอยู่แทนครีมคีบและตอกด้วยมือปล่าวๆ แทนฆ้อนได้
หลวงปู่อยู่ยังใด้ร่วมกับหลวง ปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าและหลวงพ่อคง วัดบางกะพี้ ปลุกเสกร่วมกันกันอีกด้วยครับ องค์นี้เนื้อผงพุทธคุณแก่มวลสาร สภาพสวยสมบูรณ์ อายุพระเครื่องประมาณ95ถึง100ปี พุทธคุณแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยมเป็นเลิศ

 

562.พระแผงยุครัตนโกสินทร์ พิมพ์พระโมคคัลลานะ ตัดเดี่ยว เนื้อทองผสม พุทธคุณครอบครบ เนื่องจากผ่านการการไหว้บูชา และประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์มายาวนานกว่า 250 ปี ***แบ่งให้บูชา 1200 บาท ***..*มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ**
องค์นี้สภาพสวยพิมพ์คมชัดลึก มีหน้ามีตา ปิดทองลงรักเก่า ตัดแบ่งได้สมบูรณ์ ..ด้านข้างมีร่องรอยการตัดที่บ่งบอกถึงกาลเวลาหลายสิบปี เหมาะสำหรับมีไว้ศึกษา หรือบูชาก็ได้ พุทธคุณดี ศิลป์สวยงามครับ

 

563.พระสมเด็จวัดเฉลิมพระเกียรติ พิมพ์ห้าชั้นยันต์วา หน้าใหญ่ พิมพ์นิยม สภาพสวย **แบ่งให้บูชา พีเอมหรือโทรถามครับ***..*มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ**
ประวัติสมเด็จวัดเฉลิมพระเกียรติ
ผู้สร้างเสกคือ พระครูปรีชาเฉลิม (แฉ่ง) เจ้าอาวาสวัดเฉลิมพระเกียรติองค์ที่ 3 ซึ่งครองวัดในสมัยรัชกาบที่ 5 พ.ศ. 2443 ถึงสมัยรัชกาลที่ 7 ปี พ.ศ. 2470.
เพราะ จากาการเปรียบเทียบด้านเนื้อหาความเก่าระหว่างพระวัดเฉลิมพระเกียรติ กับพระพิมพ์สมเด็จฐานคู่ เจ้าคุฯสุนทร (พรหม)วัดกัลยาที่สร้างไว้เมื่อปีพ.ศ. 2465 หรือกับพระพิมพ์สมเด็จหลวงพ่อหม่น คลองสิบสองสร้างเมื่อปีพ.ศ. 2463 พระทั้งสามสำนักดังกล่าวมีเนื้อหาความเก่าใกล้เคียงกันมากที่สุด นอกจากนี้ชาวบ้านเมืองนนท์ยังได้เล่าสืบต่อกันมาว่า... พระครูปรีชาเฉลิม (แฉ่ง) องค์นี้นำเอาพระวัดเฉลิมพระเกียรติไปแจกชาวบ้านที่ วัดบัวขวัญนนทบุรี ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครสนใจใยดีเลย จึงไม่มีการไต่ถามท่านว่าเอามาจากไหน ใครสร้างสรุปความว่า พระวัดเฉลิมพระเกียรติผู้สร้างคือ พระครูปรีชาเฉลิม (แฉ่ง) เจ้าอาวาสวัดองค์ที่ 3 ในระหว่างปี พ.ศ. 2453 – 2468.สำหรับ “พิมพ์ทรง” พระวัดเฉลิมพระเกียรติที่วงการฯคุ้นตาได้รับความ “นิยม” มีมากสิบพิมพ์ เป็นพระเนื้อผงส่วนใหญ่สีขาว แต่เนื้อดำและเนื้อแดงก็มีทว่าพบน้อยมาก
รายชื่อพิมพ์มีดังต่อไปนี้.-
1. พิมพ์ 3 ชั้น ยันต์ 5 ตัว ไม่มีซุ้ม
2. พิมพ์ 3 ชั้น ยันต์ 5 ตัวใหญ่ ซุ้มขาด
3. พิมพ์ 3 ชั้น ยันต์ 5 ตัวเล็ก ซุ้มไม่ขาด
4. พิมพ์ 5 ชั้น ซุ้มตัว “วา” หน้าใหญ่
5. พิมพ์ 5 ชั้น ซุ้มตัว “วา” หน้าเล็ก
6. พิมพ์ 5 ชั้น ซุ้มครอบแก้ว
7. พิมพ์ 5 ชั้น ซุ้มดอกบัว 4 ดอก
8. พิมพ์ 7 ชั้น ซุ้มครอบแก้ว
9. พิมพ์ 7 ชั้น ซุ้มตัว “วา”
10. พิมพ์พระคงหน้าเดียว
11. พิมพ์พระคงสองหน้า
12. พิมพ์กลีบบัวซุ้มชินราช
13. พิมพ์กลีบบัวซุ้มยันต์ 5 ตัว
พุทธคุณเด่นทางเมตตามหานิยมและก็แคล้วคลาด

 

มีผู้รับนินต์แล้วครับ***

 

564.พระท่ากระดานน้อย กรุศาลเจ้า ราชบุรี **แบ่งให้บูชา 850 บาท*****มีผู้รับนิมนต์ครับ**
ความเป็นมาของพระกรุวัดศาลเจ้านี้กล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ.2465 ขุนศรากร (ปู้ จงวัฒนา) เศรษฐีเจ้าของโรงสีแห่งจังหวัดราชบุรีมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง และปรารถนาที่จะสร้างถาวรวัตถุเพื่อไว้สืบทอดพระพุทธศาสนา จึงได้สร้างเจดีย์ขนาดใหญ่สูง 17 วา 2 ศอก ไว้ที่วัดศาลเจ้า ห่างจากฝั่งแม่น้ำแม่กลองไปประมาณ 15 เมตร และได้สร้างพระเครื่องขึ้นมาพิมพ์หนึ่ง เพื่อนำไปบรรจุไว้ในเจดีย์ เป็นพระเครื่องที่เทหล่อด้วยตะกั่ว มีขนาดความกว้างของฐานประมาณ 1 ซม. สูงประมาณ 1.8 ซม. จำนวนทั้งสิ้น 84,000 องค์ และได้นิมนต์พระอุบาลีคุณูปมาจารย์(สิริจันโท) วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ เป็นประธานปลุกเสก ร่วมกับพระเกจิอาจารย์ดัง คือ พระธรรมเสนานี เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี,หลวงพ่อชุ่มวัดราชคาม,หลวงพ่อเหล็ง วัดบางศรีเพชร ฯ แล้วนำไปบรรจุไว้ในเจดีย์ตรงบริเวณคอระฆัง ต่อมามีคนร้ายลักลอบปีนขึ้นไปเอาพระในกรุลงมาจำนวนหนึ่งทางวัดจึงได้ทำการเปิดกรุนับจำนวนพระที่เหลือได้ทั้งสิ้นประมาณ 50,000 องค์ พระเครื่องที่เหลือนี้ นายสุกรี จงวัฒนา บุตรของขุนศรากร (ปู้ จงวัฒนา) ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์มาทำพิธีพุทธาภิเศกอีกครั้ง แล้วจึงมอบให้ทางวัดศาลเจ้านำออกให้บูชา พระท่ากระดานน้อย กรุวัดศาลเจ้า เป็นพระเครื่องเนื้อชินตะกั่ว ซึ่งมีทั้งสนิมแดงจัด สนิมแดงแซมไข บางองค์ก็ไม่ค่อยแดงก็มี พระฟอร์มสวยสมบูรณ์ดีเอาไว้แขวนใช้ได้ดี