พอถึงจุดหนึ่งผมรู้สึกอ้างว้างหดหู่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย แค่พลัง, 12 ตุลาคม 2017.

  1. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    หลังจากกำหนดรู้รูปนาม จนกระทั่งดูเป็นอัตโนมัติแล้ว ซ้ำไป ซ้ำมาจู่จิตผมก็รู้สึกหดหู่ และไม่อยากปฏิบัติขึ้น
    เฉยๆ เป็นวิปราส หรือเปล่าครับ
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    จิตผู้รู้ ไม่เที่ยง

    จิตมันดับ

    นักปฏิบัติส่วนใหญ่ อุปทานไปว่า อกุสลดับ อย่างเดียว

    กุสลดับ เหน แต่อนุโลมให้ นั่งทับไว้

    อัพยากฤติ อุเบกขา ดับเนี่ยะ เหน แต่อุปทาน
    ในการวาดภาพปฏิบัติ มันปิดบัง อริยสัจจ

    ญานรู้อริยะสัจจ ก้ ดับได้ ตรงนี้ดับไม่ใช่
    แค่อ้างว้าง แต่จะเหมือนคน ไม่เคยปฏิบัติ
    ไม่เคยได้ยิน พุทธศาสนา ไปเลย

    ทวนกระแสไปเลยฮับ ตัว ภาชนะ ที่สาวก
    ชอบบอกว่า เกาะไว้ไม่เสีย หรืออะไรๆก้
    เหมาเข่ง ยกเปนสมบัติล้ำค่า

    สันติแน่นอน
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    เดี๋ยวจะเอา พระสูตร ปรากฏได้ยาก
    มา ล่อแก้ว......

    ตอนนี้ ไม่ว่าง

    รถไฟฟ้ากำลังแน่นไปด้วย ผัสสะ อนิจจัง
    วะตะสังขารา.......ป้อแป้ๆ

    อ้างว้าง หากมีเยอะ แบ่งมาโหน่ย
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ถ้าเปนพระ หนทางจะกว้าง

    พอไม่อยากปฏิบัติ

    หรือ จะปฏิบัติธรรมก้นึกไม่ออกดื้อๆ

    พระ จะมี จาน ชาม ลานวัด วัฏกุฏจี(ส้วม) ให้อาสัย
    เกาะ ไม่เสีย


    * ผิโต่ะโยะเว้
     
  5. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ขออภัยพูดตรงๆ

    ถ้ารู้รูปนามจริงๆแท้ๆ แบบไม่มโนเอาเองว่ารูปนามนั่นๆนี่ๆ อัตโนมัตินั่นนี่แล้วล่ะก็ มันหมดเหตุดังว่าแล้ว รู้ทางออกด้วยตนแล้ว แต่นี่มันรูปนามปลอมๆ ถ้าอย่างนี้เป็นวิปลาสเพี้ยนได้
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ข่าวด่วน พังทิป

    กระจอกแข่ว รับแซบรายงานมาว่า

    ต่อไป พระภิกษุ สามเณร และ ภิกษุณี
    หรือ ภิกษุณี จะมีกฏหมายใหเรียกว่า
    นักบวช เท่านั้น

    ฟังดูเหมือน แพ้สงคราม

    แต่อย่าดูเบา การถอยทัพเพื่อ.....
     
  7. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    เฮียนิวรณ์ครับ ตอนนี้ผมอาศัยการซักผ้าให้คู่ผมครับ เกาะไว้ไม่ให้มันหดหู่
    ดีขึ้น แต่ก็กำหนดรู้อารมณ์เฉพาะหน้าไป
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    มีลูก ขอตัว
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    จริงๆ เขา มีเฉลย กันนะ

    แต่ ภาวนาไป มันส์กว่า
     
  10. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ถ้า สปอยตอนจบเลยก็ไม่สนุกนะครับ ผมอาศัยถามระหว่างทางไปเรื่อยๆ ดีกว่า

    อ่ออีกอย่าง การกระทำในชีวิตที่กระทำไปที่ไปลดตัวตนของทำอะไรผมก็ทำครับ
     
  11. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เคว้งคว้างสินะ
     
  12. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    คนละอารมณ์ครับ คุณผู้หญิง
     
  13. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ฟังดูเหมือน แพ้สงคราม แต่อย่าดูเบา การถอยทัพเพื่อ.....

    จะดูเบาดูหนักยังไง มันก็เพื่อแพ้นั่นแหละ คิกๆๆ

    ปากกาอยู่ที่พวกเค้า เขาจะเขียนบังคับยังไงก็ได้ จริงไม่จริง
     
  14. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494

    นิวรณ์ดูนี่ อิอิ

    https://prachatai.com/journal/2017/10/73659?utm_source=dlvr.it&utm_medium=twitter
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ปกติแล้วครับ ถ้าไม่เป็นแสดงว่าปฏิบัตมาไม่ได้ผล
    เพราะเมื่อก่อนจิตกับความคิด
    ที่เกิดจากจิตมันอยู่ร่วมกัน พอมันเริ่มแยกกันได้
    มันจะรู้สึกอย่างนั้นไม่แปลก
    ต่อไป ตัวสติตัวปัญญา จะเข้ามาทำหน้าที่แทน
    ตัวความคิดเดิมนั้นหละครับ อีกซักพักเด่วจะเข้าใจเอง
     
  16. นาโค

    นาโค สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    สวัสดีครับพี่ๆ สมาชิกเพิ่งสมัครเข้ามา ยังใช้งานเว็บไม่คล่องนัก
    ผิดพลาดประการได ขออภัย ด้วย
    ขอร่วมแสดงความเห็น ด้วยคน
    ...ไม่นานก็หายและอาจเกิดขึ้นได้อีก.
     
  17. จิตปราโมทย์

    จิตปราโมทย์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2017
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +103
    แม้ฉันจะไม่เก่งเท่าคุณ แต่จากการศึกษามา หากว่าเมื่อปฏิบัติมาถึงระดับหนึ่ง ซึ่งจะเกิดได้เป็นช่วงๆของการปฏิบัติ เมื่อใดที่จิตหดหู่ ท้อแท้ เบื่อหน่าย รู้สึกสู้ต่อไม่ไหว หรือถึงขั้นปรามาสพระพุทธเจ้าได้จนถึงขั้นเกลียดขึ้นมาแม้ว่าจะเคยเคารพเอามากๆ แท้จริงแล้ว "กิเลสมาร" ต่างหากที่ล่อลวงคุณอยู่ เพื่อให้คุณมีความรู้สึก ความคิดใดๆก็ได้ ให้เลิกทำสมาธิวิปัสสนากรรมฐาน เพราะกลัวว่าคุณจะพ้นทุกข์ พ้นจากวัฏสงสารได้นั่นเอง การที่คุณทำขั้นสมาธิดังกล่าวได้ ให้ก้าวต่อทันที คุณควรอ่านคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือคนที่ทำได้ดีในทางกรรมฐานที่สามารถฝ่าด่านกิเลสมารมาแล้วนับไม่ถ้วนหลากหลายรูปแบบ เมื่อใดคุณล้มเลิกทำต่อ เมื่อนั้นคุณแพ้แล้ว และจะเข้าสู่กระบวนการเวียนว่ายตายเกิดอีกยาวนานหาที่สิ้นสุดไม่ได้ อย่างน้อยที่สุด คุณต้อง "อุเบกขา" กับอารมณ์การปรุงแต่งใดๆที่เกิดขึ้น ให้แค่รู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิด ณ ขณะนั้นๆ อย่าลากยาวอารมณ์เหล่านั้นออกมา แม้จะเลิกการนั่งสมาธิวิปัสสนากรรมฐานแล้วก็ตาม ให้จับ "พุทโธๆๆ" หรือสวดมนต์บทใดก็ได้ ที่เข้ากับจริตของคุณ จนเกิดสมาธิขึ้นมาใหม่ อารมณ์ตกต่ำล้วนคือกิเลสมารเข้าแทรกทั้งสิ้น เช่น รัก โลภ โกรธ หลง เบื่อหน่าย ง่วง ลังเลสงสัยในการปฏิบัติ อาฆาตพยาบาท เป็นต้น มารขุดหลุมให้พวกนักปฏิบัติที่จิตไม่แกร่งพอท้อถอย แล้วอยากเน้นทางโลกมากกว่าทางธรรมอยู่แล้ว หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยกล่าวข้อความจากสมเด็จองค์ปฐมสรุปได้ว่า "ให้คิดว่ามารเป็นครู" (หากเราโค่นมารไม่ได้ มารก็โค่นเรานั่นเอง) แนะนำให้คุณซื้อหนังสือของ อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล อ่าน ท่านฝ่าด่านของมารมาหลายรูปแบบ อาจารย์ท่านนี้ไม่ธรรมดา แนะนำอ่านอย่างมาก ชื่อ เตโชวิปัสสนา เปิดประตูนิพพาน, ฆราวาสบรรลุธรรม เล่ม 1 และ เล่ม 2 แม้เราก็อ่านมาหมดแล้ว บอกได้เลยว่าอาจารย์ท่านนี้ไม่ธรรมดา อาจารย์ได้ระดับอนาคามีแล้ว และจะมุ่งเข้านิพพานชาตินี้ เราก็จะไปเป็นลูกศิษย์ของท่านเร็วๆนี้ หากคุณสนใจลองไปปฏิบัติทางเตโชวิปัสสนากรรมฐานดูจะดีกว่า เป็นแนวทางใช้ไฟเผากิเลสมารได้รวดเร็วกว่าการนั่งสมาธิรูปแบบอื่นๆ เพราะช้ากว่า เราก็จะไปลอง เพื่อมุ่งเข้าสู่นิพพานเช่นกัน
     
  18. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    สำหรับผมพระพุทธเจ้าคือ สภาวะธรรม ไม่ใช่เป็นรูป หรือเป็นองค์
    เวลาผมอ่อนแอ ก็จะภาวนาให้เห็นสภาวะธรรม

    ขอบคุณ คุณจิตปราโมทย์มากครับ อีกอย่างอย่ามองว่าผมเก่ง
    แค่ภายนอกอยู่ ข้างในผมยังแพ้อยู่ครับ
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ขอกระชับพื้นที่โหน่ย........หาสมุดโน๊ตโต๊ดสองตัวเต็ง ไม่ทัน


    [๗๐๑] ชื่อว่า วิเวก ในคำว่า ผู้สงัด มีสันติบท แสวงหาคุณใหญ่ดังนี้ วิเวกมี
    ๓ อย่าง คือ กายวิเวก ๑ จิตวิเวก ๑ อุปธิวิเวก ๑.

    กายวิเวกเป็นไฉน? ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมซ่องเสพเสนาสนะอันสงัด คือ ป่า
    โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง และเป็นผู้สงัดด้วยกายอยู่
    เธอเดินผู้เดียว ยืนผู้เดียว นั่งผู้เดียว นอนผู้เดียว เข้าสู่บ้านเพื่อบิณฑบาตผู้เดียว กลับผู้เดียว
    นั่งในที่หลีกเร้นผู้เดียว อธิษฐาน จงกรมผู้เดียว ผู้เดียวเที่ยวไป ยับยั้งอยู่ ผลัดเปลี่ยน
    อิริยาบถ เป็นไป รักษา บำรุง เยียวยา นี้ชื่อว่า กายวิเวก.

    จิตวิเวกเป็นไฉน?
    ภิกษุบรรลุปฐมฌาน มีจิตสงัดจากนิวรณ์
    บรรลุทุติยฌาน มีจิตสงัดจากวิตกวิจาร
    บรรลุตติยฌาน มีจิตสงัดจากปีติ
    บรรลุจตุตถฌาน มีจิตสงัดจากสุขและทุกข์

    บรรลุอากาสานัญจายตนฌาน มีจิตสงัดจากรูปสัญญา ปฏิฆสัญญา และนานัตตสัญญา

    บรรลุวิญญาณัญจายตนฌาน มีจิตสงัดจากอากาสานัญจายตนสัญญา
    บรรลุอากิญจัญญายตนฌาน มีจิตสงัดจากวิญญาณัญจายตนสัญญา
    บรรลุเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน มีจิตสงัดจากอากิญจัญญายตนสัญญา

    เป็นพระโสดาบัน มีจิตสงัดจากสักกายทิฏฐิวิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และจากกิเลสที่ตั้งอยู่ในเหล่าเดียวกันกับสักกายทิฏฐิเป็นต้นนั้น

    เป็นพระสกทาคามี มีจิตสงัดจากกามราคสังโยชน์ ปฏิฆสังโยชน์ กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย อย่างหยาบๆ และจากกิเลสที่ตั้งอยู่ในเหล่าเดียวกันกับกามราคสังโยชน์เป็นต้นนั้น

    เป็นพระอนาคามี มีจิตสงัดจากกามราคสังโยชน์ ปฏิฆสังโยชน์ กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยอย่างละเอียดๆ และจากกิเลสที่ตั้งอยู่ในเหล่าเดียวกันกับกามราคสังโยชน์
    เป็นต้นนั้น

    เป็นพระอรหันต์ มีจิตสงัดจากรูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา
    มานานุสัย ภวราคานุสัย อวิชชานุสัย กิเลสที่ตั้งอยู่ในเหล่าเดียวกันกับรูปราคะเป็นต้นนั้นและจากสังขารนิมิตทั้งปวงในภายนอก นี้ชื่อว่า จิตวิเวก.

    อุปธิวิเวกเป็นไฉน? กิเลสก็ดี ขันธ์ก็ดี อภิสังขารก็ดี เรียกว่า อุปธิ. อมตนิพพาน
    เรียกว่าอุปธิวิเวก. ได้แก่ธรรมเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง เป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง เป็นที่สิ้น
    ตัณหา เป็นที่สำรอกตัณหา เป็นที่ดับตัณหา เป็นที่ออกไปจากตัณหาเครื่องร้อยรัด นี้ชื่อว่า
    อุปธิวิเวก.

    ก็กายวิเวกย่อมมีแก่บุคคลผู้มีกายหลีกออก ยินดียิ่งในเนกขัมมะ
    จิตวิเวก ย่อมมีแก่บุคคลผู้มีจิตบริสุทธิ์ ถึงซึ่งความเป็นผู้มีจิตผ่องแผ้วอย่างยิ่ง
    อุปธิวิเวก ย่อมมีแก่บุคคลผู้หมดอุปธิ ถึงซึ่งนิพพานอันเป็นวิสังขาร.

    คำว่า สันติ ได้แก่สันตบ้าง สันติบทบ้าง โดยอาการอย่างเดียวกัน ก็สันติบทนั้น
    นั่นแล คือ อมตนิพพาน ได้แก่ธรรมเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง .... เป็นที่ออกจากตัณหาเครื่อง
    ร้อยรัด. สมจริงตามที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า บทใด คือ ธรรมเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง ....
    เป็นที่ออกจากตัณหาเครื่องร้อยรัด บทนั้น เป็นความสงบ เป็นธรรมชาติประณีต. อีกอย่างหนึ่ง
    โดยอาการอื่น ธรรมเหล่าใด ย่อมเป็นไปเพื่อบรรลุความสงบ เพื่อถูกต้องความสงบ เพื่อ
    ทำให้แจ้งความสงบ คือ สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕
    โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ ธรรมเหล่านี้ เรียกว่าสันติบท บทสงบ ตาณบท บทที่
    ต้านทาน เลณบท บทที่ซ่อนเร้น สรณบท บทที่พึ่ง อภยบท บทไม่มีภัย อัจจุตบท บท
    ไม่เคลื่อน อมตบท บทไม่ตาย นิพพานบท บทดับตัณหา.

    คำว่า ผู้แสวงหาคุณใหญ่ ความว่า พระผู้มีพระภาคทรงแสวงหาคุณใหญ่ คือ ทรง
    แสวงหา เสาะหา ค้นหา ซึ่งศีลขันธ์ใหญ่ สมาธิขันธ์ใหญ่ ปัญญาขันธ์ใหญ่ วิมุตติขันธ์ใหญ่
    วิมุตติญาณทัสสนขันธ์ใหญ่ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ผู้แสวงหาคุณใหญ่.

    พระผู้มีพระภาคทรงแสวงหา เสาะหา ค้นหา ซึ่งความทำลายกองมืดใหญ่ ความ
    ทำลายวิปลาสใหญ่ ความถอนลูกศร คือ ตัณหาใหญ่ ความปลดเปลื้องโครงทิฏฐิใหญ่ ความ
    กำจัดธงคือมานะใหญ่ ความระงับอภิสังขารใหญ่ ความปิดกั้นโอฆะใหญ่ ความปลงภาระใหญ่
    ความตัดสังสารวัฏใหญ่ ความดับความเดือดร้อนใหญ่ ความระงับความเร่าร้อนใหญ่ ความยก
    ขึ้นซึ่งธงคือธรรมใหญ่ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ผู้แสวงหาคุณใหญ่.

    พระผู้มีพระภาคทรงแสวงหา เสาะหา ค้นหา ซึ่งสติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔
    อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ อมตนิพพานเป็นปรมัตถ์
    ใหญ่ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ผู้แสวงหาคุณใหญ่.

    อนึ่ง พระผู้มีพระภาคทรงเป็นผู้อันสัตว์ทั้งหลายที่มีศักดิ์มาก แสวงหา เสาะหา
    ค้นหาว่า พระพุทธเจ้าเสด็จอยู่ที่ไหน พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ไหน พระพุทธเจ้าเป็นเทวดา
    ยิ่งกว่าเทวดาประทับอยู่ที่ไหน พระพุทธเจ้าผู้องอาจกว่านรชนประทับอยู่ที่ไหน เพราะฉะนั้น
    จึงชื่อว่า ผู้แสวงหาคุณใหญ่ เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่า ผู้สงัด มีสันติบท แสวงหาคุณใหญ่.



    ติ๊งๆ จบ
     
  20. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ทำอย่างไรละ ลดมานะได้ ผมรู้สึกว่า มันเป็นตัวใหญ่ๆ จริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...