ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    สหรัฐชี้นิ้วสั่งกองทัพอิรัคห้ามเคลื่อนไหวไล่ยึดคืนสินทรัพย์ของรัฐบาลกลางอิรัคที่พวกเคิร์ดสวมรอยยึดได้จากขบวนการก่อการร้ายไอซิสในประเทศของตนเอง กรรม!

    FB_IMG_1508567571304.jpg FB_IMG_1508567577031.jpg FB_IMG_1508567581877.jpg
    -----------

    วันที่ 21 ต.ค.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเรียกร้องให้กรุงแบกแดดจำกัดการเคลื่อนไหวในพื้นที่พิพาทกับเคิร์ด" (State Dept. Urges Baghdad to Limit Movements in Disputed Areas in Kurdistan)

    กระทรวงแทรกแซงกิจการต่างประเทศของสหรัฐได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลกรุงแบกแดดจำกัดการเคลื่อนไหวของกองทัพฝ่ายรัฐบาลในพื้นที่ทางเหนือของอิรัค อ้างเพื่อป้องกันอุบัติเหตุมากกว่านี้กับกองกำลังชาวเคิร์ดในพื้นที่ (ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ อียู นาโต้ และอิสราเอล)

    "เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลกลางผ่อนคลายสถานการณ์โดยการจำกัดการเคลื่อนไหวของกองทัพของรัฐบาลกลางในพื้นที่ทางเหนือของอิรัค ต่อฝ่ายที่ประสานงานกับรัฐบาลท้องถิ่นของเคิร์ด" แถลงการณ์จากกระทรวงแทรกแซงกิจการของประเทศอื่น(/กระทรวงแส่เรื่องชาวบ้าน) ของสหรัฐกล่าว

    ก่อนหน้านี้กองกำลังเคิร์ดเพชเมกาได้ฟ้องเจ้านายของตนเอง (ยิวกับอเมริกา) ว่ากองทัพอิรัคกำลังเดินหน้าเข้าไปในพื้นที่พิพาทระหว่างกรุงแบกแดดกับเคิร์ดิสถาน - ในจังหวัด Diyala และใกล้เขื่อนโมซูล

    [เมือง Kirkuk อยู่นอกพื้นที่เขตปกครองตนเองชาวเคิร์ดตามที่มีการตกลงกันไว้ในอดีตระหว่างรัฐบาลกลางอิรัคกับกบฏเคิร์ด แต่พวกเคิร์ดก็ยังกล่าวอ้างว่าเมือง Kirkuk ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวอาหรับเป็นพื้นที่พิพาทและถือว่าเป็นของชาวเคิร์ดด้วย ต่อมาในปี 2014 ขบวนการก่อการร้ายไอซิสบุกยึดเมือง Kirkuk และกองกำลังเคิร์ดเพชเมกาได้ขับไล่พวกไอซิสออกไปจาก Kirkuk

    จากนั้นก็เข้ายึดสินทรัพย์ของรัฐบาลกลางในเมืองนี้ต่อจากพวกไอซิส และเคิร์ดได้ทำประชามติแบ่งแยกดินแดนเพื่อประกาศเอกราชก่อตั้งประเทศใหม่โดยการหนุนหลังของสหรัฐ อียู นาโต้ และอิสราเอล พวกรัฐเศรษฐีอาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบียเงียบกริ๊บ สงสัยยังไม่ส่างเมาเยี่ยวอูฐ จึงไม่ประท้วงการเคลื่อนไหวของเคิร์ดภายใต้การอุปถัมภ์ของยิว แต่รัฐบาลกลางอิรัคไม่ยอมรับการทำประชามติดังกล่าว และได้เคลื่อนกำลังทหารเข้าไปยึดเมือง Kirkuk คืนมาจากพวกเคิร์ดได้ทั้งหมด มีการต่อสู้กันบ้างในตอนแรก และเคิร์ดก็ถอนกำลังของตนเองออกไป

    วันที่ 20 ต.ค.60 AMN รายงานว่า วันนี้กองทัพอิรัคเดินหน้าต่อต้านเคิร์ดเพชเมกาและเคิร์ด PKK (จากตุรกี) ยึดเมืองใหม่ไม่ไกลจากเมือง Kirkuk ที่ฝ่ายรัฐบาลกลางยึดคืนมาได้เมื่อเร็วๆนี้ ครั้งนี้กองทัพอิรัคสามารถยึดเมือง Altun Kubri (var. Kopri) คืนมาได้จากเคิร์ดเพชเมกาและ PKK ได้อย่างรวดเร็ว

    เคิร์ดกล่าวหากองทัพอิรัคว่า มีจุดประสงค์เพื่อยึดเมือง Erbil และเคิร์ดจะไม่ยอมให้กองทัพของรัฐบาลกลางอิรัคทำแบบนั้นได้เด็ดขาด เมืองเหล่านี้เป็นแหล่งผลิตน้ำมันทั้งนั้น พวกยิว สหรัฐ อียู นาโต้ ต่างก็จ้องตาเขม็งและใช้เคิร์ดเป็นใบเบิกทางหลังล้มเหลวจากไอซิส จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่สหรัฐจะรีบออกมาโวยวายและขัดขวางกองทัพของรัฐบาลกลางอิรัคในการยึดสินทรัพย์ของตนเองคืนจากพวกกบฏแบ่งแยกดินแดน ซึ่งมีต่างชาติให้ท้าย

    จากแผนที่ประกอบ พื้นที่สีเหลืองเหนือเส้นสีขาวคือพื้นที่เขตปกครองตนเองของชาวเคิร์ดที่รัฐบาลกลางอิรัครับรอง แต่พื้นที่สีเหลืองใต้เส้นแบ่งสีขาวคือพื้นที่ที่เคิร์ดเข้ามาครอบครองในภายหลังและอ้างว่าเป็นพื้นที่พิพาท พื้นที่สีแดงเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตปกครองของรัฐบาลกลางอิรัค พื้นที่ที่อยู่ในเส้นสีแดงทึบเป็นพื้นที่พิพาทที่กองทัพอิรัคกำลังไล่ยึดคืนจากเคิร์ด สหรัฐกำลังพยายามปกป้องพื้นที่เหล่านี้และพื้นที่สีเหลืองใต้เส้นสีขาวให้พวกเคิร์ด - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    21/10/2560
    ---------
    https://sputniknews.com/middleeast/201710211058421160-usa-urges-baghdad-limit-kurdistan-movement/
    https://www.almasdarnews.com/article/iraqi-forces-capture-last-kurdish-held-area-kirkuk-video/
    https://www.almasdarnews.com/articl...gin-final-operation-destroy-isis-empire-iraq/
    https://www.almasdarnews.com/article/breaking-iraqi-forces-seize-new-city-kurdish-peshmerga/
    https://www.almasdarnews.com/articl...urdish-held-towns-amid-broad-front-offensive/
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    เกาหลีใต้จัดซื้อโดรนสอดแนม RQ-4 Global Hawk จากสหรัฐ 4 ลำมูลค่า $892 ล้าน อ้างเพื่อใช้ในปฏิบัติการถ้ำมองเกาหลีเหนือ พร้อมทั้งจะพัฒนาระบบขีปนาวุธเพื่อสกัดกั้นการโจมตีด้วยปืนใหญ่จากเกาหลีเหนือด้วย

    IMG_20171021_134658_671.jpg

    -----------

    วันที่ 20 ต.ค.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "แอบส่องกรุงเปียงยาง: กรุงโซลจัดซื้อโดนสอดแนม Global Hawk สี่ลำจากสหรัฐ" (Watching Pyongyang: Seoul Buys Four Global Hawk Surveillance Drones from US)

    กองทัพอากาศเกาหลีใต้ (ROKAF) ได้ประกาศการจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับคุณภาพสูง Northrop Grumman RQ-4 Global Hawk จำนวน 4 ลำ ซึ่งผลิตโดยสหรัฐสำหรับภารกิจการสอดแนมทางทหาร

    กองทัพอากาศเกาหลีใต้จัดซื้อโดรนสอดแนม RQ-4 Global Hawk จากสหรัฐจำนวน 4 ลำ ราคาลำละ $223 (ประมาณ 7,582,000,000 บาท) เพื่อใช้ในโครงการด้านข่าวกรอง จับตาเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และสอดแนม (ISR) ROKAF แจงต่อสภาในกรุงโซลว่า จะได้รับโดรนสอดแนมจำนวน 2 ลำในเดือนธันวาคมปีนี้ และอีก 2 ลำจะมาถึงในปี 2019 โดยจะประจำการที่ฐานทัพ Gyeryongdae ในจังหวัด Chungcheong ทางภาคใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางทหารของประเทศ

    คาดว่า โดรน RQ-4 Global Hawk จะถูกนำไปใช้ในการจับตาเฝ้าระวังกิจกรรมเกี่ยวกับขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า "Peace Eye" ของเกาหลีใต้ ในกรณีที่มีการปล่อยขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ ปัจจุบันนี้เกาหลีใต้มีโครงการ ISR อยู่แล้ว แต่การจัดซื้อโดรน RQ-4 Global Hawks ซึ่งมีราคาเกือบหนึ่งพันล้านดอลลาร์นี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ ISR ให้ดียิ่งขึ้น

    ยุทธศาสตร์ใหม่ของกองทัพเกาหลีใต้ก็เพื่อปรับปรุงจุดยืนของตนเองในการต่อต้านประเทศคู่แฝด (เกาหลีเหนือ) ซึ่งในทางเทคนิคได้ก่อสงครามกันมาตั้งแต่ปี 1950 รวมถึงการพัฒนากองทัพโดยมุ่งไปที่กิจการสงครามด้วยโดรนด้วย กรุงโซลตั้งใจจะก่อตั้งหน่วยสู้รบหน่วยใหม่ขึ้นมาในปี 2018 ซึ่งจะปฏิบัติภารกิจในการสอดแนม และภารกิจสู้รบด้วยโดรนเหนือเกาหลีเหนือ

    โดรนเหล่านี้จะปฏิบัติการร่วมกับมาตรการอื่นๆ เช่นชุดมิสไซล์สำหรับปืนใหญ่ ขีปนาวุธวิถีโค้ง และฐานลับใต้ดิน ของเกาหลีเหนือ รวมทั้งหน่วยรบพิเศษเคลื่อนที่เร็วสำหรับการโจมตีด้านยุทธวิธี (tactical strikes) ภายในเกาหลีเหนือด้วย

    อีกข่าวหนึ่ง ในวันเดียวกันนี้ Sputnik รายงานว่า เสนาธิการร่วมกองทัพเกาหลีใต้ประกาศว่า ขณะนี้กองทัพกำลังทำงานเกี่ยวกับระบบสกัดกั้นขีปนาวุธแบบใหม่ โดยทฤษฎีแล้ว จะสามารถตำรวจจับการระดมยิงปืนใหญ่จำนวนมากของเกาหลีเหนือได้ เกาหลีใต้คุยว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นตัวพลิกเกม (game-changer) ในคาบสมุทรเกาหลี

    กรุงโซลซึ่งเป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนของเกาหลีเหนือเพียงแค่ 56 กิโลเมตร (35 ไมล์) เท่านั้น [อยู่ในรัศมีทำการของปืนใหญ่ของเกาหลีเหนือ สิ่งที่เกาหลีใต้กังวลมากที่สุดรองจากอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือแล้วก็คือ ปืนใหญ่หลายพันกระบอกและจรวดหลายลำกล้องที่ตั้งเรียงรายอยู่ตามแนวชายแดนซึ่งจ่อปลายกระบอกมาไปที่กรุงโซลนี่แหละ

    เดิมทีสหรัฐเสนอให้เกาหลีใต้ซื้อระบบ Iron Dome ของอิสราเอล ซึ่งสามารถสกัดกั้นการโจมตีจากกลุ่มฮามาสที่ฉนวนกาซ่าในปาเลสไตน์ได้ถึง 90% แต่ทางเกาหลีใต้ไม่สนใจ

    หัวหน้าเสนาธิการของเกาหลีใต้กล่าวว่า โดยทฤษฎีแล้ว ระบบใหม่นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องกองทัพ กองบัญชาการ และศูนย์กลางป้องกันขีปนาวุธ ไม่ใช่ย่านที่มีประชากรหนาแน่น แปลว่า ขอนำมาใช้สำหรับปกป้องอาวุธที่ซื้อมาจากสหรัฐราคาแสนแพง ส่วนประชาชนตาดำๆจะเป็นจะตายก็เป็นเรื่องของประชาชน ตัวใครตัวมัน อย่างนั้นหรือเปล่า?

    วันก่อนนี้ กองทัพเกาหลีใต้ก็แถลงต่อสภาว่าจะจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์โจมตี Apache จากสหรัฐด้วย อ้างว่าเอาไว้รับมือกับหน่วยรบพิเศษของเกาหลีเหนือที่จะบุกเกาหลีใต้

    ประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้สื่อเกาหลีใต้และสื่อสหรัฐปล่อยข่าวว่า แผนการรบของกองทัพเกาหลีใต้ถูกแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือขโมยไปจากกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ เมื่อวานนี้กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยแผนการรบ 3 ขั้นตอนของตนเองในที่ประชุมสภาและต่อสื่อมวลชน ไม่มีหลักฐานใดๆสนับสนุนข้อกล่าวหานี้ต่อเกาหลีเหนือ เป็นการอ้างคำพูดของ "ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม" ซึ่งอาจจะเป็น พระเจ้า หรือเง็กเซียนฮ่งเต้ หรือเทพเทวดาองค์ใดองค์หนึ่งก็ได้ หรืออาจจะเป็นคำทำนายจากหมอดูหรือการเข้าทรงก็ได้ แต่สื่อกระแสหลักก็พากันประโคมข่าวนี้ไปทั่วโลก

    อ้อ… เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม เจ้าหน้าที่แผนกถ้ำมอง (intelligence officials) ของสหรัฐกล่าวกับสำนักข่าว Ankit Panda ว่า สายจากหน่วยถ้ำมองจากกองทัพสหรัฐประเมินว่า เกาหลีเหนือได้เริ่มต่อเรือดำน้ำ "Sinpo-C-class" ที่อู่ต่อเรือ Shipo ชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือ คาดว่าเรือดำน้ำลำใหม่ของเกาหลีเหนือรุ่นนี้จะมีระวางขับน้ำที่ 2,000 ตัน กว้าง 11 เมตร ใช้เครื่องยนต์แบบดีเซล-ไฟฟ้า คาดว่าจะใช้สำหรับปล่อยขีปนาวุธวิถีโค้ง (Ballistic Missile)

    เกาหลีใต้ขึ้นฟ้าไปเหนือเมฆโดยโดรนถ้ำมอง ส่วนเกาหลีเหนือนอกจากมีขีปนาวุธที่พุ่งออกนอกโลกได้แล้วยังเดินหน้าพัฒนาเรือดำน้ำอีก ซึ่งเกาหลีใต้และสหรัฐก็มีเช่นกัน - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    21/10/2560
    ---------
    https://sputniknews.com/asia/201710211058421329-south-korea-global-hawk-drones/
    https://sputniknews.com/asia/201710201058419474-south-korea-dprk-missile-interceptor/
    https://sputniknews.com/military/201710181058355777-north-korea-building-new-submarine/
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Imm Journal

    IMG_6325.JPG

    De Velt รายงาน หน่วยข่าวกรองเยอรมัน แจ้งเตือนเกี่ยวกับการโจมตีด้วยอาวุธเคมีของไอซิสในยุโรป


    หนังสือพิมพ์เยอรมัน De Velt อ้างจากข้อมูลของความมั่นคงของเยอรมันเขียนว่ากลุ่มหัวรุนแรงอิสลามิตส์ สามารถวางแผนโจมตีด้วยก๊าซพิษในยุโรปได้


    บนพื้นฐานดังกล่าวบรรดาผู้สนับสนุนกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิส จึงสามารถพยายามโจมตีด้วยสารเคมีบนรถไฟใต้ดินหรือเครื่องบินได้ง่าย


    หนังสือพิมพ์เยอรมัน De Velt เผยว่า หน่วยข่าวกรองต่างประเทศได้เตือนเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของยุโรปว่า ISIS กำลังยั่วยุผู้สนับสนุนให้ผู้ก่อการร้ายปฏิบัติการโจมตีดังกล่าว


    รายงานระบุว่าโดยเฉพาะการโจมตีด้วยไฮโดรเจน ซัลไฟด์หรือก๊าซคลอรีนซึ่งเมื่อปล่อยออกมาในพื้นที่แออัดอาจมีผลกระทบอันตรายต่อชีวิตของผู้คน


    ตำรวจออสเตรเลียจับกุมผู้ต้องสงสัยไอซิสหลายคน ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาซึ่งมีแผนที่จะใช้ก๊าซพิษในการโจมตีเป้าหมาย


    คณะกรรมาธิการยุโรปได้เตือนเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าเมืองและภูมิภาคในยุโรปไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างเพียงพอจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย


    https://www.tasnimnews.com/fa/news/...ی-اطلاعاتی-درباره-حملات-شیمیایی-داعش-در-اروپا
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รบ.สเปนผุดไอเดียยุบสภา “กาตาลุญญา” ล้างบางผู้นำกบฏ-กรุยทางเลือกตั้งใหม่ต้นปี 2018 เผยแพร่: 21 ต.ค. 2560 10:02:00
    560000011110601.jpg
    รอยเตอร์ - พรรคฝ่ายค้านสเปนประกาศสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลซึ่งอาจสั่งยุบสภาท้องถิ่นแคว้นกาตาลุญญาเพื่อไล่คณะผู้บริหารชุดเก่าออกไป และจัดการเลือกตั้งใหม่ในช่วงเดือน ม.ค. ปี 2018

    พรรคโซเชียลลิสต์ซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้านสเปน ประกาศเมื่อวานนี้ (20) ว่า พร้อมที่จะสนับสนุนให้รัฐบาลนายกรัฐมนตรี มาเรียโน ราฮอย ใช้มาตรการพิเศษรวบอำนาจสู่ศูนย์กลาง เพื่อขัดขวางความพยายามแยกตัวเป็นเอกราชของรัฐบาลท้องถิ่นกาตาลุญญา และยับยั้งวิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ที่ทำให้ค่าเงินยูโรผันผวน และบั่นทอนความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อสเปน

    นายกฯ ราฮอย ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นการฉุกเฉินวันนี้ (21) เพื่อกำหนดแนวทางที่รัฐบาลมาดริดจะใช้อำนาจปกครองโดยตรงต่อแคว้นกาตาลุญญา

    ราฮอย ปฏิเสธที่จะยืนยันว่า การจัดเลือกตั้งใหม่ในแคว้นกาตาลุญญาช่วงต้นปีหน้าอยู่ในแผนของรัฐบาลหรือไม่ โดยระบุว่าจะมีการแถลงมาตรการต่างๆ ออกมาภายในวันนี้ (21)

    อย่างไรก็ตาม โฆษกรัฐบาลคนหนึ่งเชื่อว่าการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในกาตาลุญญาจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

    “ปลายทางที่สมเหตุสมผลของกระบวนการนี้ก็คือ จัดการเลือกตั้งใหม่ให้เป็นไปตามตัวบทกฎหมาย” อินิโก เมนเดซ เด วิโก โฆษกรัฐบาลสเปน กล่าวต่อสื่อมวลชนในงานแถลงข่าวประจำสัปดาห์

    หากเป็นไปตามที่ว่านี้ จะถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่มาดริดใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญสั่งปลดรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อให้มีการเลือกตั้งกันใหม่

    สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปแห่งสเปนซึ่งเสด็จฯ ไปทรงร่วมงานประกาศรางวัลที่แคว้นอัสตูเรียส ได้มีพระราชดำรัสสนับสนุนรัฐบาลมาดริด และทรงย้ำเตือนถึงความเป็นเอกภาพของสเปน ซึ่งพระองค์ตรัสว่า “กาตาลุญญาคือภาคส่วนที่สำคัญต่อประเทศชาติ และต้องเป็นเช่นนั้นต่อไป”

    ราฮอย พยายามหยั่งเสียงทุกภาคส่วนเพื่อให้ได้มติที่เป็นเอกฉันท์ก่อนจะใช้มาตรการตอบโต้ขั้นถัดไป ซึ่งคาดว่าจะจุดชนวนการประท้วงครั้งใหญ่ในแคว้นกาตาลุญญา ซึ่งพวกแกนนำโปรเอกราชเคยแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีศักยภาพพอที่จะระดมคนเป็นล้านๆ ออกมาเดินขบวนบนท้องถนนได้

    ประธานาธิบดี คาร์เลส ปุยจ์เดมองต์ ผู้นำรัฐบาลท้องถิ่นกาตาลุญญา ปฏิเสธที่จะล้มเลิกแผนแยกตัวจากสเปน โดยอ้างผลประชามติเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งชาวคาตาลันโหวตสนับสนุนการแยกตัวถึงร้อยละ 90

    อย่างไรก็ดี การทำประชามติมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เพียง 42.3 เปอร์เซ็นต์ นั่นหมายความว่ายังมีชาวคาตาลันอีกกว่าครึ่งที่เป็นพลังเงียบ และอาจไม่เห็นด้วยกับการแยกตัว

    https://mgronline.com/around/detail/9600000107196
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    "สมัยนี้เขาไม่รบกันแล้วเขาทำสงครามเศรษฐกิจกันจะซื้อทำไมเรือดำน้ำ" แมวที่ไหนพูดฟระ?... เยอรมันขายเรือดำน้ำให้อิสราเอลอีก 3 ลำ (รวมกับที่ขายไปแล้วก่อนหน้านี้ 6 ลำเป็น 9 ลำ)

    FB_IMG_1508603814409.jpg FB_IMG_1508603820152.jpg FB_IMG_1508603826486.jpg

    -----------

    วันที่ 21 ต.ค.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "เยอรมันลงนามในข้อตกลงขายเรือดำน้ำล้ำสมัยสามลำให้อิสราเอล - รายงาน" (Germany Signs Off on Deal to Send Israel Three Advanced Subs – Reports)

    รัฐบาลของนาง Angela Merkel นายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมันได้อนุมัติข้อตกลงในการขายเรือดำน้ำจำนวน 3 ลำๆ ละ $1,000 ล้านให้กองทัพเรืออิสราเอล เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวกับสำนักข่าว Agence France-Presse เมื่อวันศุกร์นี้

    รายงานข่าวเปิดเผยว่า เรือดำน้ำที่เยอรมันขายให้อิสราเอลล็อตนี้เป็น Dolphin-class ซึ่งผลิตโดยบริษัท ThyssenKrupp Marine Systems ของเยอรมัน จะเข้าร่วมกับกองเรือดำน้ำของกองทัพเรืออิสราเอลในคลาสเดียวกันจำนวน 6 ลำก่อนหน้านี้ Times of Israel รายงาน

    [ไม่มีอะไรมาก ทุกวันนี้ไม่ว่าอิสราเอลต้องการอะไร ทั้งสหรัฐและเยอรมันก็จะยินดีประเคนให้ทุกอย่าง เพราะว่ากลุ่มคนที่กุมอำนาจทางการเงิน การธนาคาร และเศรษฐกิจโลก ก็คือ "ยิว"

    มีเรื่องตลกฝืดเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมของยิวในอเมริกา ทางการเมือง Dickinson ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศว่า ผู้ที่จะรับความช่วยเหลือจากกองทุนฟื้นฟูภัยพิบัติจากพายุฮาร์วีย์เมืองดิกกินสัน (Dickinson Harvey Relief Fund) จะต้องทำข้อตกลงว่าจะไม่คว่ำบาตรอิสราเอล (ถ้าทำไม่ได้ก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนดังกล่าว) ให้มันรู้ซะบ้างว่า "ยิวครองอเมริกา" อันนี้เรื่องจริงนะครับ สื่อท้องถิ่นของสหรัฐก็ลงข่าวนี้ด้วย - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    21/10/2560
    ---------
    https://sputniknews.com/middleeast/201710211058421054-germany-deal-send-isreal-subs/
    https://www.rt.com/usa/407324-hurricane-harvey-boycott-israel/
    http://yournewswire.com/hurricane-h...ont-get-aid-donations-if-they-boycott-israel/
    http://www.ci.dickinson.tx.us/CivicAlerts.aspx?AID=186
    http://time.com/4992101/hurricane-harvey-texas-dickinson-israel/
    https://www.dallasnews.com/news/har...s-residents-dickinson-must-vow-boycott-israel
    http://www.chron.com/neighborhood/b...ms-no-Hurricane-Harvey-relief-if-12292001.php
    http://www.houstonpress.com/news/to...have-to-promise-not-to-boycott-israel-9893599
    https://www.washingtonpost.com/news...not-to-boycott-israel/?utm_term=.81f0045fc5e0
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    เครื่องบินรบรัสเซียถล่มฐานลับของขบวนการก่อการร้ายผัวแพะอัลเคด้าในจังหวัดอิดลิบของซีเรีย ระดับหัวโจกตายยกก๊วน แหล่ม!

    IMG_20171021_234438_995.jpg

    -----------

    วันที่ 21 ต.ค.60 AMN ของเลบานอน พาดหัวข่าวว่า "กองทัพอากาศรัสเซียทำลายฐานลับแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยผู้บัญชาการขบวนการก่อการร้ายวอัลเคด้าในจังหวัดอิดลิบ" (Russian Air Force destroys base filled with Al-Qaeda commanders in Idlib)

    สื่อเลบานอนรายงานว่า กองทัพอากาศรัสเซียได้ทำลายฐานทัพแห่งหนึ่งจนราบพนาสูร ซึ่งมีผู้บัญชาการระดับภาคสนามของกลุ่มก่อการร้าย Hay’at Tahrir Al-Sham ในพื้นที่ชนบทของจังหวัดอิดลิบเมื่อคืนที่แล้ว หลังจากได้ทำการโจมตีทางอากาศหลายครั้งใกล้เมือง Sarmin

    (แก๊ง Hay’at Tahrir Al-Sham มีชื่อย่อว่า "HTS" เปลี่ยนชื่อมาจาก "อัลนุสราฟรอนท์" และ "อัลเคด้า" หลังจากชื่อเดิมเน่าเฟะ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขนานนามให้ว่า "กองกำลังกบฏฝ่ายค้านสายกลางซีเรีย")

    เครื่องบินรบของรัสเซียได้บินออกจากฐานทัพอากาศ Shay’rat ทางทิศตะวันออกของจังหวัดฮามา และได้เริ่มปฏิบัติการจู่โจมโดยกำหนดเป้าหมายไปที่ตำแหน่งต่างๆของพวกผู้ก่อการร้าย HTS ในพื้นที่กบดานที่หนาแน่นทางตะวันออกของจังหวัดอิดลิบ (ชนิดที่ผู้ก่อการร้ายไม่ทันได้ตั้งตัว)

    แหล่งข่าวทางทหารเปิดเผยว่า เครื่องบินรบของรัสเซียจงใจใช้จรวดแบบเจาะเกราะทำลายบังเกอร์ในพื้นที่ที่มีวัสดุป้องกันหนาแน่น เพื่อทำลายฐานบัญชาการที่พวกหัวหน้าผู้ก่อการร้ายประชุมกัน

    แหล่งข่าวแจ้งอีกว่า ระดับผู้บัญชาการภาคสนามของแก๊ง HTS (ขี้ข้าอิสราเอลและสหรัฐ) หลายตัวถูกสังหารระหว่างการโจมตีในครั้งนี้ ซึ่งรวมทั้งเอเมียร์ท้องถิ่นหลายคนในเมืองอิดลิบด้วย

    [ฐานทัพ Shay’rat แห่งนี้ของซีเรียเคยถูกสหรัฐยิงถล่มด้วยขีปนาวุธนำวิถีโทมาฮ็อกถึง 59 ลูกมาแล้ว จากการยัดข้อหาว่าเครื่องบินรบของซีเรียโจมตีพวกกบฏที่อิดลิบด้วยอาวุธเคมีเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาทำให้มีทหารซีเรียเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายนาย เครื่องบินรบถูกทำลายหลายลำ แต่ต่อมาสหรัฐยอมรับว่า พวกผู้ก่อการร้ายและพวกกบฏซีเรียนั่นแหละที่ใช้อาวุธเคมีในซีเรีย สหรัฐไม่ต้องรับผิดชอบในการสังหารหมู่หทารซีเรียหลายครั้ง

    สัปดาห์นี้มีการปะทะกันระหว่างกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียกับอิสราเอล รอบแรกฝ่ายอิสราเอลส่งเครื่องบินรบของตนเองไปปล่อยขีปนาวุธโจมตีตำแหน่งปืนใหญ่และระบบป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพซีเรีย อ้างว่าลูกปืนใหญ่หรือขีปนาวุธจากซีเรียตกไปยังเขตของอิสราเอล อิสราเอลจึงตอบโต้ ทางซีเรียไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

    ต่อมาสื่อซีเรียรายงานว่า กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียยิงขีปนาวุธ S-200 ใส่เครื่องบินรบ F-35 ของอิสราเอล ทางตะวันออกของกรุงดามัสกัส คาดว่าได้รับบาดเจ็บ อุ๊ย… หมายถึงได้รับความเสียหายหนึ่งลำ เครื่องบินรบของอิสราเอลจึงรีบบินกลับฐานของตนเองทันที ทางซีเรียระบุว่าเครื่องบินรบของอิสราเอลละเมิดน่านฟ้าของซีเรีย จึงถูกสั่งสอนตามระเบียบ หนอยแนะ! ซ่านักใช่ไหม โดนซะมั่ง อิสราเอลและสหรัฐไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ จะพูดอะไรได้หละครับ ขืนยอมรับว่า F-35 ถูก S-200 สอยเกือบร่วง ก็อายเขาสิครับ ขายไม่ออกอีกต่างหาก

    ล่าสุดกลาโหมอิสราเอลแถลงว่า ได้โจมตีระบบปืนใหญ่ของกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียในพื้นที่ที่ราบสูงโกลาน อ้างว่าเพื่อเป็นการตอบโต้ต่อการยิงปืนใหญ่จากฝ่ายซีเรียก่อน

    เมื่อคืนนี้รัสเซียจึงช่วยสั่งสอนบรรดาลูกกระเป๋งของอิสราเอลและสหรัฐ (อัลเคดา) ด้วยการบอมบ์หมู่พวกมันแบบยกเข่ง จบข่าว - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    21/10/2560
    ---------
    https://www.almasdarnews.com/articl...stroys-base-filled-al-qaeda-commanders-idlib/
    https://www.rt.com/usa/407267-state-department-chemical-weapons-syria/
    https://sputniknews.com/middleeast/201710211058423770-israel-syria-shelling/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    IMG_20171021_235238_145.jpg

    แม่เจ้าโว๊ย! ทหารซีเรียค้นพบคลังเก็บอุปกรณ์ออกอากาศผ่านระบบดาวเทียมของขบวนการก่อการร้ายไอซิสที่เมือง Al-Mayadeen จังหวัด Deir Ezzor วันก่อนนี้ก็ยึดคลังแสงขนาดใหญ่ของพวกไอซิสได้ที่เมืองแห่งนี้ อาวุธส่วนใหญ่เป็นของอิสราเอลและสหรัฐ รอบนี้ยึดอุปกรณ์อิเลคทรอนิคสำหรับสื่อสารผ่านระบบดาวเทียมที่ทันสมัยด้วย ใครนะช่างใจบุญจัดหาไปให้ไอซิสได้ถึงเพียงนี้ AMN รายงาน (21 ต.ค.60)
    -----------
    https://www.almasdarnews.com/articl...-satellite-broadcasting-warehouse-mayadeen-2/
    https://www.almasdarnews.com/article/video-syrian-army-seizes-weapons-jackpot-isis-mayadeen/
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ไส “ลุงตู่” แบกหม้อก้นดำ ใช้ม.44 อุ้มแก๊งเลี่ยงภาษีส่งออกน้ำมันหมื่นล้าน
    เผยแพร่: 21 ต.ค. 2560 06:19:00
    560000011060301.jpg
    ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ถึงเวลานี้ ไม่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ - “ลุงตู่” ผู้นำใจดีมีอารมณ์ขัน เสร็จก๊วนบิ๊กข้าราชการเหลี่ยมจัดหลอกให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 อุ้มกลุ่มบริษัทเอกชนเลี่ยงภาษีส่งออกปิโตรเลียมเหลว แล้วหรือไม่

    ถ้าทะเล่อทะล่าจัดไปแล้วตามคำขอก็ได้แต่เอามือทาบอก เวรกรรม(ผู้นำ)ประเทศไทย แต่หากยังไม่ ก็ขอให้ทีมนายกฯ กลับไปพลิกแฟ้ม “บทเรียนค่าโง่เชฟรอนเลี่ยงภาษีน้ำมัน 3,000 ล้าน” มาศึกษา เพื่อหาทางจัดการกับเรื่องที่กำลังแดงโร่ขึ้นมาใหม่นี้ให้ได้ข้อยุติอย่างที่ควรจะเป็น

    อย่าให้ต้องมีความน่าอดสูเกิดขึ้นซ้ำซาก และอย่าใช้ชาวบ้านก่นด่าทีคนจนรีดภาษีเลือดซิบ ทีบริษัทใหญ่กลับเปิดช่องให้หลบเลี่ยง เสียชื่อรัฐบาลทหารขวัญใจแม่ยกหมด

    กรณี “การเลี่ยงภาษีส่งออกปิโตรเลียมเหลวหรือคอนเดนเสท?” ที่ปูดขึ้นคราวนี้ คล้ายคลึงกับกรณีเชฟรอนที่สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าเคยเปิดโปงมาก่อนหน้า และนำมาขยายผลเปิดแผลโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กรุงเทพฯ ที่เรียกร้องให้นายกฯ จัดการให้ถูกต้อง

    สำหรับที่มาที่ไปของเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2553 โดยด่านศุลกากรสงขลา ตรวจพบหลักฐานการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว หรือคอนเดนเสท ของบริษัทผู้รับสัมปทานจากองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA) อาจมีความไม่ถูกต้องตามข้อตกลงว่าด้วยธรรมนูญและเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ในข้อ 16 เรื่องเกี่ยวกับภาษีศุลกากร (1) (ก) ก็คือหากผู้รับสัมปทานขายปิโตรเลียมให้กับประเทศอื่นนอกราชอาณาจักรไทยและมาเลเซีย ผู้รับสัมปทานต้องจ่ายภาษีขาออก 10% ของมูลค่า แต่ให้ลดอัตราภาษีลงร้อยละ 50 ผลของข้อตกลงดังกล่าว ไทยจึงเก็บอากรขาออก 5% ของมูลค่าปิโตรเลียมที่ขายให้กับประเทศที่ 3

    ประเด็นที่เป็นปัญหาขึ้นมาคือ บริษัทผู้รับสัมปทานนำปิโตรเลียมเหลวหรือคอนเดนเสท ไปขายผ่านบริษัทที่สิงคโปร์ ก่อนนำคอนเดนเสทมาขายให้กับบริษัทในเครือ ปตท. จึงตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการเลี่ยงภาษี

    กรณีที่เกิดขึ้น คือ บริษัท CARIGALI HESS OPERATION COMPANY SDN BHD นำส่วนแบ่งคอนเดนเสทที่ผลิตได้จากแหล่งจักรวาล (Cakerawala) ไปมอบให้ บริษัท HESS นำไปขายให้กับ บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) (PTTAR) โดยมีใบรับรองจากองค์ร่วมไทย-มาเลเซีย (MTJA) แนบมากับใบขนสินค้า แจ้งต่อด่านศุลกากรสงขลา ว่าจะนำคอนเดนเสทล็อตนี้ไปขายให้กับ ปตท. อะโรเมติกส์ฯ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสงขลา จึงทำการตรวจปล่อยสินค้า โดยไม่ได้เก็บอากรขาออก เพราะเป็นการขายให้กับบริษัทไทย

    ต่อมา ด่านศุลกากรสงขลา เกิดข้อสงสัย จึงขอให้องค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ส่งหลักฐานสัญญาซื้อ-ขายคอนเดนเสททั้งหมด มาให้เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสงขลา ทำการตรวจสอบ จึงพบหลักฐานการซื้อ-ขายคอนเดนเสท หลายล็อต ก่อนที่นำเข้ามาขายให้กับบริษัท ปตท. อะโรเมติกส์ฯ อาจไม่ตรงตามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทย-มาเลเซีย ข้อ 16

    โดยพบว่า บริษัท Hess Oil Company of Thailand (JDA) ได้มอบอำนาจให้ บริษัท Hess Global Trading ดำเนินการขายคอนเดนเสทให้กับ บริษัท Kernel Oil Pte Ltd ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ ก่อนที่จะส่งมาขายให้กับบริษัท ปตท. อะโรเมติกส์ฯ โดยมีหลักฐาน TELEX ยืนยันการส่งมอบสินค้าถึง บริษัท Kernel สิงคโปร์ หลังจากคอนเดนเสทถูกสูบออกจากเรือกักเก็บน้ำมัน (FSOA) และถ่ายลงเรือบรรทุกน้ำมันจนครบถ้วนตามสัญญาแล้ว กรรมสิทธิ์ในคอนเดนเสทล็อตนี้เป็นของบริษัท Kernel สิงคโปร์

    แต่ยังไม่ทันที่ด่านศุลกากรสงขลา จะเรียกบริษัทรับสัมปทานมาเสียภาษี ปรากฏว่า สำนักกฎหมาย กรมศุลกากร มีความเห็นว่ากรณีการขายคอนเดนเสทออกจากพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย อาจมีการโอนกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือกันได้ ส่วนการจัดเก็บอากรขาออกให้พิจารณาจากการขนส่งไปยังประเทศปลายทางเป็นหลัก หากปลายทางส่งเข้าประเทศไทยหรือมาเลเซีย ก็ไม่ต้องเสียอากรขาออก ตามความตกลงฯ ข้อ 16

    ขณะที่ด่านศุลกากรสงขลา มีความเห็นว่า แนววินิจฉัยของสำนักกฎหมายเกี่ยวกับการจัดเก็บอากรขาออกให้พิจารณาจากการขนส่งไปยังประเทศปลายทางเป็นหลัก ไม่มีบทบัญญัติใดในกฎหมายศุลกากรรองรับ หลักในการจัดเก็บภาษีโดยทั่วไปจะพิจารณาจากจุดที่มีภาระภาษีเกิดขึ้น (Tax Point) ไม่ได้พิจารณาที่การขนส่งไปยังประเทศปลายทาง

    ความเห็นต่างของหน่วยงานภายในกรมศุลฯ ยังไม่ได้ข้อยุติ ต่อมาถึงปี 2557 มีหนังสือร้องเรียนพร้อมหลักฐานส่งถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอให้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ หลังจากดีเอสไอ รับทำคดีนี้เป็นคดีพิเศษร่วมกับพนักงานอัยการ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กระทั่งนำไปสู่การสรุปสำนวนคดีเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา

    แต่ยังไม่ทันที่ดีเอสไอ จะแจ้งข้อกล่าวหา ปรากฏว่า มีการนำประเด็นข้อพิพาทดังกล่าวเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ ครั้งที่ 8/2560 ที่มี พล.อ. ประยุทธ์เป็นประธานฯ เพื่อหาข้อยุติและแนวทางแก้ไขปัญหา ที่ประชุมฯ จึงมอบหมายให้ปลัด 3 กระทรวง คือ คลัง, พลังงาน และยุติธรรม กลับไปประชุมร่วมกันอีกครั้ง

    ต่อมา กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน จัดประชุมร่วม 3 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2560 โดยมีมติร่วมกัน ให้ดีเอสไอ ชะลอการสอบปากคำคดีความดังกล่าวออกไปก่อนจนกว่าจะได้ข้อยุติ และขอให้กรมศุลกากร พิจารณายืนยันพิธีการจัดเก็บอากรขาออกฯ ให้พิจารณาจากการขนส่งไปยังประเทศปลายทางเป็นหลัก โดยให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 1 สัปดาห์

    นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ประสานองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ในการยกร่างหนังสือรายงานประเด็นปัญหาดังกล่าว เพื่อใช้ประกอบการนำเสนอ ขอรับความเห็นชอบให้ใช้มาตรา 44 เพื่อขอยกเว้นพิธีการศุลกากรและสรรพากร

    พฤติกรรมของบิ๊กข้าราชการระดับปลัด 3 กระทรวง รวมทั้งอธิบดีกรมเชื้อเพลิงฯ จึงสมควรถูกตั้งข้อสงสัยอย่างยิ่ง

    น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กรุงเทพมหานคร และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านพลังงานได้ติดตามเรื่องนี้และโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กหลายครั้งและล่าสุดได้ตั้งข้อสงสัย “การขายคอนเดนเสตให้สิงคโปร์ก่อนย้อนมาขายไทย คือกระบวนการฉ้อราษฎร์บังหลวงใช่หรือไม่” เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2560 โดยตั้งคำถามว่า การที่ 3 ปลัดกระทรวง ประชุมตีความช่วยพ่อค้าคนกลางสิงคโปร์ไม่ต้องเสียภาษี เกิดจากความไม่รู้หรือความไม่สุจริตกันแน่ ?!?

    “บริษัท Hess เคยขายคอนเดนเสตโดยตรงให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยคือบริษัท ปตท.อยู่แล้ว โดยไม่มีภาระภาษี แล้วเหตุใดที่ผู้ประกอบการในไทยจึงต้องซื้อผ่านบริษัท Karnel Oil ของสิงคโปร์ ?!?

    สิ่งที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ คือ ตามข้อตกลงหากขายคอนเดนเสทตรงมายังไทยจะไม่มีภาษีขาออกเพื่อให้คนไทยและมาเลย์ ได้ใช้ทรัพยากรร่วมกันในราคาปลอดภาษี แต่ถ้าขายไปยังประเทศที่ 3 ต้องมีภาษีส่งออก 5%

    “...และเมื่อบริษัท Hess ขายคอนเดนเสตให้บริษัท Karnel Oil ของสิงคโปร์ แม้น้ำมันจะไม่ได้ส่งไปสิงคโปร์ แต่ส่งตรงมาประเทศไทยก็ตาม แต่กรรมสิทธิ์เป็นของ KERNEL OIL แล้วตามสัญญาซื้อขาย ประกอบ CUSTOMER LIFTING TELEX ดังนั้น ตามกระบวนการปกติของการนำเข้าน้ำมันมาประเทศไทย ต้องมีภาษีนำเข้าอีกด้วย.... ”

    น.ส.รสนา สงสัยการตีความของที่ประชุม 3 ปลัดกระทรวง จะเปิดโอกาสให้บริษัทนายหน้าจากสิงคโปร์เข้ามากินส่วนต่างกำไร และหลีกเลี่ยงการเสียภาษีส่งออก และภาษีนำเข้าเมื่อนำเข้ามาในประเทศไทย เป็นวิธีการสวมสิทธิน้ำมันเจดีเอเพื่อไม่ต้องเสียภาษีเข้าไทย แต่น้ำมันจะถูกแปลงสัญชาติเป็นน้ำมันจากสิงคโปร์ที่สามารถเอามาฟันกำไรจากคนไทยได้มากขึ้นใช่หรือไม่ และประเทศต้องสูญเสียรายได้จากภาษีขาเข้าและขาออกตลอดไป

    “....เมื่อการสอบสวนของ DSI เสร็จสิ้นจนมีการแจ้งข้อกล่าวหากับ 2 บริษัท คือ CPOC และ CHESS แทนที่จะปล่อยให้ DSI ดำเนินการไปตามกระบวนการทางกฎหมาย กลับกลายเป็นว่าผู้บริหารทั้ง 3 กระทรวงพากันออกโรงมาประชุมตีความ และเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดีของ DSI ด้วยการขอให้ชะลอการสอบปากคำบริษัทที่หนีภาษี และถึงกับจะขอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจมาตรา 44 มายกเว้นการเก็บภาษีในกรณีนี้

    “.... ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 ก.ค.2560 มีการระบุว่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ ที่จะให้ความเห็นต่อ DSI เพื่อประกอบการพิจารณาของ DSI แต่เวลาล่วงเลยมากว่า 3 เดือนแล้วก็ยังไม่มีข้อยุติ คงจะหวังรอให้นายกฯ หลงกลใช้มาตรา 44 มาช่วยบริษัทเอกชนที่หนีภาษี ใช่หรือไม่ ... การที่รองอธิบดีดีเอสไอ ปล่อยให้มีการแทรกแซง และรั้งรอมานานเช่นนี้ ย่อมทำให้สังคมอาจจะมีข้อสงสัยและกังวล เพราะเดิมพันผลประโยชน์เรื่องนี้มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท อาจจะเกิดการเจรจาให้เป็นมวยล้มได้หรือไม่?

    น.ส.รสนา ยังเรียกร้องให้นายกฯ สั่งการให้ดีเอสไอดำเนินคดีต่อโดยเร่งด่วน เพราะมูลค่าภาษีที่มีการหลีกเลี่ยงในเวลาหลายปีที่ผ่านมา รวมกับโทษปรับ 4 เท่าของมูลค่าน้ำมันที่มีการเลี่ยงภาษีตามกฎหมายศุลกากร ซึ่งมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท และควรตั้งคณะกรรมการอิสระ ขึ้นมาสอบสวนข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้

    เมื่อเรื่องปูดขึ้นมา ทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตีความข้อกฎหมายของกรมศุลกากร

    “ลุงตู่” จะยอมแบกหม้อก้นดำเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทเอกชน หรือรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน โปรดติดตามกันต่อไป

    https://mgronline.com/daily/detail/9600000106699
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อะไรคือฉากต่อไป...หลังสหรัฐฯ เปิดช่องหลบหนีอย่างปลอดภัยให้ไอซิสออกจากเมืองรักกาของซีเรีย?
    ตุลาคม 22, 2560 Written by หยาดฟ้า ไทยประทาน Published in วิเคราะห์ข่าว
    0ebcf0e7077f02b9df033f9073a6fdae_XL.jpg

    สยามพับลิค-สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า
    ผู้ก่อการร้ายไอซิสละทิ้งเมืองรักกา และหลบหนีผ่านเส้นทางที่ปลอดภัยซึ่งอำนวยความสะดวกให้โดยกลุ่มติดอาวุธ SDF ที่สหรัฐฯ หนุนหลัง
    กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย หรือ SDF (Syrian Democratic Forces) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ กลุ่มนี้เป็นพันธมิตรของเคิร์ดและกองกำลังอาหรับ และยังคงสู้กับผู้ก่อการร้ายไอซิสที่ฝังตัวอยู่ในเมืองรักกา ซึ่งถือว่าเป็นเมืองหลวงที่แท้จริงของผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ในประเทศซีเรียนับตั้งแต่เข้ามายึดครองในปี 2014

    องค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในอังกฤษ ยืนยันว่า ผู้ก่อการร้ายไอซิสได้ละทิ้งเมืองรักกาหลังยอมจำนนต่อกลุ่ม SDF


    การขจัดไอซิสออกจากรักกา ในทางจำนวนพื้นที่ถือว่าน้อยกว่า 8 เปอร์เซ็นต์ของดินแดนซีเรียที่ยังคงอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มก่อการร้าย

    - ภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ ในการปกป้องผู้ก่อการร้าย
    อย่างไรก็ตาม สหรัฐคือผู้ให้การสนับสนุนในสิ่งที่เรียกว่า “การปลดปล่อย” เมืองนี้ ซึ่งบรรลุวัตถุประสงค์ในการยึดเมืองหลวงโดยพฤตินัยของไอซิส เพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้หนุนหลังผู้ก่อการร้าย ในประเทศซีเรีย


    โดยอาศัยหลักฐานที่เป็นรูปธรรมชัดเจน รัสเซียและซีเรียได้กล่าวหาหลายต่อหลายครั้งว่าสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนไอซิส และผู้ก่อการร้ายตักฟีรีกลุ่มต่างๆ ในประเทศนี้

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า พื้นที่ 100 ตารางกิโลเมตรรอบฐานทัพของสหรัฐในเมืองอัลทันฟ์ (al-Tanf) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชายแดนซีเรีย-จอร์แดนกลายเป็น "หลุมดำ" ซึ่งผู้ก่อการร้ายไอซิสใช้เพื่อโจมตีกองทัพซีเรียและพลเรือน


    สัปดาห์ที่ผ่านมารัสเซียยังกล่าวหาว่า สหรัฐฯ ลดการโจมตีทางอากาศในอิรัก เพื่อเอื้อให้ผู้ก่อการร้ายเข้าสู่ประเทศซีเรีย และต่อสู้กับกองทัพซีเรียซึ่งมีกำหนดจะเข้ายึดเมืองเดียร์เอซซูร์ (Deir ez-Zor) อีกครั้ง


    - รัสเซียสงสัยในข้ออ้างของสหรัฐฯ ว่าด้วยสงครามกับการก่อการร้าย

    โฆษกกองทัพรัสเซีย อิกอร์ โคนาเชนคอฟ (Igor Konashenkov) กล่าวว่า การที่ผู้ก่อการร้ายจากอิรักเข้ามาอย่างต่อเนื่องก่อให้เกิดคำถามอย่างจริงจังเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ในการต่อต้านการก่อการร้ายของกองทัพอากาศสหรัฐฯ และกลุ่มที่เรียกว่า “พันธมิตรนานาชาติ” (international coalition)

    ทั้งนี้การเข้ามาของทหารสหรัฐฯ และกองกำลังพันธมิตรนานาชาตินี้ นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2014 ไม่เคยได้รับอนุญาตจากรัฐบาลซีเรีย หรือมติของสหประชาชาติ

    เพราะฉะนั้นการเคลื่อนกำลังเข้ายึดเมืองรักกาจากไอซิส โดยกองกำลังซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ทำให้เราไม่สามารถตีความว่าเป็นการทำสงครามกับการก่อการร้าย

    และแทนที่จะสังหารผู้ก่อการร้ายไอซิส กลับกลายเป็นว่าสหรัฐอเมริกากำลังถ่ายโอนพวกเขาไปยังส่วนอื่นๆ ของประเทศซีเรีย โดยบางแหล่งข่าวระบุว่า วอชิงตันกำลังเคลื่อนย้ายผู้บัญชาการทหารระดับสูงของไอซิสไปยังประเทศอัฟกานิสถาน

    ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ “นายโดนัลด์ ทรัมป์” อ้างว่า สหรัฐฯ กำลังต่อสู้กับไอซิสในประเทศซีเรีย ในขณะที่เขาเองก็ถูกบันทึกว่าเป็นผู้พูดว่า ประธานาธิบดีคนก่อน คือ บารัก โอบามา เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่โด่งดังนี้

    - การควบคุมรักกาของสหรัฐฯ หลังไอซิสล่าถอย

    หัวหน้าศูนย์บัญชาการกลางของสหรัฐฯ “พลตรี โจเซฟ โวเทล” บอกกับฝ่ายนิติบัญญัติของวุฒิสภาเมื่อเดือนมีนาคมว่า กองกำลังอเมริกันจะต้องรักษา “เสถียรภาพ” ของภูมิภาค เมื่อนักรบไอซิสถูกขจัดออกจากรักกา

    คำแถลงนี้อนุมานได้ว่า กองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ จะได้ควบคุมเมืองรักกาและพื้นที่โดยรอบ ก้าวย่างดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออธิปไตยของซีเรียและก่อให้เกิดวิกฤติใหม่ๆ ในประเทศตามมาหลังเสร็จสิ้นการขับไล่ผู้ก่อการร้ายไอซิส

    กองกำลัง YPG ของชาวเคิร์ด ที่มีอำนาจบัญชาการเหนือ SDF กล่าวว่า ทางกลุ่มได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อเข้ายึดครองจุดยุทธศาสตร์ของเมืองแห่งนี้ไว้แล้ว

    ก่อนที่ SDF จะเปิดปฏิบัติการยึดเมืองรักกา ก็ได้ประกาศจัดตั้ง คณะกรรมการพลเรือนแห่งรักกา (Raqqa Civilian Council - RCC) เพื่อเข้ารับดูแลแทนหลังจากที่ไอซิสถูกขับไล่ออกไป

    YPG เป็นปีกติดอาวุธของพรรคสหภาพประชาธิปไตย (PYD) ซึ่งได้เข้ายึดครองพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียจำนวนมาก และเป็นพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้

    - บอลข่าไนเซชั่น (Balkanization) ของเอเชียตะวันตก

    สหรัฐฯกำลังดำเนินนโยบาย “บอลข่าไนเซชั่น” (การอนุวัตรตามคาบสมุทรบอลข่าน) ที่ชั่วร้ายในภูมิภาคเอเชียตะวันตกโดยใช้ข้องอ้างว่าทำสงครามกับไอซิสในซีเรีย แหล่งข่าวกล่าวว่า รูปแบบการสนับสนุน SDF เพื่อเข้าควบคุมเมืองรักกา มีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาสามารถควบคุมพื้นที่ที่พวกเขายึดจากไอซิส และดังนั้นรัฐบาลกลางในดามัสกัสจึงถูกกันออกจากการปกครองภูมิภาคนี้

    ความพยายามใดๆ ของดามัสกัสที่จะเข้าควบคุมรักกา คาดว่าจะจุดประกายการปะทะกันระหว่างกองกำลังรัฐบาลซีเรียและกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวายขึ้น

    โครงการของสหรัฐฯในรักกาจะต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากตุรกีประเทศเพื่อนบ้านของซีเรีย เนื่องจากการปรากฏตัวของเคิร์ดซึ่งมีอิทธิพลใน SDF

    อังการาย่อมจะไม่สบายใจที่จะเห็นกลุ่มชาวเคิร์ดมีอำนาจเหนืออาณาพื้นที่ใกล้ชายแดนของตน เนื่องจากรัฐบาลตุรกีได้ถือว่ากองกำลังชาวเคิร์ดชีเรีย ซึ่งรวมถึงกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ เป็นผู้ก่อการร้าย


    เพราะฉะนั้นแผนการของสหรัฐในรักกาไม่ได้มีเป้าหมายที่จะนำสันติภาพไปสู่ซีเรีย เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าวอชิงตันกำลังใช้เคิร์ดเป็นตัวเดินในอุบายบ่อนทำลายซีเรียและจัดตั้งรัฐเคิร์ดที่แยกอิสระขึ้นมา สหรัฐอเมริกาและระบอบการปกครองของอิสราเอลกำลังวางแผนที่จะย่อยประเทศในภูมิภาคให้กลายเป็นประเทศเล็กประเทศน้อยที่อ่อนแอและจัดการได้ง่าย
    และ “รักกา” ก็คือนั่งร้านล่าสุดของจิ๊กซอร์นี้!!


    http://siampublic.com/analysis/3213/what-next-after-us-provides-safe-exit-isis-syria-raqqa
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อิรักเพิ่ม “การส่งออกน้ำมัน” จากตอนใต้เพื่อชดเชยส่วนที่ขาดจากเคอร์คุก
    เผยแพร่: 21 ต.ค. 2560 20:28:00
    560000011127701.jpg

    รอยเตอร์ – อิรักระบุในวันนี้ (21) ว่า พวกเขากำลังเพิ่มการส่งออกน้ำมันจากแคว้นบาสราทางตอนใต้อีก 200,000 บาร์เรลต่อวันเพื่อชดเชยส่วนที่ขาดจากพื้นที่เคอร์คุกทางตอนเหนือ

    ปริมาณการส่งออกน้ำมันจากเคอร์คุกลดลงในสัปดาห์นี้เมื่อกองกำลังอิรักเข้ายึดแหล่งน้ำมันคืนจากนักรบชาวเคิร์ดที่อยู่ที่นั่นมาตั้งแต่ปี 2014

    การปริมาณน้ำมันที่ส่งออกเพิ่มจากแคว้นบาสรายังคงรักษาปริมาณการส่งออกทั้งหมดของอิรักไว้ภายในโควต้าที่ตกลงกับกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (โอเปก) กระทรวงน้ำมันระบุในถ้อยแถลงโดยอ้างจากรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมัน จาบาร์ อัล-ลูไอบี

    เขากล่าวว่า น้ำมัน 200,000 บาร์เรลต่อวันจะถูกส่งจากแคว้นบาสราเพิ่มขึ้นจากปริมาณการส่งออกตามปกติที่มากกว่า 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน

    “ปริมาณเพิ่มเติมนี้จะถูกผลิตจนกว่าผลผลิตน้ำมันทางตอนเหนือจะกลับสู่ระดับก่อนหน้านี้” เขากล่าว

    เขาบอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงแบกแดดในเวลาต่อมาว่า เขาคาดว่า ผลผลิตน้ำมันของเคอร์คุกจะกลับคืนสู่ระดับเดียวกับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในเร็วๆนี้

    เมื่อวันพฤหัสบดี (19) เจ้าหน้าที่กระทรวงน้ำมันคนหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่า อิรักไม่สามารถจะทำให้ผลผลิตน้ำมันของเคอร์คุกกลับสู่ระดับเดียวกับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก่อนถึงวันอาทิตย์ (22) เนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์ที่แหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดสองแห่งของแคว้นนี้คือที่อวานาและไบฮาซัน

    ก่อนการปิดการดำเนินงาน ภูมิภาคน้ำมันทางตอนเหนือส่งออกน้ำมันราว 530,000 บาร์เรลต่อวัน ราวครึ่งหนึ่งมาจากแคว้นกึ่งปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน และส่วนที่เหลือมาจากจังหวัดเคอร์คุก ซึ่งถูกอ้างสิทธิ์โดยทั้งทางการเคิร์ดและทางการอิรัก

    หน่วยงานด้านการขนส่งที่เฝ้าติดตามน้ำมันดิบที่ส่งจากตอนเหนือของอิรักไปยังเมืองซีย์ฮาน ศูนย์กลางการส่งออกของเมดิเตอร์เรเนียนในตุรกี ระบุว่า ปริมาณไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อวันศุกร์ (21) ซึ่งอยู่ 213,000 บาร์เรลต่อวัน

    น้ำมันดิบที่ถูกส่งออกจากเมืองซีย์ฮานถูกส่งมาผ่านท่อทั่วแคว้นเคอร์ดิสถานในอิรักและต่อไปยังตุรกี

    กองกำลังเพชเมอร์กาของเคอร์ดิสถานถูกส่งประจำการในเคอร์คุกในปี 2014 เมื่อกองทัพอิรักหลบหนีในขณะที่เผชิญกับการรุกคืบจากกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเคอร์ดิสถานช่วยให้แหล่งน้ำมันหลายแห่งไม่ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มไอเอส
    https://mgronline.com/around/detail/9600000107361
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Imm Journal
    ปธน. ตุรกี ย้ำ มหาวิทยาลัยของกลุ่มประเทศดี 8 (D8) จะถูกก่อตั้งขึ้นในอิหร่าน

    IMG_20171022_121859_275.jpg

    การประชุมสุดยอดของบรรดาประเทศอิสลามสมาชิกกลุ่มดี 8 (D8) ครั้งที่9 ในอังการา ได้สิ้นสุดลง บรรดาสมาชิกของกลุ่มตัดสินใจให้ความสำคัญกับเงินและสกุลเงินของประเทศของตนในการแลกเปลี่ยนทางการค้า จำนวนประเทศในกลุ่มนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 20 ประเทศ

    Deutsche Welle – เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 ตุลาคม 2017) บรรดาผู้นำ 8 ประเทศอิสลาม ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดบรรดาประเทศกลุ่มดี 8 ณ เมืองอังการา ประเทศตุรกี

    ซึ่งตัวแทนจากประเทศอิหร่าน มีนายอิสหาก ญะฮอนกีรี รองประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ ร่วมกับบรรดาผู้นำจากปากีสถาน อินโดนีเซีย อียิปต์และไนจีเรีย

    เป้าหมายหลักของการประชุม คือ "ขยายความร่วมมือเพื่อเพิ่มโอกาส"

    นายอิสหาก ญะฮอนกีรี รองประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้กล่าวในที่ประชุมสุดยอดกลุ่ม 8 ประเทศอิสลามว่า : "การจะจัดการกับขบวนการและกลุ่มแนวคิดของไอซิสที่มีความรุนแรงและสุดโต่ง การสร้างความแตกแยกและสงคราม จำเป็นที่เราจะต้องมีทัศนะที่ตรงกันและร่วมมือกัน"

    กลุ่มประเทศอิสลามที่กำลังพัฒนาภายใต้ชื่อกลุ่มดี 8 เป็นกลุ่มประเทศมุสลิม 8 ประเทศที่มีประเทศอิหร่าน ตุรกี ปากีสถาน บังคลาเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย อียิปต์และไนจีเรีย กลุ่มนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1997 และในช่วงหลายปีที่ผ่านมายังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ มากนัก

    ข้อตกลงการใช้สกุลเงินของประเทศแทนสกุลเงินดอลลาร์

    การประชุมสุดยอดประเทศกลุ่มดี 8 ได้เริ่มต้นขึ้นด้วยการกล่าวสุนทรพจน์โดย นาย เรเซป ตอยยิบ อุรดุกอน ประธานาธิบดีตุรกี เขากล่าวว่า สมาชิกของกลุ่มดี 8 มาจากสามทวีปที่แตกต่างกัน และข้อตกลงสัญญาทางการค้าและศุลกากร รวมทั้งการออกวีซ่าถือเป็นลำดับความสำคัญของประเทศเหล่านี้

    นายอุรดุกอน กล่าวย้ำว่า “มหาวิทยาลัยของกลุ่มประเทศดี 8 จะถูกก่อตั้งขึ้นในอิหร่าน” ในคำกล่าวปิดการประชุมครั้งนี้ นายอุรดุกอน ได้ชี้ถึงความคิดริเริ่มของอิหร่านในการก่อตั้ง "มหาวิทยาลัย ดี 8" โดยมีความเห็นพ้องกันจากบรรดาประเทศสมาชิกของสนธิสัญญานี้ พร้อมให้การสนับสนุนความคิดริเริ่มของอิหร่านในการจัดตั้งมหาวิทยาลัย

    ประธานาธิบดีตุรกีได้วิพากษ์วิจารณ์ความจริงที่ว่า ปริมาณการซื้อขาย 100,000 ล้านดอลลาร์สำหรับประชากรจำนวนหนึ่งพันล้านคนของกลุ่มดี 8 นั้นดูไม่สง่างาม เขากล่าวย้ำว่า การใช้สกุลเงินประจำชาติของประเทศสมาชิก จะได้รับการผลักดันให้มีความสำคัญเป็นอันดับแรก และในเรื่องนี้จะมีการสร้างช่องทางการแลกเปลี่ยนเงินตราร่วมระหว่างธนาคารกลางของแต่ละประเทศ เพื่อให้สมาชิกในกลุ่มสามารถแลกเปลี่ยนเงินตราได้สะดวก

    ประธานาธิบดีตุรกียังได้แถลงว่า กลุ่มดี 8 จะเปลี่ยนเป็นประเทศกลุ่ม 20 ซึ่งในเรื่องนี้ การตัดสินใจบนพื้นฐานของมติเอกฉันท์จะถูกยกเลิกและจะถูกแทนที่ด้วยเสียงส่วนใหญ่หรือเสียงข้างมาก

    การดำเนินโครงการพัฒนาเพื่อความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศอิสลามดี 8 สามารถสร้างแรงผลักดันให้กับกิจกรรมต่างๆ สำเร็จได้ในวาระครบรอบ 20 ปี ของกลุ่มนี้
    http://fa.alalam.ir/news/3097436/-ایران-برای-کشورهای-گروه-۸-اسلامی-دانشگاه-تاسیس-می‌کند
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Imm Journal
    มุฟตีย์ผู้ยิ่งใหญ่ของซีเรีย: เป้าหมายของเราคือปลดปล่อยปาเลสไตน์และโกลาน

    IMG_20171022_123354_677.jpg

    Ahmed Badr al-Din Hassoun มุฟตีย์ผู้ยิ่งใหญ่ของซีเรีย เน้นย้ำว่าศักดิ์ศรีของชาวซีเรียคือศักดิ์ศรีของชาวอาหรับ และความอัปยศของพวกเขาก็เป็นภาพสะท้อนของชาวอาหรับและชนกลุ่มน้อยในประเทศซีเรียเป็นเรื่องที่ไม่มีความหมาย

    Ahmed Badr al-Din Hassoun มุฟตีย์ผู้ยิ่งใหญ่ของซีเรีย กล่าวในการเข้าร่วมงานศพศพชะฮีด "Essam Zahredin" ผู้บัญชาการทหารองครักษ์ของประธานาธิบดีซีเรียในเมือง Deirazur ว่า เลือดของชะฮีด Zohr al-Din เป็นปฏิกิริยาครั้งใหญ่หลังจากปลดปล่อย Deirazur และเราไม่ได้ร้องไห้แก่ชะฮีดผู้นี้ เพราะ 100 ประเทศได้มารุมเราเพื่อให้เราอัปยศและต่ำต้อย แต่พระเจ้าทรงอยู่เคียงข้างกับเรา

    เขาได้กล่าวถึงถึงบรรดาผู้ที่ต้องการที่จะทำให้ชาวซีเรียอับอายขายหน้าว่า เรามี 23 ล้านคนซีเรียและชาวมุสลิมเป็นปึกแผ่นในซีเรียซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เรามีชาวคริสเตียน 23 ล้านคนหรือชาวอาลาวีย์ 23 ล้านคนเราถือเป็น 23 ล้านคนของประชาชาติที่มีเกียรติสำหรับประเทศอาหรับ และชนกลุ่มน้อยในประเทศซีเรียไม่มีความหมาย ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันและเกียรติของพลเมืองชาวซีเรียทุกคนถือเป็นเกียรติของเรา

    เขากล่าวถึงชาติอาหรับ ว่าอย่าได้ดูถูกเหยียดหยามชาวซีเรียเพราะเกียรติยศศักดิ์ศรีของชาวซีเรียคือเกียรติยศศักดิ์ศรีของชาวอาหรับ และความอัปยศของพวกเขาก็เป็นภาพสะท้อนของชาวอาหรับ และพันธะสัญญาของเรา คือการปลดปล่อยปาเลสไตน์และที่ราบสูงโกลาน ไม่ใช่แค่ซีเรีย...
    http://www.mehrnews.com/news/4119543/مفتی-اعظم-سوریه-قرار-ما-تمام-فلسطین-و-جولان-است
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    นายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่ของนิวซีแลนด์ประณามว่า "การไร้ที่อยู่อาศัยเป็นความล้มเหลวแบบโจ่งครึ่มของระบบทุนนิยม" ทั้งในประเทศและทั่วโลก

    FB_IMG_1508651076775.jpg FB_IMG_1508651083081.jpg

    -----------

    วันที่ 22 ต.ค.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "การไร้ที่อยู่อาศัยได้เผยให้เห็นถึง 'ความล้มเหลวที่ชัดเจน' ของระบบทุนนิยม: นรม.ใหม่ของนิวซีแลนด์กล่าว" (Homelessness Reveals the 'Blatant Failure' of Capitalism: New NZ PM)

    นาง Jacinda Ardern จากพรรคแรงงาน ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือนหน้า ได้ตกลงที่จะจัดตั้งรัฐบาลผสมกับแบบกลาง-ซ้าย (center-left government) กับพรรค New Zealand First ซึ่งมุ่งแก้ไขปัญหาภาวะไร้ที่อยู่อาศัยของประชาชนที่กำลังรุมเร้าประเทศนิวซีแลนด์อยู่ในขณะนี้ อย่างเป็นระบบ

    ในการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกหลังชนะการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี นาง Ardern กล่าวกับสำนักข่าว The Nation ว่า "ค่าแรงงานตามอัตราเงินเฟ้อไม่ทัน"

    "อะไรคือจุดเติบโตของเศรษฐกิจ เมื่อเรามีภาวะคนไร้บ้านที่เลวร้ายมากในโลกที่พัฒนาแล้ว?" นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของนิวซีแลนด์กล่าว

    นาง Jacinda Ardern ซึ่งมีอายุ 37 ปี ได้แนะนำว่า รัฐบาลชุดก่อนของนิวซีแลนด์ล้มเหลวต่อประชาชนในประเทศของตนเอง "เมื่อคุณมีเศรษฐกิจด้านการตลาด ทั้งหมดก็มารวมกันที่ว่าคุณจะยอมรับหรือไม่ว่าตลาดล้มเหลวจุดไหน และควรจะมีการแทรกแซงจุดไหนบ้าง" นาง Jacinda Ardern กล่าว

    นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของนิวซีแลนด์กล่าวอีกว่า "เมื่อเร็วๆนี้ มันได้ล้มเหลวต่อประชาชนของพวกเราหลายต่อหลายครั้งแล้วใช่ไหม? ใช่ค่ะ แล้วคุณยังจะอ้างได้อีกหรือว่าคุณประสบความสำเร็จ เมื่อพวกคุณเพียงแค่แค่สามเปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เติบโต แต่คุณก็เจอกับภาวะคนไร้บ้านที่เลวร้ายที่สุดในโลกที่พัฒนาแล้วนี่นะ?"

    นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของนิวซีแลนด์ได้เสนอว่า รัฐบาลของตนเองจะใช้ (มาตรการต่างๆ) มากกว่ามาตรการเกี่ยวกับผลผลิตมวลรวมของประเทศแบบลวกๆ (GDP) เพื่อวัดความสำเร็จทางเศรษฐกิจ และยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า ชีวิตมีความซับซ้อนมากกว่าตัวเลขสถิติทางการเงินเท่านั้น อ้างคำพูดโดย Newshub.co.nz

    "พวกเราต้องการที่จะทำให้มั่นใจได้ว่า เรากำลังมองไปที่ศักยภาพของประชาชนที่จะมีชีวิตที่มีแก่นสาร (meaningful life / มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น) ชีวิตที่มีความสุข ซึ่งการทำงานของพวกเขาเพียงพอที่จะเลี้ยงชีวิตของตนเองและครอบครัวได้"

    รัฐบาลผสมชุดใหม่ของเธอจะเพิ่มเป้าหมาย "การลดความยากจนของเด็ก" ลง ในกฎหมายของประเทศด้วย และจะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้ถึง $16.50 และตั้งใจว่าในอนาคตก็จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย (ตามอัตรเงินเฟ้อ?)

    "เราจะต้องมั่นใจว่าเราได้สร้างสมดุลความต้องการ เพื่อทำให้เห็นว่าได้มีการเพิ่มค่าแรงขึ้น ในขณะเดียวกันเราก็ต้องมั่นใจว่าเราได้ให้ความสำคัญที่เพียงพอ เพื่อที่ว่าเราสามารถจะรับประกันว่ามีการคุ้มครองผู้ที่กำลังจ่ายค่าแรงเหล่านั้นด้วย $16.50 (ประมาณ 561 บาทต่อวัน) เป็นก้าวแรกของเรา เราเล็งว่าจะก้าวไปให้เหนือกว่านั้นอยู่เสมอ" นาง Ardern กล่าว

    [อันนี้เป็นมุมมองส่วนตัวของผู้แปลนะครับ... จะมองว่าปัญหา หรือ ภาวะ หรือ สถานการณ์ หรือวิกฤต "ประชาชนไร้บ้านไร้ที่อยู่อาศัย" มีสาเหตุมาจาก "ค่าแรงต่ำ" ก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว เพราะว่าคนที่มีงานทำ แม้ว่าจะได้รับค่าแรงต่ำ ก็ยังคงมีที่อยู่อาศัย มีงานทำ แต่บางรายก็อาจจะไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในครัวเรือน หรืออาจจะใช้จ่ายเกินตัวจนทำให้เกิดปัญหาทางการเงินขึ้นมาก็ได้

    แต่ปัญหาคนไร้บ้านก็คือ พวกเขาไม่มีงานที่จะทำ จึงไม่มีค่าแรงงานใดๆ และก็ไม่มีที่พักอาศัยด้วย ประทังชีวิตด้วยการขอทาน และรอรับสวัสดิการจากรัฐ การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านที่ตรงจุด ณ ปัจจุบันนี้นิวซีแลนด์และอีกหลายประเทศซึ่งรวมทั้งสหรัฐอเมริกาด้วย ในส่วนที่เกี่ยวกับปัญหาความยากจนนั้น โดยคร่าวๆ สามารถแบ่งผู้ที่ประสบปัญหาได้เป็นสองกลุ่ม คือ 1.) กลุ่มที่มีงานทำแต่ได้รับค่าแรงต่ำ 2.) กลุ่มที่ไม่มีงานทำและไร้ที่อยู่อาศัย

    การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบายของรัฐบาลใหม่ของนิวซีแลนด์จะช่วยได้เฉพาะคนกลุ่มแรกเท่านั้น แต่การสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับคนไร้บ้านจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาให้กับคนกลุ่มที่สองด้วย แม้ว่าตอนแรกจะได้รับค่าแรงต่ำก็ตาม แต่อย่างน้อยก็มีงานทำและมีรายได้ที่ชัดเจน ดังนั้น จึงมองว่านโยบายของรัฐบาลใหม่นิวซีแลนด์นี้ จึงดูคล้ายกับ "ประชานิยม" ซึ่งบางประเทศล้มเหลวมาแล้ว

    ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมตะวันตกเป็นระบบแบบ "ใครมือยาวสาวได้สาวเอา" มุ่งเน้นที่ผลกำไรจากการประกอบการเป็นหลัก ยิ่งใช้ต้นทุนน้อยเท่าไรและกอบโกยกำไรได้มากเท่านั้น ก็ยิ่งถือว่าประสบความสำเร็จ เป็นระบบเศรษฐกิจแบบรวยกระจุกจนกระจาย จนนำไปสู่การปฏิวัติทางเศรษฐกิจในคริสตศตวรรษที่ 19 และการกำเนิดแนวคิดใหม่แบบ "สังคมนิยม" ของคาร์ล มาร์ก และลัทธินาซีเยอรมัน โดยระบอบสังคมนิยมจะเน้นการกระจายความร่ำรวยให้ทั่วถึงประชาชนทั่วประเทศอย่างเท่าเทียมกัน กำจัดระบบนายทุนที่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค แต่ถูกต่อต้านจากฝ่ายทุนนิยม อันที่จริงทั้งสองขั้วนี้ต่างก็ต่อต้านกันและกัน

    โดยอุดมการณ์นั้นระบอบสังคมนิยมก็ไม่ได้เป็นระบอบที่เสียหายอะไร เป็นระบอบที่ดีระบอบหนึ่งในการกระจายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ให้ทั่วถึงประชาชนทุกระดับ แต่ในทางปฏิบัตินั้นมีปัญหาเยอะมาก และมักจะถูกโจมตีและถูกมองในแง่งบจากฝ่ายตรงข้ามเสมอ

    จีนประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศแบบก้าวกระโดดโดยการใช้ระบอบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมตะวันตก ภายใต้การกำกับดูแลด้านการปกครองทางการเมืองของระบอบคอมมิวนิสต์แบบสังคมนิยม (ลูกผสม) เวียตนามก็เช่นกัน คิวบาและเกาหลีเหนือใช้ระบอบสังคมนิยมแบบต้นตำหรับตามแนวคิดของมาร์ก แต่ถูกสหรัฐและตะวันตกกลั่นแกล้งด้วยการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายสิบปี

    จึงทำให้ประเทศพัฒนาได้ช้ากว่าหลายประเทศอย่างที่ควรจะเป็น และเกิดความเขัาใจที่ผิดเพี้ยนว่าระบอบสังคมนิยมมีแต่จะทำให้ประชาชนยากจนเท่านั้น แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่เกาหลีเหนือหรือคิวบาที่ทำให้ตนเองยากจนกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่เป็นเพราะว่าถูกกีดกันทางการค้าอย่างยุติธรรมจากนานาชาติโดยมีสหรัฐชักใยอยู่เบื้องหลังต่างหาก แม้จะยากจนเพราะถูกกีดกันทางการค้า แต่เกาหลีเหนือก็ไม่เคยประสบปัญหาวิกฤตคนไร้บ้านเหมือนกับที่สหรัฐผู้ร่ำรวยประสบครั้งแล้วครั่งเล่าเลย - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    22/10/2560
    ---------
    https://sputniknews.com/society/201...ailure-capitalism-new-zealand-prime-minister/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เตือนหมู่บ้านห้วยคิง จ.ลำปาง ยังไม่ปลอดภัย - ดินยังเคลื่อนตัว 16:01 | 20 ตุลาคม 2560 | 925

    รูปข่าว : เตือนหมู่บ้านห้วยคิง จ.ลำปาง ยังไม่ปลอดภัย - ดินยังเคลื่อนตัว
    รูปข่าว : เตือนหมู่บ้านห้วยคิง จ.ลำปาง ยังไม่ปลอดภัย - ดินยังเคลื่อนตัว

    G0DL5oPyrtt5HBAi37QCzuGEAa0mVKDtFyy5viA9q21I2djL9iMG6s.jpg

    นักวิชาการเตือนพื้นที่ดินทรุดตัวหมู่บ้านห้วยคิง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ยังพบมีการเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่อง แนะนำไม่ควรเข้าไปในพื้นที่จนกว่าฝนจะหยุดตก เพราะอาจจะไม่ปลอดภัยกับชาวบ้าน

    วันนี้ (20 ต.ค.2560) รศ.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุดินทรุดตัวในหมู่บ้านห้วยห้วยคิง หมู่ 6 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดพบว่า สภาพดินที่ยังคงเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่นี้ทั้งหมดเสี่ยงที่จะเกิดการถล่มยุบตัวลงไปได้ตลอดเวลา ทำให้นักวิชาการเตือนว่าทั้งเจ้าของบ้านและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยว ข้องทั้งหมด ไม่ควรเข้าไปในพื้นที่ดินทรุดในระยะนี้

    นักวิชาการ บอกอีกว่า เมื่อฝนตกการเคลื่อนตัวก็จะยิ่งเกิดมากขึ้น จึงควรใช้เครื่องมือตรวจวัดการเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ควรเข้าไปในพื้นที่ เช่น ใช้โดรนเพื่อตรวจวัดการเคลื่อนตัวแทน รวมทั้งควรแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนทางน้ำที่จะไหลเข้าไปในพื้นที่ ซึ่งจะยิ่งทำให้การยุบตัวมากขึ้น และควรรอจนหมดฝน จึงจะเริ่มกลับเข้าไปในพื้นที่ได้อีกครั้ง เพื่อป้องกันโศกนาฎกรรมที่อาจจะเกิดขึ้นได้


    ผมอยากเตือนว่า เจ้าของบ้านที่อยู่ในพื้นที่นั้น ไม่ว่าจะเจ้าของบ้าน หรือคนที่จะเข้าไปช่วย พื้นที่บริเวณนี้ถือว่าอันตรายมาก ตรงนั้นต้องปิดเป็นพื้นที่ห้ามเข้าให้มันขยับตัวจนสมดุลเรียบร้อย จึงเข้าไปดำเนินการต่อ และต้องทำหลังจากฝนหยุดแล้วเท่านั้น

    ทั้งนี้เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ทีมสำรวจจากสำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 1 กรมทรัพยากรธรณี เข้าตรวจสอบพื้นที่ดินแยกบ้านห้วยคิง ม.6 ต.แม่เมาะ โดยเจาะดินสำรวจ 4 หลุม ความลึก 2.5 - 6.0 เมตร สรุปลักษณะชั้นดินได้ 2 ชั้นหลัก ๆ คือ ดินชั้นบนพบตั้งแต่ระดับผิวดินลงไปลึกโดยเฉลี่ยประ มาณ 2.0 เมตร เป็นดินเหนียวสีน้ำตาลแดง เนื้อดินละเอียด สม่ำเสมอ เหนียว แน่น และแห้ง รอยต่อระหว่างดินชั้นบนและชั้นล่างเป็นดินโคลนลื่นๆ มีคราบสนิมเหล็กสีน้ำตาลแดง และมีน้ำปนเยอะ ดินชั้นล่างมีความหนามากกว่า 4 เมตร เป็นดินเหนียวสีเทาอ่อน เนื้อเนียน แห้งและแข็ง ระหว่างการเจาะสำรวจ พบน้ำซึมเข้ามาในหลุมเจาะที่ระดับความลึกจากผิวดินประมาณ 2 เมตร หรือที่ระดับรอยต่อดินชั้นบนและชั้นล่าง

    TSNBg3wSBdng7ijM58pNcnEocq3aKmPSYeAhaVcBbwx.jpg

    ผลจากการเจาะสำรวจ สรุปได้ว่า รอยแตกที่ทำให้เกิดความเสียหาย ณ บริเวณจุดเกิดเหตุ เกิดจากการเคลื่อนตัวของดินชั้นบนตามแนวรอยต่อของดินทั้งสองชั้น และในขณะตรวจวันนี้ยังพบการเคลื่อนตัวของชั้นดินสูง ทำให้เกิดรอยแยกมากขึ้น ในพื้นที่ 8 ไร่ ที่เกิดการเคลื่อนตัว ขณะนี้ทางจังหวัดลำปางได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ และอพยพคนจำนวน 25 คนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว และจากการตรวจสอบดังกล่าวคาดว่า พื้นที่ประสบภัยพิบัติจะไม่ขยายตัวไปมากกว่านี้
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    FB_IMG_1508659222813.jpg FB_IMG_1508659226326.jpg

    "เมื่อไหร่ท่านนายกฯจะจัดการเรียกเก็บภาษีและเบี้ยปรับบริษัทน้ำมัน และดำเนินคดีกับข้าราชการที่ช่วยเอกชนหนีภาษี?"

    กรณีที่ผู้บริหารในกรมศุลกากรตอบข้อหารือถึงผู้บริหารบริษัทเชฟรอน(ไทย)จำกัดเรื่องการนำน้ำมันไปใช้ที่แท่นขุดเจาะเป็นการส่งออกตามหนังสือตอบข้อหารือวันที่2พฤษภาคม 2554 และ 9 เมษายน 2558นั้น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พิจารณาเห็นว่า การส่งน้ำมันเชื้อเพลิงไปใช้ที่แท่นขุดเจาะตามข้อเท็จจริงไม่ถือเป็นการส่งออก แต่ถือเป็นการค้าชายฝั่งที่ต้องเสียภาษีอากรตามปกติ

    สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจึงได้มีหนังสือถึงท่านนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เมื่อ30 กันยายน 2559 ขอให้ท่านนายกฯสั่งการให้มีการดำเนินการ2ประการ คือ

    1)สั่งให้กรมสรรพากรและกรมสรรพสามิตเรียกเก็บภาษีอากรพร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามกฎหมาย นอกจากนี้ให้เรียกเงินภาษีอากรที่มีการคืนให้บริษัทเชฟรอน(ไทย)จำกัดไปแล้ว
    กลับคืนเป็นรายได้แผ่นดิน

    2)ให้ดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งทางอาญา แพ่ง และวินัยราชการด้วย

    แต่ท่านนายกฯก็ยังไม่ได้สั่งการแต่ประการใด ต่อมาทางกระทรวงคลังแทนที่จะรีบดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายกลับทู่ซี้ส่งเรื่องนี้ให้ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความอีกว่า การส่งน้ำมันไปใช้ที่แท่นขุดเจาะนั้นถือเป็นการส่งออกหรือเป็นการค้าชายฝั่งกันแน่

    ทางคณะกรรมการกฤษฎีกา(คณะพิเศษ)ได้วินิจฉัยข้อหารือนี้ในเดือนมกราคม 2560 ความตอนหนึ่งระบุว่า

    "หากเป็นการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์น้ำมันจากในราชอาณาจักรไปยังแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมที่ตั้งอยู่บนไหล่ทวีปเพื่อใช้ในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมตามที่ขอหารือมา พ.ร.บ ปิโตรเลียมฯ ได้กำหนดนิยามของคำว่า
    "ราชอาณาจักร" ไว้เป็นการเฉพาะ ดังนั้นการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์น้ำมันจากชายฝั่งในราชอาณาจักรไปยังแท่นขุดปิโตรเลียมซึ่งตั้งอยู่ในเขตไหล่ทวีปนอกทะเลอาณาเขต
    12ไมล์ทะเล จึงต้องถือตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียมซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะ กล่าวคือ ถือว่าการขนของไปใช้ในการสำรวจและการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ดังกล่าวเป็นการประกอบกิจการปิโตรเลียมในราชอาณาจักร หากมีภาระภาษีใดๆเกิดขึ้นจากการประกอบกิจการดังกล่าว ก็ต้องมีการจัดเก็บภาษีเช่นเดียวกับการประกอบกิจการในราชอาณาจักรด้วย"

    เมื่อมีการวินิจฉัยอย่างชัดเจนจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วว่า การส่งน้ำมันไปใช้ที่แท่นขุดเจาะเป็นการค้าชายฝั่งที่ต้องเสียภาษีตามปกติ บริษัทเชฟรอนจึงต้องเสียภาษีและเบี้ยปรับตามที่สตง.ได้รายงานต่อท่านนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่นับจากเดือนมกราคม 2560 จนถึงบัดนี้ หน่วยงานที่มีหน้าที่ต้องจัดการเรื่องภาษีก็ยังทอดหุ่ยไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

    ส่วนท่านนายกรัฐมนตรีก็ยังไม่มีการสั่งการให้มีผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านเร่งรีบดำเนินการแต่ประการใดเช่นกัน

    การที่ท่านนายกฯเพิกเฉยเช่นนี้ จะเป็นการทำให้ข้าราชการที่กระทำการในทางมิชอบได้ใจและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และคนกลุ่มเดียวกันนี้ ก็ยังมาวิ่งเต้นช่วยเหลือเอกชนที่มีการส่งน้ำมันจากแหล่งพื้นที่พัฒนาร่วม(เจดีเอ)ให้ไม่ต้องเสียภาษีขาออกอีกด้วย และเหิมเกริมถึงกับเสนอให้ท่านนายกฯใช้มาตรา44 เพื่ออุ้มเอกชนให้ไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐอย่างผิดกฎหมาย และเพื่อให้เอกชนไม่ต้องรับโทษในการหลีกเลี่ยงภาษีอีกด้วย

    หากท่านนายกรัฐมนตรีไม่ดำเนินการกับทั้ง2กรณีอย่างถูกต้อง ทั้งที่มีเสียงเตือนมาแล้วอย่างเป็นทางการจาก
    สตง.อาจจะทำให้ท่าน
    นายกฯประยุทธ์ต้องตกที่นั่งเดียวกับอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์กรณีจำนำข้าวที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินกรณีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตที่ทำให้รัฐเสียหาย

    จึงใคร่ขอให้ท่านนายกฯโปรดพิจารณาดำเนินการให้มีการเรียกเก็บภาษีให้ถูกต้อง และดำเนินการสอบสวนเอาผิดข้าราชการที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติเพื่อให้รัฐเสียหายตามที่สตง.ได้รายงานมาถึงท่านนายกรัฐมนตรีโดยเร่งด่วนด้วยเถิด

    รสนา โตสิตระกูล
    22 ตุลาคม 2560
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Wudhichai Maitreesophone

    IMG_20171022_152412_290.jpg

    5555555555555......โกรธๆๆๆๆๆๆ โกรธ.....ดูเขาทำหน้าเข้าสิ ไอ้ขี้ขโมย......

    เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลโกรธจัดรัฐบาลอิรัก ที่บังอาจเข้ายึดพื้นที่บ่อน้ำมันในเขตชาวเคิร์ดทั้งหมด ในภาคเหนือของอิรัก ตั้งแต่บ่อน้ำมันเมือง Kirkuk, Mosul, Sinja แล้วก็ปิดท่อน้ำมันที่ส่งไปอิสราเอลในทันที

    เนทันยาฮู วิ่งเต้นโทรหาผู้นำโลกหลายประเทศ ให้ช่วยสั่งอิรักให้ถอนทหารออกจากเขตชาวเคิร์ดทันที และให้ส่งน้ำมันให้อิสราเอลตามปกติ

    เมื่อ 2015 Financial Times ได้วิเคราะห์ไว้ว่า เคิร์ดในอิรักภายใต้การนำของ ประธานาธิบดีรัฐบาลท้องถิ่นของชาวเคิร์ด Barzani ได้ส่งน้ำมันให้อิสราเอลถึง 77% ของความต้องการทั้งหมดของอิสราเอล ด้วยราคาที่แสนต่ำ แลกกับการสนับสนุนด้านอาวุธ

    นักวิเคราะห์เชื่อว่า ไม่มีใครกล้าออกหน้าช่วยอิสราเอลในเรื่องนี้แน่นอน และหากจะขอให้รัฐบาลอิรักเปิดท่อส่งน้ำมันให้อิสราเอลอย่างเดิม ก็ต้องเป็นไปตามราคาท้องตลาด จะขอซื้อในราคาที่เคิร์ดเคยขายให้ไม่ได้แล้ว

    อิรักยอดเยี่ยมมาก สามารถกระชากหน้ากากไอ้แสบแบบสุภาพนุ่มนวล ไม่กล่าวหาว่าร้ายใดๆ ปล่อยให้มันแหกปากออกมาประจานตัวเอง........555555555555555....สะใจวุฒิชัยย์ฯ มากๆ....
    https://www.almasdarnews.com/article/__trashed-3/
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ตะลึง!! พบ “ประตูหิน” ลึกลับ 400 ชิ้นในทะเลทรายซาอุดิอาระเบีย โดย กองบรรณาธิการ - 22 ตุลาคม 2017
    1017996-1492772647.jpg
    นักโบราณคดีได้ค้นพบโครงสร้างหินลึกลับ ที่มีอายุย้อนหลังไปหลายพันปีในทะเลทรายอาหรับ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าถูกสร้างขึ้นโดยชนเผ่าเร่ร่อน

    อาหรับนิวส์รายงานว่า โครงสร้างซึ่งประกอบจากหินเกือบ 400 ชิ้น ถูกตั้งชื่อเรียกว่า “ประตู” เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกับสนามประตูเมื่อมองจากภาพถ่ายดาวเทียม โดยล้อมรอบบริเวณภูเขาไฟฮาร์ราต คัยบาร์ (Harrat Khaybar) ในซาอุดิอาระเบีย

    นักวิจัยยังงงงวยว่า โครงสร้างเหล่านี้ถูกใช้เพื่ออะไร และใครเป็นคนสร้าง หรือถ้าเป็น “ผลงานของมนุษย์โบราณ” ที่เก่าแก่ ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับโบราณสถานที่แผ่ออกจากซีเรียไปยังประเทศซาอุดิอารเบีย

    1018001-1922217864.jpg

    ดร.เดวิด เคนเนดี้ ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดีแห่งมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลีย ระบุในบทความจากเดอะนิวยอร์กไทมส์ว่า “เรามักจะคิดว่าซาอุดิอาระเบียเป็นทะเลทราย แต่ในทางปฏิบัติมีสมบัติทางโบราณคดีขนาดใหญ่อยู่ที่นั่น และต้องมีการพิสูจน์ทราบและทำแผนที่”

    “คุณไม่สามารถมองเห็นมันได้ชัดจากระดับพื้นดิน แต่เมื่อคุณขึ้นที่สูงไม่กี่ร้อยฟุต หรือมีดาวเทียมที่สามารถเห็นจากมุมสูง พวกมันก็ปรากฏให้เห็นอย่างโดดเด่น”

    บทความที่ดร. เคนเนดี้เขียนนี้จะเผยแพร่ในฉบับเดือนพฤศจิกายนของวารสาร Arabian Archeology and Epigraphy

    ดร. เคนเนดี้กำลังศึกษาโครงสร้างเชิงมุมและวงรอบเหมือนล้อที่กระจัดกระจายอยู่เหนือทุ่งลาวาของจอร์แดนหรือ ฮาราต (harrat) ตั้งแต่ปี 1997 (พ.ศ.2540) แต่ไม่มีโอกาสได้เข้าไปใกล้โครงสร้างโบราณสถานในประเทศเพื่อนบ้านของซาอุดีอาระเบียเนื่องจากข้อจำกัดการเข้าถึง

    “เราน่าจะได้บินข้ามเข้าไปในประเทศซาอุดีอาระเบียเพื่อถ่ายภาพ แต่ไม่เคยรับอนุญาต “ดร. เคนเนดี้กล่าวและ “ภาพเหล่านี้ได้มาจากกูเกิลเอิร์ท (Google Earth)”

    1018011-1016947443.jpg

    ความลึกลับของโครงสร้างหินเริ่มขึ้นในปี 2004 (พ.ศ.2547) เมื่อดร.อับดุลลาห์ อัลซาอีด นักประสาทวิทยาและผู้ก่อตั้งทีมทะเลทราย (Desert Team) กลุ่มนักโบราณคดีสมัครเล่นในซาอุดิอาระเบียที่ได้สำรวจเขตลาวาของฮาร์ราต คัยบาร์ เขาได้พบเห็นกำแพงหินสูงประมาณสามฟุต แต่เขาบอกว่า เขายังไม่ได้เห็นคุณค่าการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกมันในเวลานั้น

    จากนั้นกระบวนการศึกษาค้นคว้าได้หยุดพักจนมาในปี 2008 (พ. ศ.2551) เมื่อดร. อัลซาอีดเดินทางกลับไปยังจุดเดิมโดยใช้กูเกิลเอิร์ท (Google Earth)

    “เมื่อผมได้เห็นภาพล่าสุดของฮาร์ราต คัยบาร์ จากกูเกิ้ลเอิร์ท ผมรู้สึกทึ่งและไม่สามารถนอนหลับในคืนนั้นได้” ดร. อัลซาอีดกล่าวและว่า “บินไปเหมือนนกโฉบไปทั่วภูเขาจากโครงสร้างลึกลับอันหนึ่งไปอีกอันหนึ่ง! เราผ่านเลยโครงสร้างเหล่านี้ได้อย่างไรโดยไม่เห็นคุณค่าการออกแบบของพวกเขา?”

    การตรวจสอบเพิ่มเติมและภาพจากกูเกิลบางส่วนที่ส่งไปยังนักโบราณคดีเช่น ดร. เคนเนดี้ ได้รับการตอบรับที่สร้างความงงงวย

    “งุนงงแน่นอน” นั่นคือความรู้สึกที่ดร.เคนเนดี้กล่าวเมื่อได้เห็นภาพดาวเทียมเป็นครั้งแรก เนื่องจากพบกับโครงสร้างที่แตกต่างจากสิ่งที่เขาเคยเห็นมาก่อน

    ขนาดที่ไม่เท่ากัน ประตูที่ยาวที่สุดมีระยะทางมากกว่าครึ่งกิโลเมตร ขณะที่ระยะสั้นที่สุดคือ 13 เมตร และระยะห่างระหว่างพวกมันต่างกันเป็นไมล์

    ดร. เคนเนดีใช้เวลาเกือบหนึ่งทศวรรษในการจัดทำรายการที่มีเกือบ 400 ประตู และหวังว่าขั้นตอนต่อไปของเขาคือการนำทีมวิจัยเข้าไปรวบรวมตัวอย่างเพื่อคาร์บอนอายุทุ่งลาวาแห่งนี้ และแม้แต่กำแพงหินเพื่อทราบอายุการก่อสร้างของพวกมัน

    “จะพบว่ามีผู้คนจำนวนมากเข้ามามีส่วนร่วมในการสำรวจภูมิทัศน์จากภาพถ่ายจากดาวเทียม” เขากล่าว
    http://www.publicpostonline.net/15836
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Wudhichai Maitreesophone

    IMG_20171022_160417_066.jpg

    เมื่อชั่วโมงเศษๆ ที่ผ่านมา มีผู้ปล่อยภาพถ่ายดาวเทียม ไฟไหม้บ่อน้ำมัน Jafra Oil Field ออกมา บ่อน้ำมันแห่งนี้อยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ ยูเฟรติส ฝั่งตรงข้ามเมือง Deir Ezzor ที่ผู้ก่อการร้าย ISIS ถอนตัวออกไปเมื่อสัปดาห์ก่อน และปัจจุบันอยู่ในความความครอบครองของ กองกำลังสหรัฐ ผสมเคิร์ด แต่ตามรายงานข่าวนี้บอกว่า บริมาณน้ำมันดิบของบ่อ Jafra Oil Field มีน้อยกว่าบ่อน้ำมัน Al-Omar เพราะที่นั่นมีปริมาณสำรองกว่า 1 ใน 4 ของประเทศซีเรีย ถ้าที่นั่นถูกเผา คงแย่แน่ๆ แต่การเผาบ่อนี้ก็เกิดความสูญเสียมากพอสมควร....

    https://www.almasdarnews.com/articl...ilitants-set-fire-major-oil-field-deir-ezzor/
    .
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Wudhichai Maitreesophone
    ตาลปัตร์ หันกลับ........

    IMG_20171022_161453_457.jpg

    เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผู้ก่อการร้าย ISIS ตั้งใจจะลุยกองทัพบกซีเรียบนเกาะ Saqr Island กะเอาให้ลงไปลอยในแม่น้ำยูฟราเตส กันเลยทีเดียว โดยฝ่ายรัฐบาลสูญเสียท่านนายพล Issam Zahreddine ในขณะนำทหารเข้าทำการรบที่เกาะ Saqr Island และรถของท่านฯ แล่นทับกับระเบิดเสียชีวิต หลังจากนั้น กำลังชุดใหญ่ของผู้ก่อการร้าย ISIS ก็เข้าตีที่ตั้งทหารซีเรียบนเกาะ Saqr Island ด้วยการระเบิดอุโมงใต้ดิน และรุกด้วยทหารราบ แต่ก็ถูกทหารซีเรียตีโต้กลับออกไป

    เมื่อวานนี้ กองกำลังของรัฐบาลซีเรีย หลังจากทำใจเรื่องสูญเสียเจ้านายผู้เคียงบ่าเคียงไหล่ รบด้วยกันมาตลอดได้ ก็จัดชุดหน่วยพิเศษรุกเข้าตีแนวป้องกันของผู้ก่อการร้าย ISIS บนเกาะ Saqr Island ด้านที่ ISIS ยังคงยึดไว้อยู่ สนับสนุนด้วยปืนใหญ่ และขีปนาวุธ และสามารถรุกข้ามแนวป้องกันอันแข็งแกร่งของผู้ก่อการร้าย ISIS ได้แล้ว เช้านี้ยังไม่มีรายงานว่าผู้ก่อการร้าย ISIS ได้ตั้งแนวป้องกันแห่งใหม่ได้หรือยัง ถ้ายังไม่ได้ บ่ายวันนี้ผู้ก่อการร้าย ISIS คงเป็นฝ่ายต้องลงไปลอยคอหนีตาย ในแม่น้ำยูเฟรติสเสียเองแล้ว.....

    อนึ่ง เกาะ Saqr Island เป็นเกาะใหญ่ กลางแม่น้ำยูเฟรติด ติดฝั่งตะวันออกของเมือง Deir Ezzor และด้านตะวันตกเฉียงใต้แยงเข้าไปในเมือง Deir Ezzor ด้วย

    รายงานนี้

    https://www.almasdarnews.com/article/syrian-army-counter-offensive-verge-pushing-isis-euphrates/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Wudhichai Maitreesophone

    IMG_20171022_162049_931.jpg
    เมื่อ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา กองกำลังพิเ
    ศษของกระทรวงมหาดไทยซีเรีย ได้ออกปฏิบัติการค้นหาผู้บัญชาการกองกำลังผู้ก่อการร้าย ที่แอบซ่อนตัวอยู่ในชานกรุงดามัสกัส และสั่งการก่อการร้ายออกไปจากที่นั่น เพื่อมอบเกียรติยศให้แก่ท่านนายพล Issam Zahreddine ผู้ล่วงลับ

    ประสบความสำเร็จได้ตัว Abu Fadi Al-Alf ผู้บัญชาการกลุ่มก่อการร้าย Faylaq Al-Rahman กับ หน่วยรักษาความปลอดภัยของตัวเขา 2 คน ที่เข้ามาอยู่หลังแนวรบ ของรัฐบาลซีเรีย ตามแผน Sneaking Behind Enemy Lines ของผู้ก่อการร้าย Faylaq Al-Rahman..
    https://www.almasdarnews.com/articl...orces-capture-top-rebel-leader-east-damascus/
     

แชร์หน้านี้

Loading...