วัตถุมงคล หลวงพ่อฤาษีฯ- หลวงปู่ชื้น-เหล็กไหล หลวงพ่อหวล-ของทนสิทธ์ฯลฯ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย saipote, 19 สิงหาคม 2012.

  1. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง

    - คุณอภิชัย ET 7257 3623 7 TH
     
  2. coolice

    coolice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +238
    จองหางช้างเผือกครับ
     
  3. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    รับทราบการจองค่า
     
  4. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** กำไรข้อมือหางช้าง (สีดำ) เพิ่มด้านความรัก**

    ช้าง เป็นสัตว์มงคล คู่บ้านคู่เมือง ตำนานในทางศาสนาทั้งพุทธและพราหมณ์ ต่างมีความเกี่ยวพันกับช้างตลอด ช้างที่ทรงฤทธิ์ในเทวฤทธิ์มีอาทิ ช้างเอราวัณ หางช้าง ถือเป็น"เครื่องราง"แต่โบราณที่เชื่อว่าช่วยป้องกัน อาถรรพ์ ปัดเป่าเสนียดจัญไร ผู้คนที่รู้ซึ้งถึงศาสตร์นี้จะแสวงหาหางช้างมาเป็นเครื่องรางประจำกาย เดินทางไปแห่งหนตำบลใดก็ปลอดภัยจากคุณไสยและมนต์ดำ

    ส่วนคนโบราณไม่ได้เรียนอาคมจะพบขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอนัยว่าเป็น เครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายป้องกันคุณไสยต่างๆในยามที่ต้อง เดินทางไกลคนโบราณเชื่ออีกว่า

    ถ้าบูชาดีขนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้ พิษภัยต่างๆล่วงหน้าด้วยอย่างสัมผัสที่หกและป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้ หางจากขนของช้างเป็นสิ่งอิงประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เนื่องจากชาวจีนโบราณจะพกขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอ

    นัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจ และสัตว์ร้ายต่างๆ ในยามที่ต้องเดินทางไกล ชาวจีนโบราณเชื่ออีกว่าชนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้ภัยพิบัติต่างๆ ล่วงหน้าด้วยญาณสัมผัสที่6และป้องกันมิให้มันเกิดขึ้นได้

    สำหรับชาวเหมอะโหน่ง (M' Nong) ซึ่งเป็นชนชาติส่วนน้อยในเขตภาคกลางเวียดนามเชื่อว่า ขนหางช้างเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความภักดี หนุ่มๆ สาวๆ มักจะมอบสิ่งนี้ให้แก่กัน เป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่ยิ่งใหญ่อันมั่นคงนั้นเอง.

    ********************************
    เครื่องรางที่หายาก เป็นหางช้างเผือกของในหลวงของเรา ได้มาจากพระตำหนักภูพาน ช้างเผือกเชือกนี้มีตำแหน่งเป็นคุณพระ ซึ่งขนหางช้างที่ดีต้องรอให้หลุดเอง ชาวจีนโบราณถือว่า เป็นตัวแทนของความรักที่มั่นคง หางช้างเผือกจะเป็นสีออกน้ำตาลใสๆ

    *หางช้างเผือก

    ช้างเผือกนั้นโบราณท่านถือว่า เป็นสัตว์ที่มีบุญญาบารมี เป็นของคู่บุญของพระมหากษัตริย์ไทยเราตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน

    ธรรมชาติของช้างจะใช้หางปัดแมลงที่เข้ามารบกวน บุรพาจารย์ท่านถือเคล็ดว่าหางช้างนั้น เป็นของดี ที่ใช้ปัดรังควาญ เสนียดจัญไร สิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง จึงนิยมนำหางช้างมาทำเป็นแหวนพิรอด

    **ทำวิชาลงอาคม ซึ่งเมื่อทำถูกต้องตามตำรับไสยเวทย์แล้ว**

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0779.jpg
      DSCN0779.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.8 KB
      เปิดดู:
      39
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2017
  5. coolice

    coolice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +238
    โอนแล้วนะครับ รบกวนจัดส่ง นายอภิวัฒน์ วงศ์ชัย ห้อง 111 อาคารหอพัก 1 สถาบันการแพทย์จักรี 111/2 หมู่ 14 ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    รับทราบการโอนค่า:)
     
  7. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** กำไรข้อมือหางช้าง (สีขาว) **

    ช้าง เป็นสัตว์มงคล คู่บ้านคู่เมือง ตำนานในทางศาสนาทั้งพุทธและพราหมณ์ ต่างมีความเกี่ยวพันกับช้างตลอด ช้างที่ทรงฤทธิ์ในเทวฤทธิ์มีอาทิ ช้างเอราวัณ หางช้าง ถือเป็น"เครื่องราง"แต่โบราณที่เชื่อว่าช่วยป้องกัน อาถรรพ์ ปัดเป่าเสนียดจัญไร ผู้คนที่รู้ซึ้งถึงศาสตร์นี้จะแสวงหาหางช้างมาเป็นเครื่องรางประจำกาย เดินทางไปแห่งหนตำบลใดก็ปลอดภัยจากคุณไสยและมนต์ดำ

    ส่วนคนโบราณไม่ได้เรียนอาคมจะพบขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอนัยว่าเป็น เครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายป้องกันคุณไสยต่างๆในยามที่ต้อง เดินทางไกลคนโบราณเชื่ออีกว่า

    ถ้าบูชาดีขนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้ พิษภัยต่างๆล่วงหน้าด้วยอย่างสัมผัสที่หกและป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้ หางจากขนของช้างเป็นสิ่งอิงประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เนื่องจากชาวจีนโบราณจะพกขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอ

    นัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจ และสัตว์ร้ายต่างๆ ในยามที่ต้องเดินทางไกล ชาวจีนโบราณเชื่ออีกว่าชนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้ภัยพิบัติต่างๆ ล่วงหน้าด้วยญาณสัมผัสที่6และป้องกันมิให้มันเกิดขึ้นได้

    สำหรับชาวเหมอะโหน่ง (M' Nong) ซึ่งเป็นชนชาติส่วนน้อยในเขตภาคกลางเวียดนามเชื่อว่า ขนหางช้างเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความภักดี หนุ่มๆ สาวๆ มักจะมอบสิ่งนี้ให้แก่กัน เป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่ยิ่งใหญ่อันมั่นคงนั้นเอง.

    ********************************
    เครื่องรางที่หายาก เป็นหางช้างเผือกของในหลวงของเรา ได้มาจากพระตำหนักภูพาน ช้างเผือกเชือกนี้มีตำแหน่งเป็นคุณพระ ซึ่งขนหางช้างที่ดีต้องรอให้หลุดเอง ชาวจีนโบราณถือว่า เป็นตัวแทนของความรักที่มั่นคง หางช้างเผือกจะเป็นสีออกน้ำตาลใสๆ

    *หางช้างเผือก

    ช้างเผือกนั้นโบราณท่านถือว่า เป็นสัตว์ที่มีบุญญาบารมี เป็นของคู่บุญของพระมหากษัตริย์ไทยเราตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน

    ธรรมชาติของช้างจะใช้หางปัดแมลงที่เข้ามารบกวน บุรพาจารย์ท่านถือเคล็ดว่าหางช้างนั้น เป็นของดี ที่ใช้ปัดรังควาญ เสนียดจัญไร สิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง จึงนิยมนำหางช้างมาทำเป็นแหวนพิรอด

    **ทำวิชาลงอาคม ซึ่งเมื่อทำถูกต้องตามตำรับไสยเวทย์แล้ว**

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0782.jpg
      DSCN0782.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.7 KB
      เปิดดู:
      31
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2017
  8. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    [​IMG]

    **จัดส่งพระบรมสารีริกธาตุรวม+พระธาตุข้าวบิณฑ์+ใบโพธิ์พุทธคยา**
    (((ขออนุโมทนาสาธุกับทุกๆ ท่านนะคะ)))
     
  9. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    แก้วมณีรัตนะ&ลูกแก้วสารพัดนึก รุ่น ๒
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงปลุกเสก)
    ปลุกเสกโดยพระราชพหรมยาน วัดท่าซุง เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๒๔

    เรื่องประวัติลูกแก้วมณีรัตนะ
    (คัดลอกจากหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า ๑๒๒-๑๒๔)

    ...ลูก แก้ว นี้มีประวัติมาจากไหน คือแก้วอาตมา มีอยู่ลูกหนึ่ง ไม่ทราบว่ามาจากไหน ทราบแต่ว่าเป็นของต้นตระกูลสืบต่อกันมาหลายชาติ ก็ขึ้นไปหาโยมท่านที่ดาวดึงส์ ไปถามโยมผู้ชายว่าโยมทราบประวัติของลูกแก้วนี้ไหม ท่านบอกว่า ท่านทราบประวัติแต่ไม่เคยใช้มาก่อน คนที่เคยใช้จริงๆ คือโยมผู้หญิง โยม ผู้หญิงท่านบอกว่า ท่านใช้มาแล้วหลายสิบชาติ และก็สมัยครองราชย์ ท่านบอกว่า เรามีแก้วลูกเล็กลูกเดียวประชากรในประเทศของเรายังไม่มีใครจนเลย ท่านเลี้ยงพอ ก็เลยถามประวัติความเป็นมา ท่านบอกว่า เดิมทีเป็นลูกแก้วลูกยอดของพระเจ้าจักรพรรดิ์ เลยถามท่านว่า เวลานี้แก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ์อยู่ที่ไหน ท่านบอกว่า อยู่ที่พระจุฬามณี จึงพาไปดู ความจริงสมัยของพระเจ้าจักรพรรดิ์ที่มีแก้วมณี มีพระขรรค์แก้ว มีเกือกแก้ว มีจักรแก้ว แต่ว่าทั้ง ๔ อย่างนี้อยู่คนละที่ มีเทวดารักษาอยู่ ถ้าใครจะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ เทวดาก็จะนำทั้ง ๔ อย่างมามอบให้ แต่ว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์คนนั้นตาย คนอื่นจะรับมรดกแทนไม่ได้ ...เทวดาต้องเอาของเขากลับคืนไป เทวดาท่านต้องหวงแหน เพราะว่าของ ๔ อย่างนี้ ต้องเป็นของคนที่มีบุญพอจึงจะครองไว้ได้

    สร้างวัดท่าซุงในตอนแรก หลวงปู่ชุ่มท่านเอามาให้ เมื่อวันที่ท่านจะกลับท่านขึ้นไปหาบนห้อง ท่านบอกว่า "น้อง ไม่ช้าพี่ก็ตาย อยู่ไม่ได้ แต่ว่าน้องจะต้องอยู่อีกนาน" ประวัติเดิม เคยเกิดเป็นพี่น้องกันมา ท่านก็เลยนำแก้วออกมา บอกว่า "แก้วลูกนี้เป็นของต้นตระกูล สืบต่อกันมาหลายชาติ น้องจงรักษาไว้ เมื่อมีลูกแก้วนี้แล้ว จะทำอะไรก็สำเร็จทุกอย่าง"

    ลักษณะ: ลูกแก้ว กลมเกลี้ยง ใส มีสีเขียวอ่อน เส้นผ่านศูนย์กลาง ๑.๔ ซ.ม. ปลุกเสกโดยมีลูกแก้วจักรพรรดิ์ของหลวงพ่อฤาษีเป็นองค์ประธาน มีอานุภาพถึงร้อยละ ๙๙ ของลูกแก้วจักณพรรดิ์องค์ประธาน เพราะพระพุทธเจ้าทรงช่วยสงเคราะห์ด้วยบารมีของพระองค์ เท่ากับว่ามี "ลูกแก้วจักพรรดิ์" ไว้ในครอบครองเลยทีเดียว

    อานุภาพ: มีอานุภาพครอบจักรวาล แล้วแต่จะอธิฐาน เช่น มหาลาภ แคล้วคลาด กันภัย รักษาโรค สามารถนำไปเลี่ยมอาธนาห้อยคอ ทำเป็นเข็มกลัด หรือเครื่องประดับอื่นๆ ได้ ตามความต้องการ

    "ผู้ที่ได้ไปก็ประสพผลในด้านต่าง ๆ ทั้งลาภผล แคล้วคลาด คงกระพัน เป็นสารพัดนึกจริง ๆ หลวงพ่อจึงเรียกว่า“แก้วมณีรัตนะ” คือ เหมือนกับมีแก้วจักรพรรดิไว้ในครอบครองนั่นเอง..." พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ ๒๘ มีนาคม ๒๕๓๓

    วิธีการใช้ลูกแก้ว
    (คัดลอกบางตอนจากหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า ๑๒๑ )

    ..."ก่อน ที่จะภาวนาคาถาให้มองดูลูกแก้วเสียก่อน จำภาพแก้วได้ ก็หลับตานึกถึงภาพแก้วนั้นแล้วก็ภาวนา นี่ทำเป็นกรรมฐาน จะภาวนา พุทโธ หรือ นะมะพะทะ ว่าได้ทุกอย่างเพราะว่าแก้วเป็นอาโลกกสิณ สำหรับอาโลกสิณนี่เป็นกสิณพื้นฐานของทิพจักขุญาณ หากว่าขณะที่หลับตาภาวนา ภาพลูกแก้วเลือนไปจากใจ ให้ลืมตาดูใหม่ จำภาพลูกแก้วแล้วภาวนาต่อไป จนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจ คราวหลังเราไม่ต้องมองดูลูกแก้ว แต่นึกภาพลูกแก้วได้เป็นปกติอย่างนี้ท่านเรียกว่า อุคหนิมิต อุคหนิมิตนี่เป็น อุปจารสมาธิ เป็นผลของทิพจักขุณาณ เมื่อทำอย่างนี้เรื่อยๆ ไปจนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจอยู่เสมอ ต่อมาก็อธิฐานให้ลูกแก้วโตขึ้น ก็จะเห็นภาพลูกแก้วโตขึ้น อธิฐานให้เล็กลงก็จะเล็กลง ให้อยู่สูงก็อยู่สูง ให้อยู่ต่ำก็อยู่ต่ำ อยู่หน้าก็ได้ อยู่หลังก็โด้ตามชอบใจ อย่างนี้เป็น ปฏิภาคนิมิต ถือว่าเป็นนิมิตสูงสุดส่วนหนึ่ง..."

    "ใน เมื่อเห็นลูกแก้วชัดเจนแจ่มใสดีเท่าไหร่ ความเป็นทิพจักขุญาณของท่านพุทธบริษัทที่จะเห็นภาพอื่นก็จะเห็นชัดเจนเท่า นั้น แต่ว่าถ้าเห็นลูกแก้วชัดเจนดีแล้ว ต่อไปก็อธิฐานขอให้ภาพลูกแก้วหายไป ขอภาพของพระพุทธเจ้าจงปรากฏ ในเมื่อเห็นภาพของพระพุทธเจ้าปรากฏแทน ขอให้อธิฐานให้พระองค์โตขึ้น ภาพของพระพุทธเจ้าโตขึ้น ขอให้พระองค์ทรงเล็กลง ก็เล็กลง ให้สูงให้ต่ำได้ตามความต้องการ อย่างนี้ถือว่าถึง ที่สุด ของ มโนมยิทธิ

    ถ้า ทำมโนมยิทธิได้ตามนี้แล้วจึงเคลื่อนออก ถ้าเคลื่อนไปไหนจิตกับกายจะตัดกันเด็ดขาด คือว่าไป สุดตัว ถ้าไปสุดตัวก็จะได้พบทุกอย่าง จะพบเทวดา จะพบพรหมก็ดี พบพระอรหันต์ก็ดี เราก็จะมีสภาพไปนั่งคุยกันอย่างสบาย เหมือนนั่งคุยกันอยู่นี่ ถือว่าเป็นการเต็มมโนมยิทธิที่ศึกษา เพราะมโนมยิทธิที่ศึกษากันอยู่เวลานี้ เราใช้กำลังครึ่งเดียว..."

    "แต่ว่าเพื่อผลประโยชน์ของบรรดาท่านพุทธบริษัทว่า

    "ทุก คนยังต้องกินต้องใช้ พระพุทธเจ้าก็ทรงห่วงเหมือนกัน ท่านถือว่าถ้าทุกคนยากจนเสียจริงๆ ไม่มีกินมีใช้ การเจริญสมาธิก็ไม่มีผล เพราะมีความเดือดร้อน"

    ฉนั้นท่านจึงแนะนำว่า ถ้า ทำสมาธิในด้านของกรรมฐานครบถ้วนพอใจแล้ว หลังจากนั้นให้ต่อด้วย คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า (คาถาเงินล้านปัจจุบัน) และเวลาที่เจริญพระกรรมฐานทรงฌาณเท่าไร คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็จะทรงฌาณเท่านั้น เมื่อคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าทรงเป็นฌาณ การเงินของท่านพุทธบริษัทจะมีการคล่องตัวดีมาก ถ้าปฏิบัติได้เป็นฌาณจริงๆ คือ เห็นภาพชัดจริงให้สังเกตุดูว่า หลังจากทำไป ๓ เดือน ผลการปฏิบัติลาภสักการะจะเกิด การเงินไม่ฝืดเคือง ยิ่งทำนานมากเงินก็จะยิ่งขังตัว..."

    "เงิน เดือนที่ไม่ค่อยพอเดือน มันก็จะเริ่มพอเดือน เดือนหน้ากับเดือนหลัง มันสวัสดีกันได้ก็พอตัวแล้ว ต่อมาเจ้าเดือนหน้ามันไม่ยอมไป เดือนใหม่ก็ยังมีมาอีก มันเริ่มขังตัว มันเริ่มขังตัวแน่นะ รวมความว่า มันนอนคุยกันในกระเป๋าได้ ทำตามนี้มีผลจริงๆ นะ และวิธีที่ใช้เงินในคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็มีแบบหนึ่ง ซึ่งเคยได้กล่าวไว้แล้ว.."

    แก้ว มณีรัตนะรุ่น ๑ หลวงพ่อได้เมตตาทำแก้วมณีรัตนะให้ลูกหลานครั้งแรก เมื่อปี ๒๕๑๗ โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านไปหาซื้อเองจากตลาดจังหวัดชัยนาท ลูกแก้วท่านได้มาเป็นลูกแก้วใสที่มีแก้วสีรูปเกลียวมะเฟืองด้านใน

    แก้วมณีรัตนะรุ่น ๒ เป็นลูกแก้วแก้วใสและสีเขียว ปลุกเสกเมื่อ วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ แก้ว มณีรัตนะมีอีกหลายรุ่นหลายแบบ มีทั้งทำด้วยแก้ว แก้วเจียระไน และเพชรรัสเซีย และมีประกอบเป็นเครื่องประดับต่างๆ เช่น จี้ห้อยคอ ต่างหู แหวน เข็มกลัดติดเสื้อ

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2017
  10. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **แก้วมณีรัตนะ&ลูกแก้วสารพัดนึก รุ่น ๒**
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงปลุกเสก)
    ปลุกเสกโดยพระราชพหรมยาน วัดท่าซุง เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๒๔

    เรื่องประวัติลูกแก้วมณีรัตนะ
    (คัดลอกจากหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า ๑๒๒-๑๒๔)

    ...ลูก แก้ว นี้มีประวัติมาจากไหน คือแก้วอาตมา มีอยู่ลูกหนึ่ง ไม่ทราบว่ามาจากไหน ทราบแต่ว่าเป็นของต้นตระกูลสืบต่อกันมาหลายชาติ ก็ขึ้นไปหาโยมท่านที่ดาวดึงส์ ไปถามโยมผู้ชายว่าโยมทราบประวัติของลูกแก้วนี้ไหม ท่านบอกว่า ท่านทราบประวัติแต่ไม่เคยใช้มาก่อน คนที่เคยใช้จริงๆ คือโยมผู้หญิง โยม ผู้หญิงท่านบอกว่า ท่านใช้มาแล้วหลายสิบชาติ และก็สมัยครองราชย์ ท่านบอกว่า เรามีแก้วลูกเล็กลูกเดียวประชากรในประเทศของเรายังไม่มีใครจนเลย ท่านเลี้ยงพอ ก็เลยถามประวัติความเป็นมา ท่านบอกว่า เดิมทีเป็นลูกแก้วลูกยอดของพระเจ้าจักรพรรดิ์ เลยถามท่านว่า เวลานี้แก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ์อยู่ที่ไหน ท่านบอกว่า อยู่ที่พระจุฬามณี จึงพาไปดู ความจริงสมัยของพระเจ้าจักรพรรดิ์ที่มีแก้วมณี มีพระขรรค์แก้ว มีเกือกแก้ว มีจักรแก้ว แต่ว่าทั้ง ๔ อย่างนี้อยู่คนละที่ มีเทวดารักษาอยู่ ถ้าใครจะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ เทวดาก็จะนำทั้ง ๔ อย่างมามอบให้ แต่ว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์คนนั้นตาย คนอื่นจะรับมรดกแทนไม่ได้ ...เทวดาต้องเอาของเขากลับคืนไป เทวดาท่านต้องหวงแหน เพราะว่าของ ๔ อย่างนี้ ต้องเป็นของคนที่มีบุญพอจึงจะครองไว้ได้

    สร้างวัดท่าซุงในตอนแรก หลวงปู่ชุ่มท่านเอามาให้ เมื่อวันที่ท่านจะกลับท่านขึ้นไปหาบนห้อง ท่านบอกว่า "น้อง ไม่ช้าพี่ก็ตาย อยู่ไม่ได้ แต่ว่าน้องจะต้องอยู่อีกนาน" ประวัติเดิม เคยเกิดเป็นพี่น้องกันมา ท่านก็เลยนำแก้วออกมา บอกว่า "แก้วลูกนี้เป็นของต้นตระกูล สืบต่อกันมาหลายชาติ น้องจงรักษาไว้ เมื่อมีลูกแก้วนี้แล้ว จะทำอะไรก็สำเร็จทุกอย่าง"


    ลักษณะ: ลูกแก้ว กลมเกลี้ยง ใส มีสีเขียวอ่อน เส้นผ่านศูนย์กลาง ๑.๔ ซ.ม. ปลุกเสกโดยมีลูกแก้วจักรพรรดิ์ของหลวงพ่อฤาษีเป็นองค์ประธาน มีอานุภาพถึงร้อยละ ๙๙ ของลูกแก้วจักณพรรดิ์องค์ประธาน เพราะพระพุทธเจ้าทรงช่วยสงเคราะห์ด้วยบารมีของพระองค์ เท่ากับว่ามี "ลูกแก้วจักพรรดิ์" ไว้ในครอบครองเลยทีเดียว

    อานุภาพ: มีอานุภาพครอบจักรวาล แล้วแต่จะอธิฐาน เช่น มหาลาภ แคล้วคลาด กันภัย รักษาโรค สามารถนำไปเลี่ยมอาธนาห้อยคอ ทำเป็นเข็มกลัด หรือเครื่องประดับอื่นๆ ได้ ตามความต้องการ

    "ผู้ที่ได้ไปก็ประสพผลในด้านต่าง ๆ ทั้งลาภผล แคล้วคลาด คงกระพัน เป็นสารพัดนึกจริง ๆ หลวงพ่อจึงเรียกว่า“แก้วมณีรัตนะ” คือ เหมือนกับมีแก้วจักรพรรดิไว้ในครอบครองนั่นเอง..." พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ ๒๘ มีนาคม ๒๕๓๓

    วิธีการใช้ลูกแก้ว
    (คัดลอกบางตอนจากหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า ๑๒๑ )

    ..."ก่อน ที่จะภาวนาคาถาให้มองดูลูกแก้วเสียก่อน จำภาพแก้วได้ ก็หลับตานึกถึงภาพแก้วนั้นแล้วก็ภาวนา นี่ทำเป็นกรรมฐาน จะภาวนา พุทโธ หรือ นะมะพะทะ ว่าได้ทุกอย่างเพราะว่าแก้วเป็นอาโลกกสิณ สำหรับอาโลกสิณนี่เป็นกสิณพื้นฐานของทิพจักขุญาณ หากว่าขณะที่หลับตาภาวนา ภาพลูกแก้วเลือนไปจากใจ ให้ลืมตาดูใหม่ จำภาพลูกแก้วแล้วภาวนาต่อไป จนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจ คราวหลังเราไม่ต้องมองดูลูกแก้ว แต่นึกภาพลูกแก้วได้เป็นปกติอย่างนี้ท่านเรียกว่า อุคหนิมิต อุคหนิมิตนี่เป็น อุปจารสมาธิ เป็นผลของทิพจักขุณาณ เมื่อทำอย่างนี้เรื่อยๆ ไปจนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจอยู่เสมอ ต่อมาก็อธิฐานให้ลูกแก้วโตขึ้น ก็จะเห็นภาพลูกแก้วโตขึ้น อธิฐานให้เล็กลงก็จะเล็กลง ให้อยู่สูงก็อยู่สูง ให้อยู่ต่ำก็อยู่ต่ำ อยู่หน้าก็ได้ อยู่หลังก็โด้ตามชอบใจ อย่างนี้เป็น ปฏิภาคนิมิต ถือว่าเป็นนิมิตสูงสุดส่วนหนึ่ง..."

    "ใน เมื่อเห็นลูกแก้วชัดเจนแจ่มใสดีเท่าไหร่ ความเป็นทิพจักขุญาณของท่านพุทธบริษัทที่จะเห็นภาพอื่นก็จะเห็นชัดเจนเท่า นั้น แต่ว่าถ้าเห็นลูกแก้วชัดเจนดีแล้ว ต่อไปก็อธิฐานขอให้ภาพลูกแก้วหายไป ขอภาพของพระพุทธเจ้าจงปรากฏ ในเมื่อเห็นภาพของพระพุทธเจ้าปรากฏแทน ขอให้อธิฐานให้พระองค์โตขึ้น ภาพของพระพุทธเจ้าโตขึ้น ขอให้พระองค์ทรงเล็กลง ก็เล็กลง ให้สูงให้ต่ำได้ตามความต้องการ อย่างนี้ถือว่าถึง ที่สุด ของ มโนมยิทธิ

    ถ้า ทำมโนมยิทธิได้ตามนี้แล้วจึงเคลื่อนออก ถ้าเคลื่อนไปไหนจิตกับกายจะตัดกันเด็ดขาด คือว่าไป สุดตัว ถ้าไปสุดตัวก็จะได้พบทุกอย่าง จะพบเทวดา จะพบพรหมก็ดี พบพระอรหันต์ก็ดี เราก็จะมีสภาพไปนั่งคุยกันอย่างสบาย เหมือนนั่งคุยกันอยู่นี่ ถือว่าเป็นการเต็มมโนมยิทธิที่ศึกษา เพราะมโนมยิทธิที่ศึกษากันอยู่เวลานี้ เราใช้กำลังครึ่งเดียว..."

    "แต่ว่าเพื่อผลประโยชน์ของบรรดาท่านพุทธบริษัทว่า

    "ทุก คนยังต้องกินต้องใช้ พระพุทธเจ้าก็ทรงห่วงเหมือนกัน ท่านถือว่าถ้าทุกคนยากจนเสียจริงๆ ไม่มีกินมีใช้ การเจริญสมาธิก็ไม่มีผล เพราะมีความเดือดร้อน"

    ฉนั้นท่านจึงแนะนำว่า ถ้า ทำสมาธิในด้านของกรรมฐานครบถ้วนพอใจแล้ว หลังจากนั้นให้ต่อด้วย คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า (คาถาเงินล้านปัจจุบัน) และเวลาที่เจริญพระกรรมฐานทรงฌาณเท่าไร คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็จะทรงฌาณเท่านั้น เมื่อคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าทรงเป็นฌาณ การเงินของท่านพุทธบริษัทจะมีการคล่องตัวดีมาก ถ้าปฏิบัติได้เป็นฌาณจริงๆ คือ เห็นภาพชัดจริงให้สังเกตุดูว่า หลังจากทำไป ๓ เดือน ผลการปฏิบัติลาภสักการะจะเกิด การเงินไม่ฝืดเคือง ยิ่งทำนานมากเงินก็จะยิ่งขังตัว..."

    "เงิน เดือนที่ไม่ค่อยพอเดือน มันก็จะเริ่มพอเดือน เดือนหน้ากับเดือนหลัง มันสวัสดีกันได้ก็พอตัวแล้ว ต่อมาเจ้าเดือนหน้ามันไม่ยอมไป เดือนใหม่ก็ยังมีมาอีก มันเริ่มขังตัว มันเริ่มขังตัวแน่นะ รวมความว่า มันนอนคุยกันในกระเป๋าได้ ทำตามนี้มีผลจริงๆ นะ และวิธีที่ใช้เงินในคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็มีแบบหนึ่ง ซึ่งเคยได้กล่าวไว้แล้ว.."

    แก้ว มณีรัตนะรุ่น ๑ หลวงพ่อได้เมตตาทำแก้วมณีรัตนะให้ลูกหลานครั้งแรก เมื่อปี ๒๕๑๗ โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านไปหาซื้อเองจากตลาดจังหวัดชัยนาท ลูกแก้วท่านได้มาเป็นลูกแก้วใสที่มีแก้วสีรูปเกลียวมะเฟืองด้านใน

    แก้วมณีรัตนะรุ่น ๒ เป็นแก้วกลมใสและสีเขียวอ่อน ปลุกเสกเมื่อ วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ แก้ว มณีรัตนะมีอีกหลายรุ่นหลายแบบ มีทั้งทำด้วยแก้ว แก้วเจียระไน และเพชรรัสเซีย และมีประกอบเป็นเครื่องประดับต่างๆ เช่น จี้ห้อยคอ ต่างหู แหวน เข็มกลัดติดเสื้อ

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • get_aucๅ_img.php.jpg
      get_aucๅ_img.php.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.7 KB
      เปิดดู:
      35
    • DSCN0455.jpg
      DSCN0455.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.3 KB
      เปิดดู:
      47
    • DSCN0458.jpg
      DSCN0458.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.5 KB
      เปิดดู:
      49
    • DSCN0460.jpg
      DSCN0460.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.2 KB
      เปิดดู:
      52
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2017
  11. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง

    - คุณอภิวัฒน์ ED 2360 2742 5 TH
     
  12. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** กำไรข้อมือหางช้าง (สีขาว) **

    ช้าง เป็นสัตว์มงคล คู่บ้านคู่เมือง ตำนานในทางศาสนาทั้งพุทธและพราหมณ์ ต่างมีความเกี่ยวพันกับช้างตลอด ช้างที่ทรงฤทธิ์ในเทวฤทธิ์มีอาทิ ช้างเอราวัณ หางช้าง ถือเป็น"เครื่องราง"แต่โบราณที่เชื่อว่าช่วยป้องกัน อาถรรพ์ ปัดเป่าเสนียดจัญไร ผู้คนที่รู้ซึ้งถึงศาสตร์นี้จะแสวงหาหางช้างมาเป็นเครื่องรางประจำกาย เดินทางไปแห่งหนตำบลใดก็ปลอดภัยจากคุณไสยและมนต์ดำ

    ส่วนคนโบราณไม่ได้เรียนอาคมจะพบขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอนัยว่าเป็น เครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายป้องกันคุณไสยต่างๆในยามที่ต้อง เดินทางไกลคนโบราณเชื่ออีกว่า

    ถ้าบูชาดีขนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้ พิษภัยต่างๆล่วงหน้าด้วยอย่างสัมผัสที่หกและป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้ หางจากขนของช้างเป็นสิ่งอิงประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เนื่องจากชาวจีนโบราณจะพกขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอ

    นัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจ และสัตว์ร้ายต่างๆ ในยามที่ต้องเดินทางไกล ชาวจีนโบราณเชื่ออีกว่าชนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้ภัยพิบัติต่างๆ ล่วงหน้าด้วยญาณสัมผัสที่6และป้องกันมิให้มันเกิดขึ้นได้

    สำหรับชาวเหมอะโหน่ง (M' Nong) ซึ่งเป็นชนชาติส่วนน้อยในเขตภาคกลางเวียดนามเชื่อว่า ขนหางช้างเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความภักดี หนุ่มๆ สาวๆ มักจะมอบสิ่งนี้ให้แก่กัน เป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่ยิ่งใหญ่อันมั่นคงนั้นเอง.

    ********************************
    เครื่องรางที่หายาก เป็นหางช้างเผือกของในหลวงของเรา ได้มาจากพระตำหนักภูพาน ช้างเผือกเชือกนี้มีตำแหน่งเป็นคุณพระ ซึ่งขนหางช้างที่ดีต้องรอให้หลุดเอง ชาวจีนโบราณถือว่า เป็นตัวแทนของความรักที่มั่นคง หางช้างเผือกจะเป็นสีออกน้ำตาลใสๆ

    *หางช้างเผือก

    ช้างเผือกนั้นโบราณท่านถือว่า เป็นสัตว์ที่มีบุญญาบารมี เป็นของคู่บุญของพระมหากษัตริย์ไทยเราตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน

    ธรรมชาติของช้างจะใช้หางปัดแมลงที่เข้ามารบกวน บุรพาจารย์ท่านถือเคล็ดว่าหางช้างนั้น เป็นของดี ที่ใช้ปัดรังควาญ เสนียดจัญไร สิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง จึงนิยมนำหางช้างมาทำเป็นแหวนพิรอด

    **ทำวิชาลงอาคม ซึ่งเมื่อทำถูกต้องตามตำรับไสยเวทย์แล้ว**

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0782.jpg
      DSCN0782.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.7 KB
      เปิดดู:
      28
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2017
  13. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **รูปหล่อสมเด็จองค์ปฐม รุ่น 1 วัดโขงขาว**
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงปลุกเสก)

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน ( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) พุทธาภิเษก 3 ปีซ้อนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง พุทธาภิเษกพร้อมพิธีบวงสรวง ที่วัดโขงขาว ๓ ปี ตั้งแต่ ๒๕๓๒ – ๒๕๓๔ ในงานทอดกฐินวัดโขงขาว จ.เชียงใหม่ เดิมที ทางหลวงพ่อบุญรัตน์สร้างพระขึ้นมาโดยคิดว่าให้เป็นรูปพระพุทธชินราช ไม่ได้คิดว่าจะเป็นสมเด็จองค์ปฐม พอกราบเรียนให้หลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านอธิษฐานจิต ท่านก็ถามว่า อะไรอยู่ในกล่องลองเอามาให้ดูหน่อยสิ เมื่อหลวงพ่อบุญรัตน์มาหยิบไปให้ท่านดู ท่านก็ปรารภว่า "นี่ไม่ใช่พระพุทธชินราชนะ นี่คือสมเด็จองค์ปฐม" จากนั้นท่านก็อธิษฐานจิตให้ และก็ อธิษฐานให้อีก 2 วาระ ในปี 2533 2534 คราวนำกฐินมาทอดที่วัดโขงขาว สร้างก่อนรุ่น 1 วัดท่าซุง ด้วย สมเด็จองค์ปฐมวัดท่าซุงทุกรุ่นพุทธาภิเษกเพียงครั้งเดียว แต่รุ่นนี้พุทธาภิเษกถึง 3 ครั้ง บูชาพระองค์นี้รับรองได้ว่า มหาลาภ มหาโชค การเงินคล่องตัว เจริญรุ่งเรือง แน่ๆ ครับ... ตามปกติเวลาที่ท่านทำพิธีบวงสรวง และ ปลุกเสก

    หลวงพ่อท่านจะเล่าว่า สมเด็จองค์ปฐมท่านลงมาปลุกเสก พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์ทุกพระองค์ลงมาหมดทั้งพระนิพพาน ปลุกเสกด้านลาภ พระพุทธเจ้าด้านลาภมากที่สุดคือพระพุทธกัสสป พระพุทธทีปังกรท่านมาด้านหน้า ท่านเปรียบเทียบให้ฟังว่าพระสีวลีไปไกลมากมองไม่เห็นเลย จะหาพระที่ทำได้อย่างหลวงพ่อวัดท่าซุงนั้น ยากถึงยากมากๆ แล้วพระสมเด็จองค์ปฐมรุ่นนี้ ท่านเมตตา เสกยาวนาน ถึง 3 ปี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 20171116_140335.jpg
      20171116_140335.jpg
      ขนาดไฟล์:
      362.9 KB
      เปิดดู:
      54
    • 20171116_140401.jpg
      20171116_140401.jpg
      ขนาดไฟล์:
      339.9 KB
      เปิดดู:
      49
    • 20171116_140439.jpg
      20171116_140439.jpg
      ขนาดไฟล์:
      328.8 KB
      เปิดดู:
      51
    • DSCN4514.jpg
      DSCN4514.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.2 KB
      เปิดดู:
      41
    • DSCN4516.jpg
      DSCN4516.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.2 KB
      เปิดดู:
      42
    • DSCN4517.jpg
      DSCN4517.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.8 KB
      เปิดดู:
      44
    • DSCN4518.jpg
      DSCN4518.jpg
      ขนาดไฟล์:
      96 KB
      เปิดดู:
      36
    • DSCN4528.jpg
      DSCN4528.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101 KB
      เปิดดู:
      37
    • DSCN4520.jpg
      DSCN4520.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58 KB
      เปิดดู:
      43
    • DSCN4523.jpg
      DSCN4523.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.7 KB
      เปิดดู:
      40
    • DSCN4533.jpg
      DSCN4533.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.7 KB
      เปิดดู:
      38
    • DSCN4547.jpg
      DSCN4547.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.7 KB
      เปิดดู:
      48
    • DSCN4522.jpg
      DSCN4522.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.9 KB
      เปิดดู:
      37
    • DSCN4559.jpg
      DSCN4559.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.8 KB
      เปิดดู:
      37
  14. rt5038

    rt5038 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +2,615
    ขอจองรูปหล่อสมเด็จองค์ปฐม รุ่น 1 วัดโขงขาว(องค์ที่อยู่ในกรอบ)..ขอบคุณครับ.
     
  15. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    รับทราบการจองค่า
     
  16. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง

    - คุณสุวิชัย ET 9189 7989 1 TH
     
  17. rt5038

    rt5038 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +2,615
    ลืมถามไปว่าค่าบูชา+ค่าส่งเท่าไหร่ครับ ?
     
  18. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ให้บูชาที่ 1,050- (รวมจัดส่งค่า)
     
  19. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง

    - คุณธนาธิป ET 9189 7990 5 TH
     
  20. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **รูปหล่อสมเด็จองค์ปฐม รุ่น 1 วัดโขงขาว**3
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงปลุกเสก)

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน ( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) พุทธาภิเษก 3 ปีซ้อนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง พุทธาภิเษกพร้อมพิธีบวงสรวง ที่วัดโขงขาว ๓ ปี ตั้งแต่ ๒๕๓๒ – ๒๕๓๔ ในงานทอดกฐินวัดโขงขาว จ.เชียงใหม่ เดิมที ทางหลวงพ่อบุญรัตน์สร้างพระขึ้นมาโดยคิดว่าให้เป็นรูปพระพุทธชินราช ไม่ได้คิดว่าจะเป็นสมเด็จองค์ปฐม พอกราบเรียนให้หลวงพ่อพระราชพรหมยานท่าน อธิษฐานจิต ท่านก็ถามว่า อะไรอยู่ในกล่องลองเอามาให้ดูหน่อยสิ เมื่อหลวงพ่อบุญรัตน์มาหยิบไปให้ท่านดู ท่านก็ปรารภว่า "นี่ไม่ใช่พระพุทธชินราชนะ นี่คือสมเด็จองค์ปฐม" จากนั้นท่านก็อธิษฐานจิตให้ และก็ อธิษฐานให้อีก 2 วาระ ในปี 2533 2534 คราวนำกฐินมาทอดที่วัดโขงขาว สร้างก่อนรุ่น 1 วัดท่าซุง ด้วย สมเด็จองค์ปฐมวัดท่าซุงทุกรุ่นพุทธาภิเษกเพียงครั้งเดียว แต่รุ่นนี้พุทธาภิเษกถึง 3 ครั้ง บูชาพระองค์นี้รับรองได้ว่า มหาลาภ มหาโชค การเงินคล่องตัว เจริญรุ่งเรือง แน่ๆ ครับ... ตามปกติเวลาที่ท่านทำพิธีบวงสรวง และ ปลุกเสก

    หลวงพ่อท่านจะเล่าว่า สมเด็จองค์ปฐมท่านลงมาปลุกเสก พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์ทุกพระองค์ ลงมาหมดทั้งพระนิพพาน ปลุกเสกด้านลาภ พระพุทธเจ้าด้านลาภมากที่สุดคือพระพุทธกัสสป พระพุทธทีปังกรท่านมาด้านหน้า ท่านเปรียบเทียบให้ฟังว่าพระสีวลีไปไกลมากมองไม่เห็นเลย จะหาพระที่ทำได้อย่างหลวงพ่อวัดท่าซุงนั้น ยากถึงยากมากๆ แล้วพระสมเด็จองค์ปฐมรุ่นนี้ ท่านเมตตา เสกยาวนาน ถึง 3 ปี

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...