เห็นความจริงเพื่อละ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย แค่พลัง, 21 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    จู่ๆผมก็แว๊บว่า เอเรานี่มาผิดทางหรือเปล่า จริงแล้วเราต้องไม่ต้องพยายามละกิเลสหรอก
    มันไม่มีทาง แต่เราฝึกและปฏิบัติเพื่อเห็นความจริงเพื่อจะละนี่เอง พอผมเห็นแบบนี้ได้
    วิธีการต่างผมข้ามไปเลยผมมาลงตรงสติของผมอย่างเดียว มีท่านใดเห็นต่างยินดีรับฟังขอรับ
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ถ้าเห็น จริงๆ แบบ ชัดๆ จะไม่มี อาการมา ซาวน์ด์เสียง

    ถ้า ยังมา ซาว(ร่อน)เสียง อยู่ รู้ให้ทัน มันยัง ขยับหลอกอยู่

    ยังไม่เห็นรู้เพื่อละ ลง ปัจจุบัน จิตยังไม่ถึงฐาน

    พอ รู้ได้แบบ จิตถึงฐาน ไม่มีหลอก มา ซาวเสียง เพื่อให้ จิตมันเสีย
    เว้นแต่ จะทราบชัด อินทรีย์ พละ ไม่ใช่การสะสม ปะผุ ใครช่วย
    ยืนยันทีว่า มาถูกทาง

    เอกังนามกิงไม่เห็น

    เห็นแต่ เอวังนามลิง ตลิงปลิง ธรรม-แชต


    ปล. ไม่ได้ให้เปลี่ยนการเห็นนะ เห็น แบบที่เห็นนั่นแหละ
    รู้ซ้ำลงไป มันยัง ตัวปลอม สติ ยังเป็น สแตก
     
  3. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ภาษาอ่านเข้ายากนะ แต่เหมือนจะเข้าใจ
     
  4. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014


    เพิ่มเติมอีกหน่อย เหตุการณ์มันยังน้อยไป
    เล่าประสพการณ์มาหน่อยครับ
     
  5. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ตอนแรกๆผมเจอประโยคให้อยู่กับปัจจุปัน เมื่อก่อนผมไม่เข้าใจหรอก

    มันฟังง่ายแต่ยากเหลือเกิน แต่พอมาฝึกๆและก็มีไปทำสมถะอีก

    แต่ทำสติปัฐฐานด้วย เออนะทุกอย่างมันมารวมกันตรงจุดเดียวคือปัจจุบัน

    คือผมอยู่กับใจจนยิน เลยเห็นความคิด เห็นความรู้สึก เห็นอารมณ์

    ซึ่งมันก็คนละส่วนคนละตัว ความรู้สึกคือกระทบแล้วรู้

    แต่อารมณ์คือมันเกิดจากอุปทาน พอผมพบเจอแบบนี้แล้ว

    ผมศรัทธาและก้มกราบด้วยใจต่อพระศาสดาระลึกถึงพระคุณที่เผยแพร่

    ในความจริงมันก็เข้าว่าง่ายได้เข้าใกล้ความจริง เลยอยากสนทนาครับ
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ยังมี "วิตถาร" กว่านี้ ( วิตถาร แปลว่า ลัดสั้น )

    ทุกปฏิปทา ที่ สมาทาน ....พอถึงจุดๆนึง มันจะกลายเป็น "สัญญา"

    ยิ่งคุ้นชินมาก การปรากฏของ การเป็น กองสัญญา จะยิ่งให้ รส ชัด (บาลี เรียกว่า ฉลาดในสัญญาอันเดียว กิจเดียว รสเดียว)

    ดังนั้น พอถึงจุดๆนึง ตัวปฏิปทา(สมถะ+วิปัสสนา)จะต้อง แสดงไตรลักษณ์
    หาก นักภาวนา ไม่ประมาท มีการเพ่งพิสูจน์ ท้าทาย หา ธรรม อยู่

    นะ

    สัญญาเกิด ดับ พิจารณาเข้ามา ทุกปฏิปทา นั่นแหละ ตัว ทุกข(สัจจ)

    อย่า พยามอ่านเพื่อ เอาความรู้เรื่อง(เข้าใจ) เขาให้เห็น สัจจธรรม
    อริยธรรม ความเป็นจริง

    รู้ช้า รู้เร็ว รู้เรื่อยๆ รู้ให้มากๆ แต่ ไม่ใช่ รู้เรื่อง ที่คอยเอาไปเทียบ
    เหมือนหลวงปู่ เหมือนหลวงตา เหมือนใครต่อใคร เฮีย อะไร
     
  7. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    สัมมาทิฏฐิ 10 ประการ ได้แก่
    1. ทานที่ให้แล้วมีผลจริง
    2. ยัญที่ทำแล้วมีผลจริง
    3. การเซ่นสรวงหรือการบูชามีผลจริง
    4. วิบากแห่งกรรมดีกรรมชั่วมีผลจริง
    5. โลกนี้มีจริง
    6. โลกหน้ามีจริง
    7. มารดามีคุณจริง
    8. บิดามีคุณจริง
    9. สัตว์ที่ผุดเกิดขึ้นมีจริง
    10. พระอรหันต์ผู้ สามารถรู้แจ้งโลกนี้โลกหน้ามีอยู่จริง
    ขอยกสัมมาทิฏฐิมาประกอปนะครับ
    อยากให้คุณเจ้าของกระทู้พิจารณาถึงสิ่งที่ มี และสิ่งที่ ไม่ใช่ตน
    พิจารณาความเป็นอนิจจัง ทุขขัง อนัตตา ว่ามัน มีอย่างไร ไม่มีอย่างไร
    จริงๆกันแน่ ที่มีบอกว่าไม่มีไม่มีอย่างไร ที่ไม่มีบอกว่ามีมีอยู่อย่างไร
    ท่ารู้ว่าอะไรเป็นเหตุอะไรเป็นผลของเหตุก้จะรู้ว่า ทำอะไรเพื่ออะไรครับ
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ขออีกหมัด เว้ยเฮ้ย ต้อง เตะโด่ง ส่งสวด

    " รู้จบลงที่รู้ "

    " รู้เหมือนเข็มสละด้าย "

    " รู้แล้ว พูดได้ ปรึกษาได้ อยากบอกว่าเจอ " เอา สันติ ไปกิน ได้เลย
     
  9. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ธมฺมฏฺฐิตตา ธมฺมนิยามตา
    เอ่อ ต้องแยกปัจจุบันให้ด้วยหรือกระมัง
     
  10. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ทิฏฐิมากนะครับ 555+ ก้รออยู่ว่าจะตอบอย่างไร กลับย้อนไปว่าคนบอกไม่รู้ว่ามองจิตแยกเป็น เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน ในปัจจุบัน

    คุณนิวรนี่เรียกว่ายกแคลคูลัสมาให้คุณซึ่งพึ่งทำปฐมถอดกันเลยทีเดียวในสัญญา สังขาร วิญญานที่รับรู้ ผมยกมาแค่ธรรมง่ายๆเพื่อให้พิจารณาว่ามันต้องรู้ถึงความตั้งอยู่ ความมีขึ้น ด้วยว่ามันมีเหตุอย่างไรมีขึ้นอย่างไร แล้วดับไปไม่มีอย่างไร
    ขอแนะนำแค่อีกนิดเดียว สัมมาทิฐิและสักกายยะทิฐิเห็นขาดแตกต่างกัน เกิดปัญญาไม่เท่ากัน ไปพิจารณาสักกายทิฐิดูสิครับ ไปพิจารณาสักกายทิฐิดู
    ผมตอบดพสของคุณน้อยมากนะมาคุยในกระทู้คุณก้บ่อยแต่คุยคนอื่นซะเยอะ เพราะอินทรีคุณไม่พร้อมฟังใคร
     
  11. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    อ๋อครับ พวกท่านที่สักกายทิฐิเหลือน้อยๆ มักจะแยกระดับสติปัญญาของผู้อื่นได้
    ครับๆ กระผมยังหนาอยู่กับ

    ท่านใดที่สติปัญญาสูงแล้วก็อย่ามาสนทนากับผมให้เสียเกียรติเลยขอรับ
     
  12. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    พิมตอบแบบนี้นึกว่าเอาอารมมาตอบปล่าวหรอกครับ แสดงธรรมแบบทำให้สลดใจครับ
     
  13. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    เป็นอันว่าไม่เกิดความสลดสังเวชในธรรมนะ ก้คงบอกเท่านี้ครับ
     
  14. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ก่อนอื่นถ้าเป็นผู้แปลกหน้าผมจะสัมรวม ในกาย วาจา และใจผมครับ
    เวลาผมสนทนากับผู้แปลกหน้าผมจะว่างเปล่า ในแก้วจะไม่มีน้ำเลย
    เพราะเจตนาคือกรรม เพราะถึงผมจะปฏิบัติแบบนี้แต่ผมถือศีลเป็นใหญ่
    คือความปกติ เจตนาเป็นที่ตั้งครับ

    อีกอย่างธรรมสังเวช มันจะเกิดกับผู้ที่มีบารมีเยอะๆ ครับ อย่างที่บอกผมแก้วที่ว่างเปล่า ปฏิบัติให้เห็นความจริง หลวงพ่อที่ผมนับถือ คือหลวงพ่อพุธ และหลวงวิริยังค์ ผมจะไม่ก้าวล่วงใคร
     
  15. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    จริงๆ สัญญาสังขารมันจะหลอกคุณเองหมดแหละครับ ถ้าคุณไม่ทันกิริยาอาการที่เขาทำงาน ไม่เห็นปรากฏการณ์ตามจริง เช่น เห็นไม่สักแต่ว่าเห็น เห็นอยู่ แล้วคิดต่อตามเหตุปัจจัย คือไม่ได้ห้ามว่าต้องไม่นะไม่คิด คิดไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจว่า มันเป็นเรื่องของการคิดเองเออเอง จะคิดแบบใดก็ชั่ง มันก็คือการคิด การผสมกลมเกลียวระหว่างสัญญากับสังขาร อารมณ์ร่วมนั่นเป็นความพอใจไม่พอใจอันนั้นตั้งเป็นภพไปแล้ว คือทุกข์จริงๆมันไม่ได้อยู่ที่การเห็น มันอยุ่ที่การคิดอะไรยังไง ปรุงแต่งไปยังไง มีอุปาทานต่อไปยังไงมากกว่า ตามรู้ด้วยสติ เรียนรู้แบบอัตโนมัติไปเอง

    แล้วพอรู้แล้ว รู้ค้างเติ่งอีกไหม อันนี้ก็สำคัญ พระพุทธองค์ตรัสสอนท่านพาหิยะ มีความตอนหนึ่งที่น่าจะตรงเหตุตรงสถานการณ์กับกระทู้นี้พอดีอีกจุดคือ ได้ทราบก็เพียงสักว่าได้ทราบ รู้แจ้งก็เพียงสักว่ารู้แจ้ง เมื่อนั้นท่านย่อมไม่มี ทั้งในโลกนี้ ทั้งในโลกหน้า และระหว่างโลกทั้งสอง ผมหมายความเอาตามความเข้าใจส่วนตัวว่า อัตตาตัวตนก็จะไม่ก่อขึ้นมานั่นแหละครับ
     
  16. ชมทรัพย์

    ชมทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    552
    ค่าพลัง:
    +248
    มนสิการโดยความไม่เที่ยง ย่อมเกิดปราโมทย์

    เมื่อถึงความปราโมทย์ ย่อมเกิดปีติ

    เมื่อใจมีปีติ กายย่อมสงบ

    ผู้มีกายสงบ ย่อมได้เสวยสุข

    ผู้มีความสุข จิตย่อมตั้งมั่น

    เมื่อจิตตั้งมั่น ย่อมรู้ย่อมเห็นตามความเป็นจริง

    เมื่อรู้เห็นตามความเป็นจริง ย่อมเบื่อหน่าย

    เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายความกำหนัด

    เพราะคลายความกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้น
     
  17. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +342
    อืม...พุงปลางวดนี้ อิ่มและอร่อยมากครับ สาธุ
     
  18. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    เข้าได้กลับ ฐีติภูตัง อนุโมทนาครับ
     
  19. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    ดีครับ ไม่ว่าไปทางไหน ก็ต้องมีสตินำทั้งนั้น

    ท่านลองเพิ่มสมาธิอีกนิด โดยเพิ่มฝึกนับลมหายใจแบบสบายๆสัก 50 ครั้ง หลังอาบน้ำ

    แค่นี้เหละ

    เวลาที่เกิด สลดสังเวช จะได้เกิด ญาณ เร็วขึ้น
     
  20. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :) น่ายินดีด้วย คุณมาถูกทางจริงๆ หายากนะครับ เพียงยังขาด"สุตตะ" ที่พร่องไปนิดหน่อยครับ..ว่าด้วยการฝึกรู้ การทำงานของ จิต-มโน-วิญญาณ(อันเดียวกัน)ใน.. ขันธ์5 ที่ทำงานแบบอิทัปปัจยะตากับ เวทนา-สัญญา-สังขาร (จิต-ไม่สามารถจะออกไปตั้งนอกฐานทั้ง4 นี้ได้เลย คือ รูป เวทนา สัญญา สังขา)
    และวงจรปฏิจจะสมุปบาทที่ทำงานทุกวินาที แบบสายฟ้าแล็บพร้อมกันทั้ง 12 ห่วงโซ่ ที่ จิต เขามโน-คิด บนขันธ์5..ด้วยระบบนี้ครับ (วิญญาณไปตั้งอยู่บนสัญญา-สังขาร-ก็ตั้งอยู่ได้ เจริญอยู่ได้-การคิดปรุงแต่งก็เกิดตลอดเวลา-(อริยสัจจ์4 ก็เกิดตลอด) หากไม่ตัด ..มโน..ให้ทันด้วย สติ-สมาธิ ครับ)..ตัดผัสสะได้ เท่ากับคุณอยู่กับ ปัจจุบัน ปัจจุบัน ตลอดกาลลลครับ (ผมรู้แต่แผนที่ และกำลังฝึกอยู่ครับ)..

    :);) จิต(แสง)-มโน(นึก-คิด)-วิญญาณ(ลำแสง-ที่ส่งออกไปกะทบฉาก-จะรู้แจ้งในอารมณ์หรือสิ่งนั้นๆ)- ที่เกิดผัสสะ หรือที่คิดเสร็จแล้วว่านั่นคือ ตัว ตน เรา เขาเวทนาเกิดทันที
    เพราะฉนั้นการจะห้าม-ตัด-ความคิดต้องตัดตรง ..มโน.. ครับ อย่าปล่อยให้ มโน ผ่านมายัง วิญญาณ มันจะกะทบฉาก-แบบสายฟ้าแล็บทันที(นั่นเราแพ้แล้ว-ไม่ทันแล้วครับ) เขามาแบบสายฟ้าแล็บแล้วใครจะห้ามทันล่ะครับ

    :);):p สรุป..หากรู้แผนที่การทำงานข้างบน เมื่อจิตรู้ กุศล- อกุศล จิตเขาจะปล่อยวางไปเอง ตามสภาวะที่จิต กำลังทำงานเดินมรรคอยู่ จิตจะบังคับตัวจิตเองหากทำต่อเนื่องเข้มข้น ไม่ต้องไปละ ไปละอะไร หรอกครับ สภาวะ สภาวะ ที่จิตตั้งมั่นจะเกิด แล้วจำ อีกทั้งสัมมัปปทาน4 จะเกิดมาช่วยคุณหนุนเนื่องการทำงานด้วย-ให้กับคุณด้วยธรรมที่เชื่อมโยงกันไปหมดทันทีที่ทำได้ครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...