kanalove
ความเคลื่อนไหวล่าสุด:
6 มิถุนายน 2017
วันที่สมัครสมาชิก:
2 มิถุนายน 2007
โพสต์:
221
พลัง:
386

โพสต์เรตติ้ง

ได้รับ: ให้:
ถูกใจ 381 97
อนุโมทนา 5 7
รักเลย 0 0
ฮ่าๆ 0 0
ว้าว 0 0
เศร้า 0 0
โกรธ 1 0
ไม่เห็นด้วย 0 0
ที่ตั้ง:
ในประเทศไทย

แชร์หน้านี้

kanalove

เป็นที่รู้จักกันดี, จาก ในประเทศไทย

kanalove เห็นครั้งสุดท้าย:
6 มิถุนายน 2017
    1. Khunkik
      Khunkik
      อุปสรรคในชีวิตการงานนั้นเหมือนวัคซีนที่จะทำให้เราเข้มแข็งอดทน มากขึ้น ถ้าเปรียบเป็นไฟ แม้ไฟจะทำลายมอดไหม้สิ่งของอื่นๆ จนเสียหายไปหมด แต่ไฟจะทำให้เหล็กแข็งขึ้น เหล็กที่ผ่านไฟแล้วมักจะเป็นเหล็กกล้า อุปสรรคในหน้าที่การงานอาจทำลายให้คนท้อแท้สิ้นหวังได้ง่าย แต่คนที่ เข้มแข็งอดทน รักความก้าวหน้าในวิชาชีพ กลับแข็งแรงก้าวหน้าขึ้นได้ เพราะมีความเพียรพยายามอย่างสม่ำเสมอไม่หวั่นไหวกับความลำบากได้ง่ายๆ
      ผลงานเป็นคุณค่าอันแท้จริงของคน ถ้าคนเราทำงานที่ยิ่งใหญ่ได้ แสดงว่าคนผู้นั้นมีความยิ่งใหญ่ในใจ ซึ่งความยิ่งใหญ่ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความยิ่งใหญ่ทางอำนาจราชศักดิ์ แต่หมายถึงความยิ่งใหญ่ทางหน้าที่การงานของเขา แม้ว่าเขาอาจจะเป็นเพียงแค่นอตตัวหนึ่งของเครื่องจักรขนาดใหญ่ แต่ก็เป็นนอตที่มีคุณภาพที่ขาดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเครื่องจักรก็จะทำงานไม่ได้อย่างราบรื่น
    2. Khunkik
      Khunkik
      คนเราจะเป็นคนใหญ่หรือคนเล็กของสมาชิกของทีมงานหรือองค์กรได้ ก็ควรจะเป็นคนที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพมากที่สุด สมาชิกของทีมงาน ในองค์กรต่างๆ ก็เหมือนกัน ถ้าแต่ละคนทำตนให้มีคุณภาพ สมกับตำแหน่งฐานะของตนเองแล้ว องค์กรนั้นจะมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
      บางครั้งแม้สถานการณ์จะส่อไปในทางที่ทำให้เรารู้สึกแย่และสิ้นหวัง แต่เราก็ต้องไม่หมดหวังเสียโดยง่าย จงคิดไว้เสมอว่าเมื่อเรายังมีความหวังและความเพียรอย่างสม่ำเสมอก็ย่อมจะต้องพบช่องทาง ตรงกันข้าม แม้เราจะหวังมากเพียงไรก็ต้องเตรียมตัวสำหรับความผิดหวังไว้บ้าง เป็นการไม่ประมาท เมื่อประสบความทุกข์ยากลำบากขอให้มีความอดทนอดกลั้น ทนทาน และรักษาความสงบใจไว้ก่อน เพราะความสงบที่แท้จริงนั้นมาจากการยอมรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด แล้วเริ่มต้นใหม่
      นอกจากนี้ควรหัดให้รางวัลตัวเองเสียบ้าง หัดซื้อของขวัญให้ตัวเองเสียบ้าง เช่นวันที่ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ไม่ใช่จะคอยแต่ลงโทษตัวเองอยู่ร่ำไปว่าเราไม่ดี ไม่เก่ง แต่ขอให้ชื่นชมอยู่เงียบๆ แอบภูมิใจในตนเองเงียบๆ เหมือนดอกไม้บาน อย่าไปชื่นชมตัวเองให้คนอื่นฟังบ่อยนัก อาจจะถูก หมั่นไส้ได้
    3. Khunkik
      Khunkik
      2.การรู้จักตัดตอนและให้โอกาสคนอื่น
      มนุษย์ทุกผู้ทุกนามล้วนแต่ยังคงมีกิเลสครอบงำมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป ย่อมทำดีบ้างชั่วบ้าง ตามอำนาจของความรู้ หรือคุณธรรมประจำตัว หรือกิเลสที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ทุกคนต้องเคยทำทั้งดีและชั่วสลับสับเปลี่ยนไปมาอยู่เสมอ ทั้งโดยที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ คนที่เคยชั่วภายหน้าอาจเป็นคนดี คนเคยดีอาจพลาดพลั้งกลายเป็นชั่วได้เหมือนกัน คนที่เคยไม่เก่งต่อไปอาจพัฒนาจนเก่งขึ้นก็ได้ ผู้มีปัญญาจึงไม่ควรด่วนตัดสินคนอื่นด้วยเห็นการกระทำเพียงครั้งเดียวหรือสองครั้งของเขา แล้วตัดสินว่าเขาจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป
      บัณฑิตและผู้มีปัญญาต้องรู้จักตัดตอน คนที่เคยทำไม่ดี ทำงานลวกๆ ไปวันๆ หรือทำ
    4. Khunkik
      Khunkik
      งานอย่างไม่มีคุณภาพ เมื่อเขาสำนึกหรือรู้ตัวได้แล้วก็สามารถจะกลับมาเป็นคนดีมีความรับผิดชอบได้ ซึ่งหากเราเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือเป็นผู้บังคับบัญชา ก็ควรที่จะให้โอกาสผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะโดยความเป็นจริงแล้วมนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอตาม สิ่งแวดล้อม ตามวัยวุฒิที่โตขึ้น รวมทั้งเรื่องประสบการณ์ การศึกษา และคุณธรรมในใจ ไม่พึงด่วนแตกจากมิตร และไม่พึงผูกเวรกับใคร อย่าลืมว่าการที่เรามาอยู่จนถึงจุดนี้ในชีวิตการทำงานได้ก็เพราะได้รับโอกาสมาแล้วเหมือนกัน ก็จงอย่าลืมที่จะให้โอกาสคนอื่นด้วย
    5. Khunkik
      Khunkik
      1.อ่อนน้อมถ่อมตนและนิยมยกย่องผู้อื่น
      มนุษย์เราทุกคนไม่ชอบคนเย่อหยิ่งจองหอง แต่ชอบคนอ่อนน้อม ถ่อมตน ถ้าอยากให้ผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง ให้ความร่วมมือ ยกย่องส่งเสริม สนับสนุน ก็ควรทำตัวให้เป็นที่รัก อ่อนน้อม อ่อนโยน มีน้ำจิตน้ำใจ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับคนทุกประเภท อย่าอ่อนน้อมกับเฉพาะคนที่สูงกว่า แต่ควรยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นมิตรกับทุกๆ คน แม้ว่า เขาจะต่ำสายงานกว่าเราก็ตาม
    6. Khunkik
      Khunkik
      ควรวางตัวให้เสมอต้นเสมอปลาย ไม่ใช่ว่า ปฏิบัติกับผู้อื่นตามอารมณ์ของตน คิดแต่จะให้ผู้อื่นเข้าใจตนโดยที่ตนไม่ต้องเข้าใจใครๆ เลย
      แน่นอนว่าไม่มีใครเกลียดชังผู้ที่อ่อนน้อมถ่อมตน ยิ่งคนเราอ่อนน้อมก็ยิ่งจะได้รับการยกย่อง ถ้าหากเป็นคนกระด้าง ยกตนข่มท่าน ก็มีแต่คนอยาก จะข่มกดให้จมลงดิน ควรฝึกตนให้เหมือนน้ำ ทำประโยชน์ทุกอย่างแล้วไหลลงต่ำ อ่อนโยน ละมุนละไม แต่มีอานุภาพยิ่งนัก คนยิ่งมีความดีมากยิ่ง อ่อนน้อมถ่อมตนไม่เย่อหยิ่ง อวดดี คุณสมบัติที่จะตามมาของผู้อ่อนน้อมถ่อมตนก็คือ การนิยมยกย่องผู้อื่นด้วยความจริงใจ จึงเป็นที่สำราญใจของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นอย่างยิ่ง ผู้อื่นจะจดจำอยู่ในใจเป็นเวลานานแสนนาน 10 ปี 20 ปีผ่านไป แต่คำยกย่องนั้นยังสดใสอยู่ในความทรงจำของผู้ฟังอยู่เสมอ
    7. Khunkik
      Khunkik
      ความถ่อมตนจะคอยเตือนบุคคลให้รู้สึกว่าตนเองยังไม่ดีพอ ยังมี ความรู้ความสามารถไม่พอ จึงมิกล้า ยอมรับการยกย่องสรรเสริญจากผู้ใดอย่างลำพองใจ แต่จะน้อมรับคำตักเตือนติเตียนจากผู้อื่นด้วยใจคารวะ และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขตนเองให้ดีขึ้น ในการจะสร้างชีวิตและหน้าที่การงานให้รุ่งเรืองนั้น จะต้องมีความพากเพียรและความอดทนเป็นอย่างมาก ถ้าปราศจากทั้งสองอย่างนี้แล้วย่อมไม่อาจที่จะสำเร็จได้
      เพราะความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นคุณลักษณะสำคัญอีกประการหนึ่ง ที่ทำให้บุคคลเจริญเติบโตได้มาก คนกระด้าง เย่อหยิ่ง อวดดี ทะนงตน จะเจริญทางหน้าที่การงานได้น้อย หรือเจริญได้แค่ชั่วคราว ก็มักจะเสื่อมลงโดยเร็ว เพราะความถ่อมตนเป็นการเปิดโอกาสแก่ตนเองให้ได้รับคำแนะนำ สั่งสอนอันมีค่าจากท่านผู้รู้ ซึ่งท่านผู้รู้จะสั่งสอนความรู้ให้อย่างไม่เบื่อหน่าย จืดจาง เพราะเขาทำตนเป็นเหมือนภาชนะที่ใหญ่และดีในการรองรับคำสอน ที่ดี ใครๆ ก็อยากแนะนำสั่งสอน จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะมีหน้าที่การงานที่ดี เพราะคนอยากช่วยชี้แนะอยู่เสมอ ส่วนคนกระด้างอวดดีจะไม่ได้รับโอกาสเช่นนั้น
    8. Khunkik
      Khunkik
      วิธีเอาชนะอุปสรรคในชีวิต
      ๑.มีความฝันและจินตนาการที่ดีเข้าไว้
      ชีวิตถ้าขาดความฝันก็แห้งแล้ง เราต้องฝันว่า เรามีหนทางชนะอุปสรรค ความฝันที่ดีเหล่านี้จะทำให้เราเกิดกำลังใจ และอยากทำกิจกรรมอื่น ๆ ต่อไป

      ๒.คิดว่าทุกอย่างมีความเป็นไปได้
      พุทธศาสนาสอนว่า ทุกอย่างในโลกนี้มันเป็นอนิจจัง คือไม่แน่นอน ฉะนั้นความเป็นไปไม่ได้ ชีวิตคุณมีโอกาสเป็นไปได้ทั้งนั้นจงเลิกพูดของคนที่เกิดมาเพื่อจะแพ้ และแพ้ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มลงมือทำเสียอีก
    9. Khunkik
      Khunkik
      ๓.อย่าคิดถึงปมด้วยของตัวเอง
      เพราะการนึกถึงปมด้วยของตัวเอง จะเป็นตัวฉุดให้คุณ หยุดทำกิจกรรมที่สร้างสรร คุณจะขาดความกล้าหาญ ขาดพลังจงคิดว่าปมด้วยเป็นความปกติของชีวิตเราไม่ได้ แตกต่างและไม่ได้ด้อยกว่าใครๆ ไม่เป็นคนสมบูรณ์แบบหรอก และไม่มีใครที่ไม่มีความบกพร่องเลยเช่นกัน

      ๔.ปลุกความกล้าให้เกิดขึ้นเสมอ
      จงลดความกลัวเหตุการณ์หรือผู้คนต่างๆ เสีย แล้ว บอกกับตัวเองว่าคุณเป็นคนกล้าหาญ จงหัดปฏิเสธความกลัวบ่อยๆและบอกกับตัวเองว่าคุณกล้ามากขึ้นๆ ความกลัวต่างๆ จะจางไปจากตัวคุณเอง

      ๕.มองจุดดีหรือจุดเด่นของตัวเองให้พบและเลิกดูถูกตัวเองเสียที
      คนเรามีทั้งดีและ ไม่ดีถ้าคุณคอยจับผิดตัวเอง มองแต่สิ่งที่คิดว่าไม่ดี คุณก็จะมองเห็น
    10. Khunkik
      Khunkik
      ๖.มีความรักเพื่อนมนุษย์ให้มากขึ้น
      ให้ลดความเกลียดชังหรือความโกรธเพื่อนมนุษย์ เพราะถ้าคุณยิ่งเกลียดและโกรธเท่ากับคุณสร้างศัตรูทุกวันๆและมากขึ้นๆ ตามจำนวนความเกลียดและความโกรธของคุณถ้าคุณเข้าใจและยอมรับในความบกพร่องของเพื่อนมนุษย์ที่มีสาเหตุมาจากสันดานดิบ
      ของแต่ละคนที่หลงเหลืออยุ่ ร่วมกับความไม่รู้ของแต่ละคน ซึ่งมีกันทุกคน คุณก็จะโกรธเขาน้อยลง และจะ
      ยอมรับเขาได้มากขึ้นว่า เขาจะมีความทุกข์จากสิ่งบกพร่องของเขานั่นเอง อย่าให้ความบกพร่องของเขา
      มาทำลายความสุขของชีวิตคุณเลย เราจะให้อภัยเขาได้ เพราะเข้าใจถึงความบกพร่องของเขาได้แล้ว แค่นี้
      ก็ถื่อว่าคุณมีความรักให้เพื่อนมนุษย์ได้มากขึ้นแล้ว

      ๗.มีทัศนคติที่ดีต่อโลกและชีวิต
      อย่ามองโลกในแง่ความจริงทั้งหมด เพราะชีวิตจะแห้งแล้ง จงมีความเชื่อที่ดี จงมีความหวังที่ดี และจงมีความรักที่ดี ทั้ง ๓ ตัวนี้จะทำให้คุณมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิต ทั้งของตัวเองและคนอื่น จะทำให้อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
    11. Khunkik
      Khunkik
      ๘.ถ่อมตน อย่าหยิ่งหรือจองหอง
      ความถ่อมตนจะทำให้เกิดสติปัญญา ความถ่อมตนจะ ทำให้เราไม่เหลิงถ้าเราเป็นผู้ชนะ และความถ่อมตนจะทำให้เราไม่เจ็บปวดมากถ้าเราเป็นผู้แพ้
      ๙.หมั่นศึกษาและเลียนแบบ
      บุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง โดยการอ่าน การฟัง หรือ การไต่ถาม ประสบการณ์ชีวิตของคนเหล่านี้ถูกถ่ายทอดออกมามากมาย ถ้าเราได้ศึกษา เราจะเกิดกำลังใจและอยากเลียนแบบอย่าง
      ถ้าคุณมีแนวคิดดังที่กล่าวมาแล้วนี้ และเริ่มลงมือปฏิบัติตาม อุปสรรคทั้งหลายในชีวิตก็จะ น้อยลงเพราะคุณจะเกิดพลัง กำลังใจ สติ ปัญญา ความกล้าหาญ และกล้าลงมือกระทำสิ่งที่สร้างสรร มีความเชื่อ ความหวังที่ดีในชีวิตมากขึ้น ศัตรูก็น้อยลง มีมิตรมากขึ้น ชีวิตมีความสุขและความสำเร็จมากขึ้น แม้บางครั้งถ้าเราไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคได้จริงๆ แต่เราก็จะมองข้ามไปและรอคอย โอกาสใหม่ด้วยจิตใจที่มองโลกในแง่ดี ไม่ทุกข์ร้อนกับสิ่งที่ผิดหวังจริงๆมากมายนัก พร้อมจะเกิดกำลังใจใหม่และมีพลังเริ่มชีวิตใหม่ ซึ่งเท่ากับคุณเป็นผู้ชนะอุปสรรคนั้นนั่นเอง
      ที่มา : http://lms.lpru.ac.th/mod/forum/discuss.php?d=7882
    12. Khunkik
      Khunkik
      ผู้มีจิตตั้งมั่นย่อมไม่เบียดเบียนคนอื่น และแม้ตนเอง
    13. Khunkik
      Khunkik
      ความถ่อมตน


      แม้แต่ขุนเขายังทลายได้ด้วยแรงธรรมชาติบ้าง ด้วยแรงมนุษย์บ้าง จะกล่าวไยถึงมนุษย์น้อย ๆ อย่างเราเล่า ซึ่งเปรียบไปก็เหมือนธุลีหนึ่งอันล่องลอยอยู่ในสุริยจักรวาลอันยิ่งใหญ่หาขอบเขตไม่ได้นี้ ประโยชน์อะไรเล่ากับความทะนงตน เมื่อใจได้รับเอาความถ่อมตนไว้เป็นสมบัติแล้ว ดวงหน้า แววตา และกิริยาท่าทีของเขาผู้นั้นก็จะทอประกายแสงแห่งความถ่อมตนให้ผู้อื่นเห็นได้อย่างชัดเจน นิสัยอันดีงามซึ่งสืบเนื่องจากการถ่อมตนนี้จะช่วยส่งเขาให้รุ่งโรจน์ในการงานที่เขาทำ และเป็นที่รักที่ยำเกรงของผู้ใกล้
      ความถ่อมตน จะคอยเตือนบุคคลให้รู้สึกว่าตนเองยังดีไม่พอ ยังมีความรู้ความสามารถไม่พอ จึงมิกล้ายอมรับความยกย่องสรรเสริญจากผู้ใดอย่างลำพองใจ แต่จะน้อมรับคำตักเตือนติเตียนจากผู้อื่นด้วยใจคารวะ และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขตนเองให้ดีขึ้น
      ;วศิน อินทรสระ
    14. Khunkik
      Khunkik
      ๏ ไม่พองลม ก้มหัว เจียมตัวด้วย
      มรรยาทสวย นิ่มนวล สิ้นส่วนแข็ง
      เหมือนงูพิษ ถอดเขี้ยว หมดเรี่ยวแรง
      ยามแถลง นอบน้อม พร้อมใจกาย.
    15. Khunkik
      Khunkik
      ท่านว่าลักษณะของคนถ่อมตนนั้นมีดังนี้
      ๑.มีกิริยาที่นอบน้อม
      ๒.มีวาจาที่อ่อนหวาน
      ๓.มีจิตใจที่อ่อนโยน
      สรุปแล้วก็คือ สมบูรณ์พร้อมด้วยกาย วาจา และใจนั่นเอง

      ที่มา : http://www.dhammathai.org/treatment/poem/poem23.php
    16. Khunkik
      Khunkik
      มงคลชีวิตข้อ 23 ความถ่อมตน...ทำให้มีมิตรมาก

      "มหาสมุทรซึ่งเป็นที่ไหลมารวมกันของน้ำจากทุกสารทิศ จะต้องมีระดับพื้นที่ต่ำกว่าพื้นที่ตรงต้นน้ำทั้งหลายฉันใด ผู้ที่ต้องการจะถ่ายทอดคุณความดีจากบุคคลทั้งหลาย ก็จะต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตนก่อนฉันนั้น"

      ความถ่อมตนคืออะไร ?
      ความถ่อมตนมาจากภาษาบาลีว่า “นิวาโต”
      วาโต แปลว่า ลม พองลม
      นิ แปลว่า ไม่
      นิวาโต แปลว่า ไม่พองลม เอาลมออกแล้ว คือ เอามานะทิฐิออกมีความสงบเสงี่ยม เจียมตน ไม่เบ่ง ไม่ทะนงตน ไม่มีความมานะถือตัว ไม่อวดดื้อถือดี ไม่ยโสโอหัง ไม่ดูถูกเหยียดหยามใคร ไม่กระด้าง ไม่เย่อหยิ่ง จองหอง
    17. Khunkik
      Khunkik
      ความแตกต่างระหว่างความเคารพกับความถ่อมตน

      ความเคารพ เป็นการปรารภผู้อื่น คือ ตระหนักในคุณงามความดีของผู้อื่น พบใครก็คอยจ้องหาข้อดีของเขา ไม่จับผิด สามารถประเมินคุณค่าของผู้อื่นได้ตามความเป็นจริง แล้วแสดงอาการเคารพนับถือด้วยกาย วาจา ใจ

      ส่วนความถ่อมตน เป็นการปรารภตนเอง คือ คอยตามพิจารณาข้อบกพร่องของตนเอง จับผิดตัวเอง สามารถประเมินค่าของตนเองได้ถูกต้องตามความเป็นจริง ไม่อวดดื้อถือดี สามารถน้อมตัวลงเพื่อถ่ายทอดคุณความดีของผู้อื่นเข้าสู่ตัวได้เต็มที่

      คนที่มีความเคารพอาจขาดความถ่อมตนก็ได้ เช่น บางคนเมื่อพบคนดีก็ตระหนักในความดีความสามารถของเขา คือมีความเคารพแต่ขณะเดียวกันถ้าจะให้อ่อนเข้าไปหาเขาทำไม่ได้ ชอบเอาตัวเข้าไปเทียบด้วย แล้วใจของตัวก็พองรับทันทีว่า “ถึงเอ็งจะแน่ แต่ข้าก็หนึ่งเหมือนกัน” ใจของเขาจะพองเหมือนอึ่งอ่างพองลม คอยแต่คิดว่า “ข้าวิเศษกว่า” ทุกที
    18. Khunkik
      Khunkik
      สิ่งที่คนทั่วไปหลงถือเอาทำให้ถือตัว
      ๑.ชาติตระกูล เช่น คิดว่า “ตระกูลฉันนี้เป็นตระกูลใหญ่ เชื้อสายผู้ดีเก่า พ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย กี่รุ่นกี่รุ่น มีชื่อเสียงโด่งดังมาตลอด คนอื่นจะมาเทียบฉันได้อย่างไร” เมื่อหลงถือว่าตนมีชาติตระกูลสูงกว่าผู้อื่น ความถือตัวก็เกิดขึ้น

      ๒.ทรัพย์สมบัติ เช่น คิดว่า “เฮอะ ทรัพย์สินเงินทองของฉันมีมากมาย จะซื้อจะหาอะไรก็ได้อย่างใจ ไม่เห็นจะต้องไปง้อ ไปเกรงใจใคร” เมื่อหลงถือว่าตนมีทรัพย์สมบัติมากกว่าผู้อื่น ความถือตัวก็เกิดขึ้น

      ๓.รูปร่างหน้าตา เช่น คิดว่า “ฮึ ฉันนี้สวยน้อยหน้าใครเสียเมื่อไหร่ ดูซี ผิวก็ละเอียด จมูกก็โด่ง ตาก็กลม นางงามจักรวาลที่ว่าสวยๆ ลองมาเทียบกันดูสักทีเถอะน่า ไม่แน่หรอก” เมื่อหลงถือว่าตนมีรูปร่างหน้าตาดีกว่าผู้อื่น ความถือตัวก็เกิดขึ้น
    19. Khunkik
      Khunkik
      ๔.ความรู้ความสามารถ เช่น คิดว่า “ฉันนี้ความรู้ระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ปริญญาที่ไหนที่ว่ายากๆ กวาดมาหมดแล้ว ฝีมือก็แน่กว่าใคร ใครๆ ก็สู้ฉันไม่ได้” เมื่อหลงถือว่าตนมีความรู้ความสามารถสูงกว่าผู้อื่น ความถือตัวก็เกิดขึ้น

      ๕.ยศตำแหน่ง เช่น คิดว่า “ฮึ ฉันนี้มันชั้น ผู้อำนวยการกองอธิบดี ปลัดกระทรวง ซี๘ ซี๙ ซี๑๐ ซี๑๑ แล้ว ใครจะมาแน่เท่าฉัน” เมื่อหลงถือว่าตนมียศตำแหน่งสูงกว่าผู้อื่น ความถือตัวก็เกิดขึ้น

      ๖.บริวาร เช่น คิดว่า “เฮอะ สมัครพรรคพวก ลูกน้องฉันมีเยอะแยะใครจะกล้ามาหือ ใครจะกล้ามากำเริบเสิบสาน” เมื่อหลงถือว่าตนมีบริวารมากกว่าผู้อื่น ความถือตัวก็เกิดขึ้น
    20. Khunkik
      Khunkik
      คนทั่วไปมักหลงยึดเอาสิ่งต่างๆ ๖ ประการนี้เป็นข้อถือดีของตัว หาได้เคยคิดไม่ว่า สิ่งต่างๆ ที่ว่านั้น มันจะเป็นของเราตลอดไปหรือไม่ จิรังยั่งยืนหรือเปล่า ที่ว่าหล่อๆ สวยๆ พออายุสักหกสิบเจ็ดสิบจะมีใครอยากมอง เศรษฐี มหาเศรษฐี ทำการค้าผิดพลาดเข้า ล่มจมกลายเป็นยาจกภายในวันเดียวก็มีตัวอย่างมามากแล้ว และถึงจะเป็นเศรษฐีไปจนตายก็ใช่ว่าจะขนเงินขนทองไปปรโลกด้วยได้
      เมื่อไหร่ ถ้าไม่รู้จักสร้างคุณความดี ถึงมีเงินทองมากเท่าไหร่ก็ไม่พ้นทุกข์ไปได้ ยิ่งรวยมากก็ยิ่งทุกข์มาก ทั้งหา ห่วง หวง ยศตำแหน่ง บริวารนั้นก็มิใช่ว่าจะคงอยู่กับเราอย่างนั้นตลอดไป ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน ไม่ใช่เป็นของเราจริงๆ
  • Loading...
  • Loading...
  • เกี่ยวกับ

    ที่ตั้ง:
    ในประเทศไทย
    แนะนำตัวเอง:
    แสวงหาบุญ
Loading...