เราควรที่จะก้าวข้าม ในฤทธิ์ทั้งหลาย อย่าติดอย่าหลงไหล เมื่อความอยากเกิดขึ้น ก็ไม่อาจหลุดพ้นได้ ยิ่งอยาก ก็ยากที่จะพบ...
มนุษย์เชื่อว่า ตัวเองเป็นเผ่าพันธุ์ที่ฉลาดที่สุด...แต่ก็หาสิ่งที่ตัวเองต้องการที่สุด...หรือสิ่งที่พอใจที่สุดไม่ได้...
ที่ง่ายก็มีหลายอย่างครับ กสินสี กสินแสงสว่าง กสินน้ำ กสินลม ทดสอบดูครับว่าจริตเราชอบแบบไหน...
อีกบทนะครับ...ฟังแล้วใจร่มๆ... YouTube - คำสวดบารมี 30 ทัศ
แนะนำ...บทนี้ดีกว่านะครับ(^_^) YouTube - JINABUNCHORN ( Song Version ) เข้าไปฟังนะครับ....
ก็ไม่ยากครับ หาเรื่องทะเลาะกันสิ เขาจะได้คิดถึงเราทุกวัน...*-*
ท่องคาถาก็เหมือนกับการฝึกจิต ถ้าจิตเราสูง ไม่จำเป็นต้องใช้คาถาก็ได้ ใช้เมตตาบารมีก็เหลือๆ
เหล็กไหลในตัวมนุษย์ก็มี
ปุพเพนิวาสานุสติญาณ
เฮ้อออ...นานาจิตตัง เค้าว่าดวงอาทิตย์อ่อนกำลังลงเรื่อยๆ แล้วจะเอาแรงที่ไหนมาดูดโลกกลับขั้ว...แตกตื่นไปได้เนอะ......
แล้วระหว่างนั้นรู้สึกตัวหรือไม่ ถ้ารู้สึกตัวอยู่ก็นั่งต่อไปเรื่อยๆ แต่ไม่ควรเกินครั้งละ30นาทีนะครับ เดินจงกรม30นาทีนั่งสมาธิ30นาที...
อย่าไปตามดูนิมิตที่เกิด ให้ดึงจิตกลับมาฐานที่ตั้ง และตั้งจิตไว้ให้มั่นคง
การฝึกสมาธิ อันดับแรก ต้องกำหนดที่ตั้งของฐานจิตก่อนนะครับ และควรเดินจงกรมก่อนนั่งสมาธิจะดีที่สุด อย่าให้เกิน 30 นาที เดิน 30 นาที นั่ง 30 นาที...
ความคิคเกิดจากใจ ไม่ใช่จิต ใจก่อนที่จะเกิดการปรุงแต่งซึ่งก็คือความคิด ก็มาจากผู้รับรู้คืออายัตนภายใน ที่ได้ไปกระทบกับผู้ถูกรู้คืออายัตนภายนอก...
ทุกอย่างล้วนอยู่ที่จิตท่าน เมื่อจิตถึงจุดกำหนด ท่านก็จะรู้เองว่า การทดสอบจะทำให้ท่านไปถึงปลายทางได้หรือไม่ หรือว่าจะแหกโค้งเพราะเทวดาพาไป...
พลังจิต ก็เหมือนกับ พลังกาย เมื่อใช้ไปมากๆก็หมด ต้องมาสะสมกันใหม่ ก็เหมือนกับการทานข้าวเพื่อชดเชยพลังงาน พลังจิตก็ได้จากการทำสมาธิ...
ก็ขออนุโมทนาด้วยนะครับ ถ้าจะให้ดีก็อยากจะขอแนะนำ เดินจงกรม 30 นาที นั่งสมาธิ 30 นาทีก็พอ ถ้านั่งนานมากๆจะเกิดสมาธิลึก...
ถ้าหากท่าน ห้ามฝน ห้ามฟ้า ห้ามกาลเวลา ห้ามโลกหยุดหมุนได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นท่านก็สามารถหยุดทุกอย่างได้ดังใจปราถนา....
เมื่อท่านอยู่ระหว่างกลาง...สุขและทุกข์....โดยไม่ยึดเหนี่ยวสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้...เมื่อนั้นท่านจะถึงนิพพาน
สัตว์ทั้งหลาย มีแต่โสมนัส ชุ่มชื้นไปด้วยรักเสน่หา ซาบซ่านในกามารมณ์ทั้งปวง พวกเขาใฝ่แสวงแต่ความสุขสันต์หรรษา ก็ต้องเกิดต้องแก่อยู่ร่ำไป
สำหรับคนที่มีชีวิตอยู่อย่างประมาท ตัณหามีแต่จะเจริญเหมือนเถาวัลย์ เขาย่อมกระโดดจากภพนี้ไปสู่ภพอื่น เหมือนวานรโลภผลไม้ โลดแล่นอยู่ในป่า
หากตามดูจิต ท่านก็คงจะไม่เห็นเวทนา ไม่เห็นรูปหรอกครับ หากไม่ฝึกบังคับจิต บังคับใจละก็ ท่านก็คงเห็นแต่สิ่งที่ปราถนา คือกิเลส...
หากไฟไหม้บ้านก็คงจะตามดูสินะท่าน
หากไม่คิดจะดับ ท่านจะดับได้หรือไม่..ดูตามไม่ได้หรอกครับ
ท่านจรเปลี่ยนดวงกสิณอีกแล้วเหรอ..หุหุ
ไม่คิดว่าควรที่จะดับเฉพาะทุกข์นะ..สุขก็ควรที่จะดับด้วย..ถูกหรือไม่..โปรดชี้แนะ
ดับทุกข์..ดับสุข..ไม่สุข..ไม่ทุกข์...แล้วสบายมั้ย..ลองคิดดู..อริยะ..มีสุขมีทุกข์หรือไม่
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 12 คน (...
เกิดกันจังนะ ไม่ยอมดับกันซักที...เฮ้ออออ.......
อตุลเอย เรื่องอย่างนี้มีมานานแล้ว มิใช่เพิ่งจะมีในปัจจุบันนี้ อยู่เฉยๆเขาก็นินทา พูดมาก เขาก็นินทา พูดน้อย เขาก็นินทา ไม่มีใครในโลก...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา