เท่าที่ทราบ...แม้ว่าบุคคลที่ไม่เคยยึดสิ่งใดนอกจาก "นิพพาน" เมื่อวิถึจิตเข้ากระแสนิพพานจริงๆ...จะระลึกขึ้นมาได้เองว่าเคยปรารถนาสิ่งใด...
จิตที่ไม่ตกในห้วงรักและเสน่หา เป็นจิตที่มีอิสระอย่างยิ่ง มีแต่ความปรารถนาดี เมตตา-กรุณาต่อกัน จึงไม่จำเป็นต้องมีคู่ให้เป็นภาระผูกพัน...
ฝุ่นก็คือ...ฝุ่น ดวงธรรมก็คือ...ดวงธรรม ข้อเท็จจริง คือ วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าถึงขั้นสามารถใช้กล้องดิจิตอลถ่ายดวงธรรมหรือดวงวิญญาณได้แล้วเหรอ?...
สรุปว่า Dust orb เป็นฝุ่นละออง ส่วน SPIRIT ORBS คือดวงธรรมงั้นเหรอ ? มันต่างตรงลวดลาย หรืออย่างไร? ขอความรู้เพิ่มเติมหน่อยสิคะ...
สรุปว่า Dust orb เป็นฝุ่นละออง ส่วน SPIRIT ORBS คือดวงธรรมงั้นเหรอ ? มันต่างตรงลวดลาย หรืออย่างไร?
ระวังๆกันไว้หน่อยก็ดี...เดี๋ยวนี้แฟชั่นผู้หญิง เป็นแบบสั้นๆ เว้าๆ รัดรูปอวดเรือนร่างกันเสียส่วนใหญ่...ไปวัดก็ต้องสำรวมกันหน่อยค่ะ...
ความลังเลสงสัย เป็นปกติวิสัยของมนุษย์เราจริงๆ ...^^ (ธรรมเข้าถึงได้ด้วยการปฏิบัติ ฝึกต่อไปเรื่อยๆ ความสงสัยก็จะค่อยๆลดลงไปตามลำดับค่ะ)
ลองคบกันแบบเพื่อน แบบกัลยาณมิตรดูสักพักสิคะ...บางทีอาจได้คำตอบ อยู่ดีๆ คงไม่มีใครลุกขึ้นมาบอกอยากไปนิพพาน...แล้วเลิกรากันง่ายๆหรอก...
ถูกต้องแล้วจ้ะ จริงแท้แน่นอน คนบางคน แม้แวดล้อมด้วยผู้คนที่รักตนมากมาย แต่จิตใจกลับไม่เคยหวั่นไหว..รักใครได้สักคน...
อารมณ์ทั้งปวงสักแต่ว่าอารมณ์เกิดขึ้นมา แล้วก็ดับไปตามสภาพของมัน ผู้พิจารณาเห็นโทษดังนี้ ย่อมเบื่อหน่ายในอารมณ์นั้นๆ catt13
อ่ะจ้ะ...ตอบได้ถูกต้องแล้ว อิอิ แต่ส่วนใหญ่จะงดงามผุดผ่อง น่ามอง และเกินเอื้อม เพราะผลบุญที่สั่งสมทำมาหลายภพชาตินะจ๊ะ...
ยึดสิ่งใดแล้วเป็นทุกข์...ก็จงวางเสีย ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ตามเหตุปัจจัยที่สั่งสมมา โต้เถียงกันไปก็เปล่าประโยชน์...
ไม่แปลกและไม่ฝืนกฏ ถ้าจิตไม่ยึดมั่นถือมั่นก็ไม่ทุกข์ ศัลยกรรมก็คือการปรุงแต่งร่างกายอย่างหนึ่ง ไม่ต่างไปจากวิธีอื่น เช่น...
เจอแต่คนปรารถนา แต่จิตจริงๆเล่า...อยากเป็นเพราะอะไร ? การให้คำนิยามของการเป็น หรือไม่เป็น...ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ใครจะเรียกว่าอะไรก็ช่าง...
ยินดีด้วยค่ะ...^^ ของเราคงลาเข้านิพพานแล้วมัง...อิอิ
ไม่แล้วค่ะ คุณปู่...อิอิ catt3
J47 19 ขวบเองหรอกเหรอ.... ไม่ว่าไรหรอกจ้ะ...เพียงแต่คิดว่า หมดสมัยแล้วเรื่องแบ่งชายแบ่งหญิง หรือใครที่ล้าหลังคิดว่า...
เข้าใจดีแล้วค่ะคุณพี่...ขอบพระคุณที่ชี้แจงcatt13 และต้องขออภัยหากใช้คำที่ทำให้พี่ๆเข้าใจผิด และไม่สบายใจ (เหมือนโต้เถียงกัน)....อิอิ ^-^...
เหตุการณ์จริงเกิดขึ้น...คงไม่สามารถวิเคราะห์อะไรได้ วินาทีนั้นต้องชั่งใจว่าจะว่ายน้ำไปช่วยใครก่อน... แม้เราอยากสละชีวิตตนให้สองคนที่เรารักรอดชีวิต...
บอกแล้วคนมีลูกต้องลังเลและในที่สุดต้องมีการชั่งใจระหว่างคุณธรรมกับความรักแบบติดยึด...ยอมสละลูกเพื่อความกตัญญู และสละชีวิตตนเพื่อลูกอีกที......
ก่อนเป็นมนุษย์...เราต่างเคยเกิดเป็นสัตว์ อยู่ในภมิเดรัจฉาน หรือเป็นเปตร เป็นสัตว์นรก เป็นเทวดา...เป็นพรหม...เคยเป็นทั้งหญิงและชายมานับไม่ถ้วน...
พระพุทธเจ้าของเราตอนปรารถนาพุทธภูมิก็เป็นหญิง...เจ้าหญิงสุมิตตาเทวี อย่าเถียงกันเรื่องไก่เกิดก่อนไข่เลยค่ะ...จะปรารถนาตอนไหนก็ได้ทั้งนั้น...
คำถามนี้ขึ้นกับจิตผู้ตอบ คนที่ยังไม่มีลูก...ก็จะตอบว่าช่วยแม่โดยมิต้องสงสัย เพราะยังไม่รู้จักการเป็นพ่อ-แม่...
ฝึกจิดให้เกาะแต่บุญกุศลค่ะ อย่าห่วงกังวลกับสิ่งใด เมื่อวาระสุดท้ายมาถึงจะได้จิตดับไปด้วยกุศลจิตก็จะไปสู่ภพภูมิที่ดี......
ขอบคุณนะคะพี่...ท่าทางพี่เป็นคนอารมณ์ดีมากๆนะคะ ^___^ (สงสัยจิตนู๋กำลังมีการเปลี่ยน...มีหยินหยางสู้กันอยู่ กายหยาบคือหงส์...
เอามาฝากค่ะ...ตัวอย่างพระโพธิสัตว์ในร่างหญิง ^___^ พระโพธิสัตว์<WBR>กวนอิม - องค์หญิงเมี่ยวซ่านก่อ<WBR>เกิดเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิมในภาคสตรี...
เห็นด้วยและเป็นจริงตามนั้นค่ะ การมีเพศใดมีได้บ่งบอกว่า เพศชายมีบารมีสูงกว่าเพศหญิงแต่อย่างใด แต่เป็นเหตุของธรรมชาติ...
เพศคือร่างภายนอกที่จิตมาอาศัย... อ่านแล้ว...คนที่ไม่เข้าใจ อาจพาลคิดว่า การเกิดเป็นมนุษย์ได้เพศหญิงยังบารมีต่ำกว่า เดรัจฉานเพศชายเสียอีก^^...
เหตุของความสับสนในรักๆใคร่ๆ...ล้วนมีที่มา ไม่มีสิ่งบังเอิญที่เกิดขึ้นในโลกนี้...ทุกอย่างย่อมมีเหตุ..จึงเกิดผล จิตสำนึกที่อยู่ลึกที่สุดของคนเรา...
อิอิ ... เพิ่งรู้วันนี้แหละว่านี่เป็นอาการเขินอายคนสวยอีกแบบนึง
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา