ธรรมะที่ธรรมภูตนำมาเสนอเนี่ย เขาเรียกว่าธรรมะเสียดสี ธรรมะที่ไม่เสียดสีผู้อื่นแล้วทำตัวให้ดีขึ้น ยังทางเลือกอีกเยอะแยะไป...
ไม่ได้แวะเวียนมานานครับ
จิตที่ตกภวังค์คือจิตหลับ จะไปดีใจอะไรนักหนา ตามอภิธัมมัตถสังคหะ เมื่อจิตสิ้นสุดวิถีมันจะลงสู่ภวังค์จ้า เรียกว่า "ภวังคจิต" มันเรื่อปกติธรรมดา...
คิดจะสอนธรรมะหรือมาเผยแพร่ธรรมะนั้น ไม่สอนไปด่าคนอื่นไปเพื่อจะให้ตัวเองดูดี เหมือนเท้ายังเหยียบคนอื่นอยู่ ปากก็บ่นไปว่าคนอื่นเลวอย่างนั้น...
ไหนมันอยู่ตรงไหนใครเป็นผู้พูดว่า"วิปัสสนานุบาล" ยกมาเองแล้วก็ร่ายมนต์เองหรือเปล่า ขอลิ้งค์หน่อยว่าไม่ได้ยกขึ้นมาเอง ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
ก็ลองอ่านเนื้อเรื่องเจ้าของกระทู้ดูซิว่าให้ตรวจสอบด้วยจิตเมตตา ไม่ใช่จะมาจับผิด
สงสัยตรงนี้แหละว่าเดินตามหลังพระพุทธเจ้า แสดงถึงว่าท่านอื่นเดินลุยน้ำทั้งหมดรวมถึงพระพุทธเจ้าด้วย ซึ่งมันจะไม่ตรงกับเนื้อเรื่องจริงดูจะเพี้ยนๆไปนะ
อย่างนี้เรียกว้าโง่จริงๆ บิ๊กทู
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้นะครับ เรื่องกรรม คือบุคคลทำกรรมอันใดไว้ผู้นั้นย่อมรับผลของกรรมอันนั้น...
เมื่อรู้ว่าไม่ใช่พระอรหันต์ ทำไมบอกว่านิพพานมีแค่พระอรหันต์เท่านั้นที่รู้ หัวข้อกระทู้ก็บอกชัดเจนว่า....
ถามหน่อยเปลี่ยนเรื่องอะไร มรรคทั้ง ๔ มีอะไรเป็นอารมณ์ ตอบไม่ได้ก็แสดงว่า ไม่รู้เรื่องนิพพาน
ถามจริง! อริยะมรรคทั้ง ๔ มีอะไรเป็นอารมณ์
กลับไปที่เดิมที่รู้มาลองไปถามคนบอกใหม่อาจฟังมาผิด
แล้วตั้งแต่พระโสดาบันรู้ไม่ได้หรือ
ดีแล้ว
บัญญัติ ไม่เป็นทั้งรูปธรรมและนามธรรม แต่เป็น “บัญญัติธรรม”
เอามือเขกโต๊ะรู้สึกเจ็บ เอามือเขกโต๊ะ เป็นบัญญัตื รู้สึก เป็นจิต เจ็บ เป็น เวทนา
เอามือจับโต๊ะ....มือจับเป็นบัญญัติ โต๊ะก็เป็นบัญญัติ เอามือจับโต๊ะจึงอยู่เหนือกฎไตรลักษณ์
เอาเลยว่ามา
นิพพาน กับ บัญญัติ เป็นสิ่งที่เหมือนกันคือ อยู่เหนือ กฎไตรลักษณ์ เพราะไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง พระนิพพานกับบัญญัติ เป็นขันธวิมุต...
เอามือจับโต๊ะแล้วรู้สึกแข็ง รู้สึกเป็นจิต แข็งเป็นดิน เป็นปรมัตถทั้งคู่ เพราะมีสภาวะรับรอง ไม่มีบัญญัติ ทั้งสองจึงตกอยู่ในกฎไตรลักษณ์
เช่น เห็นโต๊ะ ตัวเห็นเป็นจิต ตัวโต๊ะเป็นบัญญัติ ตัวเห็นมีสภาวะรับรอง จึงเป็นปรมัตถ์ อยู่ในกฏไตรลักษณ์ ตัวโต๊ะไม่มีสภาวะรับรอง จึงเป็นบัญญัติ...
องค์ธรรมของบัญญัติที่ว่าเป็นสังขารขันธ์ได้แก่อะไร
บัญญัติเป็นขันธ์อะไร
อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้บัญญัติเกิดขึ้นล่ะ ช่วยอธิบายหน่อย
แค่นี้จะไปอายอะไร เคยโกหกว่าเคยได้อภิญญาตั้งแต่ ๗ ขวบยังไม่อายเลย แค่บอกว่ามีอัตตาจึงเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย
นิพพานเป็นเรื่องของการปฏิบัติเอา เหตุนั้นพระพุทธเจ้าท่านเอามาสอนมิต้องผิดไปด้วยหรือ
ผมคิดว่าในห้องนี้เขาเก่งๆกันทั้งนั้นรู้ต้นเรื่องกันหมดแล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องยกให้เป็นเรื่องเยิ่นเย้อ...
คิดให้ดีบัญญัติตกอยู่ในกฏไตรลักษณ์หรือ นิพพานมีจริงทำไมจะต้องเป็นการตอบปฏิเสธ
คำถามผมมันแค่นิพพานกับบัญญัติแตกต่างกันอย่างไร มันไม่ตรงกับคำถามเลย ไม่รู้จะชักแม่น้ำทั้งห้าจะพาไปไหน ตอบไม่ได้ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องตอบ...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา