บุคคลที่ชื่อว่ามีอุปการะมากอย่างแท้จริง คือคนเช่นไร ? พุทธดำรัส ตอบ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ จำพวกนี้เป็นผู้มีอุปการะมากแก่บุคคล.. คือ...
คุณธัมมะสามี ขา งั้นขอคำแนะนำจากคุณละกันนะคะ หนูน่ะรู้อยู่เห็นอยู่ว่า อัสมิมานะสังโยชน์ตัวนี้ มันไม่ใช่เรา แต่จิตมันรวดเร็วเกินจะจับค่ะ...
พอมีฆราวาสอย่างข้าพเจ้าสักคน บอกจักต้องเดินตามแต่คำพระตถาคต เท่านั้น ของปลอมไม่อยากได้ อยากได้ของจริง เหตุใดท่านภิกษุทั่วโลก(บางท่าน เท่านั้นนะ)...
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ทุศีล มีบาปธรรม มีความประพฤติไม่สะอาดน่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว ไม่ใช่สมณะปฏิญาณว่าเป็นสมณะ...
ภิกษุทั้งหลาย! พวกเธอเอ็นดูใคร และใครถือว่าเธอเป็นผู้ที่เขาควรเชื่อฟัง เขาจะเป็นมิตรก็ตาม อำมาตย์ก็ตาม ญาติหรือสายโลหิตก็ตาม ชนเหล่านั้น อันเธอพึง...
รดน้ำมนต์ ไหว้พรม เทวดา ขอ ลาภ ยศ เคยมาหมดแล้ว กลับบ้านทุกข์เหมือนเดิม มาเงี่ยโสตลงฟังพระตถาคต เจริญอานาปาสติ...
รัตนะที่หายากยิ่ง ๕ ประการ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะเจ้าลิจฉวีเหล่านั้นว่า ดูก่อนเจ้าลิจฉวี ความปรากฏขึ้นแห่งรัตนะ ๕ หาได้ยากในโลก...
ข้าพเจ้านะเคยแบกพระเครื่อง เครื่องรางของขลังเต็มกระเป๋าไปว่าความที่ศาล เมื่อก่อนกว่าจะออกจากบ้านได้ ต้องมีการร่ายรำไหว้ครู...
พระผู้มีพระภาคตรัส บุคคลมีกรรมเป็นของของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัยใครทำกรรมใดไว้ดีหรือชั่ว ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น...
โยนอดีตทิ้งไป มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่เป็นตัวตนของเรา ไม่ยึดถือ หันมารักษาศีลห้า และมั่นคงในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เจริญสติภาวนา องคุลีมาร...
ยังมีโอกาสบรรลุธรรมได้ ไม่ได้ฆ่าพ่อแม่ ทำพระพุทธเจ้าห้อเลือด ฆ่าพระอรหันต์ เสียที่ไหน โยนอดีตทิ้งไป มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่เป็นตัวตนของเรา...
อย่าใส่ใจใคร หรือใด ใดในโลก ทุกอย่างล้วนเป็นกิเลส ตัณหา นำไปสู่ภพ ลองพิจารณาโดยแยบคาย ท่ีพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในกฎอีทับปจยตา เมื่อสิ่งนี้มี...
ธรรมาราโม
มีตัณหาอยากไปนิพพาน น่ะมันดีแล้ว ดีกว่ามีตัณหาอยากไปกินเหล้า
ภิกษุทั้งหลาย ธรรมอะไรเล่า เป็นธรรมะท่ีเรากล่าวสอน ภิกษุทั้งหลาย ธรรมะท่ีเรากล่าวสอนคือท่ีว่า ความทุกข์เป็นอย่างนี้ๆ...
สาธ สาธุ ฟังพอจ ทุกเสาร์ อีกทั้งก่อนฉัน หลังฉัน ใกล้พระพุทธเจ้าท่ีสุด
พอจ ท่านเป็นกัลยาณมิตรท่ีแท้ของข้าพเจ้า เป็นผู้ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจปฏิจจสมุทปบาท และการทำงานของจิต หรือมโน หรือ วิญญาณ...
ทุกวันนี้อยู่โดยอาศัย ตถาคตวิหาร คืออานาปานสติ หรือกายคตาสติ นั่นแหละ ทางชำแรกกิเลสที่ลัด สั้น และเห็นผลทันควัน ที่นี่และเดี๋ยวนี้ สาธุ
พระพุทธองต์ตรัสว่า บวชเพื่อให้รอบรู้เรื่องทุกข์ อะไรเล่าคือทุกข์ คือหู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ดังนั้นบวชเพื่อรู้จักหู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ
เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา ทุกข์เกิด การดับทุกข์ก็ต้องดับท่ีเหตุ
ถ้ายังกินด้วยความโลภ จิตของเขานั้น น่าจะยังไม่ละวาง ทางนิพพานก็คงต้องยืดยาวขึ้นอีกตามคุณภาพจิต
สะสมอริยะทรัพย์ ศีล สมาธิ ปัญญา กันเถิด อย่าสนใจทรัพย์ทางโลกเลย มีแต่ทำให้เราวนเวียนในสงสารหาทางพ้นทุกข์ไม่ได้
เพราะมีอวิชาเป็นปัจจัย จึงเป็นเหตุให้ต้องมาเกิด เมื่อเกิดมาแล้วทำไงได้ ต้องว่ากันไปคือต้องมีเบื่อ บ้างทุกข้ สุขบ้างสตว์โลกมันเป็นเช่นนั้นเอง...
สวดกฏอีทับปจยตา กับปฏิจสมุทปบาท สองบทนี้เท่านั้น
สาธุ สาธุ ละทางโลก มุ่งหาอริยะทรัพย์ ปฏิบัติขันธ์ห้ากองทุกข์ให้สิ้นจากวัฏฏะนี้ เป็นสิ่งประเสริฐสุดแล้ว ขออนุโมทนา
ไม่กลัวตาย แต่กลัวเกิดมากกว่า เพราะในวัฏฏะนี้มีแต่สิ่งน่าเบื่อหน่าย คิดยังงี้ซี มันก็ผีเราก็ผี ถ้ากลัวก็สู้ให้มันขาดใจตายไปเลย จะได้รู้แล้วรู้รอด
อ้าอิงข้อความเดิม ของคุณSomkid.tada ต่อนี้ไปขอยึดพระพุทธ พระธรรม เป็นที่พึ่งตลอดไป...
เนื่องจากหลงยึดมานานหลายชาติ หากให้ละยกเดียวจบ กำลังใจคง ไม่พอ ขอค่อยเป็น ทำตามเหตุปัจจัย ละกามฉันทะ พยาบาท เบียดเบียน สามอย่างก่อน...
อ้างอิงข้อความเดิมของคุณอินทรบุตร รู้ว่า สิ่งที่รู้เป็นเพียง รูปธรรม นามธรรม รู้ว่า รูปธรรม นามธรรม เกิดดับตามเหตุ ตามปัจจัย รู้ว่า รูป-นาม...
อนิสงส์การเจริญภาวนา ปัญหา การอยู่ในโลกอันเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายนี้ บุคคลจะต้องได้รับการอบรมจิตพอสมควรจึงจะอยู่ได้อย่างสงบสุข...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา