ภาพยนต์การ์ตูน"พระพุทธเจ้า"สอนเยาวชน

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย aprin, 28 ธันวาคม 2007.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    ภาพยนต์การ์ตูน" พระพุทธเจ้า"สอนเยาวชน

    [​IMG]


    คอลัมน์ "หัวใจนักปราชญ์"
    โดย แทนคุณ จิตต์อิสระ eee004@hotmail.com




    หากการศึกษามีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคนให้ดียิ่งขึ้น จนสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์ของตน และประโยชน์ของประเทศชาติ คำถามคือ แล้วอะไรคือสิ่งที่เรียกว่า "ดี" ที่มนุษย์ทุกคนควรจะต้องไปให้ถึง

    หากจะมองชีวิตแบบองค์รวม เราประกอบด้วยสิ่งที่เกี่ยวพันกับตัวเราหลายต่อหลายอย่าง ตั้งแต่ครอบครัว การทำงาน สังคม และตัวเราเอง แต่ดูเหมือนว่า ยิ่งเราเรียนรู้มากเข้า เรามักจะแยกทุกอย่างออกเป็นส่วนๆ จนไม่สามารถปะติดปะต่อให้เป็นภาพรวมได้

    ถ้ามีคนพูดกับเราว่า ชีวิตคือธรรมชาติ และย่อมเป็นไปตามหลักที่ธรรมชาติมีอยู่ด้วยตัวธรรมชาติเอง เราอาจคิดว่า สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับตัวเรา หรือเป็นเรื่องไกลตัวจนเกินกว่าที่เราจะต้องเรียนรู้ เพราะทุกวันนี้มนุษย์อยู่กับเรื่องที่มนุษย์สร้างขึ้น แล้วก็วุ่นวายกับสิ่งเหล่านั้นไม่จบสิ้น

    ยิ่งเป็นเรื่องการศึกษาด้วยแล้ว ล้วนแต่เป็นเรื่องของความวุ่นวายเต็มไปหมด ตั้งแต่อนุบาลจนจบมหาวิทยาลัย ชีวิตก็ต้องดิ้นรนอย่างไม่รู้จบ จนกว่าจะหมดลมหายใจ

    ที่ตั้งใจเขียนมาถึงตรงนี้ ผมคิดว่าถ้าทุกท่านเห็นภาพรวมของชีวิต และมองทุกอย่างอย่างเปิดใจกว้างเพื่อที่จะเรียนรู้ เราจะเห็นเป้าหมายของการศึกษาชัดขึ้น ว่าที่เราต้องการเรียน และรู้ ที่แท้จริงคือการบริหารจัดการชีวิตให้พบกับความสงบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


    buddhayz6.gif


    หลายคนอาจรู้สึกว่า อ่านดูแล้วรู้สึก ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเรียนเลย หรือถ้าเรียนในทางนี้ คงจะทำให้ชีวิต และสังคมความเป็นอยู่ไม่ก้าวหน้า ถ้าทุกคนรักสงบ รักสันโดษ ทุกอย่างก็หยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ต้องทำอะไร เพราะอยู่เฉยเราก็สงบแล้ว

    ยิ่งโลกในยุคปัจจุบัน ทุกคนต่างก็ต้องดิ้นรนแข่งขัน เพื่อก้าวไปสู่สิ่งที่สูงกว่า เป็นความต้องการที่มากขึ้น ดีขึ้น และพัฒนาขึ้น




    โลกจึงเต็มไปด้วยคนที่เต็มไปด้วยการศึกษา ที่กระตุ้นความต้องการ ตอบสนองความต้องการ และเสพผลของความต้องการนั้นๆ ทั้งที่เป็นความต้องการของตนเองและผู้อื่น เช่น เด็กอนุบาลก็ต้องถูกกระตุ้นให้เรียนหนังสือ ก.ไก่ ข.ไข่ ฟัง และอ่านนิทานไปจนถึงสอบแข่งขันกัน ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการของพ่อแม่ บางคนอ่านออกเขียนได้อย่างเดียวไม่พอ ต้องเรียนให้เก่ง ต้องได้คะแนนดีๆ สะสมเกรดแห่งความเครียดเรื่อยมา จนไม่มีโอกาสได้หยุดการศึกษาภายนอก ที่เน้นการกระตุ้นแล้วตอบสนองแบบนี้อย่างไม่รู้จบ

    เมื่อเราหยุดมองดูตัวเรา เราจะพบว่า เรามีความรู้มากมายทั้งที่เราเรียนมากว่า 20 ปี และยังมีอยู่รอบข้างเราอีกมากมายมหาศาล

    เช่นเดียวกับความรู้ในทางธรรมะ ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ เป็นทั้งเรื่องชีวิต การดำเนินชีวิต และการหลุดพ้นจากความทุกข์อันเกิดจากความต้องการของชีวิตที่เราเรียนไปไม่จบสิ้น พระพุทธเจ้าท่านเปรียบเหมือนกับความรู้ที่มีอยู่มากมายนี้ว่า เหมือน "ใบไม้" ในป่า แต่ถ้าเลือกเรียน เลือกรู้ เฉพาะที่เป็นสาระสำคัญกันจริงๆ แล้ว มีเพียง "กำมือเดียว" เท่านั้น

    แก่นแท้ของการศึกษา คือการเข้าถึงคุณค่าแท้ของมนุษย์ คุณค่าแท้ของมนุษย์ คือการทำประโยชน์ การทำประโยชน์แท้ที่มนุษย์พึงกระทำ คือช่วยเหลือผู้อื่นโดยปราศจากความเห็นแก่ตัว

    ลองมองดูครับว่า ทุกวันนี้การศึกษาของเราสอนให้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น หรือเห็นแก่สังคมส่วนรวมกันแน่ ถ้าเราเป็นคนที่ต้องเรียน และรู้ไปเสียหมด แต่ไม่เคยรู้ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับจิตใจ และคุณค่าที่แท้ก็นับว่าน่าเสียดายครับ

    สุดท้าย ตอนนี้มีโครงการ "ชวนน้องดูหนังพระพุทธเจ้า" เป็นการดำเนินงานโดย "กองทุนสื่อธรรมะเพื่อเยาวชน" เพื่อให้โอกาสน้องๆ ที่ด้อยโอกาสได้ไปชมภาพยนตร์การ์ตูนส่งเสริมพุทธธรรมเรื่อง "พระพุทธเจ้า" โรงเรียนใดสนใจสามารถติดต่อเป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ได้ผ่าน eee004@hotmail.com ครับ



    หน้า 27

    วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10884
    http://matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01edu21281250&day=2007-12-28&sectionid=0107
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • tlob02.jpg
      tlob02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.4 KB
      เปิดดู:
      3,404
  2. MBNY

    MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,504
    อนุโมทนาค่ะ...ขอสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนไทยได้ดูกันมากๆ อยากให้เด็กๆในชนบทได้ดูกันจังเลย ทางผู้อำนวยการสร้างภาพยนต์การ์ตูนชุดนี้ บอกว่า ธีมเรื่องหลักๆ จะสอนให้เด็กเห็นกรรมดีกรรมชั่ว และในเนื้อหายังบอกถึงการดำเนินชีวิตของพระพุทธเจ้า..ด้วยว่ากว่าที่ท่านจะมาเป็น พระพุทธเจ้า ต้องมีความ พยายามวิริยะ..อุตสาหะ กว่าจะประสบความสำเร็จ..
    [​IMG]
     
  3. จะเป็นคนดี

    จะเป็นคนดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +267
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เมื่อไหร่สัตว์โลกหยุดสร้างกรรมเมื่อนั้นเหละโลกจึงจะสงบซะที
     
  4. จะเป็นคนดี

    จะเป็นคนดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +267
    อะนุโมทนา สาธุการด้วยครับ จะพยายามคิดอยู่ในใจเสมอว่าสิ่งที่ตาเราเห็นทุกวันนั้นเป็นเพียงบัญญัติธรรมเท่านั้น ปรมัตถธรรมต่างหากที่เราควรปฎิบัติ
    <!-- / message -->
     
  5. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ (ต้องชมให้ได้ค่ะ)
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  6. suparush

    suparush Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +61
    ผมขอประณามe-tiffy ที่สร้างประวัติพระพุทธเจ้าใช้คนแสดง
     
  7. kaenlukson

    kaenlukson เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +2,126
    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ

    ทาน ศีล สมาธิ(good)
     
  8. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,596
    ค่าพลัง:
    +6,346
    [​IMG]
     
  9. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ

    ขอบคุณความคิดดีดีของคุณอี้ แทนคุณ ด้วยครับ
     
  10. newhatyai

    newhatyai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +6,203
    สาธุ.....ขออนุโมทนาครับ
    อยากดูมากจริงๆๆ ครับ เอิ๊กๆๆ

    นโม ตัสสะ ภควะโต อรหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
     
  11. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ขออนุโมทนาบุญครับ
    สาาาาา...ธุ
     
  12. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709



    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

    [music]http://mantra.at.co.th/chanting/song/02_trisaranakom.mp3[/music]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 ธันวาคม 2007
  13. bunlert

    bunlert เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +820
    อนุโมทนา สาธุ


    ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้สร้างภาพยนตร์แอนนิเมชั่นเรื่องนี้

    ทราบข่าวว่าลงทุนสร้าง 100กว่าล้านบาท แต่ได้ยอดขายตั๋วไม่ถึง 10ล้านบาท

    เพราะขาดเงินโฆษณา
     
  14. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>จากลายเส้นตัวการ์ตูน ให้โลดแล่นเป็นแอนิเมชั่น</TD></TR><TR><TD vAlign=top>28 ธันวาคม 2550 02:05 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG][/IMG] [​IMG] หากเอ่ยถึงคำว่าการ์ตูนหลายคนคงคุ้นชินกับงานการ์ตูนภาพนิ่ง ที่อยู่ตามหนังสือการ์ตูนทั่วไป หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่าการ์ตูนคอมิก ซึ่งปัจจุบันนี้ลายเส้นแบบนั้น ได้ขยับโลดแล่นมาอยู่บนหน้าจอสี่เหลี่ยมทั้งจอเงินและจอแก้ว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการทำเป็นแอนิเมชั่น คือการจับคาแรกเตอร์ของตัวละครที่ไม่มีชีวิตทั้งหมดมาทำเป็นภาพเคลื่อนไหว


    วันนี้"บันเทิงคม ชัด ลึก" จะพาไปเจาะลึกรายละเอียดทั้งหมดของการทำหนังการ์ตูนแอนิเมชั่นจากผู้อยู่เบื้องหลังโดยตรง เริ่มที่ ดร.วัลลภาพิมพ์ทอง ผู้อำนวยการสร้าง ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่อง พระพุทธเจ้า บอกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ระยะเวลากว่างานจะสำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง 4 ปีเต็ม ลงทุนไป 100 กว่าล้านบาท
    "ส่วนเหตุผลที่หยิบเอาเรื่องพระพุทธเจ้ามาทำเป็นหนังแอนิเมชั่นเพราะคิดว่าสามารถสื่อสารกับคนดูได้ง่าย อีกอย่างตัวละครที่เป็นพระพุทธเจ้า ก็หาคนมีคุณสมบัติเหมาะสมไม่ได้ จึงใช้ภาพแบบนี้เล่าเรื่องดีกว่า แต่ถ้าถามเรื่องความสำเร็จของงาน คิดว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่านี้ หากได้รับเงินสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐบาล เพราะถ้าจะเอาฝีมือคนไทยไปเปรียบเทียบกับงานของเมืองนอก
    อันที่จริงเราก็มีความสามารถทำงานให้ออกมาได้งดงามไม่แพ้ใครแค่เงินทุนเขามากกว่าเท่านั้น อย่างหนังแอนิเมชั่นเรื่องหนึ่ง ต่างชาติลงทุนน้อยสุด 200 ล้านบาทแล้ว แต่ไทยยังไม่ถึงขั้นนั้นเลย เนื่องจากงานพวกนี้ ต้องใช้ความละเอียดค่อนข้างสูง งบประมาณเลยต้องลงทุนมากกว่าการใช้คนแสดง" ดร.วัลลภา กล่าว
    ด้านคมภิญญ์เข็มกำเนิด ผู้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง ก้านกล้วย ที่ใช้เงินลงทุนไป 150 ล้านบาท เล่าถึงเหตุผลที่เลือกทำหนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้ ว่าต้องการปลุกหนังในลักษณะนี้ในเมืองไทย ให้กลับตื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากหายไป 30 ปีก่อน จึงคิดจะสานฝันต่อไปเรื่อยๆ ไม่ให้มันหายไปอีกแล้ว อีกอย่างอยากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนดูใหม่ว่า แอนิเมชั่นไม่ใช่หนังสำหรับเด็กเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ที่สำคัญอยากสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นใหม่ที่เข้าไปดูหนัง แล้วในอนาคตต่อไป ถ้าพวกเขาเกิดสนใจงานในด้านนี้ ก็จะได้กลับมาสร้างลายเส้นการ์ตูนของตัวเอง ให้มีความชัดเจนเห็นแล้วรู้เลยว่านี่เป็นงานของไทยชัดเจน
    "เพียงแต่ตอนนี้เมืองไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เชื่อว่าต่อไปในอนาคตจะต้องดีกว่านี้แน่นอน อย่างตอนนี้เรามองงานของเมืองนอก ที่เขาประสบความสำเร็จเป็นเหมือนเส้นชัย ผมว่างานแอนิเมชั่น มันมีเสน่ห์ในตัวเองนะ คือสร้างทุกอย่างขึ้นมาด้วยมือ ไม่ต้องมีขีดจำกัด สามารถทำอะไรออกมาแบบไหนก็ได้ และพาคนดูให้หลุดไปกับโลกของตัวการ์ตูนได้ จนลืมไปว่าตัวละครเหล่านั้นไม่ได้มีชีวิตจริงๆ" คมภิญญ์ กล่าว
    จากนั้นดร.วัลลภาและ คมภิญญ์ พูดถึงขั้นตอนกว่าจะมาเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นบนแผ่นฟิล์มว่าใช้หลักการเดียวกับภาพยนตร์ แต่ต้องใช้ความพยายามและอดทนกับมันมากหน่อย กว่าจะสร้างให้ตัวการ์ตูนมีชีวิตขึ้นมาได้นั้น ใช้เวลาค่อนข้างนาน และต้องให้ความสำคัญกับบท ให้มีความสมจริง จึงต้องสำรวจหาข้อมูลก่อน และออกแบบตัวละครทั้งหมดว่า จะให้มีคาแรกเตอร์อย่างไร แล้วค่อยมาออกแบบฉากสถานที่ทั้งหมด กำหนดการไกด์สีของตัวละคร เพื่อทดสอบความเรียบร้อย
    ต่อมาก็เขียนสตอรี่บอร์ด(การเขียนตัวหนังสือให้ออกมาเป็นภาพบนแผ่นกระดาษ เพื่อให้รู้ว่าตัวการ์ตูนอยู่ในฉากไหน กำลังจะเดินจากไหนไปไหน และจะหยุดคุยกับใคร เพราะสตอรี่บอร์ดจะเป็นภาพที่แทนลักษณะตามมุมกล้อง) แล้วก็มาถึงขั้นตอนการพากย์เสียง ตามบทภาพยนตร์ อย่างการทำหนังเรื่องพระพุทธเจ้า จะมีทั้งหมด 1,184 ซีน
    ส่วนทีมงานหลักๆที่ใช้ทำแอนิเมชั่นของหนังเรื่องหนึ่งนั้น ได้แก่ ไดเรกเตอร์ผู้ที่กำหนดทิศทางของแอนิเมชั่นและทำหน้าที่ควบคุบงานด้านอาร์ตไดเรกชั่น ออกแบบฉาก ออกแบบตัวการ์ตูน
    แอนิเมเตอร์ ก็คือคนที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ สร้างภาพเคลื่อนไหวให้ตัวการ์ตูน ส่วนแผนก คลีนอัพนั้นจะคอยแก้ไขลายเส้นตัวการ์ตูนให้สะอาดถูกต้องแผนก In Between จะวาดการเคลื่อนไหวระหว่างภาพต้นแบบจากนั้นก็จะนำลงมาสแกนลงเครื่องละบายสี แล้วก็ประกอบฉากกับตัวละคร ที่กล่าวมาคร่าวๆ นี้ ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการการ์ตูนแอนิเมชั่น

    -->[​IMG]


    หากเอ่ยถึงคำว่าการ์ตูนหลายคนคงคุ้นชินกับงานการ์ตูนภาพนิ่ง ที่อยู่ตามหนังสือการ์ตูนทั่วไป หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่าการ์ตูนคอมิก ซึ่งปัจจุบันนี้ลายเส้นแบบนั้น ได้ขยับโลดแล่นมาอยู่บนหน้าจอสี่เหลี่ยมทั้งจอเงินและจอแก้ว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการทำเป็นแอนิเมชั่น คือการจับคาแรกเตอร์ของตัวละครที่ไม่มีชีวิตทั้งหมดมาทำเป็นภาพเคลื่อนไหว


    วันนี้"บันเทิงคม ชัด ลึก" จะพาไปเจาะลึกรายละเอียดทั้งหมดของการทำหนังการ์ตูนแอนิเมชั่นจากผู้อยู่เบื้องหลังโดยตรง เริ่มที่ ดร.วัลลภาพิมพ์ทอง ผู้อำนวยการสร้าง ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่อง พระพุทธเจ้า บอกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ระยะเวลากว่างานจะสำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง 4 ปีเต็ม ลงทุนไป 100 กว่าล้านบาท

    [​IMG]


    "ส่วนเหตุผลที่หยิบเอาเรื่องพระพุทธเจ้ามาทำเป็นหนังแอนิเมชั่นเพราะคิดว่าสามารถสื่อสารกับคนดูได้ง่าย อีกอย่างตัวละครที่เป็นพระพุทธเจ้า ก็หาคนมีคุณสมบัติเหมาะสมไม่ได้ จึงใช้ภาพแบบนี้เล่าเรื่องดีกว่า แต่ถ้าถามเรื่องความสำเร็จของงาน คิดว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่านี้ หากได้รับเงินสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐบาล เพราะถ้าจะเอาฝีมือคนไทยไปเปรียบเทียบกับงานของเมืองนอก

    อันที่จริงเราก็มีความสามารถทำงานให้ออกมาได้งดงามไม่แพ้ใครแค่เงินทุนเขามากกว่าเท่านั้น อย่างหนังแอนิเมชั่นเรื่องหนึ่ง ต่างชาติลงทุนน้อยสุด 200 ล้านบาทแล้ว แต่ไทยยังไม่ถึงขั้นนั้นเลย เนื่องจากงานพวกนี้ ต้องใช้ความละเอียดค่อนข้างสูง งบประมาณเลยต้องลงทุนมากกว่าการใช้คนแสดง" ดร.วัลลภา กล่าว

    ด้านคมภิญญ์เข็มกำเนิด ผู้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง ก้านกล้วย ที่ใช้เงินลงทุนไป 150 ล้านบาท เล่าถึงเหตุผลที่เลือกทำหนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้ ว่าต้องการปลุกหนังในลักษณะนี้ในเมืองไทย ให้กลับตื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากหายไป 30 ปีก่อน จึงคิดจะสานฝันต่อไปเรื่อยๆ ไม่ให้มันหายไปอีกแล้ว อีกอย่างอยากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนดูใหม่ว่า แอนิเมชั่นไม่ใช่หนังสำหรับเด็กเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ที่สำคัญอยากสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นใหม่ที่เข้าไปดูหนัง แล้วในอนาคตต่อไป ถ้าพวกเขาเกิดสนใจงานในด้านนี้ ก็จะได้กลับมาสร้างลายเส้นการ์ตูนของตัวเอง ให้มีความชัดเจนเห็นแล้วรู้เลยว่านี่เป็นงานของไทยชัดเจน
    [​IMG]

    "เพียงแต่ตอนนี้เมืองไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เชื่อว่าต่อไปในอนาคตจะต้องดีกว่านี้แน่นอน อย่างตอนนี้เรามองงานของเมืองนอก ที่เขาประสบความสำเร็จเป็นเหมือนเส้นชัย ผมว่างานแอนิเมชั่น มันมีเสน่ห์ในตัวเองนะ คือสร้างทุกอย่างขึ้นมาด้วยมือ ไม่ต้องมีขีดจำกัด สามารถทำอะไรออกมาแบบไหนก็ได้ และพาคนดูให้หลุดไปกับโลกของตัวการ์ตูนได้ จนลืมไปว่าตัวละครเหล่านั้นไม่ได้มีชีวิตจริงๆ" คมภิญญ์ กล่าว


    จากนั้นดร.วัลลภาและ คมภิญญ์ พูดถึงขั้นตอนกว่าจะมาเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นบนแผ่นฟิล์มว่าใช้หลักการเดียวกับภาพยนตร์ แต่ต้องใช้ความพยายามและอดทนกับมันมากหน่อย กว่าจะสร้างให้ตัวการ์ตูนมีชีวิตขึ้นมาได้นั้น ใช้เวลาค่อนข้างนาน และต้องให้ความสำคัญกับบท ให้มีความสมจริง จึงต้องสำรวจหาข้อมูลก่อน และออกแบบตัวละครทั้งหมดว่า จะให้มีคาแรกเตอร์อย่างไร แล้วค่อยมาออกแบบฉากสถานที่ทั้งหมด กำหนดการไกด์สีของตัวละคร เพื่อทดสอบความเรียบร้อย

    ต่อมาก็เขียนสตอรี่บอร์ด(การเขียนตัวหนังสือให้ออกมาเป็นภาพบนแผ่นกระดาษ เพื่อให้รู้ว่าตัวการ์ตูนอยู่ในฉากไหน กำลังจะเดินจากไหนไปไหน และจะหยุดคุยกับใคร เพราะสตอรี่บอร์ดจะเป็นภาพที่แทนลักษณะตามมุมกล้อง) แล้วก็มาถึงขั้นตอนการพากย์เสียง ตามบทภาพยนตร์ อย่างการทำหนังเรื่องพระพุทธเจ้า จะมีทั้งหมด 1,184 ซีน

    [​IMG]


    ส่วนทีมงานหลักๆที่ใช้ทำแอนิเมชั่นของหนังเรื่องหนึ่งนั้น ได้แก่ ไดเรกเตอร์ผู้ที่กำหนดทิศทางของแอนิเมชั่นและทำหน้าที่ควบคุบงานด้านอาร์ตไดเรกชั่น ออกแบบฉาก ออกแบบตัวการ์ตูน แอนิเมเตอร์ ก็คือคนที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ สร้างภาพเคลื่อนไหวให้ตัวการ์ตูน ส่วนแผนก คลีนอัพนั้นจะคอยแก้ไขลายเส้นตัวการ์ตูนให้สะอาดถูกต้องแผนก In Between จะวาดการเคลื่อนไหวระหว่างภาพต้นแบบจากนั้นก็จะนำลงมาสแกนลงเครื่องละบายสี แล้วก็ประกอบฉากกับตัวละคร ที่กล่าวมาคร่าวๆ นี้ ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการการ์ตูนแอนิเมชั่น

    <TABLE align=center><TBODY></TBODY></TABLE>
    http://www.komchadluek.net/2007/12/28/f001_183379.php?news_id=183379

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. คุณ 4

    คุณ 4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +5,159
    อนุโมทนากับผู้สร้างด้วย
    ผมไปดูมาแล้ว สารภาพว่าง่วงมาก
    คงเพราะคนสร้างพยายามใส่พุทธประวัติให้ได้มากที่สุด
    จนทำให้เรื่องราวต่าง ๆ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปอย่างรวดร็วจนตามเนื้อความไม่ทัน

    แต่ก็มีฉากประทับใจนะคับ คือ ฉากสุดท้ายตอนพุทธปรินิพพาน
    ชอบตรงที่นำพุทธโอวาทสุดท้ายมาให้เห็นว่า แม้พระพุทธองค์จะทรงปรินิพพานอยู่รอมมะร่อแล้ว ทุกขเวทนาก็มีมากมาย
    พระองค์ท่านก็ยังไม่วายเป็นห่วงพวกเรา ดังที่ท่านกล่าวไว้ว่า

    "เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมและฉิบหายเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวง อันเป็นประโยชน์แก่ตนเอง และแก่ผู้อื่นด้วยความไม่ประมาทเถิด"


    น้ำพระทัยของพระองค์ท่านทรงมีมากเหลือคณานัป
    สมกับคำสวดบูชาพระรัตนตรัย บทหนึ่งว่า

    สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า แม้ปรินิพพานนานแล้วก็ตาม
    (สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระ ปะรินิพพุโตปิ)

    ทรงมีพระหฤทัยอนุเคราะห์แก่อนุชนรุ่นหลัง
    (ปัจฉิมมา ชะนะตา นุกัมปะมานะสา)

    พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยทอดธุระเราเลย มีแต่เราที่ทอดธุระท่าน

    รวม ๆ แล้ว ผมคิดว่าถ้าจับเอาบางตอนของพุทธประวัติเป็น theme หลัก จะทำให้ดูแล้วรู้เรื่องมากกว่านี้ และชวนให้สนุก ให้ติดตาม และได้ข้อคิด รวมทั้ง อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล น่าจะได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น

    ยังไง ก็ขออนุโมทนากับคณะผู้สร้างด้วยคับ

    ^^



     
  16. Suprawee

    Suprawee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +310
    ช่วย “หนังพระพุทธเจ้า” ด้วยก่อนจะถึง “วาระสุดท้าย”

    เพื่อนๆ ชาวพุทธ ช่วยกันด้วยนะครับ พอดีอ่านพบมา เลยนำมาแจ้งเพื่อนๆ ให้ ช่วยกันครับ เราทุกคนต้องช่วยกันนะ

    <table bgcolor="#e4f3f3" border="0" width="100%"><tbody><tr><td>เนื้อความ : (บุญรักษา)</td><td></td></tr><tr><td colspan="2">
    หลังจากพยายามมาหลายปี ในที่สุดหนังการ์ตูนแอนนิเมชั่น เรื่องที่เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นตั้งใจจริง ก็สำเร็จ ด้วยความร่วมมือและช่วยเหลือจากหลายต่อหลายท่าน ....ซึ่งต้องขอกราบอนุโมทนามานะโอกาสนี้ด้วยครับ

    แต่...ขณะนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การประชาสัมพันธ์ หรือการโปรโมท หนังนั้น เนื่องจากเรามีงบน้อยจึงประชาสัมพันธ์ไม่ได้มาก อย่างที่ทุกๆท่านเห็นอยู่ว่ามีคนรู้ข่าวเรื่องหนังน้อยมาก โดยเฉพาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เราอยากให้ดูมากที่สุด คือ เด็กๆ และเยาวชนทั่วประเทศ

    อีกทั้งสถานการณ์ตอนนี้ ค่อนข้างวิกฤตมาก หากยอดในการฉายยังไม่ขยับอย่างที่เป็นอยู่ อีกไม่กี่วันข้างหน้า หนังเรื่องนี้ก็จะถูกถอดออกจากโรงหนังแน่นอน ซึ่งนั่นหมายความว่า ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาที่อยากจะมีหนังไทยดี และเป็นหนังเกี่ยวกับการส่งเสริมและสร้างจิตสำนึกให้เด็กๆมี “ศีลธรรม” ก็จะสลายไปพร้อมๆกันนี้ด้วย

    ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ อยากให้มี โครงการการสงเคราะห์ สนับสนุนค่าตั๋วให้กับเด็กๆ อีกหลายคนที่ไม่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้เพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นโครงการ “ชวนน้องดูหนัง” ซึ่งอยากจะขอความช่วยเหลือ เช่น จะบริจาคเงินมาที่กองทุน แล้วก็ประสานไปยังโรงหนังให้จัดรอบพิเศษขึ้น

    ผมพยายามขอความร่วมมือไปยังสื่อต่างๆ เท่าที่มีแล้ว ก็ได้รับความช่วยเหลือตามอัตภาพ ประชาสัมพันธ์เป็นครั้งคราว จึงอยากให้ท่านทั้งหลายที่เห็นความสำคัญ ได้ช่วยกัน หาทางบอกต่อ เชิญชวน ช่วยเหลือ ประสานงาน จะเป็นหน่วยงานของท่าน หรือโรงเรียนที่ท่านรู้จัก ด้วยกันเป็นผู้สนับสนุน (sponsor) ให้เด็กๆ ได้ดูหนังเรื่องนี้กันมากๆนะครับ โดยเฉพาะกระทรวงศึกษา ซึ่งเคย ทำข้อตกลงความร่วมมือกันไว้ ก็ยังไม่ขยับเท่าที่ควร อยากให้ช่วยกันจริงๆจังๆ บ้างครับ

    อยากขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย เพราะหนังแบบนี้ กว่าคงไม่มีโอกาสได้สร้างอีกแล้ว เสียดายมากหากต้องจบลงในลักษณะนี้ ขอความอนุเคราะห์จากทุกท่านอีกครั้งครับ

    สุดท้ายนี้ท่านใดที่ประสงค์อยากจะช่วยกันในโครงการนี้ บริจาคได้ที่ “กองทุนสื่อธรรมะเพื่อเยาวชน” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อย โกลเด้นเพลส (ถนนประดิษฐ์มนูธรรม) เลขบัญชี 244-202260-2

    ซึ่งสามารถจัดเป็นรอบพิเศษให้เด็กได้ดูราคาพิเศษ ได้แก่ เด็กประถมจนถึงมัธยม 70 บาท และมหาวิทยาลัย ราคา 80 บาท จะบริจาคเท่าที่ต้องการเช่น 1 คน 2 คน หรือมากกว่านั้นก็ได้ครับ หรือต้องการบริจาคเป็นรอบๆ (อาจเป็นองค์กรของท่าน) ทั้งนี้ในแต่ละรอบจำเป็นต้องมีผู้เข้าชมอย่างน้อย 80-100 คน และทางเรายินดีให้องค์กรของท่านมาทำข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ขององค์กรครับ ท่านหรือองค์กรหน่วยงาน ใดที่สนใจจะช่วยสนับสนุนให้เด็กๆได้ดูก็ประสานมาได้ที่ แทนคุณ จิตต์อิสระ 081-842-8271 หรือ คุณกัมพล 089-893-1440

    ขอกราบขอบพระคุณในน้ำใจและความร่วมใจกันของทุกท่านอีกครั้งจะช่วยสร้างปาฏิหารย์ให้เกิดขึ้นอีกครั้ง เพื่อถวายความดีทั้งหมดนี้เป็นพระราชกุศลร่วมกันครับ

    จากคุณ : จิตต์อิสระ
    จากคุณ : บุญรักษา [ ตอบ: 27 ธ.ค. 50 [​IMG]13:49 ] ยังไม่แนะนำตัว | สมาชิกลานธรรมถาวร | [​IMG]ตอบ: 9 | ฝากข้อความ | </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2007
  17. เจี๊ยบ รักพ่อหลวงภูมิพล

    เจี๊ยบ รักพ่อหลวงภูมิพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,646
    ค่าพลัง:
    +4,272
    พาลูกไปดูมาแล้วค่ะ เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตของลูกเพราะไม่เคยพาเข้าโรงหนังเลย เนื้อหาดูรวดเร็วลูกดูไม่ค่อยเข้าใจเพราะเขายังเล็กอยู่แค่ ป.๑ ก็พยายามอธิบายให้เขาเข้าใจ เจี๊ยบคิดว่าพ่อแม่ควรจะพาลูกไปดูอย่างยิ่ง เพราะสอนให้คนทำความดี ละความชั่ว เราควรจะสอนลูกตั้งแต่ยังเล็กอยู่ เขาจะได้ซึมซับในสิ่งที่ดี ๆ ไม่กล้าทำความไม่ดี เท่าที่ไปดูหนังในวันนั้น พ่อแม่ส่วนใหญ่จะไปดูหนังฝรั่งเรื่องเข็มทิศอะไรนี่ล่ะค่ะ แล้วก็โปงลางตั๋วทุกรอบเต็มหมดแม้จะรอกว่า ๔-๕ ชั่วโมงเพื่อที่จะชมรอบถัดไปเขาก็ยอมรอ แต่หนังพระพุทธเจ้าที่ไปดูมีตั๋วว่างมาก ๆ เลย ในโรงหนังมีประมาณ ๒๐ ที่นั่งได้ เฮ้อ เห็นแล้วสะท้อนใจกับสังคมปัจจุบันจริง ๆ
     
  18. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    วันนี้ ไปดูมารอบที่ 2 แล้วครับ ต้องช่วยกันอุดหนุนและสนับสนุนการ์ตูนไทยดีๆ มีสาระ และเป็นการเผยแพร่พุทธประวัติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กันมากๆ หน่อยครับ

    ถ้าโรงเรียนต่างๆ นำ DVD หรือ CD ไปฉายให้เด็กๆ และเยาวชนได้ชมกันก็จะดีมากเลย เด็กๆ และเยาวชนจะได้ทราบประวัติความเป็นมาของพระพุทธเจ้าผู้เป็นพระศาสดาของพระพุทธศาสนาของเรา


    .
     
  19. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    548
    ค่าพลัง:
    +1,176
    ไปดูมาแล้วคะประทับใจมากคะ
     
  20. thanya sukjaem

    thanya sukjaem Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +95
    ขออนุโมทนากับข้อความที่คุณ aprin นำมาให่อ่านครับ ผมได้ฝากให้ลูกสาวชึ่งกำลังกลับไปเมืองไทยชึ้อกดีวีดีถ้ามี มาให้ด้วยอยากดูครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...