พลังงานอุณหธรณี

พลังงานอุณหธรณี หรือ พลังงานความร้อนใต้ผืนโลก

คือ พลังงานจากธรรมชาติที่เกิดจากความร้อนที่ถูกกักเก็บอยู่ภายใต้ผิวโลก โดยมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นตามความลึก มีค่าอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 250-1,000 องศา
ที่ระดับความลึก 25-30 กิโลเมตร เมื่อเปลือกโลกมีการเคลื่อนตัวจะทำให้เกิดรอยแตกของชั้นหิน น้ำและน้ำฝนที่ไหลซึมไปตามรอยแยกสู่ชั้นหินใต้ผิวดิน
และเกิดการสะสมตัวอยู่และได้รับความร้อนจากชั้นหินที่มีความร้อนจนกระทั่งน้ำกลายเป็นน้ำร้อนและไอน้ำซึ่งจะแทรกตัวกลับขึ้นมาบนผิวดินปรากฎให้เห็นในรูปของบ่อน้ำร้อน น้ำพุร้อน ไอน้ำร้อน โคลนเดือดและก๊าซ
บ่อน้ำร้อนและน้ำพุร้อนสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
และความร้อนหากมีอุณหภูมิสูงพอสามารถนำมาผลิตไฟฟ้าได้ จะต้องมีอุณหภูมิประมาณ 80-100 องศาขึ้นไป

ตัวอย่างเช่นแหล่งน้ำพุร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นโครงการเอนกประสงค์พลังงานความร้อนใต้พิภพแห่งเดียวในประเทศไทย ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้พัฒนาผลิตกระแสไฟฟ้าและใช้ประโยชน์โดยตรง แหล่งน้ำพุร้อนฝางมีบ่อน้ำร้อนมากกว่า 100 บ่อ โผล่ให้เห็นอยู่ในหินแกรนิตยุคคาร์บอนิเฟอรัส อุณหภูมิของน้ำพุร้อนสูงกว่า 90°C และอัตราการไหลขึ้นมาเองตามธรรมชาติของน้ำพุร้อน วัดได้ 22.4 ลิตร/วินาที การศึกษาขั้นต้นบ่งชี้ว่า อัตราการไหลของน้ำร้อนจากบ่อเจาะสำรวจตื้นประมาณ 100 เมตร มีความเหมาะสมต่อการนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยระบบ 2 วงจร (binary cycle) ขนาดกำลังผลิต 300 กิโลวัตต์ ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2532 จึงได้ทำการติดตั้งโรงไฟฟ้าสาธิตที่ใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพเป็นแห่งแรกในประเทศไทยและเป็นแห่งแรกในเอเชียอาคเนย์ด้วย กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ปีละประมาณ 1,200,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมง จะถูกส่งต่อเข้ากับระบบสายส่งไฟฟ้าเพื่อจ่ายให้ผู้ใช้ไฟฟ้าต่อครับ

ไดอะแกรม ของโรงไฟฟ้าฯ



อันนี้ลิงค์ของฐานข้อมูลของพลังงานความร้อนใต้ดิน ของ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครับ
http://www.ist.cmu.ac.th/riseat/teenet/sci/intro03.php#06

ลองเข้าไปค้นคว้ากันดู

 

งานเกี่ยวกับพลังงานที่ไบเทค คุณซิปเปอร์แจ้งข่าวมาครับ

<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เผอิญผมไปเจอมาครับว่าตอนนี้ที่ไบเทคจัดงาน Entech pollutec asia 2008, Renewable energy asia 2008 และ Pumps & Valves

งาน Entech ก็จะมีบุ๊ตเกี่ยวกับการกำจัดมลพิษ
* Air Cleaning
* Air Pollution Control and Abatement
* Analytical, Testing Instrument
* Chemical Treatment Process
* Control Equipment & System
* Energy Conservation/ Energy Saving
* Environmental Consulting
* Fan, Ventilator & Blower, Cooling & Ventilation
* Filtration Equipment
* Hazardous Material Disposal
* Heat Exchangers
* Incinerator, Solid Waste Disposal and Waste Disposal
* Instrumentation and Control / Laboratory Equipment
* Process Automation Equipment & System
* Power Transmission Equipment & System
* Purifying Equipment
* Recycling
* Reverse Engineering / Osmosis
* Safety Equipments
* Water / Waste Water Treatment & Management
* Water Packing, Water Supply & Drainage


งาน Renewable ก็จะมีบู๊ตเกี่ยวกับพลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่นพลังงานแสดงอาทิตย์
* Biogas Systems
* Biomass Power Systems
* DC-AC Power Inverters, Controllers
* Energy Efficiency Technologies
* Energy Systems Components
* Fuel Cells
* Gas Engines, Motors, Burner & Boilers
* Generator Systems,
* Hydropower Systems, Hydroelectricity Generator
* Insulation Equipments
* Power Generation
* Power Storage Batteries
* Renewable Energy Solutions, Consultants
* Solar PV Cells & Systems
* Solar Thermal Application / Systems / Collector
* Solar Collector, Solar Hot Water System
* Wind Generators

เอามาบอกครับเผื่อมีอะไรที่สนใจ เผื่อมีอะไรเอาไปใช้ที่ ปรียนันท์ธรรมสถานได้

งานนี้มีตั้งแต่วันที่ 4-7 มิถุนายน

อันนี้เวปไซต์ของงานครับ http://www.thai-exhibition.com/entech
<!-- / message --><!-- sig -->

 

โอ้วเจ๋งมากครับอิอิเซฟภาพเก็บไว้ก่อนเผื่อใช้
ถ้าเรื่องพลังงานผมว่าธาตุทั้ง5จะมีความรุนแรงขึ้น พลังงานที่ใช้ธาตุทั้ง4 ดิน น้ำ ลม ไฟ (ไม่รวมวิญาณเพราะเรายังมีเทคโนโลยีไม่ถึง) น่าจะเวิคที่สุดแล้ว เพราะพลังงานจากฟอสซิลนี่มันมีแต่ทำลายโลกอย่างเดียว อีกไม่นานก้อหมด
แต่จะหาวิธีนำมาใช้ยังไงให้คุ้มค่าที่สุดนี่สิปัญหา

ส่วนเรื่องการลดการปลดปล่อยคาบอนซึ่งเกิดจากขยะนี่มีประมาณ 20% ของไทย
ทำได้โดยการนำขยะไปหมักเป็นน้ำหมักเอนไซน์หรือน้ำหมักชีวภาพ/EM น่าจะช่วยได้เยอะทีเดียวเชียว
ส่วน 50%ของคาร์บอนจากอุตสาหกรรมนี่ยังคิดไม่ออก
ว่าจะลดมันได้อย่างไรถ้ามนุษย์บริโภคไม่มีวันจบสิ้น

ปล.ขอบคุณข้อมูลงานคุณ mead มากครับน่าสนใจมาก

 

ตามไปดูแหล่งน้ำพุร้อนแล้วครับ
ที่ลำพูน ใกล้สวนผมก็มี แต่ไม่มี detail เลยคำนวนกะพลังงานไม่ได้
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

 

คุณboontar บอกพิกัด
แล้วถามไปที่คณะฯ ม.เชียงใหม่ ดีไหมครับ เผื่อจะได้ข้อมูลเพิ่ม

 

ขอเวลาดูใน google earth ครับ
อยู่ใกล้ๆวัดหมูเปิ้ง(ไม่ใช่หมูปิ้งนะครับ)

 

ผมก็กะๆเอา เล็งวัด เล็งสามแยก ซีกเหนือของถนน 1033(แม่ทา-ท่าจักร)
Lat.18.42606 องศา N. Long. 99.99915 องศา E. หรือ
Lat. 18 องศา 25 ลิปดา 33.8 พิลิปดา เหนือ
Long. 99 องศา 59 ลิปดา 57 พิลิปดา ตะวันออก
ตำบลทากาศ อำเภอแม่ทา ลำพูน
ขอบคุณครับ