แจกฟรีพระขุนแผนเนื้อผง อธิฐานจิตโดยหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

ในห้อง 'อนุโมนาบุญ - อุทิศบุญส่วนกุศล' ตั้งกระทู้โดย winonenang, 31 ธันวาคม 2008.

  1. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    แจกฟรีพระขุนแผนเนื้อผง ซึ่งจะอธิฐานจิตโดย พระครูปราสาทพรหมคุณ หรือหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งอีสานใต้ แด่ทุกท่านที่ร่วมบริจาค มวลสารศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ระลึกในการสร้างพระบรรจุกรุ
    [​IMG] ขอเชิญร่วมบริจาคมวลสารศักดิ์สิทธิ์ทุกชนิด เพื่อสร้างพระพิมพ์เนื้อดินเผา จำนวน๘๔,๐๐๐องค์ ณ อนุสรณ์สถานหลวงพ่อทวด
    วัดดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
    ในกาลครั้งนี้มิได้มีการรับบริจาคปัจจัยใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่ว่ามีความประสงค์ ที่จะให้พี่น้องชาวพุทธได้ร่วมบุญกันในกาลครั้งนี้

    [​IMG] หลวงปู่ฤาษีลิงดำท่านเคยกล่าวไว้ว่า '' การสร้างพระ ๑ องค์ จะได้อานิสงฆ์ ๕ กัปป์ "
    [​IMG] ผมได้รวบรวมมวลสารที่มีตอนนี้ได้แก่ ๑)ชานหมากที่หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ได้เมตตาปลุกเสกให้ ๒) ผงธูปวัดพระแก้วมรกต ๓) ผงธูปวัดระฆัง ๔) ดินท้องถ้ำ ถ้ำเพชร ถ้ำทอง จ.นครสวรรค์ ๕)คดหอยหิน ๖)ผงว่านจากหลวงปู่พรหมา เขมจาโร ๗)ชานหมากหลวงพ่อเจริญ วัดโนนสว่าง เจ้าคณะตำบลหนองหมากหญ้า จ.อุดรธานี ๘) แร่เขาอึมครึม จ.กาญจนบุรี ๙)ผมแร่เหล็กน้ำพี้ จากบ่อพระแสง บ่อพระขรรค์ ๑0) ผงหยกเขียว จากประเทศจีน ๑๑)ผงแร่เกาะล้าน ๑๒)ผงธูปวัดโพธิ์ ๑๓)ผงธูปศาลเจ้าพ่อหลักเมือง[​IMG]
    แต่กระผมยังขาดดิน ๗นคร ๙บุรี (คือดินจากจังหวัดที่มีคำลงท้ายด้วยนคร ๗ จังหวัด และดินจากจังหวัดที่มีคำลงท้ายด้วยบุรี ๙จังหวัด และต้องเป็นดินจากยอดจอมปลวก) หากพี่น้องชาวพุทธท่านใดมีกระผมก็ขอกราบเรียน ให้ท่านช่วยเมตตากรุณา ส่งมาร่วมทำบุญกับผมในครั้งนี้ด้วยนะครับ
    <O[​IMG]</O[​IMG]มวลสารตามสูตรยังไม่ครบมีดังนี้
    ๑ ) ดิน ๗ นคร ๙ บุรี
    ๒ ) ดินโป่ง ๗ โป่ง
    ๓ ) ดิน ๗ ท่าน้ำ
    ๔ ) ดิน ๙ ใจกลางนา
    ๕ ) ดินขุยปากรูปู ๙ รู
    ๖ ) ตะไคร่โบสถ์ (ตะไคร่ที่เกาะผนังกำแพงโบสถ์) ตะไคร่เสมา(ตะไคร่ที่เกาะใบเสมา) ตะไคร่เสาสลุงช้าง(คือ ตะไคร่ที่เกาะเสาล่ามช้าง)
    ๗ ) ดินสังเวชนียสถานทั้ง๔ จากประเทศอินเดีย
    ๘ ) ๑ ) ผงพุทธคุณ ๒) ผงอิธิเจ ๓) ผงอิติติปิโส ๔) ผงมหาราช ๕) ผงตรีนสิงเห ๖) ผงปัทหมัง
    ๙ ) ผงว่าน ๑๐๘
    ๑๐) น้ำจากบ่อ หรือสระที่ไม่เคยแห้ง
    ขอขอบคุณกับทุกท่านที่สละเวลา และเป็นกำลังใจให้ผมนะครับ และก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ
    โครงการนี้ก็จะดำเนินการรวบรวมมวลสารไปเรื่อยๆครับ จัดหามวลสารให้ครบตามสูตรครับที่ครูบาอาจารย์ได้รจนาไว้ครับ จะได้ไม่ผิดครู ข้ามครู เมื่อตั้งใจแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จ
    จะช้าหรือเร็วก็สุดแท้แต่โอกาสและเวลาจะเอื้ออำนวยครับ
    ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ให้ความสนใจในครั้งนี้ครับ
    โครงการนี้ จะมอบพระให้แด่เฉพาะทุกท่านที่ปรารถนาทำบุญร่วมกัน โดยการส่งมวลสารมาร่วมบุญเท่านั้นครับ


    [​IMG] ท้ายนี้ข้อให้ท่านผู้เจริญ และท่านที่มีความรู้ในศาสตร์ด้านนี้ ที่ได้อ่านประกาศนี้ได้โปรดให้ความอนุเคราะห์ในงานบุญครั้งนี้ <O[​IMG]></O[​IMG]>
    และขอให้ท่านทั้งหลายมีแต่ความสุขความเจริญด้วยเทอญ<O[​IMG]></O[​IMG]>
    <O[​IMG]></O[​IMG]>
    [​IMG] กรุณาส่งมวลสารศักดิ์สิทธิ์มาที่ <O[​IMG]></O[​IMG]>
    นายศิริพงษ์ จิตประสงค์พาณิช <O[​IMG]></O[​IMG]>
    598/111 อาคาร1 ไอ-เฮ้าส์คอนโด<O[​IMG]></O[​IMG]>
    พระราม9 บางกะปิ <O[​IMG]></O[​IMG]>
    ห้วยขวาง กทม. <O[​IMG]></O[​IMG]>
    10310<O[​IMG]></O[​IMG]>


    <FIELDSET class=fieldset style="WIDTH: 498px; HEIGHT: 249px"><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]




    </FIELDSET>



    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]







    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2009
  2. โบราณคดี

    โบราณคดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +174
    ย้ายไปห้องพระเครื่องดีกว่านะครับ กระทู้นี้ครับรับรองได้ครบเร็วครับ ห้องนั้นกัลยาณมิตรเยอะครับ
     
  3. โบราณคดี

    โบราณคดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +174
    อัตชีวประวัติ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ(พระครูปราสาทพรหมคุณ สุสานทุ่งมน (วัดเพชรบุรี) อ.ปราสาท จ.สุรินทร์





    <DD>เด็กชายสุวรรณหงษ์ จะมัวดี เป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียร มีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา ได้ช่วยกิจการงานทุกอย่าง ทำนา หว่านกล้า เก็บเกี่ยวข้าว ด้วยความวิริยะอดทน จนอายุได้ 18 ปี มารดาขอร้องให้บวชเณร ด้วยสาเหตุเกรงว่าจะไปมีเรื่องกับผู้อื่น เพราะเป็นช่วงเวลาของวัยรุ่นอารมณ์ร้อน ซึ่งโดยนิสัยแล้วเป็นผู้มีจิตใจเข้มแข็ง ไม่เกรงกลัวใคร สุดท้ายเห็นแก่มารดาจึงตัดสินใจบวชให้แค่เพียง 7 วัน <DD>ครั้นบรรพชาแล้วพระอุปัชฌาย์ได้ตั้งนามให้ใหม่ว่า"สามเณรพรหมศร" ลุมาได้ 3 วัน ขณะนั่งบนแคร่ไม้ใต้โคนต้นมะขามใหญ่ได้มีบุรุษหญิงชายแปลกหน้าทั้งมีอายุแก่และหนุ่ม แต่งกายแบบชาวบ้านมาขอร้องให้เทศน์โปรดทีเถิด สามเณรพรหมศรกล่าวว่า “ฉันพึ่งบวชได้ไม่ถึงวันยังเทศน์ไม่เป็นหรอก ชายหญิงผู้แปลกหน้าทั้งหลายต่างให้ข้อแนะนำว่า” “ท่านเจ้าคะท่านเทศน์ไม่เป็นก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ท่านทดลอง ว่านะโม 3 จบ ประเดี๋ยวท่านก็จะเทศน์ได้เองนั่นแหละ” สามสามเณรพรหมศรนั่งนิ่งแลสงสัยว่า บุคคลทั้งหลายเหล่านี้เป็นใคร? มาจากไหน? อยู่ๆก็มาขอร้องให้เราเทศน์ แต่เมื่อลองคิดแล้วเขาบอกให้ว่านะโม 3 จบ จากนั้นก็เป็นเรื่องที่ปากพูดไปได้เองเป็นเรื่องเป็นราว ชายหญิงทั้งหลายต่างนั่งพนมมือ อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ครั้นเทศน์จบก็กราบขอบคุณขอลากลับ หันไปอีกทาง ปรากฏว่าหายไปทางไหนก็ไม่รู้” ผู้เขียนกราบเรียนถามหลวงปู่ว่าทำไมสามเณรพรหมศรจึงเทศน์ได้ ท่านกล่าวว่า มันเป็นของเก่าหรือที่เรียกว่า “ธรรมบันดาล” ที่พาให้พูดกล่าวไปได้เอง ความตั้งใจที่จะบวชเพียง 7 วัน ก็อยู่เลยเรื่อยมาจนอายุครบ 20 ปี พระอุปัชฌาย์จึงอุปสมบทให้ ณ วัดเพชรบุรี ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ โดยตั้งนามฉายาให้ใหม่ว่า “พรหมปัญโญ” แปลว่า ผู้มีปัญญาดุจพรหม <DD>เมื่ออุปสมบทแล้ว หลวงปู่ตั้งใจมั่นขยันหมั่นเพียรศึกษาพระปริยัติธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า หลวงปู่เป็นผู้มีความวิริยะสูง จดท่องจำแม่นยำยิ่งนัก ทั้งฝักใฝ่หาความรู้ เพียรหาครูบาอาจารย์อย่างไม่ลดละแม้จะไกลไปยาก ก็อุตส่าห์ดั้นด้นเดินทางไป เพื่อให้ได้ความรู้กลับคืนมาเป็นรางวัล ด้วยปณิธานมั่นที่จะโปรดลูกหลานญาติโยมภายหน้า สืบไป <DD>ครั้นอุปสมบทได้แล้ว 3 พรรษา จึงกราบลาพระอุปัชฌาย์จาริกธุดงควัตรตามแบบฉบับแห่งพระบรมครู อาศัยอยู่ตามโคนไม้ นุ่งห่มใช้ผ้าเพียงสามผืน ทั้งถือที่สงบสัปปายะ เช่น ป่าช้าเป็นที่เจริญภาวนาเช้าค่ำ ขบฉันภัตตราหารเพียงมื้อเดียว ได้ท่องเที่ยวสู่เมืองขุขัน จ.ศรีสะเกษ เพราะเป็นเขตแห่งสรรพศาสตร์มนตรา จึงได้เข้าขอศึกษากับครูอาจารย์ที่เป็นทั้งฆราวาสก็ดี เป็นผู้ทรงศีลสมณะก็ตาม จนเป็นที่พอใจแล้ว จึงขออนุญาตลากลับเพื่อจาริกธุดงค์สู่พรมเปญ กัมพูชาสืบไป <DD>เมื่อธุดงค์ข้ามเขาเข้าเขตกัมพูชา อันเป็นที่ตระหนักดีอยู่แล้วว่าเป็นดินแดนแห่งอาณาจักรขอมถิ่นอาถรรพ์ เป็นที่รวมแห่งสรรพศาสตร์ ไสยเวทย์มนตรารุ่งเรืองนัก คงเป็นด้วยบุญบารมีเก่าหนุนนำ พาให้ได้พบกับครูบาอาจารย์เก่า เมื่อพบเห็นแล้วทุกครูอาจารย์ ต่างพึงพอใจในพระภิกษุหงษ์ พรหมปัญโญผู้สันโดษอ่อนน้อมถ่อมตนยิ่งนัก ได้บังเกิดความเมตตาประสิทธิประสาทสรรพวิชา ทั้งเวทย์มนแลคาถาเมตตา มหาเสน่ห์ กำบังภัยทั้งคุ้มครอง แคล้วคลาดกันอาวุธ ปืน หอก ดาบ ธนูหน้าไม้เขี้ยวงา ช้างเสือ หุงสีผึ้ง กันยาเบื่อ ทั้งคุณไสย ทำน้ำมนต์รดอาบต่างหายไป แม้นบ้าใบ้จิตหลอนก็อ่อนโยน จนลุเลยข้ามดงสู่จังหวัดสารพัดไต่เขาและภูผา อาศัยหุบเขาข้างห้วยเอนกายา ตกค่ำภาวนาตลอดไปยามสองจิตผ่องใส บังเกิดธรรมบันดาลพาพบไป กับพระอาจารย์ใหญ่องค์เทพเทวาได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาลงจารเสกปากกา อุปเท่มีคุณมากหนากว่าพันประการ ประทานเสร็จสอนจบครบตำรา พระพรหมปัญโญให้ปิติทั้งศรัทธา ตั้งจิตกราบครูบาแล้วเงยหน้าขอชมบารมี ทันทีที่ลืมตารูปท่านอาจารย์ใหญ่ก็จางหายทันที พระพรหมปัญโญสุดที่จะเสียดายเพราะมิได้กล่าวคำว่าขอบคุณ แก่ท่านผู้กรุณาประสาทวิชา ครั้นล่องไพรในพนากลางป่าใหญ่ อัศจรรย์ใจเป็นนักหนาเห็นเด็กร่างดำใหญ่ดุจศิลา พลางผลักทักทายมาแต่ใด กุมารดินล้มหงายหลัง แล้วตั้งตรงทดลองใหม่ ผลักล้มมาด้านหน้า ทดลองถึงสองครั้งให้ระอาจึงแสดงกายาสูงใหญ่ได้ห้าเมตร แสดงเสร็จให้เกิดศรัทธาแล้วสั่งสอนถึงวิธีการสร้างกุมารทองให้ถูกต้องตามตำรับฉบับครู ครั้นธุดงค์ผ่านเขาพนาไพร นานอยู่ได้เกือบขวบปี แวะผ่านที่หมู่บ้านชื่อ “บ้านกรู” <DD>ณ หมู่บ้านนี้เองที่ชาวบ้านต่างกล่าวขานคุณงามความดีในวีรกรรมหลายๆสิ่งที่ไม่อาจลืมเลือนได้ จากหัวใจของทุกคน แม้หลวงปู่จะธุดงค์กลับประเทศไทยแล้วก็ตามจนขณะนี้หลวงปู่มีอายุย่าง 85 ปี จึงได้เดินทางไปเยี่ยมชาวกัมพูชา เมื่อชาวบ้านทราบข่าวว่าหลวงปู่จะมาต่างดีใจ ครั้นหลวงปู่ไปถึงชาวบ้านเกือบพันคนต่างนอนคว่ำเรียงรายตั้งแต่ถนนจนถึงศาลา แล้วอาราธนาให้หลวงปู่เดินเหยียบบนหลังของเขาเหล่านั้น หลวงปู่จะไม่เดินชาวบ้านเขาก็ไม่ยอม กล่าวว่ายอมพร้อมพลีกายด้วยความเคารพบูชา หลวงปู่ขัดเขามิได้จึงยอมเดินบนหลังของเขาเหล่านั้น แม้แต่ผู้เฒ่าอายุราว 100 กว่าปี เมื่อทราบข่าวว่าหลวงปู่มาก็อุตส่าห์ลากไม้เท้าหลังงองกเงิ่นเดินทางมากราบบูชา ผู้ติดตามหลวงปู่ทุกคนต่างแปลกใจและถามว่าทำไมจึงศรัทธาองค์หลวงปู่ขนาดนี้ พวกเราทุกคนต่างก็ถึงบางอ้อ! เพราะพ่อเฒ่าต่างเล่าให้ฟังว่า “หลานเอ๋ย ถ้าวันนั้นหลวงพ่อไม่ได้อยู่กับเราแล้ว หมู่บ้านกรูทั้งหมู่บ้านก็แตกกระจายป่นปี้ไปแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องแปลก ตาเองก็ไม่เคยเห็น ว่าลูกระเบิด และลูกปืนใหญ่ขนาดแตงโม มันตกมาบนหลังคาหญ้าแฝก แปลกที่มันไม่ทะลุหล่นลงมา กลับกลิ้งคลุกๆ ไปตามทางลาดชายคา พวกเราก็นึกว่าต้องตายแน่ๆ ถ้าลูกระเบิดตกกระทบกับพื้นดิน ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังตุ้บ! ปรากฏว่าลูกปืนจมดินเกือบครึ่งลูก แต่มันอัศจรรย์มาก หลานเอ๋ย มันไม่ระเบิด! เท่านั้นแหละเม็ดกรวด เม็ดหิน แม้แต่ดินใต้แคร่ไม้ไผ่ เขายังขุดไปลึกเป็นเมตรเอาไปปั้นเป็นลูกอมตากแดด ครั้นหลวงพ่อกลับประเทศไทยไปแล้ว แคร่ตัวที่ท่านนั่งก็ยังไม่มีเหลือ ชาวบ้านเขาจุดธูปเอามาพลีแบ่งกันจบหมดไม่เหลือหรอ หลวงพ่อเน้อ! พร้อมกับยกมือไหว้ทางหลวงปู่ พวกตาและชาวบ้านรอดตายมาได้ทุกคน เสมือนตายแล้วเกิดใหม่ เท่ากับหลวงพ่อท่านมาชุบชีวิตให้ใหม่” <DD>ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมชาวบ้านเขาจึงพร้อมใจกันยอมนอนคว่ำให้หลวงปู่ท่านเดินบนหลังของพวกเขา ชาวบ้านทุกคนเคารพรักหลวงปู่เสมือนเป็นเทพของพวกเขาทีเดียว เพราะมิใช่ว่าหลวงปู่ จะป้องกันภัยให้พวกเขาได้อย่างเดียว แต่หลวงปู่ได้แผ่เมตตาปล่อยสัตว์ ขุดบ่อ ขุดสระ สร้างฝายน้ำล้น ปลูกป่า ปล่อยช้าง วัว ควาย เต่า งู ตะขาบ สัตว์ทุกชนิด และสั่งห้ามมิให้ชาวบ้านทำลายป่าไม้ โดยอบรมสั่งสอนให้เห็นคุณและโทษของการไม่มีป่าไม้ไม่มีน้ำ จะเกิดความเดือนร้อนนานาประการ พร้อมทั้งสอนให้ชาวบ้านทุกคนถือศีลห้า ห้ามดื่มเหล้าเมายา แล้วครูอาจารย์ของหลวงปู่ท่านจะคุ้มครอง ทุกคนเคารพศรัทธาในหลวงปู่ได้ประพฤติปฏิบัติตาม จึงมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข <DD>หลวงปู่เป็นพระธุดงค์ ถือสันโดษ โปรดสัตว์ จึงไม่ติดกับที่อยู่ หรืออมิสลาภ จึงได้ลาญาติโยม เพื่อจาริกแสวงบุญ</DD>
     
  4. โบราณคดี

    โบราณคดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +174
    เมตตาบารมีอิทธิปาฏิหารย์ ปราบนางพญาโจรี

    หลวงปู่ธุดงค์จาริกแสวงบุญเรื่อยมายังเมืองพระตะบอง ขณะนั้น ชาวเมืองเกิดความเดือดร้อน ข้าวยากหมากแพง เกิดขโมย โจรชุกชุม แต่ยังมีกลุ่มโจรหนึ่งมีหัวหน้าเป็นสตรี มีลูกน้องกว่า 50 คน มีนามว่า “มะลิ” มะลิเป็นชื่อของสาวใหญ่ชาวเขมร ถือกำเนิด ณ เมืองพะตะบอง ในยุคนั้นแล้วต้องถือว่ามะลิเป็นสาวที่มีความงดงามที่สุด ความงามสมัยนั้นจะต้องมีผิวดำเป็นมัน ผมดำเงา มีความสง่าแฝงไปด้วยตะบะบารมีประดุจนางพญา เพราะนางนั้นมีสมุนพลพรรคบริวารประมาณกว่า 50 คน ทั้งนางและสมุนบริวารนั้นล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่ทางราชการของกัมพูชาต้องการตัวมากที่สุด เพราะมะลิและบริวาร มีอาชีพในการจี้ปล้น แต่ก็เป็นโจรที่มีคุณธรรม เพราะข้าวของที่ได้มาจากการปล้นนั้นนางได้แบ่งปันแล้วก็นำไปแจกจ่ายแบ่งต่อคนยากจนด้วย ซึ่งการจี้ปล้นแต่ละครั้ง จะปล้นจากคนรวยมาแบ่งคนจน หรือการจี้ปล้นแต่ละครั้งนั้นจะกระทำก็ต่อเมื่อพรรคพวกอดอยากไม่มีจะกินแล้ว จึงทำการปล้น ในการลูกสมุนออกปล้นแต่ละครั้ง นางมะลิจะทำพิธีเบิกทางโจร ด้วยวิชาไสยศาสตร์โดยการตั้งขันทำน้ำมนต์เสร็จแล้วก็นำน้ำมนต์นี้แจกจ่ายแก่พวกสมุนให้ดื่มกินกันจนครบ จึงได้ออกกระทำการปล้น จนเป็นที่หวาดหวั่นสะพรึงกลัวต่อผู้มีฐานะร่ำรวย เดือดร้อนไปตามๆกัน จึงได้นำความนี้ขึ้นร้องเรียนแจ้งต่อกฎหมายบ้านเมือง แต่ก็มิได้รับผลสำเร็จแต่ประการใด เพราะยามใดที่ทางราชการออกกวาดล้างไล่จับ ก็ไม่สามารถจะจับได้ หรือติดตามได้ทัน ขนาดประชิดตัวเห็นอยู่หลัดๆจับได้ก็ดิ้นหลุด หายตัวมองไม่เห็นต่อหน้าต่อตา อย่างหาสาเหตุไม่พบ ขนาดตำรวจทราบลังหรือแหล่งที่อยู่ล้อมรอบไว้แล้วก็ยังมิอาจจะทำอะไรต่อสมุนนางได้ เมื่อตำรวจล้อมบ้านยามใดสมุนทุกคนต่างกระโดดลงอ่างน้ำมนต์ หายไปต่อหน้าต่อตาเช่นกัน โดยที่บ้านเมืองนั้นต้องพบกับความผิดหวังร่ำไป และเมื่อทุกคนต่างทราบกิตติศัพท์ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ว่าเป็นพระธุดงควัตร ประพฤติปฏิบัติดีมีสรรพวิชา เรืองด้วยวิทยาอาคมอันแก่กล้า ต่างก็นำความมากราบเล่าสู่หลวงปู่หงษ์ และขอความเมตตาช่วยเหลือปราบนางพญาโจรี และพรรคพวกด้วยเถิด หลวงปู่ก็ได้เมตตาสัตว์ที่ยากไร้ อันหาที่พึ่งมิได้ จึงได้ดำเนินเดินทางมาถึงบ้านของมะลิ และได้นั่งภาวนาแผ่เมตตาบารมีอยู่ ณ บนบ้านของนางพญาโจรี จนพลบค่ำนางพญาโจรีได้กลับมาถึงบ้าน หลวงปู่กล่าวว่านางมะลิมาแล้ว แต่ทุกคนก็มิอาจมองเห็นนางได้เลย แต่มะลินั้นมิอาจที่จะรอดพ้นสายตาของหลวงปู่หงษ์ผู้ทรงด้วยฌานแห่งทิพย์จักษุและเจโตปริยญานไปได้ ว่านางนั้นต้องการอะไร และจะประพฤติปฏิบัติเหตุการณ์อะไรต่อไปเป็นลำดับ ด้วยญานของอนาคตตังสะญาณ

    <DD>ทั้งที่นางมะลิพยายามก้าวขาขึ้นบันไดด้วยวิธีใดๆก็ตาม ก็มิอาจที่จะขึ้นบันไดบ้านของตนได้ จนหลวงปู่ได้กล่าวขึ้นว่า “อ้าว! ขึ้นมาบนเรือนซิ” นางจึงขึ้นมาบนเรือนได้ ทุกคนได้ยินเสียงเท้าคนเดินไปมา แต่ก็มิอาจที่จะมองเห็นนางมะลิได้อยู่ดีนั่นเอง จนหลวงปู่ได้กล่าวว่า “นั่งลงซี” พร้อมกันนั้นหลวงปู่ได้ทำการถอนเวทมนต์ทั้งปวง ทุกคนจึงได้เห็นว่านางมะลินั่งอยู่ หน้าหลวงปู่ ทันใดนางก็ชักปืนออกมาจากเอว หมายจะสังหารพระภิกษุรูปนี้เสีย แต่นางก็หาได้มีความไวเกินจากญานอันหยั่งรู้ของหลวงปู่ไปมิได้ ทันใดนั้นหลวงปู่ก็ตบที่หัวเข่าของท่านว่า “ติด” เป็นที่แปลก นางมะลินั้นมือก็ติดอยู่ที่ปืน และก็ไม่สามารถที่จะชักปืนนั้นออกมาจากเอวของนางได้ สักครู่ต่อมาหลวงปู่จึงได้ถามว่า “ยอมแล้วหรือยัง ถ้ายอมแพ้ให้กราบ” นางมะลิยอมแพ้และได้ก้มกราบแต่โดยดี และนำปืนไว้ข้างหน้า <DD>สักครู่นางจึงนึกว่าหลวงปู่ตายใจแล้วว่ายอมแพ้ พอหลวงปู่เผลอด้วยสัญชาติญาณของนางพญาโจรี นางก็ยื่นมือเตรียมหยิบปืน หมายจะสังหารหลวงปู่เสีย ให้สิ้นจงได้ แต่ก็มิสามารถที่จะหลุดเลยจากญานของหลวงปู่ไปได้ ทันใดนั้นหลวงปู่ก็ตบหัวเข่าของท่านอีกครั้ง และกล่าวว่า “ติด” ด้วยสัจจวาจาและตะบะบารมีจึงทำให้นางพญาโจรีจะเอื้อมหยิบปืนอย่างไรก็ไม่สามารถหยิบได้เลยทั้งๆที่ปืนนั้นอยู่ด้านหน้าของนางเองไม่ถึงศอก <DD>จากนั้นหลวงปู่ก็กล่าวอบรมให้สติ ด้วยหลักแห่งศีลและเมตตาธรรม จนนางนั้นได้เกิดความละอาย เกรงกลังต่อบาป บังเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ถวายตัวเป็นอุบาสิกา และขอสมาทานศีลแปด ประพฤติดี ปฏิบัติชอบจนถึงทุกวันนี้ ณ ประเทศกัมพูชา ซึ่งหลวงปู่ก็นับถือน้ำใจของนางมะลิ ทั้งต่างให้ความนับถือกันเป็นพี่น้องบุญธรรมร่วมชาตินี้ด้วย <DD>ส่วนพรรคพวกสมุนบริวารต่างกลับตัวกลับใจ หันมาประกอบสัมมาอาชีพประพฤตัวถูกต้องตามกฎหมายเป็นพลเมืองดีของชาติบ้านเมืองสืบไป
    </DD>
     
  5. โบราณคดี

    โบราณคดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +174
    ห้าสิบห้าหาไม่เห็น


    <DD>หลวงปู่ได้ธุดงค์ ดั้นด้นมาถึงเขตดินแดงติดต่อระหว่างกัมพูชากับเวียตนาม(เวียตกง) ซึ่งขณะนั้นลัทธิคอมมิวนิสต์กำลังเผยแพร่ มีอิทธิพลต่อทวีปเอเชียอาคเนย์เป็นอย่างมาก ได้มีหลายประเทศเปลี่ยนระบบการปกครองเป็นลัทธิดังกล่าว ในจำนวนนี้ ประเทศเวียตนามหรือเรียกกันว่า “พวกเวียตกง” ก็เปลี่ยนระบบการปกครองไปแล้ว ระบอบการปกครองลัทธินี้ สอนให้ไม่มีศาสนา มีความเชื่อเกี่ยวกับเทพเทวดา หรือว่าวิญญาณทั้งหลาย จึงได้กวาดล้างลัทธิของทุกศาสนาให้หมดไปโดยสิ้นเชิง ดังนั้นพระสงฆ์องค์เจ้าก็ต้องศึกไป บ้างก็ต้องหนีออกนอกประเทศ มิฉะนั้นจะถูกทำลายล้างเข่นฆ่าให้ตายหมด

    <DD>ขณะที่หลวงปู่ได้ธุดงค์มาถึง ณ เขตชายแดนประเทศกัมพูชา กับประเทศเวียตนาม ทันใดนั้นทหารเวียตกงก็ได้แห่กันมาประมาณห้าสิบกว่าคน ล้อมรอบกลดของหลวงปู่ เพื่อจะจับนำตัวไปฆ่า แต่เมื่อเปิดผ้าคลุมมุ้งกลดดู ก็เห็นแต่กลดว่างเปล่า คงมีแต่กาน้ำใส่น้ำตั้งอยู่ กับบาตรและถุงยามเท่านั้น แต่องค์หลวงปู่นั้นได้หายไปแล้วจึงทำให้นึกย้อนเหตุการณ์สมัยหลวงปู่ผจญกับนางพญาโจรีที่พาลูกสมุนโดดลงขันน้ำกลางบ้านหายกันไปหมด แต่ได้กราบเรียนถามท่านแล้วว่าหลวงปู่ใช้วิชานี้หรือเปล่า หลวงปู่ท่านกล่าวตอบว่า “ทำมิได้หรอก” เป็นเรื่องของครูบาอาจารย์ ที่จะช่วยให้ศัตรูเห็นก็ได้ หรือมิเห็นก็ได้ เป็นเรื่องของท่านหลวงปู่ทำไม่เป็นหรอก

    <DD>ซึ่งในการนี้ทหารเวียตกงจะค้นหาอย่างไรก็ไม่พบองค์หลวงปู่ได้ ผลสุดท้ายท่านเมตตา และสงสารพวกทหารเวียตกง จึงได้ปรากฏกายยอมให้ทหารเวียตกงจับตัวไป โดยคิดปลงเสียว่า “ถ้าอดีตเคยเป็นศัตรูกันมาก็ดี เคยเป็นเจ้ากรรมนายเวร จะนำไปฆ แกงอย่างไรก็เชิญจับไป ให้ถือว่าใช้เวรใช้กรรมกันเป็นชาติสุดท้าย จักได้เป็นอันตัดขาดหมดเวรหมดกรรมกันไป แต่ถ้ามิได้เป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาก่อนแล้วละก็ ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยรักษา ครูบาอาจารย์รักษาคุ้มครอง อย่าได้เป็นอันตรายแต่ประการใดเลย

    <DD>ทันใดที่หลวงปู่ได้ปรากฏกายออกมาจากกลดนั้น ทหารเวียตกงต่างตกใจขวัญหนีดีฝ่อ จึงได้นำปืน M16 ประทับบ่าแล้วยิงถล่มสู่เป้าหมายถึงองค์หลวงปู่ทันที หลวงปู่นั้นก็ได้แต่ยืนเฉย หาได้สะทกสะท้าน หรือหวาดกลัวเสียงลูกปืนแต่ประการใดไม่ เพราะลูกปืนนั้นได้ตกลงกองอยู่ ณ ด้านปลายเท้าของหลวงปู่นั่นเอง ห่างจากปลายเท้าประมาณ 1 วา บางกระบอกปืนก็ยิงจนปากกระบอกแดง บางกระบอกลูกปืนไหลออกจากปากกระบอกเอง ซึ่งตามตำราของท่านเรียกว่า “ปืนแตกน้ำ” คือลูกกระสุนจะด้านหรือหมดสภาพประดุจลูกปืนหรือดินประสิวนั้น แช่อยู่ในน้ำ เวลายิงจึงด้าน และไหลออกมาประดุจว่าไหลมากับน้ำ จึงเรียกว่าปืนแตกน้ำ “ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดของวิชาคงกระพันของท่าน”

    <DD>เมื่อทหารเวียตกงจะฆ่าอย่างไรๆ ก็มิอาจฆ่าได้ ทุกคนต่างก็จนใจ ผลสุดท้ายจึงเข้ารุมจับหลวงปู่ แล้วนำมาใส่กรงเหล็ก นำเดินทางมาถึงท่าเรือ จากนั้นก็ยกกรงเหล็กใส่เรือตังเกออกสู่กลางทะเล สักครู่ต่อมาเวียตกงจึงนำเชือกผูกกรงเหล็ก แล้วยกกรงเหล็กถ่วงทะเล ประมาณ 10 นาทีต่อมาจึงได้สาวเชือกดึงกรงเหล็กขึ้นมา ทุกคนต้องตกใจอย่างที่สุด เพราะพระภิกษุที่อยู่ในกรงเหล็กนั้นนั่งสมาธิเฉยหาได้สะทกสะท้านตกใจกลังต่อภัยใดๆไม่ แถมจีวรที่นุ่งห่มอยู่นั้นก็ไม่เปียกน้ำทะเลแต่ประการใด

    <DD>ซึ่งการนี้ได้กราบเรียนถามหลวงปู่ว่าทำไมจีวรของหลวงปู่จึงไม่เปียกน้ำ หลวงปู่ได้เมตตาตอบว่า “อ๋อศีลคุ้ม คนเราถ้ามีศีลมั่นถือมั่น ในปฏิทาแห่งคุณพระพุทธเจ้า และครูบาอาจารย์แล้ว เชื่อว่าตกน้ำก็ไม่ไหล ตกไฟก็ไม่ไหม้ ประกอบกับการที่เรามีเมตตาอธิษฐานแผ่ยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย”

    <DD>แต่ก็ยังไม่สะใจพวกทหารเวียตกงอยู่นั่นแหละ เพราะเขากลับมีคำสั่งให้เรือหาปลานั้นวิ่งแล่นต่อไปอีกไกลแสนไกล จนเห็นแค่ขอบฟ้าจรดผิวน้ำเท่านั้น จากนั้นก็นำกรงเหล็กหย่อนลงมหาสมุทร อยู่นานสักประมาณ 10 นาที จึงได้สาวเชือกขึ้นมา ทันใดทหารเวียตกงก็ต้องช๊อก เพราะว่าหลวงปู่นั้นยังคงนั่งสมาธิเฉยดุจเดิมอยู่ในกรงเหล็ก ทำให้พวกทหารเวียตกงนั้นหมดความสามารถที่จะประหารเข่นฆ่าพระภิษุรูปนี้ได้ จึงได้สั่งคนเรือหัวเรือกลับสู่ฝั่งของเมือง ได้กราบเรียนถามว่า”หลวงปู่ทราบได้อย่างไรว่าเป็นมหาสมุทรมิใช่ทะเล” หลวงปู่ได้เมตตาตอบว่า “ก็น้ำในมหาสมุทรนั้นจะเย็นมากกว่าน้ำในทะเล ผู้เขียนจึงถึงบางอ้อ และมีความรู้เพิ่มขึ้นอีก”

    <DD>ในที่สุดเรือหาปลาก็แล่นเข้าหาฝั่งอีกครั้ง แต่ทหารเวียตกงนั้นก็มิได้ละความพยายามแต่ประการใด ต่างก็ช่วยกันยกกรงเหล็กลงและรุมกระชากองค์หลวงปู่ออกมาจากกรงเหล็ก อีกสี่คนช่วยกันจับแขนทั้งสอง และขาทั้งสองอยู่ในลักษณะนอนคว่ำ จากนั้นก็นำพุ่งเข้าปากจระเข้ใหญ่ ซึ่งกำลังนอนหลับอ้าปากอยู่ ซึ่งตามลักษณะสัญชาติญาณของจระเข้แล้ว เวลานอน

    <DD>สุดท้ายทหารเวียตกงก็ยอมแพ้ในอิทธิบุญบารมีของหลวงปู่ จึงได้นำองค์หลวงปู่ออกจากจระเข้ใหญ่ พร้อมทั้งกราบถวายตัวเป็นศิษย์สืบมา</DD>
     
  6. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    <TABLE class=tborder id=post936823 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_936823 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">
    สัจจวาจา...ปืนแตก

    หลวงปู่ได้เดินธุดงค์ จากเวียตนามสู่ประเทศกัมพูชาอีกครั้งหนึ่ง ขณะรุกขมูลอยู่กกลางป่าใหญ่นั้น จึงเต็มไปด้วยสัตว์ป่าน้อยใหญ่ ช้าง ม้า เสือ กวาง กระต่าย งู นานาพันธุ์ที่น่าแปลกยามใดที่หลวงปู่ปักกลดพักแรมเวลาค่ำคืน ณ ที่ใดก็ดี มักจะมีช้าง กวาง กระต่าย งู
    มาเป็นเพื่อนล้อมอยู่โดยรอบ ซึ่งหลวงปู่จะมีความสุขมากยามที่เงียบ
    สงบ และได้พบกับสัตว์ป่านานาชนิดมาร่วมอยู่ข้างตัว ท่านเรียกว่า
    "เพื่อนของเรา" จนเวลารุ่งอรุณหลวงปู่จะบอกแก่สัตว์ทั้งหลายว่า ให้กลับเข้าป่าไป เดี๋ยวพวกคนป่า หรือนายพรานมาพบเข้าจะทำร้ายเอาให้รีบกลับเข้าป่าไปอย่างเป็นระเบียบ แต่น่าสงสารยังมีกวางท้องแก่ตัวหนึ่ง ท้องแก่มากเดินไม่ค่อยไหว เพราะต้องอุ้มท้องเดินต้วม
    เตี้ยมๆ อุ้ยอ้ายอยู่หลังสุด สักครู่ก็มีพรานป่าออกมาจากริมป่า พร้อมด้วยอาวุธปืนประทับบ่าเตรียมพร้อม จ้องสู่เป้าหมายคือกวางแม่ลูกอ่อน แต่ในยามนั้นได้ลุล่วงสู่ฌาณสมาบัติของหลวงปู่ จึงได้แผ่บารมีธรรมคุ้มครองป้องกัน ทั้งได้กล่าวด้วยเมตตาธรรมแห่งสัจจะวาจาว่า "อย่ายิงกวางแม่ลูกอ่อนนะ ถ้ายิงเดี๋ยวปืนมันจะแตก" ด้วยความไร้เมตตาและขาดคุณธรรมของนายพราน แถมยังดื้อดันมิยอมเชื่อฟัง
    คำห้ามปรามของภิษุสงฆ์ ซึ่งขออภัยทานในชีวิตของสัตว์อีก
    จึงได้ยกปืนยาวขึ้นประทับบ่า แล้วลั่นไกปืนขึ้นทันที ทันใดนั้นเองปากกระบอกปืนของนายพรานดื้อก็ลั่นเสียงดัง เปรี๊ยะ! แต่เป็นเพียงให้หลาบจำมิได้เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่ประการใด ด้วย
    ความกลัวและตกใจ พรานป่าผู้ใจบาปจึงยอมลดปืนลง เบื้องหน้า พร้อมกับก้มกราบขอขมาต่อหลวงปู่ว่าจะไม่ประพฤติทำเช่นนี้อีกหลวงปู่จึงได้เมตตาให้โอวาทตักเตือน และให้พรจากนั้นพรานป่าจึงได้ลากลับสู่ครอบครัวของตน

    <!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("936823")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    <TABLE class=tborder id=post936824 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_936824 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">
    พระธาตุปรากฏ



    คุณหมอชัชชัย ด่านสุนทร นายแพทย์ประจำโรงพยาบาลบุรีรัมย์ได้หยิบพระพิฆเนศปางอ้อมจักรวาลเนื้อชานหมากกับพระพิมพ์ขุนแผนชัยวรมันให้ชมพร้อมกล่าว "แปลกนักพระเนื้อชานหมากทั้ง 2 นี้ได้มีเม็ดพระธาตุผุดเรียงเต็มไปหมดบางองค์ก็มากบางองค์ก็น้อย แต่ส่วนใหญ่ที่พิจารณาแล้วพระพิมพ์ขุนแผนชัยวรมันจะมีเม็ดพระธาตุขึ้นมากกว่าจึงได้พิจารณากันว่าพระธาตุที่ผุดขึ้นมีสีขาวทราบภายหลังว่า ในการผสมผงสร้างพระชุดนี้ ได้นำผงพระธาตุสิวลี ซึ่งหล่นอยู่ก้นโหลแก้วครั้งที่ คุณพี่ประดิษฐ์ สุขประเสริฐ ทายาทศิษย์สายหลวงพ่อดิ่ง วัดบางบัวจ.ฉะเชิงเทรา นำมาถวายหลวงปู่จึงได้นำผงพระธาตุสิวลีผสมกับผงของพระพิมพ์ขุนแผนชัยวรมันชุดนี้ด้วยประการแรก ประการที่สองเล็บของหลวงปู่นั้นงอกยาวได้ใสบ้าง เป็นเม็ดใสก็มี ประการที่สามอันว่าธาตุขันธ์ในกายของหลวงปู่ เช่น เกศ เล็บ น้ำลายผสมอยู่กับชานหมากก็ตาม เหล่านี้กระมังที่มาประชุมธาตุจนทำให้พระพิมพ์ ขุนแผนชัยวรมันกับพิมพ์พระพิฆเนศ เนื้อผงชานหมากเหล่านี้ ปรากฏเป็นธาตุขึ้นได้ หรือแม้แต่พระผงรุ่นแรกพิมพ์นิยม พิมพ์ไกเซอร์ก็ดี พระพิมพ์สมเด็จ พระประธานก็ดี รุ่นฉลองชัยที่กดพิมพ์มือล้วนกรรมวิธีการสร้างแบบโบราณ คือ กดด้วยมือตัดขอบด้วยผิวไผ่หรือมีด ผึ่งลมตามธรรมชาติ เมื่อนำมาสักการะบูชาก็ปรากฏว่างอกได้ฟูได้ มีเม็ดพระธาตุงอกขึ้นเต็มทั้งองค์เช่นกัน หลวงปู่กล่าวว่า"เราตั้งใจทำให้จริงๆแล้วก็ทำให้อย่างดีด้วย เพราะว่าคณะศิษย์ตั้งใจทำเพื่อฉลองอายุครูบาอาจารย์ ครูบาอาจารย์มิมีสิ่งใดที่จะตอบแทนน้ำใจ ก็มีแต่ศีลปฏิบัติภาวนาและน้ำจิตที่เป็นบุญเป็นกุศลสะสมมาแต่กาลก่อน อธิษฐานขอช่วยลูกศิษย์ให้ได้ดีทุกคนแต่ปราถนาขออย่างเดียวอย่าดื่มเหล้าหรือผิดลูกเมียผู้อื่นเขา อะไรก็ทำมิได้เลย สำหรับเรื่องนี้ทำให้นึกถึงคุณหมอชัชชัย หมอดีฝีมือเยี่ยมแห่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์ จำได้ว่าวันที่คุณหมอชัชชัยได้ไปกราบหลวงปู่พร้อมกับผู้เขียนได้นำครอบน้ำมนต์ถวายหลวงปู่ได้ประสิทธิพร้อมขอน้ำมนต์ของหลวงปู่เติมไว้เป็นปฐม หลวงปู่เมตตาตักให้พร้อมกล่าวว่า"ให้นำน้ำธรรมดามาเติมใช้ได้ดี 108 ประการ" ครั้นกลับมาบ้านคุณหมอก็นึกถึงหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ว่าเวลาท่านสร้างพระมักนำพระแช่น้ำมนต์ 1-2 วัน นำขึ้นมาผึ่งก็บังเกิดมีพระธาตุผุดขึ้น เอ! ถ้าหลวงปู่ของเราก็น่าจะทำได้เช่นกัน เพราะบารมีธรรมจริยปฏิปทา จึงทำให้เกศาที่บูชาก็ยังเป็นแก้วเป็นธาตุได้ ครั้นเวลากลางคืนได้ฝันถึงหลวงปู่มาบอกว่า "ให้นำพระขุนแผนชัยวรมันแช่น้ำมนต์ซึ่งประเดียวก็เห็นเอง" คุณหมอชัชชัย สะดุ้งตื่น แต่มีความรู้สึกว่าหลวงปู่มากล่าวพูดเช่นนั้น จึงได้อาราธนาพระขุนแผนชัยวรมันองค์ละ 100 บาท แช่น้ำมนต์ประมาณ 1-2 วันแล้วนำมาผึ่งวางไว้ พอเวลาค่ำได้พบเห็นว่าพระพิมพ์ขุนแผนชัยวรมันเกิดมีธาตุใสได้ จึงปลื้มปิติยินดีอย่างที่สุด

    <!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("936824")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    ทั้งโบราณคดี เเละ
    winonenang<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1791829", true); </SCRIPT> ขออ้างอิงข้อมูลกระทู้คุณออกมาดูโลกนะครับ
     
  9. จั่นเจา_w9

    จั่นเจา_w9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +1,285
    ผมอยู่นครสวรรค์จะนำดินอำเภอไหนก็ได้ใช่ไหมครับหรือนเป็นดินใจกลางเมืองนครสวรรค์
     
  10. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    สวัสดีครับพี่น้องชาวพุทธทั้งหลาย ทางโครงการสร้างพระบรรจุกรุพระจำนวน ๘๔,๐๐๐องค์ มีความประสงค์ที่จะต้องการมวลสารดิน ๗ นคร ๙บุรี
    หากท่านใด นำมาร่วมบริจาคจำนวน ๒กิโลกรัม ทางโครงการขอมอบ

    [​IMG] วัตถุมงคลชุดพิเศษของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญให้กับคุณ ๑ชุดครับซึ่งจะมี
    ๑) ผ้ายันต์หายตัว (เกิดเหตุคับขันให้วางไว้บนศรีษะแล้วสวดพระคาถา" นะเมติ " จะหายตัวได้ กันไฟไหม้ กันฟ้าผ่า กันภูตผีปีศาจ ใช้ได้๑๐๘ประการ)
    ๒)ตะกรุดโทนหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ(คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด กันปืนใหญ่ได้ผมไม่ได้โม้นะหลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังครับ ใช้ทำน้ำมนต์ปราบเสนียดได้)
    ๓)พระขุนแผนเนื้อผง ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ(เด่นเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายดีใช้ได้๑๐๘ประการ)
    ดิน ๗นคร ๙บุรี (คือดินจากจังหวัดที่มีคำลงท้ายด้วยนคร ๗ จังหวัด และดินจากจังหวัดที่มีคำลงท้ายด้วยบุรี ๙จังหวัด และต้องเป็นดินจากยอดจอมปลวกใหญ่)
    ดิน ๗ นคร
    ๑)พระนครศรีอยุธยา
    ๒)กรุงเทพมหานคร
    ๓)นครพนม
    ๔)นครราชสีมา
    ๕)นครนายก
    ๖)นครปฐม
    ๗)นครศรีธรรมราช หรือ๘)สกลนคร๙)นครสวรรค์

    ดิน ๙ บุรี
    ๑)ลพบุรี
    ๒)สระบุรี
    ๓)สิงห์บุรี
    ๔)สุพรรณบุรี
    ๕)กาญจนบุรี
    ๖)ชลบุรี
    ๗)จันทบุรี
    ๘)เพชรบุรี
    ๙)นนทบุรี หรือปราจีนบุรี หรือราชบุรี
    ส่งมวลสารมาที่ พระอาจารย์<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>ชุตินธร์ อริยวังโส
    วัดป่าวิเวกธรรม ถ.ศรีจันทร์
    อ.เมือง จ.ขอนแก่น
    รหัส ๔๐๐๐๐
    วงเล็บที่หน้ากล่องว่า " ดิน๗นคร๙บุรี...(จังหวัดที่คุณไปนำดินมา).."
     
  11. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    ข้อความส่วนตัว ที่ส่งมาจากน้องโบราณคดีครับ
    <HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->

    [​IMG] ๑) ผมได้ดินจากเเหล่งโบราณคดีเมืองขีดขิน จ.สระบุรี(พศ 1200)

    ๒) ดินจากเเหล่งโบราณคดี จ.กาญจนบุรี(3000-5000 ปี)

    ๓) เศษหม้อจากวังเก่าหลังสนามหลวง จาก จ.กรุงเทพมหานคร

    [​IMG] ส่วนบล็อคนั้นราคาประมาณ 4000 กว่าบาทขึ้นไปครับเพราะว่าไม่ได้ทําทีร้าน

    เค้าๆจะคิดเเพง ติดต่อร้านเช็ง(พัชนี นนทสูติ) ตลาดท่าพระจันทร์

    022213698 026235871
    <!-- / message -->
     
  12. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    <HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1> <!-- / icon and title --><!-- message -->
    [​IMG] เมื่อวานนี้คุณ เบญญาภา มหาพาณิชย์ หรือพี่ปู
    จากจังหวัดสมุทรปราการ แต่ตอนนี้พี่ปูอยู่อเมริกา
    [​IMG] ได้ส่งมวลสารมาร่วมสร้างพระมีดังรายการต่อไปนี้
    ๑) ผงอังคารธาตุ หลวงปู่มี ปมุตโต (หลวงปู่เกล้า)
    ๒) พระเกศาของ หลวงปู่บุญฤทธิ์ ที่สวนทิพย์ จังหวัดนนทบุรี
    ๓) ชานหมากเสก ของ หลวงปู่มี ปมุตโต (หลวงปู่เกล้า)
    ขออนุโมทนาด้วยนะครับพี่ปู

    <!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  13. โบราณคดี

    โบราณคดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +174
    เศษหม้อจากวังเก่าหลังพระบรมมหาราชวัง จาก จ.กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันคือ พิพิธภัณฑ์มิวเซียมสยามครับ (ของใช้วังเจ้านายนะครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2009
  14. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    เมื่อวานนี้คุณ ศิริชัย ตาลสุก
    จากจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ส่งมวลสารมาร่วมสร้างพระมีดังรายการต่อไปนี้
    ๑) ดินยอดจอมปลวก
    ๒) พระชำรุด หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัวจำนวน ๒องค์
    ๓) ทรายเสก จากวัดช้างเผือก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
    ๔) ผงดอกไม้บูชาพระ
    ขออนุโมทนาด้วยนะครับ
    <!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  15. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    สวัสดีครับพี่อนุชิต ศิษย์ร่วมสำนัก
    <HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อนุชิต [​IMG]
    ผมเองเคยไปกราบล.ป.หงษ์ มาหลายครั้ง ผมเป็นเขยสุรินทร์ เมื่อ ๑๕ ปีที่แล้ว ไปบ้านแม่ยาย เลยแวะไปกราบท่านเป็นครั้งแรก ตัวท่านเองนับญาติกันแล้วเป็นญาติทางแม่ยายผม เวลาไปกราบท่าน แม่ยายเป็นล่ามแปลภาษาให้ฟัง ผมยังเก็บชานหมาก จะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่ชานหมาก ผมเห็นท่านสับกิ่งอะไรสักอย่าง สีน้ำตาลเข้มค่อนไปทางสีดำ ลงในครกตำหมาก แล้วตำก่อนเคี้ยว ท่านคายให้ผมมาพอประมาณ มีเรื่องเล่าผมฟังจากหลวงพ่อบุญลือ วัดคำหยาด อ่างทอง ท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อปี ๔๗ ทางวัดซับลำไย ลพบุรี (อ.ตั้ว เจ้าอาวาส ศิษย์สาลิโขและศิษย์ก้นกุฏิล.พ.กวย ชัยนาท)ทำการหล่อพระ ได้นิมนต์ ล.ป.หงษ์ มาร่วมพิธี พอถึงวันงานท่านไม่ใด้มา แต่ ล.พ.บุญลือเห็นท่านมานั่งปรกด้วย ตอนเทหล่อพระ ล.พ.บุญลือ ท่านจับสายสิญจ์ แต่สายสิญจ์ที่ท่านจับอยู่ไม่ไหม้ไฟ ทั้งๆที่พาดผ่านเตาหลอม ขญะเดียวกันนั้นท่านเห็นพระรูปหนึ่งมานั่งปรกด้วย แต่ท่านไม่ทราบว่าเป็นใคร ภายหลังมีผู้นำภาพถ่าย ล.ป.หงษ์ มาให้ท่านดู ท่านยืนยันว่าเป็นพระรูปเดียวกันกับพระที่มานั่งปรกในวันนั้น ทั้งๆที่ล.ป.หงษ์ไม่ใด้ไปงานวันนั้นเนื่องจากท่านติดกิจนิมนต์อย่างอื่น อัศจรรย์จริง
    [​IMG] จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สวัสดีครับคุณอนุชิต
    [​IMG] เนื่องด้วยที่กระผมจัดโครงการสร้างพระบรรจุกรุจำนวน๘๔,๐๐๐องค์นี้ ก็เพื่อสร้างถวายเป็นพุทธบูชา และต้องการถวายอานิสงส์ต่อหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญครับ
    [​IMG] ที่คุณพูดถึงเรื่องชานหมากนั้น เปลื่อกไม้นั้นเขาเรียกว่าสีเสียด บางทีคนแก่แถวบุรีรัมย์เรียกว่า กะเสียด ชานหมากของหลวงปู่ดูไม่ยากใช่ไหมครับ ชานหมากของท่านจะค่อนข้างหยาบ เพราะมีเปลือกไม้อยู่มาก เวลาปั้นจะปั้นยากครับ เมื่อปั้นเป็นเม็ดกลมแล้วผมจะทิ้งให้แห้งดีแล้ว
    จากนั้นจะลงรักครับ ทาบางๆจนกว่าจะหนาครับ ถ้าเอาไปชุบรักให้หนาๆก็ทำได้ครับ แต่จะไม่คงทน ถ้าเวลาเกิดทำตกพื้นรักจะหลุดจนเห็นเนื้อชานหมากเลยครับ แต่ถ้าทาบางๆเป็นชั้นๆจะทนมาก น้ำก็ไม่สามารถเข้าได้ครับ
    แต่ใช้เวลาหลายเดือนครับ ถ้าใครมีความรู้เรื่องนี้จะทราบครับ เพราะรักแท้ๆจะแห้งช้าครับ ไม่เหมือนสีน้ำมัน
    แต่ถ้าทำเสร็จแล้วจะสวยมากครับ เดี๋ยวผมนำรูปมาลงให้ชมครับ
    [​IMG] ถ้าพี่น้องท่านใดศัทธาในชานหมากของหลวงปู่หงษ์ ก็ติดต่อมาได้นะครับ กระผมยินดีมอบให้แด่ทุกท่านที่ประสงค์จะร่วมบุญสร้างบล็อกพระครับ และเครื่องปั๊มพระแบบพวงมาลัยครับ
    [​IMG] ผมเองก็ศัทธาหลวงปู่ท่านมากครับ อยางไรเสียแล้วพี่กับผมก็ศิษย์สำนักเดียวกัน กระผมก็ขอฝากตัวด้วยนะครับ และกระผมจะดำเนินการในโครงการนี้ให้สำเร็จครับ อย่างไรก็ดีกระผมขอฝากโครงการนี้ ไว้ในความอนุเคราะห์ของคุณอนุชิต ด้วยนะครับ

    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]
    </FIELDSET>
     
  16. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    ขอมอบชานหมากหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ แด่๑๐ท่านแรก

    <HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->[​IMG] วันนี้เอารูปลูกอมชานหมากของหลวงปู่หงษ์มาให้ชมครับ
    ผมมีชานหมากของหลวงปู่หงษ์ท่าน ประมาณ๑๐ องค์ครับ
    แต่ไม่ได้ลงรักนะครับจะได้เห็นว่า เป็นเนื้อชานหมากของท่านจริงๆ แด่ ๑๐ ท่านแรกครับ
    [​IMG] ซึ่งตอนนี้หลวงปู่หงษ์ ท่านงดฉันหมากแล้วครับ ตามคำแนะนำของแพทย์ครับ เลยทำให้ชานหมากหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญหายากมากยิ่งขึ้นครับ
    ตอนนี้บรรดาศิษย์ผู้ที่มีชานหมากต่างเก็บรักษาเป็นอย่างดี คุณนะเมติ จากเว็ป วักถ้ำเมืองนะ ชื่อคุณวิทยา สุริยงค์ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ เป็นศิษย์หลวงปู่หงษ์ ก็มาขอแบ่งจากผมเหมือนกันครับ
    เขาบอกว่าไม่มีแล้วพอแบ่งให้ได้ไหม ผมเองก็มีเพียงเท่านี้ครับ ก็อยากสร้างบุญ เลยยอมสละให้แด่ท่านที่ศัทธา ครับ
    [​IMG] ขอมอบให้แด่ท่านที่บริจาคเครื่องปั๊มพระ แบบพวงมาลัย และบล็อกพระครับ กรุณาติดต่อที่คุณศิริพงษ์ 083-913-3997
    [​IMG] วันหลังจะนำชุดผ้าไตรของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ที่หลวงปู่เคยหม่มาให้ชมครับ
    [​IMG] ท่านได้มอบให้ผมเมื่อประมาณ ๔ปีที่แล้วครับ ตอนกระผมไปถวายปัจจัย และพาคณะไปถวายปัจจัยร่วมสร้างปราสาทหลวงปู่ครับ
    [​IMG] และยังมีเกศา และเล็บ ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญที่กระผมบูชาอยู่ ให้ท่านได้ชมบารมีครับ
    และยังมีปากกาครูอีก ๓ด้ามครับ มีอีกเยอะครับเอาไว้วันหลังมาคุยกันนะครับ

    <!-- / message --><!-- attachments -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET> <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>ไฟล์แนบข้อความ</LEGEND></FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2009
  17. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    อนุโมทนาบุญเช่นกันครับ
     
  18. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    <CENTER>แจกสีผึ้งสาริกา ผ้ายันต์หายตัว และพระผง ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

    </CENTER>

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><!-- ads code --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-0334174069738588";/* 160x600, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 1/12/09 */google_ad_slot = "9414322058";google_ad_width = 160;google_ad_height = 600;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT>

    <CENTER>

    <CENTER>แจกสีผึ้งสาริกา ผ้ายันต์หายตัว และพระผง ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

    วัตถุมงคลชุดพิเศษของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

    </CENTER>

    </CENTER><CENTER>ให้กับทุกท่าน ๑ชุดครับ ที่ได้ร่วมบริจาคดินกลางใจนา จำนวน ๔ กิโลกรัม
    กระผมขออ้างอิงยกกระทู้ที่ท่านพระคุณเจ้า พระที่12 ได้แนะนำ วิธีปฏิบัติ ในการหาดินใจกลางนา

    ดิน ๙ ใจกลางนา

    ตำราสร้างพระโบราณต้องเป็นดินที่ขุดจากใจกลางนาที่ข้าวกำลังออกรวงสุก เครื่องบัตรพลีแม่ธรณี 12 เพื่อขอดิน ดินที่ใช้ได้ผลต้องลึกลงไป 1 ศอกจึงนำมาใช้สร้างพระหรือปลูกว่าน
    วัตถุมงคงซึ่งจะมอบให้มีดังนี้

    ๑)สีผึ้งสาริกา ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ใช้ได้เป็น เมตตามหานิยม๑๐๘ประการ)

    ๒)ผ้ายันต์หายตัว ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ(หายตัวได้ ต้องใช้ในเวลาคับขัน คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด กันปืนใหญ่ได้ผมไม่ได้โม้นะหลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังครับ ใช้ได้๑๐๘ประการ)
    ๓)พระขุนแผนเนื้อผง ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ(เด่นเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายดีใช้ได้๑๐๘ประการ)
    รีบหน่อยนะครับวัตถุมงคลมีจำนวนจำกัด จะส่งวัตถุมงคลให้ทุกท่านเมื่อเสร็จสิ้นการสร้างพระแล้ว
    กรุณาส่งมวลสารมาที่ ตู้ปณ ๒๓๑ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น รหัส ๔๐๐๐๐
    <!-- / message --><!-- attachments -->


    ...ขออนุญาติเจ้าของกระทู้ลงข้อความเพื่อเผยแผ่

    </CENTER>






    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->๔ ) ดิน ๙ ใจกลางนา

    ตำราสร้างพระโบราณต้องเป็นดินที่ขุดจากใจกลางนาที่ข้าวกำลังออกรวงสุก เครื่องบัตรพลีแม่ธรณี 12 เพื่อขอดิน ดินที่ใช้ได้ผลต้องลึกลงไป 1 ศอกจึงนำมาใช้สร้างพระหรือปลูกว่าน

    ขอเจริญพร
    พระ12
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    <!-- / message --><!-- edit note -->
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><IFRAME name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=undefined&dt=1232273187578&format=undefinedxundefined&output=html&correlator=1232273187578&ea=0&frm=1&ga_vid=266829524.1229012106&ga_sid=1232268066&ga_hid=702032546&ga_fc=true&flash=10.0.12.36&u_h=800&u_w=1280&u_ah=770&u_aw=1280&u_cd=32&u_tz=420&u_his=11&u_java=true&dtd=31" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2009
  19. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    <CENTER>ดินมวลสารสร้างพระ๘๔๐๐๐องค์

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->กระผมได้รับจดหมายของคุณ สมบูรณ์ ยลสุข
    ๑๐๓ ม.๒ ต.ดอนมดแดง อ.ดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี ๓๔๐๐๐
    ได้ส่งดินมาถุงหนึ่งหนักประมาณ ๒๐กรัม
    ไม่ได้ระบุว่าเป็นดินอะไรครับ
    ถ้าประสงค์ส่งดิน๗นคร ๙บุรี และจะรับวัตถุมงคล ของหลวงปู่หงษ์๑ชุด
    กรุณาส่งดินยอดจอมปลวกจำนวน ๒กิโลกรัมมาอีกครั้งด้วยนะครับ ส่งแบบธรรมดานะครับ
    สวัสดีครับพี่น้องชาวพุทธทั้งหลาย ทางโครงการสร้างพระบรรจุกรุพระจำนวน ๘๔,๐๐๐องค์ มีความประสงค์ที่จะต้องการมวลสารดิน ๗ นคร ๙บุรี
    หากท่านใด นำมาร่วมบริจาคจำนวน ๒กิโลกรัม ทางโครงการขอมอบ
    [​IMG] วัตถุมงคลชุดพิเศษของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญให้กับคุณ ๑ชุดครับซึ่งจะมี
    ๑) ผ้ายันต์หายตัว (เกิดเหตุคับขันให้วางไว้บนศรีษะแล้วสวดพระคาถา" นะเมติ " จะหายตัวได้ กันไฟไหม้ กันฟ้าผ่า กันภูตผีปีศาจ ใช้ได้๑๐๘ประการ)
    ๒)ตะกรุดโทนหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ(คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด กันปืนใหญ่ได้ผมไม่ได้โม้นะหลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังครับ ใช้ทำน้ำมนต์ปราบเสนียดได้)
    ๓)พระขุนแผนเนื้อผง ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ(เด่นเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายดีใช้ได้๑๐๘ประการ)
    ดิน ๗นคร ๙บุรี (คือดินจากจังหวัดที่มีคำลงท้ายด้วยนคร ๗ จังหวัด และดินจากจังหวัดที่มีคำลงท้ายด้วยบุรี ๙จังหวัด และต้องเป็นดินจากยอดจอมปลวกใหญ่)
    [​IMG] ๑)ห้ามมิให้นำดินที่มิใช่ดิน๗ นคร ๙บุรีส่งมาร่วมสร้างพระ
    [​IMG] ๒)จะต้องเป็นดินจากยอดจอมปลวกใหญ่ของจังหวัดที่กระผมจะกล่าวต่อไปนี้เท่านั้น
    [​IMG] ๓)จะต้องทำการพลีดิน(ทำการขอดินจากจอมปลวก)ก่อนที่จะขุด ให้จุดธูปบอกกล่าวที่จอมปลวก ว่าจะขอดินบนยอดจอมปลวกไปสร้างพระจำนวน๘๔,๐๐๐องค์ จงได้โปรดอนุญาตและขอให้แผ่บารมีมาที่ดิน และขอให้อนุโมทนาบุญร่วมกัน

    ดิน ๗ นคร
    ๑)พระนครศรีอยุธยา
    ๒)กรุงเทพมหานคร
    ๓)นครพนม
    ๔)นครราชสีมา
    ๕)นครนายก
    ๖)นครปฐม
    ๗)นครศรีธรรมราช หรือ๘)สกลนคร๙)นครสวรรค์

    ดิน ๙ บุรี
    ๑)ลพบุรี
    ๒)สระบุรี
    ๓)สิงห์บุรี
    ๔)สุพรรณบุรี
    ๕)กาญจนบุรี
    ๖)ชลบุรี
    ๗)จันทบุรี
    ๘)เพชรบุรี
    ๙)นนทบุรี หรือปราจีนบุรี หรือราชบุรี
    ขอเปลี่ยนที่ส่งใหม่นะครับ
    กรุณาส่งมาที่ ตู้ปณ. ๒๓๑ ต.ในเมือง
    อ.เมือง จ.ขอนแก่น
    รหัส๔๐๐๐๐
    ขออนุโมทนาครับ

    วงเล็บที่หน้ากล่องว่า " ดิน๗นคร๙บุรี...(จังหวัดที่คุณไปนำดินมา).."
     
  20. winonenang

    winonenang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +51
    <CENTER>ขอเชิสร้างพระพิมพ์เนื้อดินเผาบรรจุกรุพระจำนวน๘๔,๐๐๐องค์เพื่อเป็นพุทธบูชา

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมบริจาคมวลสารศักดิ์สิทธิ์ทุกชนิดเพื่อสร้างพระพิมพ์เนื้อดินเผา บรรจุกรุพระ จำนวน๘๔,๐๐๐องค์เพื่อเป็นพุทธบูชา และร่วมกันถวายอานิสงส์นี้แด่พระครูปราสาทพรหมคุณ (หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ)<O[​IMG]</O[​IMG]


    ณ อนุสรณ์สถานหลวงพ่อทวด


    วัดดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา

    ในกาลครั้งนี้จัดการสร้างพระเพื่อสืบทอดพระศาสนาตามธรรมเนียมปฏิบัติต้องสร้างให้ได้อย่างน้อย เท่ากับพระธรรมซึ่งมีถึง๘๔,๐๐๐พระธรรมขันธ์ลองสังเกตดูจากประวัติตามที่มีจารึกไว้ในกรุหรือพระเจดีย์ต่างๆ จำนวนจะไม่น้อยไปกว่านี้ แต่ถ้ามากกว่ายิ่งดีครับโดยมีวัตถุประสงค์ให้พี่น้องชาวพุทธได้ร่วมบุญกันในกาลครั้งนี้ และทางโครงการจะจัดสร้างพระพิมพ์เนื้อดินเผาให้แล้วเสร็จ จำนวน ๘๔,๐๐๐องค์ <O[​IMG]</O[​IMG]


    ณ วัดป่ากิติญานุสรณ์ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น<O[​IMG]</O[​IMG]


    วัตถุมงคลชุดพิเศษของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ<O[​IMG]</O[​IMG]
    ขอมอบให้แด่ทุกท่าน ๑ชุดครับ ที่ได้ร่วมบริจาคดินกลางใจนา จำนวน กิโลกรัม
    กระผมขออ้างอิงยกกระทู้ที่ท่านพระคุณเจ้า พระที่๑๒ ได้แนะนำวิธีปฏิบัติ ในการหาดินใจกลางนา<O[​IMG]</O[​IMG]

    ดิน๙ ใจกลางนา<O[​IMG]</O[​IMG]
    ตำราสร้างพระโบราณต้องเป็นดินที่ขุดจากใจกลางนาที่ข้าวกำลังออกรวงสุกเครื่องบัตรพลีแม่ธรณี ๒๑เพื่อขอดิน ดินที่ใช้ได้ผลต้องลึกลงไป ๑ศอกจึงนำมาใช้สร้างพระหรือปลูกว่าน<O[​IMG]</O[​IMG]

    เครื่องไหว้แม่ธรณีเพื่อขอดิน<O[​IMG]</O[​IMG]


    ทุกท่านที่ส่งดินมาจะต้องทำการพลีดินด้วยวิธีนี้ครับ


    เครื่องบัตรพลีแม่ธรณี๒๑เพื่อขอดิน<O[​IMG]</O[​IMG]


    เครื่องไหว้แม่ธรณีขอดินกระทงชุดเล็ก ก็ใส่ขออย่างละนิดอย่างละหน่อย
    ๑)กระทงข้าว ๒)กระทงน้ำ ๓)กระทงขนมไทย
    ๔)กระทงผลไม้ ๕)กระทงดอกไม้ ๖)กระทงหมากพลู
    ๗)กระทงบุหรี่ ๘)กระทงน้ำอบ ๙)แป้งหอมซองเล็ก ๑๐)จุดเทียน ๒เล่ม จุดธูป ๒๑ดอก
    คำไหว้สวดขอโดยตรงไม่ปรากฎมี ประจุบันใช้หัวใจแม่ธรณีระลึกถึงคือ "เมกะมุอุ"
    หากสูตรพระดินใจกลางนาหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน จะขุดถึงดินที่เนื้อละเอียดไม่มีกรวดปนเรียกดินเนียนมี ๒สี คือ ดำ ๑เหลือง ๑<O[​IMG]</O[​IMG]


    วัตถุมงคลซึ่งจะขอมอบให้มีดังนี้<O[​IMG]</O[​IMG]
    ๑)สีผึ้งสาริกา ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญใช้ได้เป็น เมตตามหานิยม ค้าขายดี ๑๐๘ประการ
    ๒)ผ้ายันต์หายตัวของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ หายตัวได้ ต้องใช้ในเวลาคับขัน สวดพระคาถานะเมติไปเรื่อยๆจนกว่าจะพ้นภัย ใช้กันไฟ กันฟ้าผ่า กันภูติผี เสริมดวงชะตาใช้ได้๑๐๘ประการ
    ๓)ตะกรุดโทน ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ คงกระพันชาตรีแคล้วคลาด กันปืนใหญ่ได้หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังครับใช้ได้๑๐๘ประการ
    ๔)พระขุนแผนเนื้อผงของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ เด่นเรื่องเมตตามหานิยมค้าขายดีใช้ได้๑๐๘ประการ
    วงเล็บที่หน้ากล่องว่า " ดิน๙ใจกลางนา...(จังหวัดที่คุณไปนำดินมา และจำนวนดินกี่นาที่คุณส่งมา).."

    [​IMG] พี่น้องชาวพุทธทั้งหลาย ทางโครงการสร้างพระบรรจุกรุพระจำนวน ๘๔,๐๐๐องค์ มีความประสงค์ที่จะต้องการมวลสารดิน ๗ นคร ๙บุรี
    หากท่านใด นำมาร่วมบริจาคจำนวน ๒กิโลกรัม ขึ้นไปทางโครงการขอมอบ
    [​IMG] วัตถุมงคลชุดพิเศษของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญให้กับคุณ ๑ชุดครับซึ่งจะมี

    ๑) ผ้ายันต์หายตัว (เกิดเหตุคับขันให้วางไว้บนศรีษะแล้วสวดพระคาถา" นะเมติ " จะหายตัวได้ กันไฟไหม้ กันฟ้าผ่า กันภูตผีปีศาจ ใช้ได้๑๐๘ประการ)
    ๒)ตะกรุดโทนหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ(คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด กันปืนใหญ่ได้ผมไม่ได้โม้นะหลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังครับ ใช้ทำน้ำมนต์ปราบเสนียดได้)
    ๓)พระขุนแผนเนื้อผง ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ(เด่นเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายดีใช้ได้๑๐๘ประการ)
    ดิน ๗นคร ๙บุรี (คือดินจากจังหวัดที่มีคำลงท้ายด้วยนคร ๗ จังหวัด และดินจากจังหวัดที่มีคำลงท้ายด้วยบุรี ๙จังหวัด และต้องเป็นดินจากยอดจอมปลวกใหญ่)
    [​IMG] ๑)ห้ามมิให้นำดินที่มิใช่ดิน๗ นคร ๙บุรีส่งมาร่วมสร้างพระ
    [​IMG]๒)จะต้องเป็นดินจากยอดจอมปลวกใหญ่ของจังหวัดที่กระผมจะกล่าวต่อไปนี้เท่านั้น
    [​IMG]๓)จะต้องทำการพลีดิน(ทำการขอดินจากจอมปลวก)ก่อนที่จะขุด ให้จุดธูปบอกกล่าวที่จอมปลวก ว่าจะขอดินบนยอดจอมปลวกไปสร้างพระจำนวน๘๔,๐๐๐องค์ จงได้โปรดอนุญาตและขอให้แผ่บารมีมาที่ดิน และขอให้อนุโมทนาบุญร่วมกัน
    ดิน ๗ นคร
    ๑)พระนครศรีอยุธยา
    ๒)กรุงเทพมหานคร
    ๓)นครพนม
    ๔)นครราชสีมา
    ๕)นครนายก
    ๖)นครปฐม
    ๗)นครศรีธรรมราช หรือ๘)สกลนคร๙)นครสวรรค์
    ดิน ๙ บุรี
    ๑)ลพบุรี
    ๒)สระบุรี
    ๓)สิงห์บุรี
    ๔)สุพรรณบุรี
    ๕)กาญจนบุรี
    ๖)ชลบุรี
    ๗)จันทบุรี
    ๘)เพชรบุรี
    ๙)นนทบุรี หรือปราจีนบุรี หรือราชบุรี
    วงเล็บที่หน้ากล่องว่า " ดิน๗นคร๙บุรี...(จังหวัดที่คุณไปนำดินมา).."
    จะส่งมอบวัตถุมงคลให้ทุกท่านเมื่อเสร็จสิ้นการสร้างพระแล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบ

    กรุณาส่งมวลสารมาที่ ตู้ปณ๒๓๑ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น รหัส๔๐๐๐๐
    <!-- / message --><!-- attachments -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...