เสียงธรรม กฏแห่งกรรม คนฆ่าวัว

ในห้อง 'วัฏสงสารและกฎแห่งกรรม' ตั้งกระทู้โดย i คนพิการ, 30 เมษายน 2012.

  1. i คนพิการ

    i คนพิการ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +172
    ขอขอบคุณเจ้าของบทความ คุณณัชพล เทพนิมิต จากสังคมธรรมมะออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. i คนพิการ

    i คนพิการ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +172
    เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ลุงสิงห์ จัดอยู่ในประเภท นักเลงขาใหญ่คนหนึ่ง ในย่านบางขุนเทียน ใคร ๆ ก็ยำเกรง แกจะพกมีดพับติดตัวเป็นอาวุธประจำกาย พร้อมกับปืนพกสั้นลูกโม่ขนาด .38 อีกหนึ่งกระบอก รูปร่างของ ลุงสิงห์ ล่ำสัน บึกบึน มีกล้ามเป็นมัด ๆ อาชีพหลักของแกก็คือ เป็นคนฆ่าวัวในโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่ง ต่อมา เสี่ยใหญ่เจ้าของโรงฆ่าสัตว์แห่งนั้น เกิดรักใคร่ เอ็นดู เพราะเห็นว่า ลุงสิงห์ เป็นคนขยัน และ มีคนยำเกรงมาก จึงเรียกใช้ให้เป็นคนขับรถประจำตัว หรือ ติดตามไปในทุกที่หลังจากที่เสร็จภาระกิจประจำวัน โดยสลับกับคนขับรถอีกคนหนึ่ง ซึ่งถือว่า ลุงสิงห์ เป็นมือปืนคุ้มกันประจำตัวด้วย

    ลุงสิงห์ เคยเล่าถึงกรรมวิธีการฆ่าวัว ฟังแล้วสยดสยอง มีการใช้ค้อนขนาดใหญ่ ทุบหัว หรือ กกหู ใช้เหล็กแหลมที่คมกริบ แทงเข้าที่บริเวณลำคอ เสียงร้องโหยหวนของสัตว์เหล่านั้น เมื่อเกิดพลาดเป้าไม่ตายในทันที แสดงถึงความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส วัวบางตัวมีความเฉลียวฉลาดใกล้มนุษย์ เมื่อรู้ตัวว่า กำลังจะตาย น้ำตาไหลพลูออกมาจากเบ้าตาทั้งสองข้างอย่างเห็นได้ชัด

    ลุงสิงห์ เล่าให้ฟังโดยไม่รู้สึกอาการสะทกสะท้าน หรือ เศร้าสลดใจกับการกระทำของตนเองแต่อย่างใด แกบอกว่า สัตว์เหล่านี้ เกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์โดยเฉพาะ

    แต่แล้ว สัญญาณที่ส่อเค้าให้ทราบว่า ลุงสิงห์ จะตายไม่ดี หรือ ไปสู่ทุกข์คติอย่างแน่นอน หากต้องเสียชีวิตลงเมื่อไร ก็เกิดขึ้นในคืนหนึ่ง
    เสี่ยใหญ่เจ้าของโรงฆ่าสัตว์ ได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ เนื่องในวันคล้ายวันเกิด ที่บ้านพักย่านสุขุมวิท มีแขกเหรื่อที่ได้รับเชิญมากันคับคั่ง ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตในวงราชการ มีทั้งนายทหารยศพลเอก นายตำรวจระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ข้าราชการ พ่อค้า นักธุรกิจ พร้อมใจมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง บริเวณงานพื้นที่หลายไร่ ดูคับไปถนัดตา แสดงให้เห็นถึงบารมีของเสี่ยใหญ่คนนี้ว่า “ไม่ธรรมดา”

    ลุงสิงห์ เมาหนักไปหน่อยในคืนนั้น หลังจากที่รู้ตัวว่าไม่ไหว ประกอบกับความง่วงที่อดนอนมาจากคืนก่อน ทำให้ ลุงสิงห์ หลบฉากไปนอนยังห้องรับแขกเสียก่อน กว่างานจะยุติ ก็ปาเข้าไปถึง ตี 2 แขกเหรื่อกลับกันไปหมดแล้ว เหลือแต่พนักงานและเพื่อน ๆ ของ ลุงสิงห์ ร่วม 10 คน จากโรงฆ่าสัตว์ ที่มาร่วมงานฉลองด้วย ต่างก็เข้ามายังห้องรับรองแขกที่ ลุงสิงห์ นอนอยู่ก่อนแล้ว เพื่อขอนอนพักเอาแรงบ้าง

    เสียงคุยกันของพนักงานโรงฆ่าสัตว์ ไม่ได้รบกวนโสตประสาทของ ลุงสิงห์ ให้ตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด ทั้ง ๆ ที่เป็นห้องปรับอากาศ เสียงดังก้องทั่วทั้งห้อง แกนอนหลับอย่างสนิท ไฟแสงสว่างในห้องถูกปิดลง ทุกอย่างในห้องดูมืดสนิทแทบมองไม่เห็นอะไร เสียงคุยเงียบลง คงได้ยินแต่เสียงลมที่พ่นออกมาจากหน้าเครื่องปรับอากาศเท่านั้น

    เพียง 1 ชั่วโมงให้หลัง หลายคนในห้องต้องตกใจสะดุ้งตื่น เมื่อต่างได้ยินเสียงที่เหมือนกัน คือเสียงเหมือนกับ “วัวร้อง” ดังลั่นเป็นช่วง ๆ อยู่ภายในห้องรับรองที่ต่างเข้าไปนอนพักผ่อนเป็นการชั่วคราว เสียงดังชัดเจน หลายคนเคยชินต่อเสียงนี้เป็นอย่างดี เพราะทำงานอยู่ในโรงฆ่าสัตว์ของเจ้านาย แต่สงสัยว่า มันมาร้องดังในห้องนี้ได้อย่างไร ดังรบกวนมากจนนอนไม่หลับ

    ในที่สุด หลายคนพร้อมใจกันลุกขึ้นจากที่นอน เพื่อเดินหาต้นตอเสียงนี้ว่า มันมาจากไหน หลังจากที่ค่อย ๆ เดินสำรวจไปได้สักครู่ จึงพบว่า เสียงร้องดังลั่นเหมือนวัวร้องนั้น ที่แท้เป็นเสียงการนอนกรนของ ลุงสิงห์ นั่นเอง

    ลุงสิงห์ นอนกรนเหมือนวัวร้อง ไม่มีผิด เสียงดังมาก โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้สึกตัว เพราะนอนหลับไป เพื่อนร่วมงานของ ลุงสิงห์ วิพากษ์วิจารณ์กันว่า ลักษณะเช่นนี้ คนเฒ่าคนแก่ เคยบอกว่า คนที่สร้างบาปกรรมไว้มาก โดยเฉพาะการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ก่อนจะตาย มักจะมีอาการคล้ายกับสัตว์ที่ตนเองเคยฆ่ามา ซึ่งเป็นลางออกเหตุล่วงหน้าให้ทราบว่า คน ๆ นั้น เมื่อตายแล้ว ก็คงจะไปเกิดเป็นสัตว์ที่ตนเองเคยฆ่ามาหลายร้อยหลายพันชาติทีเดียว

    แต่อาการนอนกรนเสียงเหมือน “วัวร้อง” ที่ดังมากของ ลุงสิงห์นั้น เกิดขึ้นในขณะที่แกนอนหลับไป ยังไม่เจ็บไข้ได้ป่วยใกล้ตายเหมือนคนอื่น ทุกคนจึงลงความเห็นว่า ลุงสิงห์ มีกรรมหนักมากกว่าคนอื่น หาก ลุงสิงห์ตายไป ย่อมไปเสวยทุกข์ในอบายภูมิอย่างแน่นอน

    คนงานบางคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องบุญบาป หรือถือคติว่าการฆ่าสัตว์ที่เกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์นั้น ฆ่าแล้วไม่บาปเริ่มใจไม่ดีเมื่อเห็นอาการของลุงสิงห์บางรายถึงขนาดลาออกไปประกอบอาชีพด้านอื่น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฆ่าสัตว์อีกเลย

    ลุงสิงห์ ดำเนินอาชีพ คนฆ่าวัว ในโรงฆ่าสัตว์แห่งนี้มานานหลายปี มีเงินมีทองจากการรับใช้เสี่ยเจ้าของโรงฆ่าสัตว์แห่งนี้มาพอสมควรแกสามารถเลี้ยงดูครอบครัวอย่างมีความสุข ส่งเสียเมียรัก พร้อมด้วยลูกชายวัย 19 และ ลูกสาววัย 17 ซึ่งอยู่ในวัยศึกษาทั้งคู่ ทุกอย่างดูราบรื่นดี

    เมื่อลุงสิงห์มีอายุมากขึ้นนายจ้างจึงสับเปลี่ยนหน้าที่ ให้ ลุงสิงห์ ทำงานที่เบาลง ไม่ต้องลงมือฆ่าสัตว์เหมือนที่ผ่านมาจนกระทั่งเมื่อตอนดึกของคืนหนึ่งจะเรียกว่าเป็นคราวเคราะห์ของ ลุงสิงห์ หรือจะเรียกว่า วิบากกรรมตามสนองก็คงไม่ผิด

    ลุงสิงห์ได้ถูกรถบรรทุกสิบล้อเฉี่ยวชนอย่างจัง ขณะที่กำลังจะข้ามถนนไปยังโรงฆ่าสัตว์ แกเสียหลักล้มลงทันที แต่แรงกรรมเหมือนจะหาความยุติธรรม มันเหมือนมีแรงดึงดูดเกิดขึ้น ศีรษะของลุงสิงห์ได้ถูกดูดเข้าไปอยู่ใต้ล้อหลังของรถบรรทุกคันนั้น มันเบียดทับศีรษะพร้อมกกหูด้านขวาของ ลุงสิงห์ อย่างน่าสยดสยอง ก่อนที่คนขับจะขับรถหนีไปอย่างลอยนวล เนื่องจากเป็นเวลาดึก และอยู่ในที่เปลี่ยว จึงไม่มีใครได้ทันเห็นเหตุการณ์หรือจำทะเบียนรถบรรทุกคันนั้นได้

    ร่างของลุงสิงห์ถูกพลเมืองดีรีบนำส่งโรงพยาบาล เข้าห้อง ไอ.ซี.ยู. ทันที เงินทองที่สะสมไว้หลายแสนบาท ตั้งใจไว้ใช้ในยามชรา ถูกนำออมาใช้จ่ายเป็นค่ารักษา ค่าผ่าตัดจนหมดสิ้น หลังจากที่ ลุงสิงห์ นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึง 3 เดือน หมอจึงอนุญาตให้กลับไปนอนพักรักษาตัวที่บ้าน

    ลุงสิงห์ ไม่ตาย แต่ก็กลายเป็นคนพิการ แกเป็นอัมพาตไปครึ่งตัว มือซ้ายก็ขยับไม่ได้ เสียงพูดอ้อแอ้ฟังไม่ได้ศัพท์ เพื่อนบ้านที่เคยรู้จักกันมาก่อน ต่างก็มาเยี่ยม ลุงสิงห์ ถึงบ้าน อนิจจาไม่สามารถสื่อสารกันได้ทุกคน ต่างสลดใจและรู้สึกเวทนา เมื่อเห็นสภาพของเขา เนื้อหนังบริเวณกกหูด้านขวาแหว่งหายไปบางส่วน

    ต่อมาไม่นานลุงสิงห์เริ่มมีอาการประหลาดเกิดขึ้น นั่นคือ ทุก ๆ คืนในยามดึก ลุงสิงห์ จะมีอาการปวดหัวอย่างหนัก ปวดแต่ละครั้ง ก็จะร้องโหยหวนดังลั่น เสียงเหมือน “วัวที่ถูกเชือด” ไม่มีผิดเพี้ยน มีอาการดิ้นทุรนทุราย ดูทุกข์ทรมานยิ่งนัก เสียงร้องได้ยินไปไกล ตั้งแต่ต้นซอย ยันท้ายซอยของบ้านแก

    ข้อที่แปลกคือ อาการปวดหัวของ ลุงสิงห์ หมอหลายรายรักษาไม่หาย หาสาเหตุไม่เจอ เหมือนที่เขาว่าเป็น “โรคกรรม” เวลาเป็นขึ้นมา ยาระงับปวดให้กินก็เอาไม่อยู่ จะเกิดขึ้นในยามดึกซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่แกเคยทุบหัววัวและลงมือฆ่ามัน

    ลุงสิงห์ จะดิ้นทรมานอยู่นานประมาณ 1 ชั่วโมง อาการก็จะทุเลาลงเองเป็นอย่างนี้ทุกคืน ลูก เมีย ญาติๆ ไม่มีใครช่วยได้นอกจากยืนดูตาปริบๆ แกทนทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้อีกเกือบปี จึงได้เสียชีวิตลงเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง สร้างความเศร้าสลดใจให้แก่ครอบครัวและญาติๆ ของแกยิ่งนัก ชาวบ้านต่างลงวามเห็นว่า ลุงสิงห์ ถูกจองเวรจาก “วิบากกรรม” ที่แกทำไว้ ไม่ต้องรอผลถึงชาติหน้า และเชื่อกันว่า หลังจากที่แกสิ้นใจลง คงมี “อเวจีมหานรก” เป็นที่ไปอย่างแน่นอน ก่อนที่จะมาเกิดเป็น “วัว” ให้มนุษย์เชือด อีกหลายร้อยหลายพันชาติ เท่ากับจำนวนที่แกเคยทำกับเขามาก่อน เป็น “วัฏจักร” วนเวียนกันอยู่เช่นนี้ ไม่มีที่สิ้นสุด

    ท่านผู้อ่านล่ะครับ พอจะเลิกเชื่อหรือยังว่า “การฆ่าสัตว์ที่เกิดมาเป็นอาหารนั้น ไม่บาป” เพราะตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนานั้น ไม่มีข้อยกเว้นนะครับ คำสอนของพระพุทธองค์นั้น เป็นจริงเสมอ เป็นจริงตลอดกาล และ “พิสูจน์ได้ด้วยตัวของตัวเองเท่านั้น”
     
  3. ไก่น้อยหัวใจเวอร์จิ้น

    ไก่น้อยหัวใจเวอร์จิ้น Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +86
    ขอความนี้ัเป็นประโยชน์มากครับ สำหรับคนที่กำลังฆ่าสัตว์ตัดชีวิต โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่ที่กว่าจะตายต้องทรมานนานๆ อนุโมทนาครับ
     
  4. พยัคฆ์ร้าย

    พยัคฆ์ร้าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,411
    ค่าพลัง:
    +161
    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  5. nawaporn

    nawaporn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +0
    ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ...
     
  6. “*อหิงสกะ*”

    “*อหิงสกะ*” Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +52
    บ้านผมอยู่แถวโรงฆ่าสัวต์ครับ เสียงร้องของพวกเขาเหล่านั้นน่าเวทนาจริงๆ แล้วเวลาจะเอาไปฆ่าก็ร้องไห้ๆจิงๆครับ สงสัยเขาคงคงเห็นภาพกรรมเก่าที่เขาเคยทำมากับเวทนาตัวเองที่กำลังจะตายอะครับ
     
  7. Soul Mate

    Soul Mate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +356
    Satu
     
  8. New WORlD

    New WORlD สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +8
    " การเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นย่อมมีบาปเสมอค่ะ เมื่อเบียดเบียนชีวิตเค้าแล้วจะด้วยเหตุผลใดๆก็แล้วแต่ท่านต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เค้า และขออโหสิกรรม จากหนักจะได้เป็นเบาลงบ้าง..นะคะ สาธุ สาธุ สาธุ...."
     
  9. yupapinpa

    yupapinpa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +7
    ไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่นดีที่สุด
     
  10. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,019
    สัตว์เมื่อตายแล้ววิญญาณเป็นคน

    [​IMG]
    วันหนึ่งอาตมาลงไปเป็นพระอาจารย์ แหม...น่ากลัวจะเป็นจานกระเบื้องนะท่านผู้อ่าน ไม่ใช่จานกะละมัง ไอ้จานกะละมังขว้างเพล้งบางทีกะเทาะ แต่ไม่แตก ทีนี้ไอ้อานกระเบื้องนี่เขวี้ยงเปรี้ยง แตกพอดี ลงไปคุยกับญาติโยม คุยไปคุยกันมา มาตอนดึกจะกลับแล้วห้าทุ่ม โยมคนหนึ่งแกถามว่า
    "พระคุณเจ้าคะ ! ฉันอยากจะทราบว่า เขาลือกันว่าคนที่ทำบาปนี่ เทวดาเขาจดลงในหนังหมา คนทำบุญนี่ เทวดาจดไว้ในแผ่นทอง มันเป็นความจริงไหม ? ”
    อีตอนนี้ความจริงก็เคยได้ยินเขาพูดกันมาเหมือนกัน แต่ว่าการตอบเอาจริงเอาจังกับญาติโยมนี่มันตอบส่งเดชไม่ได้ มันต้องเป็นเรื่องจริงจัง ในเมื่อไม่แน่ใจก็เรียนให้ทราบว่า
    "โยม ! เรื่องนี้ วันพรุ้งนี้อาตมาจะตอบให้ฟัง หรือวันพระหน้าอามาจะมาตอบให้ฟัง"
    แล้วความจริงก็ตั้งใจไว้ว่าวันรุ่งเช้าจะถาม หลวงพ่อปาน ดู ว่าไอ้เรื่องนี้มันเป็นความจริงไม่จริงเพียงใด ครั้นกลับไปถึงกุฎิแล้วก็จุดธูปเทียนบูชาพระ ตั้งใจเจริญพรกรรมฐาน พอจุดธูปเทียนเสร็จ เริ่มนั่งเข้าสมาธิ พอนั่งหลับตาปุ๊บ มีมือส่งมาแค่ศอกยื่นมาข้างหน้าแขนสวยเหลือเกิน มีกระดาษห้อย แล้วมีเสียงพูด เสียงดังฟังชัดว่า
    "นี่แหละขอรับ ! ที่เขาจดคนทำบุญทำบาป เขาใช้กระดาษทิพย์ เขาไม่ได้ใช้หนังหมาหรือว่าแผ่นทองคำ ถ้าจะใช้หนังหมาจดคนทำบาปละก็เทวดาไม่รู้จะไปฆ่าหมาที่ไหนมาพอ เพราะเมืองเทวดาไม่มีหมา ไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่ มันมีแต่เฉพาะเมืองมนุษย์เท่านั้น ในเมืองเทวดาเมืองอบายภูมินี่มันไม่มีหรอกครับ มันมีอยู่แดนเดียว คือสัตว์ทั้งหมดที่ตายไปแล้ววิญญาณออกจากร่างก็มีร่างเป็นคน ไม่ใช่มีร่างเป็นสัตว์ อีกประการหนึ่ง ถ้าจะไปหาแผ่นทองคำมาจารึกมันก็ไม่ไหว สำหรับคนมีบุญ ก็ต้องใช้กระดาษทิพย์ ”
     
  11. phunpanuch

    phunpanuch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +373
    ขอขอบพระคุณเจ้าของกระทู้นะค่ะได้รับความรู้ด้วยค่ะ
     
  12. ดุษญากร

    ดุษญากร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +17
    น่าสงสาร สัตว์มากที่ถูกฆ่า เขาก็มีหัว
    ขอบคุณมากสำหรับการตักเตือนครับ
     
  13. สุรภา@

    สุรภา@ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอขอบพระคุณค่ะ
     
  14. SkyFairy2

    SkyFairy2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +2
    นอกจากนิโครติน บุหรี่ไฟฟ้ามีโทษอย่างอื่นหรือไม่ คำตอบคือไม่มีครับเพราะ ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าประกอบด้วย PG กับ VG ซึ่งมีในพวกยาสีฟัน ครีมล้างหน้า เยลลี่ ลิปมันทาปาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยี่ที่จะสร้างความรู้สึกเช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า เรื่องที่ 2 ซึ่งสำคัญมาก คือเรื่องการนับจำนวนครั้งในการใช้งาน จะคิดเป็น % เช่น ใช้ไปแล้ว 50% เมื่อนำมาชาร์จจะยังไม่นับเป็น 1 และสมมุติว่าใช้ไปอีก 50% แล้วนำมาชาร์จ ตอนนี้ถึงจะนับเป็น 1 นั่นหมายความว่า สามารถชาร์จแบตได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องรอให้หมดเกลี้ยง และจะนับเป็น 1 ครั้งเมื่อครบทุก 100% บุหรี่ กล่องเสียง ovale ที่ทำให้เกิดโรคร้ายทั้งหมด ตั้งแต่มะเร็งปอด มะเร็งคอ มะเร็งในช่องปาก หลอดลม ถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจ และอีกหลากหลาย บุหรี่ไฟฟ้าทำงานด้วยแบตเตอร์รี่ลิเธียมและไมโครชิพซึ่งเป็นหัวใจของระบบ ทำให้มีไฟสีแดงสว่างวาบที่ปลายมวน ผสมเข้ากับแท่งนิโคติน ภายในบรรจุนิโคตินและสารโพรไพลีนไกลคอล (PG) ในแบบรูปของเหลว มีให้เลือกตั้งแต่ไม่มีนิโคติน หรือ โลว์ – มีเดียม –ไฮ ตามความต้องการของผู้ใช้ ขณะที่อุปกรณ์ขนาดจิ๋ว (ไมโครชิพ) ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนของเหลวให้กลายเป็นละอองหมอก และจะทำให้นิโคตินเหลวร้อนขึ้นเมื่อผู้ใช้สูบ (เปิด/ปิด อัตโนมัติเมื่อมีอากาศไหลผ่าน) และกลายเป็นไอภายในสองวินาที ให้ได้รับสารนิโคตินในเกือบจะทันที แต่ไม่มีน้ำมันดินและสารก่อมะเร็งใดๆ บุหรี่ไฟฟ้า eCab เป็นรุ่นที่ได้มีการปรับปรุงต่อจากรุ่น eGo-C สามารถถอดเปลี่ยน Atomizer head ที่มีขนาดเล็กอยู่ด้านใน โดยใช้ตัวเดียวกับที่ใช้ใน eGo-C และยังสามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ ได้สะดวกโดยใช้ถ่านขนาด 3.7v 360mAh eCab ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและมีขนาดเล็ก ส่วนหลอดบรรจุ e-Liquid ยังคงใช้หลอดบรรจุแบบเดิมคล้ายกับ eGo-C ขาย ovale กระเพาะปัสสาวะ และอื่นๆ ร้อยละ 50 ของน้ำมันดิน จะไปจับที่ปอด เกิดระคายเคือง ทำให้ไอเรื้อรัง มีเสมหะ
     
  15. nunmk

    nunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +108
    ขออนุโมทนาที่ได้นำกรรมแห่งการทำลายสัตว์มาแบ่งปันให้ได้รู้ถึงกรรม สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...