กรรมจากการฆ่าตัวตายต่างศาสนา แต่ผลกรรมไม่แตกต่าง

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย วันทนี, 24 กรกฎาคม 2016.

  1. วันทนี

    วันทนี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2015
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +128
    กรรมจากการฆ่าตัวตายต่างศาสนา แต่ผลกรรมไม่แตกต่าง
    24 ก.ค. 2559​
    ใครเคยมีวูบคิดว่าเปลี่ยนการนับถือศาสนาดีกว่า ศาสนาพูทธนี่อะไรก็กรรมๆๆๆๆๆ อ่านให้จบนะคะจะเปลี่ยนกี่ชาติกี่ศาสนากรรมคือการกระทำ ผลของกรรมอยู่ในห้วงเดียวกันในสังสารวัฏนี้ไม่ได้อยู่ที่คุณเกิดประเทศไหน นับถือศาสนาอะไร เพียงแต่รูปลักษณ์ความทรงจำของดวงจิตแตกต่างกันไปตามสัญญาเก่าที่ตนเคยพบ เห็น
    หลายท่านคงเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าการฆ่าตัวตายเป็นกรรมหนักมาก แบบชดใช้ให้บุญยังงัยก็ยากเหลือเกินที่จะได้รับหรือหลุดพ้นจากบ่วงกรรมนั้น ได้ ความจริงก็เป็นไปตามนั้นเลยคะ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. หลานสาวของสามีเป็นคนอเมริกัน อายุ 14 ปี ฆ่าตัวตายด้วยความที่เก็บความรู้สึกที่คิดว่าแม่บังคับทุกอย่างต้องทำตามที่ แม่สั่ง นานวันเข้ากลายเป็นปัญหาทางจิต เพราะเขาเป็นลูกคนเดียวไม่มีใคร ก่อนจะผูกคอตายเขาเคยกรีดข้อมือตัวเองมาก่อนแล้วแต่พ่อแม่ไม่เคยรู้ มัวแต่คิดถึงอนาคตให้ลูกจนลืมดูว่าลูกนั้นเป็นอย่างไรในปัจจุบัน ก่อนวันที่จะฆ่าตัวตายหลานสาวไปทำความสะอาดต้นไม้ที่เขาคิดว่าตรงนี้แหละสวย ฉันชอบ เสื้อผ้าจะใส่ก็เตรียมไว้เรียบร้อย เชือกก็พร้อม แบบคิดไว้วางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลานสาวและครอบครัวเป็นคนรัฐฟอริด้า เขาจะมาพักร้อนที่บ้านอีกหลังที่รัฐแคโรไรน่า ระหว่างนี้ผู้เขียนและสามีก็ไปพบปะ กินข้าวด้วยกันบ้างค่อนข้างสนิทกันมาก หลานสาวเป็นคนสวยน่ารักตามสไตล์ฝรั่ง พอวันที่ 14 เป็นวันที่พ่อแม่เขาจะกลับไปธุระที่ฟอริด้าก่อน 1 อาทิตย์แล้วจะกลับมาที่บ้านพักแคโรไรน่าใหม่ก็เลยฝากลูกสาวไว้กับแม่ ซึ่งอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งไม่ไกลมากเท่าไหร่
    พอถึงวันที่ 19 ตอนกลางดึก คุณย่า คือแม่ของพ่อที่หลานสาวอยู่ด้วยก็นอนปกติแกมีน้องหมาในบ้านด้วย 2 ตัว ตื่นเช้ามาประตูก็ล็อคหมด น้องหมาก็ไม่ได้เห่าอะไร ย่าก็ชงกาแฟมานั่งหน้าบ้านตามปกติ พอหันไปด้านซ้ายมือก็เห็นหลานสาวยืนลักษณะพึงต้นไม้ก็คิดว่าหลานตื่นแต่เช้า พอเรียกถามไม่ได้ยินเสียงตอบ ย่าตกใจมากวิ่งไปดูที่ต้นไม้จึงได้เห็นว่าหลานสาวผูกคอตายก็ตะโกนร้องจน เพื่อนบ้านใกล้เคียงกันวิ่งมา อีกคนวิ่งไปหาบันไดมาจะปีนเอาเด็กลงมา ปรากฏว่าหลานสาวเสียชีวิตได้สักพักแแล้วเพื่อนบ้านจึงบอกย่าว่าต้องแจ้ง ตำรวจก่อนอย่าเพิ่งปลดศพลงมา ย่าก็ล้มทั้งยืน.....
    ตำรวจก็มาพิสูจน์ตรวจดูบ้าน ห้องนอน ถ่ายรูปทำไปตามหน้าที่เขา ผู้เขียนและสามีอยู่อีกรัฐหนึ่งได้รับโทรศัพท์จากย่าก็รีบไป ไปถึงขับรถสวนกันกับรถมูลนิธิบ้านเขา สามีรักหลานคนนี้มากวันนั้นช็อคไปเลยทำอะไรไม่ถูกไม่คิดว่าจะมีเหตุแบบนี้ เกิดขึ้น อยู่เป็นเพื่อนย่าจนถึงค่ำเพราะพ่อแม่เด็กกำลังมาจากฟอริด้ากว่าจะมาถึงบ้าน ย่าคงเกือบ 3 ทุ่ม ขณะที่อยู่บ้านย่าผู้เขียนก็เดินไปดูที่ต้นไม้ที่เกิดเหตุ ตามพื้นดินยังมีเศษยาแอสไพรินตกอยู่ ระหว่างนั้นก็มีตำรวจแวะมาดูอะไรเพิ่มเติม สามีเลยถามตำรวจว่าเด็กกระโดดลงคอหักใช่ไหม ตำรวจบอกใช่ ที่สามีถามแบบนี้เพราะไม่อยากคิดภาพหลานสาวทรมานดิ้นทุรนทุรายก่อนตาย ถ้ากระโดดลงก็ปับคอหักสิ้นใจไม่ทรมาน ตำรวจบอกดูจากสภาพต่างๆและสภาพศพแล้วเด็กนั่งผูกคอบนกิ่งไม้แล้วกินยา แอสไพรินไปเยอะพอสมควรแล้วโดดลงเชื่อกกระตุกอย่างแรงทำให้คอหัก
    คืนนั้น พอกลับมาผู้เขียนก็ได้เล่าให้น้องสาวที่เมืองไทยฟังถึงเรื่องที่เกิด น้องสาวคนนี้ตาที่สามเขาจะเปิดตลอดเวลาอภิญญามาจากชาติเก่าก่อนเขาเอง พอเล่าเสร็จผู้เขียนก็ถามว่าพ่อแม่เขาน่าจะมาถึงแล้ว เด็กเป็นอย่างไรบ้าง น้องสาวเงียบสักพักสักหน่อยตอบด้วยความตกใจว่า ทำไมหลานสาวถึงโกรธเกรี้ยวดวงจิตตาเขียวน่ากลัว ต่อว่าด่าแม่ของตนเอง ผู้เขียนก็เลยเล่าให้ฟังถึงความสัมพันธ์ของเด็กกับแม่ จากนั้นก็ถามต่อว่าพ่อเด็กหละ น้องสาวบอกพ่อเด็กร้องไห้ใจจะขาดวิ่งไปทุบตีตามดินตามต้นไม้ที่ลูกผูกคอตาย ดวงจิตลูกกอดพ่อพร้อมกับปลอบโยนเป็นภาษาอังกฤษแปลได้ว่า ตอนนี้เขามีความสุข จากนั้นจิตเด็กก็ไปต่อว่าต่อขานผู้เป็นแม่ไม่มีหยุดยั้ง
    ผู้เขียนได้ถามน้องสาวว่าเราจะทำยังงัยดี เด็กอายุ 14 ถือว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะทางความคิดเลย การฆ่าตัวตายเป็นกรรมหนักจะชาติใดศาสนาใดก็หนีไม่พ้นกว่าจะได้ไปชดใช้กรรมใน นรกภูมิก็ต้องโดดอยู่แบบนั้นจนกว่าจะหมดอายุขัยจริงๆ เพราะเด็กตายก่อนเวลาอันควรถือได้ว่ามีกรรมมาตัดรอน ขณะนั้นเอง ก็ได้มีเทวดาประจำตัวท่านมาพูดคุยผ่านร่างน้องสาวผู้เขียนว่า กรรมนี้ใหญ่หลวงนักคงยากจะช่วยเหลือ ผู้เขียนก็เลยถามว่า การตายมี 2 อย่างคือ การตั้งใจฆ่าตัวตาย กับการหมดอายุขัยในภพชาติ อย่างน้อยก็ขอท่านได้ตรวจดูให้ทีว่าเด็กคนนี้ตายเพราะกรรมอันใด หากเป็นการตั้งใจฆ่าตัวตายข้าพเจ้าจะได้ปล่อยวางใจ จากนั้นผุู้เขียนก็คุยกับน้องสาวต่อ ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง เทวดาท่านมาบอกข่าวว่าเด็กคนนี้ตายเพราะหมดอายุขัย หากไม่ฆ่าตัวตายถึงอย่างไรก็มีเหตุให้ตาย หากผู้เขียนจะช่วยเด็ก มีเวลาเพียง 7 วันเท่านั้นก่อนที่ดวงจิตจะเข้าสู่ห้วงแห่งกรรมที่ทำไว้
    ท่านผู้อ่าน 7 วันนี่ไม่ใช่ง่ายเลยถ้าจะน้อมใจให้จิตพยาบาท อาฆาตเย็นลงได้ เทวดาประจำตัวและเทพที่ดูแลรักษาตัวข้าพเจ้าและดวงจิตบาทหลวงที่เคยติดต่อ กันบ้างในบางกิจบางอย่าง ท่านคือบาทหลวงจอนห์ ท่านไปพูดกล่อมเด็กอยู่หลายวันเด็กยังคงอาฆาตดื้อไม่ฟัง เราจะช่วยเด็กได้ก็มีความเชื่อทางศาสนาเป็นเครื่องช่วยด้วยคนตายเป็นคริสต์ สิ่งที่เขายึดถือมองเห็นคือคริตส์ พระสงฆ์ไปเขาไม่เข้าใจ บาทหลวงบอกธรรมเนียมเขา เด็กคนนี้ตายที่บ้านย่าก็มีเจ้าที่ประจำบ้านเหมือนคนไทย สำคัญที่ต้องมีการติดสินบนเพื่อนำดวงจิตออกมาจากบ้านนั้นให้ได้ก่อน 7 วัน ไม่เช่นนั้นก็ถูกคุมขังไปตามห้วงกรรมนั่นเองคือกระโดดฆ่าตัวตายอยู่แบบนั้น จนกว่าจะสิ้นอายุขัยจริงซึ่งไม่รู้กี่สิบปี
    ทุกฝ่ายก็ช่วยกันคิดช่วยกันหาทางเพราะไอ้สินบนนี่ก็ไม่รู้เขาจะเรียกเท่า ไหร่บาทหลวงกำลังไปต่อรองอยู่ พูดไปกลายเป็นนิยาย แต่เรื่องจริงคะไม่เคยรู้ก็ได้รู้ว่าสินบนเจ้าที่ศาสนาคริสต์นี่เขาที่เป็น เงิน ทองคำ หรือเพชร พอได้ยินผู้เขียนก็จะเป็นลม โอ้ย จะหาที่ไหนเนี่ยมาช่วยหลาน เวลาก็ผ่านไปหลานสาวก็ตาเขียวตาแดงตามจิตอาฆาต พยาบาท ทุกข์ไม่ทุกข์เด็กผู้หญิงคนนึงนั่งผูกคอกินยาแอสไพรินแล้วกระโดดลงมาคะ ไม่ใช่ไปยืนผูกแล้วถีบเก้าอี้ทิ้ง
    จนถึงวันที่เขาจะเอาร่างศพเด็กกลับไปฟอริด้าพ่อแม่เด็กตกลงกันว่าจะเผา สามีผู้เขียนก็อ่อนไปทั้งตัวเสียใจ ตั้งใจกันว่าจะไม่ไปบ้านงานแล้วไม่อยากเห็นภาพ ผู้เขียนก็คุยกับน้องสาวติดต่อผ่านเทพเทวาที่ท่านอาสามาช่วยกัน ท่านบาทหลวงบอกสินบนนี่ต่อรองได้สุดๆแล้ว 140 เหรียญ ผู้เขียนก็กดเครื่องคิดเลขมันกี่บาทเงินไทย ต้องจ่ายสินบนกับเจ้าที่บ้านที่เด็กผูกคอตายภายในวันที่ 14 สิงหา เอ้าจัดไปข้าพเจ้ารับปากทันทีขอเพียงให้นำเด็กออกมาได้ก่อนเพราะจะครบ 7 วันแล้ว ทีนี้พอพ่อแม่เอาร่างไปแล้ว เด็กไม่สามารถตามร่างนั้นไปได้กรรมฆ่าตัวตัวดวงจิตไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ทีนี้ยิ่งอาฆาตยิ่งเพิ่มขึ้น ท่านบาทหลวงก็ไปพูดคุยให้เข้าใจสารพัดท่านใจเย็นมาก บาทหลวงผู้มีปีกนกใหญ่มากคะเหมือนที่เราเคยเห็นในหนังฝรั่ง ท่านจะเอาปีกบุญของท่านโอบเด็กไว้แล้วนำมาส่งที่บ้านผู้เขียนได้ แต่เด็กต้องยินยอม พอเห็นพ่อแม่ทุกคนไปหมดแล้วตัวเองออกจากตรงนั้นไม่ได้อาฆาตยิ่งแรง คงเหมือนคนเรานะคะ แม่งเอ้ยทิ้งกรูไปหมด ตายเปล่า ไปก็ได้วะเดี๋ยวกูไปจองล้างมึงใหม่ เด็กยอมมากับบาทหลวง ปีกนกท่านไหม้ไปเยอะ ไม่ใช่ไหม้ไฟพรีบพรับนะคะ ไหม้ไฟในดวงจิตที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาต พยาบาทก่อนสิ้นใจ พอตายช่วงที่ดวงจิตวนเวียนยิ่งโกรธแค้นกับคำพูดของพ่อแม่ที่บางทีตนไม่เคย ได้ยินมาก่อน ตอนนี้ใครพูดอะไรได้ยินหมด ได้แต่ตะโกนตอบกลับต่อว่าก็ไม่มีใครได้ยินยิ่งแต่โมโหไปกันใหญ่
    เรื่องสินบนนี่คงไม่ต่างจากบ้านเรามากคือถ้าไม่ได้ตายที่บ้านตัวเองก็ต้องไป เชิญวิญญาณกลับมาเครื่องเซ่นไหว้ที่เตรียมไปนั่นก็ถือเป็นสินบนคะ สำคัญเมืองฝรั่งนี่งก555 สินบนเอาแพงแบบเรียกร้องต้องต่อรองด้วย บ้านเราให้แต่มีเครื่องไหว้ของคาวหวานเอาพระไปทำพิธีให้ดวงจิตเจ้าที่และดวง จิตแถวนั้นเขาก็ยินดีสุดแท้แต่บุญกรรมว่ากันไป
    พอมาถึงที่บ้านผู้เขียน ที่นี่ในโลกทิพย์ส่วนหนึ่งผู้เขียนได้ถวายเรือนแด่พ่อพิฆเนศนาม "มูระ" ท่านเปิดสอนธรรมะแก่ดวงจิตและสรรพสัตว์แถวบ้านที่เป็นภูเขาสวยงามตาม ธรรมชาติ ท่านมูระต้องกันเขตแดนหลานสาวไว้ต่างหากเพราะจะไปกระทบดวงจิตอื่นกระเจิงกัน หมด เพราะมาแบบตาแดงตาเขียวมาเลย พ่อมูระท่านอุปการะช้างน้อยไว้เชือกหนึ่ง ก็ได้ฝากช้างน้อยให้คอยเอาใจดูแลหลานสาว ช้างน้อยกลัวก็กลัวแต่ก็สงสารเด็ก ผู้เขียนเลยถามน้องสาวว่าจากวันนี้ไปถึงวันที่ครบสัญญาจ่ายสินบนคือวันที่ 14 หลานสาวไม่ต้องกลับไปที่บ้านนั้นแล้วใช่ไหม น้องสาวตอบ"ใช่" แล้วเขาจะไปวนเวียนกับพ่อแม่เขาอีกไหม น้องสาวตอบ "นั่นเป็นสิทธิ์ของเขาเราห้ามไม่ได้" ผู้เขียนเลยได้แต่ขอบคุณเทพเทวาทุกท่านและบาทหลวงที่ช่วยได้ถึงเพียงนี้ เป็นสัมภะเวสีเร่ร่อนยังดีกว่าต้องโดดแล้วโดดอีกที่กิ่งไม้ต้นเดิมไม่รู้วัน จบสิ้น ส่งบุญอย่างไร ให้เท่าไหร่รับไม่ได้มีแต่ขึ้นไปฝากบุญชีบุญไว้พ้นกรรมจึงจะได้ใช้
    เรื่องนี้ฝากเป็นข้อคิดได้ว่า กรรมการฆ่าตัวตาย หากเป็นเหตุที่หมดอายุขัยตามกฏแห่งกรรม การช่วยเหลือดวงจิตก็พอบรรเทาทำได้ แต่หากเกิดเพราะกฏข้อแรกไม่เกี่ยวกับกรรมเก่า ฆ่าตัวเองด้วยเช่นนี้ทำให้พ่อแม่ผู้เลี้ยงดูมาด้วยความเหนื่อยยากลำบากทั้ง กายใจทรัพย์สินเงินทอง และเขาจะต้องทุกข์ไปจนถึงวันที่ตายกรรมนี้สาหัสนัก เปรตยังรับสังฆทานเล็กๆน้อยได้ แต่คนกระทำเช่นนี้ น้ำหยดเดียวก็ไม่ได้
    แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรหละว่าเขาตายเพราะเหตุใด ไม่ต้องพึ่งหมอดูหรือมโนยิทธิ์อะไรนะคะ ภายใน 7 วันหลังเกิดเรื่องขอให้ทุกคนในบ้านทำให้ดีที่สุด ไม่พูดถึงคนตายในสิ่งที่ไม่ดี ตายแล้วจบกัน นึกถึงแต่ความดีของเขา ไม่ต้องถามว่าทำไมถึงทำอย่างนี้เพราะมันผ่านไปแล้ว จะคิดพูดหรือทำอะไรขอให้ทำเพื่อผู้ที่ตายไปแล้วได้ไปสู่สุคติภพ กรวดน้ำอโหสิกรรมต่อกัน หากเคยโกรธเกลียดกันก็ขอให้กล่าวคำขอโทษขออโหสิกรรมต่อกัน และทำพิธีกรรมตามความเชื่อแต่ละศาสนา ภายใน 7 วันนี้หากดวงจิตไม่ได้รับแรงประทะด้านมืด คือ โมหะ โทสะ บุญที่ส่งให้ ความรักความหวังดีของคนในบ้านจะช่วยให้ดวงจิตเขาเย็นลงได้ และหลุดออกจากห้วงกรรมได้ด้วยการปล่อยวาง แต่หากภายใน 7 วัน ยังคงมีการด่าท้อ ต่อว่า สาปแช่งผู้ตาย คราวนี้ก็คะปีกไหนก็เอาไม่อยู่ ยิ่งหากไม่มีบุญเก่าพอหล่อเลี้ยงดวงจิตได้ก็หมดทางช่วยโดยเฉพาะผู้ที่อายุ 20 ปีขึ้นไปหากทำการเช่นนี้ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วรู้ผิดรู้ถูกไม่ใช่เด็กๆหรือ วัยรุ่นที่ไม่เข้าใจชีวิต ยิ่งสาหัสมากคะ
    ผู้เป็นพ่อแม่รักและอยากเห็นลูกมีอนาคตดีอย่างที่"ตน" หวัง ก็ขอให้ย้อนกลับมามองด้วยว่าแล้วลูก "หวัง" อะไรในชีวิตเขาบ้าง เวลาแม่บังคับสั่งสอนดุว่า คนเป็นพ่อ ควรให้เห็นผลและคอยอยู่เคียงข้างลููก ไม่ใช่ว่าอะไรก็แล้วแต่แม่ ไปถามแม่ดู แม่ว่ายังงัยพ่อว่าอย่างงั้น แล้วลูกจะหันไปหาใครได้....ขอความรักความหวังดีที่มีต่อกัน ชีวิตนี้น้อยนัก คำว่าอนาคตนั้นไม่หรอกคะเพราะมันมาจากการกระทำในวันนี้ มันคือการรดน้ำใส่ปุ๋ยให้ออกดอกผลในวันหน้า .....พ่อแม่รังแกฉัน....คำนี้ก็ยังไม่เลือนหายไปง่ายๆในสังคมมนุดที่คิดว่า ตนทำถูกแล้ว
    ธรรมะทานนี้มอบให้แก่ดวงจิตของฮาร์เปอร์ หลานสาวอันเป็นที่รัก​
    ขอให้ดวงจิตได้ฟันผ่าสิ่งที่ฝังแน่นในจิตตนจนหลุดพ้นออกมาสู่แสงสว่างได้ด้วยบุญนี้เถิด
    **สนใจอ่านบทความธรรมะทาน ว.บุญแสงทอง ได้ที่http://wantanees.lnwshop.com/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2016
  2. Tanya R

    Tanya R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    389
    ค่าพลัง:
    +875
    อยู่ที่ออสเตรเลียก็มีคนฆ่าตัวตายเยอะ หรือช่วงหลังๆนี่มีข่าวลูกฆ่าพ่อ แม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าแม่มาเรื่อยๆ ทำให้คิดว่าอย่างน้อยการที่เรามีศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจดีดียังดีกว่าคนที่ไม่เชื่อในเรื่องศาสนาใดๆเลย สาธุในธรรมทานค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...