กรรมฐานกองไหนเหมาะนักปฏิบัติที่หวังจะให้หลุดอย่างจริงจัง ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 8 สิงหาคม 2005.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,682
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,012
    ถาม : กรรมฐานกองไหนเหมาะนักปฏิบัติที่หวังจะให้หลุดอย่างจริงจัง ?
    ตอบ : จริง ๆ แล้วกรรมฐานทุกกองใช้ได้ทั้งหมด สมัยที่ปฏิบัติอยู่นะ พอพูดถึงเรื่องกามราคะขึ้นมามันจะหนักใจมาก โดยเฉพาะผู้ชายทุกคนน่ะเป็นเหมือนกันหมด คราวนี้ว่าตัวกรรมฐานคู่ศึกของมันจริง ๆ คือกายคตานุสสติกับอสุภกรรมฐาน แต่ปรากฏว่า อสุภกรรมทฐานนี่ถึงขนาดพี่สุรินทร์น่ะ พี่สุรินทร์ตอนนั้นแกอยู่ห้องผ่าตัดของนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเหมือนกัน นั่นขนาดเขาเปิดห้องผ่าตัดให้พระเข้าไปดูเลยนะ เข้าไปใหม่ ๆ นี่อ้วกแตกอ้วกแตนกินข้าวกันไม่ได้ไป ๒-๓ วันเลย แต่พอนานไป ๆ ความระยำของจิตมันก็ปรากฏ มันเลือกดูแต่ที่ดี ๆ ไอ้ตรงที่ผ่ามันก็ไม่ดู ยิ่งวันไหนมีศพสวย ๆ นี่พี่สุรินทร์เขาจะโทรบอกเลย รีบมา เดี๋ยวจะผ่าให้ นั่นเจตนาดีของเขา
    แต่คราวนี้ไอ้ของเรานี่แรก ๆ มันก็ไม่ชิน มันก็ได้ผล แต่ปรากฏว่าดูไปดูมามันตายด้าน มันชักจะชินกับสภาพของมัน พอชินกับสภาพของมัน ๆ ก็เลือกไปดูตรงที่ดี ๆ ตรงผ่าเราก็ไม่ดู มันก็แย่ละวา กรรมฐานคู่ศึกมันก็ทำไม่ได้ ตัวกายคตานุสสติพยายามแยกทุกอย่างเลยนะ ก็ทำไม่ได้ อสุภกรรมฐานนี่ทำถึงขนาดนอนอยู่กับโครงกระดูก ๓ ปี น่ะ พิจารณาอยู่ เวลาคุยกับผู้หญิงสวย ๆ นี่เอากระดูกใส่มันครึ่งหนึ่ง ให้มันเป็นกระดูกครึ่งหนึ่งเป็นเนื้อครึ่งหนึ่ง นั่งดูมันอ้าปากแง็บ ๆๆ อยู่มันรู้สึกตลกก็ตลก แต่อีกครึ่งมันก็ยังสวย เอากะมันสิวะ ถึงเวลาแล้วใจมันสู้ไม่ได้
    ปรากฏว่า ...พอดีปีนั้นเรียนนักธรรมโท ก็จะมีอนุพุทธประวัติ คือ ประวัติของพระอรหันต์อสีติมหาสาวก ๘๐ องค์ ไปถึงประวัติของพระรัฐบาลเถระ พระเจ้าอุเทนก็อย่างว่าพระราชาใช่ไหม นางสนมเยอะ ท่านก็สงสัยมากถามพระรัฐบาลเถระว่า “ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นคนหนุ่ม ย่อมมากด้วยกามราคะ เหตุใดจึงทรงอยู่ในพรหมจรรย์ได้” ท่านขอ้งใจมากเลยตัวท่านเองท่านไปไม่รอดแน่แล้วทำไมพระทำได้ พระรัฐบาลเถระตรัสว่า “มหาราชะ ดูก่อนมหาราช ภิกษุในธรรมวินัยนี้พิจารณาดังนี้ มาตุคามนี้สมควรตั้งไว้ในที่แห่งมารดาก็ตั้งไว้ในที่แห่งมารดา มาตุคามนี้สมควรตั้งไว้ในที่แห่งพี่สาวก็ตั้งไว้ในที่แห่งพี่สาว มาตุคามนี้สมควรตั้งไว้ในที่แห่งน้องสาวก็ตั้งไว้ในที่แห่งน้องสาว มาตุคามนี้สมควรตั้งไว้ในที่แห่งลูกสาวก็ตั้งไว้ในที่แห่งลูกสาว ดูก่อน มหาราชะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้พิจารณาดังนี้จึงตั้งอยู่ในพรหมจรรย์ได้” โอ้โห พออ่านมาถึงตรงนี้ ๓ โลกสว่างหมดเลย เห็นชัดเลยว่าเนี่ยเป็นตัวเมตตาบารมี เห็นผู้อื่นเป็นคนครอบครัวเดียวกับเราก็เลยรักเขาเสมือนคนครอบครัวเดียวกับเรา ไอ้อารมณ์ใจที่มันจะไปคิดเรื่องระหว่างเพศแบบคนอื่นเขาก็เลยไม่มี
    พอเห็นตรงนี้นี่รู้แจงแทงตลอดไปเลยว่า อ๋อ มิน่าล่ะ ว่ากรรมฐาน ๔๐ กอง ๆ ใดกองหนึ่งก็สามารถไปนิพพานได้ทั้งนั้น เพราะว่าจริตของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ไอ้ของเรานี่จะเอาตัวนี้ไปสู้มันสู้ไม่ได้หรอก กรรมฐานคู่ศึกมันสู้ไม่ได้ แต่ปรากฏว่าตัวพรหมวิหาร ๔ กลับสู้ได้ มันกลายเป็นเราไปถนัดอย่างนั้นแทน เพราะฉะนั้นถ้าถามว่า ไอ้ตัวไหนที่มันเด็ดขาด มันก็ต้องดูว่าตัวเราถนัดแบบไหน แล้วก็ใช้กรรมฐานกองนั้น
    ถาม : จะรู้ได้ยังไงครับ ?
    ตอบ : ค่อย ๆ คลำไป เดี๋ยวถึงเวลาเมื่อไหร่มันก็อ๋อเองแหละ อันนั้นก็คลำอยู่ตั้งนานเหมือนกัน บังเอิญวันนั้นกำลังจะไปกิจนิมนต์ แล้วบ้านโยมก็แหม ลูกสาวสวยซะด้วย ไปกราบลาหลวงพ่อขออนุญาตไปกิจนิมนต์ครับ หลวงพ่อท่านว่า “อ้าวไปกิจนิมนต์เหรอ นึกว่าจะไปงานแต่ง” ไอ้เราฟังก็สะดุ้งใช่ไหม ครูบาอาจารย์ทักอย่างนี้ มันต้องยิ่งระวังตัวเองให้หนักยิ่งขึ้น ก็พอดีไปท่องตำราเจอตรงนี้เข้าพอดี พอเจอตรงนั้นปุ๊บ อารมณ์ใจมันแทงตลอดไปรุ่งขึ้นไม่หนักใจแล้วมาเท่าไหร่ก็มาเหอะ
    ถาม : แต่ก็ยังรู้สึกว่าสวยอยู่หรือเปล่าคะ ?
    ตอบ : พอหลังจากที่ทำได้แล้วนะไอ้ความรู็สึกมันเห็นก็สักแต่ว่าเห็นไป มันไม่เสียเวลาไปคิดแล้ว
    ถาม : กลัวข้าวต้มเขาจะเสียเจ้าค่ะ ทำข้าวต้มาถวายท่าน
    ตอบ : ไม่ต้องห่วงจ้ะ อยู่ที่โน่นไม่ทันได้เสียหรอกเราไล่แจกดะไปตลอดทางเลย เพราะว่าอยู่ที่โน่นก็เหมือนกับเป็นที่พึ่งของเขา ถึงเวลาเขาก็จะรอแต่ของเรา แถวนั้นเขาลำบากหน่อยเพราะพระเจ้าส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตป่า เขตป่าคนเข้าถึงยากแล้วเขาเองก็ไม่ได้เข้าเมืองมาหาศรัทธาญาติโยม เรามีอะไรก็ไปสงเคราะห์เขา
    ถาม : จอคอมพิวเตอร์ของผมเเองเนี่ยครับ ผมเอารูปสมเด็จองค์ปฐมน่ะครับ เป็นแบคกราวน์ เราทำงานไปก็มองไป พอมานั่งนึกก็จำได้มั่งไม่ได้มั่ง คือรายละเอียดมันเอยะมากเลยครับ
    ตอบ : อย่าเพิ่งเอารายละเอียด ใหม่ ๆ เราเองแค่นึกออกก็พอ ถึงได้ไม่เต็มองค์ำได้เพียงบางส่วนให้กำลังใจของเรามั่นใจว่าเป็นพระพุทธเจ้าก็ใช้ได้ แล้วขณะเดียวกันว่าถ้ามีการเปลี่ยนแปลงสีสัน ท่านจะเปลี่ยนบ้าง อริยาบถท่านจะเปลี่ยนบ้าง จากนั่งเป็นยืน เป็นเดิน เป็นนอนอะไรใช้ได้ทั้งนั้น เป็นพุทธานุสสติเหมือนกันแล้ว ร่างกายของเรานี่มันแย่อยู่อย่าง เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา สมาธิมันตกที่เคยชัด ๆ มันก็เลยมัวไปหมด ของเรามันต้องค่อยเป็นค่อยไป
    ถาม : แล้วบางทีเนี่ยผมรู้สึกว่าการจำพระพุทธรูปเนี่ย จำยากเหลือเกินครับ พอดีที่บ้านที่ห้องพระมีรูปพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี่น่ะครับเป็นรูปถ่าย ผมก็เลยนึกถึงหน้าท่านแทน เพราะว่าหน้าคนนี่รู็สึกว่าจะจำได้ง่ายกว่า
    ตอบ : อันไหนทำให้เรารู้เห็นได้ชัดเจนกว่า สะดวกกว่า ง่ายกว่า ก็อันนั้น หลวงพ่อท่านบอกเสมอว่าให้เป็นภาพพระที่เราชอบใจที่สุด มันจะได้ง่ายและก็สะดวกใจสำหรับเรา เพราะของที่เรารักพอนึกถึงมันก็ง่าย



    http://www.palungjit.org/board/showpost.php?p=103057&postcount=11

    เว็ปกระโถนข้างธรรมาสน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 กันยายน 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...