เรื่องเด่น กรรมฐาน อย่าทำเพื่ออวด

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 8 ตุลาคม 2017.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    ลพ-31พลังจิต.jpg

    กรรมฐาน อย่าทำเพื่ออวด

    โอวาทหลวงพ่อฯ เล่ม 2 หน้า 9

    การเจริญพระกรรมฐาน อย่าทำเพื่ออวด ถ้าไม่มีความจำเป็นอย่า แสดงตนให้เขารู้ว่าเราเป็นนักเจริญพระกรรมฐาน เวลาที่ทำจิตสงบสงัด
    หาที่ลับเป็นเครื่องกำบังบุคคลไม่ให้เห็น ถ้าหากว่าเราเห็นว่ามันมิดชิดแล้ว
    นั่นเขาจะมาเป็นเรื่องของเขา ถ้าทำให้ชาวบ้านเขาเห็น บางวาระจิตมันคิดจะอวดเป็นมานะเป็นกิเลสหนัก ไม่สมควร
    นักเจริญพระกรรมฐานจงอย่าเป็นผู้มีกังวล คือในขณะที่ทรงจิตเพื่อสมาธิ
    อย่ามีความห่วงใยใด ๆ ทั้งหมด กิจการงานที่จะพึงทำ
    ประตูหน้าต่างที่จะพึงปิด ก็ปิดเสียให้เรียบร้อย อย่าเปิดไว้ จะได้ไม่มีการระแวงสงสัยฟืนไฟที่มันจะไหม้ได้ ก็พยายามดับเสีย
    ให้หมดจะได้ไม่สงสัยในกิจการงาน จิตไม่ห่วงงาน จิตจะได้มีความสุข



    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  2. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตตนิคม แคว้นโกศล (เรียกอีกอย่างว่า เกสปุตตสูตร ก็มี[1]) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่

    1. มา อนุสฺสวเนน - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
    2. มา ปรมฺปราย - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
    3. มา อิติกิราย - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
    4. มา ปิฏกสมฺปทาเนน - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
    5. มา ตกฺกเหตุ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเดาว่าเป็นเหตุผลกัน
    6. มา นยเหตุ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมานคาดคะเน
    7. มา อาการปริวิตกฺเกน - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเดาจากอาการที่เห็น
    8. มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
    9. มา ภพฺพรูปตา - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะผู้พูดมีลักษณะน่าเชื่อถือ
    10. มา สมโณ โน ครูติ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา
    เมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศลหรือมีโทษเมื่อนั้นพึงละเสีย และเมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ เมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติ



    ที่มา: หนังสือ "พระไตรปิฎก ฉบับดับทุกข์" จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์สุขภาพใจ (หน้า 41-42), หนังสือ "พระไตรปิฎกสำหรับประชาชน ย่อความจากพระไตรปิกฉบับบาลี 45 เล่ม" (หน้า 510) จัดทำโดย สุชีพ ปุญญานุภาพ, หนังสือ "ธรรมาธิบาย หลักธรรมในพระไตรปิฎก" (หน้า 620 - 621) เรียบเรียงโดย อาจารย์ปัญญา ใช้บางยาง และคณะ
     
  3. กายสงบ ใจสบาย

    กายสงบ ใจสบาย พระคาถาเงินล้าน ศักดิ์สิทธิ์จริง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +18
    งั้นผมก็ไม่เชื่อคุณ เพราะอ้างตำรามาเพื่อไม่ให้เชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์ท่านสอน

    ผมขอเลือกเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ท่านสอนว่า นรก สวรรค์ พรหมโลก นิพพาน มีจริง บุญบาปมีจริง อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มีจริง เพราะบางอย่างผมเคยประสบพบเจอมาแล้วว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอนนั้นมีจริง
     
  4. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    คุณ กายสงบ ใจสบาย ทำกายทำใจให้สงบสบายซะก่อนนะครับ แล้วใตร่ตรองอีกทีว่า ใครไปบอกให้คุณเชื่อเรื่องอาไรหรอครับ ผมไปบอกให้คุณเชื่อหรือไม่เชื่อตอนไหน กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ ใจคุณพิจารณามันเอง ส่วนเรื่องคุณพิจารณาแล้วไม่เชื่ออาไรผมนั้น ผมไปบอกคุณว่าไม่ให้เชื่อหลวงพ่อท่านหรือครับ หรือใจคุณคิดเอาเอง ผมก้เชื่อหลวงพ่อครับผมนับถือท่านมากด้วย
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    การอวดเป็นมานะกิเลสอย่างหนึ่ง ท่านกล่าวไว้ดีแล้ว
    ไม่เกี่ยวกับการเชื่อหรือไม่เชื่อ อ่านดีๆนะครับ

    เพราะไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ คุณก็ยึดครับ
    คือยึดว่าเชื่อใครเห็นต่าง จากสิ่งที่คุณเคยเชื่อ
    เคยประสบมาจิตคุณก็จะมีการปรุงครับ
    หรือถ้ายึดว่าไม่เชื่อ ใครเห็นต่าง จากสิ่งที่คุณไม่เชื่อ
    จิตคุณก็จะมีการปรุงครับ
    ดังนั้น ให้เฉยๆไว้ก่อน อย่าง กาลามสูตร ที่คุณ งูๆปลาๆ
    ยกมานั่นนะ เป็นแนวทาง ในการที่ทำให้จิต
    รู้จักวางเฉยก่อน ไม่งั้นจิตจะไปต่อไม่ได้นั่นเอง
    ไปต่ออย่างไร ในบทความก็บอกไว้แล้ว
    เพราะไม่งั้นเราจะไปเผลอติดกับดัก
    กับการที่ยังเชื่อหรือไม่เชื่ออยู่ครับ

    เพราะมันจะสร้างให้ตัวโทสะ โมหะ โลภะ
    ตัวใดตัวหนึ่งที่อยู่ในจิตตนเผลอ
    ไปดึงเอา ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
    อย่างใดอย่างหนึ่งเข้ามา จนกลายเป็นตัวเอง
    ได้อย่างไม่รู้ตัว เป็นเหตุให้ขวางการไปสู่
    จุดหมายปลายทางได้....
    และการยึดติด ในสิ่งที่ตนคิดว่า วิเศษ พิเศษ
    นี่ก็เป็นกิเลสตัวเป้งอย่างหนึ่ง ที่จะขวาง
    การไปสู่จุดหมายปลายทางได้เช่นกันครับ

    ถ้าเราทำได้ ถึงเวลาที่ต้องใช้งาน เราก็ใช้ไป
    แต่ควรใช้ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
    หรือเป็นประโยชน์ทางธรรม
    การแสดงหรือตั้งใจแสดง เพียงเพื่อให้รู้ว่า
    ตนทำได้ ตนมีดี มันจะทำให้คนอื่นๆยึดติด
    ในสิ่งพิเศษเหล่านั้น เราต้องไม่ลืมว่า
    แม้ว่าสิ่งพิเศษเหล่านั้น จะมีเกิดขึ้นเป็นปกติ
    ในระหว่างทางของพุทธศาสนา แต่ว่ามันไม่ใช่
    ประเด็นหลักของพุทธศาสนาครับ
    แต่ก็ต้องยอมรับว่า มันอยู่ร่วมกันมา
    ส่วนตัวเข้าใจว่า ท่านกล่าวเตือน
    เพราะเกรงว่า หากเรื่องพิเศษเกิดกับผู้ใด
    ท่านเหล่านั้นอาจจะไปติดกับดัก
    ตามที่ท่านได้กล่าวเตือนได้นั่นเอง.....

    ปล.แต่เท่าที่เห็น ขนาดท่านเตือนแล้วเตือนอีก
    ห้ามแล้วห้ามอีก ในหลายๆเรื่อง
    แต่เห็นทำตรงข้ามกับที่ท่านเตือนตลอด
    เท่านั้นยังไม่พอ ยังชอบเอาท่านไปอ้าง
    เพื่อเสริม ในลาภ ยศ สุข สรรเสริญแห่งตนอีก
    เห้อ ! ก็แปลกดี......

    สุดท้าย ไม่ว่าคุณจะมีหรือไม่มี คุณจะเคยพบหรือไม่พบ
    คุณก็ยึดไม่ได้ทั้งนั้นหละครับ และคุณก็ทิ้งหมดนั่นหละครับ
    เพราะไม่งั้น มันจะยังเป็นเชื้อให้ยังต้องกลับมาเวียน
    ว่ายตายเกิดได้อยู่ดี...
     
  6. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

    ว่าแต่มีใครพอบอกได้มั้ยครับว่า ถ้าเราเป็นคนชอบทำสมาธิเป็นปกติอยู่แล้ว
    ไปไหนมาไหนก็ทำตลอด และพยายามไม่ให้เป็นที่สะดุดตาคนเกินไปนัก
    แต่ดันมีคนที่ชอบมาคอยจับผิด หาว่าผมชอบทำสมาธิเพื่อโอ้อวด
    ทั้ง ๆ ที่ผมก็ไม่ได้ไปขอให้เขามาดูผมนั่งทำสมาธิ แต่เขามาดูผมเอง
    แบบนี้ใครบอกได้บ้างว่า สรุป ใครกันแน่ที่ทำเพื่อโอ้อวด หรือ ใครกันแน่ที่คอยจ้องจับผิดคนอื่น

    เขาไม่ว่าตรง ๆ หรอกครับ เขาไปพูดนินทาผมกับคนอื่น ๆ
    ให้คนอื่นมาคอยจับผิดผม หาว่าทำเพื่ออวด หาว่าทำใส่คนอื่น
    จนพาลทำให้คนอื่น ๆ หันมาเกลียดผมแบบไม่เป็นทางการ
    ขยันหาศัตรูมาให้อยู่เรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ผมก็อยู่ของผมดี ๆ ผมก็งงว่าเขาเป็นอะไรของเขา
    พวกที่ว่านี้ผมระบุตัวตนแน่ชัดไม่ได้ครับ แต่คิดว่าคงมีพวกเยอะ
    เพราะสิ่งที่เขาทำมันกระทบต่อชีวิตของผมจริง ๆ
    มันคงเป็นกรรมของผมเองที่โดนแบบนี้ แต่มันก็เป็นการสร้างกรรมใหม่ของพวกเขาเช่นกัน
    พอคิดว่าพวกเขากำลังทำให้ตัวเองในอนาคตต้องเดือดร้อนแบบผมในตอนนี้
    ผมก็เลยพอจะทุเลาความโมโหของตัวเองไปได้บ้าง

    ผมก็ไม่เลยไม่ค่อยอยากจะสนใจเท่าไหร่ ผมก็ทำสมาธิของผมไปเรื่อย ๆ
    เวลาอยู่ในที่สาธารณะ ผมก็ไม่ได้ไปนั่งขัดสมาธิให้ใครเห็นสักหน่อย เว้นแต่ในวัดซึ่งเป็นเรื่องปกติ

    ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้ไปทำอวดใคร ก็ยังมีคนหาเหตุมานินทาผมให้คนอื่นฟังแบบนี้
    ผมก็ชักสงสัยแล้วว่า ตกลงเขาเห็นว่าการทำสมาธิเป็นเรื่องไม่ดีหรือไง
    แล้วทำไมต้องเจาะจงโจมตีเรื่องสมาธิด้วย ทำไมผมทำสมาธิแล้วต้องมีคนมาเดือดร้อนด้วย
    ผมก็นั่งของผมดี ๆ

    ผมเริ่มรู้สึกแปลก ๆ แบบนี้มาตั้งแต่ผมเริ่มอยากจะให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติแล้ว
    ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า หรือจะเป็นอย่างที่หลายคนบอกว่า มีคนคิดไม่ดีกับศาสนาพุทธของเราจริง ๆ เหตุการณ์ไม่ดีที่เกิดขึ้นหลายอย่างมันฟ้องว่าศาสนาพุทธกำลังย้ำแย่โดนโจมตีหนัก ถ้าเป็นงั้นจริง ถ้าขนาดแค่ผมทำสมาธิแล้วยังโดนกลั่นแกล้งแบบนี้ ผมว่ามันก็เกินไปล่ะ

    ถ้าแค่คนธรรมดาแบบผมยังโดนเพ่งเล็งแบบนี้ ผมว่าศาสนาพุทธของเรากำลังอยู่ในสภาวะวิกฤติจริง ๆ แล้วละตอนนี้
     
  7. naret191

    naret191 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +28
    อนุโมทนาสาธุครับ

    ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นสักหน่อย หลังได้อ่านเนื้อหาของ จขกท.และผู้ที่มาตอบกระทู้ บางครั้งบางที่ผู้ที่แสดงความเห็นควรขยายหรืออธิบายความสักนิด เพื่อให้เกิดความเข้าใจให้ถูกตรงตามเจตนา และแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ ป้องกันการเข้าใจผิดเกิดการโต้คารมกันไปมาซึ่งจะเป็นภาพที่ไม่สวยเท่าไรหากเกิดเหตุการณ์นั้นในบอร์ดแห่งธรรมแห่งนี้

    ตัวอย่างกรณี จขกท.โพสต์ แล้วมีผู้มาโพสต์ต่อด้วยกาลามสูตร โดยไม่อธิบายสาเหตุว่าทำไมจึงโพสต์เช่นนั้น ในความเห็นผม ไม่ผิดเลยที่อาจมีผู้แปรเจตนาไปต่างๆนาๆ เนื่องด้วยกาลามสูตร เป็นบทคำสอนที่คนในศาสนาพุทธบางคนชอบยกขึ้นมากล่าวอ้าง เวลาที่ไม่ชอบใจหรือไม่ยอมรับในคำสอนบางเรื่องของศาสนาพุทธเองหรือในความเชื่ออื่น โดยอ้างให้ดูขลังทำนองว่า พระพุทธเจ้าบอกเองว่าไม่ต้องเชื่อก็ได้ เป็นต้น แต่หากท่านขยายความถึงเจตนาสักหน่อย ความเข้าใจผิดคงไม่เกิด

    ด้วยความเคารพนะครับ ขออภัยด้วยครับหากความเห็นไม่เหมาะสม
     
  8. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,974
    notitle-jpg.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...