กรรมใดถึงเกิดมาลูกเป็นเด็กร้ายกาจกับพ่อแม่

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย piramid111, 24 กรกฎาคม 2013.

  1. piramid111

    piramid111 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    462
    ค่าพลัง:
    +1,204
    อยากรู้จริงๆค่ะ เชื่อเรื่องกรรมว่ามันเป็นกงกรรมกงเกวียน แต่มาคิดดูอีกที่ตอนเราเด็กก็ร้ายพอสมควรกับพ่อแม่ แต่ไม่ถึงขนาดที่ลูกเราทำแบบนี้กับเรา ลูกเป็นเด็กไฮเปอร์พฤกรรมกร้าวร้าวรุนแรงมากกกก ขนาด คิดฆ่าพ่อได้เลย ทั้งเหวี่ยง ทั้งด่าพ่อด่าแม่ชอบหนีออกจากบ้านไปหาผู้ชาย โรงเรียนเปลี่ยนบ่อยมาก เหล้าบุหรี่เอาหมด เลี้ยงลูกแบบค่อยเป็นค่อยไป เราเป้นแม่นํ้าตาตกทุกวัน ต้องคุมตัวกันตลอดเวลาเผลอไม่ได้เลย ไม่อยากให้ลูกทำบาปไปมากกว่านี้เลยสงสารลูกมากๆ มีวิธีแก้ไขให้กรรมของลูกเบาบ้างลงได้บ้างไหมค่ะ สวดมมต์ไห้วพระก็ทำแล้วค่ะ ตอนเหลือแค่ทำใจค่ะ
     
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ นี่คือความจริงที่ใครๆไม่อาจปฏิเสธได้.. ไม่ว่าจะรักในฐานะใดๆ...

    น่าเห็นใจในสิ่งที่เกิดเพราะพฤติกรรมของลูก..ท่านผู้ถามเชื่อในเรื่องกรรมว่ามีผลก็ถูกควรแล้ว แต่ไม่ควรเข้าใจผิดไปว่า สิ่งที่ตนต้องประสบนี้มาจากกรรมเก่าแต่เพียงอย่างเดียว เพราะแท้จริงแล้ว มีเหตุปัจจัยมากมายทั้งในอดีตและปัจจุบันที่ทำให้ต้องพบเรื่องน่าทุกข์นี้..

    สิ่งทั้งปวงย่อมไหลมาแต่เหตุเสมอ เหตุไกลได้แก่บาปเก่าที่ตนเคยเกเรทำให้พ่อแม่น้ำตาตกทุกข์ใจมาจะชาตินี้หรือกี่ชาติที่แล้วมา กรรมนั้นไม่ลืมเราเลย..บัดนี้กรรมนั้นได้ช่องมาส่งผลเพราะมีปัจจัยสนับสนุนพร้อมเพรียงแล้ว... เหตุใกล้คือสถาพสังคมสิ่งแวดล้อมและการเลี้ยงดูของครอบครัวที่มีอิทธิพลแก่พฤติกรรมของลูก และอุปนิสสัยของลูกที่สั่งสมมานานนับชาติไม่ถ้วน ที่พร้อมจะแสดงออกเมื่อได้ปัจจัยกระตุ้น..

    เรื่องกรรมเก่านั้นย่อมไม่มีใครแก้ไขอะไรได้ แต่เหตุใหม่ในปัจจุบันเท่านั้นที่เราอาจทำได้เพื่อผลที่ตนประสงค์...

    การเลี้ยงดูลูก ที่เป็นไปกับส่วนสุดทั้ง๒ ..ควรหลีกเลี่ยง...คือการตามใจลูกจนเคยตัว เมื่อเขาอยากได้อะไรต้องได้เสมอ ไม่เคยรู้จักหน้าที่รับผิดชอบอะไรในฐานะสมาชิกของครอบครัว ไม่มีระเบียบวินัยที่นำไปสู่ความรู้จักหน้าที่ของตน ทำอะไรไม่เป็นได้แต่เรียกร้องเอาจากพ่อแม่ตลอดเวลาจนเคยตัว นี้ประการหนึ่ง...และการกดดันด้วยระเบียบบังคับเข้มข้นจนลูกกระดิกแทบไม่ได้เลย ทั้งยังต้องคอยแต่ฟังคำสั่ง ของพ่อแม่..ไม่มีโอกาสจะโต้แย้งด้วยเหตุผล ชีวิตตกอยู่ในฐานะคล้ายทาสที่มีเจ้าชีวิตคอยบงการให้ทำหรือเป็นไปตามที่พ่อแม่คาดหวัง หรือวางแผนไว้ให้ตลอดเวลาจนหมดสมรรถภาพในการคิดอะไรๆด้วยตนเองไปจนหมดสิ้น..นี้อีกประการหนึ่ง ทั้งสองทางนี้ควรยุติลงทันที ..เพราะถ้าลูกไม่เสียคนไปกับเรื่องที่ไม่ควรเช่นติดเหล้าบุหรี่หรือยาบ้า ฯลฯ ก็เสียสติเพราะเครียดจัด กลายเป็นโรคประสาทได้ง่ายดายน่าสงสารมาก..

    เมื่อตรวจดูวิธีการเลี้ยงลูกของตนตามจริงแล้ว มิได้เป็นไปโดยส่วนทั้ง๒นี้ แต่เลี้ยงด้วยความเหมาะควรดีแล้วแต่ลูกก็ยังสร้างความกังวลทุกข์หนักแก่ตนก็ต้องหันมาพิจารณาว่า ..ที่ลูกเกรี้ยวกราดนั้นเกิดจากเหตุแท้จริงอะไร คนที่จะเกรี้ยวกราดก็เพราะถูกขัดใจ ตามตรวจดูว่าเราขัดใจเขาหรือไม่ เพราะอะไร สมควรหรือไม่ ถ้าพบตามจริง (ไม่เข้าข้างตนอย่างเดียว)ว่าเราขัดใจเขาโดยสมควรแก่เหตุ แต่ลูกไม่เอาเหตุผลกลับพาลโมโหเราเช่นนี้ ก็ให้ทราบว่า นี้มาด้วยนิสสัยพาลในสันดาน ของเขา ที่อาจได้รับมาเพราะคบเพื่อนที่พาล.. การแก้ไขคือต้องพยายามดึงลูกออกจากพาลมิตร ไม่เช่นนั้นก็คงจะแก้ไขอะไรได้ยากลำบากจริงๆ ..

    หากว่าใช้วิธีการต่างๆมาใช้เเล้ว ลูกก็ยังไม่เลิกทำตัวเสียหายอีก ก็ต้องมาเร่งการประพฤติศีล เจริญธรรมะมีการไหว้พระสวดมนตร์ เจริญเมตตากรุณาให้ลูกเนืองๆ ตั้งใจสมาทานประพฤติศีลอย่างมั่นคง ตรวจดูว่าหน้าที่การงานอาชีพของตน มีเกี่ยวกับการล่วงศีลประการใดอยู่บ้างหรือไม่...เช่นคอร์รัปชั่นโกงเขามา แล้วใช้ทรัพย์นั้นมาเลี้ยงดูครอบครัวจึงมีส่วนให้ผลของอกุศลมาส่งผลได้ด้วยการประพฤตินอกลู่ของลูก..การเจริญกุศลทุกชนิด อาจสามารถช่วยปัดเป่าความเดือดร้อนในเวลานี้ได้ เว้นแต่ว่าหากบาปเก่ามีกำลังแรง ก็คงแก้ไขอะไรไม่ได้มาก กระนั้นก็ไม่พึงท้อเสีย เพราะสิ่งทั้งปวงย่อมไม่เที่ยง มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ระยะหนึ่ง แล้วย่อมแปรเปลี่ยนไป...เราจึงควรเพียรเจริญกุศลทั้งหลายอย่างต่ิอเนื่อง ย่อมได้อานิสงค์แห่งบุญที่มีกำลังปัดเป่าเรื่องร้ายให้คลายลงได้ และไม่ลืมพูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล ...

    หากเขาไม่ฟังหรือกู่ไม่กลับ ก็ต้องฝึกที่จะวางใจยอมรับด้วยอุเบกขาว่า เราหรือใครๆ ย่อมไม่อาจแก้ไขใครอื่นให้เป็นอย่างใจปรารถนาของตนได้ เพราะไม่มีใครหรืออะไรอยู่ภายใต้อำนาจบงการบังคับบัญชาของใครได้อย่างแท้จริง.........ถ้าว่าเขาจะสามารถกลับตัวกลับใจได้ ก็ด้วยความที่เขาคิดจะแก้ไขกลับตัวเท่านั้น เราเพียงมีหน้าที่บอกกล่าว ชี้ทางดีให้เขาทราบ เมื่อเขาไม่รับไม่อยากเดินบนทางดี เราเองก็ไม่พึงปล่ิอยตนให้มีจิตใจเศร้าหมองระทมทุกข์ ฝึกปล่อยวางจนถึงที่สุดให้ได้ให้เป็น....พร้อมกันนี้พึงไม่ประมาท ระมัดระวังตัว ไม่ให้ลูกต้องทำบาปหนักมีการก่นด่า แสดงอาฆาตแก่พอแม่ จนถึงกับลงมือทำอนันตริยกรรมจริงๆ ด้วยการไม่พูดพล่ามมากมายจนเขาเกิดโทสะพลุ่งพล่านมาก พยายามนิ่งสงบให้เป็นในวาระอันควร ..วัยรุ่น นั้นส่วนมากมักคิดว่าตนฉลาดและรู้ดีไปหมด เขาไม่ชอบคำสอนที่สวนกับความต้องการของเขานัก พ่อแม่พึงหาอุบายในการสอนตามควรแก่ กาละเทศะด้วยความแยบคาย นะครับ


    ขอให้พ้นความทุกข์โดยเร็วและปลอดภัยตลอดไปครับ
     
  3. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    จริงๆแล้ว พฤติกรรมของลูกนั้นก็เกี่ยวพันมาจากวิธีเลี้ยงดูของพ่อแม่
    จะโทษใครไม่ได้เลย การที่เราทำอย่างไรกับพ่อแม่นั้น เราก็เอานิสัยที่แฝงอยู่ในตัวเรามาใช้กับลูก
    ถ่ายทอดไปสู่ลูกโดยไม่รู้ตัว เช่นความเป็นคนไม่มีเหตุผลของเรา เราก็อาจจะเผด็จการกับลูกโดยไม่รู้ตัว
    ความเป็นคนที่ไม่อภัย ผูกแค้นกับลูกในคราบความห่วงใยเพราะลูกไม่ได้เป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น ลูกก็ผูกแค้นกับเรา ซึ่งสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ที่เราใช้ชีวิตอยู่กับลูกนั้น ค่อยๆสะสมในใจจนถึงจุดแตกหักที่เด็กไม่คุย ไม่ฟังแล้ว

    แนวทางแก้ไขคือ สำนึกผิดก่อน ทบทวนก่อนว่า เราน่าจะมีเหตุผลักดันให้ลูกเป็นแบบนี้
    แล้ว อย่าด่าอย่าว่าลูก เห็นอกเห็นใจ อภัยให้เด็กเห็นว่าแม้เขาจะผิดพลาดมากี่ครั้งพ่อแม่ก็อภัย
    ไม่ใช่ว่า เขายังไม่ได้ทำผิด แค่ขัดใจเรา เราก็ไปตำหนิเขา เขาก็อาจจะคิดว่าแล้วนี่มันชีวิตใคร
    สุดท้ายแล้วมันก็ถึงจุดที่เขาต้องการในทางเดินของเขา
    อภัยให้บ่อย เข้าใจ ไม่รีบร้อนอยากให้เขาเป็นอย่างที่เราหวัง
    ค่อยๆฝึกไป โดยฝึกตัวเองก่อน ฝึกตัวเองดีแล้วจึงค่อยสอนลูก
     
  4. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ลูกไม่ดี แก้ที่พ่อ-แม่
    พ่อ-แม่ไม่ดี ให้แก้ที่ลูก


    หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
     
  5. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,670
    เป็นกำลังใจให้คุณ jintana ค่ะ ก้อคงต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก เค้าเกิดมาเป็นลูกเราแล้ว เมตตาและกรุณาเค้าให้มาก ๆ สักวันเค้าก็คงจะสัมผัสได้ถึงพลังรักที่ยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ ตอนนี้พฤติกรรมอาจจะเป็นไปตามช่วงวัย
     
  6. beebee_honey

    beebee_honey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +186
    เมื่อก่อนหนูก็เคยอารมณ์ร้อนค่ะ ชอบเถียงผู้ใหญ่และคิดว่าตัวเองแน่ ตัวเองเจ๋ง แต่พอมีช่วงนึงที่อยู่ๆ เพื่อนแก๊งเดียวกันชวนไปวิปัสสนากรรมฐานครั้งแรกเลยตอนอายุ 16 หลักสูตร 7วันของคุณแม่สิริ(อารมณ์ตอนนั้น คืออยากรุ้อยากลอง ฮิฮิ) ในนั้นมีวันนึงเขาสอนเรื่อง กตัญญูกตเวที มีการกราบขอขมาคุณพ่อคุณแม่ หนูน้ำตาตกเลยค่ะ จากนั้นมาก็รู้ซึ้งถึงบุญคุณท่าน ไม่เคยเถียงผู้มีพระคุณเลย.... บางทีหนูก็ทราบนะคะว่าผู้ใหญ่เขาก็หวังดี แต่อาจจะพูดมากไปหน่อย หนูก็น้อมๆรับฟัง แต่ถ้าบางครั้งทนไม่ไหว ก็จะเดินหนีไปแบบเงียบๆ อิอิ

    คุณจขกท.ลองชวนลูกไปวิปัสสนากรรมฐานก็ได้นะคะ ถ้าเขายอมไป อาจจะหว่านล้อมด้วยวิธีต่างๆก็ได้ ลองดูค่ะๆ สุ้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^__^
     
  7. Deep Blue

    Deep Blue เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +887
    ยิ่งมีสิ่งเกี่ยวข้องมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสและทางมาของวิบากมากขึ้นเท่านั้น

    บางคน เมื่อได้แต่งงาน ก็มีเรื่องให้ต้องทุกข์ใจเกี่ยวกับพ่อตาแม่ยาย พี่เมีย น้องเมีย
    ถ้าไม่แต่ง ก็คงไม่เจอ...
    หลายคน เมื่อมีลูก ลูกก็สร้างความทุกข์ใจให้สารพัด
    ถ้าไม่มีลูก ก็คงไม่เจอ...

    กิเลส... มีอุบายที่แยบยล ลวงให้เราเชื่อว่า ถ้ามีสิ่งนี้ๆ เข้ามาในชีวิต แล้วความสุขจะตามมา
    กลับกลายเป็นการเปิดโอกาส เพิ่มช่องทาง ให้สารพัดวิบากได้ช่องส่งผล
    รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ต้องนอนเอามือก่ายหน้าผาก คิดอยากจะหนีเข้าป่าให้รู้แล้วรู้รอด

    อ่านแล้วเศร้าใจแทนครับ

    ผมคิดว่าคุณเองก็คงจะพยายามเลี้ยงดูลูกอย่างดีที่สุดแล้ว และถ้าอะไรๆ ยังไม่ดีขึ้น
    ก็คงต้องหาทางทำใจครับ.
     
  8. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861
    เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อนมาก ครับ

    ต้องถาม จขกท. ว่าเคยทำร้ายเด็กๆมาก่อนหรือเปล่า
    เอาแค่ในชาตินี้ ลองไปนึกดู
     
  9. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    ถ้าเลี้ยงลูก ต้องตีลูกสอนลูกตั้งแต่อายุน้อยๆตอนเขาเริ่มรู้เรื่อง
    เพราะเด็กไม่มีปัญญา
    1 เราจึงต้องสอนเขาให้คิดด้วยเหตุผลให้เป็นให้เริ่มคิดเริ่มเรียนรู้ และสอนให้เขากลัวการทำบาบและผลของการทำบาบ

    2เราต้องฝึกให้เขารับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง แบ่งเป็นการเรียน การทำงานบ้าน การรับผิดชอบตนเอง การรู้จักแบ่งเวลาและตรงเวลา

    3 การควบคุมเรื่องเวลาว่างของเขา ให้เขาทำอะไรที่เป็นประโยชน์ การเที่ยวเตร่และผิดเวลาจึงไม่ใช่สิ่งที่เขาวิ่งเข้าไปหาหรือเป็นสิ่งที่เราปล่อยปละละเลย

    4การฝึกให้เขาศึกษาคนเข้าใจจิตใจของคนและตัวเขาเอง และรู้ว่าควรคบเพื่อนอย่างไร และควรเมตตาผู้อื่นอย่างไร

    5การฝึกให้เขาตั้งเป้าหมายในชีวิตของเขาว่าเขาอยากได้อะไร และควรทำเหตุในปัจจุบันอย่างไร

    เท่าที่ผมเข้าใจ สมัยใหม่เลี้ยงลูกให้เป็นนายคน ทำอะไรไม่เป็น การเที่ยวเตร่ของลูกก็ปล่อยปะละเลย ไม่สนใจ ทำไมเราไม่เคยสงสัยหรือว่า
    ทำไมเด็กอัจฉริยะ เขาใช้ชีวิตของเขาอย่างไร ทำไมเราไม่ฝึกให้เขาใช้ชีวิตอย่างนั้น มีกรอบกะติกาให้เขาเพื่อฝึกฝนจิตใจและความคิดของเขา

    คนที่เป็นพ่อแม่คน ต้องเป็นนักปั้นที่ดีที่้เก่ง และต้องรู้ว่าเรากำลังปั้นอะไรให้เป็นอะไร มันไม่ง่าย แม้แต่ตัวท่านหลายเรื่องท่านเองก็ยังคิดไม่ได้ทำไม่ได้ ไม่รู้วิธี ยังหลงอยู่ในวัตถุนิยมกับค่านิยมของสังคมที่ผิดๆ เช่นนี้จึงต้องวางแผนกันใหม่คิดใหม่

    ลองคุยกับเขาดีๆสิ ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปลืมมันไปให้หมด เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม๊ คุยกันหากเขาโตพอสมควรแล้ว อนาคตเขาอยากเป็นอะไรอยากได้อะไร วางแผนให้เขาใหม่ จัดสรรเวลาของเขาให้ดี พ่อแม่ต้องคิดและวางแผนให้เขา ปิดช่องทางที่เขาจะทำชั่วทั้งหมด ให้เขาฝึกมำบุญนั่งสมาธิ ทำได้หรือไม่ค่อยๆนำบุคคลที่เป็นอัจฉริยะของโลกมาเป็นตัวอย่างสร้างแรงศรัทธาให้เขาไปถึงฝั่ง เป็นต้นครับ ลองดูนะครับ
     
  10. prosper

    prosper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +382
    ชีวิตคนเราเกิดมามีกรรมติดตัวกันมาแต่กำเนิดอยู่แล้ว
    ลองสังเกตพฤติกรรมเด็กแต่ละคนสิคะ
    บางคนพอเกิดมาอายุไม่กี่เดือน เริ่มก้าวร้าว เรียกร้อง ด้วยการร้องไห้เสียงดัง
    ลงนอนชักกับพื้น กรีดเสียง ตะเบ็งเสียง ไม่ยอมหยุด ถ้าไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ

    แต่เด็กบางคนเลี้ยงง่าย เคยเห็นตัวอย่างมาหลายเคสเหมือนกัน
    บางคนช่างต่างกับพ่อแม่โดยสิ้นเชิง แบบนี้ เรียกว่าเกิดจากกรรม
    และกรรมพันธุ์ก็เป็นอีกส่วน ถ้าพ่อแม่ดีแสนดี สอนดี พยายาม
    ให้เขารับแต่ข้อมูลดีๆ สิ่งที่ดีๆ แต่ตัวเขาไม่รับ ไม่ปฏิบัติตาม
    ก็ถือว่า เป็นกรรมของเขา

    ไม่ต้องคิดมากค่ะ รักจากพ่อแม่ที่ดี ที่มีต่อลูกนั้น เป็นรักที่บริสุทธิ์อยู่แล้ว
    เราอบรมสั่งสอนเขาทุกอย่าง อยู่ที่จิตสำนึกของเขา ว่าจะทำตัวเช่นไร
    ต่อพ่อแม่ ต่อสังคมรอบตัวเขา
    ชีวิตคนเรา มีทั้งกรรมเก่าและกรรมปัจจุบันเป็นตัวขีดเส้นทางเดิน
    และโชคชะตาค่ะ ขอให้คุณและลูกพบแสงสว่างและทางออกที่ดีนะคะ
     
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    มีอยู่บ้านหนึ่ง คุณพ่อสุดจะทนกับลูกที่เกเรมากๆและไม่ยอมเชื่อฟัง
    คุณพ่อ พูดด้วยเสียงราบเรียบว่า หากลูกยังทำตัวเป็นคนเลวไม่หยุด ลูกคงรู้ดีว่า ผลชั่วจะทำให้ลูกตกต่ำและลำบากในที่สุด พ่อคงช่วยอะไรลูกไม่ได้ ทุกวันนั้นลูกยังหาเงินใช้เองก็ไม่ได้ ยังต้องพึ่งพาพ่อแม่ หากคิดว่า สิ่งที่ตนเองทำชั่วนั้น หยุดหรือละเลิกไม่ได้ พ่อก็คงช่วยอะไรลูกไม่ได้ พ่อทำให้ลูกเกิดมาได้ แต่เมื่อไม่เชื่อฟังกัน หากเชื่อตัวเองเพราะยังอยากทำชั่วอยู่ ก็ขอให้ออกจากบ้านหลังนี้ไป ไปอยู่กับความชั่วที่ลูกไฝ่ฝันหา จงหาเงินใช้เองรับผิดชอบตัวเองให้ได้ เพราะการช่วยเหลือของพ่อคงไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว หากลูกคิดได้และพร้อมกลับตัวกลับใจเมือไหร่ บ้านหลังนี้ยินดีต้อนรับกลับมาเป็นลูกที่ดีและสร้างอนาคตที่ดีให้

    คุณพ่อใจเด็ดเชิญให้คุณลูกที่เกรเรออกจากบ้านไปรับผิดชอบชีวิตตนเอง เป็นตายร้ายดีอย่างไรไม่สนใจเพราะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยไม่ดีของลูกได้
    ท่านบอกว่า

    คนโบราณเขาใจเด็ดมากๆ เมื่อทำให้เขาเกิดออกมาได้ ก็สามารถฆ่าให้ตายได้เช่นกัน หากอยู่ไปก็รกโลก จะได้ไม่สร้างบาบกรรมกับคนอื่นอันจะตกมาที่ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ด้วยครับ ท่านว่าไว้อย่างนั้น ครับ

    ก็ลองใช้ไม้อ่อนดูก่อน อ่อนไม่ได้ผลก็ค่อยใช้ไม้แข็งจัดการกับเขา วันหยุดหรือเวลาว่างจงอยู่กับเขาใช้เวลากับเขาให้มาก ทำไมไม่พาลูกไปเปิดหูเปิดตาบ้างเสริมทัศนะคติและความเชื่อที่ดีๆถูกต้องให้เขาครับ สาธุ
     
  12. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    ส่วนมากที่ลูกเกเรเพราะเราตามใจเขามาก
    สมัยก่อนผมจำได้ว่า คุณแม่สอนไว้ว่า ลูกทุกคน เลิกเรียนแล้วต้องรีบกลับบ้านให้เวลาไม่เกิน 5โมงครึ่ง ช่วยทำงานบ้าน ซักผ้าหุ่งข้าวทำกับข้าวล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน ถางหญ้า ห้ามออกไปไหน หากมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ก็ต้องขออนุญาตุและมีผู้ใหญ่ไปด้วยเสมอ พอวันหยุดก็ไม่ช่วยแม่ทำงานนอกบ้าน ช่วงปิดเทอมก็ต้องไปทำงานโรงงาน เพราะต้องช่วยแม่หาเงินตลอด เพราะไม่ได้ร่ำรวยชีวิตลำบากตั้งแต่เด็กๆ โตได้หน่อยประมาณ10ขวบคุณพ่อหายจากไปแยกกันอยู่ ผมเป็นพี่คนโตช่วยแม่กรีดยาง ต้องอดนอนและต้องไปเรียนหนังสืออดหลับอดนอน เรียนก็ไม่ค่อยรู้เรื่องใหม่ๆตอนนั้นอยู่ม1 แต่ก็ได้ครูใหญ่ท่านแนะนอนสอนเคล็ดลับให้ จนกลายเป็นเด็กที่มีสามาธิดีเรียนเก่งพอสมควรจนกระทั่งได้โคว้ต้าตลอดจนจบปริญาตรี แต่ที่จบปริญญาตรีนี่ไปสอบเอา เพราะโควต้าที่ได้เอาไว้เป็นตัวเลือกกันพลาด ก็เลยแอบไปสอบได้ที่มหาลัยแม่โจ้ที่เชียงใหม่ ซึ่งที่นี้ก็ดีมากๆเพราะที่นี้คือมหาลัยแห่งชีวิต ที่พร่ำสอนให้เราทุกคนเป็นคนดีเป็นนักเสียสละและมีความอดทน ได้อะไรมามากจนทำงานจึงเข้าใจอะไรมากยิ่งขึ้น

    พูดมาก็ยาวเลยแต่สุดท้ายก็ขอให้กำลังใจนะครับ ให้ลองคุยกันดีๆนะครับ น่าจะมีทางออก ที่ดีร่วมกันครับ

    อีกนิดครับเลี้ยงเด็กฉลาดเราต้องฉลาดกว่าเขาด้วยเหตุผลนะครับ อย่าใช้กำลังหรืออำนาจ เอาเหตุผลมาคุยกันให้มากๆครับ และซึมซับด้วยพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้านี่แหละ สอนเขาสร้างศรัทธาให้เกิดให้ได้ครับ ผมเชื่อว่าคุณต้องทำได้ครับ
     
  13. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,135
    ดิฉันขออนุญาติโพสในฐานะของคนที่เป็นแม่ เห็นใจเป็นอย่างยิ่งค่ะ แค่ลูกป่วยทางกายเราก็ทุกข์ใจเหลือเกินแล้ว แล้วลูกเป็นเช่นนี้ ไม่ต้องบอกเลยว่าหัวใจของคนที่เป็นแม่นั้นร้าวรานเพียงใด..

    นอกเหนือจากเรื่องของกฏแห่งกรรมเก่าที่เราไม่สามารถควบคุมได้แล้วนั้น การเลี้ยงดูลูกเมื่อเยาว์วัยก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่มีผลในปัจจุบันนี้ เลี้ยงด้วยใจ หรือเลี้ยงด้วยวัตถุ เราไม่จำเป็นต้องตอบสนองเรื่องกิเลสของลูกในทุกเรื่อง สิ่งที่ต้องน้อมนำให้ลูกคือเรื่องของเหตุและผล ข้อคิด ว่าเพราะอะไร และทำไม เราจึงให้ในสิ่งที่เขาต้องการไม่ได้ในทุกอย่าง ดิฉันเชื่อว่าพ่อแม่คือแบบอย่างของลูก แต่ก็ไม่ใช่เสมอไปค่ะ ขึ้นอยู่ที่เราและลูกของเรามีบุญเสมอกันมาหรือไม่ เพราะสิ่งนี้จะทำให้แม่และลูกมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป เพียงแต่ว่าถ้าเรารู้แต่แรก เราก็คงจะปลูกฝังแต่เรื่องธรรมะ เรื่องดีดีให้กับลูกเป็นแน่

    แต่นั่นคือสิ่งที่เราไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้อีกแล้ว นอกเสียจากแก้ไขปัจจุบัน โดยเริ่มที่ตัวเราเองก่อน คุณจขกท. ต้องน้อมนำธรรมะเข้าสู่ใจตนก่อนด้วยหลักอิทธิบาท ๔ และต้องมีสติคิดพิจารณาในเหตุที่มีและผลที่เกิดขึ้น มีเมตตากับตนเองก่อนโดยการให้อภัยตนเองเสมอๆ ทุกอย่างต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน ด้วยการสร้างสรรค์แต่สิ่งที่ดีให้ลูกได้มองได้เห็น คงจะไม่พ้นทาน ศีลและภาวนา ซึ่งเพื่อตนเองจะได้มีกำลังใจและกำลังบุญที่จะไปช่วยลูกนะคะ

    อย่าจิตตกไปตามกระแสของสิ่งที่เกิด ลูกเป็นเช่นนี้ยิ่งต้องเมตตาเขามากๆค่ะ แนะนำให้ทำอย่างนี้ก่อนนะคะ เมื่อคุณจขกท.มีความมั่นคงทางใจแล้ว จึงค่อยๆ น้อมนำธรรมะ ให้กับลูก และแม้ว่าวันข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้นเราเองอาจจะช่วยลูกไม่ได้มาก อย่างน้อยธรรมะจะทำให้คุณทุกข์ใจน้อยลงนะคะ และยอมรับในสิงที่เกิดขึ้นอย่างผู้ที่ผ่านการฝึกฝนจิตแล้ว พึงมองดู..แต่ไม่ตามไป ขอให้คุณศรัทธาและเชื่อมั่นสิ่งดีดีที่ทำเพื่อคนที่เรารักนะคะ แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ^^

     
  14. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    985
    ค่าพลัง:
    +2,951
    ลูกเป็นไฮเปอร์ ลักษณะของตัวโรคเป็นแบบนี้อยู่แล้ว (ชนิดหุนหันพลันแล่น)
    อารมณ์รุนแรง ที่คุณบอกนั้นเป็นตัวโรคค่ะ
    แต่อะไรต่างหากที่ส่งเสริมให้เขาอาการรุนแรงมากขึ้น ตรงนี้ขอให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มด้วยค่ะ ค่อนข้างยาว มีเวปสำหรับเรื่องนี้โดยเฉพาะ เจ้าของเวปดีมากให้คำแนะนำ และย้ำว่า ไม่ว่าจะรักษาอย่างไร ต้องระลึกถึงเสมอว่า นั่นคือ กฏแห่งกรรม และให้คำแนะนำ สำหรับ ไฮเปอร์ สำหรับในวัยผู้ใหญ่ ว่า คนเป็นแม่ควรทำตัวอย่างไร
    เนื่องจากตัวเด็กเป็นโรค การเลี้ยงดูในช่วงเด็ก ปรับพฤติกรรม (เพื่อสร้างจิตใต้สำนึก) สำคัญมาก ทำไมเด็กถึงโตมาแล้วก้าวร้าวมาก อาจจะเพราะคุณเคยตีเขาโดยไม่ได้ระวัง จนเจ็บช้ำน้ำใจ ฯลฯ
    (เด็กปกติจะตีได้ แต่เด็กลักษณะนี้โดยตีบ่อยๆ จะกลายเป็นก้าวร้าวไปแทน และพฤติกรรมที่แสดงออก อาจจะยิ่งรุนแรง เพราะตัวโรคนั้นโมโหร้ายอยู่แล้ว)

    หมอจิตเวช เป็นที่พึ่งทางยา และคำแนะนำ
    การสวดมนต์ปฎิบัติธรรม เวปนั้น จะเน้นมาก เพื่อลดวิบากกรรมให้บางลง

    เราอ่านข้อความคุณ ddman ยังไม่ละเอียดแค่คร่าวๆ นั้นพอสรุปได้ตามนั้น (ในทางธรรม)
    เพราะต้องรีบพาลูกไปฝึก SI กับสวดมนต์ก่อนนอนทุกวันค่ะ
    จากแม่ของลูกไฮเปอร์ (ชนิดอยู่ไม่นิ่ง)
     
  15. merumas

    merumas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2007
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +222
    ลองอ่านกระทู้นี้ดูนะคะ ลองปฏิบัติดูก็ไม่เสียหายนะ ^_^

    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93.505162/

    มีชาวคริสต์คนหนึ่ง อยู่แถวลาดพร้าว อายุ ๕๑ ปี มีลูกชายคนเดียว สามีตาย เป็นเศรษฐีที่กรุงเทพมหานคร ราชาที่ดิน ที่ดินข้างคลองแสนแสบของเขาทั้งนั้น ไปจรดลาดพร้าวหลายร้อยไร่ เมื่อสมัยก่อนก็ขายได้หลายร้อยล้าน เป็นผู้มีเงิน ลูกชายเรียนหนังสือไม่เก่ง ส่งลูกไปเรียนเมืองนอก ไปต่อปริญญาที่อเมริกา ลูกไม่เอาไหน ไปซื้อรถเก๋ง พาจิ๊กโก๋ไปหาจิ๊กกี๋ ๓ ปี แล้วก็มีหนังสือมาหลอกแม่เรื่อย เรียนใกล้สำเร็จแล้วก็มาขอเงินแม่อีกหนึ่งแสน อีก ๕ แสน แล้วในที่สุดเขาไม่รู้จะไปหาที่พึ่งที่ไหน ก็ไปหาหมอดู หมอดูก็ไปเอาเงินสะเดาะเคราะห์ ลูกถึงจะเรียนได้ แล้วก็ได้เงินสะเดาะเคราะห์ ไปหาหมอทำ ก็ไม่สามารถจะทำให้ลูกเรียนสำเร็จได้ แต่พอดีมีคนที่สิงห์บุรี ไปเป็นลูกจ้างบ้านนั้นเขาเป็นนายทุนให้ ก็พากันไปนครสวรรค์ กลับมาเขาก็เลยอยากให้อาตมาช่วยเขาพามาแวะ ก็เลยแกล้งเพทุบายว่าปวดท้อง แวะเข้าวัดนี้หน่อย จะหาห้องน้ำแวะเข้ามา แล้วนายทุนคนนี้ก็เข้าห้องน้ำด้วย คนนั้นก็มาบอกอาตมาว่า หลวงพ่อช่วยที แต่อาตมาก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นคริสต์ บอกช่วยหน่อยเถอะเขามีลูกชายคนเดียว ผมก็ขอยืมเงินเขาใช้เรื่อย เรานึกในใจ ก็ขอดูหน้าก่อน แล้วเขาก็พามาแล้วบอกให้ฟังว่า ลูกชายไปเรียนที่อเมริกา ไม่เอาไหนเลย พอรู้ว่าเขาเรียนไม่สำเร็จไปเที่ยวพานักศึกษาไทยไปเสียหาย ฉันก็จะเป็นโรคประสาทแล้วท่านจะมีทางช่วยไหม ดูหน้าแล้วก็รู้ว่าลูกชายต้องสำเร็จปริญญาโท แล้วจะสำเร็จปริญญาเอกด้วย แต่ทำไมเรียนไม่สำเร็จเดี๋ยวมีวิธีแก้ เพราะลักษณะบอกให้รู้ถึงลูกด้วยว่า ลูกชายต้องเรียนสำเร็จ แต่ทำไมเรียนไม่สำเร็จ

    มีวิธีแก้

    อาตมาก็บอกไปว่า โยมไปสวดมนต์ สวดพุทธคุณ ๕๒ จบเพราะตอนนี้อายุ ๕๑ เขาก็บอกฉันสวดไม่ได้ ฉันเป็นคริสต์ พระบิดา พระบุตร พระจิตสวดได้ไหม ฉันก็เป็นคริสต์ที่ชาวพุทธสวดมนต์ไม่เป็น ไปเข้าวัดเข้าโบสถ์ก็เข้าไปอย่างนั้นเอง วันนี้ก็เจ๊าไปไม่ยอมรับ ก็อยู่ได้อีก ๔-๕ เดือน อาตมาจำหน้าได้ ทีนี้ไม่มีคนพามาเขาก็มากันเอง ๓คน บอกว่าฉันยอมจำนน บอกเอาอย่างนี้โยม ไปซื้อหนังสือสวดมนต์เข้าเล่มหนึ่ง
    "ฉันไม่อยากให้หนังสือสวดมนต์มีในบ้านฉัน ท่านช่วยเขียนให้หน่อย"
    อาตมาก็เขียน พอตอนหลังขี้เกียจเขียน ต้องพิมพ์เป็นใบ
    นี่พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุงมหากา "ฉันไม่นับถือพระฉันสวดได้หรือ" ที่นอนนั่นแหละสวดไปก่อน .. อาตมาหาอุบายเลย ก็สวดพาหุงมหากา "ฉันท่องไม่ได้" อ่านตามตัว
    "แล้วฉันจะรุ้ได้อย่างไรว่าอายุ ๕๑ สวด ๕๒" ใช้ก้านไม้ขีดทิ้งเข้าสิ ทำไปก่อน เขาเลยมั่นใจคิดว่าจะทำได้ บอกว่าโยมสวดมนต์เสร็จแล้วแผ่เมตตาให้ลูก อย่าด่าลูกนะ อย่าแช่งลูก ให้ลูกมีความสุขความเจริญ และให้ลูกตั้งใจเรียนหนังสือให้สำเร็จ
    พอสวดได้ ๓ เดือน ท่องได้หมดเลย หนักเข้าไม่ต้องใช้ไม้ขีดแล้ว จึงเกิดอานิสงค์ ๒ ประการ

    หนึ่ง โรคประสาทหาย กินได้นอนหลับ ชื่นอกชื่นใจนอนหลับ เมื่อนอนหลับใจก็ดี เริ่มแผ่ส่วนกุศลให้ลูกถึงแล้วบุญกุศลของแม่จะถึงตอนไหนรู้กันตอนนี้ เพราะลูกนี้เฟ้อในการขอเงินแม่เรื่อย ไม่รู้จักบุญกุศลของแม่แต่ประการใด วันนั้นบุญกุศลของแม่ถึงประมาณ ๖ เดือน หลังสวดมนต์อาตมาจดไว้ วันนั้นพอดีลูกชายพาพวกนักศึกษาไทย ที่ส่งด้วยทุนของตัวเอง ไปเที่ยวขับรถ ไปชนเสาไฟฟ้า เพื่อนอยู่ข้างหลังกระเด็นออกจากรถหมด ไม่ตายไม่เป็นอะไรเลย แต่เจ้าตัวต้องไปอัดก๊อปปี้กับเสาไฟฟ้า เสาล้มต้องเสียเงินหลายแสน พวงมาลัยอัดหน้าอก ไปโคม่าอยู่โรงพยาบาลไม่รู้สึกตัวแล้ว พอดีมีลูกพี่อยู่คนหนึ่ง เป็นแพทย์อยู่ที่อเมริกาบอกว่าไม่รอดแน่
    วันนั้นผ่านไป รุ่งขึ้นลืมตาพอรอดมาแล้ว ปวดเมื่อยจะตาย น้ำตาร่วงคิดถึงแม่ นี่คนเราพอมีทุกข์คิดถึงแม่
    มันเฟ้อไปในสังคมมันจะไม่คิดถึง แม้บางคนอายุ ๘๐ ปี แก่จะตาย เวลาใกล้ตายร้องคิดถึงแม่ ร้องแม่จ๋า แม้กระทั่งแม่ตายไปแล้วอย่างนี้แน่นอน มันทุกข์หนักบอกปวดเมื่อยทั่งสรรพางค์กาย คุณแม่จ๋ารำพึงรำพันคิดถึงแม่

    สอง ลูกคิดถึงแม่ ถ้าแม่ทราบว่าหนูไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว แม่จะเสียใจแค่ไหน แม่ทราบเข้าก็ดีอกดีใจมาวัดเลย เลี้ยงเพลพระ พระสวดธรรมจักรให้ ๑ จบ


    ในที่สุดพอลูกชายกลับจากอเมริกา พาลูกมาวัดเลย อาตมาให้พระบูชาไป ๑ องค์ แม่ก็เล่าเรื่องให้ลูกฟังเพราะเหตุนี้ ลูกเลยสวดมนต์ภาวนา แล้วเข้าไปวัดไทยไปนั่งวิปัสสนาที่เมืองนอก เจ้าคุณเทพโสภณ (ปัจจุบัน พระธรรม-ราชานุวัตร) หรือหลวงเตี่ย ปัจจุบันจำพรรษาอยู่วัดโพธิ์ท่าเตียนกรุงเทพฯ รู้จัก แต่ไม่รู้เรื่องวัดอัมพวัน รู้ว่านี่มันนักกรรมมัฎฐาน ปริญญาเอก เดี๋ยวนี้ไม่ยอมกลับบ้าน แม่บอกหลวงพ่อให้ฉันสวดมนต์อะไรให้ลูกกลับประเทศไทย
    ไม่มีกลับ เรารู้แล้วไม่กลับแน่

    อันนี้เป็นผลแน่นอน ขอฝากไว้ว่าเด็ก หรือใครก็ตาม ต้องประสบทุกข์ ให้เงินมันไปเฟ้อ ไม่คิดถึงแม่ ต้องประสบทุกข์ จึงจะเห็นตัวธรรมะ เห็นอกเห็นใจเลยเชียว เขามาเล่าให้อาตมาฟัง บอกหลวงพ่อครับ ผมไม่คิดถึงแม่เลย ๔-๕ ปีที่อยู่อเมริกา แต่ก็คิดถึงแม่ว่า อยู่กับแม่ป้อนข้าวให้ พัดวีให้ คิดได้อย่างนี้เลยกลับ แม่ก็เล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อนี่ช่วยเอาไว้ เขาเลื่อมใส
    อาตมาบอกว่าถ้าเชื่อไปตัดผมมาเดี๋ยวนี้ เพราะผมเขายาวประบ่า เลยตัดผมที่สิงห์บุรี เจ้าคนนี้บอกว่า แหมหลวงพ่อองค์นี้ผลาญเงินแม่ไปหลายล้านบาท
    นี่เห็นได้ชัดมาก ดังที่กล่าวมาแล้ว อาตมาก็ตั้งตำราคนไหนเคราะห์ร้ายสวดพระพุทธคุณ


    ............................................................

    บทสวดมนต์ ถวายพรพระ
    วิธีปฎิบัติธรรม และบทบรรยายธรรมของ
    พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)
    วัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
     
  16. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    985
    ค่าพลัง:
    +2,951
    มาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้อีกครั้ง เพราะเมื่อคืนไม่ค่อยมีเวลา
    ประกอบกับ เราได้รับ PM หลังจากโพสต์
    โฆษณาดูดวง

    หากเจ้าของกระทู้ได้รับเหมือนกัน กรุณาอย่าใช้การดูดวง/เปิดกรรรม อะไรก็ตามที่เสียค่าใช้จ่ายบนความทุกข์ของผู้อื่น มาช่วยแก้ไข
    การใช้แนวทาง ทางการแพทย์ และปฎิบัติธรรมจะช่วยลดวิบากกรรมให้บางลง(หรือไม่หนักมาก)
    ไฮเปอร์ เป็นกรรมเก่า ที่เจ้าของกระทู้และลูกผูกพันธ์กันมา
    กรรมใหม่ ที่ทำให้ลูกมีอาการก้าวร้าวหนักจนถึงขึ้นสามารถจะกระทำ อนันตริกรรมได้ อันนั้นเป็นสิ่งที่เรา/ครู/เพื่อน สร้างขึ้น โดยไม่รู้ตัว เพราะเด็กกลุ่มนี้ซึมซับไปแล้วแสดงออกมาอย่างผิดวิสัยที่ควรกระทำ
    (คนปกติจะมีวิจารณญาน หรือ สามารถหักห้ามใจได้)
    ..ตรงนี้สาเหตุมาจากอะไร คงต้องย้อนกลับไปดู เราขอแนะนำเวปนี้ (หากเข้าของกระทู้รู้จักแล้วเราถือว่า เป็นการแนะนำท่านอื่นเพื่อประโยชน์ค่ะ)

    http://www.adhdthai.com/autistic/catalog.php?category=7

    การดูดวงไม่มีประโยชน์อันใด นอกจากแก้ไขเหตุในปัจจุบันให้ดีที่สุด
    สิ่งที่ผ่านมาคือบทเรียน และตามที่เจ้าของเวปเขียนหนังสือ "พรุ่งนี้ยังไม่สาย"

    เจ้าของกระทู้เขียนว่า ร้องไห้ทุกวัน แสดงว่า ที่บ้านขาดเสียงหัวเราะไปกี่ปีแล้วคะ
    เราคิดว่า หากเจ้าของกระทู้ทุกข์มาก จิตเวชเป็นอีกทางเลือกนึง ที่สามารถช่วยได้

    ก่อนหน้านี้ไม่ ราว 2-3 เดือน ลูกเราถูกให้ออกจาก รร. เพราะหมอระบุและให้ทานยาโรคสมาธิสั้น
    โรงเรียน รับไม่ได้ (ตรงนี้เราคิดว่า เป็นทั้งกรรม และความไม่พร้อมของภาครัฐ)

    เราฝืนพูดคำว่า"โชคดี" (ของพระอาจารย์มิตซูโอะ) ทั้งน้ำตา หา รร.ใหม่ให้ลูก เครียดมากจนต้องทานยา ย้ำคิดย้ำทำ เพราะเราเองก็กรรมหนัก อาการป่วยเริ่มกำเริบ

    และก็โชคดีตามที่เราพูด เพราะตั้งแต่ย้าย รร.ใหม่ (แม้จะซ้ำชั้น) ลูกกลับมีความสุขขึ้น รอยยิ้มเสียงหัวเราะมีตลอด มากกว่าอยู่ รร.เดิมมาก
    และพัฒนาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    ตรงนี้ เพราะเราทุ่มเวลาให้ลูกมากกว่าเดิมมาก แทบจะประกบ ( เจ้าของกระทู้เองใช้คำว่า ต้องคุมตัวกันตลอดเวลาเผลอไม่ได้เลย )
    ตรงนี้คุมอย่างไร ลักษณะ กดดันเด็กหรือเปล่า


    จาก แม่ของลูกไฮเปอร์แบบอารมณ์ดี หัวเราะจนแม่แสบหู (เมื่อคืนขำกันทั้งแม่ลูกจนกว่าจะหลับ)
     
  17. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
     
  18. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940

    นึกอยู่ว่าจะแนะนำให้คุณแม่จขกท ให้ติดต่อหลังไมค์กับท่าน Thanks-Epi แต่เกรงใจ ...ยินดีด้วยที่คุณแม่จขกท ติดต่อ"ผู้รู้"และมีประสบการณ์ตรง(ทั้งทางโลกและทางธรรม)อย่างท่านThanks-Epi(ผ่านมาสาหัสอย่างไม่ธรรมดาเลย!! ขอคารวะในความอดทนอดกลั้นที่ท่านมีอย่างน่าอัศจรรย์ขอรับ!)....


    ...และขออนุโมทนาํอย่างยิ่งในคำแนะนำดีๆจากท่านThanks-Epiที่มีประโยชน์แก่ธารณชนด้วยขอรับ ..:cool::cool:

    คุณแม่จขกท อย่าเพิ่งท้อแท้ นะครับ คนเรานั้นมีทั้งส่วนดีและเสียปะปนกันเสมอ .. จึงต่างมีการแสดงออกที่กระทบคนรอบข้างทั้งในทางที่น่าชอบใจและไม่น่า ชอบใจ..จะโทษใครฝ่ายใดฝ่ายเดียวย่อมไม่ควร ...เราไม่อาจแก้ไขใครๆได้ก็จริง แต่การแก้ไขตนนั้นเราย่อมทำได้ ส่วนที่คนอื่นจะแ้ไขตนได้ ย่อมต้องอาศัยเวลา...ที่สำคัญอย่าเพิ่งเร่งหวังเอาผลทันทีทันใจ เพราะปัญหาที่เกิดก็อาศัยเวลาบ่มมาระยะหนึ่ง การแก้ไขย่อมต้องการเวลาเช่นกัน เหมือนคนเป็นโรค หากไปพบแพทย์ เร็วไวก็แก้ไขได้เร็ว หากทิ้งไว้นาน การรักษาก็ยุ่งยากหลายขั้นตอนทั้งใช้เวลานานกว่าจะหาย ปัญหาที่เกิดก็ทำนองเดียวกัน..

    บัดนี้ถึงเวลาที่ต้องหันมาหาที่พึ่งอันเกษมเสียก่อน ซึ่งไม่มีอะไรจะปลอดภัยเท่ากับพึ่งพระรัตนตรัยเลย เวลานี้ขวัญและสภาพจิตของคุณแม่กำลังกระเจิดกระเจิงแตกสลาย ขอให้กู้กลับคืนมาด้วยรสอมฤตแห่งพระธรรม ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้ดีแล้ว ทำนองนี้ว่า...

    น้ำตาที่เธอร้องไห้มาในสังสารวัฏ (เพราะเสียใจในตัวลูกคนนี้).. มีมากกว่าน้ำในมหาสมุทรแล้ว..เพราะการเวียนว่ายตายเกิดที่มีมานาน ได้พบแล้วพราก จากแล้วเพื่อเจอกันใหม่ นับครั้งไม่ถ้วน...พึงสลดสังเวช(ไม่ใช่เศร้าเหงาหงอย แต่คือปัญญาที่มีหิริโอตัปปะรองรับ)...เร่งประพฤติตนไว้ในครรลองแห่งศีลอย่างมั่นคง การใส่ใจประพฤติศีลเป็นอาจิณ..มีการสมาทานทุกวัน จะเป็นบาทฐานให้จิตตั้งมั่น ไม่มีความเดือดร้อนใจอะไรๆในภายหลัง..จิตที่ตั้งมั่นย่อมมีสติปัญญาประกอบ เมื่อมีทั้งสติปัญญาย่อมสามารถ แก้ไขปัญหาต่างๆได้ด้วยความแยบคาย......แม้การปลงวางลงได้ ก็เป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดเมื่อทำอะไรอื่นอีกไม่ได้ หรือได้แต่ไม่ดี..ธรรมะย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรมเสมอ...ใคร่ขอเชิญท่านจขกท ให้พิสูจน์ความจริงข้อนี้ดูนะครับ..

    ความคาดหวังทั้งหลาย เป็นที่มาของความดิ้นรนทุรนทุรายเสมอ เพราะต้องการให้ได้ให้มีและให้เป็นตามที่ใจตนปรารถนาโดยไม่ทราบความจริงว่า ไม่มีอะไรสักสิ่งสักอย่างที่อยู่ในอำนาจบังคับของใครๆอย่างแท้จริงเพราะทั้งหลายเป็น"อนัตตา"คือไม่ใช่ใครหรือของใคร...เป็นเพียงการประชุมทำงานกันของขันธ์๕ หรือธาตุ หรืออายตนะภายในและภายนอกสืบเนื่องเป็นไปเท่านั้น...ที่เราทำได้คือการพยายามทำเหตุปัจจัยเพื่อผลที่ดีที่ตนประสงค์...แต่แม้เพียรทำเหตุปัจจัยที่ดีแล้ว ผลกลับเป็นตรงข้าม ก็พึงทราบว่า เหตุก่อนปัจจัยก่อนมีมา และมีกำลังอยู่..ไม่ย่อท้อที่จะทำเหตุดีๆต่อไป..เป็นต้น..

    การทราบความจริงย่อมเป็นปัจจัยแก่ปัญญาให้สามารถละคลายความยึดถือ และคาดหวังลงได้บ้าง ซึ่งย่อมดีกว่าเดินหลงอยู่ในที่มืดด้วยความไม่รู้..ส่วนจะคลายความยึดหวังลงได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับกำัลังในการพิจารณาความจริงของตนที่มีอยู่.....

    ขอส่งกำลังใจมายังท่านจขกท ให้พ้นภัยชีวิตด้วยพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว...ให้สามารถแก้ไขปัญหาชีวิตครั้งนี้ได้ด้วยความราบรื่นรวดเร็ว ด้วยดีครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2013
  19. piramid111

    piramid111 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    462
    ค่าพลัง:
    +1,204
    ขอขอบคุณทุกคำแนะนำเลยค่ะโดยเฉพาะคุณ ddman นะค่ะ เข้าใจได้มากขึ้นทำใจได้มากขึ้น ทุกวันนี้ลูกต้องหาหมอจิตแพทย์ทุกอาทิตย์ หาหมอด้านสมองเดือนละครั้งเพื่อรับการบำบัดและกินยาเพื่อให้เขาสงบลงบ้าง ใช้ค่ะเขาเติบโตมาในครอบครัวที่มีการทะเลาะขัดแย้งกันตลอด ทะเลาะกับสามีบ่อยมาก เรียกว่าไม่ค่อยลงรอยกับสามีเท่าไร สาเหตุสามีทำแต่งาน บ้างานเลิกงานก็นอนๆ ไม่มีเวลาให้ลูกเลย ลูกอยู่กับแม่มาตลอดติดแม่มากๆ ตามใจไหมยอมรับค่ะว่าตามใจเพราะลูกคนสุดท้อง จากการรักษา เขามีสมองเท่าเด็กเจ็ดขวบ ส่วนโฮโมมส์เขาสูงมากเท่ากับผู้ให่ญเลยทั้งที่อายุแค่สิบสาม ลูกเป็นแบบนี้เคยคิดค่ะว่า ....อยากฆ่าเขาให้ตายไปสะ เขาจะได้ไม่ทำเลวกับตัวเขาและบาปกรรมกับพ่อแม่อีก....ก็ได้แค่คิดค่ะ สร้างให้เขาเกิดมา รักทนุถนอม เอาใจใส่ ทำลายเขาไปเราก็จะเสียใจมากกว่าเก่า ยอมทนรับกรรมไปค่ะ นั่งๆคิดดูย้อนไปเมื่อเราวัยเดียวกับลูกก็คล้ายๆกัน ผิดที่สภาพแวดล้อมเท่านั้น พ่อแม่เราไม่ค่อยทะเลาะกัน ตามใจเรามาก อยากได้อะไรส่วนมากจะได้ แต่ลูกคนนี้เกิดมาในสภาพเก็บกด ออกจากบ้านไม่ค่อยได้ เพราะสภาพที่อยู่คือเราอยู่ต่างประเทศค่ะ ที่นี้เป็นเมืองไม่ให่ญแต่เขาเลิกเรียนก็อยู่แต่ในบ้านเท่านั้นนานๆที่ถีงจะได้้เที่ยวกัน เพื่อนๆที่ลูกคบก็พวกแขก พวกไอ้ดำขั้นเกเรทั้งนั้นที่โรงเรียน ลูกเลยก้าวร้าวมากขึ้นค่ะ เชื่อในกฏแห่งกรรมสวดมมต์ไห้วพระ ก็จะขอให้คุณพระคุ้มครองเขาเสมอ ทำได้เท่าที่แม่คนนี้จะทำให้ลูกได้ เราเป็นแม่เราต้องทนเห็นลูกในสภาพนี้ไปอีกนาน ยอมรับค่ะบ้างที่อยากคิดฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหาเรื่องลูก โทษตัวเองเสมอเลี้ยงลูกไม่ดีหรือไงลูกถึงได้เป็นแบบนี้ อ่านคำแนะนำจากเพื่อนๆสมาชิกในพลังจิตค่อยมีกำลังใจขึ้นค่ะ ขอขอบคุณอีกครั้งนะค่ะทุกคนที่ตอบเลยค่ะ
     
  20. Wanna Hoysin

    Wanna Hoysin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +0
    # คุณอยู่ปรเทศอะไรคะ กำลัวมีปัฯหาเช่นเดียวกับคุณ
     

แชร์หน้านี้

Loading...