การกลั้นหายใจมากๆ จะทำให้ขาดใจตายหรือไม่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เร่งธรรม, 16 มีนาคม 2017.

  1. เร่งธรรม

    เร่งธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +59
    ผมนั่งสมาธิแบบดูลมหายใจครับนั่งไปเรื่อยๆหลายครั้งจะเพลินจนไม่อยากหายใจ เวลาไม่หายใจจะคล้ายๆว่าสงบดี ก็ไม่แน่ใจนะครับว่ากลั้นทีนานแค่ใหน อาจจะ1หรือ2 3นาทีก็ไม่รู้จนเริ่มจะอึกๆอักๆ ก็ถึงหายใจใหม่ จริงๆแล้วอาจจะกลั้นได้อีก แต่ก็กลัวขาดใจตายครับ ผมก็รู้ว่าวิธีนี้ไม่ถูกต้อง แต่มันเป็นของมันเองครับ คำถามคือมันจะเกิดอุบัติเหตุทำให้ขาดใจตายได้มั้ยครับ เคยมีครูอาจารย์พูดถึงเรื่องนี้บ้างมั้ยครับ(ตลอดการนั่งไม่ได้กลั้นใจตลอดหรรอกครับ จะกลั้นเพียงครั้งสองครั้งต่อยก)
     
  2. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    นี่แหละท่านเลยให้มีคำบริกรรมภาวนา
    เพราะจะทำให้เรารู้ว่าที่ไม่หายใจนั้นสติเราขาดเลยลืมดูลมหรือไม่
    ถ้าสติไม่ขาดลมดับก็ละหยาบเข้าสู่ละเอียดเท่านั้นเองครับ
    อย่าอายครับการปฏิบัติครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ตรงกันครับ
    ธรรมะอยู่ฟากตาย
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    อย่าไปดู จะ ขาดใจตายไหม

    สังเกตตรงนี้เข้ามา ทำไมการภาวนา
    ถึงไม่ทวนกระแส ไปรู้ที่เหตุ

    แต่กลับไปคว้าๆ เอาส่วนผล อย่างนั้น
    จะอย่างนี้ ไหมครับ


    การอัดลมหายใจให้นิ่ง มันเกิดเองไม่ได้

    มันต้องมีเหตุ

    ถ้า เห็น เหตุไม่ถูกได้ ผลจะไม่ต้องไปเสียเวลาวิจัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2017
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ธรรมฝากตาย ที่ไป หมายๆเอาเปนผล

    พวกนี้ จานลาย ทั้งหมด

    ธรรมฝากตาย ถ้าจะถูกส่วน จะเริ่มตั้งแต่
    ก่อนปฏิบัติ

    ยกตัวอย่าง เราใช้มุขนัยขันธ์5

    ถ้าฟังธรรมเข้าใจ ข้ามฝากตายไปเรียบร้อยแล้ว
    ถ้าไม่มีมิจฉาทิฏฐิจิตเที่ยง หรือ ขันธ์ตัวที่หก มา
    หมายๆ เหนเสียก่อนจะปฏิบัติ พวกนี้จะหลอก
    ให้ข้ามฝากตาย แบบ ตายเปล่า
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    มีใครสอน การกลั้นลมหาย ไหม

    มีสิ หลวงปู่เทสก์ไง

    กลั้นปุ๊ป ไอ้ที่เหลือ คือใจ

    ข้ามฝากตายเรียบร้อยแล้ว หาจิต หาใจ ไม่ยาก

    ที่ยากคือ มันดิ้นรน ก้ไปตามใจมัน

    แทนที่จะเหนมัน ไม่เที่ยง ทุกลมหายใจเข้าออก

    ดังนั้น การภาวนา หากอยากเหนจิตไม่เที่ยง
    ให้กำหนดรู้ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก

    ไม่ใช่ไปกลั้นลมหายใจ ไปหมายๆอะไรมันเที่ยง

    สมาธิไม่มี สมองปุถุชน มันล้ำหน้า
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    กลั้นได้ไหม แล้วแต่ เทคนิค ถ้าลืมการภาวนา
    หรือ กำลังหน้าซิ่วหน้าขวาน กิเลสอยู่ตรงหน้า
    หากไม่มี อินทรียสังวรณ์ช่วย อีกทั้ง หิริโอตัปปะ
    ก้ยังป้อแป้ เราก้กลั้นใจสู้ บางคนเอาลิ้นดุน
    เพดานจนหน้าแดง จนสลบ

    ตายไหม

    การตายก้ต้องมีเหตุ เหตุของการตายไม่เกิด
    ก้ฟื้น พระพุทธองค์สลบหลายรอบ ก้ฝื้น
    แล้วมาพิจารณา ไม่ใช่ทาง เปนเพียงเครื่อง
    มือที่โลกเขาลูบคลำว่าใช่

    โดยส่วนตัว ใช้ไหม ก้มี

    แต่ผมจะไม่อัดเข้า จะหายใจออกจนหมด
    กายจเบา จิตจะเบา แล้วรีบคลี่ใจให้เบิกบาน
    แล้ว กำหนดรู้เหนอาการลมเข้าลมออก ต่อ
    เลย ไม่เสียเวลาว่า ข่มอะไร ได้หรือไม่ได้
    [ ถ้าไปตรึกข่มได้หรือไม่ได้ มันจะหลอกว่าได้
    พอได้จังหวะ มันจะ ทะลุ พรวด เวรกรรมสาหัสได้
    เรียกว่า มันหลอกเราสำเร็จ มันก้คิดดอกเบี้ย ]


    เดินปัญญาสำคัญกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2017
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ฝึกนั่งสมาธิแล้วเกิดอุบัติเหตุ
    ถึงขั้นตายเพราะไม่หายใจยังไม่เคยเห็น
    หรือตายเพราะไปเห็นโน้นนั่นนี่ยังไม่เคยเห็น
    เคยพบแต่ตั้งใจจะตายในสมาธิครับ
    คิดว่าน่าจะเคยเห็นมาเยอะแยะ
    หรือไม่ตั้งใจตาย เช่น นั่งสมาธิแต่ศิษย์หรือคน
    อื่นๆไม่รู้ เพราะว่าจิตไปท่องเที่ยวอยู่
    แล้วศิษย์หรือคน เอาร่างไปแปรสภาพก่อน
    หรือทำให้ร่างกายพังก่อน
    หรือตายเพราะไปยึดสิ่งที่เห็น
    โน้นนั่นนี่คิดว่าเป็นจริงเป็นจังคับ
    เช่น นั่งที่บริเวณหน้าฝาก เกิดปิตินึกว่าตัวเอง
    เหาะได้ แล้วก็จะเหาะเลยเหาะไปทางหน้าฝา
    ได้ตายจริงๆอย่างนี้มีครับ

    อย่ากลัวนะครับ ทุกกิริยาทางสมาธิ
    ไม่ว่าจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าๆก็ไม่ต้องกลัว
    จำเป็นต้องฝืนให้ได้ครับ เพื่อให้จิตมีกำลัง
    ให้ผ่านตรงนี้ครับ ความกลัวเราไปพิจารณาก่อนไม่ได้ครับ
    เพราะว่าจิตมันปรุงไปแล้วครับ นึกออกไหม...
    เช่น ไปเดินป่าช้าคนเดียวแล้วกลัว แค่เราขนลุก
    ก็คือจิตมันปรุงไปแล้ว เราถึงต้องฝืนตรงนี้ไปก่อนครับ
    แต่เราจะเห็นอารมย์ได้ชัดเจน พอรู้อารมย์กลัวตรงนี้ชัด
    เราก็ปล่อยให้จิตรับรู้ตามความเป็นจริงของมัน
    มันถึงจะเข้าใจได้เองภายหลังว่าความกลัวเป็นอย่างไร
    จิตมันถึงจะปล่อยวางได้ แต่ต้องมีกำลังสมาธิ
    จากการฝืนตรงนี้เป็นทุนครับ
    เวลาเจอสถานะการเดิมๆที่ทำให้กลัว ให้ขนลุก
    จิตถึงจะไม่ปรุงแต่ง จนร่างกายเราขนลุก
    หรือปรุงให้เรารู้สึกกลัวได้ครับ

    ถ้าฝึกสมาธิเราจะเคยได้ยินว่า ขั้นต่อมา
    เหมือนกับว่าเราไม่หายใจ แต่เราต้องทิ้ง
    สัญญาตัวนี้ไปก่อนครับ อย่าเผลอไประลึกขึ้นมา
    มันจะทำให้เราติดขัดในขั้นนี้ครับ..
    การไประลึกถึงลมขึ้นมานะครับ ถ้าเราลืมตาด้วย
    จิตจะกลับสู่สภาวะปกติแบบเราใช้ชีวิตปกติทั่วไป
    และถ้าเราระลึกแต่หลับตา เราจะรักษาไว้ซึ่ง
    สภาวะนั้นๆแต่เราจะไปต่อไม่ได้
    เหมือนน้ำมันรถเราหมด มีรถแต่ไม่มีเชื้อเพลิง

    โดยมากถ้าเราไปต่อไม่ได้
    จึงมีอุบายว่า แม้ลืมตาแต่ก็ให้รักษาระบบการหาย
    ใจไว้ให้ปกติ แล้วไปหาอย่างอื่นทำ
    ไปเดินจงกลม ไปหางานอย่างอื่นทำแต่รักษาระบบ
    การหายใจไว้ ตรงนี้จะได้สมาธิสะสมเพื่อให้พ้น
    และเข้าถึงสภาวะที่เหมือนร่างกายไม่หายใจนั่นเองครับ
    คล้ายๆเป็นการแวะพักเติมเชื้อเพลิงให้รถเพื่อเดิน
    ทางต่อไปนั่นหละครับ

    และแม้ว่าเราจะภาวนาหรือไม่ภาวนา ยังไงจิตก็ต้องทิ้งคำภาวนา
    และจิตก็จะต้องข้ามสภาวะที่รู้สึกว่าไม่หายใจครับ
    ถ้าเราจะไปต่อครับ เพราะการระลึกรู้ มันยังไงก็ยังอยู่
    ในระดับปฐมฌานครับ และ
    มันจะอย่างไรก็ช่าง ไม่ต้องไประลึกรู้ ไม่ต้องสนทุกๆกิริยา
    ที่เกิดไม่ว่า ทางกาย ทางตา ทางหู จมูก
    ไม่ว่าแสง สี เสียง ภาพ และ ต่อให้มันจะพิศดาร
    ล้ำลึก อลังการงานสร้างแค่ไหน จะชอบหรือไม่ชอบ
    จะดีหรือไม่ดี แม้ว่าจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าๆนะครับ
    ที่หลับตาแล้วเห็นยิ่งไม่ต้องสนใจครับ
    ให้ช่างหัวมันและ ให้เฉยๆไว้ก่อนทุกๆกรณี
    สมาธิเราถึงจะยกระดับผ่านช่วงนี้ไปได้ของมันเองครับ
     
  8. เร่งธรรม

    เร่งธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +59
    ขอบคุณคำแนะนำของพี่ๆทุกท่านครับ จริงอย่างคุณนพ ว่าครับจังหวะนั้นรู้สึกว่าไม่หายใจแต่พอเราคิดนึกถึงว่ามันนานไปแล้วนะ มันก็จะเริ่มมีอาการติดขัดขึ้นมา ทั้งๆที่ตอนนั้นจิตเริ่มจะดิ่งลงสู่สมาธิแล้ว แต่ก็ต้องมาเริ่มใหม่เมื่อมานึกถึงลมหายใจ ที่คุณนิวรแนะมา ไม่เข้าใจทั้งหมดครับแต่ก็พอได้แนวทาง ขอบคุณมากๆครับ
     
  9. คุณกันฌามี

    คุณกันฌามี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +65
    ถ้าเรากลั้นเอง ไม่ได้มีคนอื่นมากระทำ เป็นไปไม่ได้เลยครับที่คนเราจะสามารถกลั้นหายใจแล้วขาดใจตายได้

    มันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์และดวงจิต ไม่สามารถทำได้และก็เป็นมาตั้งแต่เกิด(ถ้าไม่ผิดปกตินะ)
     
  10. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ดูตามที่มันเป็น มิใช่ไปทำให้มันเป็นนั่นเป็นนี่แล้วดู :)
     
  11. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    เราต้องถามตัวเราว่าทำไปเพื่ออะไร
    ถ้าทำไปโดยไม่รู้เหตุรู้ผล และแผลงๆไปจากปกติ สมัยก่อนเรียกว่า เล่นพิเรนทร์

    ถ้าพระพุทธเจ้าท่านสอนให้เรามีสติกับ ลมหายใจเข้า หายใจออก เราก็เฝ้ามองลมเข้าลมออก ก็จะดีกว่า เพราะลมเข้าลมออกนี้พัดทั่วร่างกาย จะส่งผลไปถึงการระงับกาย ระงับใจ ได้ แต่ถ้าไปอั้นลม จะไม่ดีต่อร่างกาย เผลอๆพอทำไปเรื่อยๆ อาจจะเป็นเหตุให้หยุดหายใจตอนนอนได้ เพราะไปสอนให้ร่างกายชินกับการหยุดหายใจ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ลมหายใจเนี่ย อย่าเอาจิตไปตามนะครับ
    เราอ่านตำรามา ได้ยินมา ได้ฟังมา
    แต่ เราต้องพิจารณากิริยาทางนามธรรม
    มันให้ดีๆร่วมด้วยนะครับ ลองอ่านต่อจะเข้าใจ
    เพราะว่า การเอาจิตไปตามลมมันทำให้จิตเกิดครับ
    ชาตินี้ทั้งชาติ ถ้าจิตยังเกิด สมาธิเรายังไง
    ก็ไม่เกินปฐมฌานครับ

    เข้าใจไหม สมาธิกิริยามันคือ การลดคลื่นความถี่ของจิต
    บ้านเราเรียกง่ายๆว่าความละเอียดของจิต
    เมื่อจิตมันยังเกิดเพราะไปตามลมอยู่
    แล้วมันจะเอาอะไรไปลดความถี่ เอาอะไรไป
    ทำให้ตัวมันละเอียดได้ครับ...
    คลื่นความถี่ของจิตที่ต่ำ
    ทางปฏิบัติก็คือ ระดับฌานที่สูงขึ้นนั่นเอง
    แนวทางอย่างหนึ่งที่จิตมันจะลดคลื่นลงต่ำได้
    คือ มันจะต้องทิ้งกายที่มันเกาะอยู่นี้ให้ได้ก่อน
    เป็นอันดับแรก เมื่อจิตมันยังไปตามลม ที่วิ่งผ่าน
    กายนี้อยู่ แล้วมันจะทิ้งกายที่มันเกาะอยู่นี้
    ได้อย่างไรหละครับ นึกภาพออกไหมครับ


    เมื่อจิตมันทิ้งกายได้ก่อน มันถึงจะละเอียด
    มันถึงเห็นกิริยานามธรรมต่างๆได้ของมันเอง
    เป็นเรื่องปกติ ของมันครับ พอเข้าใจเนาะ


    และกำลังสมาธิระดับเท่านี้
    อย่าไปหวังว่า ชาตินี้จะฝึกกรรมฐานอะไรสำเร็จครับ
    เพราะไอ้พวกกิริยาทางจิต ที่เราสัมผัสได้
    มันใช้กำลังยังไม่ถึงปฐมฌานครับ
    แต่กำลังสมาธิ ที่จะทำให้จิตมีกำลังในระดับใช้งานได้
    มันต้องเกินระดับปฐมฌานขึ้นไปก่อน
    ในเวลาลืมตาปกติ จิตเราถึงจะสามาถใช้งาน
    และทำงานได้ครับ.......

    ****** สมาธิเราไม่ได้ดูว่า ตนเคยนั่งสมาธิถึงระดับไหนมาก่อน
    แต่เราจะดูกันตรงที่ว่า สามารถนำกำลังสมาธิในระดับไหน
    มาใช้งานได้ในชีวิตประจำวันจริงๆครับ....
    ไม่งั้นถ้าไปยึดว่า เคยนั่งได้ถึงระดับไหนมาก่อน
    นอกจากจะหลงตัวเองได้ง่ายๆแล้ว
    ยังจะขวางการพัฒนาทางจิตจนถึงขั้น
    เข้าถึงผลสำเร็จของกรรมฐานนั้นๆอีกด้วย
    ตรงนี้ต้องพึ่งระมัดระวังให้ดีนะครับ *****

    ยกตัวอย่าง นาย A โม้ว่าเคยนั่งได้ระดับฌาน ๗๐
    เราก็ต้องมาดูว่า ระดับฌาน ๗๐ มันสามารถทำอะไรได้บ้าง
    แต่ถ้า นาย A จิตมีความสามารถทำได้ในระดับฌาน ๑๐
    แบบปกติและใช้แล้วก็วางและจะใช้อีกก็ใช้ได้ในระดับ
    ฌาน ๑๐ แสดงว่า นาย A ถือได้ว่าเป็นผู้ทรงฌาน ๑๐
    เท่านั้นครับ

    ถ้านาย A ไปยึดว่า ตนเคยนั่งได้ระดับฌาน ๗๐ แล้วยึด
    นาย A จะกลายเป็นคงหลงสภาวะ หลงตัวเองทันที
    ทั้งๆที่ความสามารถทางจิต ระดับฌาน๑๐ แต่ก็จะคิดลึกๆ
    และเดินพูดหลงตัวเอง เข้าใจตัวเองว่า ตนเองได้ฌาน ๗๐
    เข้าใจนะครับ ย้ำว่าตัวเองนะครับ..


    ลมหายใจเข้าและออกนั้น ให้เราทำความรู้สึก
    รับรู้ว่า ตอนที่ลมมันเข้าและออกผ่านร่างกายมานั้น
    มันหยุดที่ปลายจมูกเพื่อเป็นการสร้างสติครับ
    ส่วนไอ้การที่เห็นลมหายใจใสกิ๊ก เห็นเป็นเม็ดๆประกาย
    เห็นเป็นสี เห็นไปภายในร่างกาย เห็นเป็นเส้นสาย
    ตรงนี้มันเป็นเพียงแค่ผลของจิตที่มันละเอียดขึ้น
    ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติมาก ถึงมากที่สุด
    ดังนั้น อย่าไปติดกับดัก กับผลเหล่านี้
    มันจะทำให้เราแป๊ก เดินต่อไปไม่ได้ครับ



    เพราะต่ำแหน่งปลายจมูกบนร่างกายเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด
    สำหรับการสร้างสติ ....ส่วนลมหายใจให้หายใจ
    เข้าให้ลึกที่สุดและหายใจออกให้ยาวที่สุดครับ
    ตรงนี้เพื่อเป็นการปรับความละเอียดของลม
    และเป็นอุบายในการปรับความละเอียดของจิต
    ซึ่งสำคัญมากๆ และเป็นพื้นฐานของการฝึกกรรมฐาน
    เกือบทุกๆกองครับ. คนเราจะฝึกกรรมฐานอะไร
    จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จในระดับที่ใช้งานได้จริงๆ
    ที่ไม่ใช่ระดับแค่ชิมลาง พอให้เราหลงตัวเองเล่นๆ
    เดินไปพอให้ผีให้เทวดาขำกลิ้ง
    หรือเอาไว้โม้เล่นๆ แต่นำมาใช้จริงๆไม่ได้ซักอย่าง
    แม้จะฝึกมาหลายปี สิบปี แต่ก็ยังใช้งานไม่ได้ซักที
    กลายเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ที่หายใจได้ไปวันๆ...

    มันก็ดูตรงที่พื้นฐานตรงนี้นั่นหละครับ
    การปฏิบัติ เราอย่าพึ่งไปมองที่ผลของมันครับ
    ไม่งั้นมันจะทำให้เราหลงทาง และเสียเวลา
    ให้เรามาเน้นพื้นฐานเอาให้ดีๆ
    พื้นฐานเราแน่น ต่อไปเราจะฝึกอะไรมันก็ง่าย
    ไม่ใช่ว่า จะไปดูแต่กรรมฐานที่มันให้ผลในระดับ
    เลิศหรู แต่ว่า ไม่เคยมาดูเลย ว่าเราเตรียมความ
    พร้อมเบื้องต้นดีหรือยัง อย่างนี้ฝึกทั้งชาติ
    ก็ฝึกอะไรไม่สำเร็จครับ....แล้วก็เปลี่ยนกรรมฐานไปเรื่อย
    บางคน ไม่สำเหนียกดูตัวเอง ไปกล่าวโทษอีกว่า
    กรรมฐานโน้นนั่นไม่ดีอย่างนี้ กลายเป็นวิบากให้ตัวเอง
    ฝึกอะไรก็ไม่สำเร็จเข้าไปอีก. คือโทษทุกอย่างภายนอก
    แต่ไม่เคยมาดู มามองตัวเอง และโทษตัวเอง
    นิสัยทางจิตอย่างนี้ ชาตินี้อย่าหวังว่าจะฝึกอะไรสำเร็จครับ
    ดังนั้นให้ระวังพฤติกรรมอย่างนี้ให้ดีครับ
    อย่าให้เกิดกับตัวเอง

    กรรมฐานบางอย่างเริ่มมันดูเหมือนเริ่มต้นง่าย
    แต่กว่าจะใช้งานจริงไม่ง่ายดังนั้นจึงหาคนที่สำเร็จได้ยาก
    แต่คนเข้าถึงได้เยอะ เพราะมันดูเหมือนง่าย

    กรรมฐานบางอย่างเริ่มต้นมันดูเหมือนยาก
    แต่พอเข้าถึงแล้ว มันทำให้ง่ายสำหรับการฝึก
    ต่อยอดกรรมฐานกองอื่นๆ จะกลายเป็นว่าฝึกอะไรก็ง่ายหมด


    แต่ถ้าเราพื้นฐานเราดี ไม่ว่ากรรมฐานที่มันดูเหมือนง่ายหรือ
    เหมือนยาก เราจะมีโอกาสเข้าถึงความสำเร็จได้
    ไม่ว่ากองใดกองหนึ่งครับ

    ตรงนี้อย่าพึ่งรีบร้อน อย่าไปหลงกับกิริยาระหว่างทางๆของมัน
    ที่เกิดระหว่างทาง อย่าไปยึดผลวิเศษของมันถ้าสำเร็จแล้ว
    มันจะทำอะไรได้บาง หลงตรงนี้เราจะเสร็จมาร
    มันเป็นตัวขวาง การเข้าถึงผลสำเร็จในระดับ
    ที่ใช้งานได้จริงทั้งนั้นครับ

    ปล. แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง
     
  13. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    จขกท ลองเปลี่ยนวิธี มาจับลมสามฐานดูครับ คือ จมูก หน้าอก และเหนือสะดือ อาจแก้ปัญหาของ จขกท ได้ ที่นั่งกำหนดลมเพียงแค่ฐานเดียว คือ ปลายจมูกทำให้รู้ลมสั้นเกินไปจนเกิดอาการหยุดหายใจเป็นพักๆ ลองฟังในยูทูปการกำหนดลมแบบสามฐานแบบของหลวงพ่อฤษีลิงดำดูนะครับ.
     
  14. เร่งธรรม

    เร่งธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +59
    ขอบคุณ คุณนพมากครับ เป็นการเล่าให้ฟัง ที่มีคุณค่ามากครับ คนฝึกใหม่ถ้ามัวแต่งมทาง ลูบๆคลำๆเอาเองคงได้หลงทางอีกนานกว่าจะหาทางไปได้ ขอบคุณมากครับ
     
  15. เร่งธรรม

    เร่งธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +59
    ลืมบอกครับ ผมใช้ พุทโธ กำกับครับ แต่ช่วงเวลานั้นมันทิ้งแล้ว เหลือแต่ดูลม จนเกิดอาการนั้นๆครับ ขอบคุณครับ
     
  16. เร่งธรรม

    เร่งธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +59
    เดิมที ผมก็คิดว่าคงไม่มีใครสามารถกลั้นหายใจ จนถึงขนาดตายได้ ครับ ทำให้ผมหายกลัวครับ ขอบคุณครับ
     
  17. เร่งธรรม

    เร่งธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +59
    ครับ ผมก็รู้สึกแบบ ลมละเอียดลงเรื่อยๆ จนกระทั่ง สั้นลงๆ เหมือนกันครับ แล้วก็ไม่อยากจะหายใจจนกระทั่งมันก็ อึกๆอักๆนั่นแหละ ขอบคุณครับ คำแนะนำนี้ทำให้ผมหายกลัว และมั่นใจที่จะไม่ไปสนใจกับลมอีก มีไม่มีก็จะขอแค่รู้อย่างเดียว ขอบคุณครับ
     
  18. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    ถ้าจิตรวมเข้าสู่ภายในจริงส่วนหยาบจะดับก่อน คือ ลม ครับ
    ตามด้วยส่วนละเอียด คือ คำบริกรรมครับ
    แต่ถ้าเป็นแบบที่คุณเร่งธรรมกล่าว ผมว่า มันน่าจะเป็นอาการสมาธิมีพื้นฐานมั่นคงดีแล้ว
    จิตกำลังจะรวมแต่สติกับปัญญาตามไม่ทันครับ
    น่าจะนะครับ
    อิอิ
     
  19. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    เอาเถอะครับ
    ตอนนี้เป็นแบบที่พวกคุณว่า
    แต่ต่อไปก็ไม่แน่นะครับ
    ดีแล้วละ แบบนี้ผมชอบ
    เอาผลการปฏิบัติมาคุยกัน
    อนุโมทนาด้วยนะครับ
     
  20. คุณกันฌามี

    คุณกันฌามี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +65
    สิ่งที่ดับไปก่อนไม่ใช่ลมหรอกมั้ง ร่างกายจะต้องดับไปก่อน ส่วนคำบริกรรม ต่างๆพุธโธ ยุบหน่อ พวกนั้น มันก็แค่ tips เทคนิคอย่างนึงเท่านั้น คำบริกรรมจะดับนั้นมันก็แล้วแต่คนบางคนใช่เพื่อเรียกสติ บางคนจับลมเพื่อเรียกสติ ฯลฯ
    (การนั่งมันก็มีหลายเทคนิคหลายอาจารย์ แต่มันจะมีจุดที่เหมือนๆกันอยู่)

    ถ้าดับทุกอย่างแปลว่าคุณ "หลับ"
     

แชร์หน้านี้

Loading...