การบริหารพลังงานสนามพลังงานแม่เหล็กภายในตัวบุคคล

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ศิริพัฒน์, 13 มีนาคม 2009.

  1. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    สรรพคุณสมุนไพรใบเตย
    (ในที่นี้ หมายถึง ใบเตยหอม)

    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pandanus amaryllifolius Roxb<o></o>
    ชื่อสามัญ : Pandanus Palm , Fragrant Pandan , Pandom wangi.<o></o>
    วงศ์ : Pandanaceae<o></o>
    ชื่อสามัญ : Pandanus Palm , Fragrant Pandan , Pandom wangi.<o></o>
    ชื่ออื่น : ปาแนะวองิง(มาเลเซีย-นราธิวาส)<o></o>
    <o></o>

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวลักษณะแตกกอเป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นเป็นข้อใบออกเป็นพุ่มบริเวณปลายยอด เมื่อโตจะมีรากค้ำจุนช่วยพยุงลำต้นไว้ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับเวียนเป็นเกลียวขึ้นไปจนถึงยอด ลักษณะใบยาวเรียวคล้ายใบหอกปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเป็นมัน เส้นกลางใบเว้าลึกเป็นแอ่งถ้าดูด้านท้องใบจะเห็นเป็นรูปคล้ายกระดูกงูเรือ ใบมีกลิ่นหอม

    <o></o>
    ส่วนที่ใช้ : ต้นและราก, ใบสด<o></o>
    <o></o>

    สรรพคุณ : <o></o>
    • ต้นและราก
      -ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้กระษัย <o></o>
    • ใบสด
      - ตำพอกโรคผิวหนัง
      -รักษาโรคหืด
      -น้ำใบเตย ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น
      -ใช้ผสมอาหาร แต่งกลิ่น ให้สีเขียวแต่งสีขนม<o></o>
    วิธีและปริมาณที่ใช้ : <o></o>
    ๑) ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
    ใช้ต้น ๑ต้น หรือรากครึ่งกำมือ ต้มกับน้ำดื่ม <o></o>
    ๒) ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ
    ใช้ใบสดไม่จำกัดผสมในอาหารทำให้อาหารมีรสเย็นหอมรับประทานแล้วทำให้หัวใจชุ่มชื่น หรือเอาใบสดมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ ๑-๔ ช้อนแกง <o></o>
    ๓) ใช้เป็นยาแก้เบาหวาน <o></o>
    ๔) ใช้ราก ๑กำมือ ต้มน้ำดื่ม เข้าเย็น

    <o></o>
    สารเคมี : สารกลุ่ม anthocyanin


    ใบเตยหอม ใช้แต่งสีและกลิ่นเครื่องดื่ม ขนมหวาน และอาหารหลายชนิด นอกจากนี้ยังใช้เป็นยาได้ด้วย โดยเขาบอกว่า ใบสดต้มกับน้ำดื่ม ลดอาการกระหายน้ำ บำรุงหัวใจ ทำให้ชุ่มชื่น ต้นและรากเป็นยาขับปัสสาวะ รักษาโรคเบาหวาน และแก้กระษัยน้ำเบาพิการ

    สำหรับยาขับปัสสาวะ ใช้ต้น ๑ ต้น หรือ ราก ๑ กำมือ ต้มกับน้ำดื่ม สำหรับยาบำรุงหัวใจ ใช้ใบสดไม่จำกัด ผสมในอาหาร หรือนำมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ ๒-๔ ช้อนแกง หรือ ใช้ใบสดตำ คั้นเอาน้ำ จะได้น้ำสีเขียวมาผสมอาหาร แต่งกลิ่น แต่งสีขนม หรือใช้ในรูปของใบชา ชงกับน้ำร้อน หรือใช้ใบสดต้มกับน้ำจนเดือด เติมน้ำตาลเล็กน้อยใช้ดื่มเป็นประจำ

    สำหรับโรคหัด โรคผิวหนัง ใช้ใบสดตำพอก

    สำหรับโรคเบาหวาน ใช้ส่วนต้นและราก ต้มกับเนื้อหรือใบไม้สักจะช่วยรักษาโรคเบาหวาน<o></o>
    <o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2011
  2. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    เคล็ดลับการทำน้ำใบเตยให้หอมอร่อย
    <o></o>
    อุปกรณ์ <o></o>
    - หม้อ (เบอร์ ๒๘ ๑ ใบ<o></o>
    - ผ้าขาวบาง ๑ ผืน<o></o>
    - ทัพพี ๑ อัน<o></o>
    - ถ้วยตวง ๑ ชุด<o></o>
    - เครื่องปั่นผลไม้ ๑ เครื่อง
    <o></o>
    ส่วนผสม<o></o>
    - ใบเตย ๑/๒ กก.<o></o>
    - น้ำเปล่า ๒๐ แก้ว<o></o>
    - น้ำตาลทราย ๓/๔ กก.
    <o></o>
    วิธีทำ<o></o>
    ๑.นำใบเตยเป็นใบ ๆ ล้างให้สะอาด ประมาณ ๑/๒ กก. แบ่งไว้ ๕ ๖ ใบ นอกนั้นหั่นหยาบ ๆ นำใส่เครื่องปั่น ปั่นจนละเอียด นำผ้าขาวบางกรองใส่ถ้วยพักไว้<o></o>
    ๒. นำหม้อตั้งไฟใส่น้ำ ต้มจนเดือดใส่ใบเตยเป็นใบที่แบ่งไว้ลงต้ม พอใบเตยเปลี่ยนสี รีบตักขึ้นแล้วเทน้ำใบเตยที่กรองไว้ตอนแรกใส่ลงไปยกลงกรองอีกครั้งหนึ่ง รับประทานได้ทั้งร้อนและเย็น<o></o>
    ส่วนผสมนี้รับประทานได้ ประมาณ ๑๕ - ๒๐ คน<o></o>
    <o></o>

    เคล็ดลับ (ที่ไม่ลับ) การทำน้ำใบเตยจะให้หอมและเขียวน่ารับประทานควรต้มน้ำให้เดือดก่อน จึงใส่ใบเตยเป็นใบลงไปพอใบเตยเปลี่ยนสีรีบตักออกแล้วจึงใส่ใบเตยที่บดละเอียดและกรองเอาแต่น้ำเทใส่ลงไปอีกครั้ง ก็จะได้น้ำใบเตยสีเขียว หอมอ่อน ๆ ชวนน่ารับประทานยิ่งขึ้น

    สรรพคุณ ใบเตยเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง สามารถนำไปต้มกับน้ำทานได้จะให้ความสดชื่น ชื่นใจ ทำเป็นส่วนประกอบของขนม หรือนำใบเตยใส่ไว้ในรถเพื่อดับกลิ่นในรถยนต์ หรือใส่ในหม้อนึ่งข้าวเหนียว ข้าวจ้าวก็ได้ จะทำให้ข้าวมีกลิ่นหอม น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น เหมาะกับคนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง คนธรรมดาทั่วไปก็ดื่มได้ กลิ่นหอมของใบเตยชื่นใจ คลายเครียดได้ดีแท้ <o></o>
    และใบเตยเป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกได้ง่าย หาไม่ยาก สามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย มีสรรพคุณมากมาย การปลูกใบเตยไม่จำเป็นต้องใช้เนื้อที่มาก สามารถปลูกในกระถางหรือภาชนะ ก้นลึก ใช้เป็นพืชประดับไปในตัวได้ด้วย<o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2011
  3. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    น้ำใบเตยหอม อีกสูตรหนึ่งง่ายๆ :cool:


    ส่วนผสม
    ๑. ใบเตยสด ๓ ถ้วย
    ๒. น้ำสะอาด ๘ ถ้วย
    ๓. น้ำตาลทราย ๒ถ้วย
    ๔. น้ำแข็ง


    วิธีทำ
    ใบเตยสดที่ไม่แก่มากเก็บใหม่ๆ ล้างทีละใบให้สะอาด แช่น้ำด่างทับทิมหรือน้ำเกลือ ๑๐ - ๑๕ นาที นำมาหันตามขวางเป็นชิ้นเล็กๆ แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งใส่ลงในหม้อที่มีน้ำกำลังเดือด ต้มเคี่ยว ๕ - ๑๐ นาที เติมน้ำตาลทรายให้รสหวานจัด กรองเอากากออก ใบเตยที่หั่นแล้วส่วนที่สองปั่นให้ละเอียด โดยเติมน้ำ กรองเอากากออก เติมน้ำที่คั้นได้ซึ่งมีสีเขียวและกลิ่นหอมลงในหม้อที่เติมน้ำตาลและกำลังเดือด ชิมให้มีรสหวาน พอเดือดรีบยกลง เมื่อดื่มใส่น้ำแข็งบดละเอียด

    คุณค่าทางโภชนาการ
    ใบเตยสดมีน้ำมันหอมระเหย รสหวาน หอม มัน และมีสีเขียวที่นิยมใช้แต่งสีอาหาร เป็นสารคลอโรฟิลล์


    สรรพคุณ
    ใบสด ต้มกับน้ำดื่ม ลดอาการกระหายน้ำ บำรุงหัวใจ ทำให้ชุ่มชื่น
    ต้นและราก เป็นยาขับปัสสาวะ รักษาโรคเบาหวาน และแก้กระษัยน้ำเบาพิการ

    ที่มา :
    สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารสุข
     
  4. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]


    สารสกัดจากใบเตย
    ช่วยบำรุงผิวหน้าให้ ขาวใส เปล่งปลั่งเหมือนดาราญี่ปุ่นด้วยเวลาที่รวดเร็วกว่าใน ๗ - ๑๐วันและปลอดภัย

    สรรพคุณ

    พืชธรรมชาติที่รู้จักกันดี ในเรื่องของกลิ่นหอมแต่นอกจากนั้นแล้วยังมีสรรพคุณบำรุงผิวพรรณอีกด้วยช่วยต้านอนุมูลอิสระ บำรุงให้ผิวนุ่มเนียนสมานรอยแผลสบายผิว ผ่อนคลาย ให้ผิวเปล่งปลั่ง ชุ่มชื่นนอกจากนี้ยังมีส่วนผสมจากสารสกัดจากผลไม้ AHAs ช่วยลดจุดด่างดำ ต่างๆเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าเผยผิวใหม่สดใส ขาวเนียนกว่าอย่างได้ผล

    ไมโครคอลลาเจน Micro collagen คอลลาเจนพิเศษเข้มข้นกว่า ๑๐เท่าซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ดีกว่าช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนและหลังวัยให้เซลล์ผิวแข็งแรง โครงสร้างผิวมีสุขภาพผิวสวยจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริงช่วยรับมือกับฝ้า กระจุดด่างดำให้แลดูเลือนลง พร้อมคืนความสะอาด สดใสและปรับสีผิวให้ดูเรียบเนียนสม่ำเสมอปกป้องผิวจากการทำร้ายของสภาพแวดล้อมปลอบประโลมผิวและป้องกันการเกิดความระคายเคืองจากความแห้งของผิวพร้อมเพิ่มระดับความชุ่มชื่นให้แก่ผิวช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสได้อย่างน่าพอใจ


    เรื่องเล่าจบแล้ว

    ท้ายนี้ มีใครเคยสังเกต และสงสัยกันบ้างมั้ยค่ะว่า ทำไมดอกไม้บูชาที่แม่ค้าชาวบ้านกำขาย ถึงต้องมีใบเตยกันด้วย เอ ! จะเปลี่ยนเป็นใบบอนได้หรือเปล่าน้า


    จะว่าอย่างไรค่ะ ? คุณ Max อีชั้น ขอส่งลูกไปเลี้ยงต่อแล้วล่ะค่ะ<o></o>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2011
  5. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    <o></o>

    ว้าย ! ต่างคน ต่างไปเยี่ยมเยียนกัน กำลังจะมาชักชวนเพื่อน ๆ แวะไปนั่งพับเพียบ เพลินเพลง แพรวพราวไปกับสาระ สรรหาซะหน่อย

    อย่างไรก็เชิญชวน เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ นะคะ ที่นี้เลยค่ะ
    ฟรีนะ ไม่มีต้องตีตั๋ว -มาเพียงจิตใจที่ดีงาม สงบเย็น


    http://palungjit.org/threads/มณฑาทิพย์-ดอกไม้สวรรค์.206219/


    http://palungjit.org/f130/มุทรา”-รหัสนัยความหมายที่ซ่อนองค์คุณของการเจริญมหาสติ-ที่มาแห่งเอกอัตลักษณ์ชนชาวไทย-200849.html<o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2011
  6. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    ขอรับแผ่นข่าวสารและคำแนะนำการใช้ที่ถูกต้องด้วยครับ ทั้ง เฉพาะตนเอง(ด้านโชคลาภเงินทอง)และในบ้านนะครับ เพิ่งเข้ามาอ่านและมีความสนใจเรื่องพลังธรรมชาติอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งได้แนวทางที่ถูกต้องก็นับว่ามีวาสนาแล้วครับ khonsiam007@hotmail.com สาธุ สาธุ สาธุ ที่อ่านมาก็ยัง งง งง อยู่ ความรู้น้อย ศึกษาด้านนี้น้อยมาก ๆ ก็ขออภัยด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2009
  7. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    ไม่ต้องเป็นห่วงครับแรกๆอาจจะงงๆบ้างเพราะเป็นของที่ไม่ค่อยคุ้นเคยเท่านั้นเองและผมก็อธิบายในเชิงวิชาการก่อนเพื่อเป็นที่ค้นข้อมูล แต่พอได้ไปจริงๆแล้วง่ายกว่าเยอะครับ :) ธรรมชาติในร่างกายคุณจะตอบข้อสงสัยให้กับคุณจนพอใจเลยเชียวครับ และจะได้เป็นพื้นฐานเพื่อจะได้รับความเข้าใจใหม่ๆที่ผมกำลังรอจะเล่าสู่กันฟังให้กับผู้คนที่สนใจร่วมศึกษาพร้อมกันต่อไปภายหน้าครับ
     
  8. dididada

    dididada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +120
    ขอรับแผ่นข่าวสารกับคำแนะนำทั้งแบบใช้กับบ้านและเฉพาะตัวด้วยค่ะ
    glamanne@hotmail.com
     
  9. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    อยู่ที่ไหนเอ่ย
     
  10. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    บ้านเงียบอีกแล่ะ !
    ชวนกันมา สงบจิต รักษาตน ด้วยดุริยมนตรา ของหลวงปู่สิงห์ทน
    แล้วแผ่เมตตา Holistic ไปพราง ๆ กันดีกว่าเนอะ :)


    [​IMG]


    บทสวดมนต์ดุริยมนตราชุดที่ (รักษาโรค)
    บทสวดมนต์ดุริยมนตราชุดที่ (แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร)
    บทสวดมนต์ดุริยมนตราชุดที่ (เพื่อการปฏิบัติธรรม)

    ท่านใด อยากกลับศึกษาทบทวนที่มา ณ โพสที่ ๑๕๖ -๑๕๘ ก็ได้นะคะ


    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.715578/[/MUSIC]​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    ขอขอบคุณ คุณsaipote ด้วยเช่นกันครับ ที่ติดตาม :)

    แหมแม่บุญญก็ ช่วงนี้ผมธุระเยอะอยู่ครับ ช่วงกฐินด้วย เลยไม่ค่อยได้เข้ามา เดี่ยวช่วงว่างๆก่อนเหอะ จะเขียนให้อ่านตาลายเลย
     
  12. โสตทัศน์

    โสตทัศน์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +5
    สวัสดีคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ศิริพัฒน์<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2492126", true); </SCRIPT> สนใจอยากไจได้แผ่นพับข่าวสารมาติดไว้ที่บ้าน ต้องทำยังไงเอ่ย เข้าไปใน blog อ่านแล้วไม่ค่อยจะเข้าเรื่องกรวดน้ำ อยากขอหลังไมค์ได้ไหม?
     
  13. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    เมล์ไปหาแล้วนะครับ คุณdididada เข้ามาดูไม่ได้ซ่ะหลายวัน

    สำหรับคุณโสตทัศน์ เชิญเลยครับ คุยกันหลังไมค์ก่อนก็ได้ครับให้เข้าใจเสียก่อนค่อยเอาไปใช้จริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2009
  14. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    ผมคิดทบทวนอยู่พักนึงแล้วครับว่าทำอย่างไรที่จะพาทุกๆท่านที่ติดตามกระทู้ของผม และบางท่านก็ช่วยสนับสนุนช่วยเหลืองานที่ผมทำอยู่ เพื่อให้ผมและทุกๆท่านมีความเข้าใจอย่างที่สุดในการที่สามารถทะลุพ้นขีดจำกัดของการเหนี่ยวรั้งของทุกๆอย่าง ดังเช่นที่ผมเสนอมาแล้วมี

    1. การสร้างความถี่ของตัวเราให้เหมาะสม
    2. การสร้างความถี่ของบ้านที่เราอยู่ให้เหมาะสม
    3. ผมได้แนะนำอุปกรณ์ช่วยเหลือบางอย่างที่สนับสนุน

    แต่ทีผมยังติดอยู่ในใจจริงๆคือทำอย่างไรให้ง่ายที่สุดในการที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ที่ติดตามกระทู้นี้ให้ได้ในทันทีทันใดหรือน้อยที่สุดก็ขอให้ใช้เวลาสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งผมก็กำลังค้นหาวิธีนั้นอยู่เช่นกัน ที่ผมลองอยู่คือการเรียงความถี่ของคลื่นสมอง การทำสภาวะอยู่กับปัจจุบัน แต่มันก็ยังคงไม่ทันใจของผมอีกอยู่ดีเพราะผมเองก็ไม่ทราบว่าผมจะคงชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่

    จนเมื่อมีทางสว่างเปิดออกมาให้ เมื่อ อ. ของผมแนะนำเรื่องที่ผมเองก็ยังไม่ได้ถึงจุดที่ควรจะได้รับทั้งๆที่มีบุญรออยู่อีกตั้งมากมายก่ายกอง ทำเอาผมเองก็งงไปเหมือนกันว่าที่แท้แล้วการที่เราทุกคนมาเกิดได้นี้เราทำบุญมาก่อนมากแล้ว แต่เพราะอะไรล่ะ? คำตอบที่ผมได้รับจากการฟัง อ. บรรยาย คือ เรายังไม่ได้ไปเบิกบุญของเราที่เราทำเอาไว้เองมาใช้ได้บ้างเลย

    แต่การที่จะเบิกเอาบุญมาใช้ได้นี้ พลังของบ้านต้องรับได้ พลังของตัวเราต้องรับได้ ผมก็คิดในใจทันทีที่ได้ยิน อ้าว...ผมเองก็ถ่ายทอดทั้งสองเรื่องนี้ออกมามากแล้วอย่างนี้ก็ใช่สิ่งที่ผมกำลังตามหาอยู่น่ะสิ

    อ. ท่านกรุณาเล่าให้ฟังว่าบุญของเราที่เราทำมา แล้วฝากเก็บเอาไว้ก่อนที่เราจะละทิ้งร่างมนุษย์ในชาติก่อนๆนั้นเรามีสิทธิ์เบิกนำมาใช้ได้ และควรไปเอามาใช้เพราะว่าสิ่งนี้แหละที่จะเป็นตัวที่จะช่วยตัวของเราเองด้วยบุญของเราไม่เป็นหนีใคร

    ส่วนวิธีการคร่าวๆมีดังนี้
    1. เราต้องรู้ให้ได้ว่าเราเคยฝากบุญของเราเอาไว้ที่ไหน
    2. เราเคยทำบุญอะไรไว้
    3. ใช้อะไรเป็นสัญลักษณ์ในการที่จะเบิกบุญนี้มาใช้
    4. เมื่อเราเบิกมาได้แล้วบุญนี้ช่วยอะไรเรา

    ขณะนี้ผมก็ได้เริ่มๆค้นแล้วครับว่าทำอะไรเอาไว้บ้าง ที่ไหน? จากนั้นผมตั้งใจจะไปเอามาแล้วพิสูจน์ให้เข้าใจกันไปเลยว่าวิธีนี้เอามาช่วยคนรอบข้างได้มากเพียงไร เพื่อเอามาบอกต่อทุกท่าน ผมตั้งใจที่จะใช้ตัวเองเป็นเครื่องทดสอบว่าจะสามารถนำบุญนี้มาใช้ได้แค่ไหนครับ?
     
  15. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471

    ช่วงระหว่าง คุณศิริพัฒน์ ติดภารกิจเตรียมการณ์ฯ
    ขออนุญาต คักลอกสาระดีดี ที่คัดเก็บไว้ และได้นำมาปรับใช้เอง
    จำไม่ได้แล้วว่าได้นำมาจากไหนนะคะ
    (อาจจะกลุ่มต้านภัยพิบัติ ของท่านคณานันท์ ก็เป็นไปได้)
    เอาเป็นว่า หากคุณความดีงามจะบังเกิดขึ้น จากสาระดังต่อไปนี้
    ขอคำอนุโมทนา สาธุการ จงยังผลสู่ท่านเจ้าของต้นฉบับ ทุกประการค่ะ ส้าธุ

    ********************************************************


    อธิษฐานจิตเรียกบารมีเก่า
    <o></o>

    อธิษฐาน ขอให้พระพุทธเจ้าท่านเมตตาเป็นประธาน ดังนี้<o></o>
    "ข้าพเจ้าขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวรและบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย ในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกิน ละเมิด ต่อท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางกาย ทางวาจา ทางใจ ก็ดี ในอดีตก็ดี ในปัจจุบันก็ดี จะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี และมีเจตนาก็ดี ไม่มีเจตนาก็ดี ขอให้ท่านเจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ทั้งหลาย ได้โปรดอโหสิกรรมงดโทษที่พึงเกิดแก่ข้าพเจ้าตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมานับแต่ อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ และที่จะบำเพ็ญต่อไปในอนาคตข้าพเจ้าขออุทิศให้ท่านทั้งหลายได้โมทนา และมีส่วนร่วมในบุญกุศลเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึง

    การขอขมากรรมนี้จะช่วยให้การจองเวรกันลดลง หรืออาจจะสลายตัว เป็นโมฆะกรรมได้ และส่งผลให้ ชีวิตเราราบรื่น ปลอดโปร่ง สะดวกขึ้น เป็นการช่วยลดสภาวะกรรมรวมของโลก ที่จะส่งผลให้เกิดภัยพิบัติลดลง และในส่วนตัว บางท่านที่มีเจ้ากรรมนายเวรที่ตั้งใจจะให้ท่านต้องชดใช้ในภัยพิบัติรอบนี้ อาจจะอโหสิและให้อภัยต่อท่านได้

    จากนั้นประคองจิตและอธิษฐานต่อว่า "นับแต่นี้ข้าพเจ้าจะมีแต่จิตใจที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ เต็มไปด้วยจิตใจที่ดีงาม เปี่ยมไปด้วยความเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าอโหสิกรรมให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ขอเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผู้ใด ข้าพเจ้าอโหสิกรรมให้กับเขาเหล่านั้นไม่ว่าเขาจะทำกรรมล่วงเกินข้าพเจ้าไม่ว่าจะเป็นทาง กาย วาจา ใจ ในอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี จะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ข้าพเจ้าอโหสิกรรมให้กับเขา

    คำอธิษฐาน นี้มีผล ๒ ประการคือ <o></o>
    ๑.เป็นการ ให้อภัยทาน อันเป็นทานสูงสุด ใช้กำลังใจสูงสุดในการให้ เมื่อทำได้จิตก็จะยิ่งเบาสบายขึ้น <o></o>
    ๒.ทุกคนบนโลกนี้เป็นคนที่ทำให้เกิดกรรมแห่งการอาฆาตล้างแค้นกันและกันสะสมจนเกิดภัยพิบัติครั้งนี้

    คนเรามักจะกลัวเจ้ากรรมนายเวรกัน เวลาทำบุญกรวดนำอุทิศส่วนกุศลให้ แต่กลับไม่เคยรู้ตัวเลยว่าเรานี่ล่ะตัวดี เป็นเจ้ากรรมนายเวรของชาวบ้านชาวช่องเขา เวลาไปโกรธ อิจฉา ริษยา อาฆาตแค้นคนอื่นเขา ดังนั้นการสลายกรรมตรงนี้จึงส่งผลให้สภาวะกรรมรวมของโลกเบาบางลง และการที่ตัวเจ้ากรรมนายเวรตัดสินใจลบบัญชีกรรมอโหสิให้เป็นโมฆะกรรมนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการที่จะไปอ้อนวอนขอให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ เพราะบางคนก็ไม่ยอมง่ายๆ อีกทั้งยังต้องใช้เวลาและขออโหสิกรรมให้บ่อยๆ
    <o></o>

    การทำมหาโมทนา

    ประคองจิตให้อยู่ต่อหน้าพระพุทธเจ้าตั้งจิตให้เบาสบายและมั่นคง อธิษฐานว่า

    "ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานระลึกถึง บุญกุศล บารมี คุณงามความดี และจิตใจที่ดีงาม ของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสงฆ์ทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เทพพรหมเทวาทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ตลอดจนความดีของสรรพสัตว์ทั้งหลายทั่วมหาอนันตจักรวาลที่ได้บำเพ็ญมานับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และที่จะบำเพ็ญประโยชน์ต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นทาน ศีล ภาวนา สัมมาทิฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา
    <o></o>
    ข้าพเจ้าขอกราบมหาโมทนาในบุญกุศลทั้งหลายเหล่านี้ด้วยความจริงใจ ขอให้อำนาจแห่งการมหาโมทนามัยนี้จงส่งผลเป็นกระแสบุญอันบริสุทธิ์หลั่งไหลสู่ดวงจิตของข้าพเจ้านับแต่นี้ด้วยเทอญ"
    <o></o>​
    <o></o>

    พระท่านให้พรมาว่า ขอให้ทุกท่านฉลาดในการทำบุญ ฉลาดในการโมทนา ฉลาดในการอธิษฐาน ฉลาดในการสร้างบารมี
    <o></o>
    หลังจากนั้นจะเป็นการเรียกบารมีเก่า ที่เราอาจหลงลืมหรือตกหล่นไปในอดีตชาติให้กลับมา จะช่วยให้ฝึกวิชชาและสมาธิได้ง่ายขึ้น รวมทั้งรวมบุญเก่าให้มาส่งผลเร็วขึ้น โดยการประคองจิตอยู่ต่อหน้าพระ แล้วอธิษฐานต่อไปว่า

    " ข้าพเจ้าขอตั้งจิตระลึกถึง บุญบารมี คุณความดี สรรพวิชชา และสายสมบัติ ที่ข้าพเจ้าได้สร้าง
    ได้ศึกษา ได้ปฏิบัติและได้บำเพ็ญมา (เพื่อปรารถนาสัมมาสัมโพธิญาณมีพระนิพพานเป็นที่สุด) นับตั้งเเต่ อดีต ปัจจุบัน และจะบำเพ็ญต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา สัมมาทิฐิ ให้มารวมตัวกัน ณ บัดนี้

    เพื่อให้ข้าพเจ้าได้ใช้สร้างบุญ สร้างบารมี เพื่อความรุ่งเรืองทั้งในทางโลกและทางธรรม มีกำลังใจ กำลังบารมีทั้ง ๓๐ ทัศน์ ได้ช่วยตนเองและสรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ ประสพแต่ความสุข พ้นภัยจากวัฏสงสาร สัมผัสพระนิพพานอันเป็นบรมสุขด้วยเทอญ"
    <o></o>
    <o></o>
    ต่อไปเป็นวิชชาสำคัญในการพลิกจิตให้มี สภาวะจิตที่บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นนั่น คือ

    การแผ่เมตตาอัปปมาณฌาน
    <o></o>
    จับลมสบาย จิตจับภาพพระพุทธเจ้าให้ใสเป็นเพชร จากนั้นนึกกราบขอให้พระท่านมาลอยอยู่ เหนือหัวของเรา แล้วกำหนดจิตของเราให้ "รู้สึก" ถึง บุญกุศล ความดีงาม ความงดงาม ความชุ่มใจ ความอิ่มเอิบใจ ความปลื้มปีติ ความรักที่บริสุทธิ์ ความตื้นตันใจ ความรักที่เรามีต่อพ่อแม่ พระเจ้าอยู่หัว ให้ความรู้สึกเป็นสุขปีติอิ่มเอิบใจนี้เติมให้เต็มหัวใจของเรา นึกถึงภาพดอกไม้ที่ค่อยๆแย้มกลีบด้วยความงดงาม เมื่อจิตใจแย้มยิ้มชื่นบานเต็มหัวใจ กายเราก็ยิ้มเบิกบานมีความสุขอย่างที่สุด กำหนดจิตอธิษฐานว่า

    บุญคือความสุขที่ปรากฏ ณ บัดนี้
    ข้าพเจ้าขออุทิศความสุขและส่วนกุศลนี้ไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายทั่วอนันตจักรวาลขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ได้ประสพแต่ความสุข พ้นจากความทุกข์ พ้นภัยจากวัฏสงสาร สัมผัสพระนิพพานอันเป็นบรมสุขด้วยเทอญ
    <o></o>
    แล้วค่อยๆทำความรู้สึกว่าตัวเราสว่างมีแสงรัศมีสีทอง อันเป็นรัศมีแห่งความรัก ความสุข ความเมตตา ที่เรามีให้แก่สรรพสัตว์ไม่มีวันจบสิ้น นึกให้แสงแห่งความเมตตานี้แผ่ปกคลุมห้องที่เราอยู่นี้สว่างไสวเรืองรอง จิตของสรรพสัตว์ดวงใดได้สัมผัสกับรัศมีนี้ก็ให้มีความสุข สงบ ชุ่มเย็นไปด้วย จิตเรายิ่งเปล่งรัศมีเท่าไหร่ จิตเราก็ยิ่งมีความสุขชุ่มเย็นยิ่งขึ้น แผ่รัศมีสีทองระยิบระยับค่อยๆปกคลุมบ้านหรืออาคารที่เราอยู่ทั้งหลัง ค่อยๆทำใจเย็นๆ จากนั้นแผ่ปกคลุมอำเภอ จังหวัดที่อยู่ ประคองใจให้ชุ่มเย็นอิ่มเอิบตลอดเวลา แล้วค่อยๆแผ่ให้กว้าง จนคลุมประเทศไทยจนมองเห็นเป็นขวานสีทอง แล้วอธิษฐานให้ประเทศไทยจงสงบสุขร่มเย็น ผู้คนจิตใจดีงาม จากนั้น แผ่รัศมีแห่งความสุขนี้ปกคลุมโลกจนเป็นสีทองสว่างไสว อธิษฐานว่าขอให้โลกนี้จงสงบสุขร่มเย็น

    แล้วจึงแผ่รัศมีสีทั้งออกไปทั่วสุริยจักรวาล ไม่มีที่สิ้นสุดจนออกไป ยังอนันตจักรวาลไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ จิตเรายิ่งแผ่รัศมีออกไปกว้างไกลและครอบคลุมมากเท่าไหร่จิตเรายิ่งแย้มยิ้มอิ่มเอิบใจมากเท่านั้น ยิ่งให้มากมายเท่าไหร่ จิตเราก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น ประคองอารมณ์ใจที่แสนปีติสุขนี้ไว้จนกว่าจะพอใจ

    <o></o>
    เสร็จแล้วให้ทุกคนคิดเอาตัวเราในจิตไปกราบพระพุทธเจ้า แล้วถอนจิตออกจากสมาธิช้าๆโดยการหายใจเข้าลึกๆช้าๆ ๓ ครั้ง พร้อมภาวนา พุทโธ ธัมโม สังโฆ<o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2011
  16. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    อีกบทหนึ่งที่เคยพบเห็นนะคะ
    อย่างไรก็ ผู้นำไปใช้ คงต้องกำหนดจิตกำกับสติตั้งมั่นด้วยกระมังค่ะ



    คำขอเบิกบุญ
    <o></o>

    ข้าพเจ้าขอนอบน้อมบูชาคุณพระรัตนตรัย ขอน้อมอำนาจบารมี พระพุทธคุณแห่งพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของ ....... เป็นที่สุด
    <o></o>
    ขอได้โปรดรวมกองบุญของข้าพเจ้า เพื่อเบิกมาใช้ ให้มีความคล่องตัวในทุก ๆเรื่อง การอันใดติดขัด ขอให้มีความคล่อง ดั่งน้ำในคณโฑที่ไหลจากสูงลงสู่ที่ต่ำ การอันใดคล่องตัวอยู่แล้ว ขอให้คล่องตัวยิ่งขึ้น ๆ ไป ขึ้นชื่อว่าความอดอยาก ยากไร้ ความไม่มี ความลำบาก ความขัดสน อย่าได้พึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า เป็นผู้รับใช้พระพุทธศาสนา นับตั้งแต่กาลบัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไป ตราบจนข้าพเจ้าเข้าสู่พระพิพพานด้วยเถิด
    <o></o>
    แลโดยกาลนี้ ขอให้ข้าพเจ้ามีความคล่องตัวในเรื่อง ..... <o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2011
  17. ศิริพัฒน์

    ศิริพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +47
    ไม่ได้มาตอบเสียนาน กระทู้เลยเงียบไปเลย 55555
    ตอนนี้สบายใจครับที่ทดสอบเรื่องการเบิกบุญเรียบร้อยแล้ว บุญของเราเองนี่สะดวกใจกว่าจริงๆ แต่ได้แค่ที่ใกล้ๆ ไปไกลๆยังม่ายไหว
     
  18. threeam

    threeam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,364
    มารอเรียนรู้ต่อจ้า
    เมื่อวาน เพิ่งคิดถึงกระทู้นี้ โผล่มาแล้ว ดีใจจัง ต้องดัน ต้องดัน อึ้บ อึ้บ ดัน ดัน
     
  19. พิกัดบัว

    พิกัดบัว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2009
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +17
    ไปร่วมเบิกบุญกับคุณศิริพัฒน์มาเหมือนกันค่ะ โชคดีที่ฉลาดมาก่อน ต้องกราบขอบพระคุณหลวงพี่ที่อยู่เพชรบุรีที่ท่านเมตตาให้สัญลักษณ์ประจำตัวมาประมาณ 3 ปีกว่าแล้ว แต่ก่อนก็ไม่เข้าใจ เพิ่งมาเริ่มเข้าใจเอาตอนที่ท่านอาจารย์แนะนำระหว่างฝึกกรรมฐาน ทำให้ง่ายและสะดวกขึ้นโข อีกทั้งก็ได้คุณศิริพัฒน์คอยแนะนำอยู่ตลอดเวลา ปัจจุบันบุญเริ่มส่งผลแล้ว คล้ายมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยกระซิบ คอยแนะนำ ชี้ทาง ในการดำเนินชีวิต อะไรที่ไม่รู้ก็ได้รู้ ทำให้ยากต่อการก้าวเดินที่อาจจะผิดทางได้ รอบคอบขึ้น มั่นคงในศีล ทั้งกาย วาจา ใจ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ชีวิตอยู่บนความปลอดภัยจากภัยต่าง ๆ ไม่ว่าจากสิ่งที่มองไม่เห็น หรือว่าจากมนุษย์ ปัจจุบันชีวิตมีความสุขมาก และคล่องตัวขึ้นจริง ๆ ค่ะ
     
  20. มหิศวระ

    มหิศวระ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +8
    มาดันกระทู้ให้อีกรอบครับ
    ถึงเวลาทีคนที่ยังไม่ได้อ่านอย่างผมควรศึกษามาก
    และเหมาะกับเวลด้วย
    ยังไงช่วยสรุปย่อตั้งแต่ต้นสั้น ๆ เนื้อๆ อีกรอบ
    จักเป็นพระคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...