..การบำเพ็ญนางแก้ว-คู่บารมีพระโพธิสัตว์

ถาม-ตอบเกี่ยวกับการบำเพ็ญนางแก้ว-คู่บารมีพระโพธิสัตว์

​

กระทู้ที่นำเสนอนี้ ได้จากคำถาม-ตอบที่ผู้ตั้งกระทู้เคยสอบถาม อ.ไก่ จากเว็บคนเมืองบัว เมื่อวันที่ ๘ เดือนมิถุนายน ๒๕๕๐ เกี่ยวกับเรื่อง การบำเพ็ญนางแก้ว -คู่บารมีพระโพธิสัตว์ หวังว่าเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้ปรารถนาที่จะบำเพ็ญนางแก้ว และผู้อ่านไม่มากก็น้อย

ขอบุญกุศลที่นำธรรมทานมาเผยแผ่ครั้งนี้ ขอน้อมถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ และผู้มีพระคุณทุกท่าน
<o></o>
ขอผลบุญนี้ มีผลต่อข้าพเจ้าเพียงใด ขอจงบังเกิดแด่ อาจารย์ไก่-เว็บคนเมืองบัว ผู้ให้ความกระจ่างในเรื่องนี้
<o>
</o>และขอเป็นกำลังใจให้ท่านผู้ปรารถนาพระโพธิญาณ และท่านผู้ปรารถนาเป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์ทุก ๆ ท่าน ขอจงสมความปรารถนาทุกประการเทอญ สาธุ..
<o></o>
­ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านค่ะ
<o></o>
Numsai
rat_wting
------------------------------------------------
เรียนถามท่านอ.ไก่ เกี่ยวกับนางแก้ว-คู่บารมีพระโพธิสัตว์ค่ะ
<o></o>

จากข้อมูลที่เคยอ่านประวัติของพระนางพิมพายโสธรา ซึ่งเคยได้รับคำพยากรณ์จากองค์สมเด็จพระพุทธทีปังกร สมัยที่ท่านเป็นนางสุมิตตาพราหมณีได้ฟังพุทธพยากรณ์แด่สุเมธดาบส (สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) เกิดความ เลื่อมใส จึงได้ถวายดอกบัว และขออธิษฐาน ร่วมสร้างบารมีคู่ไปกับสุเมธดาบสไปทุกภพทุกชาติ จนกว่า ท่านจะได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต <o></o>



คำถามดังต่อไปนี้ค่ะ...
<o>

</o> 1. ผู้ที่ปรารถนาจะเป็นนางแก้ว(คู่บารมีพระโพธิสัตว์ ) จำเป็นต้องได้รับคำพยากรณ์เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ ทุก ๆ พระองค์หรือไม่
<o></o>
ตอบ ..../...มีความจำเป็นและมีพุทธทำนายอยู่ทุกขั้น

<o></o>
2. ถ้านางแก้วที่ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งพระองค์ใดในอดีต ว่าเป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์ท่านนั้น ๆ แล้ว จะสามารถยกเลิกคำอธิษฐานการเป็นคู่พระโพธิสัตว์พระองค์นั้นได้หรือไม่(สมมติว่าเกิดอาการน้อยใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แล้วพาลไม่อยากสร้างบารมีร่วมกันต่อไป)
<o></o>
ตอบ ..../...ได้ ไม่ยาก

<o></o>
3. สมมติว่า ยกเลิกอธิษฐานเป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์ได้ จะต้องอาศัยสมาธิระดับใด จึงจะยกเลิกได้สำเร็จหรือต้องไปอธิษฐานต่อหน้าพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าที่ทรงพยากรณ์ในอดีต
<o></o>
ตอบ..../...กับพระพุทธเจ้า พระพุทธรูปก็ได้ แต่ต้องตัดอารมณ์เด็ดขาดคล้ายพุทธภูมินั่นแหละ

<o></o>
4. นางแก้วสามารถ เป็นคู่บารมีของพุทธภูมิซ้อนได้หรือไม่ (หมายถึงคู่บารมีอันดับ 1 และอันดับ 2 หรือ 3 ต่างปรารถนาพุทธภูมิเช่นเดียวกัน)
<o></o>
ตอบ..../...ถ้าสอบตกก็ไปได้อีกองค์หนึ่ง ตามลำดับบารมี

<o></o>
5. การบำเพ็ญบารมีขั้นใด หรือกี่ชาติสุดท้าย นางแก้วจึงจะเป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์องค์นั้น ๆ เพียงองค์เดียว โดยไม่ไปเป็นคู่ครองของผู้อื่น หรือไม่แน่ ขึ้นอยู่กับกำลังบุญคะ
<o></o>
ตอบ..../...ขึ้นอยู่กับกำลังบุญ
<o>

</o> 6. ถ้านางแก้วได้รับคำพยากรณ์แล้ว ถ้าไม่นับชาติที่เป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์แล้ว ท่านตัองบริจาคภรรยาให้ผู้อื่นเป็นทาน นางแก้วสามารถไปเป็นคู่ครองผู้อื่นที่ไม่ใช่พระโพธิสัตว์ได้หรือไม่คะ
<o></o>
ตอบ ..../..ได้…

<o></o>
7. กรณีที่นางแก้วได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งว่า เป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์องค์นั้น ๆ แล้ว แต่ต่อมาพระโพธิสัตว์องค์นั้นเกิด เบื่อหน่ายในการบำเพ็ญบารมี และลาขาดจากพุทธภูมิ แต่นางแก้วไม่ได้ยกเลิกอธิษฐานการเป็นนางแก้ว นางจะหมดสิทธิ์เป็นนางแก้ว หรือว่าต้องไปเป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์พระองค์อื่นต่อไปคะ
<o>

</o> ตอบ ..../...องค์อื่นแทนที่บารมีใกล้เคียงกันที่มีอธิษฐานลำดับรองลงมาในลักษณะคล้ายๆกัน
<o></o>
8. คุณสมบัติหนึ่งที่นางแก้ว-คู่บารมีของพระโพธิสัตว์จะพึงมี คือ เลิศทางอภิญญาใหญ่ คือ นั่งขัดสมาธิครั้งเดียวสามารถระลึกชาติได้ถึงหนึ่งอสงไขยยิ่งด้วยแสนกัป คุณสมบัตินี้จะเกิดแก่ผู้ปรารถนาเป็นนางแก้ว เมื่อบำเพ็ญบารมีในระดับใด หรือเกิดเฉพาะในชาติสุดท้ายเพียงชาติเดียว

<o></o>
ตอบ ..../...เฉพาะชาติสุดท้ายชาติเดียว นอกนั้นต้องขวนขวายอย่างยิ่งในการฝึก มโนมยิทธิคล้ายพระโพธิสัตว์นั่นแหละ ต้องบำเพ็ญบารมีอย่างยิ่งให้รู้ญาณแปด เมื่อเต็มแล้วชาติสุดท้ายไม่ต้องออกแรงมาก

<o></o>
9. จากข้อ 7 นางแก้วสามารถบำเพ็ญบารมี เพื่อเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ นอกเหนือจากเลิศทางอภิญญาใหญ่ เช่น เลิศด้วยปัญญา เลิศทางลาภ หรืออื่น ๆ ได้หรือไม่

<o></o>
ตอบ ..../...ได้ในบารมี ๑๐

<o></o>
10. จากประวัติของพระนางพิมพายโสธรา ท่านมิได้บำเพ็ญบารมีเองแต่จะอนุโมทนาบุญกับพระพุทธองค์ทุกครั้งที่ท่านสร้างบารมีถามว่านางแก้วทุกๆท่านจะต้องเป็นเช่นนั้นเป็นกฎตายตัวหรือไม่คะหรือแล้วแต่บารมีของแต่ละท่านไป..

<o></o>
ตอบ..../...แล้วแต่ท่านๆไปในการตั้งอธิษฐานและตั้งความเพียร

<o></o>
11. พระโพธิสัตว์ มี 3 ประเภทคือ ปัญญาธิกะสัทธาธิกะ และวิริยะธิกะ นางแก้วจำเป็นจะต้องมี 3 ประเภทเช่นเดียวกันหรือไมคะ

<o></o>
ตอบ ..../...จำเป็น ต้องเนื่องด้วยสามีของตน

<o></o>
- ถ้ามีจะมีการสร้างบารมีต่างกันอย่างไร
<o></o>
ตอบ ..../...ไม่จำเป็นต้องมากมาย เพียงบำเพ็ญปกติอย่างน้อย สี่อสงไขย

12. หากทราบว่า ใครเป็นคู่บารมี จำเป็นจะต้องพบกันและอธิษฐานคู่กัน หรือต่างคนต่างอธิษฐานเพื่อติดตามกันสร้างบารมีต่อไปจนกว่าพระโพธิสัตว์จะสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณ
<o></o>
ตอบ ..../...ส่วนใหญ่จะได้พบเจอกันในช่วงหนึ่งช่วงใดของชีวิตจนในที่สุดในชาติท้ายๆจึงได้อยู่คู่กัน
<o></o>
13. ถ้านางแก้วได้สร้างบุญใหญ่ครั้งใดเช่นการทำบุญด้วยทองคำ การหล่อองค์พระบรรจุเจดีย์ การถวายตู้พระไตรปิฎก เป็นต้นผลบุญนั้นจะสำเร็จแก่นางเพียงผู้เดียวนางสามารถอธิษฐานเพื่อความสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณแก่พระโพธิสัตว์ –คู่บารมีได้หรือไม่
<o></o>
ตอบ ..../...ได้ ให้คู่บารมีโมทนา
-------------------------------------------<o></o>
ที่มา..

http://www.konmeungbua.com/forum/topic1157.html
;aa44<o></o>

 

สาธุ สาธุ อนุโมทามิ<!-- google_ad_section_end --> ...เจ้าค่ะ

 

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ข้าพเจ้าขอกราบมหาโมทนาในบุญกุศลทั้งหลายเหล่านี้ด้วยความจริงใจ ขอให้อำนาจแห่งการมหาโมทนามัยนี้จงส่งผลเป็นกระแสบุญอันบริสุทธิ์หลั่งไหลสู่ดวงจิตของทุก ๆ ท่าน ที่มีส่วนร่วม และข้าพเจ้านับแต่นี้ด้วยเทอญ<O</O



ขอนอบน้อมบูชา

แด่สตรีทุกคนที่มีกำลังใจเสมอพระโพธิสัตว์และปรารถนาเป็นคู่บารมี
เพื่อช่วยพระโพธิสัตว์สร้างสมพุทธการกธรรม เพื่อความบรรลุพระโพธิญาน
ได้ช่วยเหลือสรรพสัตว์ข้ามทะเลทุกข์ในอนาคตกาล ​

http://palungjit.org/threads/นางแก้วแห่งแผ่นดิน.180688/​

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ บุญญสิกขา (ชอบชื่อนี้จัง) ที่แนบ link : นางแก้วแห่งแผ่นดิน มาให้อ่าน

จากการศึกษาเรื่องของ การบำเพ็ญคู่บารมีพระโพธิสัตว์นั้น เป็นหนทางยากลำบากไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการบำเพ็ญเพื่อความปรารถนาพระโพธิญาณ

ความเมตตาของพระโพธิสัตว์เป็นไปแบบกว้างขวาง เพื่อรื้อสัตว์ขนสัตว์ แต่ความเมตตาของคู่บารมีพระโพธิสัตว์นั้น แบบอ่อนโยน นุ่มนวล ลึกซึ้ง ดุจมารดา ต้องเมตตาตัวเอง เมื่อต้องแยกจากคู่บารมี แม้แต่การยอมสละชีวิตเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

บางชาติก็ได้ครองคู่กัน แต่บางชาติก็ต้องไปเป็นคู่ครองของคนอื่น เมื่อพบกันแล้วย่อมมีความเจ็บปวด ร้าวลึก แต่ไม่สามารถเอ่ยให้ใครฟังได้ จำเป็นต้องสร้างบุญร่วมกัน

สำหรับท่านใดที่ปรารถนาเป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์ ลองภาวนาบทพาหุงห้องแรก 108 จบ หรือภาวนาจนเข้าฌาณสูงสุด สิ่งใดที่พร่องจะให้ทราบ เพื่อเป็นหนทางการสั่งสมบารมีให้เต็มในที่สุด

(รู้สึกว่า คุณ Phoenix เคยกล่าวเรื่องการภาวนาพาหุง ฯ 108 จบ ไว้ในกระทู้หนึ่ง ขออภัยที่จำไม่ได้ แต่ได้ลองไปทำดู ปรากฏว่าได้ผล และมีความก้าวหน้าทางธรรมดีมากค่ะ)

ขออนุโมทนาบุญในความปรารถนาเป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์ของทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

;36

 

ขอบพระคุณ คุณ Numsai ค่ะ
นางแก้ว อาจจะมีมากมายหลายแสนหมื่น แต่การจะเป็นนางแก้วอันดับต้น ๆ คู่ควรพระโพธิสัตว์ โดยเฉพาะชาติท้าย ๆ น่าสนใจนะคะ นอกจากในฐานะ "คู่บารมี" แล้ว ได้รับการเรียนรู้รับทราบมาบ้างค่ะว่า อย่างน้อยต้องเข้าใจคำว่า "รองบาท" คิดพิจารณาอยู่นาน ยากแท้หยั่งถึง

.. นี้เอง จิตจึงขอน้อมบูชา สาธุการทุกดวงจิตเธอ ผู้เสมอ นางแก้ว ทุกดวง ..

 

สาธุอนุโมทนากับน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของและงดงามของนางแก้ว

 

ท่าน น้ำใส ครับ
ผมขอตอบได้ไหมครับ
ที่อ่านดูจากที่ตอบ( ไม่กล้าแย่งนะครับ แต่ขอตอบตามจริง ) คำตอบน่าจะต่างจากผมนะครับ

 

ก่อนอื่นตอบนี้ก่อนนะครับ
พุทธพยากรณ์ = เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต( แน่นอน ) แล้วพระพุทธองค์ทรงเห็นทรงทราบถึงได้พยากรณ์ แต่ถ้าเหตุการณ์นั้นไม่เกิดพระพุทธองค์จะไม่พยากรณ์ เพราะพุทธพจน์ของพระองค์เป็นได้แค่ 1 เท่านั้นไม่เป็น 2

1. ผู้ที่ปรารถนาจะเป็นนางแก้ว(คู่บารมีพระโพธิสัตว์ ) จำเป็นต้องได้รับคำพยากรณ์เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ ทุก ๆ พระองค์หรือไม่
<O</O
ตอบ ..../...มีความจำเป็นและมีพุทธทำนายอยู่ทุกขั้น

<O</O
2. ถ้านางแก้วที่ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งพระองค์ใดในอดีต ว่าเป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์ท่านนั้น ๆ แล้ว จะสามารถยกเลิกคำอธิษฐานการเป็นคู่พระโพธิสัตว์พระองค์นั้นได้หรือไม่(สมมติว่าเกิดอาการน้อยใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แล้วพาลไม่อยากสร้างบารมีร่วมกันต่อไป)
<O</O
ตอบ ..../...ได้ ไม่ยาก // ตอบ.. ไม่ได้ครับ

<O</O
3. สมมติว่า ยกเลิกอธิษฐานเป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์ได้ จะต้องอาศัยสมาธิระดับใด จึงจะยกเลิกได้สำเร็จหรือต้องไปอธิษฐานต่อหน้าพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าที่ทรงพยากรณ์ในอดีต
<O</O
ตอบ..../...กับพระพุทธเจ้า พระพุทธรูปก็ได้ แต่ต้องตัดอารมณ์เด็ดขาดคล้ายพุทธภูมินั่นแหละ // ตอบ..ถ้าได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว ยังงัยก็ยกเลิกไม่ได้เพราะเหตุการณืเกิดขึ้นในอนาคตแล้ว

<O</O
4. นางแก้วสามารถ เป็นคู่บารมีของพุทธภูมิซ้อนได้หรือไม่ (หมายถึงคู่บารมีอันดับ 1 และอันดับ 2 หรือ 3 ต่างปรารถนาพุทธภูมิเช่นเดียวกัน)
<O</O
ตอบ..../...ถ้าสอบตกก็ไปได้อีกองค์หนึ่ง ตามลำดับบารมี // ตอบ..ไม่ได้ครับ จะเป็นคู่บำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์จนเต็ม

<O</O
5. การบำเพ็ญบารมีขั้นใด หรือกี่ชาติสุดท้าย นางแก้วจึงจะเป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์องค์นั้น ๆ เพียงองค์เดียว โดยไม่ไปเป็นคู่ครองของผู้อื่น หรือไม่แน่ ขึ้นอยู่กับกำลังบุญคะ
<O</O
ตอบ..../...ขึ้นอยู่กับกำลังบุญ // ตอบ...ในกรณีของท่านสุมิตตาพราหมณ์ ท่านเองได้ถางทางร่วมกับท่านสุเมธดาบส แล้วได้แบ่งดอกประทุมให้ท่านสุเมธ 5 ดอก เพื่อบูชาพระพุทธทีปังกรพระพุทธเจ้าร่วมกัน แล้วตั้งจิตอธิฐานต่อพระพักตร์ของพระทศพลว่า จะเป็นคู่ของท่านสุเมธทุกๆๆชาติไป ( ตลอดเวลา 4 อสงไขยกับเศษอีก 100,000 มหากัปป์ ) แล้วองค์พระทศพลได้พยากรณ์ ว่า น้องหญิงคนนี้จะเป็นคู่บารมีของท่านสุเมธตลอดไป จนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า

<O</O
6. ถ้านางแก้วได้รับคำพยากรณ์แล้ว ถ้าไม่นับชาติที่เป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์แล้ว ท่านตัองบริจาคภรรยาให้ผู้อื่นเป็นทาน นางแก้วสามารถไปเป็นคู่ครองผู้อื่นที่ไม่ใช่พระโพธิสัตว์ได้หรือไม่คะ
<O</O
ตอบ ..../..ได้… // ตอบ..ไม่ได้ครับ ตัวอย่าง พระนางมัทรี ตอนที่พระโพธิสัตว์เวสสันดรจะถวายพระนางเป็นทานให้แก่พราหมณ์ ( พระอินทร์แปลง ) ยังต้องร้อนถึงพระอินทร์ลงมาช่วย เพราะตลอดเวลา 4 อสงไขยกับเศษอีก 100,000 มหากัปป์ มาพระนางเป็นคู่กับพระโพธิสัตว์มาตลอดแล้วไม่เคยผูกเวรกับใคร เป็นเหตุให้พระอินทร์ต้องลงมาขอเอง แล้วต้องคืนให้เพราะพระนางจะเป็นคู่ได้แค่พระโพธิสัตว์ เท่่านั้น

<O</O
7. กรณีที่นางแก้วได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งว่า เป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์องค์นั้น ๆ แล้ว แต่ต่อมาพระโพธิสัตว์องค์นั้นเกิด เบื่อหน่ายในการบำเพ็ญบารมี และลาขาดจากพุทธภูมิ แต่นางแก้วไม่ได้ยกเลิกอธิษฐานการเป็นนางแก้ว นางจะหมดสิทธิ์เป็นนางแก้ว หรือว่าต้องไปเป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์พระองค์อื่นต่อไปคะ
<O</O
ตอบ ..../...องค์อื่นแทนที่บารมีใกล้เคียงกันที่มีอธิษฐานลำดับรองลงมาในลักษณะคล้ายๆกัน // ตอบ..พระโพธิสัตว์ ที่ได้รับพุทธพยากรณ์ ( นิตยะโพธิสัตว์ ) จะไม่มีการลาพุทธภูมิเพราะพระองค์ได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตแล้ว
<O</O
8. คุณสมบัติหนึ่งที่นางแก้ว-คู่บารมีของพระโพธิสัตว์จะพึงมี คือ เลิศทางอภิญญาใหญ่ คือ นั่งขัดสมาธิครั้งเดียวสามารถระลึกชาติได้ถึงหนึ่งอสงไขยยิ่งด้วยแสนกัป คุณสมบัตินี้จะเกิดแก่ผู้ปรารถนาเป็นนางแก้ว เมื่อบำเพ็ญบารมีในระดับใด หรือเกิดเฉพาะในชาติสุดท้ายเพียงชาติเดียว

<O</O
ตอบ ..../...เฉพาะชาติสุดท้ายชาติเดียว นอกนั้นต้องขวนขวายอย่างยิ่งในการฝึกมโนมยิทธิคล้ายพระโพธิสัตว์นั่นแหละ ต้องบำเพ็ญบารมีอย่างยิ่งให้รู้ญาณแปด เมื่อเต็มแล้วชาติสุดท้ายไม่ต้องออกแรงมาก // ตอบ ..เลิศทางอภิญญาใหญ่ ในชาติสุดท้านเท่านั้น บำเพ็ญบารมีร่วมกับพระโพธิสัตว์ทุกๆๆชาติ ( 4 อสงไขยกีบเศษอีก 100,00 มหากัปป์ ) อภิญญา 6 สมาบัติ 8 เป็นคุณสมบัติของพระอรหันต์อยู่แล้วครับ

<O</O
9. จากข้อ 7 นางแก้วสามารถบำเพ็ญบารมี เพื่อเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ นอกเหนือจากเลิศทางอภิญญาใหญ่ เช่น เลิศด้วยปัญญา เลิศทางลาภ หรืออื่น ๆ ได้หรือไม่

<O</O
ตอบ ..../...ได้ในบารมี ๑๐ // ตอบ....ท่างเองมีครบอยู่แล้วครับ มนุษย์สมบัติ = คุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ ที่สำคัญ ตลอดระยะเวลา 4 อสงไขยกับเศษอีก 100,000 มหากัปป์ ท่านเองให้ทานร่วมกับพระโพธิสัตว์มาตลอด ท่านเลยมีอื่นๆๆครบ ครับ

<O</O
10. จากประวัติของพระนางพิมพายโสธรา ท่านมิได้บำเพ็ญบารมีเองแต่จะอนุโมทนาบุญกับพระพุทธองค์ทุกครั้งที่ท่านสร้างบารมีถามว่านางแก้วทุกๆท่านจะต้องเป็นเช่นนั้นเป็นกฎตายตัวหรือไม่คะหรือแล้วแต่บารมีของแต่ละท่านไป..

<O</O
ตอบ..../...แล้วแต่ท่านๆไปในการตั้งอธิษฐานและตั้งความเพียร
// ตอบ..ถึงแม้จะแค่อนุโมทนาก็ได้บุญประมาณ 85กว่าๆๆ % เลยนะครับ ที่สำคัญนางแก้วเป็นเจ้าของร่วมบุญนั้นนด้วยนะครับ
<O</O
11. พระโพธิสัตว์ มี 3 ประเภทคือ ปัญญาธิกะสัทธาธิกะ และวิริยะธิกะ นางแก้วจำเป็นจะต้องมี 3 ประเภทเช่นเดียวกันหรือไมคะ

<O</O
ตอบ ..../...จำเป็น ต้องเนื่องด้วยสามีของตน // ตอบ ...ก็ตามพระโพธิสัตว์ประเภทนั้นๆๆ ละครับ

<O</O
- ถ้ามีจะมีการสร้างบารมีต่างกันอย่างไร
<O</O
ตอบ ..../...ไม่จำเป็นต้องมากมาย เพียงบำเพ็ญปกติอย่างน้อย สี่อสงไขย // ตอบ..ไม่ต่างเลยครับ ทำร่วมกับ 4อสงไขยกับเศษอีก 1000,000 มหากัปป์<O</O
12. หากทราบว่า ใครเป็นคู่บารมี จำเป็นจะต้องพบกันและอธิษฐานคู่กัน หรือต่างคนต่างอธิษฐานเพื่อติดตามกันสร้างบารมีต่อไปจนกว่าพระโพธิสัตว์จะสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณ
<O</O
ตอบ ..../...ส่วนใหญ่จะได้พบเจอกันในช่วงหนึ่งช่วงใดของชีวิตจนในที่สุดในชาติท้ายๆจึงได้อยู่คู่กัน // ตอบ..เจอกันทุกๆๆชาติ เพราะแต่ละชาติจะทำบุญร่วมกัน ศรัทธา ศีล เหมือน ก็เลยต้องเจอกันทุกกชาติตลอด 4 อสงไขย กับเศษอีก 100,000 มหากัปป์
<O</O
13. ถ้านางแก้วได้สร้างบุญใหญ่ครั้งใดเช่นการทำบุญด้วยทองคำ การหล่อองค์พระบรรจุเจดีย์ การถวายตู้พระไตรปิฎก เป็นต้นผลบุญนั้นจะสำเร็จแก่นางเพียงผู้เดียวนางสามารถอธิษฐานเพื่อความสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณแก่พระโพธิสัตว์ –คู่บารมีได้หรือไม่
<O</O
ตอบ ..../...ได้ ให้คู่บารมีโมทนา // ตอบ...ได้ครับ แต่ยังงัยพระโพธิสัตว์จะอยู่ร่วมด้วยตลอดนะครับ

 

สาธุครับ ตอบอย่างมีเหตุผล ขออนุโมทนาด้วยครับ
แต่ก็ขอโอกาสเสริมนิดนึงนะครับ คือ ข้อ 4 ข้อ 11

4. นางแก้วสามารถ เป็นคู่บารมีของพุทธภูมิซ้อนได้หรือไม่ (หมายถึงคู่บารมีอันดับ 1 และอันดับ 2 หรือ 3 ต่างปรารถนาพุทธภูมิเช่นเดียวกัน)
ตอบ ถ้าหากพระโพธิสัตว์กับนางแก้วได้รับพุทธพญากรณ์ในชาติเดียวกันแล้ว นางแก้วองค์อื่นๆก็หมดสิทธิ์ เพราะคำพญากรณ์ของพระพุทธเจ้าเป็นหนึ่งไม่มีสอง นอกจากทั้งพระโพธิสัตว์และนางแก้วจะยังไม่ได้รับพุทธพญากรณ์ ก็เป้นไปได้ครับ เพราะยังไม่แน่นอน คือ ไม่แน่นอนทั้งพระโพธิสัตว์และนางแก้ว ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าและว่าจะได้เป็นนางแก้วที่เคียงคู่ในชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้ามั้ย

11. พระโพธิสัตว์ มี 3 ประเภทคือ ปัญญาธิกะสัทธาธิกะ และวิริยะธิกะ นางแก้วจำเป็นจะต้องมี 3 ประเภทเช่นเดียวกันหรือไมคะ
ตอบ นางแก้วก็ต้องร่วมสร้างบารมีตามพระโพธิสัตว์ในแต่ละประเภท คือ ในประเภท
ปัญญาธิกะ ก็ต้องร่วมสร้างถึง 4 อสงไขย์ กับ แสนมหากัปป์
ศรัทธาธิกะ ก็ต้องร่วมสร้างถึง 8 อสงไขย์ กับ แสนมหากัปป์
วิริยาธิกะ ก็ต้องร่วมสร้างถึง16อสงไขย์ กับ แสนมหากัปป์
เพราะเวลาพระโพธิสัตว์ได้รับพุทธพญากรณ์ในชาติแรก นางแก้วก้น่าจะได้รับพุทธพญากรณ์พร้อมกัน จึงต้องร่วมสร้างบารมีตามพระโพธิสัตว์ประเภทนั้นๆนะครับ

 

ความรู้แน่นเอียดเลยนะค่ะ ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ

 

อนุโมทนาครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ที่มาให้อ่านนะครับ สาธุ สาธุ

 

เรื่องอจินไตยแบบนี้ เท่าที่ผมประสบมาก็เห็นมีหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุงที่ให้ความกระจ่างได้อย่างแท้จริง แต่วันนี้ท่านไม่มีสังขารมนุษย์ให้ได้ถามตอบ อาจจะมีพระองค์อื่นอีกที่สามารถตอบคำถามได้ สำหรับผมเองไม่มีปัญญาตอบ เพราะถ้าหากพลาดขึ้นมา ก็เท่ากับเราให้ความรู้ผิดๆกับคนหลายๆคน ถึงจะเป็นโพธิสัตว์ แต่ก็ยังไม่พ้นมารไปได้ จนกว่าจะบรรลุนั่นแหละ จึงจะรู้ได้แตกฉานทั้งหมด ที่กล่าวถึงหลวงพ่อฤๅษีแห่งวัดท่าซุงก็เพราะว่า ท่านปรารถนาพุทธภูมิจนเหลืออีกไม่กี่ชาติก็จะบรรลุ แต่ท่านลาเสียก่อน ดังนั้นความรู้ของท่านย่อมมากมายจนประมาณมิได้ บางเรื่องท่านสงเคราะห์ให้บรรดาลูกหลานฟัง เพราะผมคิดว่าท่านทราบว่าบางเรื่องจะเป็นที่ถกเถียงกัน พระไตรปิฎกเป็นเพียงใบไม้ในกำมือ ใบไม้นอกกำมือที่ท่านมิได้นำมากล่าวนั้นมีมากมาย ซึ่งบางท่านกล่าวอ้างถึงใบไม้นอกกำมือ ซึ่งไม่แน่นักว่าจะเป็นใบไม้นอกกำมือแท้จริงตามคำสอนของพระพุทธองค์หรือไม่ หรือเป็นแต่ใบไม้นอกกำมือของท่านผู้นั้นเอง ดังนั้นพึงใช้หลักกาลามสูตร ๑๐ ข้อ มาพิจารณาก่อนเชื่อสิ่งใด สำหรับตัวผมเชื่อแต่พระอริยะเท่านั้น ซึ่งสมเด็จพระพุทธองค์ก็จัดอยู่ในอริยะเช่นกัน แต่เป็นชั้นสูงสุด หลังจากที่ได้พิจารณาแล้ว จึงเชื่อตามที่ท่านสอน อย่างน้อยสรีระของพระอริยะก็ยืนยันถึงความบริสุทธิ์แห่งจิตของท่านผู้สอนว่าท่านรู้จริง ส่วนท่านใดจะเชื่อตามนี้หรือไม่ก็แล้วปัญญา,ทิฐิ ,ความละเอียดของจิตแต่ละบุคคล
มีข้อคิดให้ไปขบคิดกันก็คือ ผมจำได้ว่าในหนังสือหลวงพ่อฤๅษีฯ เล่มใดเล่มหนึ่งท่านบอกว่าคู่บารมีของท่านลงมาแทบทุกชาติ มีอยู่ ๒ ชาติที่ไม่ลงมา หากเป็นดังนี้ก็แสดงว่าคู่บารมีมิได้ลงมาทุกชาติ แต่ผมจำไม่ได้ว่าท่านนับการลงมาของคู่บารมีตั้งแต่ตอนไหน เมื่อไหร่ ไ่ม่ทราบว่าท่านกล่าวไว้หรือเปล่า หนังสือเล่มนั้นไม่ได้อยู่กับผมแล้ว อีกข้อหนึ่งก็คือก็คือ ในชาดกหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ได้ฟังมาหลวงพ่อฤๅษีแน่ๆ มีอยู่ชาติหนึ่งที่พระสมณโคดมของเรา เกิดเป็นน้องเขย พระนางพิมพาเกิดเป็นพี่สะใภ้ พี่สะใภ้ทำขนมเบื้อง(ถ้าจำชื่อขนมไ่ม่ผิด) ให้น้องเขยเสร็จแล้ว พระปัจเจกผ่านมาบิณฑบาตรพอดี พี่สะใภ้ได้ใส่ขนมเบื้องของน้องเขยไปก่อน น้องเขยกลับมาถามหาขนมในส่วนของตน พี่สะใภ้บอกไปว่าได้ใส่บาตรพระไปแล้ว เดี๋ยวจะทำให้ใหม่ แต่น้องเขยมีความโกรธพี่สะใภ้ จึงวิ่งไปแย่งขนมคืนมาจากพระปัจเจก เมื่อพี่สะใภ้ทำขนมอันใหม่เสร็จจึงใส่บาตรให้พระปัจเจกองค์นั้นใหม่ แล้วอธิษฐานไม่ขอเกิดร่วมทางกับคนจิตใจเช่นนี้ ฝ่ายน้องเขยเมื่อทราบดังนั้นจึงใส่ขนมของตัวเองทับบนขนมพี่สะใภ้แล้วอธิษฐานว่า ไม่ว่านางจะไปเกิดอยู่ที่ใดขอให้ตัวเขาไปนำนางมาบาทจาริกาให้ได้ กรรมที่พระโพธิสัตว์ซึ่งเสวยชาติเป็นน้องเขย ไปแย่งขนมมาจากบาตรพระปัจเจก ทำให้มีรูปไ่ม่งดงาม และไปเกิดเป็นพระเจ้ากุสราช ส่วนพี่สะใภ้คือพระนางพิมพานั้น ได้ไปเกิดเป็นพระนางประภาวดี หาอ่านรายละเอียดเรื่องคู่บารมีชาดกได้ในเรื่อง พระเจ้ากุสราชและำพระนางประภาวดี กูเกิ้ลหาก็เจอครับ นั้นแสดงว่ามีอย่างน้อยหนึ่งชาติที่ท่านมิได้เป็นคู่กันแต่ชาดกมิได้กล่าวต่อว่าพี่เขยท่านเสียแล้วท่านได้อยู่ด้วยกันหรือเปล่า หรือท่านเป็นพี่สะใภ้ น้องเขยกันตลอดชาติ อีกชาติหนึ่งคือ จอมนางแห่งพาราณสี ชาตินั้นพระนางพิมพาเกิดเป็นมเหสีของพระเจ้าพาราณสี ซึ่งมิใช่พระสมณโคดม แต่พระสมณโคดม ได้เกิดเป็นสหายสนิทของลูกชาย พระนางพาราณสี มีพระนามว่าสุสิมะปุโรหิต ส่วนพระโอรสพระนางมีนามว่าพรหมทัต จะเห็นได้ว่าชาตินี้ท่านเป็นพระชายาของพระเจ้าพาราณสีก่อน หลังจากพระเจ้าพาราณสีสวรรคตแล้ว พระนางพาราณสีทรงเป็นหม้ายจนแอบเห็นสุสิมะปุโรหิต(พระสมณโคดม)พระสหายสนิทของพระโอรส พระนางเกิดจิตปฏิพัทธ์จนพระราชโอรสทราบความจึงได้เอ่ยปากกับสหายสนิทและได้จัดพิธีอภิเษกสมรสให้ครองเมืองพาราณสีกับพระราชมารดา อยู่ในชาดกคู่บารมีเรื่องจอมนางแห่งพาราณสี จะเห็นได้ว่านี่คือตัวอย่างไม่กี่ชาติ ในชาติใกล้ๆที่บางชาติท่านมิได้อยู่ด้วยกัน เป็นสามีภรรยาก่อนคนอื่น แต่ผู้อื่นที่ไม่ใช้คู่บารมีแท้ๆสามารถอยู่กับท่านก่อนได้ และชาติที่ท่านไ่ม่ได้กล่าวถึงมีอีกกี่ชาติในกาลก่อนที่ท่านมิได้กล่าวไว้ในพระไตรปิฎกว่าท่านมิได้อยู่ด้วยกัน เรื่องอจินไตยพวกนี้ผมไม่มีความเห็นครับ แต่นำมาลงเพื่อแบ่งปันให้ความรู้กับพุทธภูมิทุกท่านได้อ่าน และนำไปขบคิดด้วยปัญญาของตัวท่านเอง เรื่องที่เราไม่ทราบยังมีอีกแยอะครับ ค่อยๆศึกษากันไปนะครับ ขอพุุทธภูมิและนางแก้วทุกท่านเจริญในธรรม และไปถึงที่หมายตามกำลัง,ตามเหตุ,ตามปัจจัย หากมีสิ่งใดที่ผมจะรับใช้ช่วยเหลือได้ ด้วยความยินดีและเต็มใจครับ ชาดกพวกนี้คิดว่าคุณน้ำใสอ่านมาบ้างหรืออาจจะทั้งหมดครับ โมทนากับทุกท่านครับ

 

ขอบพระคุณที่นำมาเป็นความรู้ค่ะ

โมทนาสาธุทั้งหมดทั้งมวล ข้าพเจ้ายังด้อยอยู่มาก เรื่องที่ไม่รู้ก็ยังมีอีกมากเช่นกัน

 

ข้อ7

จากคำถามข้อที่ 7 ยังมีคำตอบที่ผิดอยู่เมื่อพระโพธิสัตว์ได้รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้ว ย่อมได้ชื่อว่าเป็น "พระนิยตโพธิสัตว์" เป็นผู้เที่ยงแท้ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลเบื้องหน้าย่อมไม่มีจิตที่คิดที่จะเลิกล้มการบำเพ็ญพระบารมี เพราะเป็นผู้ที่มีความหนักแน่นในคุณธรรมมีความปารถนาพุทธภูมิถึงพร้อมด้วยบารมี อภิญญาและฌานสมาบัติ พระพุทธเจ้าจึงกระทำพุทธพยากรณ์ ฉะนั้นพระนิยตโพธิสัตว์ย่อมไม่มีจิตคิดจะเลิกล้มการบำเพ็ญบารมี ถ้าหากจะเลิกล้มการบำเพ็ญบารมีจะมีเพียงแต่อนิยตโพธิสัตว์เท่านั้น

 

ไม่ทราบว่าความรู้พวกนี้แต่งขึ้นเอาเองหรือเปล่าครับ ไอ้พวกเรื่องนางแก้วอะไรเนี่ย เป็นเรื่องแต่งขึ้นมาเพื่อหลอกเอาผลประโยชน์อะไรจากแม่ยกหรือเปล่า เพราะผมไม่ได้สนใจศึกษาธรรมะหรือพุทธประวัติ เลยไม่ค่อยรู้หรอกว่าพวกนางแก้วมีจริงหรือเปล่า แต่เท่าที่อ่านจากคำถามตอบ มันไม่ค่อยสมเหตุสมผล ความรู้ผมยังน้อยช่วยแนะนำแหล่งข้อมูลที่อ่านได้หรือส่งเนื้อหาต่างๆที่อ้างอิงให้ผมหน่อยครับ ขอบคุณครับ

 

ท่านครับ
ผมเคยอ่านพระไตรปิฎกตอนหนึ่งฉบับที่เป็นใบลานแบบกัณฑ์เทศน์พระ มีเนื้อความเรื่องนางแก้ว ม้าแก้ว ช้างแก้ว ด้วยนะครับตอนที่พระพุทธเจ้าท่านยังบำเพ็ญบารมีอยู่^-^ฯลฯ.......

 

สาธุครับ

ความเห็นส่วนตัว เห็นว่านางแก้วควรตามติดติดตามพระโพธิสัตว์ไปตลอดน่ะ

ครับ ทำถูกก็ได้ไปด้วยกัน ทำผิดก็ได้ไปด้วยกัน ศรัทธา ศีล ปัญญา จา

คะ จะได้เสมอกัน ทุกๆๆชาติ

 

[FONT=&quot]เนสา[/FONT][FONT=&quot] สภา ยตฺถ น สนฺติ สนฺโต

[/FONT]​

[FONT=&quot]สัตตบุรุษ ไม่มีในชุมนุมใด ชุมนุมนั้นไม่ชื่อว่าสภา[/FONT]
​

การบำเพ็ญนางแก้ว-คู่บารมีพระโพธิสัตว์

ตอบ...ถ้าอยากรู้เรื่องนี้ ให้ไปศึกษาในพระไตรปิฏก ในเรื่องของ พระนางพิมพา หรือยโสธรา มหาเถรี ท่านตรัสรู้ธรรมแบบรวดเร็วจัด หลังจากคำตรัสประโยคสั้นๆ ของพระพุทธองค์จบลง ที่ทรงสอนว่า "จะหาความแน่นอนอะไรได้อีกเล่า" ในประวัติ จะมีมากมายหลายตอน ทั้งตอนบำเพ็ญบารมีเป็นสัตว์ เป็นมนุษย์ เป็นเทพฯ นี้คือเรื่องจริง ของจริงๆ ไม่ต้องมานั่งคาดเดา เดี๋ยวจะเป็นเวร เป็นกรรมไปเสียป่าวๆ จ้า...

ส่วนวิธีบูชานางแก้ว(พระนางพิมพา ยโสธรา มหาเถรี) ให้สวดพาหุง 108 จบ หลังจากสวดนะโมสามจบ สวดถวยพรพระ(อิติปิโส) เสร็จแล้วจ้า...

พาหุงสะหัส สะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
ครีเมขะลัง อุทิตะโฆ ระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ​