การปฏิบัติจิตใจตนให้เข้าสู่บันไดพระนิพพาน

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย picko, 27 กรกฎาคม 2017.

  1. picko

    picko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2014
    โพสต์:
    635
    กระทู้เรื่องเด่น:
    97
    ค่าพลัง:
    +2,126
    การปฏิบัติจิตใจตนให้เข้าสู่บันไดพระนิพพาน


    1484873469.jpg

    การปฏิบัติจิตใจตน ให้เข้าสู่บันไดพระนิพพานได้นั้น มีอยู่ ๕ ขั้นคือ “นิโรธ” นั้นเอง

    ขั้นที่ ๑ คือละเว้น


    ขั้นที่ ๒ คือปล่อยวาง



    ขั้นที่ ๓ คือให้ส่งคืน



    ขั้นที่ ๔ คืออย่าอาลัยในสิ่งเหล่านั้น



    ขั้นที่ ๕ คือให้ทำจิตให้ว่าง วางเฉยเสีย



    ห้าขั้นนี้เป็นบันไดเข้าสู่พระนิพพาน ให้จิตใจเราผู้ปฏิบัติขึ้นตามสายทางบันไดดังที่กล่าวมานี้ ถึงจะเป็นบันไดทางพระนิพพานโดยถูกต้อง ถ้าเราละเว้นไม่ได้ ก็จะเหยียบบันไดพระนิพพานผิดไป ไม่ถูกทางนะท่านชาย-หญิง ให้เราเดินไปตามบันได 5 ขั้นที่กล่าวมานี้ไม่ผิด พอเราขึ้นถึงบันได 5 ขั้นได้แล้ว ก็ถึงประตูพระนิพพานที่ปิดอยู่ 3 ขั้น ให้ผู้ปฏิบัติชาย-หญิงให้ทำจิตใจให้เข้าสู่วิมุตติ-วิมุตติญาณต่อ ๆ ไป ประตูพระนิพพานถึงจะเปิดออก ให้รับเอาจิตใจของผู้ปฏิบัติชาย-หญิง ให้เข้าสู่พระนิพพานไปได้โดยสมบูรณ์ฯ


    ประตูที่ 1 คือทำจิตใจของตน ให้เข้าสู่ความว่างวางเฉยให้ได้ ประตูพระนิพพานที่หนึ่งจะเปิดออกรับเอง


    ประตูที่ 2 คือตาเห็นเราก็รู้ หูได้ยินเราก็รู้ อะไร ๆ เราก็รู้ ให้วางเฉยเสีย ที่ปราศจากอารมณ์ทั้งปวงได้แล้ว ประตูพระนิพพานที่สองก็จะเปิดรับท่านผู้ปฏิบัติโดยอัตโนมัติ
    ประตูที่ 3 คือยกจิตใจเราเข้าสู่สิ่งไม่มีให้ได้เป็นเด็ดขาด แล้วประตูที่สามก็จะเปิดรับท่านผู้ปฏิบัติชาย-หญิงเองเช่นกัน

    ผู้ปฏิบัตินั้นก็จะมองเห็นฝั่งพระนิพพานได้ชัดเจน รู้ทางพระนิพพานได้เป็นแน่นอนไม่มีการหลอกลวงประชาชนแต่อย่างใด นี่เป็นผู้เข้าถึงทางพระนิพพาน 1 แล้ว แต่ก็ยังต้องอาศัยธาตุกายสังขารและเบญจขันธ์อยู่ในโลกนี้ ยังสั่งสอนศีล-สมาธิ ปัญญา อันเป็นทางมรรค-ผล-นิพพานของพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ท่านวางไว้ ให้แก่พระภิกษุ-สามเณร-ชี-พราหมณ์-อุบาสก-อุบาสิกา ที่ท่านจะมานะภายหลัง จะได้ยิน จะได้ฟัง จะได้รู้ทางศาสนาศีล-สมาธิ-ปัญญา มรรค-ผล-นิพพานกันบ้าง ก็เพราะผู้ปฏิบัติจิตใจตน ให้เข้าถึงพระนิพพานหนึ่งได้แล้วเท่านั้น ถึงจะรู้ทางมรรค-ผล-นิพพานได้ นอกจากนั้นหารู้ได้ไม่ฯ

    ต่อไปนี้เป็นนิพพาน 2 จะข้ามฟากหนีจากบ่วงมารข้ามจากภพทั้งสามต่อไป จะเข้าสู่นิพานสองถึงเวลาเสบียงชีวิตสังขารเขาหมดอายุของเขาแล้ว จิตใจเราก็จะต้องละจากเบญจขันธ์ คือให้ละจากรูป-เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ ที่ท่องเที่ยวอยู่ในภพทั้งสามนี้ ละสัญญาอุปาทานที่อยู่ในรูปและเสียง ให้จิตใจของเราให้ขาดจากสัญญาความผูกพันอยู่ให้สิ้นไป ทำจิตใจให้เบิกบาน ให้สว่างแจ่มแจ้ง คือยึดเอาคุณพระรัตนตรัย ว่าเป็นสรณะที่พึ่ง ให้ยึดเอาพระนิพพานมาเป็นอารมณ์ นิพพานแปลว่า สุขที่ปราศจากอามิสทั้งปวง เราจะอยู่ในโลกนี้ได้ แต่เพียงวินาทีเดียวเท่านั้น เรียกว่า “นิพพานัง ปรมัง สุขัง” สุขอื่นใดจะยิ่งกว่าพระนิพพานนั้นย่อมไม่มี เรียกว่านิพพานสอง ดับทั้งธาตุดับทั้งเบญจขันธ์ ไม่กลับมาเวียนว่ายเกิดตายอีกต่อไป เรียกว่าจิตผู้ปฏิบัติชาย-หญิงเข้าสู่พระนิพพานไปแล้ว มิได้อาศัยบุญบารมีแต่อย่างใด อาศัยศีล-สมาธิ-ปัญญา อันเป็นทางมรรค-ผล-นิพพานของพระพุทธเจ้า ที่พระพุทธองค์ทรงวางสายทางไว้ให้แล้ว ให้ผู้ปฏิบัติเดินตามไป จนถึงซึ่งปรินิพพานไปได้ทุกๆ ท่านไม่ว่าท่านชายและท่านหญิง ถ้ามีความจริงใจแล้วก็ไปได้ทุก ๆ ท่าน จบศีล-สมาธิ-ปัญญา มรรค-ผล-นิพพาน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่เพียงเท่านี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...