"การส่งบุญให้ดวงวิญญาณ จากผลบุญของทาน ‪‎ศีล ‪ภาวนา"

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 7 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    "การส่งบุญให้ดวงวิญญาณ จากผลบุญของทาน ‪‎ศีล ‪ภาวนา"

    ‪‎ผลบุญชั้นทาน.คือ การใส่บาตร ถวายอาหารพระ กฐิน ผ้าป่า คือที่เป็นวัตถุทานทั้งหลายนั่นแหละ ชาวพุทธชอบทำกันมาก ผลบุญชั้นทานนี้จะไปปรากฏในสวรรค์ชั้น 1 คือจาตุมหาราชิกา เท่านั้น เพราะเป็นอามิสบูชา บุญชั้นทานที่มีพลังมากที่พอรู้มาขอเรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้
    ๑.อภัยทาน (ใช้ใจอย่างเดียวไม่ได้ใช้เงินหรือวัตถุใดๆ)
    ๒.ธรรมทาน (ให้ธรรมะผู้อื่น เช่น หนังสือ CD เทป ธรรมะ หรือการเขียนบทความธรรมะ หรือเทศนาธรรมเรื่องต่างๆ เพื่อนำไปแจก หรือเผยแผ่ผ่านสื่อออนไลน์)
    ๓.วิหารทาน (สร้างสิ่งก่อสร้างในพุทธศาสนารวมถึงพระพุทธรูป)
    ๔.สังฆทาน (คือถวายอาหาร สิ่งของ เครื่องใช้ กับหมู่สงฆ์ (๔ รูป ขึ้นไป) รวมถึงที่เราใส่บาตรตอนเช้า โดยไม่คิดจำเพาะเจาะจงพระสงฆ์องค์ใดด้วย)
    บุญชั้นทานนี้เมื่ออุทิศผลบุญให้กับผีเปรต อสุรกาย สัมภเวสี หรือดวงวิญญานทั้งหลายทั่วไป เขาจะรับผลบุญอุทิศได้เต็มที่ แต่พลังบุญยังไม่มาก เหมือนเราเปิดน้ำจากก๊อกให้ค่อยๆไหลหยดลงมา มดแมลงพอจะกินได้ไม่เกิดอันตราย

    ‪‎ผลบุญชั้นศีล....คือบุญที่เกิดจากการตั้งใจรักษาศีล สำหรับคนธรรมดาศีล 5หรือศีล 8 ตามสะดวกก็เพียงพอแล้ว ศีลคือสิ่งที่ทำให้ดวงใจของมนุษย์สะอาดพลังบุญของศีลจึงมีพลังมากกว่าบุญชั้นทาน บางคนอ้างอีกไม่มีเวลาถือศีล งานยุ่ง อันนี้เป็นข้อแก้ตัวถือศีลไม่ได้แบกหามศีล เรากำหนดขึ้นมาในใจเองได้ว่าเราจะพยายามถือศีลไม่ต้องไปขอพระหรอก เพราะศีลเป็นของกลางใครจะทำก็ตั้งใจเอาเอง เราทำงานใช้ชีวิตประจำวันปกติเช่นพอเราทำงานไปยุงมันกัด เราจะตบก็รีบคิดทันทีอย่าผิดศีลข้อ ๑ เราก็เปลี่ยนเป็นเป่าลมไล่มันไป พอทำบ่อยๆ จะชินไปเองใหม่ๆ ก็เผลอบ้างพร่องบ้างธรรมดา พอเริ่มชินจิตมันจะยั้งเราเอง แต่ถ้าจำเป็นต้องทำ เราจะรู้สึกฝืนใจมากเพราะรู้ว่าผิดศีล ท่านรู้ไหมบุญศีลนี้ยิ่งใหญ่กว่าเราสร้างโบสถ์ทั้งหลังอีก เพราะมันเป็นความสะอาดของจิต คนบริจาคเงินสร้างโบสถ์ทั้งหลังแต่ใจเขามีแต่กิเลสรักโลภโกรธหลงดวงจิตเขาไม่ใส บุญจึงดูกันที่ความใสสะอาดของดวงจิต ไม่ใช่เงิน

    ทุกวันนี้ การทำบุญในพิธีการต่างๆ เห็นขอศีล ๕ กันก่อนเป็นประเพณี บางทีเช้าขอศีล ถวายเพลพระก็ขอศีล สวดมนต์เย็นก็ขอศีล หลอกขอศีลพระกันเล่น ขอแล้วก็ไม่เอาไปปฏิบัติเอาแต่ประเพณีพิธีการ เมื่อใจไม่คิดนำไปปฏิบัติ ต่อให้ขอศีลพระ ๑๐๐ ครั้งก็ไม่เกิดบุญศีลได้ แถมผิดศีลข้อมุสาคือโกหกขอศีลพระได้บาปอีก นี่แหละชาวพุทธจำนวนมากเป็นอย่างนี้จริงไหม?

    บุญศีล มีพลังมากกว่า บุญชั้นทาน
    เหมือนเปิดก๊อกน้ำจากที่หยดทีละหยดมาเป็นไหลแรงขึ้นมดแมลงสัตว์ตัวน้อยๆ ก็ไม่สามารถเข้าไปกินน้ำได้ แต่นก แมว หนู สุนัข ยังสามารถกินน้ำได้ ดังนั้นบุญศีลนี้ เทวดา ยักษ์ นาค คนธรรพ์ กุมภัณฑ์ ครุฑ กินรี เขารับได้สบายมาก แต่ผีเปรต อสุรกาย สัมภเวสี มีพลังในการรับน้อยไม่สามารถรับได้
    ถ้าเราต้องการอุทิศบุญศีลให้วิญญาณในภูมิต่ำที่ลำบากขอให้อธิษฐานแปลงผลบุญอุทิศ เช่น ขณะเรายังประคองศีลอยู่ในใจบุญจะยังคงอยู่ที่จิตเรา ตัวเราไม่ต้องเบิกบุญ ให้อธิษฐานว่า
    “ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์โปรดดลบันดาลให้บุญจากการรักษาศีลของข้าพเจ้า จงเปลี่ยนเป็นอาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัยให้กับญาติของข้าพเจ้า” เท่านี้วิญญาณที่เราอุทิศให้เขาได้รับเต็มที่ ถ้าเราอุทิศบุญศีลให้กับวิญญาณในภูมิต่ำที่ลำบากก็เปรียบเหมือนเอาเงินให้สุนัขไว้ซื้ออาหารกินเอง สุนัขก็คงได้แต่นั่งมองเงินดมดูแล้วกินไม่ได้ เราต้องนำเงินนั้นไปซื้ออาหารสุนัขนำมาใส่จานให้ เท่านี้เองสุนัขก็ได้อิ่มแล้ว

    บุญภาวนา เป็นบุญที่มีพลังมากสุด ภาวนายังแยกอีกเป็นสมาธิ (สมถะ) กับวิปัสสนา บุญสูงสุดคือบุญจากการวิปัสสนา พิจารณาการเกิดแก่เจ็บตาย สังขาร รูปนาม บุญวิปัสสนานี้พระกรรมฐานท่านจะมีมาก ส่วนคนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆก็ยังคงใช้แค่สมาธิเป็นหลัก ส่วนวิปัสสนานั้นใครปฏิบัติได้ก็อนุโมทนา สาธุ ด้วยอย่างยิ่ง

    บุญสมาธิ คือการทำจิตให้สงบว่างจากกิเลส แต่มิได้เกิดปัญญา บุญภาวนาสมาธินี้ถ้าผู้ใดปฏิบัติอยู่บุญนี้จะลอยขึ้นไปเก็บรอผู้ปฏิบัติอยู่ที่พรหมโลกชั้นต่างๆ ตามกำลังของฌานสมาธิ

    บุญวิปัสสนา ถ้าผู้ใดปฏิบัติ บุญนี้จะขึ้นไปรอผู้ปฏิบัติอยู่ในชั้นพรหมชั้นสูงกว่าบุญสมาธิอีก ผู้ปฏิบัติบางท่านรู้ถึงผลบุญของการปฏิบัติ เมื่อเขาหมดอายุกำลังจะสิ้นใจเขาจะรีบกำหนดจิตเข้าสมาธิหรือวิปัสสนา ทิ้งร่างมนุษย์สกปรกนี้ไปสู่พรหมโลกชั้นต่างๆ ตามกำลังของสมาธิหรือวิปัสสนา ท่านใดต้องการเป็นพรหมก็เตรียมฝึกจิตซ้อมตายไว้เป็นประจำ พอถึงเวลาจริงของแต่ละคนก็จะสามารถไปสู่พรหมได้

    ผู้เขียนเคยติดต่อกับดวงวิญญาณของหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า ปรากฏว่าท่านเป็นพรหม แสดงว่าตอนจะสิ้นใจหลวงปู่รีบเข้าสมาธิจิตจึงออกจากร่างขึ้นสู่พรหมโลก วิมานจตุรมุขสวยงามมีสระน้ำมีสวนด้วยหลวงปู่ศุขท่านช่างพูดคุยเก่ง ท่านบอกท่านเหงา พรหมวิมานไหนก็พากันนั่งสมาธิวิปัสสนาเงียบ ท่านเองก็ทำแต่พอออกมาเดินเล่นหาเพื่อนคุยไม่ค่อยได้ พอมีผู้ที่ได้มโนมยิทธิเต็มกำลังขึ้นไปกราบ ท่านเลยชวนคุยด้วยพอหายเหงา ท่านยังเสกใบไม้ในสวนที่วิมานท่านเป็นต่อแตนให้ดูว่าตอนท่านอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านเคยทำอย่างนี้ บุญภาวนาถ้านั่งภาวนาเสร็จแล้ว อุทิศออกพลังก็เหมือนกับฉีดน้ำจากรถดับเพลิง พลังงานมาก ผู้ที่รับบุญภาวนาได้เต็มที่คือพรหม ถ้าเราต้องการอุทิศบุญภาวนาให้กับเทวดาหรือวิญญาณที่ลำบากเราต้องอธิษฐานแปลงบุญก่อนเช่น
    “ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์โปรดดลบันดาลให้บุญจากการภาวนาของข้าพเจ้า จงเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ญาติของข้าพเจ้าต้องการ เมื่อญาติของข้าพเจ้าได้รับบุญนี้ จงอธิษฐานเป็นสิ่งที่ต้องการเองเถิด”

    คำอธิษฐานที่เขียนนี้ท่านใดต้องการนำไปใช้ให้ตรงตามเจตนาของท่านให้ดัดแปลงคำอธิษฐานเอาเองได้ แต่ต้องไม่ลืมขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ทุกครั้ง เพราะพลังของเราน้อย จึงต้องขอพลังที่ยิ่งใหญ่และสูงส่งที่สุดในจักรวาล คือพลังบารมีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นพลังช่วยเราในการอุทิศบุญ เบิกบุญ ส่งให้ผู้อยู่ในโลกวิญญาณภพภูมิต่างๆ

    ขอให้ท่านทั้งหลายช่วยกันส่งต่อไปยังผู้ที่เขาไม่รู้ให้ได้รู้ตามเถิด จะเกิดผลดีนักแล บุญนี้จะเป็นสติปัญญาให้แก่ท่าน เพื่อให้ไม่หลงตาย ก่อนชีวายวาส เพราะเป็นปัญญาคือสติ สติคือปัญญา สองสิ่งนี้จะอยู่ด้วยกันเสมอ แม้ในปัจจุบันชาตินี้ ท่านก็จักเป็นผู้มีใจปลอดโปร่งโล่งเบา จากความหดหู่เศร้าหมอง ทุกข์ร้อนใจไปได้ สะสมใว้มากๆ หากจะเป็นทุนช่วยให้เราพ้นทุกข์ได้ไม่ยาก เพราะให้ธรรมเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง ดังนี้แล.

    บทความโดยผู้มีประสบการณ์ตรง

    (คนธรรมดา)

    เครดิต เฟสบุ้ค การเกิดเป็นทุกข์อย่างยิ่ง เดินทางสู่ความว่างแห่งปัญญา
     
  2. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ตามตำรา ของอดีตหลวงพ่อเกษม วัดสามแยก...ท่านก็ได้เคย แจกแจง การ อุทิศบุญ...โดยละเอียด และใช้ได้ ตรงและถูกต้อง...นะครับ...ผมก็ใช้วิธีของ อดีตหลวงพ่อเกษม มาก่อน...จน.คล่อง.จน พัฒนามาเป็นอุทิศได้ด้วยใจ..โดยตรง...ด้วยใจที่ ง่ายๆตรงๆ ไม่ต้องพิธีรีตอง...แต่อย่างใด
     
  3. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ด้วยอำนาจของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงบันดาลให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้า..(นาย นาง.........ชื่อ สกุล)..ได้เคยทำมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน บุญกุศลนี้...จงถึงแก่....(แยกเหล่า แยกภพ หรือเจาะจง เป็นรายๆไป ไม่รวม) เช่น ถึงแก่ เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ข้าพเจ้า...เป็นอย่างนั้น...อย่างนี้..เมื่อ..เจ้ากรรมนายเวรนี้ไดรับบุญกุศลที่ข้าพเจ้า อุทิศให้ ขอให้เจ้ากรรมนายเวรจง..พ้นทุกข์ พ้นเวรกรรม ไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้น...ก็ว่าไป ตามเจตนาที่เรา อยากให้บุญกุศลที่เราให้ จะแปลงเป็น อะไร...อาหาร เสื้อผ้า วิมาน บริวาร เปลี่ยนภพภูมิ...ก็ว่าไปครับ...

    ที่สำคัญ..เราต้อง อุทิศแบบนี้ เป็นรายๆไปครับ..รวมกันไม่ได้..เพราะ คนละภูมิ กัน....ต้องอุทิศ แบบเจาะจง ไปครับ
     
  4. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    แรกๆอุทิศที...ทั้งวัน...อิอิ เช่น อุทิศให้แก่เทวดาที่..ปกปักรักษา คนคนนั้น..แล้วให้เทวดานั่นมีฤทธิ์ปกป้องดูแล คนคนนั้นอีกที ครับ
     
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เดี๋ยวนี้...ใช้ใจ เลยครับ...เปลี่ยนภพภูมิ ให้เขา โดย ใช้ใจกำหนด ให้เขาไส่ชุดขาว นั่งบนดอกบัวสีขาว...นั่งสงบๆยิ้ม สดใส สว่าง...เข้าดอกบัว แสง ไปเลย...ยกเว้น ผี บางตัวที่ มันต้อง ซ่อมแซม...รูปนาม เพิ่มปัญญา..หรือสอนธรรม..เสริมเข้าไปอีก......การแก้ไข..มันต้องรู้เทคนิค ครับ...ว่า เขาติดกรรม มาถ่วง มาดึง...แค่ไหน...บางผี ต้องช่งยไปถึง เจ้ากรรมนายเวร ของผีไปด้วย...ต้องช่วยให้เขาพ้น จากกัน ให้ได้...ด้วย...ไม่งั้น จะดึงกัน..เอาไว้..
     
  6. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เดี๋ยวนี้...ใช้ใจ เลยครับ...เปลี่ยนภพภูมิ ให้เขา โดย ใช้ใจกำหนด ให้เขาไส่ชุดขาว นั่งบนดอกบัวสีขาว...นั่งสงบๆยิ้ม สดใส สว่าง...เข้าดอกบัว แสง ไปเลย...ยกเว้น ผี บางตัวที่ มันต้อง ซ่อมแซม...รูปนาม เพิ่มปัญญา..หรือสอนธรรม..เสริมเข้าไปอีก......การแก้ไข..มันต้องรู้เทคนิค ครับ...ว่า เขาติดกรรม มาถ่วง มาดึง...แค่ไหน...บางผี ต้องช่วยไปถึง เจ้ากรรมนายเวร ของผีไปด้วย...ต้องช่วยให้เขาพ้น จากกัน ให้ได้...ด้วย...ไม่งั้น จะดึงกัน..เอาไว้..
     
  7. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    บางผีที่มีกรรมหนัก ที่ต้อง ชำระ ชดใช้....ในดอกบัว ถ้า ผีติดกรรมหนัก สามารถชำระ โดยการ..ถูกไฟเผาร่างครับ...ต้องให้ผียอมรับ ชดใช้ มีความรับผิดชอบในกรรมที่ตนเคยทำมา...ต้องยินยอมและกำหนดจิต ให้รับการเผาด้วยไฟให้ได้เพื่อ...ชำระบาป ที่ติดตัว...ด้วยความเต็มใจ
     
  8. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    หรือ...อีกแบบ...คือ จิตของวิญญาณ มันมีภพ ในนั้น ตัวตนแต่ละภพเรียก...เจตสิก...มันก็แยกไป ชดใช้กรรม..ตาม กรรมตามภพตามตัวละครที่เคย สร้างมา...แต่จะมีกำลังใจ ขึ้น ในการ ชดใช้กรรมครับ...ด้วย สัมมาทิฐิ..ที่ยินยอม รับ ในสิ่งที่ตน เคยทำมาครับ....
     
  9. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เล่าไปแล้ว มันซับซ้อนครับ.....กรรม หรือ ความคิด...มันคือโลกของจิต นั่นเอง...มีผูกก็ต้องมีแก้...ละ วาง พ้น อโหสิกรรม...ต่อกัน..หมดพันธะ ต่อกันเพื่อ ความเป็น อิสระ...ต่อกัน....มันจึงเป็นการช่วย ที่...ต้องให้ถึงที่สุด คือพ้นจากกัน จะเป็นการดี...ครับ
     
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ดังนั้น การที่เรา หวังดี อยากช่วยใครหรือจิตวิญญาณ ทุกเหล่า ทุกภพภูมิ...จึงต้องช่วยทั้งเพิ่มปัญญา สอนสัมมาทิฐิ ให้เขา ละวาง ปล่อย พ้น จากกัน...ออกจากความยึดมั่นถือมั่น..ให้ได้ นั่นเอง
     
  11. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ดังนั้น...การช่วยใครก็แล้วแต่...ธรรม ปัญญา ของผู้ช่วย จึงสำคัญมาก ต่อจิตใจของผู้ที่ถูกช่วย...พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนว่า เมื่อทำบุญทำทานใหม่ๆ..ด้วยจิตที่ คลายความยึดมั่นถือมั่น..เป็นกลาง จึงเหมาะแก่การ อุทิศ แบบ...ทำสังฆทาน...คือ ไร้ความอยาก ไร้ตัวตน ของผู้ทำบุญ...มันจึงเป็นจิตที่ วางไว้..ดี..กลาง ละ วาง...นั่นเอง...เหล่าจิตที่รับ ใน บุญกุศล..จะรับรู้ ตรงนี้ด้วย..เรียนรู้ตามไปด้วย
     
  12. picko

    picko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2014
    โพสต์:
    635
    กระทู้เรื่องเด่น:
    97
    ค่าพลัง:
    +2,126
    บทความนี้มีประโยชน์มากๆค่ะ อนุโมทนา สาธุๆๆค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...