การอธิฐานจิตขณะยกมือไหว้พระพุทธรูป

เมื่อเราผ่านไปพบพระพุทธรูป พระพรหม หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใดๆ ตามสถานที่ต่างๆ ปกติก็จะยกมือไหว้กันแสดงความเคารพกัน

แต่อยากรู้ว่าเพื่อนๆ พี่ๆ อธิฐานจิตว่าอย่างไรกันหรือค่ะ
สำหรับหนู ก็ยกมือไหว้และคิดในใจว่ากราบนมัสการเจ้าค่ะ เลยไม่รู้ว่าเป็นการแสดงความเคารพที่ถูกรึเปล่า

และถ้าไม่ได้ยกมือไหว้แต่แสดงความเคารพในใจ (นั่งรถผ่านไปเร็วมั๊กๆ ไหว้มะทัน) จะเหมือนกับยกมือไหว้ไหมค่ะ

fairy3ลองแชร์กันหน่อยนะจ๊ะ

 

ไม่รู้จะตอบยังไงดีอ่ะ ก็เลยไปหามาให้อ่าน เผื่อใช้ได้

การอธิษฐานจิตเป็นสิ่งที่ดี เพราะในอดีตผู้ที่ปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ หรือต้องการเป็นพระพุทธเจ้าล้วนอธิษฐานกันทั้งนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่เรามีโอกาสแปลความหมายผิดได้คือเราอาจไม่สามารถสื่อถึงท่านได้ แล้วเรามาแปลว่าท่านไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด (ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เข้าใจไปว่าคุณยังไม่เก่งนะคะ) เคยได้ยินคนเขาพูดว่าเมื่อเราทำความดี จิตของเราก็คือจิตของพระ เมื่อเรามีเมตตา (พรหมวิหาร 4)นั่นคือเราได้เข้าถึงจิตของพรหม และ
หากเรามีจิตที่รักมนุษย์ต้องการช่วยเหลือให้เพื่อนมนุษย์มีความสุข เราก็เข้าถึงจิตของพระผู้เป็นเจ้า ตรงนี้ขอเสนอว่าให้คนที่ท่านนับถือและมีความบริสุทธิ์เพียงพอคือไม่มีความลำเอียง และมีจิตที่เป็นมิตร หรือบางทีคุณเองอาจมีคำตอบมาบอกชาวลานธรรมที่เกินความคาดหมายก็ได้ ขอเอาใจช่วย
(เรื่องของจิตใจเป็นเรื่องที่เป็นอจินไตย คนที่เข้าถึงก็สามารถรู้เห็นอะไรที่บอกใครๆเขาก็ไม่เข้าใจ อย่างตัวเองมีเหตุให้ฝันถึงแต่พระ เช่น พระศรีอริยะเมตรัย ทั้งๆที่ไม่รู้จักท่านว่าเป็นใคร และฝันถึงการทำพิธีทางคริสต์ และเข้าฟังศาสนพิธี ในบรรยากาศที่สวยสดงดงาม แต่งตัวในชุดไทยบ้างชุดโบราณบ้าง รวมทั้งฝันถึงสมเด็จพระสังฆราช แต่ไม่ทราบว่าเป็นองค์ปัจจุบันหรือเปล่าไม่เคยรู้จักหรือเห็นภาพท่านมาก่อน กำลังจะไปหาดูภาพจากบ้านเพื่อน ทุกครั้งที่ฝันจะเป็นตอนเช้ามือ ราวตี 4-ตี 5 หลังจากฝันก็คือตื่นเลย และยังมีการฝันถึงอีกหลายๆท่านไม่สามารถบอกได้ทั้งหมด ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาด หรือเหลวไหล เพราะขณะฝันเรายังมีสติทุกประการ อาจารย์บอกว่าฝันก็ให้สักแต่ว่าฝัน เราควรพิจารณาดูว่าฝันแล้วได้ข้อคิดอะไรหรือเปล่า )

http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/001133.htm

 

การทำความเคารพสามารถแสดงออกได้ ๓ รูปแบบ คือ

ทางกายกรรม คือการแสดงความเคารพที่แสดงออกทางกายเช่น ยกมือไหว้ คำนับ ยืนตรง ถอนสายบัว เป็นต้น

ทางวจีกรรม คือการแสดงความเคารพที่แสดงออกทางวาจาเช่น สวัสดีครับ สวัสดีคะ นมัสการ หรือคำพูดที่สุภาพให้เกียรติอื่นๆ

ทางมโนกรรม คือการแสดงความเคารพที่แสดงออกทางใจเช่น คิดน้อบน้อมเลื่อมใส ศรัทธา ไม่คิดลบหลู่ดูหมิ่นเหยียดหยาม

ดังนั้นการที่คุณยกมือไหว้พระหรือรูปแทนตัวสิ่งศักดิสิทธิ์ต่างๆแล้วนึกในใจว่า นมัสการเจ้าคะ หากใจเลื่อมใสศรัทธาก็เป็นการแสดงความเคารพครับ หรือแม้นยกมือไหว้ไม่ทันก็นึกในใจหรือให้เกิดภาพในใจว่าเรากำลังไหว้ท่านเหล่านั้นก็เป็นการแสดงความเคารพเช่นกัน

แต่มีบางครั้งคนเราแสดงความเคารพก็เพราะเพียงมารยาททางสังคมก็มี เช่นลูกน้องเกลียดเจ้านายที่ไม่ยุติธรรม หรือคนผู้นั้นมิอิทธิพล ผู้คนไหว้เคารพโดยที่ใจไม่นิยมชมชื่นศรัทธาด้วยก็เป็นเพียงแค่มารยาท เพราะหากหลีกเลี่ยงได้เขาก็ไม่อยากเข้าใกล้ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ทำแต่พอเป็นมารยาททางสังคมเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันตัวให้ผู้นั้นเห็นว่าเราไม่กระด้างกระเดื่องหรือไม่ให้เกิดผูกพยาบาทในภายหลัง

 

ถ้าไหว้ทัน ก็อาจจะกล่าวคำบูชา ไปด้วยก็ได้ พุทธบูชา มหาเตชะวันโต
หากเป็นรูปอริยะสงฆ์ ก็ ว่า สังฆบูชา มหาโภคะวโห ดังนี้

รถวิ่งเร็วมาก ๆ หรือขณะขับรถผ่านและไม่มีมือที่จะยกไหว้
ก็กำหนดจิตรวมลง เสมือนเราได้ยกมือไหว้ก็ได้
จิตคารวะนั้นสำคัญที่สุด

หากมีเวลา ลงไปไหว้ ก็สวด อิติปิโสบูชา เป็นการบูชาพระพุทธคุณ รวม ๆ
การอธิษฐานจิต ด้วยข้อความสั้นที่สุด คือขอให้มีดวงตาเห็นธรรม
มีเวลา ก็อธิษฐานยาว ๆ ได้ตามความเหมาะกับเวลา

ควรเขียนคำอธิษฐานเฉพาะตนเองไว้ก่อน จะทำให้เราได้กลั่นกรองความคิดไว้ ไม่สับสน หากอธิษฐานจิตบ่อย ๆ หลายๆ ครั้งหลังการไหว้พระทำบุญ ก็จะมีพลังมากขึ้น

 

สาธุครับ
ของผม ใช้ สั้นๆเลย
พระพุทธ ---"นะโมพุทธายะ
พระธรรม ---"นะโมธัมมายะ
พระสงฆ์ ---"นะโมสังฆายะ

 

ขอบพระคุณทุกคำแนะนำเจ้าค่ะ

 

จงอธิฐานเถิด หากจิตยังไหวหวั่นยังง่อนแง่น จงอธิฐานเถิดเพื่อก่อสร้างกำลังแห่งจิตให้เข้มแข็ง จงอธิฐานเถิดเพื่อสร้างพลังแห่งธรรมเพื่อทำรายพลังแห่งมารในจิต ให้พินาจสิ้น เมื่อใดจิตมั่นคงต่อตรัยรัตน์แล้ว เมื่อนั้นอธิฐานจะดับมอดไปเอง สาธุ

 

ถ้าไม่ได้ยกมือไห้ว แต่กราบด้วยใจ ก็มีผลเหมือนกัน