การเข้าถึง ฌาณ 4 ต้องรู้สึกตามขั้นตอนเหล่านี้ทุกครั้งไหมครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย bankcs16, 1 มิถุนายน 2009.

  1. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,842
    เป็นคำตอบที่โดนใจมากๆ สาธุ, :cool:
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ผมว่าถึงถ้าเคยถึงฐานอารมย์นี้แล้ว...เรื่องแบบที่ตั้งคำถามมานี้จะไม่มีความสงสัยหรอกครับ
    จะไม่ไปสนใจอาการต่างๆ..ก่อนถึงฐานอารมย์นั้นหรอก....
    แต่ที่สำคัญ..ให้เค้าพิจารณาภายในร่างกายให้หมดก่อนนะครับ..จนเค้านิ่งจริงๆ..ไม่ใช้พอมีสติ(ทางวิมุติ)หน่อยหนึ่งแล้วจะไปเที่ยวเล่นที่โน้นที่นี้ อาจจะกลายเป็นมิจฉาสมาธิได้โดยไม่รู้ตัว..
    ปล.ถ้าเปรียบ ญาน 4 เหมือน กม.ที่4 อารมย์ที่ปรากฏต่าง ก็เหมือนสิ่งที่มองเห็นอยู่ข้างทาง มัวแต่ไปยึดไปติด ดูข้างทางอยู่ก็ยังเดินไม่ถึง กม.4 คนที่ไป กม.4 ประจำ จะไม่มามองข้างทางระหว่าง กม. 1- 3 หรอกครับ เพืยงแต่ว่า สักแต่ว่ามอง สักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่ารู้ เท่านั้น ....
    อนุโมทนานะครับ...
     
  3. yodaji

    yodaji Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +65
    ผมเข้าใจว่าบางคนมีกำลังสติแจ่มชัดก็จะสังเกตุรายละเอียดต่างๆ ไำด้ชัดเจนตามลำดับขั้นตอน แต่บางคนก็ไม่ได้กำหนดว่าถึงขั้นไหนเป็นอย่างไรเพราะจิตพาไปรวดเดียว มีสติระลึกรู้ก็เจอสภาวะว่างๆ ใน ขณะที่จิตสงบเป็นเอกัตคตารมณ์ ไม่รู้สึกถึงลมหายใจและสัมผัสจากภายนอกเงียบไปหมด จริงๆแล้วยังมีอยู่แต่เราละความสนใจไปเองโดยอัตโนมัติตามคุณลักษณะของสภาวะธรรมที่เข้าถึง เหมือนไฟย่อมมีัลักษณะร้อน ประมาณนั้นละครับ จนกระทิ่งจิตอิ่มตัว ก็จะคลายออกมาเอง เว้นแต่เราไปฝึกกับพระท่าน ท่านก็จะคอยกำกับคอยประคับประคองจิตช่วยให้นิ่งสงบเร็วขึ้นและออกจากสภาวะนั้นตามที่พระท่านกำหนดไว้
    ส่วนสภาวะอารมณ์หลังจากจิตคลายตัวจากองค์ฌาณ ขึ้นอยู่ว่าเรามีความสำรวมจิตมากน้อยเพียงใดครับ ถ้ายังสำรวมจิตและดำรงสติอยู่เป็นปกติทุกขณะจิต ก็น่าจะอยู่ได้นานพอสมควร แต่หากเลิกนั่งสมาธิแล้ว ใจกระโดดไปเกาะสิ่งแวดล้อมข้างนอกตัวหรือเผลอสติ ความสงบในใจก็จะเสื่อมเร็วและกลับมาวุ่นวายสับสนเหมือนเดิมครับ เหมือนบ้านที่เราต้องหมั่นปัดกวาดเช็ดถูบ่อยๆ ก็จะสะอาด แต่ถ้ากวาดถูจนสะอาดครั้งเดียวแล้วปล่อยทิ้งไว้ ไม่ขยันหมั่นทำความสะอาด อีกไม่นานก็จะกลับมาสกปรกเหมือนเดิมครับ
    ส่วนของผมไม่ไปถึงไหนแล้วครับ เสื่อมไปหมดแล้ว เพราะทั้งหมดนั้นเป็นโลกีย์ธรรม เกิดขึ้นได้ก็เสื่อมได้ครับ กว่าจะเข้าใจก็ต้องทุกข์ใจเพราะความอยากได้อยากมีอยากเป็นแบบนั้นอีกนานพอดูกว่าจะได้สติ ปัจจุบันหันมาเรียนรู้โดยใช้สติและปัญญาทำความเข้าใจสภาวะธรรมครับ จะนั่งสมาธิในยามต้องการพักผ่อนต้องการความสงบทางใจหรือต้องการใช้จิตที่สงบมาศึกษาธรรมมะที่เข้าใจยากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 มีนาคม 2011
  4. Junejuly

    Junejuly Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +38

    ดิฉันก็เคยนั่งจนมีอาการแบบนี้เหมือนกันค่ะ พอถึงจุดๆ ที่มันสงบมาก มองอะไรก็ไม่เห็นเพราะมืดมาก แต่สามารถได้ยินเสียงตัวเองพูดกับตัวเองในจิต เพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นก็จิตหลุดออกมาเลยค่ะ (ไม่น่าเลยเรา)....แต่หลังจากออกจากนั่งสมาธิแล้วรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย สดชื่นมากๆ เลยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 กันยายน 2011
  5. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ตามพระไตรปิฏกบอกไว้เลยคับเป็นไปตามจิงผมก็เคยเจอ เพียงแต่เราอาจผ่านอารณ์ไปเร็วในบางครั้งโดยไม่ทันจับให้ครบ ส่วนวิตกศีล วิจารในสมาธินั้นอยู่ในปฐมฌาน ฌานที่4คือจตุถฌาน อารมณ์เป็นอุเบกขานะคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2012
  6. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    เจริญวิปัสนากรรมฐานในกรรมฐาน40เลือกตามความถนัดของตน เดวท่านจะได้รู้เองเมื่อบรรลุฌาน และ มีสมาธิมากๆ ทุกอย่างจะชัดเจน ว่าเราอยู่ฌานไหน พูดไปไม่เข้าใจหรอก ต้องปฏิบัติเองคับ ยิ่งหมุนฌานคล่องๆแล้วจะได้รู้ว่าอภิญญามีจิงไหมด้วยตัวท่านเอง อภิญญา1มีจิง อภิญญา6ก็ย่อมมีจิง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2012
  7. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    [​IMG]
     
  8. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ผู้อิจฉา ย่อมมักหัวเราะผู้อื่นเป็นอย่างเดียว ศึกษาธรรมมาเยอะแต่ก็ไม่ได้ช่วยยกระดับสติปัญญาและจิตเลย อินทรบุตร
     
  9. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
  10. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    เลิกทําตัวตํ่ากว่าเดรฑีเถอะธรรมก็สดับมาเยอะแล้วนะคับ การกล่าวลบหลู่ผมกรรมอาจจะไม่หนักเท่าพระอรหัน แต่ผมก็เจริญกรรมฐานหมุนฌาน8ไปเกือบ100รอบไม่มาก จะแสวงหากรรมดูหรอคับอินทรบุตร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2012
  11. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    คนที่ไม่รู้ตัวคืออินทรบุตรมากกว่า ฌานยังไม่ได้แต่กับมาเที่ยวหัวเราะผู้อื่น ทําตนเป็นผู้เรื่องฌาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2012
  12. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    [​IMG] ถามพระอาจารย์ของคุณดูแล้วกัน
     
  13. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    พระอาจารย์ผมไม่สนทนากับ พวกทุศีล สำรวมกาย วาจา ใจไม่เป็นหรอกคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2012
  14. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    อินทรบุตร ภาวนามาจนแก่ อย่าได้อยู่อย่างเดียวคือหัวเราะเลย ให้คนอื่นสมเพชเปล่าๆ
     
  15. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    บุคคลไม่มีหิริโอตัปปะ นี่คุยด้วยยากจิงๆว่าไหมอินทรบุตร
     
  16. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ๏ สพฺพปาปสฺส อกรณํ
    กุสลสฺสูปสมฺปทา
    สจิตฺตปริโยทปนํ
    เอตํ พุทฺธานสาสนํฯ

    ๏ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง 1
    การบำเพ็ญแต่ความดี 1
    การทำจิตของตนให้ผ่องใส 1
    นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

    "ข้อที่บุคคลเห็นโทษโดยความเป็นโทษ แล้วทำคืนตามธรรม ถึงความสำรวมต่อไป นี้เป็นความเจริญในวินัยของพระอริยะ" (๑๓/๑๖๕) #ธรรมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...