การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 19 มิถุนายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Pelagia

    Pelagia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,198
    แล้วคนก็จะมานับถือวิทยาศาสตร์มากขึ้น :D
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,670
    ค่าพลัง:
    +51,947
    แล้ว นักวิทยาศาสตร์...จะก้าวมุ่งหนทางหลุดพ้นทุกข์
    ปฏิบัติตนฝนนิสัยตนเอง....ด้วยสัจจะ ทุกวัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. Pelagia

    Pelagia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,198
    ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย ไม่ว่าจะทางศาสนาหรือทางวิทยาศาสตร์ก็ไปในทางเดียวกัน ไม่ว่าคนจะนับถือศาสนาหรือไม่ก็ตาม ท้ายสุดก็ไปในที่เดียวกัน

    ถึงแม้ว่าคนจะนับถือศาสนาน้อยลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนทางที่จะไปจะลืมเลือนไป
     
  4. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ศาสนา ..ทดลองและพิสูจน์เห็นผลได้
    วิทยาศาสตร์..ทดลองและพิสูจน์เห็นผลได้
    แล้วต่างกันตรงไหน อยู่ที่ว่าเข้าใจหรือไม่ ค้นพบหรือไม่มากกว่า

    วิทยาศาสตร์อยู่ในศาสนา
    ศาสนาก็อยู่ในวิทยาศาสตร์
    ไม่ต่างกันเลย ...
     
  5. mawmee

    mawmee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +622
    ดันกระทู้ดีๆหน่อยค่ะ
     
  6. vijit_j

    vijit_j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +2,866
    [​IMG]

    ใครนะ..เอาแมวมาดัน

    ถ้าเอามาเดิน ก็จะเป็น Cat Walk
     
  7. Nantnapas P

    Nantnapas P เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +902
    55555 น่ารักจัง:z12

    ให้กำลังใจทุกท่านค่ะ(f)
     
  8. Nantnapas P

    Nantnapas P เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +902
    เราเอาเป็ดมาดันมั่ง บางคนดูแล้วอาจจะเลิกเซ็งเป็ดไปเลยย 555:VO
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. Nantnapas P

    Nantnapas P เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +902
    ไม่มีอะไรมาอัพเดทเลยเหรอคะ
    รออ่านอยู่อ่ะ
     
  10. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    เอาเพลงมาให้ฟังจะได้ไม่เหงาครับ ^^
    [ame]http://www.youtube.com/watch?v=bdM35ADkNwU&feature=related[/ame]
     
  11. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +1,870
    อนุโมทนา ครับ

    คิดคล้ายๆกันเรยยย

    แล้วนำมาเทียบเคียงกับ ไตรภูมิพระร่วง (ผิดถูกอย่างไร คุณ Chayutt ช่วยด้วยคับ)
    1. มิติที่ 1 ซึ่งเป็นมิติที่ต่ำที่สุด จะพบอยู่ในส่วนที่มืดมิดของจักรวาล และที่นั่นสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
    จะเป็นพวกที่มีพัฒนาการที่ต่ำมาก นั่นคือ เป็นสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด ซึ่งท่านรู้จักมันในนามของ
    “หลุมดำ” หลุมดำเหล่านี้เป็นทางผ่านเข้าออกของพวกสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้าย (Negative Being)
    เพื่อไปก่อความเดือดร้อนให้ แก่มิติอื่นๆในบางครั้งคราว

    นี่ น่าจะเป็น นรกภูมิ


    2. มิติที่ 2 ก็เป็นมิติมืดเช่นเดียวกัน ที่นั่นสิ่งมีชีวิตจะมีพัฒนาการสูงขึ้นมาอีกหน่อย

    อันนี้ไม่ชัด อาจจะเป็น อสุรกาย เปรตภูมิ
    3. มิติที่ 3 เป็นมิติของสิ่งมีชีวิตที่มีพัฒนาการสูงขึ้นมาอีก ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่พบในมิตินี้ก็ได้แก่
    พวกท่านเอง มนุษย์บนดาวเคราะห์โลกทั้งหลาย
    อันนี้ น่าจะเป็น เดรัจฉานภูมิ รวมถึง มนุสสภูมิ ของ ชมพูทวีป
    4. มิติที่ 4 เป็นมิติของสิ่งมีชีวิตชั้นสูง พวกเขามีร่างกายเนื้อ แต่พวกเขาก็เป็น
    “ประชาชนของจักรวาล” (Cosmic People) พวกคุณจะรู้จักพวกเขาในรูปแบบของ UFO
    ผู้คนบนโลกนี้ส่วนใหญ่จะสังเกตเห็นพวกเขาได้เมื่อพวกเขาเดิน ทางลงมายังมิติที่ต่ำกว่า
    เพื่อมา ช่วยยกระดับของสิ่งมีชีวิตในมิตินั้นๆให้สูงขึ้นจากระดับที่เป็นอยู่เดิม
    พวกเขามาช่วยเหลือด้วยความรัก และความเสียสละ

    อันนี้น่าจะเป็น มนุสสภูมิ ที่อยู่ทวีป บุรพวิเทหทวีป(100ปี) อปรโคยานทวีป(400-600ปี)
    และ อุตตรกุรุทวีป(800-1000 ปี) ผู้ที่ไม่ต้องไปอบายอีก แต่ไม่สามารถนิพพานได้
    5. มิติที่ 5 จะเป็นพวกที่มีร่างกายกึ่งกายเนื้อ กึ่งกายละเอียด ร่างกายของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้บางส่วน
    จะเปล่งแสงสว่างออกมาได้ พวกเขาก็เป็นอีกพวกหนึ่งที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือด้านจิตวิญญาณ
    แก่สิ่งมีชีวิตที่มีระดับพัฒนาการที่ต่ำกว่าด้วย ดังเช่น ที่ท่านเห็นที่นี่

    อันนี้น่าจะหมายถึง สวรรค์ชั้นต่างๆ ตั้งแต่ จาตุมหาราชิกา ดาวดึง ยามา วงบุญพิเศษเขตดุสิต นิมมานรดี และสุดท้าย ปรนิมมิตวสวัตตี
    6. มิติที่ 6 เป็นที่ที่อาศัยอยู่ของรูปธรรมชีวิตที่เป็นจิตวิญญาณล้วนๆ ปราศจากร่างกายเนื้อ
    แต่มีกายทิพย์ แทน ระดับความสั่นสะเทือนของกายทิพย์ของพวกเขาสูงจนกระทั่งแม้แต่อะตอม
    ยังไม่สามารถจะอยู่ได้ ดังนั้นพลังงานแสงสว่างจึงต้องเข้ามาทำหน้าที่แทนอะตอม

    รูปธรรมชีวิตเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบจากแรง โน้มถ่วง เพราะธรรมชาติของพวกเขาปราศจากวัตถุธาตุ
    ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเนรมิตกายเนื้อขึ้นมาเองในรูปแบบใดก็ ได้ตามใจปรารถนา
    เพื่อลงมาให้ความช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยูในมิติที่ต่ำ กว่า
    และเพื่อให้สิ่งมีชีวิตเหล่า นั้นสามารถสัมผัสกับพวกเขาได้

    รูป พรหม


    7. มิติที่ 7 เป็นมิติที่รูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่าง (Being of Light) อาศัยอยู่
    พวกเขามีลักษณะคล้ายลูกบอลที่เปล่ง แสงสว่าง พวกเขาดูดซับความรู้และข้อมูลข่าวสารต่างๆ
    ในจักรวาลข้างเคียง และพวกเขาก็ให้ความช่วยเหลือกับสิ่งมีชีวิตที่มีระดับพัฒนาการต่ำกว่าด้วย เช่นกัน

    อรูปพรหม

    เราจะขอไม่กล่าวถึงมิติอื่นๆที่เหลือ อีกในตอนนี้ เพราะแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
    สำหรับวัตถุประสงค์ของการฝึกฝนทั้งหมด พวกเราจะสามารถสัมผัสรูปธรรมชีวิตได้
    แค่ใน 7 มิติแรกนี้เท่านั้น

    มนุษย์ต่างดาวเหล่านี้จะไม่เข้าใจว่า ทำไมจึงไม่อยากมาเกิดอีก ในเมื่อ พวกเขาเกิดแล้วตาย ก็ไม่ต้องตกนรก ไม่ต้องไปอบาย ไม่ทุกข์ร้อนอะไร มีอายุสุขสบายอยู่ เป็น ร้อยเป็นพันปี แต่เขาลืมมองไปว่า ความสุขสบายที่เขามีอยู่นั้นย่อมมีความเสื่อมเป็นธรรมดา และยังมีโอกาสที่จะลงมาเกิดในมิติที่ต่ำกว่าวนเวียนอยู่ในวัฏ แม้มันจะเป็นอีก ล้านล้านปีข้างหน้าก็ตามที
     
  12. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ฝันเห็นมนุษย์ต่างดาว

    เมื่อคืนวันที่ 7 กันยายน 2553 ฝันว่าข้าพเจ้ากับน้องสาวคนรองอยู่กับครอบครัวที่บ้านหลังหนึ่ง ในฝันก็ไม่ชัดนักว่าเป็นครอบครัวของเราจริงหรือเปล่า แต่กับน้องสาวคนนี้เห็นร่วมอยู่ในความฝันหลายครั้งแล้ว ข้าพเจ้ากับน้องสาวเปิดประตูจะออกไปข้างนอกแต่เห็นมนุษย์ต่างดาวสูงประมาณ 1 เมตร รูปร่างลักษณะครึ่งกุ้งครึ่งชะนี คือหัวและแขนเหมือนกุ้ง ลำตัวช่วงบนเป็นกุ้ง กลางลำตัวลงไปถึงเท้าเป็นชะนี ท่าทางไม่ดุร้าย เขาเดินด้วยสองเท้าตรงมาหาข้าพเจ้ากับน้องสาว ข้าพเจ้าตกใจรีบเรียกน้องเข้าบ้านแล้วปิดประตู

    แต่ด้วยความอยากรู้ว่าเขาไปหรือยังก็แง้มประตูโผล่หน้าออกไปดู เห็นไม่มีใครแล้วก็ชวนน้องสาวออกไปที่ลานกว้าง แต่ก็แวดล้อมไปด้วยต้นไม้สูงและบ้านเรือนเหมือนอยู่ในชุมชนที่ไหนสักแห่ง ขณะนั้นเองบนท้องฟ้าสีฟ้าเทามีเมฆคล้ายยานพาหนะไม่ปรากฏรูปร่างเคลื่อนผ่านไป ต่อมามีวัตถุทรงกลมบินร่อนอยู่ ครั้งแรกเห็นลำเดียว รีบบอกให้น้องสาวถ่ายรูปไว้ น้องสาวมัวชักช้าจึงพลาดไป ครั้งที่สองมีวัตถุทรงกลมพุ่งมาเร็วมาก บอกให้น้องสาวถ่ายรูปไว้อีก แต่กลัวไม่ชัดก็เลยคว้ากล้องมาปรับระบบตั้งใจจะถ่ายรูปเสียเอง แต่บนหน้าจอของกล้องถ่ายรูป เห็นเป็นแค่จุดแสงเล็ก ๆ ลากเป็นเส้นยึกยือเล็กน้อย ก็เลยคิดว่าคงถ่ายรูปไม่ได้แล้วล่ะ

    พอเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า โอ คุณพระคุณเจ้าช่วย คราวนี้เห็นเป็นวัตถุสีเทาเหมือนตะกั่วพุ่งควงสว่านตรงมาที่ข้าพเจ้า แรงและเร็วมากจนข้าพเจ้าตั้งหลักไม่ทัน จะหลบก็หลบไม่ทัน พอวัตถุนั้นพุ่งมาถึงตัวนึกว่าจะถูกชนหงายหลัง แต่ปรากฏว่าวัตถุนั้นกลับเกาะหมับเข้าที่หลังของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ได้ตกใจกลัว เหลียวไปมองเห็นเป็นหน้าคล้ายชะนีเกยคางอยู่บนไหล่ สองแขนของเขาเกาะยึดไหล่ของข้าพเจ้าไว้ ส่วนเท้าก็หยั่งเหยียบอยู่บนข้อพับที่เข่าของข้าพเจ้า “นี่มันลิงนี่หว่า” ข้าพเจ้านึกในใจ แต่ก็ไม่เชิงว่าเป็นลิง มันคล้ายกุ้งผสมลิงมากกว่า และระลึกรู้ว่ามันเป็นตัวเดียวกับมนุษย์ต่างดาวที่เห็นครั้งแรก

    <O:p</O:pเราก็ เอ ทำไงดี เกาะแน่นอย่างกับปลิง ด้วยความสงสารเราก็เลยยกมือไปลูบหัวมัน ปลอบมันว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัวนะ แล้วก็อุ้มมันมาไว้ข้างเอวเหมือนแม่อุ้มลูก เอาผ้าผืนบางห่มให้มันอบอุ่น แล้วก็อุ้มเดินไปด้วยกัน เขาก็ไม่แสดงอาการดุร้ายหรือประท้วงว่าอย่างไร นี่แหละความฝันแปลกประหลาดของข้าพเจ้า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยฝันเห็นมนุษย์ต่างดาวเลย แต่เคยฝันเห็นขอบยานบินทรงกลม ใต้ยานมีดวงไฟกลม ๆ ติดอยู่ที่ขอบยาน แต่ไม่มีแสง เห็นเพียงเสี้ยวเดียว เพราะยานลำนั้นลอยลำอยู่เหนือบ้านของข้าพเจ้าคล้ายจะครอบบ้านไว้ เห็นว่าเป็นฝันแปลกประหลาดจึงนำมาเล่าสู่กันค่ะ
    hello8
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2010
  13. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ชีวิตมนุษย์เป็นองค์ประกอบหลักของแบ่งแยกซึ่งแยกจากกันไม่ได้พวกสามองค์ประกอบทั้ง 3
    ร่างกายจิตใจวิญญาณ, สถิตอยู่ในร่างกายที่จะมาถึงสมบูรณ์แบบ
    โลกเป็นเพียงที่มีประสิทธิภาพตามที่ก้าวหน้าเช่น

    คนที่เข้าใจว่าสามารถดูโลกและสังคมในแสงที่แตกต่างกัน
    เขาเชื่อมั่นในค่าที่แตกต่างอย่างสมบูรณ์ เขารู้ว่าเขารู้

    คนเป็น bipolar ถูกอิทธิพลอย่างต่อเนื่องโดยดีและความชั่วร้าย

    และเพียงสเปกตรัมของมารยาทนี้วิธีการรูปแบบทำให้ความแตกต่าง
    ที่ดีจากความชั่วร้ายและเปรียบเทียบทุกสิ่งกับหลักการพื้นฐานองค์ประกอบสาเหตุ,
    แต่เพียงเดี่ยวสังเกตการณ์ซึ่งแยกออกแน่นอน
     
  14. chan2

    chan2 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +23
    ทางเว็ป truth4thai.org เขาหาคนแปลงานวิจัยเกี่ยวกับ 2012 ของ Pane Andov ผมเห็นว่าเรื่องน่าสนใจและเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับบทความที่คุณชยุตแปลอยู่มากลองเข้าไปดูเผื่อจะได้แปลให้ผู้สนใจได้อ่านกัน
    งานวิจัยเกี่ยวกับ 2012 ของ Pane Andov | Truth4Thai.org

    ดูเหมือนว่าช่วงนี้คุณชยุตจะหายไปนะครับไม่ทราบว่างานยุ่งหรือเปล่า
    คนอื่นๆจะช่วยแปลด้วยก็ดีนะครับ จะได้อ่านกันไวๆแปลกันคนละหน้าสองหน้า
    ส่วนผมไม่เก่งภาษาขออ่านไทยอยางเดียวละกัน :cool:
     
  15. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    เมื่อผู้ชายได้พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตนิรันดร์จะได้รับในแง่ของชีวิตนิรันดร์หลังความตาย

    คนไม่ได้ตระหนักว่าชีวิตนิรันดร์จากปลายด้านหนึ่งของกัลป์ที่อื่น ๆ :
    หนึ่งมโหฬารมหาศาลมหึมากระบวนการของการสร้างใหม่ -- จากแร่มากกว่าพืช
    เพื่อสัตว์ที่มนุษย์ไปอยู่ฝ่ายวิญญาณหมดจด -- ในหนึ่งไม่รู้จักจบไม่มีที่สิ้นสุดสร้างใหม่อีกครั้ง

    ชีวิตน่าขนลุกพัฒนาอย่างรวดเร็วและจักรวาลขยายตัวรวดเร็วน่าขนลุก

    เป็นทั้งหมดร่วมเป็นทั้งหมดร่วมกับพระเจ้า ความเข้าใจนี้ตอนนี้จะมามนุษย์ที่เจริญแล้ว
     
  16. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772

    เดี๋ยวก็คงมีคนมาช่วยแปลให้เองแหละครับ
    ส่วนผมเอง..หมดความสามารถแล้วหละครับ

    เพราะเท่าที่มีรอให้แปล หรือแม่แต่อ่านเฉยๆอยู่นี่
    ก็ไม่รู้จะเอาเวลาที่ไหนมาอ่านและมาแปลแล้วหละครับ

    ..................................................
     
  17. obinter

    obinter สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    เนื้อหาน่าเชื่อถือครับแต่ผมไม่เชื่อธรรมกาย :cool:
     
  18. tar2199

    tar2199 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +565
    พี่ชยุตสุดยอดจริงๆ ครับ กระทู้ยืนยาวมากๆ ผมตามอ่านมาตลอดเลยครับ ชอบมากๆ :cool:
     
  19. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    791
    ค่าพลัง:
    +1,163

    วันนี้เป็นวันดีครับ ได้อ่านกระทู้หน้าแรก ถึงหน้าสุดท้ายนี้แล้ว ขอบอกดังต่อไปนี้(เข้ามาใน Web ได้ 6 เดือนครับ แต่ไม่เคยได้อ่านกระทู้นี้ครับ) ขอขอบคุณพี่ Chaiyut ครับที่ได้นำกระทู้นี้
    ขอ Update สถานการณ ณ ตามที่ข้าพเจ้าสัมผัสได้ แล้วต่อคนสัมผัสได้นะครับ

    1 เมื่อ 6 เดือนก่อนข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายล้างโลกจริง แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นห่างไปแล้วครับ ดังนั้นในปี 2012 ผมว่าไม่เกิดแน่นอน เนื่องจากสนามพลังของแม่เหล็กโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว ประมาณเดือนกรกฎาคม แต่ในปั 2561 นั้นยังไม่แน่ชัด
    2 มีความคิดเห็นว่ามนุษต่างดางนั้นมีจริง และสรรพสัตว์ถูกสร้างจากความรัก และมีจักรวาลของตัวเอง เช่นในตัวเราก้อเป็นจักรวาลของหมู่สัตว์ตั้งเยอะ เช่น แบคที่เรีย หรือ พยาธิต่างๆมากมาย รวมทั้งไวรัสด้วย
    3 จากการปฎิบัติแบบปล่อยวาง ทำให้ผมสัมผัสได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีคลื่นพลังงาน โดยเฉพาะมนุษซึ่งมีขันธ 5 นั้นเป็นตัวกำเนิดพลังอย่างดี เลยว่าจะให้เป็นพลังบวก หรือ ลบ แล้วพลังนั้นจะลอยไปสะสมในชั้นบรรยากาศ พวกเราช่วยได้ด้วยการคิดบวก แล้วปล่อยความรู้สึกบวกอยู่เสมอ ให้ตั้งจิตไว้ที่กลางหน้าอก อารมณ์อะไรเข้ามากระทบ สักแต่ว่ากระทบ รับรู้เฉยๆ ไม่เข้าไปแทรกแซง และให้มีความรู้สึกรักและปราถนาแผ่ออกมาที่จักระตรงกลางคิ้ว ส่งออกไปทัวจักรวาล เลยจะช่วยได้ครับ
    ( ถ้าเรายังมีความรู้สึกเบียดเบียนอยู่ สนามแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ไม่สมดุล เมื่อโลกไม่สมดุล จะทำให้ดวงดาวอื่นไม่สมดุลไปด้วย ทำให้กาแลกซี่ไม่สมดุช และกระทบไปถึงกาแลกซี่อื่น ๆ เนื่องด้วยทุกจุดจะต้องสมดุล จึงต้องมีการปรับเปลี่ยน ซึงพลังแห่งรัก และปราถนาจะช่วยในการปรับได้ )
    4 ศาสนาพุทธเราสอนทางไปนิพพาน ซึง ณ สถานที่แห่งนี้จะต้องผ่านการเดินทางของแสง ถึงจะไปสู่สถานทีที่ไม่มีกาลเวลา จะไปได้ต้องเป็นจิตประภัสสรที่ไม่มีการแบ่งแยก ว่า ดี ชั่ว สุข ทุก อยากได้ อยากมี อยากเป็น ไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น มีความรู้สึกว่าทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นสิ่งเดียวไม่แบ่งแยก ซึงเป็นสภาวะธรรมสูงสุดในศาสนาพุทธ จิตจะตื่น และเบิกบานเสมอ ทุกสรรพสิ่งมีอยู่ในจิตประภัสสร ซึงน่าจะเป็นมิติสูงสุดที่เขาเหล่านั้น ไปไม่ถึง มีแต่พระอรหันต์ ที่มีจิตเหนือคลื่นแล้ว หรือผ่านจุด Zero Point คือความเป็นกลางแล้ว ไม่มีสมมุติในการแบ่งแยกสิ่งทั้งปวงแล้ว จึงจะผ่านไปได้

    ท้ายสุดในความคิดเห็นของข้าพเจ้า ทุกศาสนาล้วนมุ่งไปที่เดียว กัน คือพระนิพพาน อนุตรธรรม อาณาจักรพระเจ้าใหญ่ แหล่งกำเนิดใหญ่ ล้วนไปที่เดียวกัน แต่ต้องวางความคิดทั้งหลายทั้งปวง หยุด นิ่ง และรับรู้ด้วยใจเป็นกลางบ่อย ๆ เห็นความรู้สึก วางความรู้สึก ใจเบิกบานเนื่องด้วยการรับรู้ในทุกสิ่ง และวางในทุกสิ่ง ในปัจจุบัน ทำอยู่แค่นี้ก้อไปได้แล้วครับ
    ********************************************

    แค่เพียงรู้ ไม่เข้าไปแทรกแซงในปัจจุบันน และหางานให้จิตทำ คือยู่กับความรัก ความปราถนาดี ความเบิกบานใจ

    จิตเดิมเราประภัสสร มีความรักและเบิกบานอยู่แล้วครับ แค่ความคิดมาปรุงแต่งให้ผิดไป หยุดความคิด เราจะเบิกบานเหมือนเดิม
    ตอนนี้จิตเราโชคดีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ เราเป็นจิตเกิดมาเพื่อเรียนรู้กระบวนการของมนุษย์ คือ รู้คิด รู้ปรุง รู้จำ และรู้สึก เมื่อหมดของการเรียนแล้ว เราก้อจะกลับที่เดิม ตอนอยู่ในร่างกายมนุษย์ หน้าที่ของมนุษญ์ อันไหนจิตคิดว่าเป็นประโยชน์ มีสาระก้อทำ อันไหนไม่มีประโยชน์ ไม่มีสาระก้อไม่ต้องทำ

    เป็นเรื่องธรรมดา รู้ในปัจจุบันขณะ รู้ไม่ทันก้อไม่เป็นไร

    ผมเป็นหนึ่งคนเหมือนกันที่มาทำหน้าที่ ผู้นำจิตวิญญาณ บอกทางกลับบ้านเก่า ที่ๆ มีแต่ความรักและอบอุ่น แก่ดวงจิตทุกดวง ใครอยากกลับ มีความรู้สึกบวกอยุ่เสมอ จะได้กลับ ใครอยากอยู่ ก้ออยู่ต่อได้ครับ โดยการไม่เรียนรู้อะไร อวิชาก้อเกิดขึ้นเนื่องจากการที่เราเลือกที่จะไม่เรียน จิตไม่สามารถหาทางกลับบ้านได้
    วิธีทางนี้ เป็นวิถีทางเดียวกับคุณ Avatan_Boy หน้า 27 นะครับ แค่นี้จริงๆ ไม่มีอะไรมากกว่านี้ เราจะได้กลับมิติสูงสุดคือนิพพานครับ อย่าไปสนใจเลยครับ มิติอื่นที่มิใช่มิติสุดท้าย
     
  20. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    791
    ค่าพลัง:
    +1,163
    แค่ เพียง นิ่ง รู้ และสัมผัสถึงความรู้สึกของกระดูก รู้แบบทื่อๆ ดื้อ โดยไม่ต้องไปปรุงแต่งอะไรครับ แล้วจะแจ้งในทุกสิ่งเอง บอกมากไม่ได้ เดี่ยวไปปรุงแต่งครับ


    สนใจ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Web นี้ ครับ ใช่ ก้อดี ไม่ใช่ก้อดี เพราะทุกอย่างมันก้อเป็นเรื่องปกติ ธรรมดาของมัน ไม่มีอะไรแปลกไหม
    ถ้าวันนี้ผมเห็นจาน UFO มันก้อเป็นแค่จานบิน ไม่มีอะไร เห็นมนุษต่างดาว มันก้อสักเต่ว่าเป็นมนุษต่างดาว แค่เพี่ยงเมื่อก่อนเราไม่ได้เห็นเขาเท่านั้น หรือ จะเกิดภัยพิบัติ ยิ่งไม่มีอะไรใหญ่ เพราะจริงมันก้อเป็นแค่เพียงภาพมายาตั้งอยู่ชั่วครู่ จิตอันประภัสสรไม่เคยตาย มันก้ออยู่ของมันอย่างนั้น แค่เพียงเปลี่ยนที่อยู่ จากกายมนุษย์ ไปอยู่ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ เท่านั้นเอง
    อาจจะเป็นความคิดเห็นแปลกโลกหน่อยนะครับ
    ขอฝากเรื่องสุดท้าย อย่าไปตัดสินเรื่องอะไรจากความคิด เนื่องจากยังถูกสัญญาความจำจากสมองอยู่ แต่จงสัมผัสด้วยท่านจิตรู้ โดยตั้งไว้ตรงกลางหน้าอก แล้วสัมผัสดู ถ้าความรู้สึกแรกบอกว่าอย่างไร นั้นแสดงว่าเป็นเรื่องจริงครับ
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    เหมือนสารจากท่าน ASHTA นั้นเรื่องจริง ท่านเต็มไปด้วยความรัก สื่อพลังได้จากบทความที่อ่านในหน้าแรกๆครับ ต้องไปอธิฐานขอให้สื่อกับท่านได้ซะแล้วอยากรู้จัก ส่วนของท่านอื่นๆนั้นไม่วิจารณ์ครับ
    http://palungjit.org/threads/วิถีดอกบัวบานเท่านั้น-ที่จะยังโลกให้สงบสุขได้-โดย-อ-กร.246346/page-12

    ไปก่อนนะครับ ไปอธิฐานก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2010
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...