การใช้ชีวิตในกายทิพย์

สุดยอดความตื่นเต้น

เพื่อนๆครับ ตอนนี้ผมตื่นเต้นมาก สิ่งที่ผมบอกผมจะต้องทำให้ได้ เมื่อกี้นี้ผมทำบรรลุไปเรียกว่า 95% ผมไขปริศนาออกแล้วครับ ผมตื่นเต้นมาก สิ่งที่ผมเพิ่งไปเจอมาเมื่อกี้มันสุดยอดอลังการณ์เรียกว่าขั้นสุดยอด ขนาดผมเล่าว่าทำให้พายุเกิดได้ตอนอยู่ในกายทิพย์ หรือประสบการณ์หลายๆ อย่างในกายทิพย์ที่ผมไปทดลองต่างๆมา แต่ทั้งหมดเทียบกับสิ่งที่ผมเพิ่งเจอเมื่อกี้ไม่ได้เลยผมไขปริศนาที่ครูบาอาจารย์ท่านได้ให้ไว้ไม่นานนี้เอง และรู้ไปถึงอดีตของตัวเอง ตอนนี้ผมตื่นเต้นมาก เพราะผมพยายามไขปริศนาดังกล่าวมาอย่างนาน ผมว่าอีกไม่นานผมจะทำสำเร็จถึงสิ่งที่ตั้งเป้าไว้แล้ว เพราะผมรู้วิธีแล้ว แต่วันนี้ผมต้องทำงาน

เป้าหมายที่ผมพยายามทำมานานแสนนาน ในที่สุดผมก็ไขปริศนาออก ผมได้พบกับความอัศจรรย์ที่เรียกว่ายังเล่าไม่ได้

 

ไม่ได้มาอัพกระทู้นานเลยครับ มีคน pm มาให้สอนวิธีการปฏิบัติหลายคนเหมือนกัน ตอนนี้ผมยังไม่คิดว่าถึงเวลาจะสอนอะไร แต่อาจจะแนะนำได้บ้างถ้าผมเข้ามา

ตอนนี้ยุ่งๆ เรื่องเกี่ยวกับเบื้องบนนี่แหละครับ ล่าสุดเขาโทรจิตมาเตือนอีกแล้ว ตอนนี้ลุยเรื่องนี้เรื่องเดียว ประสบการณ์ทั้งหมดที่ไปเจอมาปีประโยชน์ตอนนี้แหละครับ โชคดีที่ทางบ้านสนับสนุน ให้กำลังใจและเชื่อมั่นในสิ่งที่ผมทำ

คำเตือน เวลาถอดจิตให้ลองสังเกตุ ออกมาแล้วเป็นตัวเองหรือเปล่า นิสัยจิตใต สติสตางค์ เป็นตัวเองหรือไม่ ต้องเป็นตัวเองนะครับ คุยกับภพภูมิได้ปรกติ จะทำอะไรก็ทำได้ตามที่ตั้งใจไว้ก่อน ไม่ใช่คุยแล้วขาดสติไปเลย ไม่ใช่ทำตามที่ตั้งใจไม่ได้เพราะไม่มีสติสตางค์ แบบนั้นใช่ไม่ได้นะครับ

เรื่องการคุยนี้สำคัญเหมือนกัน เพราะจะทำให้รู้อะไรอีกเยอะเกี่ยวกับภพภูมิ และอะไรมากมาย

 

กายทิพย์มาไม่ครบแก้ยังไง

ผมไปอ่านชาวต่างชาติบางคนมีประสบการณ์ในกายทิพย์ แต่พอเอากายทิพย์ไปส่องกระจกเห็นตัวเองแล้วกลัว ซึ่งมีหลายคนเป็นแบบนี้ เพราะหลายคนเขาเห็นว่าตัวเอง หน้าไม่ปรกติ เหมือนคนพิการ เช่นมีแต่ปาก และคาง สูงกว่านั้นไม่มี จนถึงขั้นไม่กล้าเอากายทิพย์ไปส่องกระจกันทีเดียว จริงๆ ไม่มีอะไรเลยครับ ผมเอากายทิพย์ไปส่องกระจกบ่อยๆ

ทั้งหมดมันเป็นเรื่องของจิตมันคิดว่าร่างมีอยู่แค่นั้น เพราะมันไม่รู้สึกถึงช่วงร่างกายที่หายไป ส่วนใหญ่มักจะเป็นช่วงกลางๆ ที่มีรูปปรากฎ แต่ช่วงปลายๆ ไม่มี เช่นนิ้วมือนิ้วเท้า มีถึงจมูกไม่ถึงศรีษะ มันก็เลยฉายภาพของกายทิพย์ว่ามีแค่นั้น บางทีมันไปไม่ถึงนิ้วก็เห็นแต่มือไม่เห็นนิ้วอาจจะดูน่ากลัว สยดสยอง ซึ่งแรกๆ ผมเห็นตัวเองมาไม่ครบแล้วผมเองก็สยองเหมือนกัน แต่แท้จริงแล้วมันเป็นแค่รูปที่มาไม่ครบ นามมันมาครบ ถ้าเอามือที่มองไม่เห็น หรือนิ้วที่มองไม่เห็นไปสัมผัสของในโลกทิพย์ก็รู้สึกทุกอย่างเหมือนปรกติ

วิธีแก้ (แบบปลายเหตุ)

วิธี 1: เดินจิตทำความรู้สึกตรงที่ไม่มีให้มันรู้สึก พอมันรู้สึกมันก็รู้แล้วว่ามี ไม่ใช่ไม่มีมันจะแสดงรูปออกมาทันที แต่บางคนทำด้วยการเดินจิต อาจจะยาก ลองวิธี 2 ง่ายนิดเดียว

วิธี2: ตรงไหนที่ไม่มีให้เอามือไปลูบให้มันรู้สึกมันจะมาทันที เพราะมันรู้แล้วว่ามีนิ้วไม่ใช่ไม่มี 555

ท่านใด ที่ถอดจิตได้ลองเช็คมือตัวเองว่ามาครบหรือไม่ ถ้าไม่ครบลองทำแบบผมบอกดูจะเห็นว่าแก้ไม่ยาก

 

แต่แท้จริง ถ้าไม่ได้แคร์ก็ไม่ต้องไปสนใจว่ามันมาไม่ครบก็ได้ ผมเองก็ไม่ได้สนใจ
ยกเว้นยกนิ้วมาดูแล้วเห็นไม่ครบ ก็จะทำให้มันครบๆ แต่ส่วนใหญ่ หลังๆ ผมก็มาครบ
แต่ถ้าใครอยากหล่อแบบครบๆ ก็ให้ทำตามนี้ เพราะมันถอดออกไปแล้วมันก็ต้องแก้กันแบบนี้
จะไปกลับร่างถอดใหม่ก็เสียเวลา

 

Angelic Symbols?!

ผมเคยโพสต์เรื่องสัญลักษณ์บนกายทิพย์ที่ทำให้ปรากฎได้ เมื่อวานผมไปเจอเทวดาเป็นจำนวนมาก ปรากฎว่าคุยกับเทวดา คุยไปคุยมาเทวดาไปพูดเรื่องนี้ และยังสอนวิธีดูคร่าวๆ แต่ผมยังไม่ได้ทำให้เทวดากลุ่มนี้ดู ตามที่เทวดาเล่าให้ฟังถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญ แต่อย่างที่ผมเคยโพสต์ไว้ ว่าผมดูไม่รู้เรื่อง คุยไปคุยมาถามไปถาม โอ้โห เรียกว่าไปรู้ความลับสวรรค์ก็ได้ซึ่งเกี่ยวข้องกับโลกโดยตรงด้วย แต่คงเล่าไม่ได้

ล่าสุดผมสังเกตุว่า จากประสบการณ์ที่ได้เจอมาหลายครั้ง การที่เทวดาจำนวนเป็นร้อยเป็นพันที่กำลังเพลิดเพลิน หยุดนิ่ง และยืนตรงแขนวางข้างลำตัว และไม่ขยับและหันมาทางเราหมด น่าจะเป็นการให้ความเคารพเรา เหมือนทหาร เพราะหลังจากนั้นผมเอาอะไรก็รีบจัดให้ ถึงผมเดินไปเดินมาก็ยังยืนเฉยอยู่อย่างนั้น โดยหันหน้าตรงมาหาผมตลอด ถ้าถามอะไรก็จะตอบ นอกจากมีเหตุจำเป็นต้องช่วยอะไรผมถึงจะขยับ

 

มีคนมาแซวผมเล่าไม่หมด เหมือนอ่านหนังสือไม่มีตอนจบ 555

ผมจะไปเล่าหมดได้อย่างไร ก็ในเมื่อมันเป็นเรื่องลับของสวรรค์ ก็มันเกี่ยวข้องกับ "คนหลังวัด" หรือคนไม่ดี ไม่มีศีลธรรมมีเยอะ เบื้องบนเขาก็มีกุศโลบาย ที่จะทำให้คนมาทำความดีกันมากขึ้นก็แค่นั้น ถือเป็นเรื่องดี

 

โทรจิตคุยกับอา

อาที่อยู่บนสวรรค์ส่งยาทิพย์มาให้ผม ลักษณะเป็นแสงสองสาย และโทรจิตคุยกัน บอกเป็นยาจากสวรรค์ ผมถามยาชื่ออะไรและทำอย่างไร อาไม่ยอมบอก บอกกลัวเป็นกรรม (ตอนพรหมแสดงกายพรหมให้ดู ผมบอกให้พรหมสอนวิธีทำกายทิพย์ให้เป็นกายพรหม พรหมก็ไม่สอน บอกกลัวบาป)

ผมบอกอาว่ารู้เปล่าเดี่ยวนี้ผมจะไปหาอาบนสวรรค์นะง่ายนิดเดียว อาดีใจบอกงั้นมาปลุกถึงเตียงเลยนะ (อาเคยเล่าให้ฟังว่า ถึงเขาเป็นเทพ เขาก็นอน) อาเล่าให้ฟังเรื่องเทพ นางฟ้า เทวดา ว่าหน้าตาสวยหล่อกว่าพรหม แต่ผมก็รู้อยู่แล้ว ยังพูดไปถึง พระราชาราชินีฝั่งพรหม แต่ผมจำชื่อไม่ได้ ผมถามอาว่ารู้ไหมว่าผมสาย... อาบอกรู้ เพราะตอนตายมี...เรียกเขาไปคุยเรื่องนี้เลย และให้ช่วยกัน ผมแทบจะร้องไห้ เพราะรู้สึกว่าคนข้างบนเขาคอยช่วยเหลือ

ประสบการณ์ติดต่อยังทำให้ผมรู้อีกว่า ยิ่งมิติใกล้กันเสียงยิ่งดังฟังชัด เพราะเมื่อผมถอยมิติมาใกล้มิติของมนุษย์ก็ยังคุยได้ แต่สภาวะเสียงจะไม่ค่อยดังเท่า

ล่าสุดมีคนๆ หนึ่งมีความสามารถรู้ใครตายไปไหน ทักเรื่องน้าชายน้องแม่ ว่าอยู่ที่ไหน แม่ถึงกับอึ้งเพราะพูดตรงกับผม

น้าผู้นั้นตอนมีชีวิตไม่ค่อยได้ทำบุญ ปัจจุบันอยู่ตรงที่ฝั่งศพนั่นแหละ เรื่องนี้ผมบอกแม่นานมาแล้ว เพราะอาที่คนที่เป็นเทพเล่าให้ฟัง สองคนพูดตรงกัน เขายังทักมาอีกว่าปัจจุบันพลังเขาอ่อนเหลือเกิน

ผมเคยส่งจิตไปคุยกับน้าชายคนนี้ คุยได้คำเดียว เขาตอบว่าอืม แล้ว โดนตัดสาย โดนคนคุม บอกไม่ให้ผมคุย แต่ล่าสุดคิดว่าอาจจะต้องไปหา

จากประสบการณ์ของผมทำให้ผมไม่ใช่ว่าเชื่อว่าชีวิตหลังความตายมีจริง ภพภูมิมีจริง แต่เป็นการรู้ หลายอย่างอาบอกมา ข้อมูลต่างๆ ผมมาพิสูจน์ได้เลย ประสบการณ์ทำให้ผมรู้ลักษณะของภพภูมิในระดับต่างๆ ทั้งที่แบบลำบาก กับแบบสุขสบายเหลือเกิน และแบบสงบเมตตา และอื่นๆ

 

คุยกับอาบอกว่าอีกหน่อยอาจจะพา คนในครอบครัวที่มีชีวิตอยู่ไปหาอา จะได้ให้รู้กันไปเลยว่าเรื่องนี้มีจริง สวรรค์มีจริง อาว่าดี

แต่ก่อนผมเคยบอกให้อาพาไปเมืองลับแล อาบอกไกลจากตรงที่อยู่ แต่ว่าถ้าผมฝึกสมาธิไปเรื่อยๆ อีกหน่อยไปเองเลย ตอนนี้ผมจะไปไหนผมก็ไปได้ไม่ต้องพึ่งใครพาไปอีกต่อไป แต่ก่อนอยากไปดูสวรรค์ชั้นสูงๆ ยังต้องขี่คอเทวดาพาไป

ล่าสุด พี่สาวที่เป็นญาติที่ตายไป มาหาสภาพดูไม่ได้ แขนขายาวผอมโซ ผมแผ่บุญใส่ไปกลายเป็นรูปร่างหน้าตาดูดี และยังมีคนพาภพภูมิมาหาอีกประมาณ 50 คน ผมนำสวดนะโมและแผ่บุญกุศลให้ แต่มีบางท่าน มาขอบุญยังพูดจากวนประสาท คุณธรรมชาติบอกว่าพวกไม่สำนึกไม่ควรจะไปแผ่ให้

 

วิธีสืบอดีตชาติตัวเอง

ถ้าถอดกายทิพย์บ่อยๆ เดี๋ยวจะต้องมีคนมาติดต่อคุยด้วยซึ่งมีมาหลายแนว ทั้งขอส่วนบุญ มาสอน มาชวนไปที่ต่างๆ และอื่นๆ แต่ในที่สุดอาจจะมี คนที่รู้จักเราในอดีตชาติมาคุยกับเรา และเขามักจะเรียกชื่อเราแบบไม่ใช่เป็นตัวเอง คือเรียกชื่ออื่นๆ แสดงว่าคนๆ นั้นอาจจะรู้จักเราในอดีต

แนะนำวิธีปฏิบัติ

1.ให้ถามเขาให้ชัดเจนว่าตัวคุณเองชื่ออะไร อยากแนะนำว่าเขาเรียกว่าอะไรอย่าเพิ่งไปเชื่อทันทีทันใด ให้สืบเรื่องราวให้แน่ชัด

บางกลุ่ม ถ้าไปถึงสวรรค์สำเร็จแบบของจริง แล้วมีคนเรียกชื่ออะไร ให้ถามซ้ำๆ หลายครั้ง แล้วอาจจะรู้อะไรดี

2. สามารถให้เขาเล่าเรื่องราวในอดีตได้ เพื่อสืบไปถึงบุพกรรมของตัวเอง

3. สามารถถามชื่อเขาเอาไว้ก็ดี วันหลังจะถามอะไรเขาเพิ่มได้ติดต่อสะดวก

อีกวิธีที่จะสืบอดีตชาติตัวเอง คือให้ถามภพภูมิชั้นสูง เช่น หลวงปู่ทวด เป็นต้น อาจจะได้รู้อะไรอีกเยอะ และยังสามารถให้ท่านแนะนำว่าควรทำอย่างไรต่อไปเมื่อมาเหยียบโลกทิพย์ได้สำเร็จแล้ว

โลกทิพย์มีความรู้แล้ววิชามากมาย ที่รอให้ผู้ไปถึงได้ไปศึกษา รวมทั้งไปเรียนรู้เรื่องภพภูมิ กฏแห่งกรรม และอื่นๆ

 

โอ้โหผ่านมาเกือบสี่เดือนจากโพสต์นี้ ในที่สุดผมก็ทำสำเร็จครับ เป้าหมายที่ผมกระอักเลือดฝึกมา สองปี ได้ผมทำสำเร็จเมื่อช่วงกลางวัน วันนี้เอง

เป็นเรื่องแปลกเมื่อวานผมเจอภพภูมิผู้หญิงทำนายผมว่าเดือนนี้จะทำเป้าหมายที่ทำมานานสำเร็จ ผมก็คิดว่ามีแต่เรื่องนี้แหละน้าที่พยายามมานนาน ที่ตามหามาสองปี และก็สำเร็จจริงๆ วันนี้วันสุดท้ายของเดือน ภพภูมิทำนายแม่นจริงๆ

หลังจากนี้คือ chapter ใหม่ของ ทุกอย่าง new beginning พอผมทำสำเร็จผมได้เจอท่านผู้นั้นที่ผมอยากพบมานาน รวมไปถึงอีกหลายท่าน และได้พูดคุย และท่านทำนายอนาคตด้วย ผมทำสำเร็จแล้วววววว สองปีแทบกระอักเลือด และต้องใช้ศรัทธาอย่างมาก ว่ามันมีจริง ในที่สุดผมก็ทำสำเร็จ!!!!

Muahahahahaha! ใครผ่านมาก็อ่านเล่นๆ นะครับ อย่าไปซีเรียส เคยบอกเอาไว้ว่าอย่าเอากระทู้นี้เป็นตำรา เหมือนเป็น diary มากกว่า

 

ผมเคยคุยกับนางฟ้าเรื่องการปฏิบัติของผม นางฟ้าบอกว่า ผมเหมือนคนที่เล่นดนตรีเป็นแล้วไม่ได้เล้นไปนานๆ แล้วต้องกลับมาฟื้นวิชาใหม่ หลังจากนี้แหละน้า...ยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้ลลล ผมได้เจอคนที่รู้จักในอดีตชาติหลายท่าน คนสมัยก่อนเขาผอมและตัวเล็กมากเลยนะครับ แต่ละท่านเก่งๆ ทั้งนั้นไม่ต้องพูดเลย เขาบอกให้ไปเตรียมตัวแล้วกลับมาใหม่ เหมือนเจอพี่เจอน้อง สนิทสนม หลังจากนี้แหละน้า มันคงยิ่งกว่า The Last Air Bender

Muahahaha.

 

ก่อนหน้าที่ผมจะรู้เรื่องมิติอื่นๆ เคยมีพระกลุ่มหนึ่งมาหาผมและแสดงปาฏิหาริย์แบบอลังการณ์ให้ดู แล้วบอกผมว่า ผมมีพลังจิต ให้ไปฝึก ตอนนั้นผมงงมากจะฝึกยังไง ผ่านมาประมาณสามปี ทุกอย่างเฉลยออกมาถึงจุดนี้ ถือเป็นการเดินทางที่หรโหดพอควร แต่มาถึงตอนนี้ถือว่าคุ้มมาก ช่วงแรกๆ ของการเดินทางถือว่าโหดสุด เพราะต้องใช้ศรัทธาพอตัว และช่วงแรกยากมาก แต่มาถึงตอนนี้ถือว่าคุ้มโดยแท้ muahahaha++!

 

บางคนคิดว่านักปฏิบัติน่าจะต้องซีเรียสหน่อย แต่ผมไม่ค่อย เพราะผมนิสัยเป็นอย่างนี้ จริงๆ ก็ถือว่าตัวเองเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางจิตมากกว่า ผมก็ขี้เกียจจะเก๊ก เพราะเราไม่ใช่ผู้วิเศษ ใครวิเศษก็ตามใจเขา ผมทำเรื่องที่เป็นธรรมชาติ ตามเหตุตามผล เราไม่เอาตัวไปเปรียบกับใคร เพราะเราเป็นตัวเอง และพอใจในสิ่งที่ทำ

 

เล่าประสบการณ์ถอดจิต เจอพระ...

การโทรจิตนั้น ต้องอยู่ในระดับเดียวกันจะโทรติดต่อกันง่ายเช่นถอดออกไประดับลับแล จะไปคุยกับระดับสวรรค์ย่อมเป็นไปได้ยาก ต้องให้ตรงกัน ด้งนั้นผมจะคุยกับหลวงปู่ทวดย่อมต้องให้ระดับตรงกันเสียงจะดังฟ้งชัดแจ๋ว

ดังนั้นจะไปคุยกับพระในนิพพานนั้นผมไม่เคยทำได้ ถึงพูดไปก็ไม่มีเสียงตอบ และลองมาหลายครั้ง

 

มีอยู่วันหนึ่งผม ก็เดินทางท่องเที่ยวไปในภพภูมิ ผมเจอผู้หญิงคนหนึ่งมาลองผม ให้ผมเดินจิตแบบแปลงกายทิพย์เป็นตัวจริงให้ดู ผมก็ทำให้ดู ปรากฎว่าพอทำให้ดูแท้จริงเขาคือพระ และพระองค์อื่นๆ ก็ลงมาเต็มเลย ผมคุยกับเขาพักใหญ่เรื่องธุระภพภูมิ แล้วเขาบอกไปทำแล้วกลับมาใหม่ เขาบอกผมอยากเจอ...ไหม ผมบอกอยากเจอแน่นอน เขาก็พาผมเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง ในที่นั้นเอง

 

ผมพบ...นอนอยู่ ผมปลาบปลื้มยินดีมาก และพระองค์อื่นๆ ก็มาล้อมเต็มไปหมด ผมเอื้อมมือไปช่วยพยุงท่าน แต่ท่านไม่ได้จะลุกเลย ท่านเอามือผมไปจับ แล้วก็นิ่งสักพักแล้วก็ทำนายอนาคตของผม พอทำนายเสร็จ น่าเสียดายอย่างยิ่งผมพลาดยิงจิตส่งออก ตอนมองท่านนานไปหน่อย ทำให้หลุด และกลับร่างไม่อย่างนั้นมีอะไรจะถามมากมาย แต่ผมว่าอีกไม่นานอาจจะได้พบอีกครั้ง ช่วงนี้ขึ้เกียจไปหน่อย

แต่ผมสังเกตุอย่างหนึ่ง ก่อนที่ท่านจะทำนายผม เหมือนท่านเดินจิตด้วย ทำให้ผมเชื่อว่าถ้าได้วิชาเดินจิตที่สามารถดูอนาคตคนได้น่าจะดี หวังว่าอีกไม่นานจะได้เรียน วิชาการเดินจิตที่ผมรู้มาๆ จำนวนมาก ผมไปลองผิดลองถูกมาเองทั้งบนโลก และโลกทิพย์ และอีกจำนวนมากไปเรียนจากภพภูมิในโลกทิพย์

 

ภพภูมิสามารถดูจิต ซึ่งก็คือกายจิตของเราและรู้ได้เราเป็นใครมาจากไหน อย่างไร มันจะแสดงออกมาทางกายทิพย์ และรู้ไปถึงอนาคต ภพภูมิทักอนาคตผมจากกายทิพย์มาหลายครั้งและตรงและเกิดจริงอย่างไม่น่าเชื่อ บางทีบอกผมว่าผมเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ผมบอกผมไม่ได้เป็นเขาบอก อีกสองสามเดือนเดี๋ยวก็เป็น พอสองสามเดือนก็เป็นจริงๆ

มีอยู่ครั้งหนึ่งภพภูมิทำนายบอกเดือนนี้จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้นานแสนนาน และแท้จริงเป้าหมายที่ผมตั้งใจมีอย่างเดียว แต่ดันเป็นวันสุดท้ายของเดือน ผมก็คิดจะเป็นไปได้อย่างไรเหลือวันเดียว ปรากฎว่าวันนั้นสำเร็จเลย พญายามมาสองปีเห็นจะได้ นี่คือความแม่นยำของ สิ่งที่ปรากฎออกมาเป็นรูปที่ภพภูมิทำนายได้

 

ผมพบว่าแท้จริง วิชาการเดินจิตที่ผมได้เรียนรู้มาทั้งเป็นเรื่องที่สอนยาก แต่ก่อนผมเคยคิดจะสอนคนอื่นๆ และผมก็เคยลองสอนคนใกล้ตัวแต่เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก และคนส่วนใหญ่ไม่มีอิทธิบาท 4 ที่จะทำจนเกิดเป็นรูปธรรม ผมเคยคิดจะเผยแผร่ความรู้ที่ผมได้เรียนรู้มา แต่ปัจจุบันผมไม่มีความคิดอย่างนั้น เพราะผมว่าสอนยาก แต่ผมก็ได้แต่สอนแบบเบซิคๆ บางทีผมก็สอนภพภูมิ ซึ่งบางครั้งเข้าใจง่ายเสียกว่าคนบนโลก

 

จริงค่ะ เข้าใจยากจริงๆ ยิ่งทำให้ทรงตัวยิ่งยาก

 

ปล ใครเข้ามาอ่าน ถือว่าฟังผมเล่าเรื่องสนุกๆ นะครับ ผมอยากเล่าอะไรก็เล่า

เล่าเรื่อง ภพภูมิมีสองร่าง ผมรู้มานานว่าภพภูมิมีร่างที่ดูเหมือนคนปรกติ กับร่างจริง ถ้าจิตเรากับจิตเขาระดับตรงกันเขาจะเหมือนคนปรกติเลย แต่ถ้าเราไปขอเขาดูร่างจริงแล้วเขาตกลงเขาจะเดินจิตออกมาเป็นตัวจริง

ครั้งแรกผมไม่เคยรู้เรื่องนี้จนคุณธรรมชาติบอกผมว่าให้ไปขอดูตัวจริง ผมเคยเล่าไว้ในกระทู้เก่า ครั้งแรกผมไปพรหม ไปขอพรหมดูตัวจริงถึงกับอึ้งแบบอย่างเท่ห์ ตอนแรกเหมือนคนปรกติ พอแปลงร่างออกมาแบบอย่าง เท่ห์ หลังจากนั้นผมก็บ้าไปขอคนนั้นคนนี้ดูตัวจริงมาพักใหญ่ ส่วนใหญ่เวลาเขาทำคอจะหดลงไปแล้วโผล่ออกมาเป็นร่างใหม่ บาร่างก็ไม่น่าดูก็มีเหมือนกัน

แต่ก่อนผมก็สงสัยว่าทำอย่างไร แต่ตอนนี้ผมเองก็มีสองร่าง แต่สองร่างในนี้หมายความว่าสองรูป คือรูปแบบเหมือนคนปรกติที่เป็นอยู่ กับรูปตัวจริง คือรูปตัวตนที่เดินข้ามภพข้ามชาติมานานแสนนาน ซึ่งผมค้นพบโดยบังเอิญ ถ้าผมถอดออกไปผมก็จะเอารูปของกายเนื้อไป แต่พอผมเดินจิตเอาร่างจริงออกมา เขาจึงเห็นของจริง

ซึ่งผมก็ไม่รู้ด้วยว่ารูปตัวจริงหน้าตาเป็นอย่างไร จริงๆ ก็อยากเห็นเหมือนกัน ได้แนวจากท่านผู้รู้มาว่า ก็ต้องแยกออกมาจาก รูป แล้วหันกลับมาดู แต่ก็ยังไม่เคยลองทำเหมือนกัน

ซึ่งบอกตรงๆ ว่าทฤษฏี กับวิธีทำนั้นต่างกันมากสำหรับผม บางที่ทฤษฏีอาจจะถูก แต่วิธีทำจริงๆ จะทำยังไงให้มันเกิดผลได้ง่าย ได้สำเร็จก็อีกเรื่องหนึ่ง และผมพบว่าไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ด้วย นี่ก็ส่วนหนึ่งผมไม่รู้จะสอนไปทำไมถ้ามันไปอีกเกินหลายขั้นถึงผมบอกวิธี ผมก็ไม่รู้ว่าจะเกิดประโยชน์อะไร เพราะมันไม่ใช่ทุกคนจะไปทำได้ บางคนไม่เข้าใจอาจจะมาว่าอีก

แต่สำหรับคนที่พอจะคุยกันรู้เรื่องมันก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะมันเหมือนเลขเริ่มตั้งแต่ 123 ไป บวกลบ ไปถึง algebra, calculas differential equations

ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของธรรมชาติ ยิ่งผมทำผมยิ่งเห็นว่าเป็นเรื่องของ วิทยาศาสตร์ และไม่ใช่เรื่องของความเชื่อ ความงมงาย หรือน่าโม้อะไร เพราะมันมาตามเหตุตามผล และผมยิ่งไม่เห็นสาระในการจะเอาพวกเรื่องสมาธิ เรื่องอะไรมาพูดรบราอะไร เพราะผมตัวคนเดียว เดินทางคนเดียว รู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร ถึงใครจะว่าอย่างไร มีความเห็นอย่างไร แท้จริงความจริงมันก็คือความจริง คนจะบอกว่าสีดำมันเป็นสีขาว นกเป็นแมวอย่างไร ใครก็พูดได้ แต่ความจริงสีดำก็คืสีดำ นกก็คือนก ก็ตามนั้น ความเห็นไม่มีความหมายเลยสำหรับผม มีแต่สัจธรรมเท่านั้นที่เป็นความจริง