"กาแล" ของอาถรรพ์ที่พม่าใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้มีบุญมาเกิด

อนุโมทนาค่ะ ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ค่ะ
เชื่อและศัทธาในพุทธองค์และท่านครูบาอาจารย์

 

งั้น ก็แสดงว่า กาแล ไม่มีอาถรรพ์ ตามที่คนพม่าโบราณ ที่โง่เขลา หลงเชื่อเอาเอง สิเนอะ ใครเชื่อ ก็ตาสว่างไ้ด้แล้ว เลิกงมงาย กับความเชื่อผิดๆ ของกาเล ได้แล้วครับ
สาธุ

 

ผมไม่ใช่คนเชียงใหม่นะครับ แต่ข้อความคุณดูรุนแรงไปนิดหนึ่ง..

 

+1
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ สาธุด้วยครับ

 

ปลื้มประโยคที่บอกว่าภาคเหนือมีพระอรหันต์เยอะแยะเลย ปลื้มจนแถบน้ำตาจะไหลแล้วค่ะ เพราะเค้าอยู่ภาคเหนือ อยู่เชียงใหม่

 

ใช้คำพูดแรงมาก

ผมเป็นคนเชียงใหม่ บ้านผม และปู่ย่าตาตาย สร้างมานานมากแต่ไม่มีกาแล คนเชียงใหม่ และบ้านผมยังเป็นกลุ่มคนที่รักในวัฒนธรรมของล้าานาที่สืบทอดกันนมา เป็นธรรมดาที่ย่อมมีส่วนหนึ่งของคนเชียงหม่ที่ไม่ได้สนใจสืบทอดวัฒนธรรมล้านนา แต่ส่วนที่ยังคงความเป็นคนล้านนาก็ยังมีอยู่ แต่คนที่มาอยู่ที่เชียงใหม่มีมากมายทุกภาค แม้กระทั่งต่างชาติ ก็เหมือนเมืองใหญ่ๆทั่วไปที่มีประชากรหลากหลาย กรุงเทพก็เช่นกันมีคนจากทุกที่ไปอยู่ และคนที่สร้างบ้านมีกาแลก็อาจไม่ใช่คนเชียงใหม่ ส่วนตัวผมเองรู้เรื่องอาถรรพ์ของกาแลอยู่นานแล้ว ..... ส่วนความเป็นจริงนั้น คนดี หรือคนไม่ดี คนมีบุญ หรือคนไม่มีบุญ มีเหตุผลอะไรที่ที่เกี่ยวกับกาแล(ไม้ที่ไคว่กากะบาบนหลังคา) ทั้งบุญ และความดีเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลที่ได้กระทำมา อยู่บนหลักของเหตุและผล พระพุทธศาสนาได้สถิตย์อยู่ที่เชียงใหม่มานับ 700 ปี เป็นอย่างน้อย(ไม่นับรวมตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี แห่งหริภุญไชย ก็กว่า 1400 ปี) พระพุทธศาสนาอยู่ในสายเลือดของคนเชียงใหม่และล้านนาไม่ยิ่งหย่อนกว่าคนในภาคต่าง หรือจังหวัดอื่นๆ เลย ครูบาหรือต๋นบุญผู้มีศิลอันงามพร้อม(พระอริยสงฆ์)ก็ยังมีให้กราบไหว้ไม่ว่างเว้น อาทิ ที่ดับขันธ์ไปแล้วครูบาเจ้าศรีวิชัย ครูบาอินอินโท ครูบาพรมมา ครูบาหล้าตาทิพย์ ครูบาคำแสน ครูบาดวงด(วัดท่าจำปี) หรือที่ยังดำรงขันธ์อยู่ อาทิ ครูบาตั๋นแห่งสำนักสงฆ์ม่อนปู่อิ่น อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ , หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เป็นต้น นี่แหละทำให้แผ่นดินเชียงใหม่แม้จะเจริญด้วยวัตถุ แต่ก็ยังมีจิตวิญาณแห่งพุทธที่เป็นวิถีแห่ง สติ-ปัญญา ไม่เสื่อมคลาย ทั้งหมดที่กระผมแสดงความคิดเห็นมานี้เป็นพียงการต้องการชี้แจงโดยไม่มีอคติ (ไม่ได้โกรธนะครับ) ต้องการชี้แจงเท่านั้น แต่ทั้งหมดก็เป็นความคิดเห็นของผมฝ่ายเดียวแล้วแต่ว่าใครจะเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร.....สุดแล้วแต่วิจารณญาณ

 

ชอบประโยคท้ายมากเลยครับที่ว่า "ภาคเหนือพระอรหันต์มีเพียบเลย"
ต่อให้อะไรก็ต้านทานมหาบุญนั้นไม่อยู่จริงๆ

 

แล้วแต่ความเชื่อค่ะ เห็นกาแลเต็มบ้านเต็มเมืองที่ภาคเหนือ แต่ทำไมบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง เช่น เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับโลก ลำพูนก็มีนิคมอุตสาหกรรม
มีพระอรหันต์ตั้งมากมาย

ยุคสมัยเปลี่ยน บ้านเมืองเปลี่ยน ความเชื่อแต่ดั้งเดิมก็คงถูกเปลี่ยน อาจจะทำให้ล้างอาถรรพ์เดิมๆแล้วก็ได้ค่ะ เหมือนการส่งพลังจิตของคนทั้งเมือง สามารถกำหนดชะตาเมืองได้ ก็เท่านั้นค่ะ

 

ตอนแรกเข้าใจทำเพื่อเป็นสิ่งมงคล พึงรู้นี่เองกาแลเป็นอย่างนี้ เฮ้อ

 

สวยดีนัก เลยเสร็จเรา เอามาแต่งบ้านซะเลย ^ ^

 

คำพูดทุกคำล้วนเกิดแก่ตัวเอง ใครทำดีสักวันความดีอาจจะมองเห็นในการทำความดีของเราบ้าง ในโลกนี้คนทุกคนมีค่า แต่ค่านั้นวัดเป็นราคาไม่ได้เลย อยู่ที่จิตใจของเราเอง

 

เมื่อกาลนั้นการกระทำของพม่าน่าจะมีจุดมุ่งหมายเป็นเช่นนั้น

แต่ในกาลนี้คงไม่มีพลังเช่นนั้นอีกแล้ว

หมดกาลไปแล้ว

แล้วผมคิดว่าน่าจะหมดไปตั้งแต่พม่าเสียเมืองตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ

กาแลปัจจุบันที่เหลืออยู่เพียงศิลปแห่งความสวยงามเท่านั้น หมดพลังแล้ว

 

แสดงว่าคนเราเนี๊ยะ ยิ่งห้ามยิ่งยุ

 

กาแล เป็นสัญลักษณ์ว่า บ้านนี้เป็นบ้านของเชลย

ภาคเหนือพระอรหันต์มีเพียบ แล้วมีผลอย่างไรกับกาแลครับ

 

ตอนแรกนึกว่ากาแลเป็นสถาปัตยกรรมทางวัฒนธรรมของภาคเหนือ

ที่ไหนได้ ............

เป็นอย่างนี้นี่เอง

ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้ใหม่ๆ

 

"จุดมุ่งหมายจริงๆ คือป้องกันคนมีบุญมาเกิด ถามว่า ป้องกันได้หรือไม่ ? ไม่ได้หรอก ภาคเหนือพระอรหันต์มีเพียบเลย"

อนุโมทนาค่ะ ^^
พระอรหันต์ทางภาคเหนือส่วนใหญ่เป็นชาวอีสานครับ
เช่น หลวงปู่มั่น,หลวงปู่ขาว,หลวงปู่ชอบ,หลวงปู่แหวน<!-- google_ad_section_end -->

 

สุดยอดครับเพิ่งรู้เหมือนกันนะครับ

 

เคยได้ยินแต่ว่า กาแลนั้นมีไว้สำหรับเรือนของเจ้านายมีเชื้อสายเท่านั้น ผู้ไม่มีศักดิ์ไม่ควรนำมาประดับที่บ้านตนจะไม่ดี

 

ถามว่า ป้องกันได้หรือไม่ ? ไม่ได้หรอก ภาคเหนือพระอรหันต์มีเพียบเลย

ก็คิดว่าน่าจะป้องกันไม่ได้หรอก ขอบคุณหลวงพี่และผู้ที่ถามด้วยครับ (y)(y)(y)