กินเนื้อสัตว์บาปหรือไม่?

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Prophecy, 13 ตุลาคม 2012.

  1. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    [​IMG]

    033 กินเนื้อสัตว์บาปหรือไม่

    ปัญหา มีพุทธศาสนิกชนบางพวกเห็นว่า การกินเนื้อสัตว์เป็นบาปเพราะเป็นการส่งเสริมให้คนอื่นฆ่า ในเรื่องนี้พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าอย่างไร ?

    พุทธดำรัสตอบ “..... ดูก่อนชีวก เรากล่าวเนื้อว่าไม่ควรเป็นของบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ เนื้อที่ตนเห็น เนื้อที่ตนได้ยิน เนื้อที่ตนรังเกียจ ดูก่อนชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของไม่ควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการนี้แล ดูก่อนชีวก เรากล่าวเนื้อว่าเป็นของควรบริโภค ด้วยเหตุ ๓ ประการคือ เนื้อที่ตนไม่ได้เห็น เนื้อที่ตนไม่ได้ยิน เนื้อที่ตนไม่ได้รังเกียจ ดูก่อนชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการนี้แล.....”

    ชีวกสูตร ม. ม. (๕๗)
    ตบ. ๑๓ : ๔๘-๔๙ ตท.๑๓ : ๑๓ : ๔๗
    ตอ. MLS. II : ๓๓


    033
     
  2. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    คือถ้ามีส่วนร่วมในการฆ่าก็บาป ไม่มีส่วนร่วมก็ถือเป็นอาหารไป
    แต่ทางมหายาน กินเจ เพื่อหลีกเลี่ยง การสนับสนุนให้มีการฆ่าสัตว์
    พระอาจารย์มั่นฯเคยให้ศิษย์หามท่านไปยังตำบลไกลๆตอนจะละสังขาร เพราะท่านเมตตาสัตว์ เกรงว่าถ้าอยู่ถิ่นเจริญ อาจมีการฆ่าสัตว์เลี้ยงผู้มาร่วมงาน นี่ จิตท่านละเอียดถึงปานนี้
     
  3. ดินน้ำลม

    ดินน้ำลม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +131
    บางทีการไม่ทานเนื้อสัตว์อาจจะดีก็ได้ในแง่การลดการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ และดีต่อสุขภาพเพราะเนื้อสัตว์เป็นแหล่งของสารก่อมะเร็งมากมาย ทั้งสารเร่งโต สารเร่งเนื้อแดงและอื่นๆ
    ก่อนที่สัตว์จะถูกส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์จะมีความเครียดมาก แล้วท่านเคยเห็นสัตว์มีความสุขหรือดีใจที่ตัวเองจะถูกส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์หรือเปล่าครับ
    สมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้ามิได้ห้ามทานเนื้อสัตว์ แต่เนื้อสัตว์ที่จะทานได้นั้นสัตว์นั้นต้องตายเองตามธรรมชาติ โดยที่เราไม่ฆ่าเอง ไม่สั่งคนอื่นฆ่า ไม่มีส่วนรู้เห็นในการฆ่า แล้วท่านว่าเนื้อหมู ไก่ ปลา ตามตลาดสดเหล่านั้นจะตายเองตามธรรมชาติหรือเปล่าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2012
  4. ลุงลัง

    ลุงลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +203
    ฆ่าสัตว์ รักษาพืช

    [​IMG]

    จังหวัดสมุทรสงคราม ตั้งงบ 5 แสนบาท กำจัดกระรอกที่กัดกินพืชผลของเกษตรกร รับซื้อหางกระรอกหางละ 15 บาท วันนี้ผู้ว่าฯ เป็นประธานวางดอกไม้จันทน์เผาหางกระรอกกว่า 33,000 หาง
    นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เดินทางไปที่วัดภูมรินกุฏีทอง เป็นประธานวางดอกไม้จันทน์เผาหางกระรอก จำนวน 33,000 หาง โดยกล่าวว่า หางกระรอกเหล่านี้ได้ใช้งบประมาณของจังหวัดจำนวน 500,000 บาท รับซื้อหางกระรอกหางละ 15 บาท ระหว่างเดือนเมษายน-สิงหาคม 55 ได้หางกระรอกจำนวน 33,000 หาง คิดเป็นเงินรับซื้อ 495,000 บาท
    ทั้งนี้ เนื่องจากเกษตรกรที่ปลูกพืชผักผลไม้ทุกชนิดในจังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับความเดือดร้อนจากกระรอกที่มีจำนวนมากมากัดกินทำลายผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะส้มโอ ลิ้นจี่ และ มะพร้าวซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาแม้ราคามะพร้าวจะแพงถึงลูกละกว่า 20 บาท แต่ผลผลิตก็น้อยลง เพราะส่วนหนึ่งถูกกระรอกกัดกินขณะที่ประชากรกระรอกก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะมีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี เรื่องคุมกำเนิดนั้นคงทำได้ยาก มีทางเดียวคือการกำจัดเพื่อลดจำนวนประชากรกระรอกให้อยู่ในระดับที่ไม่สร้างความเสียหายแก่ผลผลิตทางการเกษตรมากนัก ด้วยเหตุนี้ชาวสวนจึงขอให้ทางจังหวัดตั้งงบประมาณขึ้นมารับซื้อหางกระรอกจากผู้ที่สามารถกำจัดกระรอกได้แล้วนำหางไปขายให้ในราคาหางละ 15 บาท เพื่อนำมาเผาทำลายทิ้ง

    สมุทรสงคราม-ผู้ว่าฯ วางดอกไม้จันทน์เผาหางกระรอกกว่า 3 หมื่นหาง ข่าวต่างประเทศ ข่าวอาชญากรรม ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ข่าวด่วน ข่าว ข่าวสด ข่าววันนี้ สลากกินแบ่งรัฐบาล ข่าวดารา ข่าวบันเทิง : ครอบครัวข่าว 3
    วันเสาร์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2012
  5. aetipp

    aetipp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    797
    ค่าพลัง:
    +1,505
    ถ้าไม่ลำบากจนเกินไป ใช้กรงดักจับ และนำไปปล่อยในป่า ก็น่้าจะเป็นหนทางทีดีกว่านะครับผม
    วันก่อนข่าววัว วิ่งหนี ออกจากโรงฆ่าสัตว์ ก็ออกเป็นข่าวอีกแล้ว แล้วท่านคิดว่าสัตว์มันรักชีวิตมัน เหมือนกับมนุษย์อย่างเราหรือเปล่าครับผม สาธุในธรรมครับผม
     
  6. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936
    มนุษย์เป็นผู้ที่เบียดเบียนสัตว์ร่วมโลกมากที่สุด หนักที่สุด และโหดร้ายที่สุด...
     
  7. deardolly

    deardolly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +178
    อยู่ที่เจตนาครับ...ถ้ากินเพื่ออยู่ก็ไม่น่าจะบาปนะ

    แต่ถ้าอีกประการ...คงบาปอะ
     
  8. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    พระพุทธองค์ทรงสอนให้เดินทางสายกลาง

    ที่ปกติ วางวิถีชีวิตให้ปกติไป ไม่ไปฆ่า มีส่วนร่วมในสั่งฆ่า ทั้งกาย วาจา และ ใจ

    และอีกอย่างเรื่องของ สัตว์โลกย่อม เป็นไปตามกรรมวัฏจักรด้วย

    ที่เหลือ..จึงอยู่ที่ท่านปฎิบัติ


    พระอริยะรูปหนึ่งสอนว่า ถ้าใจแค่อยากกินเนื้อชนิดนี้

    คือ สัตว์นี้ ก็ถือว่า จิตสั่ง เจาะจงแล้ว

    ระวังหน่อย ทำใจได้หรือ ว่ามีอะไรก็กินๆไป แล้วกินเลย ไม่ต้องเลือก


    แต่ส่วนใหญ่ ใจท่านทั้งหลายยังแอบสั่ง คิดเลือก และอยากกินเนื้อชนิดนั้น เนื้อชนิดนี้ เฉพาะเจาะจงอยู่หรือเปล่า


    ช่น มื้อนี้ อยากกินก๋วยเตี๋ยวเป็ด มื้อเย็นอยากกินหมูสะเต๊ะ ..อยู่หรือเปล่า


    อย่าลืมในเรื่องของ 'ใจอยาก ใจสั่ง ' ด้วย เรื่องนี้ละเอียดอ่อน พิจารณาดีๆ



    <TABLE id=post6382415 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>[​IMG] 10-07-2012, 11:22 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#12 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ANN<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6386134", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Oct 2004
    ข้อความ: 124
    ได้ให้อนุโมทนา: 451
    ได้รับอนุโมทนา 2,478 ครั้ง ใน 143 โพส
    พลังการให้คะแนน: 232 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]







    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_6386134 class=alt1><CENTER><!-- google_ad_section_start -->อาหารมังสวิรัติ ยังรักษาสภาพแวดล้อมที่กำลังวิกฤติ ให้กลับดีขึ้นมาอีกครั้ง<!-- google_ad_section_end -->

    </CENTER>



    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->[​IMG]



    ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ประธานศูนย์สัตยาไสแห่งประเทศไทย​



    เป็นนักมังสวิรัติ และอดีตนายกสโมสรมังสวิรัติกรุงเทพฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง ​



    “มังสวิรัติ วิถีแห่งชีวิต” ระบุว่า อาหารมังสวิรัตินั้น มีผลดีต่อการฝึกปฏิบัติสมาธิ จิตสำรวม เยือกเย็น



    และสามารถขจัดโรคเช่น ไมเกรน หรือระบบย่อยอาหารผิดปกติ ดร.อาจองยังกล่าวด้วยว่า ในศตวรรษที่ 21 ​



    ประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านคน อาหารมังสวิรัติจะเป็นหนทางเดียวที่จะรองรับการบริโภคอย่างมหาศาล​



    ของคนกลุ่มนี้ได้ นอกจากนี้ ยังจะสามารถรักษาสภาพแวดล้อมที่กำลังวิกฤติ ให้กลับดีขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งได้ด้วย



    ที่มา : http://ttmp.trf.or.th/copy_1/part2/food/ttmpg1.htm<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> ​







    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  9. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    เปิดแฟ้มประวัติ "ลี ชิง ยุน" มนุษย์อายุยืนที่สุดในโลกถึง 256 ปี !?

    [​IMG]


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=496><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพ นายลี ชิงยุน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    ณ บ้านพระอาทิตย์
    โดย : ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    ลี ชิง ยุน (李清云) ได้ถูกอ้างว่าเป็นมนุษย์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลกถึง 256 ปี ทำให้หลายคนอาจเกิดความสนใจและเกิดคำถามว่าจะมีมนุษย์ที่มีอายุยืนยาวได้ เช่นนั้นจริงหรือ? และหากมีเขาดำรงชีวิตอย่างไรจึงได้มีชีวิตยืนยาวเช่นนั้นได้ และผมก็อดคิดตามไปต่อไม่ได้ก็คือ หากมนุษย์มีอายุยืนยาวอย่างนั้นแล้วจะมีความสุขจริงหรือเปล่าท่ามกลางสิ่ง แวดล้อมที่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายในช่วงเวลา 256 ปี ?

    จึงใช้โอกาสในพื้นที่บทความนี้ไปค้นหาข้อมูลมาเขียนแบ่งปันให้ท่านผู้อ่าน ที่สนใจเรื่องนี้ได้พิจารณากัน เพื่อหวังว่าจะได้ประโยชน์และแง่คิดในการดำเนินชีวิตต่อไปไม่มากก็น้อย

    ลี ชิง ยุน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ทานอาหารมังสวิรัติ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการป้องกันตัว และเป็นกุนซือด้านยุทธวิธี ตัวนายลี ชิง ยุน เองได้อ้างว่าเขาได้เกิดในปี พ.ศ. 2279 แต่ในขณะเกิดข้อพิพาทและข้อสงสัยเพราะมีบันทึกหลักฐานซึ่งระบุว่าเขาเกิดใน ปี พ.ศ. 2220 ซึ่งต่อมานายลี ชิง ยุนได้เสียชีวิตในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2476 ดังนั้นไม่ว่าอายุขัยที่แท้จริงของนายลี ชิง ยุน จะอยู่ที่ 197 ปี หรือ 256 ปี ก็ถือว่าเป็นมนุษย์ที่มีอายุยืนมากที่สุดในโลก มากกว่านาง ฌานน์ กาลม็อง สตรีชาวฝรั่งเศส ซึ่งมีหลักฐานในการบันทึกวันเกิดว่าเกิดวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2418 และเสียชีวิตวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2540 ซึ่งมีอายุยืนถึง 122 ปี

    ซึ่งมีข้อสงสัยว่านายลี ชิง ยุน อาจจะจำปีเกิดของตัวเองผิด หรือไม่ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นความจริง หรือไม่หลักฐานที่บันทึกที่พบตามมานั้นอาจผิดก็ได้ ?

    เพราะก่อนที่นายลี ชิง ยุนจะเสียชีวิต 3 ปี ปรากฏว่าในปี พ.ศ. 2473 ศาสตราจารย์ วู ชุง-เฉียน ซึ่งเป็นคณะบดีของคณะศึกษาศาตร์แห่งมหาวิทยาลัยหมินกั๋วประเทศจีน ได้ค้นพบหลักฐานแสดงบันทึกว่า นายลี ชิง ยุน ได้เกิดในปี พ.ศ. 2220 เพราะมีหลักฐานว่ารัฐบาลแห่งจักรพรรดิ์จีนได้ฉลองยินดีกับนาลี ชิง ยุนเมื่ออายุครบปีที่ 150 และ ต่อมาก็ฉลองอีกครั้งเมื่ออายุครบปีที่ 200 เมื่อย้อนเวลากลับไปจากการเฉลิมฉลอง 2 ครั้ง จึงเชื่อได้ว่านายลี ชิง ยุน น่าจะเกิดในปี พ.ศ.2220 จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่กว่าที่จะสืบค้นได้ว่านายลี ชิง ยุนที่แท้จริงได้ว่าน่าจะมีอายุขัยยืนยาวถึง 256 ปี เพราะคนที่ร่วมฉลองวันเกิด 150 ปี หรือ 200 ปีต่างก็เสียชีวิตกันไปหมดแล้ว

    ในปี พ.ศ.2471 หนังสือพิมพ์นิวยอร์ค ไทมส์ ได้เคยเขียนบันทึกผู้สูงวัยซึ่งอยู่เป็นเพื่อบ้านกับนายลี ชิง ยุน ต่างก็ได้ยืนยันตรงกันว่าปู่ของพวกเขารู้จักและเคยเห็นนายลี ชิง ยุน ตั้งแต่ปู่ของพวกเขายังเป็นเด็ก และหลังการเสียชีวิตของนายลี ชิง ยุน ในปี พ.ศ. 2479 นิตยสารไทมส์ และนิวยอร์ค ไทมส์ ได้รายงานว่านายลี ชิง ยุน มีภรรยา 23 คน และมีทายาทกว่า 200 คนเรื่อยมาตลอดระยะเวลา 256 ปี

    นายลี ชิง ยุน เกิดที่มณฑลเสฉวน อายุ 10 กว่าปี ก็เริ่มเก็บสะสมสมุนไพรบนภูเขา ทานอาหารมังสวัรัติและเรียนรู้วิธีในการทำให้อายุยืนยาว ใช้ชีวิตอยู่กับการรับประทานสมุนไพร เขาใช้ชีวิตอย่างนี้ในช่วงชีวิต 40 ปีแรก ต่อมาเมื่ออายุ 71 ปี จึงย้ายไปอยู่ที่ตำบลไค เมืองฉงชิ่งเพื่อเข้าร่วมกับกองทัพจีนในการสอนวิชาศิลปะป้องกันตัวและในฐานะ เป็นกุนซือด้านกลยุทธ์ (ลองคิดดูว่าคนอายุ 71 ปีแล้วมาสอนวิชาศิลปะป้องกันตัวให้กองทัพชายฉกรรจ์ของจีนได้จะต้องมีสุขภาพที่แข็งแรงเพียงใด)

    อาจารย์ดา หลิว เป็นอาจารย์สอนมวยไทเก็ก ซึ่งเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของนาลี ชิง ยุน ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อ อาจารย์ลี ชิง ยุนอายุได้ 130 ปี ได้พบกับฤาษีที่มีอายุมากว่า 500 ปีบนภูเขาและสอนอาจารย์ลี ชิง ยุน ด้วยวิชามวย 9 มังกรปา-กว้าจ่าง (ชื่อมวยชนิดหนึ่งของสำนักบู๊ตึ้ง) และแนะนำสอนการหายใจควบคู่กับชี่กง ฝึกสอนการเคลื่อนไหวที่ประสานไปกับเสียงแบบต่างๆและรวมถึงข้อแนะนำเกี่ยวกับ อาหาร อาจารย์ดา หลิว ได้ระบุว่าอาจารย์ของเขาพูดว่าความอายุยืนของเขานั้นอยู่บนความจริงคือ

    "การออกกำลังกายทุกวัน อย่างสม่ำเสมอ อย่างถูกวิธี และ ด้วยความจริงใจและบริสุทธิ์ สำหรับอายุยืนยาว 120 ปี"

    ในปี พ.ศ. 2470 นายลี ชิง ยุน ได้ถูกเชิญโดยนายพลหยาง เซิน เพื่อให้มาพบเขาที่ตำบลวันในมณฑลเสฉวน และได้ถ่ายรูปที่นั่น โดยนายพลหยาง เซินได้สนใจและทึ่งกับความกระฉับกระเฉง ความแข็งแกร่ง และความองอาจของนายลี ชิง ยุน ที่มีอายุมากในขณะนั้นถึง 250 ปีแล้ว เพราะนายลี ชิง ยุน ในเวลานั้นยังเดินได้เป็นปกติ สายตาดีและมีผิวพรรณที่ดี สุขภาพแข็งแรง หลังตรง หนังตึง เส้นผมกับฟันยังเป็นของแท้ตามธรรมชาติ การตอบสนองและการพูดคุยเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม


    หลังจากนั้นต่อมาหลังการเสียชีวิตของนายลี ชิง ยุน นายพลหยาง เซิน ได้ให้มีการตรวจสอบความจริงเกี่ยวกับเบื้องหลังความเป็นมาและอายุของเขาและ เขียนออกมาเป็นรายงานและได้เผยแพร่ในเวลาต่อมาจนถึงทุกวันนี้

    นายลี ชิง ยุน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ได้สนับสนุนและผลักดันให้ใช้ เห็ดหลินจือป่า, ผลโกจิ เบอร์รี่ (เก๋ากี้), โสมป่า, He Shou Wu (สมุนไพรจีนบำรุงเลือด ชื่อภาษาอังกฤษว่า Polygonum), และใบบัวบก ผสมผสานร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ

    ด้วยความที่นายลี ชิง ยุน อยู่ในประเทศจีนและอยู่บนภูเขามีอากาศหนาว ลักษณะของสมุนไพรจึงเน้นหนักในเรื่องสมุนไพรฤทธิ์ร้อน เช่น เห็ดหลินจือ โสมป่า ฯลฯ (ซึ่งบางอย่างอาจไม่เหมาะกับอากาศในเมืองไทย)แต่อย่างไรก็ตามในทางวิทยา ศาสตร์ได้ค้นพบความสำคัญของสมุนไพรเหล่านั้นตามมาในภายหลัง

    เช่น เห็ดหลินจือป่า พบว่ามีสารโพลีแซคคาไลด์ ซึ่งกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ขจัดสารพิษ เสริมสร้างการทำงานของตับอ่อน ต้านมะเร็ง มีสารเยอร์มาเนียมช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด ต้านมะเร็ง บำรุงสมอง บำรุงประสาท มีสารไตรเทอร์ปีนอยด์ ช่วยบำรุงตับ ควบคุมภูมิแพ้ ต้านมะเร็ง รักษาระดับความดันโลหิตสูง เพิ่มประสิทธิภาพระบบการย่อย มีสารนิวคลีโอไทด์ป้องกันการก่อตัวของลิ่มเลือดการอุดตันของลิ่มเลือด มีอาดีโนซีนที่เสริมสร้างฮอร์โมนและเยื่อหุ้มเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกายให้ แข็งแรงขึ้น มีอัลคาลอยด์ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในหัวใจ ฯลฯ

    ผลโกจิ เบอร์รี่ (เก๋ากี้) ในวันนี้ก็เริ่มนิยมแพร่หลายกันมากในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเพราะเมื่อมีการ ตรวจพบว่าเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงในระดับต้นๆของโลก ทำให้ชะลอการเสื่อมของร่างกายลง อีกทั้งยังมีงานวิจัยของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบกิ้นส์ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้วิจัยโดยการใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูลเซลล์ในเลือดพบ ว่าหากดื่ม โกจิ เบอร์รี เป็นน้ำผลไม้สดจะทำให้เลือดมนุษย์เปลี่ยนไปอย่างมากภายใน 10 วัน จะลดความเป็นกรดในเลือดมีออกซิเจนในเลือดมากขึ้น ทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้ดีขึ้นส่งผลต่อการต้านเชื้อโรคและเชื้อราที่ไม่ พึงประสงค์ต่อร่างกาย และลดคอร์เลสเตอร์รอล ฯลฯ

    ใบบัวบก นอกจากการแก้ช้ำในแล้ว การบริโภคใบบัวบกจะช่วยบำรุงสมอง ทั้งช่วยซ่อมแซมสมองส่วนที่ถูกทำลายไปแล้วและช่วยป้องกันไม่ให้สมองส่วนที่ ยังปกติดีอยู่นั้นถูกทำลายลง แถมยังช่วยให้ความทรงจำมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดความเครียดได้ด้วย ใบบัวบกยังช่วยกระตุ้นระบบการรับส่งกระแสประสาท ปฏิกิริยารีเฟลกซ์ หรือปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้น จึงช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน และยังช่วยควบคุมระดับแรงดันโลหิตให้เป็นปกติ ลดภาวะความเป็นหมันได้อีกด้วย ใบบัวบกยังมีสารไกลโคไซด์ ซึ่งจะช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ ที่จะทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายเราเสื่อมเร็ว และสารที่ว่านั้นก็ยังช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้แผลสมานตัวกันเร็วขึ้น สำหรับผู้ที่มีแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ใบบัวบกมีคุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอสูงมาก ช่วยบำรุงสายตาและมีสารแคลเซี่ยมมากเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีวิตามินบี 1 สูงกว่าผักหลาย ๆ ชนิด

    ในบทความที่ชื่อ "เต่า-นกพิราบ-สุนัข" ซึ่งพิมพ์เผยยแพร่ในรายงานของนิตยสาร ไทม์ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2476 ได้รายงานประวัติรวมถึงคำตอบเคล็ดลับในการมีอายุยืนของนายลี ชิง ยุน ซึ่งก็คือ "มีจิตใจสงบนิ่ง, นั่งเหมือนกับเต่าหมอบ, เดินเหินปราดเปรียวกระฉับกระเฉงเหมือนนกพิราบ, นอนหลับสนิทเหมือนสุนัข" โดยนาลี ชิง ยุน ได้เคยสอนเรื่อง "ความว่างเปล่า" ในการปฏิบัติตนในพื้นฐานของลัทธิเต๋าอีกด้วยด้วย

    แต่ถึงอย่างไรมนุษย์ทุกคนก็ต้องมีอายุขัยของตัวเอง แม้แต่นายลี ชิง ยุน ก็ไม่สามารถรอดพ้นจากฎเกณฑ์ธรรมชาตินี้ได้ นายลี ชิง ยุน ได้ผ่านโลกมาถึง 256 ปี คงได้ใช้ชีวิตที่หลากหลาย สั่งสมความรู้และประสบการณ์ที่มากมาย ผ่านความอนิจจังและการสูญเสียคนที่ตัวเองรักและเพื่อนฝูงเป็นจำนวนมากรุ่น แล้วรุ่นเล่า ดังนั้นอายุขัยของคนๆหนึ่งจึงไม่สำคัญเท่ากับการตรวจดูตัวเองได้ใช้ชีวิต คุ้มค่ามีประโยชน์ต่อครอบครัว สังคม ประเทศชาติ และมนุษยชาติ ในยามที่มีชีวิตอยู่หรือยัง และมากน้อยเพียงใด?

    ก่อนจะเสียชีวิตนายลี ชิน ยุง ดูเหมือนจะรู้วาระสิ้นอายุขัยของตัวเอง และได้พูดกับเพื่อนๆ ว่า:

    "ฉันได้ทำทุกอย่างที่ต้องทำในโลกใบนี้แล้ว ตอนนี้ฉันจะกลับบ้านแล้ว"



    เปิดแฟ้มประวัติ "ลี ชิง ยุน" มนุษย์อายุยืนที่สุดในโลกถึง 256 ปี !?
    -http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000122439-
     
  10. ขอมจำแลง

    ขอมจำแลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +1,273
    ขอแสดงความเห็น ต่อประเด็นเดียวที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา ว่า เขาถามว่าบาปหรือไม่ ไม่ได้ถามว่าดีต่อสุขภาพหรือไม่ ?

    บาปไม่บาป พิจารณาจากศีลห้านะครับ พิจารณาที่ใจหรือเจตนา มิได้ดูที่กายผู้กระทำเป็นหลักว่ากินเข้าไปหรือไม่ เช่น กินเหล้า ถ้าถูกหลอกให้กิน เท่ากับขาดเจตนา ก็ไม่ผิดศีลห้า เป็นต้น เอาระดับฆราวาสประพฤติ ตามหัวข้อนั้น เป็นระดับของพระวินัย ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสกับภิกษุ ...

    ศีลในระดับฆราวาส หากจะรักษาจนเป็นนพระอริยะเจ้านั้น ตามที่ฟังมามี 3 ระดับ หากทำได้ถือว่าบริสุทธิแล้วคือ ไม่กระทำผิดเอง ไม่ใช้ หรือยุยงให้ผู้อื่นกระทำผิด และละเอียดที่สุดคือ ไม่ยินดี เมื่อผู้อื่นกระทำผิดศีล เป็นศีลของพระโสดาบัน ครับ

    ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสนั้น เพื่อ ให้พระท่านรักษา เป็นพระวินัย เป็นศีลของพระ ซึ่งละเอียดปราณีตกว่า คือเป็นเรื่องจิตใจ ไม่ยินดีในการฆ่า และให้มีเมตตาต่อสัตว์

    การรังเกียดเนื้อนั้น ก็มาจากการไม่ยินดีในการฆ่าในพระที่มีจิตละเอียด คิดไปถึงการฆ่าสัตว์ อันเป็นที่มาแห่ง การงดนั่นเอง แต่มิได้หมายถึงการกินเนื้อที่มิได้รังเกียดจะบาป จะขอยกตัวอย่าง เช่น พระจักขุบาลเถระ(เป็นพระอรหันต์) ได้กล่าวรังเกียดผู้ติดตาม และขอแยกทางกันเดิน เพราะเขาประพฤติผิดศีลระหว่างเดินทาง โดยได้แอบไปเสพกามกับหญิง ฯ แม้ท่านจะตาบอดต้องอาศัยการนำทาง แสดงให้เห็นถึงการรังเกียดคนผิดศีล ซึ่งเท่ากับไม่ยินดีในการที่ผู้อื่นกระทำผิดศีลนั่นเอง แต่มิได้วางเสียเฉย ๆ นี่พระอรหันต์กล่าวเอง โดยปราศจากอารมณ์ปฏิฆะ(ไม่พอใจ) เป็นข้อพิจารณา อย่างนี้เป็นต้น ... ท่านเด็ดเดี่ยวจริง ๆ

    ดังนั้นการกินเจ จึงอาจกล่าวได้ว่า เกิดจากผู้ที่จิตละเอียดในทางศีล และมีเมตตาต่อสัตว์เป็นพิเศษ ไม่น่าตำหนิใด ๆ เป็นเรื่องเกิดขึ้นได้ และดีต่อคน ๆ นั้นที่จะมีผู้ปฏิบัติตาม หากเข้าใจว่า กินเจเพื่ออะไร? มิใช่เข้าใจว่ากินเพื่อสุขภาพดีฝ่ายเดียว ต้องตั้งต้นที่การไม่เบียดเบียนชีวิต การไม่ยินดีในการฆ่าสัตว์และเพิ่มเติมด้วย คือ ไม่สนับสนุนการฆ่าสัตว์ ครับ ส่วนเรื่องสุขภาพเป็นผลพลอยได้ จึงจะเรียกได้เต็มปากว่า เราถือศีลกินเจ สาธุ ๆ ๆ ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2012
  11. วรรณนรี05

    วรรณนรี05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +903
    การกินเจ ถ้าเข้าใจเข้าถึง ถือว่าดี ทั้งร่างกายและจิตใจ **แต่ที่กินเจแล้วยังต้องทำเนื้อสัตว์ปลอม ขึ้นมาปรุงให้ได้รสชาติใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์แท้ ท่าน กินเจ เพื่อกาลใด หรือกินตามแฟชั่น หรือกินเพื่อให้ธุรกิจ อาหารเจ เจริญงอกงาม
     
  12. areekit

    areekit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +184
    เห็นด้วยอย่างแรงคะ:cool:
     
  13. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    วันพรุ่งนี้เป็นวันสำคัญหลายอย่างของโลกมารวมกันโดยบังเอิญ1.เป็นวันพระจีนกินเจวันแรก 2.เป็นวันพระไทยและเป็นวันสารทไทย-ทำบุญให้คนที่เสียชีวิต 3.เป็นวันที่ฝรั่ง(ยุโรป)เค้าไปวางดอกไม้ที่หลุมศพกัน เพื่อระลึกถึงคนตาย ของไทยวันสารทก็เป็นวันทำบุญให้ญาติ และ วันกินเจก็เป็นวันรักษาศีลอุทิศบุญกุศลไปทั่วทั้ง3แดนโลกธาตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2012
  14. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,578
    ในช่วงเทศกาลกินเจ หากสามารถหยุดกินเนื้อสัตว์ได้ จะทำให้ร่างกายสะอาด แต่พืชผักที่กินต้องสะอาดด้วย เพราะทุกวันนี้หลีกเลี่ยงได้ยากครับ ทั้งฮอร์โมน ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี ฯลฯ มาอยู่ชายแดน เห็นใช้ ดีดีที และปุ๋ยเคมีกันเยอะไปหมด ได้แต่ปลงครับๆๆๆๆ
     
  15. วรสกุล

    วรสกุล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +27
    พระพุทธองค์ทรงเทศน์ไว้ซะขนาดนี้ "พุทธ"ศาสนิกชน ยังจะสงสัยอะไรอีกเล่า
     
  16. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    เล่าสู่กันฟัง...

    ได้เห็นมาหลายรายแล้วพวกที่ชอบไปขวาง-ไปถากถางคนที่เค้าตั้งใจถือศีลกินเจ เห็นสัญลักษณ์ ของการกินเจแล้วคิด อกุศลคิดไม่ดี สรุบว่าคนพวกนี้ทำมาหากินไม่ขึ้นสักราย นี่เค้าเรียกว่าอยู่ดีไม่ว่าดี เกว่งเท้าหาเสี่ยนแท้ๆ ในที่สุดกลัวกรรมบางอย่างเลยต้องหันมากินเจทุกปี(เป็นลูกน้องที่โรงงานเอง-พวกเซล) นี่เรื่องจริงๆเลย แล้วก็คนข้างบ้านก็เหมือนกันปากหมาชอบแดกดันคนที่เค้าตั้งใจรํกษาศีลกินเจ ตอนนี้บ้านแตกสาแหลกขาดไม่รู้เป็นเพราะกรรมอะไร แต่ที่แน่ๆกรรมแบบนี้มันเร็วยิ่งกว่าติดจรวเสียอีก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 9218452815.jpg
      9218452815.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.3 KB
      เปิดดู:
      43
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2012
  17. jojovirtue

    jojovirtue Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +51
    ลองคิดว่าเราเป็นสัตพวกนั้นดูสิไม่ก็นึกว่าเราต้องโนฆ่าตายแล้วเอาไปกิน เกิดมาเพื่อเป็นอาหารตายกันอื้อเลย เรากินผักก็ได้แต่ทำไมไม่กินกัน สัตตาย 1ตัวเท่ากับอาหารเรากี่มื้อนะ แต่คนทำแหละเลวสุดละ
     
  18. ann

    ann เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    246
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +2,291
    จากหนังสือตามรอยพระอริยะเจ้า หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    พวกเทวดาชอบสถานที่อยู่ลึกๆ เงียบสงัดห่างไกลจากมนุษย์ เพราะมนุษย์มีกลิ่นเหม็นรุนแรงเหมือนซากศพ เนื่องจากมนุษย์กินอาหารประเภทเนื้อสัตว์หลายชนิดมาก ในท้องในกระเพาะมนุษย์จึงเต็มไปด้วยซากศพสัตว์ชนิดต่างๆ ส่งกลิ่นเหม็นกระจายออกมาตามรูขุมขนแต่มนุษย์ด้วยกันเคยชินกลิ่นของกันและกัน เลยไม่รู้ว่าเหม็นเหมือนกลิ่นศพ ซึ่งผิดกับพวกเทวดามีจมูกพิเศษสัมผัสได้ว่องไวเป็นสภาวะทิพย์ จึงสามารถได้กลิ่นเหม็นเน่าซากศพ โชยออกมาจากร่างมนุษย์ได้เต็มที่.....
     
  19. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    บาป หรือ ไม่บาป อยากให้เพื่อน ๆ สมาชิก ได้ดูได้พิจารณา ว่า มนุษย์เราได้เบียดเบียนสรรพสัตว์ เพื่อนร่วม โลก ซึ่งต่าง หวงแหน รักชีวิต รักตัวกลัวตาย ขอให้ดูด้วยใจที่เป็น ธรรม มีสติ

    Just for all living beings on earth -
    ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    http://youtu.be/OjYYlzObe1c
    <O:p></O:p>
    http://youtu.be/zAMX7xpc4bs
    <O:p></O:p>

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • c.jpg
      c.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78 KB
      เปิดดู:
      335
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2012
  20. ละโลก

    ละโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +654
    ละได้ก็ละ เลิกได้ก็เลิก การไม่เบียดเบียนกันเป็นสิ่งดีควรทำ อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ กับทุกท่านครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...