เรื่องเด่น ก่อน ลพ.จะมรณภาพ "พระศรีอาริย์" ได้ฝากคนของท่านไว้ ๓ แสน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย picko, 29 สิงหาคม 2017.

  1. picko

    picko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2014
    โพสต์:
    635
    กระทู้เรื่องเด่น:
    97
    ค่าพลัง:
    +2,126
    Untitled-1.jpg

    องค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มาแจ้งว่า ...



    "...เจ้าเจริญธรรมให้แจ้ง ถึงไม่รักในฐานะที่ควรรัก ...ไม่เกลียด ไม่โกรธ ในฐานะที่ควรโกรธ ...ไม่ขัดเคืองในฐานะทีขัดเคือง >>> อย่างนี้ได้ชื่อว่า ได้อริยผลบริบูรณ์แล้ว เจ้าเป็น "พระขีนาสพ" ตั้งแต่เวลา ๔ นาฬิกา วันนี้ ซึ่งตรงกลางเดือน ๙ พอดี..."

    ท่านจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ชนะในที่สุด สมความปรารถนาที่ได้อธิษฐานลงมา ออกบวชของท่านในชาตินี้ จึงถือได้ว่าเลือกทางเดินเป็นพระอริยสาวกอย่างแน่นอน ด้วยการกำจัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหาน

    แต่ถึงจะหมดภาระสำหรับตนแล้ว ท่านก็ยังต้องมีภารกิจสำหรับลูกหลานที่ติดตามกันมา ที่เรียกว่า "เป็นผู้ที่เคยสนับสนุนพระโพธิญาณกันมาในกาลก่อน" จึงมีข้อแม้ว่า จะต้องอยู่เพื่อทำกิจของพระโพธิญาณต่อไปอีก ๑๒ ปี (ถึงปี ๒๕๑๘)

    ครั้นถึงปี ๒๕๑๕ หนังสือประวัติหลวงพ่อปาน ก็ปรากฏออกมา พร้อมอาการป่วยหนักของท่าน เมื่อจะขอลาเข้าสู่พระนิพพาน ท่านปู่พระอินทร์ ก็มายับยั้งว่า

    "คุณตั้งใจมาช่วยบรรดาลูกหลาน อย่างน้อยก็ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เวลานี้คนของคุณยังมาไม่หมด (จะครบสิ้นปี ๒๓) คนของโยมก็ยังมาไม่ครบ แล้วยังมีคนขององค์สมเด็จองค์ปัจจุบัน และคนของหลวงพ่อปานอีก.."

    หลวงพ่อท่านก็บอกว่า "ก็รอมาตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่มาอีกล่ะ" นับตั้งแต่นั้นมากการหลั่งไหลมาตาม "ใบสั่ง" ก็เกิดขึ้นอย่างมากมาย ดังที่เห็นในปัจจุบันนี้...แต่ก่อนมรภาพ พระศรีอาริย์ มาแถมฝากไว้ให้อีกไม่มาก ประมาณ ๓ แสนคน เวลานี้มีคนมาเล่าให้ฟังหลายรายว่า หลวงพ่อไปเข้าฝันให้มาวัด ทั้งที่ไม่เคยรู้จักวัด และไม่รู้จักหลวงพ่อมาก่อน

    ครั้งนั้นจึงมีการต่อสัญญาอีก ๑๐ ปี เพื่อใช้หนี้ลูกหลานที่ติดตามกันมา จนถึงเวลาครบ ๑๐ ปีตามสัญญา (ครบในปี ๒๕๒๕) ท่านก็ต้องมาตายชั่วคราวในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ เพื่อตัดตอนก่อนที่จะครบในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ซึ่งมีการยืดไปอีก ๑๐ ปี ถึงปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ท่านก็ได้ทำกิจพระศาสนาครบถ้วนตามมโนปณิธาน จนถึงวาระสุดท้ายของสังขาร

    เป็นอันว่า หน่อเนื้อพระบรมพงศ์โพธิสัตว์พระองค์นี้ ที่ได้จุติลงมาเพื่อปฏิบัติภารกิจพระศาสนา หวังที่จะสนองคุณองค์สมเด็จพระบรมศาสดา ท่านจึงได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่มีความ กตัญญูเป็นเลิศ

    ในระหว่างที่ทรงชีวิตอยู่ ท่านมีความเคารพต่อบิดามารดา ดังที่ท่านเล่าไว้ในเทปชุดสุดท้ายเรื่อง "โปรดโยมบนสวรรค์" เป็นต้น ส่วนครูบาอาจารย์นั้น หลวงพ่อท่านมีความเคารพหลวงปู่ปานเป็นอย่างยิ่ง ดังจะเห็นป้ายที่ซุ้มทางเข้าพระอุโบสถ ซึ่งเป็นการสร้างวัดครั้งแรก ท่านยังตั้งชื่อว่า "ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค"

    เพราะการสร้างคุณประโยชน์ต่อชาวโลกเป็นอันมาก ท่านจึงเป็นที่รัก และเคารพของเหล่ามนุษย์และเทวา โดยเฉพาะเหล่าเทพเจ้าทั้งหลายต่างขนานนามท่านว่า "พ่อปู่" ทั้งองค์สมเด็จพระบรมครูทรงตรัสเรียกหน่อพุทธางกรูพระองค์นี้ ตามที่พวกได้ทราบกันดีแล้วว่า "ท่านสัมพเกษีพรหม" นั่นเอง

    (คัดลอกบางตอนจากหนังสือธัมมวิโมกข์ฉบับ ๒๐๓ ปี ๒๕๔๑ หน้า๑๒๔ - ๑๒๕)

    บันทึกของหลวงพ่อเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๖
     
  2. ถามคุง

    ถามคุง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2017
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +24
    สาธุ ขอรับ
     
  3. mrmos

    mrmos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +1,095
    sa377.jpg
     
  4. banchak

    banchak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +58
    สาธุ
     
  5. ืืnorawonrwon

    ืืnorawonrwon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +42
    อนุโมทนาสาธุคับ
     
  6. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
    คนของ พระศรีอาริย์ สามแสนคน ในตอนนั้น
    คือ กลุ่มของ ลัทธิโยเร ผู้สร้างสวรรค์บนพื้นพิภพ ในขณะนี้
    ปัจจุบัน เรียกว่า มูลนิธิเคไคคิวเซเคียว
    ผู้ใช้พลังแห่งแสงทิพย์ของพระศรีอาริย์
    ช่วยรักษา โรคของคน โรคทางวิญญาน โรคเด็กแท้ง
    และช่วยกัน สร้างสวรรค์ บน โลกมนุษย์
    เพื่อรอคอย พระศรีอาริยเมตไตรย
    มาโปรดระหว่างกึ่งพุทธกาล
     
  7. boonbaramee

    boonbaramee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +2,270
    ขออภัยนะครับบบบ

    แน่ๆ ไม่มีใครรู้ว่า
    คนของพระศรีฯคือกลุ่มไหน
    ถึงเวลาแต่ละชุด แต่ละคณะเขาจะเข้ามาเอง
    คณะท่านย่อมเต็มเปี่ยมด้วยวิริยะ ศรัทธา และปัญญาในการสร้างบารมี เพราะเหลือเวลาอีกไม่นาน(1ล้านปีนี้)หรือในห่วงเศษแสนมหากัป ซึ่งผ่านมาเท่าไรแล้วไม่รู้ พระองค์ท่านจะเร่งเก็บหรือตามคนของท่านๆไม่ให้หลงทาง หรือเนิ้นช้า เว้นติดคุกตลอดชีวิตไม่รอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...