ขอถามครับ? ขอวิธีฝึกกังฟู

อยากได้วิธีฝึกกังฟู ไทเก็ก ก็ได้ หรือ วิชาทำให้ร่างกายแข็งแรง ฝึกสมาธิไปด้วย
ครับ ท่านผู้รู้ โปรดบอกเป็นวิทยาทานความรู้
ด้วยเถิดครับ อนุโมทนาทุกท่าน

 

ลองไปฝึกที่วัดเส้าหลินซิครับ ;aa8

 

อ่าวสายจอมยุทธ์มาอีกท่านแล้ว

ถ้าอยากฝึกกังฟู (gongfu หรือ การฝึกพลังกง) ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าตนเหมาะกับมวยอะไร

มวยแข็ง - ได้แก่มวยที่ใช้กล้ามเนื้อ หรือ พลังภายนอก ที่ดังๆมีของเสี้ยวหลินเฉวียน(เส้าหลิน) อู่ตงเฉวียน(บู๊ตึ้ง) ง้อไบ๊ โดยการฝึกมวยแข็งจะได้กล้ามเนื้อสวยงาม ได้การใช้พลังภายนอก แต่ผมว่าคุณน่าจะสนใจ ข้อมูลข้างล่างมากกว่า (เพราะมวยแข็ง ผมไม่ค่อยจะรู้เหมือนกัน มันไม่ใช่สายสมาธิ)

มวยอ่อน - ได้แก่มวยที่ใช้สมาธิ ไม่ใช่กล้ามเนื้อเคลื่อนไหว แต่ใช้พลังภายนอก (ชี่) ที่ดังๆ ก็มีของ

ไท้เก๊ก(มวยอ่อนพริ้วสุด) ได้แก่ สกุลหยาง สกุลเฉิน สกุลอู่ ฯลฯ (ผมฝึกของสกุลหยางอยู่) การฝึกไท้เก๊ก เป็นการฝึกพลังภายใน และได้ทั้งเชิงมวยรับ (ไม่รุกเขาก่อน จะใช้แรงคู่ต่อสู้ มันตีมาแรงขนาดไหน มันเจ็บตัวเท่านั้น เชิงมวย หมุนเป็นวงกลม มีทั้งการตาม การฉุด การเหวี่ยง การดึง การกด เหมือนไอคิโดครับ)

ฝึกพวกนี้ ตับ ไต ม้าม ปอด ลำใส้เล็ก-ใหญ่ หัวใจ สมอง จะแข็งแรงขึ้นเท่าตัว (หายโรคลำใส้ก็เพราะไท้เก๊กเนี่ยแหละครับ จากประสบการณ์ส่วนตัวอ่ะนะ) ในเวลาต่อไป ฝึกไปเรื่อยๆจะสามารถรับรู้ถึงชี่ (ปราณ) สามารถชักนำชี่ ให้ผ่านจักระต่างๆได้ ตั้งแต่เท้า ถึงตันเถียน(กลางกาย) ถึงกระหม่อม อารมณ์จะดีตลอดวัน ไอคิว อีคิวเพิ่ม สมาธิดีเยี่ยม ฝึกอาณาปานสติก็เจริญ

การเรียนไท้เก๊กสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ

1.หาอาจารย์ - ไม่แนะนำให้ใช้ CD เพราะ ส่วนใหญ่พวกนี้การค้า เร่งถ่ายทำ ไม่ได้ลงลึกถึงการหายใจ การถ่ายพลัง ถ่ายน้ำหนัก ผมก็เริ่มจากพวกนี้แหละ หลังๆก็หาอาจารย์ แนะนำอาจารย์เหลียง ที่สวนหลวงครับ

2.การฝึกรำ - ถ้าไม่ฝึกก็ไม่เป็นมวย ถ้าไม่เป็นมวยก็แก่เร็ว ไม่แข็งแรง ถึงแม้จะรำเป็นแล้ว ก็หลีกเลี่ยงการรำไม่ได้ พร่ำรำไปเช้าเย็น แล้ว"เจ้า"จะเจอขุมพลังสักวัน อ่อ ลืมเตือน ว่า ควรจะศึกษาการเคลื่อนไหวให้ดี และมีสมาธิ ขับพลังให้เป็น ไม่งั้นก็ไม่ต่างอะไรกับรำไทย ที่รำไปดื้อๆ ไม่มีอะไร ไม่มีสมาธิ ไม่ได้อะไรเลย (ก็เลี่ยงการหาอาจารย์ไม่ได้อยู่ดีแหละ -*-)

3.ต่อวิชาสาขา - คนย่ำอยู่กับที่ไม่ใช่คนฉลาด ถ้าบรรลุไท้เก๊กทุกแขนงในสกุลนั้นๆแล้ว เช่นสกุลหยาง 81,24,42 กระบวนท่ามือเปล่า ก็ไปต่อกระบวนท่ากระบี่ และ พัด และ พลอง ไป เรื่อยๆ จนไม่เหลือของสกุลหยางให้เราเรียนต่อ เราก็ไปมวยวิชาอื่น ที่ไม่ใช่ไท้เก๊ก เช่น ปากัว เหลียงอี่ ไทอี่ ฯลฯ

หรือถ้าไม่อยากฝึกมวย แนะนำ การฝึกชี่กงครับ

การฝึกชี่กงไม่เน้นมวยเลย แต่จะเน้นความมีสุขภาพเป็นยอด ตามแบบปรมจารย์หลายท่าน (เน้นการคุมลมปราณด้วยนะจ๊ะที่สำคัญ)

วิชาลับที่เปิดเผยแล้วในปัจจุบันได้แก่

คัมภีร์ล้างไขกระดูก, คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น, กวงอิมจื้อไจ้กง, ท่าขยับนิ้วล้างพิษ, กบจำศีล, สมาธิอู๋จี๋, เสี่ยวโจวเทียน, ต้าโจวเทียน ฯลฯ

ถ้าสำเร็จวิชาพวกนี้แล้ว ตัวจะเบาอย่างถึงที่สุด เพราะจะสามารถขับพิษ(ไอโรคที่สะสมตามกายทั้งชีวิต)ที่เกาะตามตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตัวจะเบา อารมณ์ที่สดใสมาก(เพราะพิษออกหมดแล้ว อารมณ์ร้าย อารมณ์ไม่ดี ถือว่าเป็นพิษต่อร่างกายอย่างหนึ่งนะ) และสมาธิจะนิ่งมาก เช่นการฝึกสมาธิอู๋จี๋ หรือ การฝึกสมาธิแบบไร้ตัวตน คือฝึกสมาธิถึงขั้นไม่มีอะไรเลย (พวกเข้าฌาณจะรู้ดี)

ก็ขอให้ศึกษาข้อมูลให้ดี และขอให้โชคดีกับการฝึกนะครับ

 

ท่านตั๊กม้อ เขียนสุดยอดคัมภีร์ยุทธมากมาย แต่วิชาท่านฝึกยากนิด ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่ต่างอะไรกับยืนรำ เป็นแล้งเป็นกา เดินพลังไม่เป็น ผมแนะนำให้เริ่มจากพื้นฐานง่ายๆ คือ ชี่กง และไท้เก๊กสกุลหยางครับ (ท่าง่ายสุด) หรือ สกุลเฉินก็ดีครับ(ต้นตำหรับของหยาง แต่เวลารำจะยากนิดๆ มีกระโดดหน่อยๆ) พอพลังชี่เริ่มแข็งแรง ค่อยไปต่อของสำนักเส้าหลิน หรือ บู๊ตึ้งครับ (shaolin , wu dang ลอง search ดูใน youtube นะ อาจารย์เขาปล่อยท่ารำฟรีๆ เยอะ)

 

ฝึกมโนมยิทธิ แล้วเอาจิตไปฝึกวิชากับท่านตั๊กม้อ โดยตรงเลยสิครับ
พูดจริงนะ ไม่ได้พูดเล่น
ท่านสอนตรง สอนเปิดกว่าการเรียนจากครูกายเนื้อ

 

ความคิดดีครับ ต้องรอเดือนธันวาแน่ะ กว่าจะมีมโนมยิทธิเต็มกำลัง ตอนนี้ฝึกครึ่งกำลังที่บ้านสายลมไปกันก่อนละกัน

 

รู้นิดหน่อยเอง เคยดูสารคดี

โดยหลักการก็คือ อานาปานสติ

แต่เสริมธาตุดิน ไฟ ให้หนักแน่นสั่นสะเทือน โดย

1. การหายใจเข้านั้น ให้หายใจยาว แต่ไม่หน้ามืด อันนี้ยาวได้เท่าไหร่ เราก็ลองฝึกดู
ตอนหายใจเข้าก่อน หายเข้ายาวๆแล้ว หน้าไม่มืด ไม่เบลอ ไม่แน่น ไม่แข็ง

2. การหายใจออก สำคัญต้องมีเสียงสั่นเครือของช่องคอหอยดัง ฮือ และสำคัญ
ท้องตอบแฟบลง คือ ปล่อยออกหมด แล้วดูที่อาการ หน้าไม่มืด ไม่เบลอ ไม่แน่น
ไม่แข็ง เหมือนเดิม

3. ต่อไปก็ทำเนืองๆ โดยสังเกต ตามรู้ตามดู ความอุ่นร้อนเย็นตามปลายมือและเท้า
ดูไปอย่างนั้น จับความรู้สึกไปเรื่อยๆ พอให้คุ้นกับสภาวะธรรม จนจิตจดจำได้ ซึ่ง
ก็ต้องอาศัยระยะเวลาหลายเดือน หลายปี ตามรู้ ตามดู อยู่อย่างนั้น

4. พอจดจำได้ทีนี้ก็ลองพิจารณาความร้อน ความอุ่น ไล่ไปตามเนื้อตัว ซึ่งตรงนี้ก็จะ
ไปเหมือนพลังจักร โดยเฉพาะเรื่องฐานความรู้สึก

มาตรงนี้ก็ตันละ มะรู้เรื่องแล้ว เพราะแต่ละคนจะมีทางที่เน้นไปของตน จะเท้า จะหัว
จะมือ จะหน้าแข่ง ก็ว่ากันไป จะรู้ได้ว่าจุดไหนไม่ใช่ก็ต้องตามรู้ตามดูความไม่เที่ยง
ในการทำความรู้สึก ระลึกรู้

แต่ถ้าจะยกขึ้นวิปัสสนานะ ก็ง่ายๆ เริ่มจากข้อ 1 ถึง เท่าไหร่ก็ว่ากันไป ตามแต่ละคน
ให้ยกดูกายทั้งกายนั้นแหละเขาทำสภาวะสมาธิ และรับผลทางสมาธิในแบบต่างๆโดย
กายเขาเป็นไปได้เอง(เพราะเป็นเพียงแค่ธาตุ4) แล้วก็ยกดูจิตดูใจที่ไหลไปไหลมา
ตามจุดไม่เที่ยง คงทนไม่ได้นาน แข็งแกร่งได้ประเดี๋ยวประด๋าวตราบเท่าที่สติจดจ่อ
อยู่กับกระระลึกรู้ แต่พอสติก็ดี สมาธิก็ดี มันไม่เที่ยง เสื่อมไปเป็นธรรมดา ก็จะเห็นว่า
จิตใจก็ไม่เที่ยงเขาเป็นไปด้วยตัวเขาเอง บังคัยบัญชาไม่ได้ จิตไม่ใช่เรา(ธาตุรู้) ก็จะ
พอยกวิปัสสนาญาณได้

ก็เรียกว่า ได้พลานามัย กับ ได้ปัญญา หากฝึกได้ตรงทาง

สำหรับวัดเส้าหลิน ตอนนี้ก็ลำบากหน่อย เขาเน้นไปทางการแสดงเพื่อเก็บเงินค่าชม
เป็นหลักไปเสียแล้ว คนที่เน้นฝึกเพื่อยกวิปัสสนาญาณเริ่มไม่มี มีแต่ฝึกเอาพลังอย่าง
เพื่อแลกค่าชมอย่างเดียว

[ อันนี้ว่ากันตามเนื้อหา สารคดี นะ ความเป็นจริง คุณ จขกท ก็ต้องสืบต่อเอาอีกที ]

 

ถ้าไม่ต้องการใช้เพื่อต่อสู้ หรือแข่งขันแบบกีฬา ...ผมแนะนำว่า ฝึกชี่กงดีกว่า (เป็นสมถะ) ที่สร้างนิมิตเพื่อให้ผลดีต่อสุขภาพ

แล้วมีพลังจิต(พลังสมาธิ) เอาไปเจริญสติ (วิปัสสนา) ต่อไป

...ผมเห็นว่า การฝึกชี่กงไม่เสียเปล่า เพราะคุณภาพของจิตใจ จะพัฒนาได้ดี ถ้ามีร่างกายที่แข็งแรง ...แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า สุขภาพไม่ดี ปฏิบัติธรรมไม่ได้ (ดูตัวอย่างคุณกำพล ผู้ปฏิบัติธรรมเมื่อร่างกายพิการ ก็ยังทำได้)

 

ฝึกพวกนี้ ตับ ไต ม้าม ปอด ลำใส้เล็ก-ใหญ่ หัวใจ สมอง จะแข็งแรงขึ้นเท่าตัว (หายโรคลำใส้ก็เพราะไท้เก๊กเนี่ยแหละครับ จากประสบการณ์ส่วนตัวอ่ะนะ) ในเวลาต่อไป ฝึกไปเรื่อยๆจะสามารถรับรู้ถึงชี่ (ปราณ) สามารถชักนำชี่ ให้ผ่านจักระต่างๆได้ ตั้งแต่เท้า ถึงตันเถียน(กลางกาย) ถึงกระหม่อม อารมณ์จะดีตลอดวัน ไอคิว อีคิวเพิ่ม สมาธิดีเยี่ยม ฝึกอาณาปานสติก็เจริญ

ขอขอบคุณนะครับ ผมสนใจแบบนี้ครับ ว่าแต่อยากให้ท่านแนะนำด้วยนะครับ ยังไม่เคยฝึกเลย แต่สนใจมาตั้งแต่เด็ก ๆ ครับ

 

ที่สวนลุมก็มีเยอะครับ
ไปจอยกับเขาเอา

 

ใครฝึกกระบี่มั่งแนะนำหน่อย

 

เอ....คนนี้คนเดียวกันกับที่ถามหลวงตาม้าหรือเปล่าอ่ะ...

 

เอานี่ไปดูก่อน ไปดูเป็นแนวทางว่าเขารำอย่างไร

http://www.youtube.com/watch?v=nprZhmfpH40

เราดูพลังปราณเป็นไหม ถ้าดูเป็นลองดูว่ามันไหลมันอย่างไร
ถ้าไม่เป็นไม่เป็นไร ฝึกเรื่อยๆ ทั้งเช้าทั้งเย็น เดี๋ยวของดีมันมาหาัตัวเอง

อ่อ คลิปด้านบน(youtube) เป็นท่ารำไม่ครบกระบวนท่านะ
ตอนนี้ผมอัพโหลดวีดีโอของไท้เก๊กสกุลหยาง กระบวนท่ายาวโบราณให้อยู่ (108 กระบวนท่า)

พรุ่งนี้จะโพสลิงค์ดาวโหลดให้ครับอดใจรออีกสักวัน

ปล. วีดีโอที่จะให้พรุ่งนี้เป็นภาษาอังกฤษนะ (ไม่ต้องรู้ภาษาอังกฤษก็ได้ ดูเขาทำท่า แล้วรำตามไป)

เจริญยุทธ์นะครับ

 

กระบี่สกุลไหน ฝ่ายเหนือหรือใต้ แล้วก็กี่กระบวนท่าครับ ? เผื่อจะตรงกับผม ผมก็กำลังขึ้นกระบี่

 

มันมีแบบไหนมั่งครับ อธิบายหน่อยครับ

 

วิชากระบี่นพเก้านี่ มีไหมครับ

 

ชื่อเหมือนในหนังจีนเลย ผมไม่รู้หรอก รู้แต่กระบี่ไท้เก๊ก 5 สกุล ของเส้าหลิน บู้ตึ้ง ง้อไบ้

 

คุณ Sinderking รู้จักกระบวนวิชาสาวหยก (玉女心经)..กับกระบวนท่าไม้เท้าตีสุนัข (打狗办法)ไมครับ...55

 

ไม่รู้คร๊าบ ไม่ใช่เซียนมังกรหยก -*- ถ้ามีเอามาสอนมั่งนะ 555+ อยากเป็นเซียนเหมือนกัน

 

นี่ขนาดไม่รู้นะเนี่ย....555......ผมคงสอนให้คุณไม่ได้หลอกครับ....ฝึกได้เขาห้ามออกป่า...55...อยากเรียนต้องมาในป่า...55