ขอถามเรื่องการพยากรณ์ครับ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย เที่ยง, 2 พฤษภาคม 2017.

  1. เที่ยง

    เที่ยง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +3
    ผมอ่านหนังสือมาหลายครูบาอาจารย์ ได้ยินองค์นู้นรับรององค์นี้ หมายถึงรับรองภูมิธรรมให้แก่กันนะครับ ผมเองก็มีความเชื่อแบบนั้นมาตลอดครับว่าท่านรับรองภูมิธรรมให้กันได้

    แต่พระท่านบอกว่า เรื่องของการพยากรณ์หรือรับรองภูมิธรรมเป็นเรื่องของพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น แม้ในเหล่าอัครสาวกที่เลิญในแต่ละด้านท่านก็ไม่กล่าวรับรองกัน ไม่อยู่ในฐานะที่จะกล่าวรับรองด้วย

    พวกท่านผู้รู้ทั้งหลายคิดยังไงกันบ้างครับ
     
  2. เที่ยง

    เที่ยง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +3
    ต่อนะครับ....
    แต่ก่อนตัวเองเป็นคนประเภทเชื่อดะถ้ามันตรงกับความเชื่อเดิมของเราอยู่ก่อนแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการเชื่อว่าครูบาอาจารย์องค์โน้นองค์นี้สำเร็จธรรมกัน ได้ภูมิธรรมต่างๆ

    แต่พระท่านบอกมาตลอดว่าท่านที่สำเร็จแล้วไม่มีใครเค้าพูดกัน แม้แต่จะรับรองภูมิธรรมก็ไม่กล่าวรับรองกัน ท่านยังบอกอีกว่าแม้แต่เรื่องของสมาธิไม่จำเป็นท่านก็ไม่พูดไม่แสดง ท่านว่าการพูดเรื่องภูมิจิตภูมิธรรมต่างๆถ้าไม่มีในตนแล้ว(ถ้าบวชอยู่นะครับ)มันจะต้องปาราชิกได้เลยครับ แค่เรื่องของศีลสมาธิท่านยังบอกว่ายากเลย จะประสาอะไรกับการกล่าวถึงวิปัญสนาญาณ...แต่ทุกวันนี้พูดกันยันนิพพาน
     
  3. เที่ยง

    เที่ยง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +3
    สิ่งที่พระท่านบอกดูจะขัดกับความเชื่อของผมที่มีมาก่อนโดยตลอดเลยครับ แต่ก็โดนท่านสะกิดความเชื่อต่างๆมาโดยตลอดเลย ทั้งเรื่องโลกและเรื่องธรรม ยิ่งเรื่องทางธรรมท่านจะยกครูบาอาจารย์ที่ท่านเคยอยู่ด้วยมาพูดให้ฟังอยู่ตลอดว่า ท่านยังไม่เคยได้ยินจากปากซักองค์เลยว่าท่านรับรองภูมิจิตภูมิธรรมให้กัน แถมเดี๋ยวนี้ยังเขียนประวัติครูบาอาจารย์ผิดเพี้ยนกันมากๆเลยครับ
     
  4. เที่ยง

    เที่ยง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +3
    เรื่องของธรรมะพระท่านบอกว่า ทำไม่ได้ไม่ถึงเที่ยวไปพูดสอนชาวบ้านมีแต่พังกับพังอย่างเดียวเลยครับ ข้อนี้ผมว่าอันตรายมากๆเลยครับ ถึงขั้นบิดเบือนคำสอนพระพุทธเจ้ากันได้เลยนะครับ ครูบาอาจารย์ที่ท่านรู้จริงๆท่านถึงไม่ใคร่พูดกันพร่ำพรื่อ ทุกวันนี้องค์โน้นก็นิพพานองค์นี้ก็ชาติสุดท้ายแล้ว เห็นเยอะมากครับ ลองพิจารณากันดูนะครับ
     
  5. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014

    ตรงนี้ ขอตอบว่า
    อันแรก เป็นการรับรองกัน เป็นเรื่องของ
    พระปฏิสัมภิทาญาน ที่ท่านดูให้กัน

    อันที่สอง เป็นเรื่องของ พระสุกกวิปัสสโก
    ที่กล่าวถึง พระปฏิสัมภิทาญาน แล้วสรุป
    ตามความเห็นของตนว่า อภิญญา ไม่มีจริง
    คนที่จะมองเห็นได้ มีแต่ พระพุทธเจ้า เท่านั้น

    สรุปก็คือ ลางเนื้อชอบลางยา
    พวกมีฤทธิ์ ย่อมเข้าใจและชื่นชม ต่อ พระพวกแรก
    แต่ คนไม่มีฤทธิ์ ก็ย่อมจะไม่เข้าใจ ในการเล่นฤทธิ์
    ย่อมต้องนิยมต่อ พระพวกที่สอง นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2017
  6. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014


    แล้วถ้าผมบอกคุณว่า พระราหุล หรือ
    สามเณรราหุล ซึ่งลูกของพระพุทธเจ้า
    ท่านได้รวบรวบ วิธีการ ที่ พระอรหันต์
    ได้บรรลุธรรม ไว้ได้ ถึง 40 วิธีเป็นอย่างน้อย
    ซึ่งต่อมา เรียกว่า กรรมฐาน 40 อย่าง

    ซึ่งเป็นเรื่องจริงๆ ที่พระพุทธเจ้า ได้สอนให้
    ผู้ที่ฝึก กรรมฐานเหล่านี้อยู่แล้ว ที่มีอยู่แล้วในตอนนั้น

    ต่อมา ได้แนะนำให้เห็นถึง การเกิดดับของญาน
    จนเค้าเหล่านั้น ได้บรรลุธรรม ตามลำดับไป

    แล้วก็ตั้งชื่อว่า กรรมฐานสายกลาง
    ที่ใครๆก็สามารถฝึกได้ เห็นผลได้
    แล้วก็หาอุปกรณ์ได้ง่ายๆ ในตอนนั้น

    แล้วคุณคิดว่ายังไง พระราหุลเป็นใคร
    ถึงกล้า มาเขียนแต่งในภายหลัง
     
  7. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014

    พวกที่ชอบคิดด้านเดียว ก็ย่อมตอบว่า มีแต่พังกับพัง
    พวกที่คิดหลายด้าย ก็จะตอบกลับมาว่า นั่นคือ โอกาส
    โอกาสที่จะได้ ใช้ช่วงเวลา ร่วมกันตรวจสอบ
    แล้วก็ช่วยกันแปลให้ถูกต้อง ระหว่าง นักปริยัติ กับ นักปฏิบัติ
     
  8. เที่ยง

    เที่ยง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +3
    มากคิดมากความ เรื่องของธรรมะไม่ใช่จะมาคิดเองเออเองนะครับ พระท่านที่รู้จริงๆท่านถึงได้เตือนเพราะผลที่จะเกิดตามมาเมื่อแตกกายทำลายไปแล้ว สิ่งที่จะต้องเจอมันหาที่สุดประมาณมิได้เลยเรื่องของการบิดเบือนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า พระท่านว่าปัจจุบันมันเลยครูเลยอาจารย์เลยพระพุทธเจ้ากันซะหมด ลองคิดดูนะครับ แค่เรื่องของการพูดสอนธรรมะ พระท่านยังบอกว่าให้ทำตามแบบที่พระพุทธองค์พาทำ คือท่านเอาตัวเองรอดแล้วๆถึงมาสอนเหล่าสัตว์ แต่ปัจจุบันมันเกินไปซะหมด ตัวเองยังเอาไม่รอดเที่ยวสอนคนอื่น พระพุทธเจ้าบารมีท่านตั้งเท่าไหร่ ท่านยังบำเพ็ญจนรู้ทางถึงสอนเหล่าสัตว์ ไม่ใช่ตัวเองไม่รู้เที่ยวพูดสอนไปเรื่อย ไม่รู้ว่าผลเสียที่จะเกิดตามมามันมากมายเท่าไหร่ คิดเอาแค่พูดสนุกปากน้ำลายแตกฟองอวดอ้างต่างๆนาๆ พูดยันนิพพาน แต่ตัวเองจะก้าวพ้นหัวตะพานหรือป่าวก็ไม่รู้5555 ปัจจุบันมันเป็นยังไงน่าจะรู้กันดี ผมเห็นว่าเรื่องของธรรมะยังไงก็ต้องปฏิบัตินะครับ ไม่ใช่มาสุ่มหัวกันคิดถกกันไปไม่สิ้นสุด ไม่ใช่เรื่องของการคิดนึกเทียบเคียงต่างๆนาๆ หวังว่าคงจะเข้าใจเจตนา ที่ดีบ่ดัง ที่ดังบ่ดี ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้นั้นไม่จริง 5555 พระท่านที่รู้จริงๆท่านถึงไม่อยากพูดบอกอะไร
     
  9. เที่ยง

    เที่ยง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +3
    ผมเข้ามาที่บอร์ดนี้เพราะคำพูดบางคำ ประโยคบางประโยค เมื่อเราอ่านดูแล้วรู้เลยว่ามาจากผลของการปฏิบัติ ไม่ใช่มาคิดเทียบเคียง ผมยังยืนยันนะครับว่าต้องปฏิบัติอย่างเดียว ถ้าอยากรู้เรื่องพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า แม้ได้อ่านหนังสือธรรมะมานับไม่ถ้วนก็ตาม เทียบไม่ได้เลยกับการที่เราสามารถทำจิตให้สงบเพียงแค่ช้างกระพรือหู งูแลบลิ้น
     
  10. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014


    ปริยัติ กับ ปฏิบัติ ต้องทำควบคู่กัน
    หาก สิ่งหนึ่งสิ่งใด มีมากกว่ากันเกินไป
    ผลก็คือ สุดโต่งไปออกไปแต่ละข้าง
     
  11. เที่ยง

    เที่ยง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +3
    5555สุดโต่งในทางปฏิบัติ ทางยังไม่เคยเดินเที่ยวพูดไปก่อน นี้แหละหนาคน สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม ทางใครทางมัน
     
  12. เที่ยง

    เที่ยง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +3
    ไปละหนาบอร์ดนี้ ฝากไว้เผื่อท่านที่อ่านแล้วสะกิดใจ เรื่องธรรมะไม่ใช่จะมายัดโน้นยัดนี้เข้าในหัวใจเดี๋ยวได้แตกกันพอดี ทุกวันนี้แค่เรื่องศีล 5 ข้อยังยากเลย ประสาอะไรกับการพูดเรื่อง ฌาน เรื่องญาณ ต่างๆ แถมทะลุกันไปไกลยันนิพพานโน้น5555 ตาดีได้ตาร้ายก็มืดเดินชนเสาหัวแตกไปเลย
     
  13. ponravit20

    ponravit20 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +30
    ผมไม่รู้ว่า จขกท. จะกลับมาอ่านไหม แต่อยากจะบอกว่า ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณครับ

    ยิ่งย้อนกลับไปดูกระทู้เก่าที่คุณโพส เพื่อจะดูว่าคุณมาป่วนหรือเปล่า มันกลับไม่ใช่
    คุณเคยโพสว่า

    "มีพระท่านบอกของพวกนี้ถ้ายังไม่แจ้งในวิปัญสนาญาณก็เชื่อไม่ได้ทั้ง 100% ต่อให้ระลึกชาตินับประมาณไม่ได้ หรือรู้อนาคตนับประมาณไม่ได้ก็อย่าไปหลงเชื่อมัน"

    ผมก็เคยได้รับการสอนมาแบบนี้เหมือนกันครับจากทางพระสายป่า หลังจากใช้ปัญญาดูก็คิดว่า มันถูกต้องแล้วละ

    คนเรามันปฏิบัติไม่ถึง จะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองมีกิเลสอยากเห็นอะไรหรือเปล่า เขาอาจจะมีตาทิพย์ก็จริงแต่ถ้ามันอยากเห็นอย่างนั้นอย่างนี้ ก็จะเป็นนิมิตที่คิดเองซะมากกว่า

    ซึ่งพอผมนำมาพูด ก็มีคนเอาด้านพุทธประวัติในไตรปิฏกมาอ้าง ว่าฤาษีสมัยก่อนก็ดูแม่นได้

    ตามปัญญาผมแล้ว ไตรปิฏกด้านนี้เชื่อได้ทุกอย่างหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ผ่านมาหลายยุคหลายสมัย (หมายถึงด้านพุทธประวัตินะครับ)
     
  14. เที่ยง

    เที่ยง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +3
    กลับเข้ามาตอบให้ท่านโดยเฉพาะครับ ตามพระที่ท่านบอกผมมานะครับ ให้เอาพระสูตรกับพระวินัยเทียบกันทั้งสองด้านนะครับ ถ้าข้อความไหนที่ขัดแย้งกันเองแสดงว่าไม่ใช่ ข้อไหนที่ไม่ขัดแย้งกันก็ใช้ได้ครับ ให้เทียบเคียงอย่างนี้นะครับเรื่องพระไตรปิฏก
     

แชร์หน้านี้

Loading...