ขอบทสวดทำวัตรเช้าเย็นแปลค่ะ

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย singdeedee, 9 เมษายน 2008.

  1. singdeedee

    singdeedee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอความกรุณา หากใครมีบทสวดทำวัตรเช้าเย็นแปล
    ช่วยนำมาลงกระทู้นี้ทีนะค่ะ
    อยากได้มากเลยค่ะ
    ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ
     
  2. เจ้าแห่งเวทย์มนต์

    เจ้าแห่งเวทย์มนต์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +3
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 เมษายน 2008
  3. เจ้าแห่งเวทย์มนต์

    เจ้าแห่งเวทย์มนต์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +3
    คำทำวัตรเย็น
    คำนมัสการพระรัตนตรัย<O:p></O:p>


    อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา,
    พระผู้มีพระภาคเจ้า, เป็นพระอรหันต์ ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ;
    พุทธัง ภควันตัง อะภิวาเทมิ.
    ข้าพเจ้าอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
    (กราบ) <O:p></O:p>
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม,
    พระธรรม เป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ตรัสไว้ดีแล้ว ;
    ธัมมัง นะนัสสามิ.
    ข้าพเจ้านมัสการพระธรรม.
    (กราบ)<O:p></O:p>
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
    พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ปฏิบัติดีแล้ว ;
    สังฆัง นะมามิ.
    ข้าพเจ้านอบน้อมพระสงฆ์.
    (กราบ)

    <O:p></O:p>

    ปุพพภาคนมการ<O:p></O:p>


    (หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เส. )<O:p></O:p>
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต
    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ;
    อะระหะโต
    ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ;
    สัมมาสัมพุทธัสสะ.
    ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
    ( ๓ ครั้ง )<O:p></O:p>

    พุทธานุสสติ<O:p></O:p>

    (หันทะ มะยัง พุทธานุสสตินะยัง กะโรมะ เส.) <O:p></O:p>

    ตัง โข ปะนะ ภะคะวันตัง เอวัง กัลฺยาโณ กิตติสัทโท อัพภุคคะโต,
    ก็กิตติศัพท์อันงามของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น, ได้ฟุ้งไปแล้วอย่างนี้ว่า<O:p></O:p>
    อิติปิ โส ภะคะวา เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น
    อะระหัง, เป็นผู้ไกลจากกิเลส
    สัมมาสัมพุทโธ, เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
    วิชชาจะระณะสัมปันโน, เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
    สุคะโต, เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี
    โลกะวิทู, เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง
    อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ , เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า
    สัตถา เทวะมะนุสสานัง, เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
    พุทโธ, เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม
    ภะคะวา ติ. เป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ดังนี้<O:p></O:p>


    พุทธาภิคีติง <O:p></O:p>

    (หันทะ มะยัง พุทธาภิคีติง กะโรมะ เส.) <O:p></O:p>

    พุทธะวาระหันตะวะระตาทิคุณาภิยุตโต,
    พระพุทธเจ้าประกอบด้วยคุณ มีความประเสริฐแห่งอรหันตคุณเป็นต้น<O:p></O:p>
    สุทธาภิญาณะกะรุณาหิ สะมาคะตัตโต,
    มีพระองค์อันประกอบด้วยพระญาณ และพระกรุณาอันบริสุทธิ์<O:p></O:p>
    โพเธสิ โย สุชะนะตัง กะมะลังวะ สูโร,
    พระองค์ใด ทรงกระทำชนที่ดีให้เบิกบาน ดุจอาทิตย์ทำบัวให้บาน<O:p></O:p>
    วันทามะหัง ตะมะระณัง สิระสา ชิเนนทัง.
    ข้าพเจ้าไหว้พระชินสีห์ ผู้ไม่มีกิเลส พระองค์นั้น ด้วยเศียรเกล้า<O:p></O:p>
    พุทโธ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง,
    พระพุทธเจ้าพระองค์ใด เป็นสรณะอันเกษมสูงสุด ของสัตว์ทั้งหลาย<O:p></O:p>
    ปะฐะมานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง.
    ข้าพเจ้าไหว้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น อันเป็นที่ตั้งแห่งความระลึกองค์ที่หนึ่ง ด้วยเศียร เกล้า<O:p></O:p>
    พุทธัสสาหัสฺมิ ทาโส*(ทาสี) วะ พุทโธ เม สามิกิสสะโร,
    ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระพุทธเจ้า, พระพุทธเจ้าเป็นนายมีอิสระเหนือข้าพเจ้า<O:p></O:p>
    พุทโธ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม.
    พระพุทธเจ้าเป็นเครื่องกำจัดทุกข์ และทรงไว้ซึ่งประโยชน์แก่ข้าพเจ้า<O:p></O:p>
    พุทธัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง,
    ข้าพเจ้ามอบกายถวายชีวิตนี้ แด่พระพุทธเจ้า<O:p></O:p>
    วันทันโตหัง*(ตีหัง) จะริสสามิ พุทธัสเสวะ สุโพธิตัง,
    ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่จักประพฤติตาม ซึ่งความตรัสรู้ดีของพระพุทธเจ้า<O:p></O:p>
    นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง,
    สรณะอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระพุทธเจ้าเป็นสรณะอันประเสริฐของข้าพเจ้า<O:p></O:p>
    เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุสาสะเน,
    ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ข้าพเจ้าพึงเจริญในพระศาสนาของพระศาสดา<O:p></O:p>
    พุทธัง เม วันทะมาเนนะ*(นายะ) ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ,
    ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่ซึ่พระพุทธเจ้า ได้ขวนขวายบุญใด ในบัดนี้<O:p></O:p>
    สัพเพปิ อันตะรายา เม มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา.
    อันตรายทั้งปวง อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งบุญนั้น<O:p></O:p>
    (หมอบกราบลงกล่าวคำพร้อมกัน)<O:p></O:p>
    กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี
    พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,
    กรรมน่าติเตียนอันใด ที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระพุทธเจ้า
    พุทโธ ปะฏิคคัณฺหะตุ อัจจะยันตัง,
    ขอพระพุทธเจ้า จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น
    กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ .
    เพื่อการสำรวมระวัง ในพระพุทธเจ้า ในกาลต่อไป<O:p></O:p>


    ธัมมานุสสติ<O:p></O:p>

    (หันทะ มะยัง ธัมมานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส.)

    สฺวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
    พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสไว้ดีแล้ว<O:p></O:p>
    สันทิฏฐิโก
    เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง<O:p></O:p>
    อะกาลิโก,
    เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ ไม่จำกัดกาล<O:p></O:p>
    เอหิปัสสิโก,
    เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด<O:p></O:p>
    โอปะนะยิโก,
    เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว<O:p></O:p>
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหี ติ.
    เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ดังนี้

    <O:p></O:p>ธัมมาภิคีติ<O:p></O:p>

    (หันทะ มะยัง ธัมมาภิคีติง กะโรมะ เส.) <O:p></O:p>
    สฺวากขาตะตาทิคุณะโยคะวะเสนะ เสยโย,
    พระธรรม เป็นสิ่งที่ประเสริฐ เพราะประกอบด้วยคุณ คือ ความที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นต้น<O:p></O:p>
    โย มัคคะปากะปะริยัตติวิโมกขะเภโท,
    เป็นธรรมอันจำแนกเป็น มรรค ผล ปริยัติ และนิพพาน<O:p></O:p>
    ธัมโม กุโลกะปะตะนา ตะทะธาริธารี,
    เป็นธรรมทรงไว้ซึ่งผู้ทรงธรรม จากการตกไปสู่โลกที่ชั่ว<O:p></O:p>
    วันทามะหัง ตะมะหะรัง วะระธัมมะเมตัง,
    ข้าพเจ้าไหว้พระธรรมอันประเสริฐนั้น อันเป็นเครื่องขจัดเสียซึ่งความมืด<O:p></O:p>
    ธัมโม โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง,
    พระธรรมใด เป็นสรณะอันเกษมสูงสุด ของสัตว์ทั้งหลาย<O:p></O:p>
    ทุติยานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง,
    ข้าพเจ้าไหว้พระธรรมนั้น อันเป็นที่ตั้งแห่งความระลึกองค์ที่สองด้วยเศียรเกล้า<O:p></O:p>
    ธัมมัสสาหัสฺมิ ทาโส*(ทาสี) วะ ธัมโม เม สามิกิสสะโร,
    ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระธรรม พระธรรมเป็นนายมีอิสระเหนือข้าพเจ้า<O:p></O:p>
    ธัมโม ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม,
    พระธรรมเป็นเครื่องกำจัดทุกข์และทรงไว้ซึ่งประโยชน์แก่ข้าพเจ้า<O:p></O:p>
    ธัมมัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง,
    ข้าพเจ้ามอบกายถวายชีวิตนี้แด่พระธรรม<O:p></O:p>
    วันทันโตหัง*(ตีหัง) จะริสสามิ ธัมมัสเสวะ สุธัมมะตัง,
    ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่จักประพฤติตาม ซึ่งความเป็นธรรมดีของพระธรรม<O:p></O:p>
    นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง,
    สรณะอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระธรรมเป็นสรณะอันประเสริฐของข้าพเจ้า<O:p></O:p>
    เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุสาสะเน,
    ด้วยการกล่าวคำสัจจ์นี้ ข้าพเจ้าพึงเจริญในพระศาสนาของพระศาสดา<O:p></O:p>
    ธัมมัง เม วันทะมาเนนะ*(นายะ) ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ,
    ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่ซึ่งพระธรรม ได้ขวนขวายบุญใด ในบัดนี้<O:p></O:p>
    สัพเพปิ อันตะรายา เม มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา.
    อันตรายทั้งปวง อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งบุญนั้น<O:p></O:p>
    (หมอบกราบลงกล่าวคำพร้อมกัน)<O:p></O:p>
    กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี<O:p></O:p>
    ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,
    กรรมน่าติเตียนอันใด ที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ในพระธรรม<O:p></O:p>
    ธัมโม ปะฏิคคัณฺหะตุ อัจจะยันตัง, ขอพระธรรม จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น<O:p></O:p>
    กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม. เพื่อการสำรวมระวัง ในพระธรรม ในกาลต่อไป<O:p></O:p>
    (๕. สังฆานุสสติ )
    (หันทะ มะยัง สังฆานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส.) <O:p></O:p>
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
    สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติดีแล้ว<O:p></O:p>
    อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
    สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติตรงแล้ว<O:p></O:p>
    ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
    สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว<O:p></O:p>
    สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
    สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติสมควรแล้ว<O:p></O:p>
    ยะทิทัง, ได้แก่บุคคลเหล่านี้ คือ<O:p></O:p>
    จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา,
    คู่แห่งบุรุษ ๔ คู่, นับเรียงตัวบุรุษ ได้ ๘ บุรุษ<O:p></O:p>
    เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, นั่นแหละ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า<O:p></O:p>
    อาหุเนยโย, เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา<O:p></O:p>
    ปาหุเนยโย, เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ<O:p></O:p>
    ทักขิเณยโย, เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน<O:p></O:p>
    อัญชะลิกะระณีโย, เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี<O:p></O:p>
    อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสา ติ.
    เป็นเนื้อนาบุญของโลก, ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้<O:p></O:p>


    สังฆาภิคีติ<O:p></O:p>

    (หันทะ มะยัง สังฆาภิคีติง กะโรมะ เส.) <O:p></O:p>
    สัทธัมมะโช สุปะฏิปัตติคุณาทิยุตโต,
    พระสงฆ์ที่เกิดโดยพระสัทธรรม ประกอบด้วยคุณมีความปฏิบัติดี เป็นต้น<O:p></O:p>
    โยฏฐัพพิโธ อะริยะปุคคะละสังฆะเสฏโฐ,
    เป็นหมู่แห่งพระอริยบุคคลอันประเสริฐ แปดจำพวก<O:p></O:p>
    สีลาทิธัมมะปะวะราสะยะกายะจิตโต,
    มีกายและจิต อันอาศัยธรรม มีศีลเป็นต้น อันบวร<O:p></O:p>
    วันทามะหัง ตะมะริยานะคะณัง สุสุทธัง.
    ข้าพเจ้าไหว้หมู่แห่งพระอริยเจ้าเหล่านั้น อันบริสุทธิ์ด้วยดี<O:p></O:p>
    สังโฆ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง,
    พระสงฆ์หมู่ใด เป็นสรณะอันเกษมสูงสุด ของสัตว์ทั้งหลาย<O:p></O:p>
    ตะติยานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง.
    ข้าพเจ้าไหว้พระสงฆ์หมู่นั้น อันเป็ที่ตั้งแห่งความระลึกองค์ที่สามด้วยเศียรเกล้า<O:p></O:p>
    สังฆัสสาหัสฺมิ ทาโส*(ทาสี) วะ สังโฆ เม สามิกิสสะโร,
    ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระสงฆ์ พระสงฆ์เป็นนาย มีอิสระเหนือข้าพเจ้า<O:p></O:p>
    สังโฆ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม.
    พระสงฆ์เป็นเครื่องกำจัดทุกข์ และทรงไว้ซึ่งประโยชน์แก่ข้าพเจ้า<O:p></O:p>
    สังฆัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง,
    ข้าพเจ้ามอบกายถวายชีวิตนี้ แด่พระสงฆ์<O:p></O:p>
    วันทันโตหัง*(ตีหัง) จะริสสามิ สังฆัสโสปะฏิปันนะตัง,
    ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่จักประพฤติตาม ซึ่งความปฏิบัติดีของพระสงฆ์<O:p></O:p>
    นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง,
    สรณะอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระสงฆ์เป็นสรณะอันประเสริฐของข้าพเจ้า<O:p></O:p>
    เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุสาสะเน,
    ด้วยการกล่าวคำสัจจ์นี้ ข้าพเจ้าพึงเจริญในศาสนา ของพระศาสดา<O:p></O:p>
    สังฆัง เม วันทะมาเนนะ*(นายะ) ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ,
    ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่ซึ่งพระสงฆ์ ได้ขวนขวายบุญใด ในบัดนี้<O:p></O:p>
    สัพเพปิ อันตะรายา เม มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา.
    อันตรายทั้งปวง อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งบุญนั้น<O:p></O:p>
    (หมอบกราบลงกล่าวคำพร้อมกัน)<O:p></O:p>
    กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี<O:p></O:p>
    สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,
    กรรมน่าติเตียนอันใด ที่ข้าพเจ้ากระทำแล้วในพระสงฆ์<O:p></O:p>
    สังโฆ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง, ขอพระสงฆ์ จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น<O:p></O:p>
    กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ. เพื่อการสำรวมระวัง ในพระสงฆ์ ในกาลต่อไป<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 เมษายน 2008
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876

แชร์หน้านี้

Loading...