ขอประสบการณ์ผู้ที่ภาวนาสัมปะจิตฉามิกับเมสัมมุกขาสัพพาหะระติเตสัมมุกขาค่ะ

ขอถามเป็นความรู้ค่ะ ปัจจุบันบุญไม่ถึงภาวนาพุทโธแล้วชอบเพี้ยนเป็นพุทโธ่ แล้วมาเจอคาถาอาราธนาคาถามหาสะท้อนก้อภาวนาได้ดีแต่จิตยังไม่รวม พึ่งเริ่มภาวนาระหว่างทำกิจวัตรต่างๆประจำวันค่ะ แล้วระหว่างคาถาเงินล้านกับคาถามหาสะท้อนประสบการณ์ต่างกันอย่างไรคะ

 

เมื่อติดขัดเรื่องเงินทอง หรือ
ทำงานอะไรแล้วติดขัด
ไม่ค่อยมีใครคอยช่วยเหลือ หรือ
ทำอะไรแล้วรู้สึกว่าไปไม่เป็น
หาทางออกไม่เจอ คิดไม่ออก
ให้ภาวนา คาถาเงินล้าน


แต่ถ้าเมื่อไหร่ โดนรุมสะกรัมจาก สิ่งรอบข้าง
จนรู้สึกว่า เจ้ากรรมนายเวร
ทำกับเรามากเกินไปหน่อย
จนร่างกายจะทนต่อไปไม่ได้
เดี๋ยว ตายไปก่อน จะชดใช้กรรมไม่หมด
ก็ให้ภาวนา คาถามหาสะท้อน ช่วย

แต่ถ้ารู้สึกว่า ยังสามารถทนได้
ก็ให้รับกรรมไปโดยปริยาย
แล้ว คอยพิจารณา ร่วมด้วยว่า
นี่คือ กฏแห่งกรรม ของเรา
ที่เราไป ทำเค้า ไว้ก่อน
กรรมจึงกลับมาส่งผล ต่อเรา
เราขอ อโหสิกรรม ครั้งนี้เสีย
ต่อไปอย่าได้มี กรรมเวร ต่อกันเลย
ขอให้เจ้ากรรมนายเวร อโหสิกรรมให้เราด้วย
ให้เลิกแล้วต่อกันไป ทั้งสองฝ่าย

 

อันนี้เป็นเรื่องที่หลวงพ่อเล็กวัดท่าขนุน ลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงที่เป็นผู้เผยแพร่คาถามหาสะท้อน ท่านได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ท่านจำเป็นต้องใช้คาถามหาสะท้อนครับ

โดนลองดีในงานครูบาวิฑูรย์

พระอาจารย์เล่าว่า "ในงานของครูบาวิฑูรย์ มีนักเลงดีเขาลองว่าอาจารย์ใหญ่จะแน่สักแค่ไหน ? ป่านนี้คงรู้แล้วว่าอาจารย์ใหญ่แน่แค่ไหน อาตมาไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ปลุกคาถามหาสะท้อนเท่านั้น คนอื่นเขาคงแปลกใจว่าทำไมอาตมาขยับแล้วขยับอีกนั่งไม่ติด เพราะตอนนั้นเหมือนกับมีเหล็กแหลมแทงจากฝ่าเท้าเข้าไปถึงกระดูก ปวดสุดใจขาดดิ้นเลย..!

ครั้งแรกก็ว่าจะยอมรับกฎของกรรมเสียหน่อย แต่ชักจะแรงขึ้นทุกที ก็เลยไม่เอาด้วยแล้ว ทีแรกกดไว้แค่หัวเข่า เขาก็ยังไม่เลิกอีก พอพระเริ่มเจริญพระพุทธมนต์ก็เริ่มต้นเอาอีกแล้ว ในเมื่อมาใหม่ อยากทำดีนักก็เอาคืนไป #เลยดันพรวดคืนไป #เราไม่ได้ทำอะไรนี่หว่า..!

ถ้าเขารู้พื้นฐานดวงของอาตมาว่าอริเป็นมรณะ ก็คงจะไม่คิดทำอะไร เผอิญว่าเขาไม่รู้ พื้นฐานดวงของอาตมา พอถอดออกมาแล้ว ปัตนิเป็นโภคะ ก็คือผู้หญิงจะให้ลาภ จะได้รับการสนับสนุนจากผู้หญิงเสมอ

ข้อที่สอง คืออริเป็นมรณะ ใครตั้งตัวเป็นศัตรู แค่นั่งมองเฉยๆ เขาก็ตายไปเองไม่ต้องไปทำอะไร อันดับสุดท้าย สหัชชะเป็นพยายะ เพื่อนจะพาจนตลอด อาตมาเลยตัดสินใจจัดกฐินปลดหนี้ให้เลย จะได้ไม่ต้องมาพาให้จนอีก

พื้นฐานดวงเป็นอย่างนี้จริง ๆ ก็เลยไม่ต้องแปลกใจนะว่าทำไมยันต์เกราะเพชรหรือตะกรุดมหาสะท้อน อาจารย์เล็กถึงทำขึ้นนักหนา จะไม่ให้ขึ้นได้อย่างไร เพราะอริเป็นมรณะ มาเท่าไรก็คืนไปหมด"

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๔

 

ถ้าสนใจเรื่องคาถามหาสะท้อน ลองเข้าไปอ่านได้ที่นี้เลยครับ http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3458

 

ส่วนวิธีการสวดคาถา ถ้าใหม่ ๆ ก็สวด
เช้า 30 นาที
เย็น 30 นาที

พอหลายวันเข้าเริ่มรู้สึกว่าไม่เหนื่อยแล้วก็เพิ่มเป็น
เช้า 1 ชั่วโมง
เย็น 1 ชั่วโมง

นอกนั้นก็สามารถสวดได้ตามสะดวกครับ ไม่ว่าจะ ยืน เดิน นั่ง นอน ไปไหนมาไหน ก็สวดในใจได้เลย เดินห้าง รถติด สวดได้หมด ถ้ายิ่งในขณะที่สวดแล้วเห็นตัวหนังสือไปด้วย ก็ยิ่งดีใหญ่

ให้เห็นตัวหนังสือเหมือนที่เรานึกเห็นใบหน้าคนที่เราคิดถึงนั่นแหละครับ

เช่น

ภาวนาว่า เม เราก็นึกเห็นคำว่า เม ในใจของเราชัดเจน

(ในขณะที่เห็นตัวหนังสือ เราก็หายใจเป็นปกติ
ไม่ต้องไปบังคับลมหายใจนะครับ ปล่อยลมหายใจไปตามสบาย)

ภาวนาว่า สัม เราก็นึกเห็นคำว่า สัม ในใจของเราชัดเจน
ภาวนาว่า มุก เราก็นึกเห็นคำว่า มุก ในใจของเราชัดเจน
ภาวนาว่า ขา เราก็นึกเห็นคำว่า ขา ในใจของเราชัดเจน
.......

แบบนี้ครับ ตัวอื่นๆก็เหมือนกัน ท่องไปจนจบก็เริ่มใหม่ ทำไปเรื่อยๆได้ตลอดตามที่ต้องการ ทำแบบไม่ต้องเครียดทำแล้วให้ใจสบายๆ ผ่อนคลายจะได้ผลดีครับ

 

มีใครบริกรรมอะไรแล้วใจลอยบ่อยและหนักๆที่ดั้งจมูกบ้างคะ อยากรู้ว่าเป็นเพราะบังคับจิตให้ไม่เป็นธรรมชาติรึเปล่า ?

 

เมื่อคืนนอนบริกรรมคาถามหาสะท้อนจนหลับ

 

ถ้าว่าคาถานั่นคาถานี่แล้วเพื่อให้ร่ำให้รวยเงินทองไหลมาเทมานะ ป่านนี้คนยากคนจนในประเทศไทยคงหมดไปแล้ว จริงๆนะ ไม่ใช่แกล้งว่า

 

มีคืนนึงนอนบริกรรมแล้วฝันเห็นตัวเองเป็นซากศพน้ำเลือดน้ำเหลืองใหลเยิ้มทั่วใบหน้า แสดงว่าถูกจริตกับคำบริกรรมนี้รึเปล่า

 

เห็นคนเรียกคุณบ้องแบ้วว่าคุณปราง มจด.เรียกมั่่ง อิอิ ถ้าไม่ให้เรียกก็บอกนะครับ

มีฝันด้วย เลยต้องบอกว่า ฝันก็ฝันครับ ไม่ควรเก็บมาตีความเป็นนั่นเป็นนี่ตอนตื่นนอนแล้ว ถ้าเป็นคนชอบแทงหวยก็เก็บมาตีเป็นตัวเลข (ตย. นี้ตีได้เผื่อฟลุ๊ค) ส่วนนักภาวนาแห่งนี้มักเอาความฝันมาตีเป็นธรรมะ เป็นอริยะขั้นนั้นขั้นนี้ ซึ่งไม่ใช่เลยครับ ฝันได้แก่คนนอนครึ่งหลับครึ่งตื่น ซึ่งจิตยังอยู่ในวิถี ซึ่งเราเรียกกันว่าฝันนี่แหละ แต่ถ้าหลับลึกแล้วจะไม่ฝัน หลับสนิท ตื่นแล้วสดชื่น ไม่งัวเงีย

 

สัมปะจิตฉามิก็ดี เมสัมมุกขาสัพพาหะระติเตสัมมุกขาก็ดี คาถามหาสะท้อนก็ดี คาถาเงินล้านก็ดี พุทโธ เป็นต้น ก็ดี ผู้ที่คิดนำมาใช้แล้วใส่ (กิเลส) ความหวังให้คนปฏิบัติ เป็นมิจฉาปฏิปทาแต่เริ่มต้นแล้ว

ยกตัวอย่างคำสั้นๆ เช่น พุทโธ นี่นะ ถ้าใช้เหมือนคำตรึงจิตให้อยู่กับลมหายใจเข้าออก ตย. เช่น ลมหายใจเข้าว่า "พุท" ลมหายใจออก ว่า "โธ" ว่าไป ลมเข้า พุท ลมออก โธ อย่างนี้ใช้ได้

แต่ไปคิดไปเห็นเสียว่า "พุทโธ" ที่ใช้เช่นนั้นเป็นของศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ นี่เป็นมิจฉาสังกัปปะ เป็นมิจฉาปฏิปทา ผิดทาง

 

คล้ายๆที่กำลังสงสัยในใจค่ะ. ปรกติภาวนา สัมมา อรหังมาเกือบสิบปีแล้วค่ะ. แต่เมื่อ สองอาทิตย์ที่แล้วฝันว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย คล้ายเสียงจากพระแม่ธรณี บอกให้ภาว
คำว่า นะโม พุทธายะ แล้วจะรอดปลอดภัย. เกี่ยวกับพระแม่ธรณีฝัน คล้ายกันสองครั้งแล้วค่ะ. ถ้าหากเรื่องเล่านี้ไร้สาระก็ขออภัยทุกท่านด้วยค่ะ

 

เคยอ่านเรื่องกฎแห่งกรรมของ คุณ ท.เลียงพิบูลย์ เรื่องอะไรจำไม่ได้ นานมากแล้ว ในเรื่องนั้นมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้เขามีคาถาแม่พระธรณีภาวนาตอนเข้าป่าแล้วปลอดภัยดี คาถานั้นว่า นะแม่ โมพระธรณี พุทธายะ มีพระคุณ ที่เขียนมาเพื่อจะบอกว่า ในคาถาแม่พระธรณีนี้ มีคำว่า นะโมพุทธายะ เหมือนที่คุุณราตรีฝันเลย

 

ขอบพระคุณค่ะ ปิติค่ะ นึกว่าฝันเรื่อยเปื่อย

 

ขออภัยคุณ บ้องแบ๊ว เจ้าของกระทู้ด้วยว่าจะตั้งกะทู้ถาม
ท่านกัลยาณมิตร แต่ยังตั้งไม่เป็นได้แต่เก็บความสงสัยเรื่อยมา..วันนี้มั่นใจแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ