ขอภาพพระหน่อยคับ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย therd2499, 21 สิงหาคม 2013.

  1. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    อยากได้รูปสมเด็จองค์ปฐม รูปหลวงพ่อโสธรคับ

    หรือพระพุทธรูปสวยๆคับจะนำไปเป็นแบล็คกราวแทปเลต

    ฝึกพุทธานุสสติ

    ใครมีโปรดแบ่งปันด้วยคับ

    ขอบคุณคับ
     
  2. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ได้แล้วคับเข้าไปcopyแกลอรี่มาคับ
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    โมทนาด้วยครับ..ขอฝากอะไรไว้หน่อยครับ
    .ถ้าจะนำรูปไปไว้ในแท๊บเล๊ตในส่วนแบ๊คกราวน์..
    แนะนำว่าให้ย่อรูปพระองค์ท่านให้เล็กลงมาด้วยนะครับ.ความสูงซัก
    อย่าสูงเกิน ๑o เซนต์นะครับ.หลักการคือให้สามารถมองรูปท่าน

    แล้วสามารถเห็นได้ครั้งเดียวทั้งพระองค์นะครับ..ถ้ารูปขนาดใหญ่เกินไปที่ต้อง
    มองหลายๆโฟกัส.เด่วเวลาเราโพกัสส่วนบนท่านส่วนล่างท่านจะหาย.

    .พอโฟกัสส่วนล่างส่วนบนท่านจะหาย..และสีจะตรงข้ามกับสีที่เรามองไม่ว่าจะมองแล้วหลับตา
    หรือลืมตามองแล้วโพกัสไปยังตำแหน่งอื่นๆเพื่อให้ภาพท่านปรากฏครับ..

     
  4. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ไม่รู้ของคนอื่น แต่ที่ดิฉันนั่งสมาธิดู เวลามันถึงฌาณหนึ่ง ภาพพระจะปรากฏขึ้นเองแม้เราไม่ได้กำหนด การที่คุณสร้างภาพพระในขณะที่กำลังสมาธิไม่ถึง........ มีแต่จะเป็นการใช้พลังสมองมากเกินไป เหมือนกับจินตนาการมาก ต้องมาคอยปรุงแต่งว่า ส่วนเศียรชัดไหม ส่วนหน้าตักหายต้องสร้างจินตนาการให้เห็น ซึ่งทำแบบนี้ไม่เป็นประโยชน์เลย

    มันคือการใช้พลังความคิด พลังสมองมากกว่า......... เราเอาแค่บริกรรมพุทธ โธๆ ไป สบายๆ ไม่ต้องคิดไร หวังอะไร พอมันเข้าฌาณหนึ่ง หรือสภาวะจิตมันสงบและเริ่มแยกจากกาย ภาพพระจะมาปรากฏเองและชัดด้วย ไม่ต้องไปสร้างให้ปวดหัว
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    แบบที่คุณ Duss ทำก็เป็นวิธีการหนึ่ง.หลักการก็เป็นอย่างที่เข้าใจนั่นหละครับ..
    แต่เป็นวิธีการที่เหมาะที่จะใช้ต่อยอดสำหรับไปถึงขั้นอรูปฌาน.แต่ต้องสร้างภาพ
    อย่างที่เข้าใจให้ภาพคงอยู่นิ่งๆแบบใสๆให้ได้ก่อนระยะเวลาหนึ่ง
    .หลังจากนั้นค่อยกำหนดให้ภาพหาย

    .ถ้าจะให้ดีทำให้ภาพคงอยู่และหายให้ได้ซัก ๒ รอบถึงจะ
    เพียงพอสำหรับการรักษาอารมย์ในโหมดอรูปฌานและสามารถวิปัสสนา
    ในขั้นนี้ได้แต่ต้องรู้จักการรักษาอารมย์ในเรื่องที่จะยกขึ้นวิปัสนาด้วย.
    และในช่วงที่สามารถทรงภาพไว้ได้ต้องไม่ไปยุ่งกับพวกวิชา บางอย่างเช่นไม่ย้อนดูอดีตชาติ
    หรือ ไปรับรู้เรื่องราวต่างๆ.ที่จะมาปรากฏเป็นภาพให้เราดู
    แทนภาพที่เราได้สร้างไว้ในเบื้องต้น..เพราะว่าจะเป็นตัวขวางทำให้เราไปช้า.

    และถ้าไม่สร้างภาพก่อนจะสามารถเข้าอรูปฌานได้เหมือนกัน
    แต่จะไม่สามารถทำอะไรได้เลยเหมือนลอยออกไปอยู่ในจักรวาล
    จุดนี้บางคนอาจเผลอคิดว่าเป็นสภาวะนิพพานเหมือนฤาษีหลายๆรูป
    ที่ผ่านมาในอดีต..เพราะสภาวะที่เหมือนไม่มีความคิดอะไรนี่หละครับ.
    เลยตายน้ำตื้นและหลงกันมาเยอะแล้วในอดีตชาติ..

    .และถ้าฝลุ๊คเหมือนๆจะคิดที่พอจะวิปัสสนาได้ก็จะกลายเป็นนิวรณ์และหลุด
    ออกจากอารมย์นี้ทันที.เลยเป็นเหตุให้ไม่สามารถเดินปัญญาในส่วนนี้ได้
    เพราะยังอาจไม่เข้าใจเรื่องการรักษาอารมย์เพื่อเดินปัญญาในขั้นนี้..
    เพราะนึกว่าพอคิดแล้วจะทำให้หลุดออกอารมย์เพียงอย่างเดียว
    .ซึ่งลักษณะแบบที่ไม่สร้างภาพนี้นั่งสมาธิธรรมดา
    ก็สามารถหลุดเข้าไปได้ถึงอรูปฌานได้ไม่ยากนัก..

    ไหนๆก็เล่าแล้วเด่วต่ออีกซัก ๒ ตอน
    .
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ส่วนแบบ จขกท. ขอภาพไปนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่เราเรียกว่า การฝึกให้จิตเกาะพระ..
    ด้วยการมองภาพแล้วจำภาพไว้แล้วหลับตาและให้ภาพปรากฏขึ้น
    ให้เห็นในขณะหลับตาหรือจะใช้การมองภาพแบบลืมตา
    แล้วละสายตาไปที่ตำแหน่งอื่นๆ.และให้ภาพปรากฏ

    .นอกจากเป็นการฝึกให้จิตมีสติในการระลึกภาพพระแล้ว.ยังเป็นการฝึกสร้างทิพย์จักขุในเบื้องต้น..
    เนื่องจากใช้กำลังสมาธิในระดับเล็กน้อยและ
    สามารถทำได้ทั้งวันขึ้นอยู่กับความเพียรของแต่ละบุคคล.

    .และการเห็นภาพที่ค้างอยู่ได้นั้นไม่ว่าจะหลับตาหรือลืมตาเป็นกำลังสมาธิ
    ระดับอุปจารสมาธิหรือสภาวะจิตมีความเป็นทิพย์ชั่วคราว
    แต่ภาพอาจจะยังค้างอยู่ได้ในเวลาไม่กี่วินาที

    และการฝึกในลักษณะนี้ ต้องมองผ่านระหว่างคิ้วบางคนเรียกว่ามองผ่านตาที่ เพราะการมองผ่านตรงจุดนี้.
    จะเป็นการตัดระบบความคิดต่างๆที่จะส่งไปยังสมอง
    .จะทำให้ไม่รู้สึกปวดศรีษะ.แม้ในขณะที่มองผ่านตรงจุดระหว่างคิ้วนี้

    ต่อให้พยายามคิดผ่านระหว่างคิ้วได้..แต่ความคิดก็จะไม่ส่งไปถึงสมองได้.
    .บางคนจึงเลือกใช้วิธีการกำหนดจิตไว้ตรงตำแหน่งนี้ในระหว่างวัน
    เพื่อเป็นการสร้างสติและตัดระบบความคิดต่างๆที่จะถูกส่ง
    ไปยังสมองในสภาวะปกตินั้นเอง
    และเพื่อเป็นการรักษาอารมย์ที่จะมากระทบต่างๆ
    หรือเราเรียกว่าการรักษาอารมย์ระหว่างวัน

    .แต่วิธีการนี้จะเหมาะสำหรับบุคคลที่เคยฝึกสมาธิมา
    บ้างและพอมีกำลังสมาธิสะสมมาบ้างถึงจะมองผ่านจุดระหว่างคิ้วโดยที่ไม่
    รู้สึกปวดจะแค่เพียงหน่วงๆหรืออาจเหมือนกับมีลมมาหมุนตามเข็มนาฬิกา
    เท่านั้น.หรือบางคนอาจไม่รู้สึกอะไรก็เป็นได้
    เนื่องจากว่าในอดีตชาติเคยฝึกมาก่อน...
    .
    เด่วมีอีกตอน.​
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ส่วนกรณีที่บางคนพึ่งเริ่มฝึกนั่งสมาธิใหม่.เพิ่งเริ่มสะสมกำลังสมาธิ
    ระหว่างวันจากการเจริญสติแบบต่างๆที่มีฐานอยู่ที่กาย.ณ จุดนี้อาจยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร.
    .จำเป็นที่จะต้องใช้การจำภาพก่อนในเบื้องต้น..

    พอจำไปนานๆ.นานเข้าและนานเข้า..จิตก็จะสามารถเริ่มจำภาพได้
    และก็จะสามารถพัฒนาจนถึงขั้นสร้างภาพได้ทั้ง
    ขณะลืมตาและหลับตาในระดับกำลังอุปจารสมาธิ..
    เพียงแต่ว่าวิธีนี้ต้องใช้ระยะเวลาที่นานมากพอสมควร..

    แบบที่ คุณ Duss บอกว่าบริกรรมไปสบายๆ ไม่คิดอะไรไม่หวังอะไร.
    อารมย์แบบนี้ทางปฏิบัติเค้าเรียก การวางอารมย์นั้นเอง..พูดง่ายๆเรารู้ว่า
    ภาพอะไรจะขึ้นมาแต่เราปล่อยวาง คือ เห็นก็ช่างไม่เห็นก็ช่าง.
    เพราะถ้าเผลอไปตั้งความหวังไว้ว่าจะต้องเห็น.ก็จะเป็นการสร้างความคิด
    ให้เกิดในสมองได้ทันทีเป็นสาเหตุให้อาจปวดศรีษะได้.
    เป็นวิธีการตัดความคิดที่จะส่งไปยังสมองวิธีการหนึ่ง
    จากการที่เราไม่คิดไม่หวังอะไรนั่นเอง.
    หรือเราเรียกว่าการสร้างทิพย์จักขุแบบไม่ได้บังคับ
    หรือสร้างแบบธรรมชาตินั่นเอง.

    ส่วนวิธีการมองผ่านระหว่างคิ้วซึ่งจะตัดความคิดไปยังสมองด้วยวิธีการ
    ของมันแบบธรรมชาติ...เป็นวิธีการบังคับให้จิตสร้างภาพหรือสร้างทิพย์จักขุ
    ไปในตัว.หรือเรียกว่า การสร้างทิพย์จักขุแบบภาคบังคับ..

    และวิธีการที่ผ่านมาทั้งหมดไม่ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร.
    ต่อมาจะพัฒนามาจนถึงขั้นที่จิตพอมีกำลัง.ที่จะสร้างภาพเองได้
    หากว่าฝึกแบบหลับตา..เพียงแค่หลับตาโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยภาพ.
    ก็จะสามารถสร้างภาพขึ้นมาได้เอง..

    และถ้าฝึกแบบลืมตาตั้งแต่ต้น.ก็จะสามารถมองไปยังต่ำแหน่งไหน
    แล้วจะปรากฏภาพขึ้นมาได้เหมือนกัน.และถ้าหากมาต่อยอดฝึกต่อไป.
    ก็จะเดินทางเข้าสู่การใช้อภิญญาในส่วนของอภิญญาจิต
    .แบบใช้งานเริ่มต้น.ที่จะเป็นฐานสำหรับการนำไปใช้งานต่อไปในอนาคตได้

    ส่วนจะใช้งานทางด้านไหน.ขึ้นอยู่กับว่าจริตใครจะออกไปทางด้านไหน
    เราเคยฝึกแบบไหนก็จะชอบมาแบบนั้น.และยังขึ้นอยู่กับว่าฝึกแล้วจะนำไปใช้
    ให้เกิดประโยชน์เพื่ออะไรในอนาคต..ประมาณนี้ครับ.
    ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง.​
     
  8. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ผมฝึกตามแนวทางหลวงพ่อฤาษีคับ กำหนดภาพพระไว้ในจิต ชอบแนววิชาสามครับ

    ไม่ได้ใช้สมองคิดครับ ฝึกแบบคนโง่ๆตามหลวงพ่อฤาษีสอนไว้เป็นการทบทวนของเก่าที่เคยทำมาหรือเปล่าไม่แน่ใจชอบแบบนี้ทำง่าย

    ก่อนนอนอารมณ์สบายภาวนาจับภาพพระรู้ลมหายใจภาวนามันก็หลับไปเองต้องเริ่มตั้งแต่พื้นฐานก่อนครับ

    พอทำไม่กี่วันจิตจำภาพพระได้จะทำอะไรคิดถึงพระที่เรารักก็เห็นอะคับอะไรประมาณนี้อารมณ์สบายไม่เห็นปวดหัวเลยสักนิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2013
  9. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ขอบคุณคับสำหรับคำแนะนำ
     
  10. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    ถ้าที่ดิฉันฝึก ถ้าให้ดึงนึกถึงภาพพระเลยมันไม่ชัดนะคะ เห็นก็ขาดๆหายๆ และมัวกังวลแต่จะมาสร้างภาพ ต้องเตรียมรูป และดูบ่อยๆ คนที่ทำได้นี้แสดงต้องเป็นคนค่อนข้างจริงจังและเอาจริง หรือ มีเวลาทุ่มกับการฝึกมากๆ แต่ ดิฉันทำวิธีนั้นไม่ได้ เคยพยามแล้ว ใช้พลังทางสมองมากจนง่วง ก็เลยเลิก มานั่งแบบ พุทธ โธๆธรรมดาและให้ลมหายใจผ่านเข้าที่กลางลิ้นปี่ ดิฉันไม่รู้ภาษาพระ แต่รู้แต่ว่าเวลานั่งไปจนจิตมันสงบนิ่งดี และไม่มีนิวรณ์มาแทรก อารมย์ช่วงนี้มันจะคล้ายกับเวลากำลังจะฝัน คือ มันจะบังคับได้ เราก็ไม่ต้องสร้างหรือจินตนาการภาพพระ แค่นึกให้มันมี ภาพก็จะมาปรากฏเอง ยิ่งถ้านั่งนานๆไปเกินชั่วโมงหรือค่อนวันภาพมันก็จะชัดยิ่งขึ้น
     
  11. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ครับผมแล้วแต่จริตผู้ฝึกและของเก่าที่เคยทำมาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...