ขอวิธีฝึกจิตให้เป็น "อุปจารสมาธิ"

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย อิติปิโสภะคะวือ, 1 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. อิติปิโสภะคะวือ

    อิติปิโสภะคะวือ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    17
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +26
    ทำอย่างไรให้จิตเป็น อุปจารสมาธิครับ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ฝึกเอาครับถ้าหากต้องการความชำนาญ
    แบบที่ว่าสามารถกำหนดใช้งานได้นะครับ..มีวิธี
    ง่ายๆเลยนะครับแบบชั่วคราวนะครับ
    มี ๒ วิธีคือแบบลืมตากับหลับตาครับ
    วิธีที่ ๑ แบบลืมตา
    ลิ้นกับปากห้ามขยับ
    สวดมนต์ในใจเอาบทที่ท่องได้ถ้าลืมตา
    ให้ทำตานิ่งๆ ห้ามขยับไม่ว่าซ้ายหรือขวา
    ให้พนมมือไว้ที่หน้าอก
    ตาที่นิ่งๆให้มองผ่านเหนือนิ้วกลางไป
    สูงประมาณ ๑๐ ซม.โดยประมาณ
    ทำได้แค่นี้ ก็เข้าอุปจารสมาธิแบบชั่วคราวได้แล้วครับ
    สังเกตุการเปลี่ยนแปลงของอากาศรอบๆ
    ที่เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง
    เหมาะสำหรับเอาไว้ใช้สวดมนต์ครับ
    หรือก่อนจะห้อยพระเครื่องครับ....

    วิธีที่ ๒ คือแบบหลับตา
    ให้หลับตาสองตาปกติเราลงไปเลย
    คือให้โน้มลงมามองที่ลิ้นปี่ของเรา
    สังเกตุสายตาพระพุทธรูปครับ..
    แล้วหายใจให้ลึกถึงท้องเอาไว้
    ด้วยการดันลมหายใจลงไป
    แต่ทำความรู้สึกรับรู้ว่าลมหายใจหยุดที่ปลายจมูก
    และดันลมนะครับ แต่อย่าไปตามลมหายใจ..
    จากนั้นในขณะที่กำลังหายใจออกนะครับ
    ให้ผลักลมหายใจออกให้มันผ่านเหนือระหว่างคิ้ว
    ของเราออกไปจริงๆมันออกทางจมูกปกตินั่นหละครับ
    แต่ความรู้สึกที่เหมือนผลักลมหายใจออกที่เหนือระหว่างคิ้ว
    เป็นอุบายในการทำให้จิตสร้างภาพจากตัวจิตเอง
    หรืออุบายให้จิตเข้าสู่ระดับอุปจารสมาธิวิธีการหนึ่ง
    วิธีนี้เหมาะสำหรับการนั่งสมาธิ เอาไว้ฝึกให้จิต
    สร้างภาพแบบไม่มีความคิดจากสมองมาปรุ่งร่วมได้
    ซึ่งปกติภาพที่จะเห็นยังไม่ชัดครับ(เรื่องธรรมดา)
    ถ้าไม่ทำอย่างนี้ โดยมากถ้าไปนั่งสมาธิจิตจะยกระดับ
    สมาธิมากไปจนหลับได้หรือตกมามากไปจนเข้าภวังค์
    หรืออาการรู้ตัวแล้วคล้ายๆสะดุ้งต่างๆนั่นหละครับ

    มีอีกวิธีแบบทั่วๆไป
    ถ้าหลับแล้วเข้าสู่สภาวะแบบครึ่งหลับครี่งตื่นได้
    ให้รีบระลึกทำความรู้สึกตัวให้เร็วที่สุดครับ
    แต่ที่สำคัญคือห้ามลืมตา..แล้วก็ให้หลับต่อ
    พอเข้าสภาวะคล้ายๆครึ่งหลับครึ่งตื่นอีก
    ก็ให้ระลึกทำความรู้สึกตัวอีกให้เร็วที่สุดอีก
    และก็ห้ามลืมตาเหมือนเดิม..
    วิธีการนี้เป็นอุบายฝึกให้จิตเป็นทิพย์
    สำหรับกรณีบุคคลที่ไม่ชอบนั่งสมาธิ
    หรือชอบนอนสมาหลับทั้งหลายครับ...

    ท้ายสุดอีกวิธีก็คือ การนั่งหลับตาปกติมองไปที่ลิ้นปี่
    หายใจเข้าและออกให้ลึกถึงท้อง ทำความรู้สึกรับรู้
    ว่าลมหยุดที่ปลายจมูก แต่ไม่ต้องตามลมนะครับ
    เด่วมันจะติดที่ระดับปฐมฌาน และทำให้จิตเกิดครับ
    และมันจะมีความรู้สึกว่า เราจะมีตาเดียวมองผ่าน
    เหนือระหว่างคิ้วได้เอง ให้มองผ่านเหนือระหว่างคิ้วไปเรื่อยๆ
    อาจระลึกภาพพระพุทธฯหรือครูบาร์อาจารย์ที่เราเคารพไว้
    แต่ย้ำว่า มองผ่านเหนือระหว่างคิ้วอย่างเดียว
    แรกๆจะมืด ต่อมามีสีบ้างแต่ไม่ชัดดูเป็นวงกลม
    ต่อไปจะเริ่มเห็นเป็นขอบๆได้ ฯลฯ
    ในระหว่างนี้อาจเห็น วงกลมสีต่างๆ ปรกกฏแว๊บขึ้นมา
    ขนาดเท่าหัวเข็มหมุดบ้าง หัวไม้ขีดไฟบ้างให้เฉยๆไว้ก่อน
    เด่วพอเห็นภาพผ่านเหนือระหว่างคิ้วได้ เป็นรูปเป็นร่าง
    นี่ก็แสดงว่า จิตเริ่มเป็นอุปจารสมาธิได้แล้วครับ.....
    วิธีนี้เป็นพื้นฐานของอาปาฯและสำหรับบุคคลที่ต้องการ
    ฝึกพื้นฐานไว้ เพื่อเอาไว้ต่อยอดกรรมฐานกองต่างๆ
    ตามแต่ที่ตนเองชอบครับ

    ปล.วิธีมีหลากหลาย เอาตามที่ชอบเลยครับ
    หรือตามความสดวกเลยครับ..
     
  3. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    ถ้ารู้สึกกายเบาจิตเบา ตัวหดเล็กลง ตัวขยายใหญ่ขึ้นไม่มีประมาณ
    อาการเหล่านี้จัดอยู่ในสมาธิขั้นอุปจาระทั้งนั้นครับ
    ส่วนวิธีก็ตามลุงนพได้เลยครับ
    เพียงแค่มาขยายอาการให้ทราบเฉยๆครับ
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ถ้าทำได้แล้วในอนาคต
    ประโยชน์ที่ส่วนตัวมองเห็นคือว่า
    สามารถเอามาวิปัสสนาได้ครับ
    แต่ต้องรู้จักการวางอารมย์
    ในระหว่างวันเรื่องกิเลสที่เรายังอ่อนอยู่ให้เป็นครับ
    (คิดๆไว้ รู้ได้จากกำลังสติ แล้วก็ลืมๆไปไม่สนใจ
    พอเข้าสภาวะนี้ได้ มันจะผุดขึ้นมาได้ของมันเอง
    และจะไม่หลุดจากอารมย์เหมือนการใช้ความคิดครับ)
    และเข้าไปสภาวะนี้ เมื่อพิจารณาได้ในครั้งแรก
    พอเราลืมตาจิตเราจะยังฟูได้อยู่
    คือจะรู้สึกได้เลยว่า ลิ้นปี่เรามันเต้นได้
    แต่เราไม่ได้คิดอะไรนั่นหละครับ
    แต่ถ้าเข้าไปพิจารณาได้อีกในสภาวะนี้
    ประมาณครั้งที่ ๓ และ ๔ (ในระดับสูงจะครั้งเดียว
    แต่ในความเป็นจริงทำได้ยากครับ
    ต่อให้ไม่ต้องทำอะไรเลยในชีวิตก็ทำได้ยากครับ)
    กิเลสในเรื่องนั้นๆตัวจิตสามารถที่จะตัด
    ได้ถึงขั้นละเอียดครับ
    (คือในเวลาลืมตาปกติ นึกยังไง
    พยายามยังไง อยู่สภาพแวดล้อมอย่างไร
    จิตก็ไม่สนใจ หรือจะไม่ปรุงแต่งกับเรื่องนั้นๆ
    นี่คือการสังเกตุขั้นละเอียดครับ)
    เล่าให้ฟังเผื่อไว้ เป็นทางเลือกหนึ่ง
    ในหลายๆทางของการวิปัสสนาครับ
     
  5. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    ดูเหมือนจะโพสซ้ำนะครับลุงนพ
    อิอิ
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ๕๕ จริงด้วย.
     
  7. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +952
    ตอบ ถามแบบนี้ไม่รู้จะตอบยังไงขอตอบแบบกว้าง ๆ นะครับ
    ........อุปจารสมาธิ เกิดได้จากการทำสมถะกรรมฐานทุกกอง ใน ๔๐ กอง (เว้น อรูปฌาน ๔) บางกองกำลังจิตทรงได้ทรงฌาน ๔ เช่น อานาปานสติ กสิณ แต่ทุก ๆ กองก็สามารถปฏิบัติให้ถึงอุปจารสมาธิได้เช่นเดียวกัน........
    ........เรามามองในกรรฐานที่ตรงจริต ในส่วนตัวเห็นว่า อานาปานสติ ตรงกับจริตนิสัยของคุณ
    และถ้าคุณปฏิบัติก็สามารถทำได้ดีด้วย ถ้าคุณปฏิบัติบ้างแล้วก็สามารถทำได้ดีจนกระทั่งจิตรวม
    ได้บ้างในขั้นของขณิกะสมาธิ มีโอกาสที่จะทำให้ถึงอุปจารสมาธิได้ ครับ....

    ****อนุโมทนาบุญ****
     
  8. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    ทำไปเถอะครับ
    เจออะไรค่อยมาคุยกัน
    สำคัญที่ทำถูกรึเปล่าเท่านั้นเองครับ
    เหตุดีผลย่อมดี เหตุไม่ดีผลย่อมไม่ดีครับ
     
  9. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ที่ผมฝึก ใช้วิธีเดินจงกรมครับ(ดูลมหายใจเจ้าของ)
    เดินจนมันเอาชนะนิวรณ์ได้
    จะใช้เวลากี่ชั่วโมง ก็เดินไป..

    จากนั้นจิตจะสงบ (นิ่งไม่สนใจกับอะไร รู้สึกโล่งเบา...

    จากนั้นใช้ความคิดพิจารณากาย..ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ของผู้ชาย ผู้หญิง สัตว์ต่างๆ

    อาศัยความเพียร..จากนั้นจิตจะรวม ปรากฏเป็นนิมิต..(อุปจาระสมาธิเกิด)

    นี้เป็นวิธืที่ผมฝึกครับ...
     
  10. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    โหถ้าเดินนำนั่งแล้วจิตสามารถรวมได้นี่ไม่ธรรมดานะครับ
    นับถูๆ
     
  11. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    จิตรวมแบบอุปจาระสมาธิ ไปได้ที่วัดป่าบ้านตาด นั้นแหละครับ
    หลวงตาท่านสอนให้เอง
    (ที่วัดท่านเน้นเดินจงกรม มีทางเดินจงกรมเยอะมาก มีอยู่ข้างกุฎทีพัก)

    ก่อนนั้นจะฝึกดูลม เพ่งลม อย่างดี จนเกิดแสงสว่าง
    บางครั้งก็นเห็นกายทิพย์ ล่องลอยไปสถานที่ต่างๆ
    จนเข้าใจว่าเก่งแล้ว..

    จนหลวงตาด่าเอาหลายวัน..กว่าจะเดินจิตต่อยอดไปได้
     
  12. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    ๕๕๕๕๕๕๕๕
    โดนเขกกระโหลกสินะครับ
    น่าอิจฉานะมีคนเฆี่ยน
    ของผมนี่ไม่ค่อยมาเลย
     
  13. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    อุปจาระสมาธิ มีหลายสำนักเข้าใจว่า
    เป็นสมาธิขั้นพื้นฐานก่อนได้ฌาน
    (เป็นปิติ ตัวเล็กตัวใหญ่ ขนลุกขนพวง ฯลฯ)

    อุปจาระสมาธิในสายวัดป่า เอาไว้ใช้ อบรมจิต
     
  14. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    สมาธิ ๓ อันดับ ต่างกับฌาณครับ
    หลวงปู่เทสก์ท่านแสดงไว้ชัดเจน
    ใครที่เอามาปนกันแสดงว่ามั่วครับ
    ๕๕๕๕๕๕๕๕
     
  15. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ใช่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2017
  16. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ตอนแรกผมฝึกได้ฌานก่อน
    เพราะฝึกเอาเอง กิเลสพาฝึก..จนเข้าใจเก่งแล้ว
     
  17. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    ฌาณมันเป็นภพครับ สมาธิเป็นความตั้งมั่นของจิต ส่วนที่เค้าเน้นอุปจาระนี่คาดว่ามันอธิบายง่ายเพราะมีการแจกแจงอาการไว้ ลองถามต่อสิครับว่าขณิกะเป็นยังไง อัปปนาเป็นยังไง
    ขี้คร้านจะอ้ำอึ้ง
     
  18. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    พระพุทธเจ้าบอกไว้ชัด

    สมาธิอบรมปัญญา ปัญญาอบรมจิต

    ไม่ใช้สอนว่า
    ฌานอบรมปัญญา

    เพราะสภาวะจิตติดฌาน เหมือนติดภพของจิตเอง
    เหมือนคนโดนมัดเท้า..แล้วให้เดินไป..
     
  19. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ปัญญา ก็เหมือนกัน หลายสำนักก็เข้าใจไม่ตรงกัน

    สำหรับผม การที่จิตเรียนรู้สภาวะตัวจิตเอง
    นั้นละปัญญาอบรมจิต
     
  20. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    เรื่องปัญญานี่ผมยกให้เป็น สันทิฏฐิโก ปัจจัตตังครับ
    เพราะแต่ละลำดับขั้นนั้นต่างกัน แล้วแต่ที่สั่งสมมาด้วย
    แต่ถ้าคุยกันนี่รู้ได้ครับว่าจริงหรือเท็จ
     

แชร์หน้านี้

Loading...