ขออนุญาตสอบถามพี่ๆและเพื่อนๆนักปฏิบัติทุกท่านครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย rattanasak, 26 ธันวาคม 2017.

  1. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    น่าจะถามว่า ทำไมพระศาสดาให้พิจารณากฏของไตรลักษ์
     
  2. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ครับคุณ jityim ที่ผมถามเพราะว่าคุณจิตยิ้ม อทิบายเรื่องอนัตตาไว้ในโพสก่อนหน้านั้น ถึงสภาวะนิพพานว่าเป็นอนัตตา ผมจึงอยากทราบว่าคุณ jityim เห็น รูป เวทนา จิต และ ธรรมเป็นอนัตตาอย่างไรครับ
    เมื่อคุณ jityim ได้แสดงแล้วว่า รูป เวทนา จิต ธรรม เป็นอนัตตาเช่นนี้ และแสดงแล้วว่านิพพานเป็นอนัตตาอย่างนั้น ผมอยากทราบต่อว่า ท่าเช่นนั้นแล้ว รูป เวทนา จิต และ ธรรม นั้นเหมือนหรือต่างจากนิพพานอย่างไรครับ และเป็นอนัตตาเช่นเดียวกันหรือไม่

    คุณจิตยิ้มแสดง รูป เวทนา จิต ธรรม ว่าเกิดด้วยเหตุและปัจจัยปรุงแต่ง ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จึงเป็นอนัตตา แล้วนิพพานล่ะครับเกิดด้วยเหตุปรุงแต่งด้วยปัจจัยใดจึงเห็นว่าเป็นอนัตตา
     
  3. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    คำว่านิพพานนี้พระศาสดา ท่านก็ยืมมาพูด เพื่อสื่อสภาวะ
    ก่อนพุทธกาล คำนี้มีใช้พูดในหลายสำนัก หลายลัทธิ
     
  4. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    มาปัจุบันนี้ เหมือนย้อนรอยไปสมัยพุทธกาล
    ทุกสำนัก ก็เอานิพพานไปใช้สื่อสภาวะ ที่ตนฝึกมา

    อย่างธรรมกายก็เห็นอย่างหนึ่ง
    อย่างมโน...ก็เห็นอย่างหนึ่ง
    สำนักต่างๆก็เห็นต่างกันไป

    มันก็ไม่แปลกที่มันไม่ลงรอยกัน

    ไปถามองค์ปฐม ท่านบอกว่า อยู่แดนนิพพาน
    ไปถามพวกพรหม ท่านก็บอกว่า อยู่แดนนิพพาน
     
  5. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014

    ถึงเราจะอธิบายว่า นิพพาน เป็นอย่างนั้น
    ไม่เป็นอย่างนี้ เป็นอย่างโน้น
    ก็จะไม่มีใคร ที่จะเข้าใจได้


    พราะถึงแม้ว่า เป็น พระอรหันต์ เหมือนกัน
    แต่ ประสพการณ์ในการควบคุมจิตใจ
    หรือ การทำวิปัสสนาทำคนละแบบ
    หรือแม้แต่ แบบเดียวกัน แต่
    วิสัย คือ ปัญญา ศรัทธา วิริยะ มันต่างกัน
    การมองเห็น นิพพาน ก็ยังมองต่างมุมกัน
    อาจารย์เดียวกัน ยังแขวะกันในจิต ในธรรมชั้นสูง

    เพราะฉะนั้น ในเรื่อง นิพพาน ของฆราวาส
    ย่อมมองต่างมุม ไม่มีที่สิ้นสุด

    แต่ถ้าหากใคร ฝึกมองทุกสิ่ง แบบท่องคาถาว่า
    สรรพสิ่งเพียงสมมุติๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    เมื่อจิตรวม วิปัสสนานิ่ง จะมองเห็น
    พระไตรลักษณ์ แบบ อนัตตาธรรม ได้
    คนผู้นี้ จะบรรลุธรรมแบบ มหายาน
    จะมีโลกทัศน์เรื่อง พระนิพพาน ที่กว้าง
    บรรลุครั้งเดียว อาจเป็น พระอรหันต์ เลย
    และจะมีปัญญา ประมาณว่า จบดอกเตอร์
    โดยได้ เกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วย
    แต่จะหาได้ยากในโลก
    ในบ้านเรา ก็คือ สำนักวัดของท่านพุทธทาส นั่นเอง
     
  6. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ในพระไตรปิฏก ก็มีอธิบายไว้
     
  7. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    อนัตตา นั้นมีตัวตน แต่ตัวตนนั้นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงแต่ประกอปกันขึ้น ไม่ใช่ตัวตนนั้นว่างปล่าว เช่น กาย เช่นเวทนา เช่นจิต เช่นธรรม
    อนัตตา ที่เห้นว่าว่างเปล่านั้น ใช่อนัตตาในไตรลักษณ์ จริงหรือครับ
    แต่ความเห็นว่าไม่ใช่ตน ไม่เป้นตน ไม่ใช่ของๆตน ไม่มีในตนนั้น เป็นทิฐิ ทีนี้การเห็นนั้นจะถูกต้องว่าเป้นตนไม่เป็นตนอย่างไรนั้นก้ด้วยว่าเห็นอนัตตานั้นจริงหรือไม่อย่างไรครับ
    ท่าเห็นไม่จริง ก้เป็นมิจฉาทิฐิ
    ท่าเห้นถูกต้องก้เกิดปัญญา เป็นสัมมาทิฐิ

    ที่ท่านยกมาอทิบายในความเห้นนิพพานนั้นจึงเห็นได้ชัดเจนว่าเป็น สัมมาหรือเป็นมิจฉา
     
  8. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เจ้าสำนักเตโชวิปัสนาบอกว่า ท่านพุทธทาสอยู่แดนนรก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2018
  9. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    อย่าพูดดังไป เขียนให้มันเป็นกลางๆเข้าไว้
     
  10. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014


    หากอ่าน พระไตรปิฏก แล้วบรรลุธรม

    เมื่อกี้เราจะโพสต์เรื่องนี้ แต่ จอมมาร
    มาทำหน้าที่ ขวางไม่ให้เราโพสต์ได้
    เค้าทำงานของเค้า ได้สำเร็จเเล้ว
    เก็บแต้มสะสมได้อีกแล้ว ยอมทำหน้าที่ มาร
    เพื่อการจะได้เป็น พระโพธิจิต อย่างเต็มตัว
    มีใครยอมสละอย่างเค้าได้บ้าง
    เราจึงขอคาราวะ จอมมาร ด้วยเช่นกัน

    ที่จะบอกก็คือ


    ถ้าหากว่า พระไตรปิฏก ทำให้บรรลุธรรมได้
    ทำไม มหาคน และ มหาพระ จึงไม่บรรลุธรรม
    เพราะ พระไตรปิฏก ได้เลยสักรูปเดียว
    มันมืดมน ถึงขนาดที่ว่า พระสังฆราชพระองค์หนึ่ง
    ขอนิมนต์ พระป่า 2 รูป ไปถามไถ่ถึงสาเหตุ
    ที่ไม่สามารถ บรรลุธรรม จาก พระไตรปิฏก ได้
    พอได้รับฟัง จากปากของ พระป่าสองรูปนั้น
    ท่านก็อ๋อ ทันที
    แล้วก็ขอร้องเชิงบังคับให้ พระป่า สองรูปนั้น
    ต้องหาวิธี ทำให้ พระมหา มีสิทธิ์ที่จะบรรลุธรรมได้
    หรือช่วยสั่งสอง พระมหา รูปใดรูปหนึ่ง
    เพื่อให้บรรลุธรรม แล้วจะได้เป็น ตัวอย่าง
    ของ พระมหาเหล่านั้น ที่จะฝึกฝนเพื่อเดินตาม
    พระมหา ที่เป็นตัวอย่างนั้น

    ต่อมา พระป่าสองรูป นั้น พบเจอ
    ช้างเผือกหนุ่ม ที่ชื่อว่า พระมหาบัว
    ผู้ที่จะเหาะเหินเดินอากาศ ไปทั่วโลก
    และจะเป็น ลูกศิษย์ ที่เป็น พระมหารูปแรก
    ที่มีอินทรีย์แก่กล้า ควรค่าแก่การสอนสั่ง
    และจะเป็น พระมหา รูปแรก ที่พระมหารู่นหลัง
    จะต้องเอา กรณีของท่าน เป็นกรณีศึกษา
    หากว่า อยากลดทิฐิของตนเอง และ
    จะบรรลุธรรมได้ด้วย
     
  11. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014




    เจ้าสำนัก เตโชวิปัสสนา กำลังถูก
    จอมมารที่เป็นเพื่อนของเรา หลอก
    ก็เพราะว่า วิธีการเผากิเลสด้วยไฟ
    มันก็คือ กสินไฟ อย่างหนึ่งนั่นเอง
    กสิน จะไม่สามารถทำให้คนบรรลุธรรมได้
    แต่จะมี ฤทธิ์ มาก สัมผัสได้มาก
    แล้วก็จะโดนหลอกได้มากกว่าคนอื่น
    หากไม่รู้จัก เปิด ปิด จิตใจ

    อีกอย่าง พระอริยะเจ้า ในสำนักนี้
    สามารถขึ้นลงได้ ตาม ลมปากเหม็นๆ
    ของ อาจารย์เจ้าสำนัก ได้ ซึ่งมันก็ไม่ถูกต้องแล้ว
    เพราะ ความเป็นพระอริยะเจ้า เป็นของใครของมัน
    อาจารย์ ไม่มีสิทธิ์สั่งให้ใคร บรรลุธรรม ได้
    และ ก็ไม่มีสิิทธิ์เพิกถอน หรือ เรียกคืน
    ความเป็น พระอริยะเจ้า ของลูกศิษย์ได้

    คนไหนถูกใจ เจ้าสำนักนี้ จะให้เป็น พระอรหันต์ เลย
    แต่พอเค้ารู้ทัน เพราะไปศึกษาข้างนอกมา
    แล้วมาถามอาจารย์ ทำให้อาจารย์ ไม่พอใจเค้า
    ลดยศให้เค้า เหลือแค่ พระโสดาบัน
    ต่อมา ก็ลดให้เหลือ โคตรภูบุคคล แค่นั้น
    แถมยังขู่เหล่า ลูกศิษย์ ที่โดนหลอก
    เหล่านั้นอีกว่า สามารถทำให้ พระอริยะเจ้า ตกนรกได้
    ช่างเป็นไปได้

    วิธีการแบบนี้ จอมมาร เคยใช้หลอกเรามาก่อน
    หากเค้าอยากบรรลุธรรม หากมาขอให้เราสั่งสอนในเวปนี้
    เราจะช่วยสังเคราะห์ หรือ ไปหาหลวงพี่เล็ก
    ให้ท่านช่วยสงเคราะห์ ในเรื่อง ฝึกกสินอะไรก็ได้
    หากทำได้ถูกวิธี ก็จะสามารถบรรลุธรรมได้ ปล่อยวางได้


     
  12. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ โพสท์นี้ฝากคุณ jityim และ "เฉพาะ" ผู้ที่ "ใฝ่ใจศึกษา" เท่านั้น บุคคลประเภทอื่น "ไม่เกี่ยว" นะครับ

    +++ ผมจะขึ้นต้นที่ "นิโรธสมาบัติ" ก่อน จากนั้นจึง "ต่อยอด" ขึ้นไปเรื่อย ๆ จาก "ประสพการณ์ตรง และ ผลลัพธ์ในการปฏิบัติ"

    +++ ตรงนี้เกิดจาก "ความไม่ประมาท ในการเกิด" (กรณี ตั้งอยู่ กับ ดับไป นั้น รู้/ทำได้ ชัดเจน/ชำนาญ อยู่แล้ว เพียงแต่ "ยังไม่พ้นเหตุเกิด ในขณะนั้น" เท่านั้น)


    +++ ตามที่ผมโพสท์มาในโพสท์เก่าว่าใน "สัญญา+เวทนา นิโรธ" (ความจำได้หมายรู้+ความรู้สึกใด ๆ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ (ดับสนิท)) นั้น

    +++ มีปรากฏการณ์อยู่ 2 ประการในสภาวะนั้น คือ 1. ความเป็นตน ไม่มี (อนัตตา) 2. มีสังขตะธาตุ (ธรรมะของเราเป็นอณู) ที่ไม่มีองค์ประกอบของตน (อนัตตา) เช่นกัน

    +++ การ "กลับมาจาก นิโรธ" นั้นเหตุเพราะ "อณูแห่งสังขตะธาตุ" ในนิโรธนั่นแหละ จึงสามารถทำให้กลับมาได้

    +++ ตรงนี้ ตรงกับ "เหตุปัจจัยโย" ในมหาปัฏฐานสูตร และ ตรงกับ "ทิฐิภูตัง" ของหลวงปู่มั่น

    +++ ปัญหาของผมในขณะนั้น คือ "มันไม่สามารถที่จะ จบ ที่ตรงนี้ได้" มันต้องมี "ภาคอวสานต์" ที่แท้จริงที่จะต้อง "พ้นเหตุปัจจัยโย" ตรงนี้ออกไป


    +++ การ "เกาะอณู ตัวเหตุ เพื่อหาทางพ้นจากมัน (ตรงนี้เป็น เรื่องส่วนบุคคล)" ออกจะพิสดารอยู่บ้าง แต่จะกล่าวเพียงคร่าว ๆ คือ

    +++ เหตุปัจจัยโย ตัวนี้คือ ผู้สร้างสัพสิ่ง เอกภพ โลกธาตุ มิติ/ภพภูมิ ต่าง ๆ และที่สำคัญที่สุดคือ มันเป็นผู้สร้าง "อัตตาจิต/ตัวกู" อีกด้วย

    +++ ตรงนี้มีในศาสนาพุทธเท่านั้น "พระผู้เป็นเจ้า/GOD รวมทั้ง จิตจักรวาล ทั้งหมด" ถูกสร้างมาจาก "เหตุปัจจัยโย" ตรงนี้

    +++ หวังว่า คงไม่มีใครเอาไป ตี กับศาสนาอื่นนะ คงแค่นี้พอนะว่า ผม "ตามมันไป จนมั่นใจได้ว่า ไม่มีทางพ้นด้วยวิธีการ ตาม"

    +++ ทำทุกวิถีทางก็ "ไม่พ้น" ลงท้ายการทำลายก็เป็นไปตามกระบวนการนี้ คือ

    +++ 1. เห็นอณูในนิโรธ (เหตุปัจจัยโย มหาปัฏฐาน)
    +++ 2. ปล่อยให้กระบวนการเกิด อวิชชา (ปฏิจจะ) ปรากฏ (อารัมนปัจจัยโย มหาปัฏฐาน)
    +++ 3. ปล่อยให้แรงโน้มถ่วงเป็นไป จนเกิดวังวน (วัฏฏะ) ของสังขารา (ปฏิจจะ)
    +++ 4. ปล่อยให้ความเป็น "ตน" ปรากฏ (อธิปปติปัจจัยโย มหาปัฏฐาน, วิญญาณัง (ปฏิจจะ และ วิญญาณขันธ์ ใน ขันธ์ 5))
    +++ 5. เมื่อ "กิริยาจิต" สามารถก่อกำเนิดได้ (จิตตะสังขารขันธ์) จึงใช้ "กิริยาจิต ทำลาย อัตตา (วิญญาณขันธ์)" ตรงนี้

    +++ ณ ขณะที่ ปฏิกิริยา จากการทำลายเกิดขึ้น ปรากฏการณ์ของ "ไกวัลยธรรม (หลวงพ่อ พุทธทาส)" ก็ปรากฏมาเอง
    +++ เหตุการใน ไกวัลยธรรม จะยกไว้ไม่กล่าวถึง

    +++ คุณ jityim และ "เฉพาะ" ผู้ที่ "ใฝ่ใจศึกษา" เท่านั้น ลองดูซิว่า ตรงนี้เรียกว่าอะไร

    +++ เมื่อปฏิกิริยาของ ไกวัลยธรรม สิ้นสุด "เหตุปัจจัยโย" ก็ไม่มีเหลืออีก พ้นจากสภาวะ "นิโรธ" โดยสิ้นเชิง
    =================================================
    +++ สภาวะนี้ "เป็นสภาวะเดียว ที่พ้นจาก สังขตะธาตุ (เหตุปัจจัยโย)"
    +++ เป็น "สภาวะเดี่ยว สภาวะเดียว" ไม่สามารถที่จะ "มีเหตุทำให้ เกิดขึ้น ได้อีก"
    +++ เป็น "สภาวะเดี่ยว สภาวะเดียว" ไม่สามารถที่จะ "มีเหตุทำให้ ดับไป ได้อีก"
    +++ เป็น "สภาวะเดี่ยว สภาวะเดียว" ที่มีมาก่อน "จิตแห่ง วัฏฏะสังสาร"
    +++ เป็น "สภาวะเดี่ยว สภาวะเดียว" ที่ "ตั้งอยู่" ตลอดกาลนาน
    +++ เป็น "สภาวะเดี่ยว สภาวะเดียว" ที่ "ทุกข์" ไม่สามารถตั้งอยู่ได้
    +++ เป็น "สภาวะเดี่ยว สภาวะเดียว" ที่ "ต้องทำลาย" อัตตาจิต/ตัวดู/ผู้รู้/หลุมดำ ทั้งหมด จึง "เข้าถึง" ได้
    =================================================
    +++ สังขตะธาตุที่เป็น "เหตุ/อนัตตาธรรม" โดนกวาดล้าง ไม่เหลือซาก ดังนั้น "ตรงนี้" ไม่ใช่ อนัตตา ของสรรพสิ่ง

    +++ สังขตะธาตุที่เป็น "อัตตา/อนัตตาธรรม" โดนทำลาย ไม่เหลือซาก ดังนั้น "ตรงนี้" ไม่ใช่ อนัตตา ของตัวกู

    +++ สภาวะที่กล่าวมานี้ จะถึงได้ก็ต่อเมื่อ ปฏิกิริยาของ ไกวัลยธรรม สิ้นสุดโดยดุษฏีแล้ว เท่านั้น

    +++ สภาวะนี้ "ทับซ้อน" อยู่ใน "ทุกมิติ/ภพภูมิ รวมทั้ง จักรวาล/เอกภพ"

    สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงค้นหา คือ สภาวะที่พ้นจากความ "เกิด แก่ เจ็บ ตาย และ ไร้ทุกข์"
    เมื่อพระองค์ทรงค้นพบแล้ว จึงนำมาเผยแพร่ด้วยการ "แสดงธรรมปฏิบัติ"
    ศาสนาพุทธจึง "เริ่มต้น และ มีความเป็นมา" ด้วยประการฉะนี้ แล...


    +++ สำหรับ "ผู้ใฝ่ใจทุกท่าน" ขอให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปในธรรม นะครับ
     
  13. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    นั่นแหละถึงบอกว่าบางคนอยู่นอกเขต เหนือกว่าการหยั่งถึง ถึงบอกว่ารู้ว่าเบื้องปลายเขาจะเป็นเช่นไร ก็คงไม่ใช่เรื่อง แม้พระศาสดาก็รู้ว่าคนบางประเภท สัตว์บางประเภทไม่อาจสั่งสอนได้ คงปล่อยไปตามยถา
     
  14. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ไม่ไกลเกินเอื้อมจะบอกหรือเล่าให้เราทั้งหลายฟังหรอกเพราะมันเกิดขึ้นจริง มันจะง่ายขึ้นแก่ผู้ฟังถ้าระบุช่วงเวลาเป็น พ.ศ. เพราะคนเราจะระลึกได้ว่าที่รู้มาแบบลอยๆ นั่นเป็นเรื่องจริง ซึ่งสาระน่าจะชี้ชัดว่าแม้จะอ่านรู้แปลคำได้มากมายแค่ไหนก็ใช่จะมองเห็นข้อธรรมที่เกิดขึ้นจริงของแต่ละวรรค
     
  15. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ผมอ่านหนังสือของเจ้าประคุณหลวงพ่อวัดดอนเมืองอยู่ ซึ่งการรจนานั้น ผมคิดว่าเพียงพอจะทำให้ผู้ชอบพิจารณาระลึกได้จริง
     
  16. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ที่ผมอ่านมีสองเล่มกรรมทีปนีและโพธิธรรมทีปนี เป็นหนังสือที่น่าสนใจมาก ลองศึกษาดูแล้วกันนะคับที่จริงมีมากหลายเล่มแต่ผมชอบสองเล่มนี้เลยอ่านแค่เพียงเท่านี้ และที่อ่านและฟังบ่อยมากอีกเรื่องคือคิริมานนทสูตร
     
  17. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    การปรามาส พระสงค์นี้ มีแต่เสียกับเสมอตัวครับ ถ้าท่านไม่ได้เป็นอย่างท่านๆ ทั้งหลายพูดกัน ก็เสียครับเสียหนักด้วย หากเป็นตามที่พูดจริง ก็แค่เสมอตัว ทำไมยังชอบจะเสี่ยงในสิ่งที่ไม่ได้เกิดประโยชน์ใดขึ้นมากับตัวเอง ออกจะไปทางเสียด้วยมากกว่า พระรูปใหน ที่ท่านมีศีลครบ 227 ข้อ ก็ถือว่าปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แล้ว
    การปรามาส ในบุคคลที่มีศีล 5 ครบ ก็ออกจะเป็นปาบอยู่แล้ว หากเขาเป็นจริง ตามที่เขาพูด ท่านก็เสียหนัก หากไม่ก็ เสมอตัว แต่ผู้ปฏิบัติธรรม กรรมฐาน ทุกท่านก็ มีศีล 5 ในตัวอยู่แล้ว นั้นท่านก็เสียแล้ว
    ควรกล่าวถกกันในเชิงอรรถธรรม เพื่อสิ่งที่ยังไม่รู้ให้รู้ให้เข้าใจดีกว่าครับ เพื่อเป็นการละในปาบทั้งปวง เพื่อนิพานที่มุ่งหวัง ประเสริฐที่สุด
     
  18. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    อนุโมทนาค่ะท่านธรรม-ชาติ ขอถามหน่อยนะค่ะว่า พระโพธิสัตว์ต้องเรียนรู้มรรค ๔ ให้แจ่มแจ้ง แต่ยังไม่ได้ผล ท่านกำลังอยู่ในอรหัตมรรคอยู่ใช่ไหมค่ะ (ไม่ต้องตอบก็ได้ค่ะถ้าเห็นว่าไม่สมควร) สิ่งที่จะถามนั้นเกี่ยวข้องกับสภาวะที่ท่านนำมาแนะนำ ถ้าบุคคลใดที่ได้สภาวะแบบนี้หมายความว่า บุคคลนั้นต้องดับวิญญาน วิญญาณจะสลายได้ ตามที่รู้มาจากจิตคือพุทธะ ของหลวงปู่ดุลย์ ก็คือต้องดับกิเลสอย่างสิ้นเชิง คือ สิ้นราคะ สิ้นโทสะ สิ้นโมหะ ปรมาณูที่อยู่รอบ ๆ จิตไม่เหลือแม้แต่ปรมาณูเดียว จึงดับวิญญาณได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายในวงจรปฏิจจสมุทปบาทที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้นะค่ะ

    ใช้กิริยาจิตทำลายอัตตา ตรงนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ แต่พอจะเข้าใจได้ว่า กิริยาจิต คือ ตัวต้นเหตุแห่งการเกิดขึ้นของกิเลสทั้งปวง เมื่อเกิดกิริยาจิตแรกแห่งการไหว เพราะความไม่รู้จึงเกิดการยึดถือคือ "ความเป็นตน" เกิดขึ้น หรือ อัตตา การใช้กิริยาจิต ทำลายอัตตา ก็คือ การอยู่กับรู้ หรือ เป็นสภาวะรู้ ในการไหวของกิริยาจิตที่จะเกิดขึ้น หยุดมันได้มิให้เกิด ความเป็นตนก็ดับไป (กรณีการลดละกิเลส) การดับตนหรือวิญญาณขันธ์ได้อย่างสิ้นเชิง ก็ต้องเนื่องในจิตหมดสิ้นราคะ สิ้นโทสะ สิ้นโมหะ หมดเหตุนี้วิญญาณก็สลายไปเองเพราะหมดเหตุเกิด หรือ ต้องทำการดับวิญญาณอีกครั้งตามที่ท่านโพสมานะค่ะ


    นั้นคือ สภาวะสัญญาเวทยินิตโรธ หรือ ปรากฎการณ์ที่เข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล ที่มีลักษณะพ้นจากขันธ์ห้าแต่ยังมีลักษณะไม่มั่นคงเหมือนกับอีกสภาวะหนึ่งหรือเปล่าค่ะ



    ไกลวัลยธรรม ( เกวะละ) หมายถึง สิ่งที่มีอยู่ก่อนสิ่งทั้งปวง และอยู่หลังสิ่งทั้งปวง ได้แก่ธรรมชาติที่ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลง คือ (หลวงพ่อพุทธทาส)
    - ความเต็มไปหมดไม่มีที่ว่าง
    - ความโดดเดี่ยวที่สุด
    - ความแบ่งแยกซอยละเอียดถี่ยิบ
    - ความแข็งเป็นดุ้นเป็นก้อนเดียว
    - ความไม่รู้จักพอไม่รู้จักเต็ม

    http://www.buddhadasa.com/kaival/kaival1.html

    ไม่รู้ว่าเป็นการเข้าใจผิดหรือเปล่าค่ะ ที่ท่านกล่าวว่าเมื่อปฏิกริยาไกลวัลยธรรมสิ้นสุดแล้ว สภาวะนิพพานจึงปรากฎ ไกลวัลยธรรมที่ท่านธรรม-ชาติกล่าวถึงนั้นใช่ จิตประภัสสร หรือ ฉัพพรรณรังสีหรือเปล่าค่ะ หรือว่าสภาวะนิพพานไม่น่าจะใช่ตามที่ท่านโพสมาว่าไกลวัลยธรรมคือปากประตู แต่เข้าใจว่าหลวงพ่อพุทธทาสกล่าวไว้ว่าไกลวัลยธรรม เกวะละ (สิ้นเชิง) คือ สภาวะนิพพานค่ะ ก็เลยไม่แน่ใจว่า แล้วที่ความว่างที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติ ตนเองเข้าใจว่าที่สุดแล้ว ยังมีสภาวะที่ลึกละเอียดอีกมิติหนึ่งกว่านี้หรือเปล่าค่ะ เพราะเป็นการเห็นชั่วขณะค่ะ อาจไม่รู้ทั่วถึงสภาวะนั้นทั้งหมด

    คือ สภาวะนิพพาน ค่ะ แต่อยากแน่ใจว่าใช่สิ่งเดียวที่ตนพบหรือไม่นะค่ะ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2018
  19. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    โพธิสัตว์มีหลายระดับ
    โพธิสัตว์เกิดใหม่ เกิดตอนพระพุทธเจ้าเปิดสามโลกให้เห็นกัน(ตอนลงจากดาวดึงส์)
    เป็นพุทธประเพณีของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่ต้องทำ

    อนิยตโพธิสัตว์ พวกนี้อยู่ช่วงสั่งสมบารมีเพื่อโพธิญาณมีแปดประการ
    หนึ่งในแปดข้อคือบารมีระดับอรหันต์(อรหันตมรรค)

    นิยตโพธิสัตว์ พวกนี้อยู่ในช่วงต่อเรือเพื่อตั้งศาสนาของตน

    โพธิสัตว์ใหญ่ พวกนี้ต่อเรือเรียบร้อย ก็ขนหมู่สัตว์ขึ้นเรือเพื่อพาสร้างบารมี

    จากนั้นก็ทะยอยมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าตามกาลของตน
    ก็จะตั้งศาสนาขึ้นเพื่อโปรดสัตว์ก็จะมีชาวพุทธสองส่วน

    ส่วนที่หนึ่งคือหมู่สัตว์ที่เกี่ยวข้องกันมาตั้งแต่เป็นโพธิสัตว์
    ส่วนที่สองคือชาวพุทธที่ถือ พระพุทธ พระธรรม พระสงม์ เป็นสรณะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2018
  20. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    หมดกลัวตายก็เป็นอรหันต์ซิครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...