ขอเชิญร่วมบุญการศึกษาแก่นักเรียน 2 คน

กระทู้นี้หาเงินช่วยเหลือเป็นกองทุนการศึกษาแก่นักเรียน 2 ชีวิต

ร่วมสมทบกองทุนการศึกษานี้ได้ที่บัญชีนี้ครับ

ธ. กสิกรไทย สาขาเดอะคริสตัล พีทีที ชัยพฤกษ์
เลขบัญชี 025-8-A46EA-8
ชื่อบัญชี น.ส. กาญจนาวดี ทันสมัยและ ด.ญ. น้ำวน คำสร้อยทอง

..............................................

เปิดดูไฟล์ 4222713




ท่านที่มีจิตเมตตาร่วมบริจาคแก่ ด.ญ. น้ำวน คำสร้อยทองตามแต่อัธยาศัยได้ที่บัญชีด้านล่างนี้ครับ

ธ. กสิกรไทย สาขาสี่แยกวังหิน
เลขบัญชี 757-2-41867-1
ชื่อบัญชีนายสมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

เมื่อมอบเงินให้ ด.ญ. น้ำวนจะได้ถ่ายภาพมาโพสต์เพื่อเป็นหลักฐานอีกครั้งหนึ่งครับ

 

วันพุธที่ 26 เมษายน 2560 แหล่งข่าวที่นนทบุรี ( บ๊าท ) แจ้งผมว่า พี่ชายของบ๊าทมีลูก 4 คน เขาทิ้งลูกไว้กับย่า แล้วไปมีภรรยาและมีลูกใหม่อีก 2 คน จากวันถือกำเนิดของลูกคนเล็ก พี่ชายบ๊าทไม่เคยส่งเสียลูกทั้งสองเลยแม้แต่บาทเดียว แหล่งข่าวคือบ๊าทกับน้องชายอีกคนชื่อบู๊ท คอยทำงานรับจ้างรายวันมาส่งเสียค่ากินอยู่ให้กับเด็กสองคน ในขณะที่บ๊าทเองมีลูก 2 คน บู๊ทเองก็มีลูก 2 คน ย่าและปู่มีโรคบางโรค เช่นคุณปู่มีโรคลมชัก ผมได้รับปากครอบครัวย่าปู่ที่เลี้ยงหลานเป็นลูกนี้ว่า ผมจะตั้งกองทุนการศึกษาให้เด็กสองคนนี้ด้วยการตั้งกระทู้บอกบุญ ส่วนจะได้หรือไม่ได้นั้นขึ้นกับบุญเดิมของเด็ก

ดังนั้น วันนี้ผมจึงขอตั้งกองทุนการศึกษาให้เด็กทั้งสองคนด้วยการพาไปเปิดบัญชีที่ธนาคารกสิกรไทย โดยภรรยาของบ๊าท ( น้าสะใภ้ ) ไปเปิดบัญชีร่วม ต้องเซ็นต์สองคน ไม่ทำบัตร ATM และเล่มไว้ที่ผมเพื่ออัพบุ๊ค









http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมอนุโมทนาที่ซื้อชุดนักเรียนและตั้งกองทุนนักเรียนรวม-23-000-บาท.611883/

 

ย่าบอกว่า เปิดเทอมอีกไม่กี่วันนี้ ไม่มีเงินค่าชุดนักเรียน ชุดลูกเสือ รองเท้าและกระเป๋า ที่โรงเรียนสิงห์ทองให้เงินนักเรียนมา 300.- บาท ต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องซื้อ ผมจึงถามว่า ขาดเท่าไร ? คุณย่าบอกว่า ขาด 1,000.- บาท น้าสะใภ้บอกว่า ที่ขาดเพราะระยะนี้บริษัทที่ทำงานไม่จ่ายค่าแรง และหักค่าประกันและค่าอื่น ๆ เต็มไปหมด จึงขาดเฉพาะในส่วนชุดนักเรียนประมาณ 1,000.- บาท ส่วนค่ากินค่าใช้จะไม่ขอรบกวนเลย ผมจึงมอบทุนชุดนักเรียนทุกอย่างไปอีก 1,000.- บาท

 

ตั้งกองทุนด้วยเงินบริจาค 2,000.- บาท

มีผู้ร่วมบุญโดยไม่ได้แจ้งครับ

ลูกศรชี้คือย่ากับหลาน 2 คน หลานที่ลูกชายทิ้งไว้ให้ย่าเลี้ยงโดยไม่เคยส่งเสียตั้งแต่วันแรกที่หลานชายคนเล็กถือกำเนิด กองทุนการศึกษาเล่าเรียนนี้ทำขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจแก่เด็ก ๆ ว่า เขาจะได้มีที่พึ่งในการศึกษาต่อไป เนื่องจากปู่เป็นโรคลมชัก ทำงานได้บ้างไม่ได้บ้าง ย่าเป็นโรคหลายโรคแต่ไม่ยอมไปตรวจรักษา พ่อแม่ของเด็กทิ้งไม่เคยเหลียวแลส่งเสียแม้แต่บาทเดียว ส่วนน้าทั้ง 2 คือน้องแท้ ๆ ของพ่อก็มีภาระต้องเลี้ยงลูกอีกคนละ 2

ส่วนเด็กเล็ก ๆ อีก 2 คนนั้น เขามีพ่อมีแม่ที่อยู่ด้วยกันและทำงานทั้งคู่

 

ตั้งแต่ตั้งกองทุนนี้เมื่อ 26 เมษายน 2560 แล้ว ผมปล่อยเวลาให้ผ่านไประยะหนึ่งก่อน เนื่องจากบ๊าทแจ้งผมเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2560 ว่า พวกเขาทั้งหมดได้ย้ายบริษัททำงาน โดยผู้ชายทั้งหมดย้ายบริษัท รปภ. ส่วนผู้หญิงทั้งหมดย้ายบริษัทซับคอนแทรคในการกวาดถนนภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อันเป็นเหตุให้เขาทุกคนได้รับผลกระทบดังนี้ บริษัทเก่าที่เขาลาออกทั้งหมดเนื่องจากหมดระยะเวลาได้หักเงินเบิกล่วงหน้าไปก่อนการเลิกจ้าง ส่วนบริษัทใหม่เขาต้องจ่ายเงินเดือนโดยหักค่าชุดใหม่ทั้งหมดของทุกคน และค่าประกันต่าง ๆ ไว้ ซึ่งทำให้เงินเดือนเดือนแรก ๆ นั้นไม่ครบ ต้องหักจนกว่าจะครบซึ่งคาดว่าคงไม่เกิน 2 - 3 เดือน

ผมมีโอกาสได้ผ่านไป และได้เข้าไปถามทุกคน เขาบอกว่าเป็นความจริงเช่นนั้น ทุกคนเดือดร้อนไปหมด เพราะเงินเดือนระหว่างการเปลี่ยนบริษัทใหม่คงแทบไม่พอกินไม่พอใช้ไปนานสัก 2 - 3 เดือน

ผมปล่อยให้ระยะเวลาตรงนี้ค่อย ๆ ผ่านไปก่อน โดยไม่ยกกระทู้ขึ้นมาระหว่างนั้น เพราะเหตุว่า นี่เป็นปัญหาของครอบครัวเขา ซึ่งไม่ใช่กองทุนการศึกษา ( ตามที่ผมตกลงไว้กับพวกเขาว่า ผมหาเงินช่วยเฉพาะการศึกษาเท่านั้น จึงไม่อยากให้ปัญหาของครอบครัวเขามาเป็นประเด็น )

ขณะนี้กำลังจะผ่าน 2 เดือนแล้ว ผมจึงกลับมายกกระทู้เพื่อช่วยหาเงินเข้ากองทุนการศึกษาอีกครั้งหนึ่ง บัญชีนี้สมุดอยู่ที่ผมเพื่ออัพบุ๊ค และไม่มี ATM ไม่อนุญาตให้เบิกเงินจากธนาคาร เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาเท่านั้น

 

แม่ของเด็กนักเรียนทั้งสองได้ทิ้งลูกไว้ที่ปู่ย่า แล้วกลับบ้านเดิมที่สุพรรณบุรี จากนั้นก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย คาดว่าคงมีสามีใหม่ไปแล้วเพราะนานถึง 8 - 9 ปี ไม่เคยกลับมาเลย

 

ผมได้แนะนำให้บ๊าทกับบู๊ท 2 น้าชายของนักเรียนสองคนนี้ เมื่อใด เดือนไหน พอมีเงินเหลือบ้างจากค่ายังชีพ ให้ฝากเงินเข้าบัญชีเดือนละ 500.- บาทบ้าง 1,000.- บาทบ้าง แล้วแต่ไหวแค่ไหนเอาแค่นั้น อย่างน้อยการทำอย่างนี้ เด็กก็จะได้อานิสงส์จากการเก็บออมจากน้าชายทั้งสองคน

ส่วนท่านใดที่มีจิตเมตตาสงสาร ก็สามารถช่วยเหลือนักเรียนสองคนนี้ได้ด้วยการโอนเข้าบัญชีได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อเป็นกองทุนการศึกษาเพียงอย่างเดียว

 

วันศุกร์ที่จะถึงนี้ จะผ่านนนทบุรี จะได้ไปคุยกับบ๊าทอีกทีครับ

 

ขอร่วมบุญทำช่วยเหลือการศึกษาแก่นักเรียน 2 คน ได้โอนเงินแล้ว ธนาคารกสิกรไทย วันที่ 7 ก.ค. 60 เวลา 17.10 น. จำนวน 20 บาท ข้าพเจ้านายธราภุช โพธิ์แสง และนางทองรวม จันทบัตรและครอบครัว ขอร่วมอนุโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วยครับ

 

ขออนุโมทนาครับคุณ tharaphut

วันศุกร์ที่ผ่านมา ผมได้ผ่านนนทบุรีแถวที่ทำงานของบ๊าท ได้คุยสอบถามได้ใจความว่า จากการที่หมู่บ้านเขาเปลี่ยนบริษัทรับเหมาช่วง คือทั้งบริษัท รปภ. และบริษัทรับทำความสะอาด ฝ่ายชายทุกคนก็ต้องลาออกจากบริษัท รปภ. เดิม แล้วมาสมัครกับบริษัทใหม่ เพื่อที่จะได้ที่ทำงานเดิม ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเรื่องค่าชุด ค่าประกัน ฝ่ายหญิงทุกคนก็เช่นกัน จึงทำให้ไม่มีเงินเหลือเก็บเลย ยังไม่สามารถออมทรัพย์ให้เด็กทั้งสองซึ่งเป็นหลานแท้ ๆ ได้ อีกทั้งเงินเดือนบริษัทใหม่นี้ออกเดือนละครั้ง ไม่เหมือนบริษัทเดิมที่ออกสองสัปดาห์ครั้ง

ผมขอรอดูอีกสักเดือนสองเดือนครับ หากอีกสองเดือนก็แล้ว สามเดือนก็แล้ว ก็ยังไม่สามารถออมทรัพย์ให้หลานได้เลยแม้แต่น้อย ผมก็จะสามารถแปลได้ว่า เขาต้องการให้เราช่วยโดยฝ่ายเดียว โดยเขาจะไม่ยอมช่วยตัวเอง ซึ่งผิดกับตอนที่ผมได้ตกลงกับพวกเขาตอนนั้นครับ ว่าพวกเราต้องช่วยตัวเองก่อน หากขาดเหลือจึงให้คนอื่นช่วย

และหากผ่านไปถึงสามเดือนก็ยังไม่มีการออมเลย ผมจะได้ลบกระทู้นี้ทิ้งไป เพราะไม่เช่นนั้นก็จะไปส่งเสริมผิดคน ผิดครอบครัวครับ

 

2 - 3 วันที่ผ่านมานี้ ผมได้มีโอกาสไปพักบ้านญาติที่นนทบุรีอีกครั้งหนึ่ง ผมจึงได้เข้าใกล้ที่ทำงานของย่าน้อย และบ๊าท ( สายข่าวนนทบุรีของผม ) และบู๊ท พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้

คุณกาญจนาวดี ทันสมัย เมียบ๊าทได้ขอแยกทางกัน โดยคุณกาญจนาวดีได้นำลูก 2 คนและติดท้องไปอีก 1 รวมทั้งคุณกาญจนาวดีรวมเป็น 4 ชีวิตกลับต่างจังหวัดไป ส่วนสาเหตุนั้น ผมคงพูดในที่สาธารณะไม่ได้ ( ตามคำบอกเล่าของบ๊าท ) เพราะจะไม่ยุติธรรมกับคุณกาญจนาวดีที่ไม่มีโอกาสชี้แจงความจริง เป็นอันว่า เด็กหญิงน้ำวน คำสร้อยทองขาดคนเซ็นต์ร่วมในบัญชีคู่ไปแล้ว

ผมจึงได้คืนสมุดคู่ฝากไว้กับย่าน้อยและเด็กหญิงน้ำวน คำสร้อยทอง ซึ่งทราบต่อมาว่า เด็กหญิงน้ำวนได้ย้ายจากการเรียนที่โรงเรียนวัดสิงห์ทอง ต. อ้อมเกร็ด นนทบุรี ออกมาช่วยย่าน้อยทำงานเพราะย่าน้อยป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหาร บางครั้งทำงานไม่ได้ ถ้าไม่มีคนทำหน้าที่แทนก็อาจต้องออกจากงาน แต่เด็กหญิงน้ำวนได้ใช้วิธีเรียนทางไกล ก.ศ.น. ( การศึกษานอกโรงเรียน ) เนื่องจากเด็กหญิงน้ำวนเป็นเด็กเรียนเก่งมากมาก่อน จึงทำให้เรียนได้รู้เรื่องดี ไม่เป็นอุปสรรค์ในการศึกษา ส่วนน้องพรีม น้องชายของเด็กหญิงน้ำวนยังเรียนอยู่โรงเรียนวัดสิงห์ ซึ่งเทอมนี้การเรียนดีขึ้นเป็นที่น่าพอใจ


การคืนสมุดคู่ฝากเพื่อที่จะได้ให้เด็กหญิงน้ำวนกับบ๊าทนำติดตัวไปต่างจังหวัดเพื่อไปขอถอนเงินจากธนาคารในต่างจังหวัด หรือหากคุณกาญจนาวดีกลับมาที่นนทบุรี จะได้ไปขอปิดบัญชีเป็นการต่อไป
เด็กหญิงน้ำวน คำสร้อยทองต้องออกจากการศึกษาในระบบ ออกมาเรียน ก.ศ.น. เพื่อช่วยย่าหาเงิน ซึ่งก็ยังดีที่นายจ้างยอม เพราะไม่เช่นนั้นย่าอาจต้องออกจากงานไปแล้ว ส่วนเด็กหญิงที่อายุน้อยกว่า 15 ก็ไม่มีใครรับเข้าทำงานได้ นอกจากเป็นแรงงานเถื่อน นี่คือความทุกข์ยากของครอบครัวนี้ ซึ่งผมหวังว่าเหตุการณ์คงคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นมาบ้าง

 

ผมได้บอกย่าน้อยกับเด็กหญิงน้ำวนไว้ว่า เมื่อถอนเงินหรือปิดบัญชีได้แล้ว ให้ไปเปิดบัญชีใหม่โดยครั้งนี้ใช้คนเซ็นต์ร่วมใหม่ ควรจะเป็นบ๊าทหรือบู๊ทซึ่งเป็นน้าชายแท้ ๆ จะดีกว่า แล้วค่อยนำเบอร์บัญชีมาบอกบุญต่อไป

ในขณะเดียวกันผมก็ยังรอดูพฤติกรรมที่ครอบครัวนี้จะได้ออมเงินเข้าบัญชีของเด็กหญิงน้ำวน คำสร้อยทองและน้องพรีมด้วย หากเขาทุกคนเหลือเงินและฝากเข้าบัญชีบ้างทุก ๆ เดือน เดือนละเล็กละน้อยแค่ไหนก็ตาม ก็ย่อมแสดงให้เห็นได้ว่า เขาช่วยตัวเองก่อน ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากสังคม การที่จะอ้างกับผมว่า เขาไม่มีเงินเหลือเลยทุกเดือนมาเป็นเวลา 4 เดือนแล้วนั้น สำหรับผมย่อมถือว่าฟังไม่ขึ้น เนื่องจากทุกคนมีงานทำ ถึงแม้จะมีโรคประจำตัวก็ตาม

และเหตุการณ์การขอแยกทางระหว่างบ๊าทกับภรรยาคือคุณกาญจนาวดี ทันสมัยก็บ่งบอกถึงการที่เขามีเงิน แต่ไม่ออมกัน เนื่องจากสาเหตุหนึ่งของการขอแยกทางกัน คือคุณกาญจนาวดีชอบซื้อสีมาวาดรูป สัปดาห์ละ 400.- บาท แต่วาดไม่เอาไหนเลย นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่ผมคาดว่า ครอบครัวนี้น่าจะพอออมเงินได้หากไม่มีใครเป็นรูรั่ว และก็ปรากฏว่า หากคุณกาญจนาวดีอดออมเงินให้หลานทั้งสองคนนี้ ก็จะสามารถออมเงินได้ถึงเดือนละไม่ต่ำกว่า 1,600.- บาทต่อเดือนทีเดียวครับ

 

เพิ่งกลับมาจากนนทบุรี ได้พบครอบครัว ด.ญ. น้ำวน กับน้าชายบ๊าท พบว่า เขาทั้งสองจะรอให้คุณกาญจนาวดีกลับมากรุงเทพฯอีกระยะหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบว่าภายใน 1 - 2 เดือนจะได้กลับมาหรือไม่ ?

ดังนั้นในระยะนี้ ขอให้ทุกท่านอย่าเพิ่งโอนเข้าในบัญชีของกาญจนาวดี ทันสมัยกับ ด.ญ. น้ำวน คำสร้อยทอง เพราะยังไม่ทราบว่าคุณกาญจนาวดีจะกลับหรือไม่ ? อย่างไร ? และขณะนี้อยู่จังหวัดใดกันแน่

 

วันนี้ผมไปพบคุณป้าน้อย บ๊าทและ ด.ญ. น้ำวน คำสร้อยทอง เพราะต้องไปแถวนนทบุรี ได้คุยกับป้าน้อย ย่าที่รับเลี้ยงหลานคือ ด.ญ. น้ำวนกับน้องชายซึ่งความจริงเป็นหลาน แต่เลี้ยงเป็นลูก ทราบเกี่ยวกับการทะเลาะกันของบ๊าทกับภรรยาเขาคือคุณกาญจนาวดี ทันสมัย คนที่ทะเลาะกับสามีแล้วหนีไป ยังหาตัวไม่พบ โดยหนีเอาลูกไปด้วย

ป้าน้อยบอกว่า ที่จริงกาญจนาวดีเขากำลังเอาอาหารเที่ยงไปส่งที่บริเวณป้อมยามที่บ๊าททำงานอยู่ บ๊าทได้ถามไปแรงเกินไปนิดเดียวว่า ทำไมเพิ่งมา เพียงเท่านั้นเอง กาญจนาวดีก็เทข้าวที่เตรียมมาให้กินทิ้งไปหมดสิ้น จากนั้นก็หอบลูกหอบเสื้อผ้าหนีออกจากห้องเช่าไปเสีย และขณะนี้ผ่านมาเกิน 10 วันก็ยังไม่เปิดโทรศัพท์มือถือ และติดต่อไม่ได้ แต่บ๊าทคาดว่าคงหนีไปบ้านเกิดแถวกาญจนบุรี

บ๊าทเอาต้องเก็บเงินที่เพียรทำงานมา เพื่อจะไปหาภรรยาที่หนีไปพร้อมลูก ๆ

ส่วน ด.ญ. น้ำวนนั้น หลังจากเลิกเรียนในระบบ หันมาเรียนการศึกษานอกโรงเรียน ก็พยายามเพียรไปหางานทำ แต่เนื่องจากอายุไม่ถึง 15 หรือ 16 จึงไม่มีใครให้ทำงานเต็มที่ ให้ทำแค่งานง่าย ๆ แค่รดน้ำคอนกรีตที่หล่อเสร็จ ต้องเลี้ยงน้ำนาน 7 วัน ได้วันละ 100.- บาทซึ่งก็ไม่พอกินพอใช้ ถ้าอายุเกิน 18 ไปแล้ว เขาจึงจะจ้างทำงานก่อสร้างในราคาวันละ 300.- บาทได้

ดังนั้น ระยะนี้จึงมีงานง่าย ๆ วันละ 100.- บาทไปก่อน ระยะนี้ผมจึงขอเชิญชวนท่านที่มีจิตเมตตาร่วมบริจาคแก่ ด.ญ. น้ำวน คำสร้อยทองตามแต่อัธยาศัยได้ที่บัญชีด้านล่างนี้ครับ

ธ. กสิกรไทย สาขาสี่แยกวังหิน
เลขบัญชี 757-2-41867-1
ชื่อบัญชีนายสมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

เมื่อมอบเงินให้ ด.ญ. น้ำวนจะได้ถ่ายภาพมาโพสต์เพื่อเป็นหลักฐานอีกครั้งหนึ่งครับ

งานก่อสร้างนั้น เขารับคนงานอายุต้องเกิน 18 ปีที่จะได้ค่าแรงวันละ 300.- บาท


ขณะนี้ ด.ญ. น้ำวนหันไปเรียนหนังสือการศึกษานอกโรงเรียน ดังนั้นจึงมีค่าใช้จ่ายที่ต้องหันมาพึ่งงานก่อสร้างแบบง่าย ๆ ที่ได้ค่าแรงวันละ 100.- บาทเท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่รับเข้าทำงาน

 

ท่านที่มีจิตเมตตาร่วมบริจาคแก่ ด.ญ. น้ำวน คำสร้อยทองตามแต่อัธยาศัยได้ที่บัญชีด้านล่างนี้ครับ

ธ. กสิกรไทย สาขาสี่แยกวังหิน
เลขบัญชี 757-2-41867-1
ชื่อบัญชีนายสมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

เมื่อมอบเงินให้ ด.ญ. น้ำวนจะได้ถ่ายภาพมาโพสต์เพื่อเป็นหลักฐานอีกครั้งหนึ่งครับ

 

การที่ ด.ญ. น้ำวนตัดสินใจเลิกเรียนในระบบ ซึ่งเดิมเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดสิงห์ทอง ต. อ้อมเกร็ด อ. เกาะเกร็ด จ. นนทบุรี มาเรียนทางไกล ก.ศ.น. เพราะต้องการลดภาระคุณปู่คุณย่า โดยมาทำงานก่อสร้างที่ก็ไม่มีคนรับเข้าทำงานเท่าไรนัก ได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ยังดีกว่าต้องเสียค่าเทอม ค่าใช้จ่ายทุกวัน ส่วนน้องชายอีกคนของ ด.ญ. น้ำวนนั้นยังเรียนอยู่วัดสิงห์ทองครับ

 

ถือว่าเป็นพี่สาวที่เสียสละให้น้องได้เรียน

 

น้องชายของ ด.ญ. น้ำวนชื่อพรีม ขณะนี้ไปฝึกมวยไทย ความหวังว่า หากถึงตอนนั้นอาจขึ้นชกเพื่อหารายได้หรือไม่ ?

ชีวิตคนจนเลือกทางเลือกได้ไม่มากนัก

 

ผมเพิ่งกลับมาจากบ้านญาติที่นนทบุรี ได้พบภาพ ด.ญ. น้ำวน ซึ่งไปทำงานแทนน้าสะใภ้ ( เมียบู๊ทที่กำลังตั้งครรภ์แก่ แต่ยังต้องการเงินเลี้ยงชีพ จึงให้คนมาทำงานแทนวันละ 300.- บาท )

ผมพบเข้าจึงถามว่าเป็นไปมาอย่างไร ? เพราะทราบว่า ด.ญ. น้ำวนยังอายุไม่ถึง ไม่มีทางที่จะได้รับงานแบบว่าวันละ 300.- บาทแน่นอน เมื่อถามเข้าจึงทราบว่า เธอมาทำงานแทนน้าสะใภ้ที่เป็นเมียของบู๊ท น้าชายที่กำลังตั้งท้องแก่ ซึ่งถ้าหากน้าสะใภ้ไม่มาทำงานก็จะต้องหาคนมาทำงานแทน จึงจะได้เงินค่าจ้างวันละ 300.- บาทไปเลี้ยงชีพ

ผมถามต่อว่าแล้วน้าสะใภ้แบ่งให้หรือเปล่า ? เธอบอกว่า เขาไม่ได้แบ่ง เพียงแต่ว่าเมื่อน้าสะใภ้มีเงินค่าเลี้ยงชีพก็จะมีอาหารบางส่วนแบ่งมาให้กินบ้าง ส่วนงานอื่นตอนนี้ก็ไม่มีใครจ้างเลย แม้แต่งานรดน้ำเขาก็ไม่ได้จ้างแล้วเพราะงานหมด

ผมอดคิดไม่ได้ว่า แล้วแบบนี้การเสียสละออกจากโรงเรียนของเธอจะได้ประโยชน์อะไร ? ได้ให้น้องชายเรียนต่อ แต่ตัวเองได้แค่กินข้าวไปมื้อ ๆ เท่านั้น

ท่านใดมีความสงสารเมตตาเธอก็ขอได้โปรดช่วยเหลือโดยขณะนี้ผมเปิดบัญชีผมไว้เพื่อจะช่วยเธออย่างไรครับ

ท่านที่มีจิตเมตตาร่วมบริจาคแก่ ด.ญ. น้ำวน คำสร้อยทองตามแต่อัธยาศัยได้ที่บัญชีด้านล่างนี้ครับ

ธ. กสิกรไทย สาขาสี่แยกวังหิน
เลขบัญชี 757-2-41867-1
ชื่อบัญชีนายสมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

เมื่อมอบเงินให้ ด.ญ. น้ำวนจะได้ถ่ายภาพมาโพสต์เพื่อเป็นหลักฐานอีกครั้งหนึ่งครับ