ขอเชิญร่วมโมทนาบุญเททองหล่อพระ และมุทิตาจิตสักการะครบรอบวันมรณภาพหลวงปู่ปาน ๗๒ ปี

ในห้อง 'กฐิน - ผ้าป่า - งานวัด' ตั้งกระทู้โดย ปุญญผลัง, 29 มิถุนายน 2009.

  1. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    ขอเชิญร่วมโมทนาบุญ พิธีเททองหล่อพระ และ มุทิตาจิตสักการะครบรอบวันมรณภาพ
    หลวงปู่ปาน โสนันโท ๗๒ ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดบางนมโค
    วันเสาร์ที่ ๑๘ กรกฏาคม๒๕๕๒ (แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๘) ปีฉลู
    วัดบางนมโค ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...นมรณภาพหลวงปู่ปาน-โสนันโท-๗๒-ปี.194559/page-3
    ขอโมทนาบุญยังทุกท่านที่ได้ร่วมบุญ และร่วมโมทนาบุญมา ณ โอกาสนี้ครับ
    ขอบุญนี้จงสำร็จแก่ทุกท่าน ทุกคนเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ






    <!-- / message --><!-- attachments -->​

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2009
  2. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    เรียนแจ้งเพื่อทราบ

    ผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์จะร่วมบุญพิธีเททองหล่อ และ มุทิตาจิตสักการะครบรอบวันมรณภาพ
    หลวงปู่ปาน โสนันโท ครบ ๗๒ ปี
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    ที่จะส่งแผ่นทองจารึกชื่อ สกุล วัน/เดือน/ปีเกิด ของท่าน เพื่อร่วมหล่อพระในครั้งนี้

    โปรดส่งแผ่นทอง แบบ EMS จากท่านหาผมภายในวันพุธที่ 15 ก.ค. ครับ
    เนื่องด้วยวันศุกร์ที่ 17 ผมลา ต้องไปช่วยที่วัดบางนมโคจัดเตรียมสถานที่ จึงจะทำให้ไม่ได้รับแผ่นทองที่ท่านจะส่งมา

    จึงกราบเรียนมาเพื่อทราบ
    ติดต่อคุณธรากร ตรีเนตรโทร.089-1417589

    และร่วมบุญส่งแผ่นเงิน ทองแดง หรือทองเหลือง หรือโลหะสำริดร่วมหล่อพระได้ตามที่อยู่ด้านล่าง


    ส่งถึง นายธรากร ตรีเนตร(ชมรมพุทธศาสตร์)
    บ.เซรามิคอุตสาหกรรมไทย จก.
    เลขที่ 33/1 ม.2 ถ.สุวรรณศร

    ต.โคกแย้ อ.หนองแค
    จ.สระบุรี 18230


    <O:p>ขอโมทนาบุญทุกท่าน</O:p>

    แผนที่การเดินทางไปวัดบางนมโคครับ


    <!-- / message --><!-- attachments -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]


    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2009
  3. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    คำอธิฐานบุญเททองหล่อพระ และ มุทิตาจิตสักการะครบรอบ
    วันมรณภาพ หลวงปู่ปาน โสนันโท ๗๒ ปี


    บุญใดที่ข้าพเจ้าได้ร่วมบุญเททองหล่อพระ และ มุทิตาจิตสักการะครบรอบวันมรณภาพ หลวงปู่ปาน โสนันโท ๗๒ ปี
    อดีตเจ้าอาวาสวัดบางนมโค เพื่อบูชาคุณพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์
    คุณครูบาเจ้าศรีวิชัย
    คุณสมเด็จสังฆราช อริยวงศาคตญาณ (อยู่ ญาโณทัย) คุณหลวงปู่ปาน คุณหลวงพ่อฤาษี ​
    พระมหากษัตริย์ตราธิราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมโพธิสัตว์ธรรม (บ้านสุด) ต.ไผ่กองดิน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี

    อิทัง เม ปุญญะภาคัง นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ
    ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานด้วยอานุภาพแห่งบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วนี้ ขอจงเป็นพลวปัจจัย เป็นอุปนิสัยตามส่ง ให้เกิดปัญญาญาณ รู้แจ้งสัจจะธรรมคำสั่งสอน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตราบถึงซึ่งพระนิพพาน

    ขอให้ข้าพเจ้าได้เกิดในศูนย์กลางบวรพระพุทธศานา ในตระกูลสูงที่คนยกย่อง เป็นสัมมาทิฏฐิ อยู่ในภูมิประเทศสภาพแวดล้อมที่ดี เกื้อกูลต่อการสร้างบารมี มีบัณฑิตนักปราชญ์เป็นกัลยาณมิตร ให้ถึงพร้อมด้วยมนุษย์สมบัติอันเลิศ ทิพยสมบัติอันยิ่งใหญ่ นิพพานสมบัติอันไม่มีประมาณ ได้ความเป็นมนุษย์ ได้เพศบริสุทธิ์ ให้ได้ลักษณะมหาบุรุษครบถ้วน ๓๒ ประการ ให้ได้รูปกายที่งดงาม
    เหมาะสมต่อการสร้างบารมี มีผิวพรรณผ่องใส เป็นที่น่าเลื่อมใสของมหาชน ให้สั่งสอนตนเองได้ ระลึกชาติได้ตั้งแต่แรกเกิด บรรลุธรรมตั้งแต่เยาว์วัย ให้สุขภาพพลานามัยแข็งแรง มีอายุขัยยืนยาว ได้สร้างบารมีอย่างมีความสุขปราศจากทุกข์โศกโรคภัย ไปจนตลอดชีวิต ทุกภพทุกชาติ ให้มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง ได้สร้างทานบารมี กับทักขิไณยบุคคลตลอดจนชนทุกระดับชั้น อีกสรรพสัตว์ทั้งหลาย ตลอดไปไม่รู้หมดสิ้น ให้มีคุณสมบัติยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยคุณธรรมอันเลิศ มีกำลังสูงส่ง มั่นคงในพระรัตนตรัยให้มีดวงปัญญาแตกฉาน
    เปรื่องปราดในศาสตร์ทั้งปวง
    ตลอดทั้งทางโลกและทางธรรม ให้ถึงพร้อมด้วยจรณะ ๑๕ ได้บรรลุวิชชา ๓ วิชชา ๘ อภิญญา ๖ จตุปฏิสัมภิทาญาณ วิโมกข์ ๘ และวิปัสสนาญาณ ๙ ขอจงเกิดและเจริญขึ้นพร้อมทั้ง โพธิปักขิยธรรม เป็นธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้ คือ เกื้อกูลแก่การตรัสรู้ เกื้อหนุนแก่อริยมรรค มี ๓๗ ประการ ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ และมรรคมีองค์ ๘ จงเกิดและเจริญขึ้น
    เพื่อประหารคือละอวิชชา กิเลส ตัณหาและอุปาทาน เหตุแห่งทุกข์ทั้งหลายให้สิ้นไปได้ถึงซึ่งมรรค ผล นิพพาน ที่สิ้นสุดแห่งทุกข์และบรมสุขอย่างถาวรตลอดไป
    ธรรมใดที่หลวงปู่ใหญ่องค์บรมครูเทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด หลวงปู่แจ้งญาณ สมเด็จพระสังราช (สุก) ไก่เถื่อน สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สมเด็จสังฆราช อริยวงศาคตญาณ (อยู่ ญาโณทัย) หลวงปู่มั่น ครูบาเจ้าศรีวิชัย หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงปู่สด วัดปากน้ำภาษีเจริญ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ตลอดทั้งธรรมที่พ่อแม่ครูอาจารย์ทุกท่าน ได้บรรลุถึงแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าได้บรรลุถึงซึ่งธรรมนั้นด้วย ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำแห่งมหาชน ในการสร้างความดี สร้างบารมีไปได้ตลอดสิ้นอายุไข ทุกภพทุกชาติที่ยังต้องท่องเที่ยวในวัฏฏสงสาร ขอให้ข้าพเจ้าพึงพบ แต่คำว่ามี คำว่าสำเร็จ ทั้งทางโลกและทางธรรม ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขึ้นชื่อว่าความยากจนเข็ญใจ อย่าได้บังเกิดมีแก่ข้าพเจ้าเลย นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขออานิสส์อำนาจบุญนี้ จงมีผลโดยฉับพลัน ณ กาลบัดนี้เป็นต้นไป
    ขอบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้สิ้นอาสวะ จงเป็นปัจจัยเพื่อมรรคผลนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เทอญ
    หากแม้ยังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานในชาตินี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้จุติเกิดในพุทธกาลของพระอริยเมตตรัยพุทธเจ้าได้ฟังธรรมคำสอน เกิดปัญญาญาณ รู้แจ้งในสัจจะธรรมยังจิตให้ถึงซึ่งความหลุดพ้น คือพระนิพพาน ในพุทธกาลของพระอริยเมตตรัยพุทธเจ้าเป็นชาติสุดท้ายด้วยเทอญ

    คำแผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญ

    อนึ่ง สรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่าใดที่ข้าพเจ้าได้ฆ่าแล้วได้เบียดเบียนแล้ว ได้เอาเนื้อหนังของสรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น มายังประโยชน์
    เพื่อยังอัตภาพความเป็นอยู่ เจตตนาก็ตาม ไม่เจตตนาก็ตาม ถ้ากรรมนี้มีแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่าใดขอสรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นจงโปรด อดโทษ งดโทษ อภัยโทษ ให้แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นตบะ เป็นเดชะ เป็นพละวะ เป็นปัจจัย เป็นอุปนิสัยตามส่งให้ถึงแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวร ทั้งหลาย เหล่านี้ด้วยเทอญ

    เมื่อสรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นรับรู้แล้ว และขอจงมาร่วมอนุโมทนาด้วยกันเถิดเมื่อได้รับอนุโมทนาแล้ว
    ขอจงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าครอบครัวข้าพเจ้าจงประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป ขอให้ปราศจากโรคาพยาธิ ปราศจาก
    อุทกภัย อัคคีภัย วาตะภัย โจรภัย ราชภัย ทุกข์โทษใด และภัยใดใด อันตรายใดใด ภูติใดพรายใด อย่าได้มาเบียดเบียนบีฑา ขอให้คลาดแคล้วจากภยันอันตรายทั้งหมด ทั้งสิ้น ด้วยอานุภาพแห่งบุญนี้ด้วยเทอญ
    บุญกุศลทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าได้สร้างสม อบรมมาตั้งแต่ในอดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติซึ่งเป็นเนื้อนาบุญเป็นเขตุของบุญขอจงมารวมกัน
    ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานด้วยอานุภาพแห่งบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วนี้ ขอจงเป็นพลวปัจจัย เป็นอุปนิสัยตามส่ง ให้เกิดปัญญาญาณ รู้แจ้งสัจจะธรรมคำสั่งสอน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตราบถึงซึ่งพระนิพพาน

    ขอโมทนาบุญทุกท่าน
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    ประวัติหลวงพ่อปาน (โดยย่อ)

    หากจะอ่านให้ละเอียด คือหนังสือประวัติหลวงพ่อปาน ที่พิมพ์ขึ้นจากการเล่าของหลวงพ่อฤาษีลิงดำแห่งวัดจันทาราม จ.อุทัยธานี ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อปาน โสนันโท แห่งวัดบางนมโค หนังสือนี้ไม่มีขาย เล่มโต อยากได้คงต้องหาจากแผงหนังสือเก่า ผมก็ได้มาด้วยวิธีนี้ ท่านเล่าไว้สนุก เพราะเล่าเกี่ยวกับตัวหลวงพ่อฤาษีลิงดำเอง กับเล่าถึงเรื่องของหลวงพ่อปาน เกี่ยวข้องกันไป อ่านแล้วสนุกและได้ความรู้ทางธรรมะไปด้วย
    ส่วนประวัติย่อของหลวงพ่อปาน โสนันโท มีดังนี้
    หลวงพ่อปานถือกำเนิดที่ย่านวัดบางนมโค เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๔๑๘ เป็นบุตรชายคนเล็ก ครอบครัวมีอาชีพทำนา สาเหตุที่ท่านได้รับการตั้งชื่อว่า "ปาน" เนื่องจากท่านมีปานแดงที่นิ้วก้อยมือซ้าย ตั้งแต่โคนนิ้วถึงปลายนิ้ว นับว่าแปลก ไม่มีใครมีแบบนี้
    หลวงพ่อปานอุปสมบทเมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๔๓๘ โดยมีหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ อำเภอบางบาล อยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายา "โสนันโท"
    เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้เข้ามาอยู่ที่วัดบางปลาหมอ โดยมีหลวงพ่อสุ่นเป็นอาจารย์สอนกรรมฐานวิปัสสนา พุทธาคมต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดจนผู้คนที่ถูกคุณไสย หลวงพ่อสุ่นถ่ายทอดวิชาให้จนหมดสิ้น จากนั้นไปเรียนพระปริยัติธรรมและภาษาบาลีกับอาจารย์จีน วัดเจ้าเจ็ด ๒ ปี และไปเรียนต่อที่วัดสระเกศ ที่กรุงเทพ ฯ อีกจนจบอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ใช้เวลาอยู่กรุงเทพ ฯ ๕ ปี ขณะที่อยู่กรุงเทพ ฯ ไปเรียนวิชาแพทย์แผนโบราณเพิ่มเติมอีก โดยเรียนที่วัดสังเวช บางลำพู
    ต่อมาไปเรียนด้านกรรมฐานเพิ่มเติมจากหลวงพ่อเนียม วัดน้อย อำเภอบางปลาม้า
    ไปศึกษาเพิ่มเติมกับหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน อำเภอสองพี่น้อง สุพรรณบุรี หลวงพ่อโหน่งนี้เล่ากันว่า ท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ผู้ที่จะทราบว่าท่านสำเร็จจริงหรือไม่ก็ต้องเป็นพระอรหันต์ด้วยกัน ปัจจุบันรูปเหมือนของหลวงพ่อโหน่ง อยู่ในมณฑปวัดอัมพวัน วัดนี้ไปตามถนนสาย ๓๔๐ ที่ไปสุพรรณบุรี แล้วแยกไปทางวัดไผ่โรงวัว อยู่เลยวัดไผ่โรงวัวของหลวงพ่อขอมไป ถนนเส้นนี้เลยต่อไปยังสุพรรณบุรี เข้าทางถนนมาลัยแมนได้ เลยเอามาบอกไว้ด้วย
    วิชาการสร้างพระเครื่อง เรียนจากชีปะขาว ที่สร้างพระเครื่อง ๖ พิมพ์ดังได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งชีปะขาวได้มาพบหลวงพ่อในขณะที่เจริญฌานอยู่ในป่าช้าวัดบางนมโค และบอกให้วันละพิมพ์ แต่วิชาการปลุกเสกนั้นหลวงพ่อได้รับการถ่ายทอดวิชาจากอาจารย์แจงฆราวาสที่สวรรคโลก เป็นตำราของพระร่วงเจ้า การสร้างพระครั้งแรกของหลวงพ่อปานทำ เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๐ เพื่อหาทุนมาสร้างเจดีย์ใหม่แทนเจดีย์องค์เดิมซึ่งคือ เจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้ เจดีย์เดิมชำรุดทรุดโทรมพังลงมาแล้ว มรดกอันมีค่าของหลวงพ่อปานที่ท่านให้ไว้ได้แก่
    ๑. พระหลวงพ่อปาน คือพระผง ๖ พิมพ์
    ๒. ผ้ายันต์, ยันต์เกราะเพชร
    ๓. พระคาถาพระปัจเจกะโพธิ์
    การเป่ายันต์เกราะเพชร หลวงพ่อปานได้รับวิชามาจากอาจารย์แจง ฆราวาสชาวสวรรคโลก จากตำราของอาจารย์พระร่วง ผู้ที่จะทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ได้ ต้องมีศีลบริสุทธิ์ และมีฌานแก่กล้าจึงจะทำให้ยันต์นั้นเข้าไปสถิตอยู่ในตัวผู้ที่ต้องการได้ ผู้ที่เข้าพิธีแล้วจะได้ทั้งแคล้วคลาด คงกะพันชาตรี "คุ้มกันอันตราย" ข้อสุดท้ายนี้ผมคงได้รับเต็มที่ เพราะเคยเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรจากหลวงพ่อฤาษีลิงขาว วัดฤกษ์บุญมี ที่เป็นศิษย์ของหลวงพ่อปาน พิธีนั้นไม่ได้เป่าคนเดียว เป็นพิธีใหญ่ ทำเพียงปีละครั้ง จะศักดิ์สิทธิ์จริง หรือไม่ต้องอยู่ที่การปฏิบัติของผู้รับด้วย ผมเดินทางไกลตลอด ไปทุกสัปดาห์ ขับรถเองคนเดียว มีภรียาทำหน้าที่เป็นเลขา ฯ คอยจดบันทึกนั่งข้าง ผมไม่เคยได้รับอุบัติเหตุเลยนับตั้งแต่เข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรมา จะเคยก็แค่ยางระเบิดครั้งเดียวแต่ก็ไม่เป็นไร จะเป็นก็เหนื่อยตอนเปลี่ยนยางรถ
    พระคาถาปัจเจกะโพธิ์โปรดสัตว์ หลวงพ่อปานได้เรียนมาจากครูผึ้งหรือพึ่งบุญ จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อหลวงพ่อไปนคร ฯ พบกับครูผึ้ง โดยท่านทั้งสองนัดกันทางใน ท่านผึ้งมาตามนัด แต่งกายโก้นุ่งผ้าม่วงสีน้ำเงิน ท่าทางสง่าเดินมาหาหลวงพ่อ ซึ่งเวลานั้นครูผึ้งอายุ ๙๙ ปีแล้ว ครูผึ้งก็ได้พระคาถานี้มาจากพระธุดงค์อีกที และสวดภาวนาพระคาถานี้เป็นประจำ ใส่บาตรทำบุญ "ไม่มีใครจนอย่างจนก็พอเลี้ยงตัวรอด" ตักบาตรทุกวัน วันละหนึ่งองค์ หรือเก็บเงินไว้ที่หิ้งพระ เมื่อมีเวลาก็นำเงินไปถวายเป็นค่าภัตตาหารแก่ทางวัดก็ได้ วิธีของผมคือทำบุญสม่ำเสมอและหากมีเวลาจะไปใส่บาตรทุกวันเกิดหรือวันอาทิตย์ ส่วนการว่าคาถานั้น ก่อนเข้านอนกับตอนตื่นนอน หรือตอนสวมพระเข้าคอในตอนเช้า
    หลวงพ่อปานมรณภาพ วันแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๘ เวลา ๐๖.๐๐ ตรงกับวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๔๘๑ อายุ ๖๓ ปี ที่วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
     
  5. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    ขออนุโมทนากับคุณนพรัตน์และญาติครับ

    [ ผมนพรัตน์นะครับที่ส่งเงินร่วมหล่อที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมหลวงพ่อฤาษี จำนวน1,040บาท
    จะขอรบกวนคุณธรากร เขียนชื่อใส่แผ่นทองพร้อมวันเดือนปีเกิดให้หน่อยนะครับ มีชื่อ ดังนี้นะครับ
    นาย นพรัตน์ บำรุงชาติอุดม
    นาย วรวุฒิ บำรุงชาติอุดม
    นาง วรนุช ศรีวรรณ
    นางสาว ชาดา บำรุงชาติอุดม
    นาย ศรายุทธ ศรีสวัสดิ์ ]

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  6. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณสมศักดิ์ และครอบครัว

    [สวัสดีครับ
    ขอร่วมบุญเททองหล่อพระ และ มุทิตาจิตสักการะครบรอบวันมรณภาพ หลวงปู่ปาน โสนันโท ๗๒ ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดบางนมโคจำนวน 500 บาท
    สมศักดิ์ ทองคำแลครอบครัว
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ สาธุ สาธุ สาธุ นิพพานปัจจะโยโหตุ
    วันที่ 23 มิ.ย.52 เวลา 12:52 น. ได้โอนจำนวน 500 บาทให้แล้วครับ]


    ขออนุโมทนาบุญครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ

    <LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2009
  7. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    เรียนญาติธรรมกัลยาณมิตร

    กระทู้ก่อนนี้ได้ถูกลบไปโดยไม่ทราบเหตุ อาจด้วยความเข้าใจผิดบางประการ
    กระทู้งานบุญนี้ผมได้ตั้งขึ้นมาด้วยเจตตนาอันบริสุทธิ์ มีเจตตนาเพื่อช่วยงานหลวงปู่ หลวงพ่อ หลวงตา และย่าอี๊ด ไม่มีเจตตนาอื่นเพื่อประโยชน์ตน
    สิ่งที่ได้ทำนั้นน้อมถวายบูชาคุณพระรัตนตรัย บูชาคุณหลวงปู่ปาน บูชาคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ บูชาคุณบูรพกษัตริย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    น้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    ทั้งนี้ผมเข้าใจในเหตุผลบางประการ และได้แจ้งให้คุณย่าอี๊ดทราบแล้ว
    เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 29 มิ.ย.(วันนี้)

    จึงเรียนมาเพื่อทราบ
    ขอโมทนาบุญทุกท่าน
     
  8. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    วันที่ 26 มิถุนายน 2552 ข้าพเจ้า นายเสรี-นางนงลักษณ์ วงษ์ทองเหลือ และครอบครัว ได้โอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยบิ๊กซีแพร่ จำนวน 300 บาท เข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาหินกอง ชื่อบัญชี นายธรากร ตรีเนตร เลขที่บัญชี 140 - 0 - 12739 - 4 เพื่อร่วมบุญเททองหล่อพระ และมุทิตาจิตสักการะครบรอบวันมรณภาพหลวงปู่ปาน โสนันโท ๗๒ ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดบางนมโค ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ


    ISS.BANK DATE TIME LOCAT. SEQ.
    SCB 260609 1922 8420 75
    TRANSFER
    FROM A/C SCB 2040855
    TO A/C KTBA 1400127394
    AMOUNT 300.00
    FEE 25.00
    ...............................................................

    ขอแม่พระธรณีและพระยายมบาล จงเป็นพยานในการทำบุญนี้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ทำบุญในครั้งนี้เพื่อบูชาพระรัตนตรัยทั้ง 3 สรณะสูงสุดแห่งชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลผลบุญทั้งหลายที่ได้ทำแล้วแก่บิดามารดาทุกภพทุกชาติ ครูบาอาจารย์ทุกภพทุกชาติ เทวดา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน หมื่นโลกธาตุแสนโกฏิ พระเพลิง พระพาย แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพสพ พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ญาติสนิทมิตรสหายทุกภพทุกชาติ มนุษย์ทั้งหลายในอนันตจักรวาล ท่านทั้งหลายที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่ในภูมิอบายทั้ง 4 อันได้แก่ ภูมิสัตว์เดรัจฉาน ภูมิอสูรกาย ภูมิเปรต และภูมินรก ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยได้ช่วยแปลสภาพบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำแล้ว ให้สัตว์ในอบายภูมิทั้ง 4 ให้ได้รับผลบุญในครั้งนี้ด้วย ขอเจ้ากรรมและนายเวรทั้งหลายทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินไว้ ด้วยกาย วาจา ใจ ขอท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงมาอนุโมทนาบุญ และอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

    ขอส่วนกุศลผลบุญทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้กระทำมานี้ แผ่ไปให้ไพศาล ท่านที่ได้ทุกข์ ขอให้ท่านพ้นทุกข์ ท่านที่มีความสุข ขอให้ท่านได้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป ขอท่านทั้งหลายเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิธาน ธนสารสมบัติ ขอให้ส่วนกุศลผลบุญในครั้งนี้เป็นพลวะปัจจัย อุปนิสัยตามส่งให้ข้าพเจ้า และสัพพะทุกดวงวิญญาณในสังสารวัฏนี้ ได้พบกับพระพุทธศาสนาทุกภพทุกชาติ ได้เกิดเป็นมนุษย์ที่มีสัมมาทิฏฏิ หมั่นทำบุญทำทาน เพื่อสละความโลภ หมั่นรักษาศีลและเจริญพรหมวิหาร 4 เพื่อระงับความโกรธ หมั่นเจริญภาวนา ทั้งสมถะและวิปัสสนากรรมฐานเพื่อกำจัดกิเลส ตัณหา อุปาทาน อวิชชาและอาสวะให้หมดสิ้นไป ได้สำเร็จซึ่งมรรค 4 ผล 4 ตลอดจนได้เข้าถึงแดนทิพย์พระนิพพานเอกันตบรมสุขกันทุกท่าน รวมทั้งขอข้าพเจ้าได้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระวิริยาธิกะพุทธเจ้าองค์หนึ่งเมื่อบุญบารมีถึงพร้อมแล้ว ตลอดจนถึงกาลเวลาอันสมควรแล้วด้วยเทอญ สาธุๆๆ

    .......................................................
    ขออนุโมทนา สาธุ ๆ ๆ กับทุกท่านที่ร่วมบุญเททองหล่อพระ และ มุทิตาจิตสักการะครบรอบวันมรณภาพหลวงปู่ปาน โสนันโท ๗๒ ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดบางนมโค ด้วยนะครับ
    ........................................................
    นิพพานนะ ปัจจะโย โหตุ
     
  9. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    เรียน คุณธรากร ตรีเนตร<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    คุณสมเกียรติ ชื่นเชิงชม และครอบครัว ร่วมบริจาค 200 บาท อนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุสะ สาธุสะ สาธสะ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    สมเกียรติ ชื่นเชิงชม<o:p></o:p>
    บริษัทปูนซิเมนต์ไทย (ท่าหลวง) จำกัด โรงงานเขาวง<o:p></o:p>
    28 หมู่ 4 ต.เขาวง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี 18120

    ขอโมทนาบุญกับสมเกียรติ ชื่นเชิงชมและครอบครัว
    สาธุ สาธุ สาธุ


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2009
  10. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    อุปนิสัยและปฏิปทาของหลวงพ่อปาน

    จากบันทึกของท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ บันทึกไว้ว่า

    "หลวงพ่อปานท่านมีลักษณะของชายชาตรีที่มีผิวพรรณขาวล ะเอียด ลักษณะสมส่วนเสียงดังกังวานไพเราะมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสชวนให้ศรัทธาปสาทะเป็นอย่างยิ่ง ดวงตาบ่งบอกถึงความเมตตาปรานีในสัตว์โลกทั้งหลาย
    ต้อนรับผู้คนที่มาหาไม่เลือกเศรษฐี ผู้ดี ไพร่ ใครไปก็ไต่ถาม ว่ากันว่าถ้าหลวงพ่อพูดจากับผู้ใดแล้วนั้น มักจะจับจิต
    จับใจที่ใจชั่วมั่วเมามาก็กลับตัว แม้แต่ผู้นับถือคริสต์ศาสนาก็ยังหันมานับถือพระพุทธศ าสนา"

    ตลอดเวลาท่านจะไม่แสดงทีท่าว่าเหน็ดเหนื่อยหรือทำให้ ผู้ที่มาหาเสื่อมศรัทธาเลย วันหนึ่งๆ จะมีคนมาหา
    ท่าน เพื่อขอความช่วยเหลือนับเป็นจำนวนร้อยๆ คน ไหนจะให้รดน้ำมนต์ไหนจะต้องพ่น ไหนจะขอยา ไหนจะมา
    ปรึกษาถึงเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ บางคนก็เรียกว่า หลวงพ่อบางคนเรียกว่าหลวงปู่บ้าง เป็นเราๆท่านๆน่ากลัวจะนั่ง
    ไม่ทน เพราะตั้งแต่เพลจนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 4 หรือ 5 ทุ่ม นั่นแหละท่านถึงจะพักผ่อน และเป็นอย่างนี้อยู่
    ประจำทุกวัน จนกระทั่งท่านมรณภาพ

    "ท่านไม่ยินดียินร้ายในทางโลกธรรมแต่ประการใด คงปฏิบัติธรรมเหมือนพระแก่ๆ รูปหนึ่งที่ไม่ต้องการยศ
    บรรดาศักดิ์หรือชื่อเสียงดีเด่นแต่อย่างใด ท่านคงหวังแต่ทำหน้าที่ให้ความสุขสบายแก่พระสงฆ์และช าวบ้านทั่วไปตามกำลังความสามารถเท่านั้น

    ด้วยความไม่ติดอยู่ในยศฐาบรรดาศักดิ์ ท่านจึงได้ปฏิเสธตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางนมโค กล่าวคือ เมื่อ
    หลวงปู่คล้ายเจ้าอาวาสวัดบางนมโครูปก่อนมรณภาพลง ทายกทายิกาพระภิกษุสงฆ์ได้พร้อมใจกันอาราธนาท่าน
    ขึ้นครองวัดบางนมโคแทน ท่านก็ไม่รับท่านให้เหตุผลว่า ท่านหน่ายเสียแล้วจากกิเลสอันจะมาเป็นเครื่องขวางกั้ น
    ทางพระนิพพาน กลับแนะนำท่านสมภารเย็น ซึ่งเวลานั้นเป็นพระลูกวัดธรรมดาขึ้นรับตำแหน่งแทน ส่วนท่านขอเป็น
    พระลูกวัดต่อไปอย่างเดิม

    ด้วยความที่ท่านได้เสริมสร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่ นบางนมโคและสถานที่อื่นๆ มากมาย โดยไม่ได้หวัง
    จะได้รับยศฐาบรรดาศักดิ์ตอบแทนแม้ว่าจะมีเชื่อพระวงศ ์ชั้นสูง จะมาเป็นลูกศิษย์ของท่านอยู่มากมายก็ตาม

    ในที่สุดความดีของท่าน ทางฝ่ายบ้านเมืองจึงตอบแทนความเป็นผู้เสียสละของท่าน ด้วยการมอบถวาย
    สมณศักดิ์ให้แก่ท่านเป็นที่ "พระครูวิหารกิจจานุการ" ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2474 โดยมี

    1. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัติ
    2. พระวรวงศ์เธอ กรมพระนครสวรรค์ศักดิ์พินิจ
    3. หม่อมเจ้าโฆษิต
    4. หม่อมเจ้านภากาศ
    5. ท้าววรจันทร์

    ข้าราชการและบรรดาสานุศิษย์ของท่านได้นำพัดยศพระราชท านมาให้ท่านถึงที่วัด โดยนำไปมอบให้ท่าน
    ในพระอุโบสถ ตามพระบรมราชโองการท่านกลางคณะสงฆ์และชาวบ้านต่างแซ่ ซ้องสาธุการกันถ้วนหน้า

    แต่หลวงพ่อปานเองท่านก็วางเฉยด้วยอุเบกขา และแม้จะได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นที่พระครูวิหาร
    กิจจานุการแล้ว ท่านเองก็ยังคงเป็นหลวพ่อปานรูปเดิม ปฏิบัติกิจวัตรอย่างที่แล้วๆ มา แต่ผู้ที่ยินดีที่สุดกลับเป็นบรรดาศิษยานุศิษย์
     
  11. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    คำสอนหลวงพ่อ
    บุคคลผู้ประพฤติถูกแต่อมกิเลสไว้
    โดย พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    นิโครธปริพาชก ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า พระองค์ตรัสถึง บุคคลผู้ประพฤติเพื่อการละกิเลสไว้มากมาย อยากจะทราบว่าจะทำอย่างไรให้ การปฏิบัตินั้นเข้าถึงความบริสุทธิ์ผ่องใส ครบถ้วนบริบูรณ์

    1) พระพุทธเจ้าตรัสว่า นิโครธะ ผู้มีการประพฤติปฏิบัติเพื่อการตัดกิเลสทำถูก ทำตรงตามวิถีทางการละการตัดกิเลส แต่จิตยึดมั่น ถือมั่น ดีใจ คิดการปฏิบัติเพียงเท่านี้ดีแล้ว จบแล้ว ไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ ก็เป็นอุปกิเลส คือ จิตเข้าไปกอดความชั่วของผู้นั้น

    2) คนที่ปฏิบัติถูก ปฏิบัติตรงนั้นยึดมั่น ถือมั่น ในปฏิปทานั้น ยกตนข่มผู้อื่นว่า ฉันดีกว่าเธอนะ อย่างนี้ก็มีกิเลส

    3) ผู้ปฏิบัติ ผลเกิดจากการปฏิบัติพอสมควร เมื่อมีคนสรรเสริญ ก็ติดในคำสรรเสริญ เขาให้ลาภก็ติดในลาภ อย่างนี้ก็เป็นผู้เข้าไปกอดความสกปรกของกิเลสไว้

    4) ผู้ปฏิบัติถูก ผลของการปฏิบัติพอสมควร เมาในผลของการปฏิบัตินั้น คิดว่าเท่านี้พอแล้ว ก็เป็นอันว่าตกอยู่ในหลุมอุจจาระ คือ อุปกิเลส

    5)ผู้ปฏิบัติถูก ได้ลาภ ได้รับคำสรรเสริญ ติดในลาภและสรรเสริญ ข่มขู่ยกตนข่มผู้อื่น โดยคิดว่าพวกเธอมีลาภไม่เท่าฉัน ฉันรวยกว่า ฉันมีคนเคารพมากกว่านะ อย่างนี้ท่านก็ถือว่ามีความสกปรก คือ กิเลสเลยหัว

    6) ผู้ปฏิบัติถูก มีผลปฏิบัติพอสมควร มีคนเคารพนับถือมาก เขานำลาภสักการะมาถวายมากมาย ลืมสติ ลืมตัว เลือกรับของอะไรที่ตนชอบ ก็บอกอย่างนี้ไม่ได้ ที่ตนไม่ชอบก็บอกว่า อย่างนี้ผิดวินัย พระพุทธเจ้าห้ามรับ ไม่หวังเจริญศรัทธาตามปกติ ท่านก็ตรัสว่า มีอุปกิเลสมาก คือ ความเลวเหลือล้น

    7) ผู้ปฏิบัติถูก แต่เมาในโภชนะ คือ อาหาร คิดว่าอาหารประเภทนี้ควร ประเภทนี้ไม่ควร เลือกเฉพาะที่ชอบใจ เพราะติดในรสอาหาร ท่านกล่าวว่า ยังสะสมความชั่ว คือ อุปกิเลสไว้มาก

    8) ผู้ปฏิบัติถูก เมื่อได้รับความเคารพนับถือจากพระมหากษัตริย์หรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นต้น ลืมตัวหลงคิดว่าตนมีศักดิ์ศรีสูงกว่า คนที่ไม่มีพระมหากษัตริย์ เป็นต้น ไม่ได้เข้าไปแสดงความเคารพสักการะ ท่านก็ว่า ผู้นั้นเป็นผู้สะสมอารมณ์ชั่ว คือ อุปกิเลส

    9)ผู้ปฏิบัติถูก ริษยาผู้อื่นว่า กินไม่เลือก รับไม่เลือก เพราะท่านเหล่านั้นมีคนเคารพ และได้ลาภสักการะ ก็เกิดอารมณ์อิจฉาริษยา ท่านกล่าวว่า เขาเป็นผู้สะสมความชั่วคือ อุปกิเลสไว้มาก

    10)ผู้ปฏิบัติถูก มีผลบ้างเบื้องต้น เห็นท่านอื่นปฏิบัติมีผลดีกว่า มีคนเคารพมาก ก็หาทางโพนทนาด่าว่าเปรียบเปรย (นินทา) ให้เกิดความเสื่อมเสีย หรือ เสียหาย ท่านว่า คนเช่นนี้เป็นจอมสะสมความชั่ว คือ มีอุปกิเลสมาก

    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>11) พระองค์ตรัสว่า ผู้ปฏิบัติเพื่อละกิเลส นั่งสมาธิจริยา แสดงตนว่า ท่านนี้ฉันทำสมาธินะ หรือ แต่งกายเป็นการแสดงออกออกให้เข้าใจชัดว่า ฉันเป็นนักปฏิบัติเพื่อตัดกิเลสนะ ท่านว่า การแสดงตนอย่างนี้เป็นการโชว์เพื่ออวด ท่านว่ามีอุปกิเลสมาก

    12)บางพวกชอบอวดว่า ฉันนิยมปฏิบัติอย่างนี้นะ บางพวกปกปิดจริยาชั่ว ทำตัวเรียบร้อยด้วยมารยาท และ บางพวกมักโกรธ ผูกโกรธ คือ อาฆาต บางพวกชอบลบหลู่ ตีเสมอ ริษยา ตระหนี่ โอ้อวด ขับไล่ มีจริยากระด้างถือตัวจัด มีความปรารถนาลามก มีอารมณ์เห็นผิด คัดค้านคำสอนพระพุทธเจ้าอย่างนี้เป็นต้น ท่านกล่าวว่า เป็นผู้สะสมกิเลส คือ ความชั่วไว้สูงเลยหัว

    คติเตือนใจไม่ให้ชั่ว พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานสอนไว้ดังนี้
    "ก่อนที่จะทำ ก่อนที่จะพูดน่ะ ใคร่ครวญเสียก่อน อย่าไปคิดเห็นบุคคลอื่นเขาเลว เห็นคนอื่นเลวนี่ก็กลายเป็นสร้างความเลวให้เกิดขึ้นแก่ใจเรา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนให้กล่าวโทษโจทย์ความผิดตัวเอง ว่ามันเลวไว้เสมอ หาจุดความเลวของกาย หาจุดความเลวของวาจา หาจุดความเลวของใจ อย่าไปหาจุดความดี ถ้าพบจุดความเลวจุดไหน ทำลายความเลวจุดนั้นให้หมดไป แล้วความดีมันก็ปรากฏเอง"<o:p></o:p>
     
  12. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    การปฏิบัติตนเพื่อความพ้นทุกข์แบบย่อๆ

    ผู้ถาม หลวงพ่อเจ้าคะ อยากจะเรียนถามว่า การปฏิบัติตนเพื่อความพ้นทุกข์แบบย่อๆ มีบ้างไหมเจ้าคะ...
    หลวงพ่อ ต้องการแบบย่อหรือ...ต้องไม่ยืนตรง
    ผู้ถาม อ้าว...ทำไมละครับหลวงพ่อ...
    หลวงพ่อ งอเข่ามานิด...แล้วก็ย่อตัวลงมา ก็ความจริงอันดับแรกจับ พุทธานุสสติ ให้ทรงตัว หลังจากนั้นก็พิจารณากายคตานุสสติ ร่างกายนี้มันไม่ดีเต็มไปด้วยความสกปรก ร่างกายเป็นชิ้นเป็นตอนเป็นท่อน่ใช่ไหม...ไม่เป็นแท่งทึบมีอาการ ๓๒ คือ ผม...เล็บ...และฟัน เป็นต้น นี่เขาถือเป็น กายคตานุสสติ
    เห็นว่าทุกส่วนของร่างกายเต็มไปด้วยความสกปรกอันนี้เป็น อสุภกรรมฐาน เห็นว่ามันไม่ดีมันก็เป็นทุกข์ แล้วก็ สลายตัวไปในที่สุด หลังจากนั้นก็ตั้งจิตใจไว้เฉพาะ พระนิพพานเป็นอารมณ์ และก็พยายามตั้งตนตั้งใจทำตามนี้คือ
    ตัดโลภะ ความโลภ ด้วย จาคานุสสติกรรมฐาน ด้วยการให้ทาน
    ตัดโทสะ ความโกรธ ด้วยการรักษาศีล มีพรหมวิหาร ๔ เป็นเบื้องหน้า
    ตัดโมหะ ความหลง ด้วยการเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ร่างกายมันไม่ดี เราไมต้องการมัน ต้องการนิพพาน แค่นี้ง่ายๆ
    ผู้ถาม แค่นี้ไปได้แน่ๆ เลย
    หลวงพ่อ จะไปก็ได้จะอยู่ก็ได้
    ผู้ถาม ไม่ขัดข้องเลย
    หลวงพ่อ ไม่ขัดข้อง คำว่าไป...หมายถึงนิพพาน ยังไม่นิพพานก็ยังไม่ไป เนื้อแท้จริงๆ ต้องตัด โลภะ โทสะ โมหะ ๓ ตัวเท่านั้น แต่ว่าถ้าเราไม่ยึดพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ มันจะไม่มีการทรงตัวนะ
    ผู้ถาม ครับ...
    หลวงพ่อ เอาง่ายๆ ดีกว่า ถือบันไดขั้นแรกไว้ก่อน ถืออารมณ์พระโสดาบันไว้ก่อน ง่ายดี อารมณ์พระโสดาบันนี้ก็คือ
    1. เคารพพระพุทธเจ้า
    2. เคารพพระธรรม
    3. เคารพพระอริยสงฆ์
    4. มีศีล ๕ บริสุทธิ์
    5. ตั้งจิตไว้เฉพาะพระนิพพาน
    อันนี้ง่ายๆ ถ้าอันนี้ได้แล้ว...ไอ้เรื่องมรรคผลก็กลายเป็นของไม่ยาก

    (หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๕ หน้า ๑๒๐-๑๒๑)
     
  13. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    ขอโมทนาบุญกับ พี่หมอ ณัฏฐา ฟุ้งสถาพรและครอบครัว
    ที่ได้ร่วมส่งแผ่นทอง และบริจาคร่วมบุญเททองหล่อพระ และมุทิตาจิตสักการะครบรอบวันมรณภาพหลวงปู่ปาน โสนันโท ๗๒ ปี จำนวน 500 บาท

    ขอโมทนาบุญครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    <TABLE class=tborder id=post2222303 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 05:52 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปุญญผลัง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2222303", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Apr 2008
    ข้อความ: 533
    พลังการให้คะแนน: 68 [​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2222303 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER><!-- google_ad_section_start -->ขอเชิญร่วมบุญเททองหล่อพระ และมุทิตาจิตสักการะครบรอบวันมรณภาพหลวงปู่ปาน โสนันโท ๗๒ ปี<!-- google_ad_section_end -->

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->
    มูลนิธิส่งเสริมปฏิบัติธรรม
    ศิษย์พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    ๑๕๕ หมู่ ๙ บ้านคลองยาง ต.หนองสาหร่ายอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ๓๐๑๓๐<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ขอเชิญร่วมบุญเททองหล่อพระ และมุทิตาจิตสักการะครบรอบวันมรณภาพ
    หลวงปู่ปาน โสนันโท ๗๒ ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดบางนมโค

    กำหนดการพิธี
    วันเสาร์ที่ ๑๘ กรกฏาคม๒๕๕๒ (แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๘) ปีฉลู
    ศูนย์ปฏิบัติธรรมโพธิสัตว์ธรรม (บ้านสุด)
    ต.ไผ่กองดิน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี

    <o:p></o:p>
    ๐๘.๐๐ น.คณะพุทธบริษัทพร้อมเพรียงกันในบริเวณพิธี
    ๐๘.๑๙ น.พิธีบวงสรวงท่านท้าวมหาราชทั้งสี่
    ๐๙.๐๐ น.กราบอาราธนาพระมหาเถระ ขึ้นสู่อาสนสงฆ์เพื่อสวดชัยมงคลคาถาในพิธีเททอง
    เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติผู้แทนสาธุชน ถวายพานพุ่มทองคำ แด่พระเถระทั้ง๙ รูป
    เพื่อให้ท่านจารอักขระแผ่นทองคำ
    ๐๙.๐๙ น. พระฤกษ์เททอง โดยพระเดชพระคุณท่านเจ้าอาวาสวัดบางนมโคเป็นองค์ประธานเททอง
    ๑๐.๐๐ น. พระภิกษุสงฆ์กว่า ๑,๒๕๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์สวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร
    ๑๑.๐๐ น.ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ ๑,๒๕๐ รูป
    ๑๓.๔๕น.ถวายองค์ผ้าป่าสามัคคี เพื่อร่วมสมทบสร้างพระวิหารครอบองค์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโคขนาดหน้าตักกว้าง ๑๐ ศอก ณ วัดบางนมโค อ.เสนาจ.พระนครศรีอยุธยา<o:p></o:p>

    พระพุทธปฏิมากรพระรูปเหมือน พระคณาจารย์ที่ทำการหล่อมีดังนี้

    <o:p></o:p>
    ๑. พระพุทธปฏิมากร
    ๑.๑ พระพุทธสิหิงค์ (เนื้อสำริด) ขนาดหน้าตัก ๔๕ซม. ๑ องค์

    เพื่อน้อมนำถวายวัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๑.๒ พระศรีอารยเมตตรัย ขนาดหน้าตัก ๔๑ นิ้ว ๑ องค์
    ๑.๓ พระอุปคุต ขนาดหน้าตัก ๔๑ นิ้ว ๑ องค์

    ๒. พระคณาจารย์
    ๒.๑ ครูบาเจ้าศรีวิชัยขนาดหน้าตัก ๔๑ นิ้ว ขนาดเท่าองค์จริง ๑ องค์
    ๒.๒หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ขนาดหน้าตัก ๔๑ นิ้ว ขนาดเท่าองค์จริง ๑ องค์ และขนาด ๒๙นิ้ว ๑ องค์
    ๒.๓ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงจ.อุทัยธานี ขนาดหน้าตัก ๔๑ นิ้ว ขนาดเท่าองค์จริง ๑ องค์
    ๒.๔ สมเด็จสังฆราช อริยวงศาคตญาณ (อยู่ ญาโณทัย) สมเด็จสังฆราชองค์ที่๑๓
    ขนาดหน้าตัก ๔๑ นิ้ว ขนาดเท่าองค์จริง ๑ องค์

    ๒.๕ สมเด็จพุฒาจารย์เกี่ยว อุปเสโน วัดสระเกษ ขนาดหน้าตัก ๔๑ นิ้วขนาดเท่าองค์จริง ๑ องค์

    ๓.สมเด็จพระนเรศวรมหาราชขนาดเท่าพระองค์จริง ๑พระองค์
    ๔. คุณย่าอิ่ม สุทธาวงศ์โยมมารดาหลวงปู่ปาน๑ ท่าน, คุณแม่เมี้ยนจินดาวัลย์ ๑ ท่าน<o:p></o:p>

    การจัดงานครั้งนี้
    คณะศิษย์ยานุศิษย์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค

    คณะศิษย์ยานุศิษย์พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    และคณะพุทธบริษัท พร้อมทั้งชาวบ้าน พ่อค้าประชานชนร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ท่านที่มีความประสงค์จะร่วมบุญพิธีเททองหล่อ และ มุทิตาจิตสักการะครบรอบวันมรณภาพหลวงปู่ปาน โสนันโท ครบ๗๒ ปี<o:p></o:p>
    สามารถร่วมบุญได้ตามกำลังศรัทธาและขอรับแผ่นทองจารึกชื่อเพื่อหล่อพระได้ที่ผู้ประสารงาน

    คุณธรากร ตรีเนตรโทร.089-1417589 E-mail : tharakot@scg.co.th

    ๑. ในนามบัญชีชื่อ นางประภาศรี นิยมแก้ว (คุณย่าอี๊ด)
    ธนาคารทหารไทย สาขาปากช่อง บัญชีออมทรัพย์<o:p></o:p>

    เลขที่บัญชี 481 2 18939 9
    โทร.081-8261262 (คุณย่าอี๊ด)
    <o:p></o:p>

    (โปรดแนบสลิปให้ทราบด้วยครับ เพราะบัญชีนี้เป็นบัญชีมูลนิธิ เพื่อจัดส่ง CD ที่ระลึกให้ท่านผู้ร่วมบุญ)<o:p></o:p>
    หรือ<o:p></o:p>
    ๒.ในนามบัญชีชื่อ นายธรากร ตรีเนตร (เพื่องานบุญพระพุทธศาสนา)
    ธนาคารกรุงไทย สาขาหินกอง บัญชีออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 140 - 0 - 12739 - 4

    เมื่อโอนแล้วโปรดแจ้งชื่อ นามสุกล และวัน/เดือน/ปีเกิดของท่าน

    ให้ทราบด้วยเพื่อผมจะได้นำเขียนลงแผ่นทองให้ท่านเพื่อนำไปหล่อพระในครั้งนี้
    (สำหรับท่านที่มีความประสงค์จะให้เขียนให้)
    <o:p></o:p>
    หรือร่วมบุญส่งแผ่นเงิน ทองแดง หรือทองเหลือง หรือโลหะสำริดร่วมหล่อพระได้ตามที่อยู่ด้านล่าง<o:p></o:p>

    ส่งถึง นายธรากร ตรีเนตร(ชมรมพุทธศาสตร์)
    บ.เซรามิคอุตสาหกรรมไทย จก.
    เลขที่ 33/1 ม.2 ถ.สุวรรณศร

    ต.โคกแย้ อ.หนองแค
    จ.สระบุรี 18230


    ขอโมทนาบุญทุกท่านมา ณโอกาสนี้ครับ
    หากมีสิ่งใดผิดพลาดไปขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าขอรับผิดเพียงผู้เดียวและขอเอาอาชีพการงานไว้เป็นประกัน


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ................................................................................................

    กระผมฯ ได้โทร.เรียน คุณพี่(ป้า/แม่/ย่า) อี๊ดฯ แล้ว

    ได้รับทราบข้อมมูลมา ว่า
    1. คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปุญญผลัง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2222303", true); </SCRIPT> ไม่ได้แจ้งให้ท่าน และ/หรือ ทางมูลนิธิ ได้ทราบมาก่อน
    2. คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปุญญผลัง<!-- google_ad_section_end --> ได้เปลี่ยนชื่อบัญชีบุญ เป็นของตนเอง (เข้าใจผิดได้ 100 %)
    3. มีสมาชิก บางท่าน ที่เห็นข้อมูลตาม ข้อ 2 ก็จึงไปเรียนให้ พี่อี๊ด(ป้า/แม่/ย่า) ได้ทราบ
    4. พี่อี๊ด(ป้า/แม่/ย่า) ก็โทร.มาถึงผม เหมือนกัน ให้ลองติดตามข่าว ว่าเป็นอย่างไร
    5. ผมลองเข้ามาดูในกระทู้ แต่ก็เข้าไม่ได้ (คงโดนเก็บไปก่อน) จึงแจ้งไปทาง ผู้เกี่ยวข้อง
    ของทีมงานเวบฯ ให้ช่วยกรุณาตรวจสอบ
    6. ได้รับแจ้งทาง PM ว่า คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปุญญผลัง ออกมาชี้แจงใหม่ เปิดกระทู้ใหม่ แล้ว
    7. คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปุญญผลัง บอกว่า ได้โทร.แจ้งพี่อี๊ด(ป้า/แม่/ย่า) แล้ว
    8. ผมจึงโทร.กลับไปที่ พี่อี๊ด(ป้า/แม่/ย่า) ได้รับฟัง ความว่า

    คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปุญญผลัง บอกกับ พี่อี๊ด(ป้า/แม่/ย่า) ว่า..
    ที่เปิดบัญชีเป็น ชื่อของตนเอง เพราะว่า ต้องการจะจัดทำของที่ระลึก

    ผมก็เห็นว่า ไม่สมควร เพราะว่า....

    งานที่ประกาศ เป็นการ เททองหล่อพระ บุญ และอานิสงส์ ย่อมเป็นเรื่องการหล่อพระ
    จะบอกว่า....
    8.1. นำไปเป็น ทุน สร้างของที่ระลึก ย่อมไม่สมควรอย่างยิ่ง
    (ผิดวัตถุประสงค์ของผู้ทำบุญ.. คนทำบุญ ได้บุญดังเดิม ผู้ที่แปรความประสงค์ของบุญ จะเกิดโทษ)
    8.2 หากไม่มีเจตนา จะนำไปเป็น ทุน สร้างของที่ระลึก
    ก็น่าที่จะใช้บัญชีเดิมของทางมูลนิธิ แล้วให้ผู้ร่วมบุญ ส่งสำเนาใบโอนเงิน แจ้งที่อยู่มา เพื่อจัดส่งของที่ระลึก ก็พอแล้ว

    9. วันนี้ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปุญญผลัง ได้มาประกาศใหม่ ว่า....

    ๑. ในนามบัญชีชื่อ นางประภาศรี นิยมแก้ว (คุณย่าอี๊ด)
    ธนาคารทหารไทย สาขาปากช่อง บัญชีออมทรัพย์<o:p></o:p>
    เลขที่บัญชี 481 2 18939 9
    โทร.081-8261262 (คุณย่าอี๊ด)
    <o:p></o:p>

    (โปรดแนบสลิปให้ทราบด้วยครับ เพราะบัญชีนี้เป็นบัญชีมูลนิธิ เพื่อจัดส่ง CD ที่ระลึกให้ท่านผู้ร่วมบุญ)
    <o:p></o:p>
    หรือ
    <o:p></o:p>
    ๒.ในนามบัญชีชื่อ นายธรากร ตรีเนตร (เพื่องานบุญพระพุทธศาสนา)
    ธนาคารกรุงไทย สาขาหินกอง บัญชีออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 140 - 0 - 12739 - 4

    การใช้ คำว่า หรือ นั้น

    ย่อมแสดงว่า ทำบุญบัญชีไหน ก็ได้

    จึงน่าที่จะ แจง ให้ชัดเจน นะครับ

    ............................................................................................

    ทั้งหมดนี้ ไม่ได้เป็นข้อท้วงติง ว่าทำไม่ดี นะครับ
    เพียงแต่ เป็นเครื่องชี้แนะ ความสมบูรณ์ เพิ่มเติม เท่านั้นเอง ครับ.

    ด้วยหวังอย่างยิ่ง ว่า จะเป็นประโยชน์ กับ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปุญญผลัง และ ทุก ๆ ท่าน

    ..............................................................................................

    ขอน้อมโมทนา ในบุญ คุณความดี และเจตนาที่ตั้งมั่น อันดี
    กับทุกท่าน อย่างยอดยิ่ง

    สาธุ..
    สาธุ..
    สาธุ....

    ......................................................................................
     
  15. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    ขอน้อมรับและขอขอบพระคุณ คุณอามหาหินเป็นอย่างยิ่งครับ
    ที่ได้ช่วยชี้แนะและตักเตือน

    <<<1. คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปุญญผลัง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2222303", true); </SCRIPT> ไม่ได้แจ้งให้ท่าน และ/หรือ ทางมูลนิธิ ได้ทราบมาก่อน

    เนื่องด้วยผมไม่แจ้งย่าอี๊ด ก่อนลงกระทู้ จึงทำให้เกิดเหตุเข้าใจผิด
    ผมเองไม่มีโอกาสได้ไปประชุม เนื่องด้วยไม่สะดวกในการเดินทาง
    จะได้รับรายละเอียดจากพี่ที่ร่วมประชุม ส่งรายละเอียดมาให้
    ผมได้ดำเนินการตามที่จะช่วยได้


    2. คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปุญญผลัง<!-- google_ad_section_end --> ได้เปลี่ยนชื่อบัญชีบุญ เป็นของตนเอง (เข้าใจผิดได้ 100 %)>>>

    การเปลี่ยนบัญชีไม่มีเจตตาใด ๆ เพื่อตนเอง (ด้วยประสบการณ์ที่มีน้อย ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้) อย่างหนึ่งคือบางท่านไม่สามารถใช้ Internet ได้บ่ย ๆ และหลายท่านก็ไม่มีเครื่องมือ Digital ที่ทันสมัยหรือ Fax.ส่ง สลิปแนบมาได้
    บางครั้งก็ต้องเห็นใจ เพราะผมไม่ทราบยอดที่เขาทำมา
    ในกรณีที่ขอใบอนุโมทนาบุญนั้นอาจจะตรวจสอบไม่ได้ จึงได้ใช้ชื่อบัญชีตนเองครับ


    <8. ผมจึงโทร.กลับไปที่ พี่อี๊ด(ป้า/แม่/ย่า) ได้รับฟัง ความว่า
    คุณ
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปุญญผลัง บอกกับ พี่อี๊ด(ป้า/แม่/ย่า) ว่า..
    ที่เปิดบัญชีเป็น ชื่อของตนเอง เพราะว่า ต้องการจะจัดทำของที่ระลึก>

    ของที่ระลึกนี้เป็นทุนผมเองครับ
    ผมได้ตั้งใจทำ CD ทำเพื่อมอบให้กับผู้ร่วมบุญ
    เนื่อหา >>> อาลัยหลวงพ่อปาน
    ประวัติหลวงพ่อปาน
    และพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    เพื่อเผยแผ่คำสอนและปฏิปทาหลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    แก่ผู้ที่ยังไม่รู้ให้ได้รู้และที่รู้ก็รู้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป

    ..........................................

    หากมีสิ่งใดที่ทำให้เข้าใจผิดหรือผิดพลาดเพียงใด
    ผมต้องขออภัยเนื่องด้วยยังใหม่ โปรดชี้แนะได้เสมอ
    ขอน้อมโมทนาบุญทุกท่าน ที่ได้เมตตาให้คำชี้แนะ ที่ได้คอยให้กำลังใจ
    อันเป็นประโยชน์และกำลังใจต่อผมอย่างยิ่ง

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  16. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า โดย พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาลิงดำ)

    อย่าสนใจร่างกาย
    พระพุทธเจ้าตรัสว่า
    "เธอทั้งหลายจงอย่าสนใจร่างกายของตนเอง จงอย่าสนใจในร่างกายของคนอื่น จงอย่าสนใจในทุกสิ่งทุกอย่างในโลก เพราะว่าสิ่งทั้งหลายในโลกนี้มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ร่างกายถ้าเป็นเราจริง มันก็ทรงสภาพอยู่ตลอดกาลตลอดสมัย แต่ทว่าร่างกายของเราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ทรงสภาพ ในที่สุดมันก็เข้าขั้นสลายตัว เมื่อเราจะต้องตาย ทรัพย์สมบัติของเราทั้งหลายในโลก มันก็ไม่ตามเราไป แม้แต่ร่างกายที่เรารักที่สุดมันก็ไม่ตามเราไป มันคงจมอยู่ในพื้นปฐพีเป็นปรกติ"
    อย่างนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแนะนำให้คิดไว้อยู่เสมอ อย่าเผลอไปในด้านความโลภ อย่าเผลอไปในด้านความทะเยอทะยาน อย่าเผลอให้จิตใจมีความโกรธ ความพยาบาท อย่าเผลอให้ความนึกคิดว่านั่นเป็นเราเป็นของเรา อารมณ์อย่างนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงต้องการ ฉะนั้น ขอทุกท่านจงรักษากำลังใจอย่างนี้ไว้เป็นปกติ
    ถ้าหากว่าใจของท่านกระสับกระส่าย
    จงรักษาอานาปานสติกรรมฐาน มีกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกให้ทรงตัว ยังไม่ต้องคิดอะไรทั้งหมด กำหนดจิตรู้เฉพาะลมหายใจเข้าหายใจออกเท่านั้น หายใจเข้ายาวหรือสั้น หายใจออกยาวหรือสั้นรู้อยู่ถ้าทำอย่างนี้อารมณ์จิตของท่านจะไม่ฟุ้งซ่าน
    (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๘)
    พิจารณาร่างกาย
    องค์สมเด็จพระจอมไตรได้ทรงแนะนำบรรดาพระภิกษุทั้งหลายว่า
    "ภิกขเวดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เมื่อท่านปฏิบัติร่างกายของท่าน พิจารณาร่างกายของท่าน ใคร่ครวญขยายออกกระจายออกคือ พิจารณาอันดับแรกเป็นธาตุสี่ ว่าร่างกายของเรานี้เป็นธาตุดิน ธาตุลม ธาตุไฟ ธาตุน้ำ มันประกอบเข้ามาเป็นร่างกาย เรามีความเข้าใจว่า ร่างกายเป็นแท่งทึบ แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ ร่างกายของเราแบ่งออกเป็นอาการสามสิบสอง มีผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เป็นต้น
    ทั้งหมดนี้รวมเข้าแล้วเป็นร่างกาย
    แต่ทว่าร่างกายเหล่านี้มันเต็มไปด้วยความสกปรกโสโครก
    มันเต็มไปด้วยความ อนิจจัง คือหาความเที่ยงไม่ได้
    มันเต็มไปด้วยทุกขัง คือเต็มไปด้วยความทุกข์ไม่มีความสุข
    มันเต็มไปด้วยอนัตตา คือมันสลายตัวไปทีละน้อยๆ ทุกเวลาที่เคลื่อนที่ไป
    เธอทั้งหลายจงอย่าสนใจในร่างกายของเธอ จงอย่าสนใจในร่างกายของคนอื่น จงอย่าสนใจในทรัพย์สินทั้งหลาย
    จงทำลายความรักในเพศด้วยอำนาจอสุภสัญญา
    จงทำลายความโลภด้วยการตัดความอยากได้ด้วยการให้ทาน
    อย่าทะเยอทะยานในทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของดี เป็นปัจจัยในเราเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร อย่าสนใจในความโกรธ ความพยาบาท ในบุคคลทั้งหลาย ใครเขาจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา เขาจะนินทาว่าร้ายว่าเรา ถ้าบังเอิญเราเป็นคนดีก็ไม่เลวไปตามคำพูด ถ้าเขาสรรเสริญว่าเราดี ถ้าเราเลวเราก็ไม่ดีไปตามคำพูด
    ความดีและความชั่วอยู่ที่ความประพฤติปฏิบัติเป็นสำคัญ ถ้าเราประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ใครจะว่าดีว่าเลวก็ช่าง อย่าสนใจทั้งสองประการ
    เราปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์สมเด็จพระพิชิตมารเท่านั้นเป็นพอ"
    เป็นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนอย่างนี้
    (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๘)
    สังขารุเปกขาญาณ
    กำลังใจของเราจะทรงได้ดีจริงๆ ต้องน้อมใจของเรานี้ฝึกไปด้วยปัญญาพิจารณาหาความจริง จิตใจตั้งอยู่ในสังขารุเปกขาญาณ นั่นก็คือมีอาการวางเฉยตามสภาวะของสังขาร คือร่างกายและทุกสิ่งทุกอย่างในโบก มีความรู้ตามความเป็นจริงว่า
    ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นอนิจจัง คนเป็นอนิจจัง วัตถุในโลกก็เป็นอนิจจัง
    คำว่า "อนิจจัง" แปลว่า มันไม่เที่ยง เรารู้ตามความเป็นจริงของมันว่ามันไม่เที่ยง ในเมื่อมันไม่เที่ยง เรายอมรับนับถือความไม่เที่ยงของมัน มีความรู้สึกอยู่เสมอว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกหาอะไรเที่ยงไม่ได้ แต่ว่าเมื่อมันไม่เที่ยง เราก็ทำใจของเราให้เที่ยง มันเที่ยงตรงไหน เที่ยงตรงที่มันมีความรู้สึกตามกฎของธรรมดาอยู่เสมอว่า
    ร่างกายก็ วัตถุธาตุก็ดี ที่เกิดมาในโลกนี้มันไม่เที่ยง มันมีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น และมีความแปรปรวนไปในท่ามกลาง มีความแตกสลายตัวไปในที่สุด
    (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๙)
    ความตายเป็นของเที่ยง ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง
    ความตายเป็นของเที่ยง ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง จงจำไว้ให้ถึงที่สุด เมื่อจำไว้ทุกวัน ลืมตาขึ้นมาเช้ามีความรู้สึกไว้เสมอว่า
    เราอาจจะไม่ได้กินข้าวเข้า อาจจะตายก่อนก็ได้ ความตายไม่มีนิมิต ความตายไม่มีเครื่องหมาย ถ้าเราตายเลว ก็ดูตัวอย่างสัตว์ในอบายภูมิ มีนรกและเปรตเป็นต้น ก่อนจะตายถ้าเราทำความดี นั่นก็เป็นเรื่องที่เราจะฟังต่อไปข้างหน้าในเรื่องวิมานวัตถุ จะเห็นผลมีความสุข
    ถ้าเป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยทรัพย์มีความสุข ถ้าเป็นเทวดาก็เป็นเทวดาที่มีความสุขสมบูรณ์ ไม่ต้องเป็นเปรตไปก่อนแล้วจึงเป็นเทวดา

    (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๒๘)

    เห็นกระดูกลอยมา
    ท่านกล่าวว่า สมัยที่ท่านได้อสุภสัญญา เห็นกระดูกลอยมาและก็พิจารณาเห็นคนทั้งหมด สัตว์ทั้งหมดเป็นกระดูก ก็จับกระดูกเป็นภาพนิมิต จนกระทั่งจิตทรงด้วยฌาน ๔
    เป็นอันว่าอสุภกรรมฐานที่เขาบอกว่าเป็นกรรมฐานพิจารณา ทรงจิตไว้อย่างสูงแค่ปฐมฌานเขาว่ากันอย่างนั้น แต่ในทางปฏิบัติจริง ถ้าเราฉลาดเราก็เอาปฐมฌานมาเป็นฌานเสียอย่างสบายๆถึง ฌาน ๔


    อัฏฐิกัง ปฏิกุลัง
    ท่านผู้เฒ่าท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านจบเอาอสุภทั้งหมด เมื่อได้ "อัฏฐิกัง ปฏิกุลัง" แล้ว ท่านก็ไล่เบี้ยไปเลยตั้งแต่ ๑ ถึง ๑๐ จับภาพไปเลยให้จิตทรง
    มันเน่าแบบไหน
    มันเหม็นแบบไหน
    มันเละแบบไหน
    มันขึ้นแบบไหน
    มันพองแบบไหน
    ท่านทำเป็นฌาน๔ ได้หมดทุกอสุภ ๑๐ อย่าง จิตใจทรงตัว เห็นคนเมื่อไหร่ เห็นสัตว์เมื่อไหร่ เน่าหมด เห็นวัตถุธาตุต่างๆ เห็นโครงกระดูกไม่มีความติดในความสวยสดงดงาม
    แต่ว่าเวลานั้นเป็นเรื่องของสมถภาวนา เวลานั้นความรู้สึกในระหว่างเพศไม่มี เห็นคนเน่าๆ เห็นสัตว์เน่าๆ เห็นคนเป็นกระดูก มีสภาพน่าเกลียด แต่จิตยังไม่น้อม ไปในด้านวิปัสสนาอย่างสูง มัวเล่นแต่สมถภาวนาธรรมดา เห็นว่าเน่า เห็นว่าเหม็น เห็นว่าน่าเกลียด เห็นว่าโสโครก นี่เป็นสมถภาวนา
    ถ้าเป็นวิปัสสนาต้องพิจารณาเห็นความเสื่อมความโทรมของร่างกาย มีสภาพไม่เที่ยง เสื่อมไปทีละเล็กทีละน้อย แล้วในที่สุดมันก็สลายตัว จิตไม่เข้าไปยึดไปถือ
    ท่านบอกว่าเวลานั้นอารมณ์วิปัสสนาญาณท่านมีนิดหน่อย เล่นเฉพาะสมถภาวนาให้มันช่ำใจเพราะความเข้าใจผิด ตามบันทึกท่านบอกว่า
    ถ้าเราคิดควบกับวิปัสสนาเสียเวลานั้น ความจริงท่านบอกว่าหลวงพ่อปานก็สอนวิปัสสนา แต่ว่าท่านเป็นคนใจเดียว ถ้าจะเอาอะไรเอาให้มันฟังไปเป็นด้านๆ ถ้าไม่ได้ยอมตายเสียดีกว่า ขึ้นชื่อว่าไม่สามารถในชีวิตนี้จะไม่มีเป็นอันขาดสำหรับท่าน ท่านรู้สึกว่ามีกำลังใจเด็ดเดี่ยวมาก
    ในสมัยกำลังเล่นอนุภกรรมฐาน แล้วก็มีวิปัสสนาญาณเจือปนนิดหน่อยกันฌานเสื่อม สิ่งที่เป็นศัตรูกับอารมณ์อย่างนี้มันก็เกิด นั่นก็คือ อิสตรีที่เป็นเพศตรงกันข้าม สตรีก็ระวังบุรุษ ถ้าบุรุษก็ระวังสตรีจะเข้ามาเล้าโลมด้วยเหตุต่างๆ มาติดต่อสร้างความสัมพันธ์ในฐานะที่อยากจะเป็นคนรักด้วย ดีไม่ดี แก่ก็พูดเปิดเผยชวนรักชวนแต่งงาน แต่ต้องระวัง และจงอย่าไปโทษใครเขา เราไปหลงละเมอในคำป้อยอทั้งหลายเหล่านั้น คำชักชวน ความดีของเรามันจะด้วน ฌานจะสลายตัว

    (ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า ๒๙)
     
  17. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    ผมได้ตั้งใจทำ CD .MP3 (เป็นปัจจัยส่วนตัวไม่ได้หักมาจากกองบุญ)

    อาลัยหลวงพ่อปาน , ประวัติหลวงพ่อปาน
    และพระธรรมคำสอนเพื่อการปฏิบัติ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    โดย พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    มอบแก่ผู้ร่วมบุญ เพื่อเป็นที่ระลึกงานบุญในครั้งนี้ ซึ่งมีจำนวนไม่มาก
    แต่จะพยายามทำเพิ่มเท่าที่จะทำได้
    ขอโมทนาบุญทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ครับ
    <!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- attachments -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]
    </FIELDSET>
     
  18. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    ขอโมทนาบุญกับคุณเมธาพันธ์ จิรโชติอนันตญาครับ
    ได้ส่งแผ่นทอง และปัจจัยมาร่วมบุญจำนวน 200 บาท
    ผมได้ส่ง CD
    ไปให้แล้ว

    อาลัยหลวงพ่อปาน ประวัติหลวงพ่อปาน
    และพระธรรมคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    โดย พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)


    ที่ระลึกให้แล้วแต่คงถึงช้าหน่อย เพราะส่วนตัวผมมีงบจำกัด
    ตั้งใจทำถวายหลวงปู่ครับ

    ขอโมทนาบุญ มา ณ โอกาสนี้ครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]
    </FIELDSET>
     
  19. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    ขอโมทนาบุญกับ คุณอัมภวรรณ์ เงินเมืองและคณะ
    ที่ได้ร่วมส่งแผ่นทอง และบริจาคร่วมบุญเททองหล่อพระ
    และมุทิตาจิตสักการะครบรอบวันมรณภาพหลวงปู่ปาน โสนันโท ๗๒ ปี
    จำนวน 600 บาทร่วมบุญในการนี้

    ขอโมทนาบุญครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ


    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]
    </FIELDSET>
     
  20. ปุญญผลัง

    ปุญญผลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,872
    รายชื่อผู้ร่วมบุญและยอดบริจาค ณ วันนี้

    นายธรากร นางสุณีย์ ตรีเนตร น.ส.จุฑามาศ จำพานิช จำนวน 1,100 บาท
    นาย นพรัตน์ ,นาย วรวุฒิ ,น.ส.ชาดา บำรุงชาติอุดม,นาง วรนุช ศรีวรรณ ,นาย ศรายุทธ ศรีสวัสดิ์ จำนวน 1,040 บาท
    นายเสรี-นางนงลักษณ์ วงษ์ทองเหลือ และครอบครัว จำนวน 300 บาท
    นายสมศักดิ์ ทองคำและครอบครัว จำนวน 500 บาท
    นายเมธาพันธ์ จิรโชติอนันตญา จำนวน 200
    นางณัฏฐา ฟุ้งสถาพรและครอบครัว จำนวน 500 บาท
    น.ส.อารีย์ พิทยาพิภาส จำนวน 1,000 บาท
    นายอัมพร พิทยาพิภาส คุณแม่เซียะไน้ แซ่เฮ้งและครอบครัวบุตรหลาน จำนวน 340 บาท
    ดร.จาคินี เอี่ยมศิริ จำนวน 1,500 บาท
    นายกิตติพงษ์ โพธิ์ธรานนท์ จำนวน 500 บาท
    นายวัลลภ สิมพลีพันธุ์ จำนวน 800 บาท
    น.ส.อัมภวรรณ์ เงินเมืองและเพื่อนร่วมงาน จำนวน 600 บาท
    นายวิชัย สุขุมวานิชกุล จำนวน 1,000 บาท
    นายวิรัตน์ สุจริตวรางกูร จำนวน 500 บาท
    นางมะลิวรรณ สุจริตวรางกูร จำนวน 500 บาท
    นายอำนาจ แซ่ฮ้อ จำนวน 100 บาท
    คุณ ณัฐภรณ์ ลิมทโรภาส ,นางนันท์นภัส จารุจิระวงศ์,คุณนลินทิพย์ เถียรประภากุล ,
    นางกาญจนา พริ้งสกุล ,คุณพ่อถวิล พุทธิสัตย์ จำนวน 500 บาท<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    นางริณี ชื่นเจริญสุข,นางธนภร จารุพันธ์,นายพัลลภ จารุพันธ์ จำนวน 500 บาท<O:p></O:p>
    คุณเพ็ญนที ตันศุภผล จำนวน 500 บาท<O:p></O:p>
    คุณกฤติเดช ,คุณศรุดา , คุณกฤษชนก พงษ์วิทยากุล จำนวน 500 บาท<O:p></O:p>
    ผู้มีจิตศรัทธาคณะคุณกฤติเดช พงษ์วิทยากุล จำนวน 1,000 บาท<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    รวมยอดบริจาคร่วมบุญเททอง และบริจาคร่วมบุญเททองหล่อพระ
    และมุทิตาจิตสักการะครบรอบวันมรณภาพหลวงปู่ปาน โสนันโท ๗๒ ปี

    ณ วันนี้ 03/07/2552 เวลา 11.30 น.จำนวนทั้งสิ้น 13,480 บาท

    ขอโมทนาบุญทุกท่าน
    <O:p></O:p>
    บุญกุศลทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สร้างสม อบรมมาตั้งแต่ในอดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติวันนี้เวลานี้ ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญเป็นเขตุของบุญ ขอจงมารวมกันเป็นตบะ เป็นเดชะ เป็นพละวะ เป็นปัจจัย เป็นอุปนิสัยตามส่งให้ถึงแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเทอญ

    อนึ่ง สรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่าใดที่ข้าพเจ้าได้ฆ่าแล้วได้เบียดเบียนแล้ว ได้เอาเนื้อหนังของสรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น มายังประโยชน์
    เพื่อยังอัตภาพความเป็นอยู่ เจตตนาก็ตาม ไม่เจตตนาก็ตาม ถ้ากรรมนี้มีแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่าใดขอสรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น
    จงโปรด อดโทษ งดโทษ อภัยโทษ ให้แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย<O:p></O:p>

    เมื่อสรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นรับรู้แล้ว และขอจงมาร่วมอนุโมทนาด้วยกันเถิดเมื่อได้รับอนุโมทนาแล้ว ขอจงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าครอบครัวข้าพเจ้าทั้งหลายจงประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป ขอให้ปราศจากโรคาพยาธิ ปราศจาก อุทกภัย อัคคีภัย วาตะภัย โจรภัย ราชภัย ทุกข์โทษใด และภัยใดใด อันตรายใดใด ภูติใดพรายใด อย่าได้มาเบียดเบียนบีฑา ขอให้คลาดแคล้วจาก ภยันอันตรายทั้งหมด ทั้งสิ้นเทอญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...